เช้าวันต่อมาหนูดีตื่นขึ้นมาเพื่อไปโรงเรียนตามปกติ เมื่อคืนเธอนอนไม่ค่อยหลับ เอาแต่คิดหาวิธีที่จะหลีกเลี่ยง ผอ.หนุ่ม แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ร่างบางเดินลงมาจากห้องนอน เพื่อรับประทานอาหารเช้าก่อนไปเรียน ที่โต๊ะอาหารมีเพียงนภาป้าสะใภ้นั่งดื่มกาแฟอยู่เพียงแค่คนเดียว เด็กสาวตัดสินใจที่จะเดินเลี่ยงออกไป แต่ยังไม่ทันได้ไปไหนก็ถูกเรียกเอาไว้เสียก่อน
“แกอย่าเพิ่งไปนังหนูดี” เด็กสาวหยุดเดิน แล้วหันหน้าไปทางป้าสะใภ้ที่นั่งหน้าเชิดใส่เธออยู่ ด้วยมาดนางพญา “มีอะไรคะ” หนูดีกระชับเป้ที่สะพายอยู่ด้วยท่าทางเซ็งๆ ขนาดเธอเลี่ยงการปะทะแล้วนะ แต่ป้าสะใภ้ของเธอกลับเรียกไว้ซะงั้น ไม่รู้จะว่าอะไรเธออีก ขนาดไม่ได้ทำอะไรยังหาเรื่องมาว่าเธอได้ทุกวัน “แกไม่คิดจะไหว้ฉันเลยเหรอนังตัวดี ตาแกบอดรึไงถึงมองไม่เห็นหัวฉันนะ” นภาถามเสียงกระด้าง จ้องมองหลานสาวของสามีที่เธอไม่ชอบขี้หน้าด้วยสายตาวาวโรจน์ “ปกติหนูก็ไหว้ แต่คุณป้ามักจะเมิน ไม่ก็เชิดหน้าใส่ หนูก็เลยคิดว่าไม่ไหว้จะดีซะกว่า คุณป้าจะได้ไม่ต้องลำบากที่จะคอยหาวิธีหลีกเลี่ยงหนู ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูขอตัวไปโรงเรียนก่อนนะคะ” หนูดีก้มหัวให้แล้วเดินออกไปโดยที่ไม่ได้ยกมือขึ้นมาไหว้อย่างที่นภาต้องการ “นังเด็กบ้า! เมื่อไหร่แกจะออกไปให้พ้นๆ จากบ้านฉันสักทีนะ” นภาหน้าบึ้ง อยากจะไล่นังหนูผีออกไปจากบ้านใจจะขาด แต่ติดที่สามีเธอไม่ยอม ไม่รู้จะรักนังหลานคนนี้อะไรนักหนา ทีกับลูกตัวเองละคอยแต่จะห้ามนั่นห้ามนี่ “คุณแม่เป็นอะไรคะ ทำไมหน้ายุ่งจัง” ฟ้าใสเดินเข้ามานั่งที่ห้องอาหาร ก็เห็นว่ามารดานั่งทำหน้าบึ้งตึง เหมือนกำลังโกรธใครอยู่ “แม่โมโหนังหนูผีมัน เด็กอะไรไม่มีสัมมาคาระวะเอาซะเลย สู้ลูกของแม่ก็ไม่ได้น่ารัก ไม่เคยทำให้แม่ผิดหวังเลย” นภายิ้มอย่างภูมิใจ เจอหน้าลูกค่อยยิ้มออกหน่อย ไม่ว่าฟ้าใสจะทำอะไรแม่อย่างเธอก็คอยสนับสนุนลูกอยู่เสมอ “หนูกับมันคนละชั้นกันเลยค่ะ นังนั่นมันเด็กกำพร้า ส่วนหนูมีทั้งคุณพ่อและคุณแม่ที่น่ารักแบบนี้” ฟ้าใสยิ้มให้มารดาอย่างประจบ “น่ารักจริงๆลูกแม่ หนูทานข้าวดีกว่าจ๊ะ เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสาย” “ค่ะ” หนูดีมาถึงโรงเรียนแล้วก็เดินไปที่โรงอาหารเพื่อหาอะไรรองท้อง ทุกจะมีเพื่อนมานั่งกินด้วยแต่วันนี้สองสาวออกจากบ้านสาย ทำให้เธอต้องมานั่งกินอยู่คนเดียว “หนูดี ทำไมวันนี้มานั่งกินข้าวเช้าคนเดียววะเนี่ย” เบลสาวห้าวหน้าหมวยเพื่อนต่างห้อง