LOGIN"พี่ข้าวเอาเงินมาด้วยดิ"
"เงินอะไรอีก วันก่อนก็พึ่งให้ไป" ข้าวหอมพูดใส่ขุนเขาน้องชายต่างพ่อที่วันนี้ต้องวานให้มาส่งเพราะเธอออกมาไม่ทันรถรอบที่ควรจะขึ้น
ปกติขุนเขาขอเงินเธอแบบนี้เป็นประจำ ไม่สิ ออกแนวไปทางรีดไถแล้วมากกว่า อีกคนถูกเลี้ยงดูมาไม่เคยให้ลำบาก มีเพียงเธอที่ต้องทำงานหนักทั้งส่งน้องเรียน ทั้งค่าใช้จ่ายในบ้าน ไหนจะหาเงินรักษาแม่ที่ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล
หลายครั้งที่มีปากเสียงกันกับพ่อเลี้ยงจนเธอถูกทำร้ายร่างกาย มีแค่เพียงนิรินที่พอจะยื่นมือเข้ามาช่วยได้ แต่เธอก็ไม่อยากรบกวน
ถึงจะโมโหแค่ไหนที่ขุนเขามาขอเงินราวกลับว่าเธอผลิตมันได้เอง แต่สุดท้ายก็ต้องให้ไป เพราะถ้าอีกคนเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อเลี้ยงเธอเมื่อไหร่ กลับบ้านไปก็คงไม่วายโดนตบตีอีก
"เอามาเถอะน่า อย่าถามมากได้ป่ะ"
"แต่พี่ไม่มีเงินแล้ว พึ่งจ่ายค่ายาแม่ไป"
"บอกให้เอามาไงว่ะ"
"แกไถเงินไอข้าวมันอีกแล้วหรอ เป็นไรมากป่ะ" ยี่หวาเดินไปถึงตัวเพื่อนตัวเล็กก่อนแล้วหันไปตวาดใส่ไอน้องชายต่างพ่อของข้าวหอมที่เจอกี่ครั้งก็ไม่เคยถูกชะตา
"ขอเงินพี่สาวตัวเอง จะเรียกไถเงินได้ยังไง"
"แบบแกอ่ะเรียกไถ ไอข้าวมันทำงานหนักทุกวัน หัดเห็นใจมันบ้างสิ" นิรินเข้ามาเสริมด้วยอีกคน หันมองข้าวหอมที่นิ่งไปแล้วทำท่าจะหยิบเงินในกระเป๋าให้ตามเคย แบงค์พันถูกนิรินยื่นให้ขุนเขาไปแทน
"อยากได้ก็เอาไป จะได้ไปให้พ้นหน้าสักที"
"ขอบคุณนะครับพี่นิรินคนสวย" ทำท่ายียวนก่อนจะขับมอเตอร์ไซค์คันใหม่ที่ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของข้าวหอมออกไป ปลายฟ้าเดินมาลูบแผ่นหลังเพื่อนก่อนอีกคนจะหันมากอดเธอ
"เถียงมันให้ได้เหมือนเถียงชั้นหน่อยสิ" นิรินหันไปพูดกับเพื่อนอย่างหัวเสีย
"ขืนขุนไปฟ้องพ่อเลี้ยงข้าวอีก เป็นเรื่องแน่" ปลายฟ้าลูบแผ่นหลังปลอบเพื่อนให้รู้สึกดีขึ้น
"มายืนทำอะไรกันตรงนี้เนี่ย" เสียงคิมหันต์ทักทายมาแต่ไกลก่อนจะเดินเข้ามาหา พร้อมรามิลที่เดินตามมาด้วย ข้าวหอมผละออกจากเพื่อนแล้วข่มน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาก ไม่ชอบเบยสักนิด เวลาให้ใครมาเห็นว่าตัวเองกำลังอ่อนแออยู่
"ข้าวหอมเป็นอะไรรึเปล่า?" รามิลถามขึ้นมาก่อนหลังจากรอบสังเกตอาการของคนตัวเล็ก
"เปล่า" พูดตอบแค่นั้นก็หันหลังเดินหนีไปจนเขาต้องมองตามไม่ละสายตา สามสาวก้มหัวขอตัวรุ่นพี่ก่อนรามิลจะรั้งนิรินไว้ก่อน
"ผู้ชายคนเมื่อกี้ใครหรอครับ?"
