LOGIN"พี่ข้าวเอาเงินมาด้วยดิ"
"เงินอะไรอีก วันก่อนก็พึ่งให้ไป" ข้าวหอมพูดใส่ขุนเขาน้องชายต่างพ่อที่วันนี้ต้องวานให้มาส่งเพราะเธอออกมาไม่ทันรถรอบที่ควรจะขึ้น
ปกติขุนเขาขอเงินเธอแบบนี้เป็นประจำ ไม่สิ ออกแนวไปทางรีดไถแล้วมากกว่า อีกคนถูกเลี้ยงดูมาไม่เคยให้ลำบาก มีเพียงเธอที่ต้องทำงานหนักทั้งส่งน้องเรียน ทั้งค่าใช้จ่ายในบ้าน ไหนจะหาเงินรักษาแม่ที่ป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล
หลายครั้งที่มีปากเสียงกันกับพ่อเลี้ยงจนเธอถูกทำร้ายร่างกาย มีแค่เพียงนิรินที่พอจะยื่นมือเข้ามาช่วยได้ แต่เธอก็ไม่อยากรบกวน
ถึงจะโมโหแค่ไหนที่ขุนเขามาขอเงินราวกลับว่าเธอผลิตมันได้เอง แต่สุดท้ายก็ต้องให้ไป เพราะถ้าอีกคนเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อเลี้ยงเธอเมื่อไหร่ กลับบ้านไปก็คงไม่วายโดนตบตีอีก
"เอามาเถอะน่า อย่าถามมากได้ป่ะ"
"แต่พี่ไม่มีเงินแล้ว พึ่งจ่ายค่ายาแม่ไป"
"บอกให้เอามาไงว่ะ"
"แกไถเงินไอข้าวมันอีกแล้วหรอ เป็นไรมากป่ะ" ยี่หวาเดินไปถึงตัวเพื่อนตัวเล็กก่อนแล้วหันไปตวาดใส่ไอน้องชายต่างพ่อของข้าวหอมที่เจอกี่ครั้งก็ไม่เคยถูกชะตา
"ขอเงินพี่สาวตัวเอง จะเรียกไถเงินได้ยังไง"
"แบบแกอ่ะเรียกไถ ไอข้าวมันทำงานหนักทุกวัน หัดเห็นใจมันบ้างสิ" นิรินเข้ามาเสริมด้วยอีกคน หันมองข้าวหอมที่นิ่งไปแล้วทำท่าจะหยิบเงินในกระเป๋าให้ตามเคย แบงค์พันถูกนิรินยื่นให้ขุนเขาไปแทน
"อยากได้ก็เอาไป จะได้ไปให้พ้นหน้าสักที"
"ขอบคุณนะครับพี่นิรินคนสวย" ทำท่ายียวนก่อนจะขับมอเตอร์ไซค์คันใหม่ที่ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของข้าวหอมออกไป ปลายฟ้าเดินมาลูบแผ่นหลังเพื่อนก่อนอีกคนจะหันมากอดเธอ
"เถียงมันให้ได้เหมือนเถียงชั้นหน่อยสิ" นิรินหันไปพูดกับเพื่อนอย่างหัวเสีย
"ขืนขุนไปฟ้องพ่อเลี้ยงข้าวอีก เป็นเรื่องแน่" ปลายฟ้าลูบแผ่นหลังปลอบเพื่อนให้รู้สึกดีขึ้น
"มายืนทำอะไรกันตรงนี้เนี่ย" เสียงคิมหันต์ทักทายมาแต่ไกลก่อนจะเดินเข้ามาหา พร้อมรามิลที่เดินตามมาด้วย ข้าวหอมผละออกจากเพื่อนแล้วข่มน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาก ไม่ชอบเบยสักนิด เวลาให้ใครมาเห็นว่าตัวเองกำลังอ่อนแออยู่
"ข้าวหอมเป็นอะไรรึเปล่า?" รามิลถามขึ้นมาก่อนหลังจากรอบสังเกตอาการของคนตัวเล็ก
"เปล่า" พูดตอบแค่นั้นก็หันหลังเดินหนีไปจนเขาต้องมองตามไม่ละสายตา สามสาวก้มหัวขอตัวรุ่นพี่ก่อนรามิลจะรั้งนิรินไว้ก่อน
"ผู้ชายคนเมื่อกี้ใครหรอครับ?"
