LOGIN"พี่รามิลซื้อชุดนี้ให้แก!?" นิรินถามเพื่อนเสียงดังลั่นด้วยความตกใจ มองดูรูปภาพที่เพื่อนให้ดูแล้วยังไงชุดนี้ก็ราคาเหยียบครึ่งแสนแน่นอน แต่รุ่นพี่อย่างรามิลกลับตั้งใจซื้อให้เพื่อนของเธอ จะเป็นอะไรไปได้ถ้ารุ่นพี่ตัวสูงไม่ได้กำลังสนใจข้าวหอมอยู่
"อยู่ดีๆก็พาไปห้าง แล้วก็ซื้อให้เลย แถมบอกว่าจะเป็นสปอนวันประกวดดาวเดือนให้ด้วย"
"พี่รามิลคงเสียเงินฟรีแล้วแหละ"
"ทำไมอ่ะนิ?" ปลายฟ้าถามเพื่อนด้วยท่าทีสงสัย
"นิรินอยู่นี่ทั้งคน สวยขนาดนี้ยังไงก็ชนะ ไอข้าวสู้ไม่ได้แน่นอน พี่รามิลเสียเงินเปล่าแน่"
"แกไปเอาความมั่นใจมากจากไหนเนี่ย" ยี่หวาส่ายหัวให้เพื่อนคุณหนูประจำกลุ่ม นิรินเป็นสาวสวยไฮท์แฟชั่นก็จริง แต่ข้าวหอมก็ไม่ได้ขี้ลิ้วขี้เหร่อะไร มองยังไงก็สูสี
"แกว่าถ้าชั้นไปถอนตัวตอนนี้ จะดีป่ะว่ะ"
"มาขนาดนี้แล้ว กล้าๆหน่อยสิ" ปลายฟ้าจับไหล่เพื่อนบีบเบาๆ พวกเธอเป็นเพื่อนกันมาหลายปี ทำไมจะไม่รู้ว่าข้าวหอมเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง บุคลิกภายนอกที่แสดงออกเหมือนไม่ได้สนใจอะไรรอบข้าง แต่ความจริงๆแล้วเก็บมาคิดทุกอย่างแค่ไม่พูดออกมาก็เท่านั้น
"แค่รู้สึกว่าถ้าไปยืนต่อหน้าคนเยอะขนาดนั้น ต้องกังวลมากแน่ ถ้าเกิดพลาดขึ้นมา จะทำยังไง?"
"แกดูชั้นเอาไว้ จะเดินเป็นตัวอย่างให้เอง" นิรินกอดอกด้วยความมั่นใจแล้วยักคิ้วให้เพื่อน
"ไม่ต้องกังวลหรอก ยี่กับฟ้าจะยืนเป็นกำลังใจให้อยู่ข้างล่าง"
"ถ้ากลัวเห็นคนเยอะแล้วกังวล ก็มองมาที่เราสองคนก็ได้ ไม่ต้องมองคนอื่น"
"พูดเหมือนง่ายเลย"
"หรือมองมาที่พี่ก็ได้นะ" รามิลเดินมานั่งลงข้างอีกคนแบบไม่ได้ขออนุญาต ข้าวหอมยังขมวดคิ้วแล้วหน้ามุ่ยใส่เขาอย่างเคย ถุงกระดาษแบรนด์หรูถูกตั้งลงตรงหน้า
"อะไรอีก"
"รองเท้าครับ"
"ซื้อมาทำไมเนี่ย ข้าวยืมนิรินก็ได้"
"คู่นี้พี่เลือกมาให้เข้ากับชุดเลย แถมเกรดดีมาก ไม่กัดเท้าแน่นอน" รามิลหยิบกล่องรองเท้าส้นสูงคู่สวยออกมาให้ดู นิรินแค่มองดูก็รู้แล้วว่าราคาแพงเหยียบหมื่น อะไรจะทำให้รามิลลงทุนกับเพื่อนเธอขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะสนใจเป็นพิเศษ
"แล้วรู้หรอว่าข้าวใส่ไซส์ไหน"
"ก็ลองใส่ดูสิครับ" จู่ๆคนตัวสูงก็นั่งลงที่พื้น รองเท้าผ้าใบคู่เก่าถูกดึงถอดออกให้ มือบางจับแขนเขาให้หยุดแต่รามิลสะบัดออกเบาๆ รองเท้าส้นสูงคู่สวยถูกเขาสวมให้อย่างใส่ใจ เรียกสายตาคนผ่านไปผ่านมาให้มองไม่ละสายตา
"พี่ทำอะไรเนี่ย คนมองเยอะแยะ"
"จะสนใจทำไมละ"
"พี่ไม่ใช่คนถูกนินทาสักหน่อย"
"มันสำคัญกับชีวิตเราขนาดนั้นเลยหรอ"
"......."