"หมายถึงคนที่มาส่งข้าวหอมหรอคะ?"
"อืม หรือว่าแฟนข้าวหอม"
"ไม่ใช่หรอกค่ะ น้องชายมันอ่ะ ข้าวหอมมันยังไม่มีแฟนหรอก" นิรินบอกไปทั้งอมยิ้มกับท่าทีของรุ่นพี่ตัวสูงไปด้วยอีกคนพยักหน้าตอบรับเธอว่าเข้าใจแล้วปล่อยให้ดธอได้เดินตามกลุ่มเพื่อนไป
"กลัวเขามีแฟนจะแย่"
"หุบปากไปเหอะ"
.
.
.
ปลายฟ้านั่งลงสะกิดเรียกเพื่อนที่ฟุบหลับอยู่ ข้าวหอมตื่นขึ้นมาก่อนจะขยี้ตาตัวเอง ก้มมองดูสมุดเลคเชอร์ที่มีตัวหนังสืออยู่ไม่ถึงครึ่งหน้าแล้วถอนหายใจ สงสัยต้องไปนั่งลอกจากเพื่อนอีกแล้ว
"ดูเพลียนะ?" ปลายฟ้าถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง ดูแล้วคงจะนอนน้อยติดกันมาแล้ววันแล้วแน่ๆ
"นิดหน่อยอ่ะ ข่วงนี้เลิกดึกมากทุกวัน"
"รับจ็อบอื่นต่อหรอ?" ยี่หวาเดินมานั่งตรงข้าม ปกติงานของข้าวหอมเลิกดึกมากก็จริง แต่ไม่น่าถึงขั้นไม่มีเวลานอนแบบนี้
"แกมีอะไรที่ไม่บอกรึเปล่า จะให้ช่วยอะไรก็บอกได้นะ" ข้าวหอมกลืนน้ำลายลงคอแล้วทำบ่ายเบี่ยง เธอรบกวนนิรินมามากเกินกว่าจะแบกหน้าไปรบกวนเพื่อนอีก เวลานี้คงต้องสู้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนที่ทำให้ได้เงิน ...ก็คงต้องทำ
"ไม่มีอะไรหรอก แค่นอนดึกติดกันหลายวัน"
"วันนี้ไปหาอะไรกินกันไหม?"
"คงไม่ได้อ่ะยี่ ชั้นต้องไปหาแม่"
"อ้าว หรอ"
"ไว้วันอื่นนะ"
คนตัวเล็กโบกมือลาเพื่อนก่อนจะวิ่งขึ้นรถเมล์ตามเคย ทิ้งตัวลงนั่งเอาหัวพิงกระจกรับลมให้สบายใจ ไม่นานมากนักก็ถึงโรงพยาบาลที่แม่รักษาตัวอยู่ แวะซื้อข้าวกล่องร้านป้าหน้าโรงพยาบาลแล้วรีบวิ่งเข้าไปเพราะใกล้เลยเวลาแม่ต้องกินยารอบเย็นเข้าไปเต็มที
ห้องผู้ป่วยแบบรวมมีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา ข้าวหอมเดินไปนั่งข้างเตียงของคนที่ยังหลับสนิท ออกแรงสะกิดเรียกผู้เป็นแม่ให้ตื่นขึ้นมา ส่งยิ้มสดใสไปให้เหมือนอย่างที่ชอบทำ ก่อนจะกดปรับเตียงให้คนป่วยนั่งได้ถนัด
"ข้าวซื้อข้าวผัดมาให้แม่ กินหน่อยนะ จะได้กินยา" แกะกล่องข้าวเตรียมช้อนอย่างดีแต่ไม่ทันจะได้ตักป้อนพยาบาลก็มาเรียกเธอซะก่อน กล่องข้าวในมือถูกยื่นให้คนป่วยถือเองแล้วกำชับให้กินให้หมด
"คนไข้ต้องผ่าตัดนะครับ ไม่อย่างนั้นอาจจะแย่กว่านี้"
"ผ่าตัดเลยหรอคะ"
"ครับ หมอแนะนำว่าให้ผ่าตัดซะ" ยกมือไหว้ขอบคุณหมอที่รักษาแม่เธอมาแต่ต้น ทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้หน้าห้องแล้วใช้กำปั้นทุบหัวตัวเองสองสามที หลับตาลงกักเก็บความรู้สึกอัดแน่นในใจ เงินค่าผ่าตัดมากมายขนาดนั้น จะไปหามาจากไหน