เดินถือจานข้าวมานั่งตรงข้ามกับหนูดี “คนเดียวที่ไหน แกก็มานั่งกับฉันแล้วนี่ไง ว่าแต่มานั่งกับฉันแบบนี้เด็กๆ ของแกไม่งอนแย่หรอ” หนูดีแกล้งแหย่เพื่อนที่เป็นขวัญใจผู้หญิงที่ชอบสาวหล่อ “ใครจะมาว่าฉันได้ พูดแบบนี้หึงอะดิ” เบลยักคิ้วให้แล้วตักข้าวเข้าปาก “หลงตัวเองชะมัด” หนูดีส่ายหน้า ยอมรับว่าคนตรงหน้าน่ารักมาก แต่เธอก็ไม่เคยคิดอะไรเป็นอื่นนอกจากเพื่อน ก็ไม่ต่างจากเบลที่ไม่ได้ชอบหนูดีมากกว่าความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ลูอิสเดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงโรงอาหาร สายตาคมกวาดมองไปรอบๆ ก็เห็คนที่ทำให้เขานอนไม่หลับ จนต้องถ่อมาโรงเรียนแต่เช้าแบบนี้ กำลังนั่งหัวเราะกับเด็กผู้หญิงที่ท่าทางออกห้าวๆ มือหนากำหมัดแน่นอย่างโมโห สูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ อย่างต้องการจะระงับอารมณ์โมโห ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือทอมเขาก็ไม่ชอบทั้งนั้น ขึ้นชื่อว่าชอบผู้หญิงเหมือนกันแล้วมันก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น! “เอารูปนี้ลงสิ รูปนั้นไม่เห็นสวยเลย” หนูดีกับเบลกำลังเลือกรูปที่จะเอาลงเฟสบุ๊ค เลยไม่เห็นว่าตอนนี้มีคนเดินมาจ้องทั้งคู่อย่างไม่วางตา “ฮึ่ม!” ลูอิสส่งเสียงฮึ่มฮั่มเป็นสัญญาณว่าเขามีตัวตนอยู่ตรงนี้ หนูดีกับเบลเลยเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอโทรศัพท์ “สวัสดีค่ะ ผอ.” หนูดียกมือขึ้นไหว้อย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเบลเห็นว่าเพื่อนเรียกว่า ผอ.ก็รีบยกมือขึ้นมาไหว้เช่นเดียวกัน “อือ” ลูอิสรับคำส่งๆ จ้องหน้าหวานไม่วางตา ยังไงซะวันนี้เขาก็ต้องคุยกับแม่แมวน้อยนี่ให้รู้เรื่อง กล้าดียังไงถึงได้มานั่งอี๋อ๋ออยู่กับเด็กนี่ ตอนนี้เขาทำอะไรมากไม่ได้เลยต้องพยายามนิ่งเอาไว้ รอให้อยู่กันสองคนก่อนเถอะพ่อจะจับทำโทษเสียให้เข็ด “เราไปกันเถอะ” หนูดีดึงแขนเบลให้ลุกขึ้นยืนแล้วลากออกมา เพราะไม่อยากจะอยู่ให้อีตาลุงนี่จ้องนานๆ คิดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานแล้ว ทำให้หน้าเธอร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่ได้ แถมใจยังเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นอีกด้วย “จะรีบไปไหนเนี่ย ทำอย่างกับจะหนี ผอ.อย่างงั้นแหละ” หนูดีหันกลับไปมองทางด้านหลังเพื่อดูให้แน่ใจว่า ผอ.