"อะไรที่มันบั่นทอนก็อย่าไปฟังมันนักสิ" รุ่นพี่ตัวสูงเงยหน้าขึ้นมามองเธอแล้วยิ้มให้ ข้าวหอมเสมองไปทางอื่นพยายามทำตัวไม่คิดอะไรกับสิ่งที่อีกคนพูด
"ใส่ได้พอดีเลย พี่รามิลเก่งนะคะเนี่ย" ยี่หวาพูดแซวทำลายความเงียบ รามิลลุกขึ้นยิ้มตอบรุ่นน้องอย่างเป็นมิตร ก้มมองดูรองเท้าที่เขาตั้งใจเลือกมา มันดูสวยมากเวลาอยู่กับอีกคน
"วันประกวดใส่ด้วยละ"
"ข้าวไม่มีเงินมาคืนพี่ที่หลังหรอกนะ"
"ก็ไม่ได้อยากได้เงินคืนนี่ครับ ขอค่าตอบแทนเป็นทานข้าวสักมื้อกับดูหนังสักเรื่องก็พอ"
"......."
"พี่ไปเรียนก่อน ตั้งใจเรียนนะครับน้องข้าวหอม" มือหนาสัมผัสลงบนผมนุ่มและลูบแผ่วเบา รุ่นพี่ตัวสูงเดินไปสักพักแล้วแต่ความอบอุ่นยามเขาสัมผัสที่หัวยังคงอยู่ มือบางยกขึ้นจับผมตัวเองแล้วหลุดอมยิ้มออกมา ก่อนจะทำกลบเกลื่อนกระแอมราวกลับไม่ได้คิดอะไร
"นิรินคนนี้ฟันธง พี่รามิลชอบไอข้าวแน่นอน"
"พูดอะไร"
"พูดจริงค่า ไหนจะชุดราคาเหยียบครึ่งแสน แล้วก็รองเท้าแพงแสนแพงนี่อีกละ ถ้าไม่ชอบ พี่เขาจะลงทุนขนาดนี้ไปทำไม"
"แต่พึ่งเจอกันไม่นานเองนะ พี่รามิลจะชอบข้าวหอมเร็วขนาดนั้นเลยหรอ" ปลายฟ้าตั้งคำถามอย่างไม่เข้าใจนัก ถึงจะดูเหมือนว่ายังไงรามิลก็ดูมีใจให้เพื่อนเธอ แต่ว่ามันก็เร็วมากจนน่าตกใจ
"คนเราก็ตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกเห็นได้นะ" ยี่หวาหันไปพูดตอบปลายฟ้าที่นั่งขมวดคิ้วอยู่
"เลิกคิดกันไปเองได้แล้วน่า" ข้าวหอมตัดบทให้เพื่อนเลิกคิดอะไรกันไปเรื่อย บางทีรามิลอาจมีเงินมากไปจนอยากเอามาใช้อะไรไร้สาระก็ได้
.
.
.