อยู่เฝ้าจนคนป่วยหลับสนิทก็กลับบ้านทันที เพราะวันนี้เป็นวันหยุดเลยไม่ต้องรีบไปทำงาน กลิ่นแอลกอฮอล์ตีจมูกทันทีเมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไป ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพ่อเลี้ยงของเธอคงจะเอาแต่ดื่มเหมือนเดิม
"กลับมาแล้วหรอ เอาเงินมาดิ๊ จะซื้อเหล้าเพิ่ม"
"ข้าวไม่มี"
"ทำงานทุกวัน จะไม่มีได้ไงว่ะ"
"ข้าวทำงานหาเงินมารักษาแม่ ไม่ได้เอาไว้ให้พ่อกินเหล้า!" เพี๊ยะ!! เสียงฝ่ามือกระทบแก้มนิ่มเต็มแรงจนคนตัวเล็กล้มลงที่พื้น
"เดี๋ยวนี้มึงกล้าเถียงหรอ!"
"พ่อพอแล้ว เกิดพี่ข้าวเป็นอะไรใครจะทำงานละ" เสียงปรามของน้องชายต่างพ่อดังขึ้นมา ดูเหมือนจะเป็นการข่วยเหลือแต่ประโยคที่พูดออกมามีแต่ความเห็นแก่ตัว ข้าวหอมรีบลุกเข้าห้องนอนแล้วล็อกประตูทันที สมุดบัญชีถูกหยิบขึ้นมาเปิดเช็คดู เงินเก็บที่มีไม่ถึงห้าหลักแบบนี้ต้องหาอีกเท่าไหร่ถึงจะหาเงินมารักษาแม่ได้
เปิดลิ้นชักหัวเตียงหยิบนามบัตรของใครบางคนที่เธอให้เธอไว้ขึ้นมา ทั้งที่บอกกับตัวเองว่าไม่ว่าจะหมดหนทางแค่ไหนก็จะไม่มีวันติดต่อไป แต่ในตอนนี้กลับกลืนน้ำลายตัวเอง หยิงโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ตามนามบัตรอย่างชั่งใจก่อนจะกดโทรออก
(สวัสดีค่า เจ๊ลีค่ะ)
"เจ๊คะ นี่...ข้าวหอมนะคะ"
(ตายแล้ววว เจ๊นึกว่าหนูจะไม่โทรมาแล้ว
ตัดสินใจได้แล้วใช่ไหมคะ)
"ค่ะ ถ้าหนูอยากทำวันนี้เลย จะได้ไหมคะ"
(ดีสิจ๊ะ วันนี้มีลูกค้าเกรด VIP พอดี
เดี๋ยวเจ๊จัดให้แจ่มๆเลย)
"ค่ะ"
(ยังไงรีบมานะ อีกหนึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัดลูกค้า)
"ได้ค่ะ"
คนตัวเล็กอยู่ในชุดเดรสสีขาวที่สวยที่สุดเท่าที่เธอมี นั่งอยู่บนเตียงในโรงแรมหรูที่เจ๊ลีเจ้าของที่นี่จัดไว้ให้ เสียงประตูเปิดเข้ามาทำให้ใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นล่ำสัน เพราะหันหลังเลยยังไม่ทันได้เห็นหน้าคนที่เข้ามาใหม่ มือบางสองข้างกุมกันไว้แน่นอย่างประหม่า
"คะ คุณอาบน้ำก่อนได้เลยนะคะ หนูเตรียมน้ำไว้ให้แล้วค่ะ" อาการอึกอักจากความกลัวส่งให้คนที่พึ่งเข้ามารู้สึกได้จนขมวดคิ้ว
"พึ่งมาใหม่หรอ"
"ค่ะ"
"หันหน้ามา" หลับตาลงแล้วหันไปหาเขาตามคำสั่ง ก่อนจะต้องตกใจจนเซถอยหลัง
"ข้าวหอม...."