"หมายถึงคนที่มาส่งข้าวหอมหรอคะ?"
"อืม หรือว่าแฟนข้าวหอม"
"ไม่ใช่หรอกค่ะ น้องชายมันอ่ะ ข้าวหอมมันยังไม่มีแฟนหรอก" นิรินบอกไปทั้งอมยิ้มกับท่าทีของรุ่นพี่ตัวสูงไปด้วยอีกคนพยักหน้าตอบรับเธอว่าเข้าใจแล้วปล่อยให้ดธอได้เดินตามกลุ่มเพื่อนไป
"กลัวเขามีแฟนจะแย่"
"หุบปากไปเหอะ"
.
.
.
ปลายฟ้านั่งลงสะกิดเรียกเพื่อนที่ฟุบหลับอยู่ ข้าวหอมตื่นขึ้นมาก่อนจะขยี้ตาตัวเอง ก้มมองดูสมุดเลคเชอร์ที่มีตัวหนังสืออยู่ไม่ถึงครึ่งหน้าแล้วถอนหายใจ สงสัยต้องไปนั่งลอกจากเพื่อนอีกแล้ว
"ดูเพลียนะ?" ปลายฟ้าถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง ดูแล้วคงจะนอนน้อยติดกันมาแล้ววันแล้วแน่ๆ
"นิดหน่อยอ่ะ ข่วงนี้เลิกดึกมากทุกวัน"
"รับจ็อบอื่นต่อหรอ?" ยี่หวาเดินมานั่งตรงข้าม ปกติงานของข้าวหอมเลิกดึกมากก็จริง แต่ไม่น่าถึงขั้นไม่มีเวลานอนแบบนี้
"แกมีอะไรที่ไม่บอกรึเปล่า จะให้ช่วยอะไรก็บอกได้นะ" ข้าวหอมกลืนน้ำลายลงคอแล้วทำบ่ายเบี่ยง เธอรบกวนนิรินมามากเกินกว่าจะแบกหน้าไปรบกวนเพื่อนอีก เวลานี้คงต้องสู้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนที่ทำให้ได้เงิน ...ก็คงต้องทำ
"ไม่มีอะไรหรอก แค่นอนดึกติดกันหลายวัน"
"วันนี้ไปหาอะไรกินกันไหม?"
"คงไม่ได้อ่ะยี่ ชั้นต้องไปหาแม่"
"อ้าว หรอ"
"ไว้วันอื่นนะ"
คนตัวเล็กโบกมือลาเพื่อนก่อนจะวิ่งขึ้นรถเมล์ตามเคย ทิ้งตัวลงนั่งเอาหัวพิงกระจกรับลมให้สบายใจ ไม่นานมากนักก็ถึงโรงพยาบาลที่แม่รักษาตัวอยู่ แวะซื้อข้าวกล่องร้านป้าหน้าโรงพยาบาลแล้วรีบวิ่งเข้าไปเพราะใกล้เลยเวลาแม่ต้องกินยารอบเย็นเข้าไปเต็มที
ห้องผู้ป่วยแบบรวมมีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา ข้าวหอมเดินไปนั่งข้างเตียงของคนที่ยังหลับสนิท ออกแรงสะกิดเรียกผู้เป็นแม่ให้ตื่นขึ้นมา ส่งยิ้มสดใสไปให้เหมือนอย่างที่ชอบทำ ก่อนจะกดปรับเตียงให้คนป่วยนั่งได้ถนัด
"ข้าวซื้อข้าวผัดมาให้แม่ กินหน่อยนะ จะได้กินยา" แกะกล่องข้าวเตรียมช้อนอย่างดีแต่ไม่ทันจะได้ตักป้อนพยาบาลก็มาเรียกเธอซะก่อน กล่องข้าวในมือถูกยื่นให้คนป่วยถือเองแล้วกำชับให้กินให้หมด
"คนไข้ต้องผ่าตัดนะครับ ไม่อย่างนั้นอาจจะแย่กว่านี้"
"ผ่าตัดเลยหรอคะ"
"ครับ หมอแนะนำว่าให้ผ่าตัดซะ" ยกมือไหว้ขอบคุณหมอที่รักษาแม่เธอมาแต่ต้น ทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้หน้าห้องแล้วใช้กำปั้นทุบหัวตัวเองสองสามที หลับตาลงกักเก็บความรู้สึกอัดแน่นในใจ เงินค่าผ่าตัดมากมายขนาดนั้น จะไปหามาจากไหน