"กูได้ข่าวว่ามึงไปเป็นสปอนให้น้องข้าวหอม?" คิมหันต์ถามเพื่อนที่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะมุมหลังห้อง รามิลลุกขึ้นแล้วเลิ่กคิ้วตอบเขาแค่นั้น
"ดูสนใจนะคนนี้ มันยังไง" ทิวเขาถามกลับไปจนคนตัวสูงถอนหายใจแล้วเงยหน้ามามองอีกรอบ
"จะทำอะไรก็ระวังมิ้นท์ไว้หน่อย รายนั้นจิกน้องมันแน่ ถ้ามึงไปตามติดแบบนี้" ริวพูดเตือนเพื่อนเขาด้วยสีหน้าจริงจัง ความสัมพันธ์ของรามิลกับเพื่อนสาวคนสนิทที่ไม่ได้มีสถานะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ควงกันไปไหนบ่อย แถมเรื่องบนเตียงก็ไม่เคยขาด
"มิ้นท์กับกูไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ก็แค่เอากัน แค่นั้น"
"แต่มิ้นท์ไม่ได้คิดแค่นั้นมึงก็รู้ น้องมันจะซวยเอา" ริวหันไปพูดตอบเพื่อนให้เข้าใจอีกรอบ
"ไม่ใช่เรื่องที่กูต้องใส่ใจป่ะ ก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน ถ้ายุ่มย่ามมากกูก็แค่ตัด" รามิลพูดแบบไม่ได้ใส่ใจมากนัก เขาชัดเจนมาตลอดว่าระหว่างเขากับเพื่อนสาวอีกคนอยู่ในสถานะไหน เธอไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรจากเขา และเขาเองก็สามารถเขี่ยทิ้งได้ตลอดเวลาถ้าไม่พอใจ
"น้องนิรินนี่หว่า" คิมหันต์ที่เห็นรุ่นน้องสาวสวยยืนด้อมๆมองๆอยู่ตรงประตูพูดขึ้นมา
ข้าวหอมถูกเพื่อนดันให้เดินเข้ามาจนสายตาคนทั้งห้องมองตรงมาที่เธอคนเดียว ไม่ทันจะได้พูดอะไรรามิลก็เดินมาถึงตัวเธอแล้ว
"มาหาพี่หรอครับ"
"ข้าวอาจจะมาหาคนอื่นก็ได้"
"แสดงว่ามาหาพี่ริวคนหล่อ" ข้าวหอมถอนหายใจจากรุ่นพี่อีกคนที่โผล่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง
"พี่ลืมกุญแจรถไว้ในถุงรองเท้า ข้าวเอามาให้ เดี๋ยวก็กลับบ้านไม่ได้"
"อ่า สงสัยจะเผลอใส่ไปตอนถือถุงมา"
"มาแค่นี้แหละ"
"เดี๋ยวสิ" ข้อมือถูกรามิลรั้งเอาไว้ ข้าวหอมชะงักแล้วหันมามองจนรามิลต้องปล่อยมือออก
"มีอะไร?"
"คืนนี้ไปทำงานไหม?"
"ต้องไปทุกคืนอยู่แล้ว"
"งั้นไว้พี่ไปหานะ" ข้าวหอมพยักหน้าตอบรับแล้วรีบวิ่งออกไปเพราะไม่อยากอยู่เป็นเป้าสายตาไปมากกว่านี้
"กูบอกให้มึงระวังมิ้นท์ไว้บ้าง นี่เล่นแสดงออกต่อหน้าเลย" ริวพูดท้วงไอเพื่อนตัวดีที่ไม่ฟังกันเลยสักนิด เพื่อนสาวคนสนิทที่นั่งมองอยู่ด้วยสายตาไม่พอใจ แค่ดูก็รู้ว่าเดี๋ยวข้าวหอมเจอศึกหนักแน่
"กูไม่แคร์ ก็กูชอบของกู"
"ยอมรับแล้วว่าชอบ? ดูธรรมดามากเลยนะ ต่างจากทุกคนที่มึงเคยสนใจ"
"ก็เพราะธรรมดานี่แหละกูถึงชอบ"
"......"
"ดูไม่ต้องพยายาม แต่น่ารักดี"
.
.
.
"แฟนเราหรอ?" มาตินผู้จัดการร้านกระซิบถามจนคิ้วเรียวขมวดแน่น ส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน
"ไม่ใช่ค่ะ"
"พี่เห็นมาทีไรก็มานั่งเฝ้าอยู่ตรงนี้ นึกว่าแฟนเรามาเฝ้าซะอีก" ข้าวหอมหันมองคนที่นั่งยิ้มให้เธออยู่ไม่ไกล พักหลังมานี้รามิลมาที่ร้านบ่อยแถมยังชอบมานั่งอยู่ตรงหน้าบาร์ไม่ยอมไปไหน ทำคนเขาเข้าใจผิดกันหมดแล้ว
"พี่มาทำไมทุกวัน"
"ทำไมพูดกับลูกค้าแบบนั้นละครับ"
"ร้านอื่นไม่มีหรอ?"