"พี่รามิล" ทำไมถึงต้องเป็นเขาด้วย แบบนี้เขาก็รู้สิว่าเธอยอมมาทำงานไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้ รามิลเดินเข้าหาแล้วส่งมือหนาแตะลงที่แก้มก่อนจะสัมผัสแผลที่มุมปากเธอแผ่วเบา
"หน้าไปโดนอะไรมา? ใครทำ? หรือว่าเจ๊ลีบังคับมาหรอ"
"มะ ไม่ใช่ ข้าวมาเอง"
"ทำไมถึงมาทำงานแบบนี้"
"คือ...คือข้าวแค่ต้องการเงิน แต่ถ้าพี่ไม่โอเคก็ไม่เป็นไรข้าว...ข้าวจะให้เจ๊ลีหาคนมาให้ใหม่นะ" รามิลรั้งแขนอีกคนเอาไว้แล้วดึงให้หันกลับมามิงเขา
"ไม่ต้องหามาใหม่"
"......."
"ต้องการเงินขนาดนั้นเลยหรอ จะเอาไปทำอะไร"
"ข้าวมีเรื่องสำคัญต้องใช้เงินด่วน"
"สำคัญมากหรอ?"
"อืม"
รามิลนั่งลงปลายเตียงแล้วดึงอีกคนให้นั่งตามลงมา จับใบหน้าน่ารักสำรวจดูรอยแผลมุมปากอีกครั้ง แอบหงุดหงิดนิดหน่อยตอนเห็นข้าวหอมอยู่ที่นี่ เขาเองซื้อกินแบบนี้บ่อย แต่ก็ห่างหายไปสักพักแล้ว เกิดคืนนี้ลูกค้าของข้าวหอมไม่ใช่เขา มันจะเป็นยังไง
"พี่อยากได้ผู้หญิงคนใหม่ไหม?"
"ก็บอกว่าไม่ต้องไงครับ แน่ใจใช่ไหมว่าอยากทำ"
"มันเป็นวิธีเดียว ที่ข้าวจะหาเงินได้ไวที่สุด"
"บอกมาจะเอาเท่าไหร่"
"......."
"แลกกับคืนนี้ของเรา อยากได้เท่าไหร่ก็บอก"
"พี่หมายความว่า....อื้อ!" พูดไม่ทันจบริมฝีปากก็โดนเขาประกบจูบซะก่อน คนตัวเล็กที่หลับตาแน่นท้้งริมฝีปากที่อยู่นิ่งไม่ขยับจูบคอบทำให้รามิลอดอมยิ้มไม่ได้ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกรึเปล่านะ
ผละออกมามองสบตาก่อนประกบจูบอีกรอบ กัดริมฝีปากแผ่วเบาให้อีกคนเปิดปากให้เขาส่งลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัดได้สำเร็จ มือบางกำเสื้อเขาเอาไว้แน่น ท่าทีแสนไร้เดียงสาเรื่องบนเตียงนี่มันอะไร ยิ่งเห็นยิ่งคลั่งจนจะบ้า
ดันให้อีกคนนอนลงแล้วหอมแก้มนิ่มไล้ลงไปที่ซอกคอขาว กลิ่นหอมของสบู่อ่อนๆทำให้ยิ่งอยากสูดดมให้นานขึ้นอีก คนใต้ร่างดันเขาออกมาจนเขาร้องหยุดชะงัก
"กลัวหรอ?"