อยู่เฝ้าจนคนป่วยหลับสนิทก็กลับบ้านทันที เพราะวันนี้เป็นวันหยุดเลยไม่ต้องรีบไปทำงาน กลิ่นแอลกอฮอล์ตีจมูกทันทีเมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไป ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพ่อเลี้ยงของเธอคงจะเอาแต่ดื่มเหมือนเดิม
"กลับมาแล้วหรอ เอาเงินมาดิ๊ จะซื้อเหล้าเพิ่ม"
"ข้าวไม่มี"
"ทำงานทุกวัน จะไม่มีได้ไงว่ะ"
"ข้าวทำงานหาเงินมารักษาแม่ ไม่ได้เอาไว้ให้พ่อกินเหล้า!" เพี๊ยะ!! เสียงฝ่ามือกระทบแก้มนิ่มเต็มแรงจนคนตัวเล็กล้มลงที่พื้น
"เดี๋ยวนี้มึงกล้าเถียงหรอ!"
"พ่อพอแล้ว เกิดพี่ข้าวเป็นอะไรใครจะทำงานละ" เสียงปรามของน้องชายต่างพ่อดังขึ้นมา ดูเหมือนจะเป็นการข่วยเหลือแต่ประโยคที่พูดออกมามีแต่ความเห็นแก่ตัว ข้าวหอมรีบลุกเข้าห้องนอนแล้วล็อกประตูทันที สมุดบัญชีถูกหยิบขึ้นมาเปิดเช็คดู เงินเก็บที่มีไม่ถึงห้าหลักแบบนี้ต้องหาอีกเท่าไหร่ถึงจะหาเงินมารักษาแม่ได้
เปิดลิ้นชักหัวเตียงหยิบนามบัตรของใครบางคนที่เธอให้เธอไว้ขึ้นมา ทั้งที่บอกกับตัวเองว่าไม่ว่าจะหมดหนทางแค่ไหนก็จะไม่มีวันติดต่อไป แต่ในตอนนี้กลับกลืนน้ำลายตัวเอง หยิงโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ตามนามบัตรอย่างชั่งใจก่อนจะกดโทรออก
(สวัสดีค่า เจ๊ลีค่ะ)
"เจ๊คะ นี่...ข้าวหอมนะคะ"
(ตายแล้ววว เจ๊นึกว่าหนูจะไม่โทรมาแล้ว
ตัดสินใจได้แล้วใช่ไหมคะ)
"ค่ะ ถ้าหนูอยากทำวันนี้เลย จะได้ไหมคะ"
(ดีสิจ๊ะ วันนี้มีลูกค้าเกรด VIP พอดี
เดี๋ยวเจ๊จัดให้แจ่มๆเลย)
"ค่ะ"
(ยังไงรีบมานะ อีกหนึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัดลูกค้า)
"ได้ค่ะ"
คนตัวเล็กอยู่ในชุดเดรสสีขาวที่สวยที่สุดเท่าที่เธอมี นั่งอยู่บนเตียงในโรงแรมหรูที่เจ๊ลีเจ้าของที่นี่จัดไว้ให้ เสียงประตูเปิดเข้ามาทำให้ใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นล่ำสัน เพราะหันหลังเลยยังไม่ทันได้เห็นหน้าคนที่เข้ามาใหม่ มือบางสองข้างกุมกันไว้แน่นอย่างประหม่า
"คะ คุณอาบน้ำก่อนได้เลยนะคะ หนูเตรียมน้ำไว้ให้แล้วค่ะ" อาการอึกอักจากความกลัวส่งให้คนที่พึ่งเข้ามารู้สึกได้จนขมวดคิ้ว
"พึ่งมาใหม่หรอ"
"ค่ะ"
"หันหน้ามา" หลับตาลงแล้วหันไปหาเขาตามคำสั่ง ก่อนจะต้องตกใจจนเซถอยหลัง
"ข้าวหอม...."