ไม่ได้เดินตามมา แล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ไม่ได้หนีใครทั้งนั้นแหละ แค่อยากออกมาเดินย่อยอาหารเดี๋ยวอ้วน แกนี่ไม่รู้เรื่องเลย” หนูดีสะบัดมือออกจากแขนเพื่อน รีบเดินนำออกไปเพื่อขึ้นตึกเรียน “อะไรของมัน” เบลพึมพำเบาๆแล้วเดินตามไป “ไม่อยากเรียนคณิตเลย” วีต้าย่นจมูกอย่างเซ็งๆ “ไม่เห็นว่าแกจะชอบสักวิชาเลยวีต้า” หวานพูดแล้วหยิบขนมเข้าปาก “พูดถูกใจจังหวาน ฮ่าๆ” หนูดีหัวเราะเสียงใส ก่อนจะหยุดลงเมื่อครูสอนคณิตจอมเนี๊ยบเดินเข้ามา เสียงเจี๊ยวจ๊าวในตอนแรกหยุดลงทันที เพราะครูคนนี้แกขึ้นชื่อเรื่องความดุ “หนูดีคาบนี้เธอไม่ต้องเรียน เพราะ ผอ.เรียกให้เธอไปช่วยงาน ออกไปได้เลย ส่วนคนอื่นๆก็เรียนกันตามปกตินะจ๊ะ” พวกเพื่อนๆในห้องต่างโห่ร้องอย่างอิจฉาที่ไม่ต้องเรียนคณิต ส่วนคนที่โดนเรียกไปพ่นลมหายใจออกมาย่างแรง “เรียกไปช่วยงานอะไรวะ” วีต้าหันมาถามอย่างสงสัย “นั่นดิ ไว้ใจได้ไหมเนี่ย” หวานที่นั่งอยู่ข้างๆ กับหนูดีก็พูดขึ้นอย่างเป็นห่วง “ไม่อยากไปเลยพวกแกทำไงดีอ่ะ ฉันว่าฉันไปหลบในห้องสมุดดีไหมวะ” หนูดีถามความคิดเห็นเพื่อน สองสาวรีบส่ายหน้าพร้อมกัน “ไม่ดีอ่ะ เกิด ผอ.บ้าขึ้นมาแกได้ซวยไปกันใหญ่ ฉันว่าแกเผชิญหน้าไปเลยดีกว่า หลบยังไงแกก็หลบไม่พ้นหรอก” “ฉันเห็นด้วยกับวีต้านะ สู้ๆ เพื่อน” หวานยกกำปั้นขึ้นมาแล้วชกไปที่แขนหนูดีเบาๆ อย่างให้กำลังใจ แต่ยังไม่มีใครได้พูดอะไรต่อครูสาวใหญ่ก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน “อ่าว ยังจะนั่งอยู่อีกรีบไปสิแม่หนูดีเดี๋ยวท่านจะรอนาน” ครูดุสิตาขยับแว่นพูดเสียงดัง เมื่อลูกศิษย์ยังนั่งอยู่ที่เดิม “ไปให้ไวเลยแม่คนนี้หนิ ถ้ายังชักช้าอยู่ฉันจะหักคะแนนเธอ” เมื่อโดนขู่หนูดีเลยจำใจต้องออกไป โดยมีสายตาของเพื่อนมองตามอย่างเป็นห่วง หนูดีกรอกตาไปมาเมื่อเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของผู้อำวยการ วันนี้ดูตึกนี้จะมีการคุมเข้มมากขึ้น ไม่ปล่อยให้นักเรียนเข้ามาได้ง่ายๆ แล้ว ดีหน่อนที่เธอไม่ต้องยุ่งยากอะไร เพียงแค่บอกว่ามาพบ ผอ. รปภและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีโดยที่ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ สร้างความแปลกใจให้เธอไม่น้อย เพราะเห็นนักเรียนคนอื่นโดนถามนู่นนี่นั่นเยอะแยะไปหมด เด็กสาวส่ายหน้าเลิกคิดเรื่องอื่น แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่"คิดเรื่องลูกของเราอยู่ค่ะ คุณป๋าอยากมีลูกผู้หญิงอีกสักคน หนูว่ายังไงคะ พร้อมที่จะมีให้คุณป๋ารึยัง ลูกสาวเราต้องน่ารักมากแน่ๆ เชื่อสิ" ลูอิสพูดเสียงนุ่ม เอียง