"พี่...อย่าบอกเรื่องนี้กับใครได้รึเปล่า"
"ครับ พี่รับปาก" สูดดมซอกคอขาวอีกรอบ ซุกไซร้แล้วขบเม้มให้เกิดรอยสีแดงเพียงจางๆ ดึงแขนให้คนตัวเล็กลุกขึ้นนั่งแล้วถกชุดเดรสสีขาวถอดออกโยนลงไปจากเตียง
บาร์เซียสีขาวลูกไม้เข้าเซ็ตกับกางเกงชั้นในปรากฏให้เห็น ผิวกายขาวเนียนละเอียดเร้าให้ความต้องการเขามากขึ้นไปอีก แทรกตัวตรงหว่างขาดันให้คนตัวเล็กนอนลงไปอีกรอบ กดจูบจากปากไล้ซับมาตามคอสวย สายบาร์เซียถูกดึงลงทีละข้าง
ดึงลงให้เห็นอกอิ่ม ซุกไซร้ซอกคอทั้งมือข้างหนึ่งขยำหน้าอกที่ขนาดไม่ใหญ่มากอย่างมันส์มือ ขยับใช้ปากดูดดึงอกอมชมพูสลับกับเลียเร้าอารมณ์อีกคน แขนเรียวยกขึ้นปิดหน้าตัวเองจนเขาต้องดึงออก
"มองพี่ครับ"
ก้มลงดูดดึงอกสวยอีกครั้งหลังออกคำสั่งให้อีกคนมองเขา เสียงอื้ออึงที่เล็ดรอดออกมาเรียกความพอใจ แล้วยิ่งเร้าให้เขาอยากเข้าไปใหญ่ ใช้จังหวะที่คนใต้ร่างกำลังเคลิ้มส่งมือไปในกางเกงชั้นในตัวสวย มือบางรั้งแขนเขาเอาไว้แต่เขาไม่สนใจ
ถูวนก่อกวนจุดอ่อนไหวอยู่สักพักให้เธอพอรู้สึกถึงความต้องการ ไล้รอยจูบมาจนถึงหน้าท้องอีกเพียงนิดจะถึงส่วนนั้นแต่อีกคนก็รั้งเขาไว้อีก
"มะ ไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้"
"ทำไมละครับ?"
"คือ...."
"ไม่ต้องอายหรอก มันเป็นเรื่องธรรมชาติ"
"แต่ว่า..."
"ถ้าคืนนี้พี่พอใจ พี่ยอมจ่ายให้เราไม่อั้นเลย" ข้าวหอมนิ่งไปสักพักอย่างใช้ความคิด ไม่มีวิธีไหนอีกแล้วที่จะหาเงินได้เร็วเท่านี้
"แต่พี่ไม่ต้องทำแบบนั้นให้ก็ได้ แค่ทำไปเลยก็พอ"
"ถ้าพี่ไม่ทำแบบนี้เราจะเจ็บนะ"
"......."