"พี่รามิล" ทำไมถึงต้องเป็นเขาด้วย แบบนี้เขาก็รู้สิว่าเธอยอมมาทำงานไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้ รามิลเดินเข้าหาแล้วส่งมือหนาแตะลงที่แก้มก่อนจะสัมผัสแผลที่มุมปากเธอแผ่วเบา
"หน้าไปโดนอะไรมา? ใครทำ? หรือว่าเจ๊ลีบังคับมาหรอ"
"มะ ไม่ใช่ ข้าวมาเอง"
"ทำไมถึงมาทำงานแบบนี้"
"คือ...คือข้าวแค่ต้องการเงิน แต่ถ้าพี่ไม่โอเคก็ไม่เป็นไรข้าว...ข้าวจะให้เจ๊ลีหาคนมาให้ใหม่นะ" รามิลรั้งแขนอีกคนเอาไว้แล้วดึงให้หันกลับมามิงเขา
"ไม่ต้องหามาใหม่"
"......."
"ต้องการเงินขนาดนั้นเลยหรอ จะเอาไปทำอะไร"
"ข้าวมีเรื่องสำคัญต้องใช้เงินด่วน"
"สำคัญมากหรอ?"
"อืม"
รามิลนั่งลงปลายเตียงแล้วดึงอีกคนให้นั่งตามลงมา จับใบหน้าน่ารักสำรวจดูรอยแผลมุมปากอีกครั้ง แอบหงุดหงิดนิดหน่อยตอนเห็นข้าวหอมอยู่ที่นี่ เขาเองซื้อกินแบบนี้บ่อย แต่ก็ห่างหายไปสักพักแล้ว เกิดคืนนี้ลูกค้าของข้าวหอมไม่ใช่เขา มันจะเป็นยังไง
"พี่อยากได้ผู้หญิงคนใหม่ไหม?"
"ก็บอกว่าไม่ต้องไงครับ แน่ใจใช่ไหมว่าอยากทำ"
"มันเป็นวิธีเดียว ที่ข้าวจะหาเงินได้ไวที่สุด"
"บอกมาจะเอาเท่าไหร่"
"......."
"แลกกับคืนนี้ของเรา อยากได้เท่าไหร่ก็บอก"
"พี่หมายความว่า....อื้อ!" พูดไม่ทันจบริมฝีปากก็โดนเขาประกบจูบซะก่อน คนตัวเล็กที่หลับตาแน่นท้้งริมฝีปากที่อยู่นิ่งไม่ขยับจูบคอบทำให้รามิลอดอมยิ้มไม่ได้ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นครั้งแรกรึเปล่านะ
ผละออกมามองสบตาก่อนประกบจูบอีกรอบ กัดริมฝีปากแผ่วเบาให้อีกคนเปิดปากให้เขาส่งลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัดได้สำเร็จ มือบางกำเสื้อเขาเอาไว้แน่น ท่าทีแสนไร้เดียงสาเรื่องบนเตียงนี่มันอะไร ยิ่งเห็นยิ่งคลั่งจนจะบ้า
ดันให้อีกคนนอนลงแล้วหอมแก้มนิ่มไล้ลงไปที่ซอกคอขาว กลิ่นหอมของสบู่อ่อนๆทำให้ยิ่งอยากสูดดมให้นานขึ้นอีก คนใต้ร่างดันเขาออกมาจนเขาร้องหยุดชะงัก
"กลัวหรอ?"