"ก็มีแหละ แต่ร้านอื่นไม่มีน้องข้าวหอมนี่ครับ" พอเขาตอบมาแบบนี้ก็พาลให้ทำตัวไม่ถูกไปด้วย เหล้าที่ตวงอยู่หกเต็มบาร์จนต้อวรีบหาผ้ามาเช็ด รามิลขำหึในลำคอให้กับท่าทีเก้ๆกังๆ
"คนเขาเข้าใจผิดหมดแล้ว ว่าพี่มานั่งเฝ้า"
"ก็เฝ้าจริงๆ"
รามิลสั่งเครื่องดื่มไปเยอะพอสมควร คนตัวสูงฟุบหลับอยู่ตรงหน้าบาร์ ข้าวหอมที่เตรียมตัวกลับบ้านเดินมาสะกิดที่แขนแกร่งเบาๆ อีกคนเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มหวานมาให้
"กลับได้แล้ว ร้านจะปิดแล้ว"
"อ่า หรอ" คนตัวสูงลงจากเก้าอี้แล้วเซมาข้างหน้าจนข้าวหอมต้องรับเอาไว้ แขนเรียวรั้งที่แผ่นหลังของรุ่นพี่ตรงหน้าด้วยความตกใจกลัวว่าเขาจะล้มลง
"เมาอะไรขนาดนี้เนี่ย"
"ไปส่งที่รถหน่อยสิ อึก." คนเมาพูดบอกออกมา คนตัวเล็กที่ไม่มีทางเลือกยกแขนแกร่งพาดบ่าแล้วพยุงให้เดินตาม ขนาดตัวที่ต่างกันมากทำให้ทุลักทุเลไปหมด
กุญแจรถถูกยื่นมาให้คนตัวเล็กเปิดแทน ประคองให้คนตัวสูงนั่งลงตรงเบาะคนขับ ดึงเข็มขัดนิรภัยเอื้อมไปคาดให้รามิลเพราะกลัวจะเป็นอันตราย สะดุ้งตกใจที่จู่ๆปลายจมูกโด่งก็สัมผัสลงแก้มนิ่ม
"พี่รามิล! อ๊ะ!!" กายบางถูกเขาดึงให้นั่งลงบนตัก มือบางพยายามดันอกแกร่งเพื่อลุดขึ้น แต่แขนของรามิลกอดรั้งเอวเธอเอาไว้ กำปั้นเล็กทุบที่อกไปหนึ่งทีก่อนจะถูกดึงเข้าไปจูบ เพียงแค่ปากแตะปากไม่ได้ลุกล้ำอะไร รามิลผละออกมองคนบนตักเขาที่เหมือนจะวิญญาณหลุดออกไปแล้ว
"พี่ไม่ได้เมาหรอ!?"