"ให้พี่ทำเถอะนะครับ รับรองว่าเราจะมีความสุขแน่"
รามิลเดินเอากระเป๋าเสือผ้าที่ขนไปเฝ้าคนตัวเล็กที่โรงพยาบาบเข้าไปไว้ในห้อง เขาเดินออกมาแล้วเห็นว่าเธอกำลังยืนมองออกไปนอกระเบียงด้วยรอยยิ้ม รามิลเดินไปโอบกอดอีกคนจากด้านหลัง เขาโน้มลงไปหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่จนเะอหัวเราะออกมา "คิดถึงห้องของเราไหมครับ?" "ห้องของพี่ต่างหาก" ข้าวหอมพูดเถียงขึ้น สุดท้ายก็เลยโดนรามิลจับให้หมุนไปหาแล้วดันตัวเธอชิดเอาไว้กับบานกระจก นิ้วยาวจิ้มที่ริมฝีปากเธออย่างไม่ชอบใจกับสิงที่เธอพูดเท่าไหร่นัก แต่เธอกลับเอาแต่ยิ้มทั้งที่รู้ว่าเขาไม่พอใจอยู่ "ไม่ต้องมายิ้มเลย" รามิลขมวดคิ้วใส่แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจอาการของเขาแม้สักนิดแถมยังจะเอาแต่ยิ้มไม่ยอมหยุดอีก แขนเรียวยกขึ้นคล้องคอเขาเอาไว้แล้วเขย่งเท้าขึ้นไปกดจูบคนที่เอาแต่ทำหน้าไม่พอใจอยู่ รามิลยังคงตีหน้านิ่งอยู่อย่างนั้นจนเธอต้องลองทำอย่างเดิมอีกรอบ แต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลอีกตามเคย ข้าวหอมยืนคิดพักใหญ่ก็พอจะคิดอะไรออก มือเล็กจับไล้ตั้งแต่กลางอกเขาจนมาถึงหน้าท้อง ลูบลงไปจนถึงเป้ากางเกงก่อนจะถูกรามิลรวบมือเอาไว้ "พึ่งนะหายดีก็หาเรื่องใส่ตัวเลยหรอ?" "หรือว่าพี่ไม่ชอบละ" สายตาเย้ายวนแบบนั้นนั่นมันอะไร จะเล่นกับใจขอ
รามิลอุ้มร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดเข้ามาด้านใน เขาพอจะมีสติขึ้นแล้วถึงได้อุ้มเธอไหว เตียงคนไข้เข็นเข้ามารับร่างไร้เรี่ยวแรงจากมือเขา รามิลวิ่งตามเตียงที่เข็นไปด้วยความเร็ว ก่อนจะต้องหยุดในตอนที่พยาบาลดันเขาออกมาแล้วประตูห้องฉุกเฉิดก็ปิดลงเขาทิ้งตัวลงเต็มแรงราวกับคนที่ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี ใจของเขาหลุดลอยออกไปตั้งแต่ได้เห็นเลือดสีแดงสดเต็มตัวข้าวหอมแล้ว เขานั่งนิ่งสมองไม่อาจประมวลผลก่อนเพื่อนจะเดินเข้ามาหา พร้อมแม่เขาที่นั่งลงข้างกายแล้วลูบแผ่นหลัง"แม่ขอโทษนะลูก แม่ไม่คิดว่าหนูมิ้นท์จะทำถึงขนาดนี้""น้องจะตายไหมครับแม่ ข้างหอมจะตายไหมครับ""แม่ไม่ยอมให้ลูกสะใภ้แม่ตายหรอก""แม่...."รามิลมองหน้าแม่ของเขาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ความดีของข้างหอมกับแสดงออกให้เธอได้รับรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้รักลูกชายเธอมากแค่ไหน และนั่นก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องขัดขวางความรักของทั้งสองคนอีกบายประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกมา เป็นพยาบาลที่วิ่งมาหาด้วยสีหน้าตกใจจนรามิลใจล่วงหล่นไปอยู่ตาตุ่ม"เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?""กระสุนถูกจุดสำคัญ แล้วคนไข้ก็เสียเลือดมาก เราจำเป็นต้องผ่าตัดโดยด่วนค่ะ""รักษาได้เลยค่ะ ช่