"พี่...อย่าบอกเรื่องนี้กับใครได้รึเปล่า"
"ครับ พี่รับปาก" สูดดมซอกคอขาวอีกรอบ ซุกไซร้แล้วขบเม้มให้เกิดรอยสีแดงเพียงจางๆ ดึงแขนให้คนตัวเล็กลุกขึ้นนั่งแล้วถกชุดเดรสสีขาวถอดออกโยนลงไปจากเตียง
บาร์เซียสีขาวลูกไม้เข้าเซ็ตกับกางเกงชั้นในปรากฏให้เห็น ผิวกายขาวเนียนละเอียดเร้าให้ความต้องการเขามากขึ้นไปอีก แทรกตัวตรงหว่างขาดันให้คนตัวเล็กนอนลงไปอีกรอบ กดจูบจากปากไล้ซับมาตามคอสวย สายบาร์เซียถูกดึงลงทีละข้าง
ดึงลงให้เห็นอกอิ่ม ซุกไซร้ซอกคอทั้งมือข้างหนึ่งขยำหน้าอกที่ขนาดไม่ใหญ่มากอย่างมันส์มือ ขยับใช้ปากดูดดึงอกอมชมพูสลับกับเลียเร้าอารมณ์อีกคน แขนเรียวยกขึ้นปิดหน้าตัวเองจนเขาต้องดึงออก
"มองพี่ครับ"
ก้มลงดูดดึงอกสวยอีกครั้งหลังออกคำสั่งให้อีกคนมองเขา เสียงอื้ออึงที่เล็ดรอดออกมาเรียกความพอใจ แล้วยิ่งเร้าให้เขาอยากเข้าไปใหญ่ ใช้จังหวะที่คนใต้ร่างกำลังเคลิ้มส่งมือไปในกางเกงชั้นในตัวสวย มือบางรั้งแขนเขาเอาไว้แต่เขาไม่สนใจ
ถูวนก่อกวนจุดอ่อนไหวอยู่สักพักให้เธอพอรู้สึกถึงความต้องการ ไล้รอยจูบมาจนถึงหน้าท้องอีกเพียงนิดจะถึงส่วนนั้นแต่อีกคนก็รั้งเขาไว้อีก
"มะ ไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้"
"ทำไมละครับ?"
"คือ...."
"ไม่ต้องอายหรอก มันเป็นเรื่องธรรมชาติ"
"แต่ว่า..."
"ถ้าคืนนี้พี่พอใจ พี่ยอมจ่ายให้เราไม่อั้นเลย" ข้าวหอมนิ่งไปสักพักอย่างใช้ความคิด ไม่มีวิธีไหนอีกแล้วที่จะหาเงินได้เร็วเท่านี้
"แต่พี่ไม่ต้องทำแบบนั้นให้ก็ได้ แค่ทำไปเลยก็พอ"
"ถ้าพี่ไม่ทำแบบนี้เราจะเจ็บนะ"
"......."