หน้าจูบกระหม่อมเมียที่ยื่นหน้าเข้ามาหา "หนูเชื่อค่ะว่าลูกสาวเราต้องน่ารักมากๆ ไว้รอให้บาสเตียนโตขึ้นอีกหน่อยนะคะ ตอนนี้ลูกชายเรายังเล็กอยู่เลย เราควรทิ้งระยะห่างนะคะ อย่าเพิ่งรีบทําให้ท้อง หนูไม่ว่างสิคะคุณป๋า แต่รับรองว่าหนูจะมีลูกสาวที่น่ารักๆ ให้คุณป๋าอย่างแน่นอนไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนนี้ขอแค่เวลาเท่านั้น" หนูดีปล่อยแขนลงแล้วขยับตัวมายืนเคียงข้างสามี เธอต้องการจะมีลูกเพิ่มอยู่แล้ว เพราะรู้ว่าการเป็นลูกคนเดียวมันเหงาแค่ไหน การมีลูกหลายๆคนยามแก่ชราชีวิตคงไม่เงียบเหงา นี่แหละคือสิ่งที่ปรารถนายามเธอแก่ตัวลง "อืม ก็ไม่ได้บอกว่าจะมีเลยสักหน่อย แต่ได้ยินแบบนี้แล้วค่อยโล่งใจ ก่อนหน้านี้คิดว่าหนูจะไม่ยอมมีลูกสาวตัวเล็กๆ ให้คุณป๋าได้ชื่นใจเสียแล้ว" รอยยิ้มกระจายเต็มใบหน้าหล่อ มือที่โอบอุ้มลูกชายยกร่างเล็กขึ้นหอมฟอดใหญ่ "แอ้ แอ้" ประท้วงเล็กๆ ก่อนจะยิ้มหัวเราะจนปากบานมองเห็นเหงือกใสๆ พลอยทําให้ป๊ะป๋ากับคุณแม่ยังสาวหัวเราะตามไปด้วย "ลูก
หนูดีทําอาหารอยู่ในครัว บนร่างกายสวมชุดนอนสีแดงสดสั้นจู๋โชว์หน้าอกล้นหลามกับเรียวขาขาวผ่อง เท้าบางสวมรองเท้าส้นตึกสีเดียวกับชุดยืนอยู่หน้าเตา เรียวขาแยกกว้างด้านหลังมีสามีสุดที่รักกําลังยืนซบแหย่นิ้วเข้ากับร่องหลืบของเธอไม่ว่าจะขยับกายไปทางไหนก็ตามเกาะตลอด "คุณป๋าเอานิ้วที่ยัดอยู่ในร่างกายหนูออกไปก่อนได้ไหมคะ ใส่ไว้อย่างนี้มันเสียวนะคนบ้า ไหนบอกว่าหิวข้าวไงคะ ถ้าหิวก็เอาออกจะได้รีบทําข้าวเช้าให้ทาน" หนูดีกระทุ้งข้อศอกใส่หน้าท้องแกร่ง ตื่นเช้ามาก็โดนจัดไปแล้วชุดใหญ่ พอสายเข้าหน่อยก็ร้องหิวแล้วยังบังคับให้ใส่ชุดนอนกับรองเท้าส้นตึกทําอาหารอีกต่างหาก ตั้งแต่มดลูกเข้าอู่นี่เธอก็ไม่เคยได้ว่างเว้นจากเรื่องนี้เลย ต้องเลี้ยงลูกสลับกับเอาใจสามีที่มีความต้องการอันมากล้น บ่นก็หาว่าไม่รักผัว พอไม่บ่นก็ได้ใจใหญ่ งานการก็ไปทำแป๊บๆ เผลอหน่อยเดียวก็กลับบ้านมาเลี้ยงลูก กล่อมลูกหลับก็มากล่อมเธอต่อจนไร้เรี่ยวแรงแทบทุกวัน วันหยุดเป็นไม่ได้ต้องกระเตงลูกกันมาคอนโด ไม่ใช่อะไรหรอก พามาทําหื่นโดยที่ไม่มีใครคอยมารบกวนนอกจากลูกชายตัวน้อย "อือ ก็ทําไปสิคนสวย หนูอยู่ในชุดนี้ตอนทําอาหารโคตรเซ็กซี่เลยรู้ไหมเ