รามิลลืมตาขึ้นมาด้วยความมึนงง อาการปวดหนึบที่หัวทำให้เขาต้องสะบัดไปมาเพื่อคลายมันลง กว่าจะปรับการมองเห็นได้ก็ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ ภาพแรกทำให้ทำเขาเบิกตากว้าง คนตัวเล็กถูกมัดเอาไว้ติดกับเก้าอี้ตรงหน้าเขาทั้งมีผ้ามัดที่ปากเอาไว้ด้วย รามิลพยายามขยับสุดแรงแต่แขนที่ถูกมัดไขว้หลังไว้ทำให้เขาทำตามใจได้ลำบากเขาได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความโมโหถึงขีดสุด มุมปากสวยมีรอยแผลอยู่ด้วย สถานการณ์ที่เขาสองคนกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ ไม่ต้องบอกจะะรามิลก็รู้ดีว่าใครเป็นคนทำ"ข้าวหอม ไหวไหมครับ?" คนตัวเล็กพยักหน้าตอบรับเขาเพราะไม่สามารถพูดออกมาได้ ก่อนบานประตูจะเปิดขึ้นแล้วคนที่เขาคิดไว้ว่าเป็นคนทำจะเดินเข้ามา"มิ้นท์จับเรากับน้องมาทำไม?""เราแค่มีเรื่องคุยกับมิลหน่อย ส่วนนังเด็กนี่....""อย่าทำอะไรข้าวหอมนะ!" คนตรงหน้าเดินแสยะยิ้มมาหาเขาแล้วมองนิ่ง แววตาแสนอาฆาตแค้นนั้นเขาแทบไม่เคยเห็นมันมาก่อน เขาคิดผิดไปสินะที่เข้าไปพัวพันกับผู้หญิงคนนี้ ถึงมาคิดได้ในเวลานี้มันก็สายเกินไปแล้ว"ห่วงมันเหลือเกินนะ ความจริงมันควรจะตายไปตั้งแต่รอบที่แล้วด้วยซ้ำ""เราไม่เคยคิดเลยนะ ว่ามิ้นท์จะเป็นคนแบบนี้""ก็มิลนั่นแหละที่ทำให้เราเ
"สุดท้ายก็แพ้ลูกอ้อนไม่ไหว""มึงก็ลองมีเมียมาอ้อนดูบ้างสิว่ะ" รามิลสวนกลับทิวเขาทันควัน ปกติข้าวหอมไม่ใช่คนขี้อ้อนอะไร แต่พออ้อนขึ้นมาทีใจเขาก็อ่อนยวบไปหมด สุดท้ายก็ต้องแพ้ทางทุกที"กูก็มีแล้วไงเมีย""ปากดีเข้าไปเถอะ คนไหนละเมียมึงอ่ะ" เขาพูดเย้าเพื่อนไปแต่เหมือนว่าอีกคนจะหัวเสีบ ก็กำลังพูดความจริงอยู่นี่ นิรินที่เป็นว่าที่คู่หมั้น หรือว่าปลายฟ้าที่มันได้ไปแล้วทั้งตัวทั้งใจละที่เป็นเมีย"อาหารมาแล้ว" คนตัวเล็กจาเป็นประกายทันทีที่อาหารมาเสิร์ฟ ดูแล้วคงจะหิวมากเพราะนั่งทำงานกับเพื่อนมาหลายชั่วโมง"เป็นครั้งแรกเลยนะที่มาร้านเหล้าแล้วสั่งอาหารเยอะขนาดนี้อ่ะ" ข้าวหอมหันไปมองริวแล้วเกาต้นคอแก้เขิน ก็คนมันหิวจะให้ทำยังไงละ ที่อยากมาที่นี่ก็แค่อยากจะดูหน่อยว่าบรรยากาศร้านเปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่าก็เท่านั้น"ทานกันได้เลยนะสาวๆ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง""ก็นึกว่ามีเงินพอเลี้ยงข้าวคนเดียว เลี้ยงเพื่อนข้าวไหวด้วยหรือไง""สบายมาก""เลี้ยงเพื่อนข้าวได้ แต่ห้ามเลี้ยงสาวคนอื่นเชียว""ดูสภาพเพื่อนพี่ มันจะไปเลี้ยงสาวที่ไหนได้" คิมหันต์ขำแล้วส่ายหัว ข้างหอมน่าจะเป็นคนแรกที่เอาเพื่อนเขาอยู่ขนาดนี้ รามิลแทบไม่มอง