"ให้พี่ทำเถอะนะครับ รับรองว่าเราจะมีความสุขแน่"
ข้าวหอมเหลือบมองคนตัวสูงที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียง ร่วมอาทิตย์แล้วตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น เธอตัดสินตอบรับคบกับรามิลและยอมกลับมาอยู่กับเขาที่คอนโดอย่างที่เขาต้องการ ก่อนหน้านี้เพราะเอาแต่กังวลเรื่องแม่อีกคนก็เลยคิดหนัก แต่ในเมื่อจะเล่นกันแรงแบบนี้ ก็เผชิญหน้ากันให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย รามิลสัญญาว่าจะปกป้องเธอ คำพูดเขามันทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวนิดหน่อย เพราะแบบนั้นเธอถึงกล้าตัดสินใจที่จะลองเริ่มต้นกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ดู ก็อยากจะรู้ว่าถ้าแม่ของรามิลที่หวงลูกชายมากจะรู้สึกยังไงยามได้รู้ว่าเธอกับรามิลกำลังคบหากัน นั่งลงข้างเตียงแล้วส่งมือไปลูบตามกรอบหน้าของรามิล ใบหน้าราวกับฟ้าประทานแบบนี้มันก็ไม่แปลกที่ใครจะหลงรัก เธอเองก็เป็นอีกคนที่เผลอใจไปให้เขาเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่แค่เพราะเขาหน้าตาดีเพียงเท่านั้น ถ้าตัดเรื่องที่เขาถ่ายรูปพวกนั้นเอาไว้จนทำให้เธอเจอเรื่องแย่ในชีวิต เขาก็เป็นอีกคนที่ดูแลเธอดีมากที่สุด มือบางถูกรามิลจับไว้แล้วดึงไปหอมลงที่หลังมือ คนนอนอยู่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วขยับตัวเข้าใกล้เพื่อหอมแก้มเธอ เขายิ้มสดใสออกมาจนข้าวหอมเองก็ยังได้แต่นึกสงสัยว่าทำไมถึงได้ดูมีคยามสุขมากขนา
รามิลน่ังกอดอกทิ้งตัวฟังแม่เขาบ่นด้วยความเบื่อหน่าย เขาถูกตามตัวกลับมาที่่บ้านทันทีที่แม่กลับมาหลังจากไปดูงานที่ต่างประเทศมาร่วมสองอาทิตย์ เขาเองรู้ดีแต่แรกว่าแม่ต้องการคุยเรื่องอะไรถึงอีกคนจะไม่บอกเขาในตอนที่เรียกตัวให้กลับมา แม่คงจะรู้เรื่องที่เขาไปป่าวประกาศว่าคนตัวเล็กเป็นอะไรกับเขาแล้ว ถึงได้บ่นเป็นฟืนเป็นไฟไม่รู้จบอยู่แบบนี้เรื่องราวที่แม่พูดมันถูกแต่งเติมซะจนเขาเองได้แต่กรอกตามองบน แค่ฟังก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนเอาเรื่องนี้ไปบอกแม่เขา ทั้งที่ปกติแม่เขาเป็นคนฉลาดมากจนเขาเองก็ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าอะไรทำให้แม่เขาเชื่อในมารยาของเพื่อนสาวคู่ขาเก่าเขาขนาดนั้น หรือแค่ทำเป็นเชื่อเพราะไม่ชอบคนตัวเล็กของเขากันแน่คนตัวสูงลุกขึ้นด้วยอารมณ์รุกกรุ่นที่ได้ยินผู้เป็นแม่พูดถึงข้าวหอมในทางไม่ดีมาพักใหญ่ บอกปัดผู้เป็นแม่ไปว่าเหนื่อยแล้วรับเดินออกมาจากห้องก่อนที่จะอดไม่ไหว ประตูห้องนอนที่เขาแทบไม่ได้กลับมาเหยียบถูกปิดลงดังลั่น เดินไปนั่งลงบนเตียงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่เขาคิดไม่ตกมาตลอดว่าควรทำยังไงแม่เขาถึงจะเลิกทิฐิแล้วชอบเธอขึ้นมาบ้าง ดูเหมือนว่ามันการันตีได้ดีว่าเขารู้สึกกับเธอแบบไหน ก่อนหน้านี้เ