"ได้ทีแกล้งผัวใหญ่เลยนะเบบี๋ ไม่กลัวโดนถล่มหนักจนสลบคาอกคุณป๋าเหรอจ๊ะเมียจ๋า" ลูอิสจ้องแก่นกายในมือนุ่มเขม็ง ร่างกายสมบูรณ์แบบเกร็งเครียดไปทั้งตัว เขาห่างเหินมานานสําหรับกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์กับเมีย พอโดนกอบกําเต็มอุ้งมือเล็กอย่างนี้ก็แทบจะทนไม่ไหว "โดนถล่มไม่กลัว แต่กลัวจะไม่โดนถล่มมากกว่าขืนชักช้าเราอาจจะอดก็ได้นะคะคุณป๋า" คุณแม่คนสวยขยิบตา คลึงเคล้าท่อนเนื้อในมืออย่างผ่อนคลายต่าง จากสามีสุดที่รักสิ้นเชิง ความอายสูญสิ้นไปนานแล้ว ตอนนี้มีเพียงแรงปรารถนาเพียงอย่างเดียว ต้นขาอวบแบะกว้างระหว่างรูดแก่นกาย ประกายตาเจิดจ้ายามเล่นกับสิ่งที่สร้างความสุขและความทรมานให้แก่เธอไปพร้อมๆ กัน ปลายลิ้นอมชมพูกวาดเลียรอบปาก ก้มหน้าลงตํ่าเท่ากับปลายหัวชี้โด่ แล้วขยับลงไปอีกนิดจนแท่งร้อนผ่าวกระแทกริมฝีปาก "โอ้วว เบบี๋ของผัว จัดการมันให้สยบอยู่ในปากหนูเลยค่ะ เอาลิ้นเล็กๆ กับปากน้อยๆ ของหนูทํารักให้กับคุณป๋าที" ลูอิสแอ่นสะโพกไปข้างหน้าจนแก่นกายติด กับเรียวปากสีสด "อืม หนูคงช่วยคุณป๋าได้เท่านี้แหละค่ะ ให้ทํามากกว่านี้คงไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์อยากกินไอติม" หนูดียิ้มหวานแล้วปล่อยมือที่กํารอบความแ
ในวันนี้คุณหมอได้นัดตรวจสุขภาพของคุณแม่ลูกอ่อนกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน หลังจากตรวจทุกอย่างเรียบร้อย ด้วยความที่ขี้เกียจฝ่าการจราจรบนท้องถนน กลับบ้าน ป๊ะป๋าสุดหล่อเลยรถเลี้ยวเข้าคอนโดแทน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของเด็กชายบาสเตียนมีครบทุกอย่างเหมือนกับที่บ้านเป๊ะ เพราะหากวันใดที่ต้องมาค้างที่คอนโดจะได้ไม่ต้องเตรียมมาจากบ้านให้ยุ่งยาก และในตอนนี้สามคนพ่อแม่ลูกก็นอนเล่นกันอยู่ที่พื้นหน้าโซฟาของห้องนั่งเล่น คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ชวนลูกน้อยไร้เดียงสาคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุขจนกระทั่งความหิวโหยเข้ามาเยือน หนูดีจึงอุ้มลูกเข้าเต้าให้ดื่มกินแหล่งอาหารชั้นเลิศ สายตาของป๊ะป๋ารูปหล่อก็ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมองตามตาละห้อย กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คลอเคลียอยู่แถวบริเวณเหนือหน้าอก ใช้ปากแตะผิวเนื้ออ่อนตรงเต้าข้างที่ลูกชายดูดสลับกับหอมแก้มนุ่มๆ ของลูกไปด้วย หลังจากที่ได้ชิมรสชาติของน้ำนมจากอกเมีย ทุกๆ คืนเขาก็จะต้องกินต่อจากลูก และยังช่วยลดอาการคัดเต้าของเมียเด็กได้เป็นอย่างดี เบบี๋ตัวน้อยเลยไม่ค่อยบ่นสักเท่าไหร่ เพราะตัวเองก็ไม่ต้องทรมาน "เบบี๋จ๋าหนูได้ยินที่คุณหมอพูดแล้วใช่ไหมคะ มดลูกของหนูเข้าอู่ดีแล้ว ด