"คอพี่แข็งจะตาย เหล้าแค่นั้นทำอะไรพี่หม่ได้หรอกครับ"
"จิ๊! ปล่อยเลยนะ"
"ไม่ครับ" ช้อนตัวอีกคนขึ้นแล้วส่งไปนั่งที่เบาะข้างคนขับ ดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้
"นั่งให้สบายเลยนะครับ พี่รามิลคนนี้จะไปส่งน้องข้าวหอมที่บ้านเอง"
รามิลเดินเอากระเป๋าเสือผ้าที่ขนไปเฝ้าคนตัวเล็กที่โรงพยาบาบเข้าไปไว้ในห้อง เขาเดินออกมาแล้วเห็นว่าเธอกำลังยืนมองออกไปนอกระเบียงด้วยรอยยิ้ม รามิลเดินไปโอบกอดอีกคนจากด้านหลัง เขาโน้มลงไปหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่จนเะอหัวเราะออกมา "คิดถึงห้องของเราไหมครับ?" "ห้องของพี่ต่างหาก" ข้าวหอมพูดเถียงขึ้น สุดท้ายก็เลยโดนรามิลจับให้หมุนไปหาแล้วดันตัวเธอชิดเอาไว้กับบานกระจก นิ้วยาวจิ้มที่ริมฝีปากเธออย่างไม่ชอบใจกับสิงที่เธอพูดเท่าไหร่นัก แต่เธอกลับเอาแต่ยิ้มทั้งที่รู้ว่าเขาไม่พอใจอยู่ "ไม่ต้องมายิ้มเลย" รามิลขมวดคิ้วใส่แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจอาการของเขาแม้สักนิดแถมยังจะเอาแต่ยิ้มไม่ยอมหยุดอีก แขนเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาเอาไว้แล้วเขย่งเท้าขึ้นไปกดจูบคนที่เอาแต่ทำหน้าไม่พอใจอยู่ รามิลยังคงตีหน้านิ่งอยู่อย่างนั้นจนเธอต้องลองทำอย่างเดิมอีกรอบ แต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลอีกตามเคย ข้าวหอมยืนคิดพักใหญ่ก็พอจะคิดอะไรออก มือเล็กจับไล้ตั้งแต่กลางอกเขาจนมาถึงหน้าท้อง ลูบลงไปจนถึงเป้ากางเกงก่อนจะถูกรามิลรวบมือเอาไว้ "พึ่งนะหายดีก็หาเรื่องใส่ตัวเลยหรอ?" "หรือว่าพี่ไม่ชอบละ" สายตาเย้ายวนแบบนั้นนั่นมันอะไร จะเล่นกับใจขอ
รามิลอุ้มร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดเข้ามาด้านใน เขาพอจะมีสติขึ้นแล้วถึงได้อุ้มเธอไหว เตียงคนไข้เข็นเข้ามารับร่างไร้เรี่ยวแรงจากมือเขา รามิลวิ่งตามเตียงที่เข็นไปด้วยความเร็ว ก่อนจะต้องหยุดในตอนที่พยาบาลดันเขาออกมาแล้วประตูห้องฉุกเฉิดก็ปิดลงเขาทิ้งตัวลงเต็มแรงราวกับคนที่ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี ใจของเขาหลุดลอยออกไปตั้งแต่ได้เห็นเลือดสีแดงสดเต็มตัวข้าวหอมแล้ว เขานั่งนิ่งสมองไม่อาจประมวลผลก่อนเพื่อนจะเดินเข้ามาหา พร้อมแม่เขาที่นั่งลงข้างกายแล้วลูบแผ่นหลัง"แม่ขอโทษนะลูก แม่ไม่คิดว่าหนูมิ้นท์จะทำถึงขนาดนี้""น้องจะตายไหมครับแม่ ข้างหอมจะตายไหมครับ""แม่ไม่ยอมให้ลูกสะใภ้แม่ตายหรอก""แม่...."รามิลมองหน้าแม่ของเขาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ความดีของข้างหอมกับแสดงออกให้เธอได้รับรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้รักลูกชายเธอมากแค่ไหน และนั่นก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องขัดขวางความรักของทั้งสองคนอีกบายประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกมา เป็นพยาบาลที่วิ่งมาหาด้วยสีหน้าตกใจจนรามิลใจล่วงหล่นไปอยู่ตาตุ่ม"เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?""กระสุนถูกจุดสำคัญ แล้วคนไข้ก็เสียเลือดมาก เราจำเป็นต้องผ่าตัดโดยด่วนค่ะ""รักษาได้เลยค่ะ ช่