"มึงคิดว่าจะเป็นยังไงต่อ?" รามิลมองไปที่ทิวเขาแล้วหยุดนิ่ง คำถาของเพื่อนทำให้นึกคิดอยู๋แต่ก็พอจะเดาได้ไม่อยาก แม่ของคนที่เขาพึ่งแจ้งตำรวจจับคงไม่ยอมปล่อยไปแบบนี้แน่ แต่ในเมื่อเขาเลือกที่จะทำแล้วก็แค่ต้องรอรับมือกับมันให้ได้ "จะเป็นยังไงก็ให้เป็นไป กูแค่อยากจะปกป้องคนของกู""พี่รามิล" พูดไม่ทันจบเสียงหวานจากคนของเขาก็ดังขึ้นพอดี ข้าวหอมโบกมืออยู่ไม่ไกลแล้วเดินเข้ามาพร้อมกลุ่มเพื่อนของเธอ วันนี้เขาไม่มีเรียนแต่ก็มานั่งรอรับน้องตั้งแต่เช้า ไม่อยากให้ละสายตาไปไหนอีกแล้ว"เลิกแล้วหรอครับ เรียนเป็นไงบ้าง?""เหนื่อยมาก มีงานต้องทำด้วย" รามิลลูบหัวคนที่ปากยู่ลงยามเราให้เขาฟัง ดูจากสีหน้าแล้วเธฮคงเหนื่อยกับการเรียนมากอย่างที่บอก"พี่รามิลนี่ดีจัง มารอรับข้าวหอมทุกวันเลย" ยี่หวาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซว ไม่ว่าจะมีเรียนหรอไม่มี ยุ่งมากแค่ไหนทุกครั้งที่เรียนเสร็จแล้วเดินลงมาก็จะเห็นรามิลมารอเพื่อนเธอแบบนี้ตลอด น่าจะเริ่มตั้งแต่ที่ข้าวหอมโดนแทงจนเข้าโรงพยาบาลวันนั้นละมั้ง"เมียทั้งคนก็ต้องมารอสิครับ""พี่รามิลพูดอะไรเนี่ย!?" อดไม่ได้ที่จะะบีบแก้มเนียนด้วยความหมั่นเขี้ยว ยิ่งในยามที่มันกำลังแดงระเรื่อด
เสียงเรียกจากพนักงานส่งอาหารดังขึ้นจังหวะเดียวกันกับที่รามิลออกมาจากห้องน้ำพอดี พอรับของมาจ่ายเงินเสร็จแล้วก็เตรียมมันใส่จานเอาไว้ เหลือมองนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงแล้ว เดินกลับไปในห้องก็ยังเห็นคนตัวเล็กนอนคุดคู้อยู่บนเตียง รามิลนั่งลงแล้วหอมแก้มเธอแทนการเอ่ยปลุกแต่เหมือนว่าจะไม่ได้ผล เลยเปลี่ยนมานั่งลูบหัวเธอแทนอย่างเอ็นดูเวลาอาทิตย์กว่าที่เขายุ่งกับการจัดการเรื่องที่คนตัวเล็กเจอมา ขุนเขายอมเปิดปากทั้งหมดว่ามิ้นท์เป็นคนสั่ง จริงๆก็ไม่ใช่ว่ายแมหรอกแต่เป็นเขาที่ไปขู่ต่างหาก ตอนนี้น้องชายของคนตัวเล็กถูกคุมตัวเอาไว้ เหลือก็แค่เพื่อนสาวคู่ขาเก่าเขาที่เขาอยากจะเป็นคนจัดการด้วยตัวเอง รามิลก็แค่อยากลองให้โอกาสอีกคนเป็นครั้งสุดท้าย ถือว่าชดใช้ที่เป็นต้นเหตุของความแค้นในครั้งนี้เอนตัวลงนอนแล้งดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด หอมแก้มเธออยู่หลายครั้งเป็นการก่อกวนให้คนขี้เซาลืมตาตื่น ครั้งนี้ได้ผลข้าวหอมลืมตาตื่นขึ้นมาทั้งมุ่ยหน้าใส่คงจะหงุดหงิดที่เขาไปกวนเวลาฝันหวาน"ทำไมงอแงครับ?""ข้าวเปล่างอแงก็แค่ยังนอนสบายอยู่เลย""ขี้เซาจัง จะเที่ยงแล้วครับ ลุกมาทานข้าวได้แล่ว" คนตัวเล็กผุดตัวลุกขึ้นนั่งทั้งยังทำห