"ไหลก็ไหลสิคะ เดี๋ยวคุณป๋าจัดการเอง จะดูดไม่ให้เหลือสักหยดเลยคอยดู" ลูอิสดึงชุดนอนเกาะอกสีขาวลง น้ำนมที่ไหลออกมาจากยอดอกบวมเป่งอยู่ตรงหน้า สายตาวิบวับจ้องมองอย่างสนใจ "ทําอย่างนั้นไม่ได้นะ เดี๋ยวลูกร้องหิวขนึ้มาจะยุ่ง อื้อคุณป๋าบาสเตียนติดเต้า อ๊า อย่าแตะมัน หนู หนูเสียว ยะ...อย่า อ๊ะ เจ็บ อย่าดูดแรง" เสียงหวานครวญครา คิ้วเรียวมุ่นขมวดเข้าหากันแน่น ปลายเล็บจิกลงบนบ่า แกร่งด้วยความทรมาน เมื่อถูกครอบครองยอดอก น้ำนมไหลออกจากเต้าทะลักทลาย อีกข้างก็ถูกบีบจนไหลพุ่งออกมาเป็นสาย คุณแม่บางคน้ำนมก็แทบจะไม่มีให้ลูกได้ดูดกินจากเต้า แต่สําหรับเธอนั้นมากพอที่จะให้ลูกกินได้สบายๆ แล้วตอนนี้สามีตัวดีก็กําลังแย่งลูกกิน แถมยังบีบเล่นจนไหลเปรอะเปื้อนตามร่างกายทั้งของเขาและเธอ "อื้ม อร่อยจังเมียจ๋า วิเศษเป็นบ้าเลย ปกติเวลาดูดว่าอร่อยแล้ว แต่พอมีนมไหลออกมาแบบนี่ยิ่งอร่อยไปกันใหญ่ โอ คุณป๋าแข็งไปหมดแล้วเบบี๋ อ่า อยากให้มัน ไหลตลอดไปจริงๆ เลย พระเจ้ามันเยี่ยมจริงๆ นะ" ลูอิสพึมพําอย่างถูกใจ บีบเต้าอวบพร้อมกันสองข้างจนน้ำมันพุ่งใส่หน้าเขาพร้อมกัน "คุณป๋าจะสนุกเกินไปแล้วนะคะ อ๊ะ อย่าบีบนมเล่นแบบนี้สิคนบ
ก่อนหน้าจะครบเก้าเดือนกิจกรรมบนเตียงระหว่างคู่รักก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ ขนาดว่าท้องโตขึ้นคุณป๋าของเธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดความหื่นลง จนย่างเข้าสู่เดือนที่แปดหนูดีก็ขอร้องให้ยุติเพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อลูก ลูอิสก็ต้องยอมจํานนเก็บความต้องการฝังลึกลงไปใต้ดิน รอเวลาทบต้นทบดอกหลังเมียคลอดลูกแล้ว พอถึงกําหนดคลอดหนูดีก็ต้องไปนอนโรงพยาบาลเพื่อรอเวลาที่ปากมดลูกจะเปิดกว้าง วิธีที่เธอเลือกคลอดเป็นวิธีธรรมชาติ เมื่อถึงเวลาสามีสุดหล่ออย่างลูอิสก็ได้เข้าไปให้กําลังใจจนชิดขอบเตียง จับมือเมียแน่นคอยลุ้นจนหน้าซีดอยู่ตลอดเวลา พอเมียรักเบ่งลูกออกมาสําเร็จปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก คุณป๋าผู้แข็งแกร่งก็ถึงกับเป็นลมล้มพับลงไปกับพื้นทันที พยาบาลที่อยู่ในนั้นเลยต้องรีบปฐมพยาบาลเป็นการด่วน อยู่โรงพยาบาลได้ไม่กี่วันหนูดีกับลูกก็ได้กลับมาพักฟื้นที่บ้านโดยมีลูอิสคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง บางครั้งลูเซียสก็หวังดีจะมาช่วยดูแลบ้าง แต่คนหวงลูกหวงเมียไม่ยอมให้ช่วย จัดการทําเองแทบทุกอย่าง ถ้าให้นมลูกได้เขาก็คงให้ไปแล้ว แต่ติดที่ว่าเขาไม่มีน้ำนมจะให้ลูกกิน "ลูกแม่ทานนมเก่งจังเลยค่ะ บาสเตียนชอบใช่ไหมคะ" คุณแม่ยังสาวอ้มุลูกชายวัยแ