รามิลลืมตาขึ้นมาด้วยความมึนงง อาการปวดหนึบที่หัวทำให้เขาต้องสะบัดไปมาเพื่อคลายมันลง กว่าจะปรับการมองเห็นได้ก็ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ภาพแรกทำให้ทำเขาเบิกตากว้าง คนตัวเล็กถูกมัดเอาไว้ติดกับเก้าอี้ตรงหน้าเขาทั้งมีผ้ามัดที่ปากเอาไว้ด้วย รามิลพยายามขยับสุดแรงแต่แขนที่ถูกมัดไขว้หลังไว้ทำให้เขาทำตามใจได้ลำบากเขาได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความโมโหถึงขีดสุด มุมปากสวยมีรอยแผลอยู่ด้วย สถานการณ์ที่เขาสองคนกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ไม่ต้องบอกจะะรามิลก็รู้ดีว่าใครเป็นคนทำ"ข้าวหอม ไหวไหมครับ?" คนตัวเล็กพยักหน้าตอบรับเขาเพราะไม่สามารถพูดออกมาได้ ก่อนบานประตูจะเปิดขึ้นแล้วคนที่เขาคิดไว้ว่าเป็นคนทำจะเดินเข้ามา"มิ้นท์จับเรากับน้องมาทำไม?""เราแค่มีเรื่องคุยกับมิลหน่อย ส่วนนังเด็กนี่....""อย่าทำอะไรข้าวหอมนะ!" คนตรงหน้าเดินแสยะยิ้มมาหาเขาแล้วมองนิ่ง แววตาแสนอาฆาตแค้นนั้นเขาแทบไม่เคยเห็นมันมาก่อน เขาคิดผิดไปสินะที่เข้าไปพัวพันกับผู้หญิงคนนี้ ถึงมาคิดได้ในเวลานี้มันก็สายเกินไปแล้ว"ห่วงมันเหลือเกินนะ ความจริงมันควรจะตายไปตั้งแต่รอบที่แล้วด้วยซ้ำ""เราไม่เคยคิดเลยนะ ว่ามิ้นท์จะเป็นคนแบบนี้""ก็มิลนั่นแหละที่ทำให้เราเ
"สุดท้ายก็แพ้ลูกอ้อนไม่ไหว""มึงก็ลองมีเมียมาอ้อนดูบ้างสิว่ะ" รามิลสวนกลับทิวเขาทันควัน ปกติข้าวหอมไม่ใช่คนขี้อ้อนอะไร แต่พออ้อนขึ้นมาทีใจเขาก็อ่อนยวบไปหมด สุดท้ายก็ต้องแพ้ทางทุกที"กูก็มีแล้วไงเมีย""ปากดีเข้าไปเถอะ คนไหนละเมียมึงอ่ะ" เขาพูดเย้าเพื่อนไปแต่เหมือนว่าอีกคนจะหัวเสีบ ก็กำลังพูดความจริงอยู่นี่ นิรินที่เป็นว่าที่คู่หมั้น หรือว่าปลายฟ้าที่มันได้ไปแล้วทั้งตัวทั้งใจละที่เป็นเมีย"อาหารมาแล้ว" คนตัวเล็กจาเป็นประกายทันทีที่อาหารมาเสิร์ฟ ดูแล้วคงจะหิวมากเพราะนั่งทำงานกับเพื่อนมาหลายชั่วโมง"เป็นครั้งแรกเลยนะที่มาร้านเหล้าแล้วสั่งอาหารเยอะขนาดนี้อ่ะ" ข้าวหอมหันไปมองริวแล้วเกาต้นคอแก้เขิน ก็คนมันหิวจะให้ทำยังไงละ ที่อยากมาที่นี่ก็แค่อยากจะดูหน่อยว่าบรรยากาศร้านเปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่าก็เท่านั้น"ทานกันได้เลยนะสาวๆ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง""ก็นึกว่ามีเงินพอเลี้ยงข้าวคนเดียว เลี้ยงเพื่อนข้าวไหวด้วยหรือไง""สบายมาก""เลี้ยงเพื่อนข้าวได้ แต่ห้ามเลี้ยงสาวคนอื่นเชียว""ดูสภาพเพื่อนพี่ มันจะไปเลี้ยงสาวที่ไหนได้" คิมหันต์ขำแล้วส่ายหัว ข้างหอมน่าจะเป็นคนแรกที่เอาเพื่อนเขาอยู่ขนาดนี้ รามิลแทบไม่มอง
"มึงคิดว่าจะเป็นยังไงต่อ?" รามิลมองไปที่ทิวเขาแล้วหยุดนิ่ง คำถาของเพื่อนทำให้นึกคิดอยู๋แต่ก็พอจะเดาได้ไม่อยาก แม่ของคนที่เขาพึ่งแจ้งตำรวจจับคงไม่ยอมปล่อยไปแบบนี้แน่ แต่ในเมื่อเขาเลือกที่จะทำแล้วก็แค่ต้องรอรับมือกับมันให้ได้ "จะเป็นยังไงก็ให้เป็นไป กูแค่อยากจะปกป้องคนของกู""พี่รามิล" พูดไม่ทันจบเสียงหวานจากคนของเขาก็ดังขึ้นพอดี ข้าวหอมโบกมืออยู่ไม่ไกลแล้วเดินเข้ามาพร้อมกลุ่มเพื่อนของเธอ วันนี้เขาไม่มีเรียนแต่ก็มานั่งรอรับน้องตั้งแต่เช้า ไม่อยากให้ละสายตาไปไหนอีกแล้ว"เลิกแล้วหรอครับ เรียนเป็นไงบ้าง?""เหนื่อยมาก มีงานต้องทำด้วย" รามิลลูบหัวคนที่ปากยู่ลงยามเราให้เขาฟัง ดูจากสีหน้าแล้วเธฮคงเหนื่อยกับการเรียนมากอย่างที่บอก"พี่รามิลนี่ดีจัง มารอรับข้าวหอมทุกวันเลย" ยี่หวาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซว ไม่ว่าจะมีเรียนหรอไม่มี ยุ่งมากแค่ไหนทุกครั้งที่เรียนเสร็จแล้วเดินลงมาก็จะเห็นรามิลมารอเพื่อนเธอแบบนี้ตลอด น่าจะเริ่มตั้งแต่ที่ข้าวหอมโดนแทงจนเข้าโรงพยาบาลวันนั้นละมั้ง"เมียทั้งคนก็ต้องมารอสิครับ""พี่รามิลพูดอะไรเนี่ย!?" อดไม่ได้ที่จะะบีบแก้มเนียนด้วยความหมั่นเขี้ยว ยิ่งในยามที่มันกำลังแดงระเรื่อด
เสียงเรียกจากพนักงานส่งอาหารดังขึ้นจังหวะเดียวกันกับที่รามิลออกมาจากห้องน้ำพอดี พอรับของมาจ่ายเงินเสร็จแล้วก็เตรียมมันใส่จานเอาไว้ เหลือมองนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงแล้ว เดินกลับไปในห้องก็ยังเห็นคนตัวเล็กนอนคุดคู้อยู่บนเตียง รามิลนั่งลงแล้วหอมแก้มเธอแทนการเอ่ยปลุกแต่เหมือนว่าจะไม่ได้ผล เลยเปลี่ยนมานั่งลูบหัวเธอแทนอย่างเอ็นดูเวลาอาทิตย์กว่าที่เขายุ่งกับการจัดการเรื่องที่คนตัวเล็กเจอมา ขุนเขายอมเปิดปากทั้งหมดว่ามิ้นท์เป็นคนสั่ง จริงๆก็ไม่ใช่ว่ายแมหรอกแต่เป็นเขาที่ไปขู่ต่างหาก ตอนนี้น้องชายของคนตัวเล็กถูกคุมตัวเอาไว้ เหลือก็แค่เพื่อนสาวคู่ขาเก่าเขาที่เขาอยากจะเป็นคนจัดการด้วยตัวเอง รามิลก็แค่อยากลองให้โอกาสอีกคนเป็นครั้งสุดท้าย ถือว่าชดใช้ที่เป็นต้นเหตุของความแค้นในครั้งนี้เอนตัวลงนอนแล้งดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด หอมแก้มเธออยู่หลายครั้งเป็นการก่อกวนให้คนขี้เซาลืมตาตื่น ครั้งนี้ได้ผลข้าวหอมลืมตาตื่นขึ้นมาทั้งมุ่ยหน้าใส่คงจะหงุดหงิดที่เขาไปกวนเวลาฝันหวาน"ทำไมงอแงครับ?""ข้าวเปล่างอแงก็แค่ยังนอนสบายอยู่เลย""ขี้เซาจัง จะเที่ยงแล้วครับ ลุกมาทานข้าวได้แล่ว" คนตัวเล็กผุดตัวลุกขึ้นนั่งทั้งยังทำห