คนตัวเล็กพรูลมหายใจออกมาคลายความกังวลในใจ เธอตัดสินใจมาเรียนตามปกติหลังจากรู้จากเพื่อนว่ารามิลไปเคลียจนไม่มีการยึดทุนคืน เมื่อวานเธอเข้าไปเยี่ยมแม่แล้วได้รับกำลังใจมาเยอะแยะ แม่ของเธอเอาแต่ย้ำใซ้ำไปซ้ำมาว่ารามิลดีกับเธอมาก และเชื่อว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นกับเธอแน่ ได้แต่ยิ้มรับตอบแม่ไปทั้งที่ในใจยังไม่ได้สบายใจมากนัก เดินผ่านผู้คนที่พากันพูดถึงเรื่องราวของเธอแบบไม่ได้เรียกว่าเป็นกันนินทาแต่เหมือนตั้งใจให้ได้ยินมากกว่า กว่าจะเดินมาถึงใต้คณะก็รู้สึกอัดอัดแทบแย่ พยักหน้ากับตัวเองว่าเก่งมากแล้วที่เดินมาถึงตรงได้ ก้าวเดินต่อได้เพียงไม่กี่ก้าวก็มีใครบางคนมายืนขวางเธอเอาไว้คนตัวเล็กเงยมามองแล้วทำหน้าเซ็งเพราะคนที่มาดักเธอว่าคือรุ่นพี่สาวสวยคู่ขาเก่าของรามิล อีกคนยิ้มเยาะเธออย่างสะใจที่เห็นเธออยู่ในสภาพนี้ บางทีก็อยากพุ่งเขาไปหยุมหัวให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย น่ารำคาญเป็นบ้า"ยังกล้ามาเรียนอีกหรอ" คนตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้ขึ้นแล้วตั้งคำถามที่ชวนหงุดหงิดขึ้นมา "แล้วทำไมต้องไม่กล้าด้วยละ" คนตัวเล็กพูดสวนกลับไปแล้วกอดอกมองอย่างไม่สบอารมณ์ แค่ใช้ชีวิตในแต่ละวันก็เหนื่อยมากพอแล้ว ยังต้องมาเจอคนแบบนี้
รามิลตักข้าวในชามที่พยาบาลพึ่งเอาเข้ามาให้ป้อนคนบนเตียงผู้ป่วย คนตัวเล็กเบี่ยงหน้าหนีแล้วไม่ยอมอ้าปากรับที่เขาพยายามป้อน ลองทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาสักพักก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีประโยชน์เลยสักนิด อีกคนยังเอาแต่หลบกัน ไม่กิน ไม่พูดคุย เขาเองรู้ดีว่าสิ่งที่ข้าวหอมเจอมันไม่ใช่เรื่องเล็ก และต้นสายปลายเหตุมันก็มาจากที่เขาถ่ายรูปภาพพวกนั้นเอาไว้ "กินหน่อยสิครับ จะได้กินยา เดี๋ยวหายแล้วจะได้ไปเรียนไง" คนตัวเล็กหันมาแล้วกรอกตาใส่เขา เธอโดนมาขนาดนี้ ยังคิดว่าเธอยังจะสามารถพบเจอใครได้แบบปกติอีกหรอ เพราะเขาไม่ใช่คนถูกกระทำสินะถึงได้พูดอะไรแบบนั้นออกมาได้"คิดว่าข้าวจะยังมีหน้าไปเรียนได้อีกหรอ" น้ำเสียงติดกระแทกกระทั้นให้เขารู้อารมณ์ภายในใจที่กำลังครุกกรุ่นทำให้รามิลคว้าเอามือบางเข้ามากอบกุมไว้ ลูบไปมาอย่างขอความเห็นใจและสื่อให้เธอรู้ว่าเขาไม่เคยมีเจตนาจะให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ"พี่ขอโทษ ข้าวจะมองว่ามันเป็นความปิดพี่ก็ได้ แต่ว่า...." เอ่ยพูดคำขอโทษที่เขาไม่รู้ว่าพูดมันไปแล้วกี่สิบรอบตั้งแต่คนตัวเล็กฟื้นขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วที่เขาจะสามารทำได้ในตอนนี้"มันก็เป็นความผิด
"พี่ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม" รามิลยังคงเดินตามคนตัวเล็กแล้วเอ่ยปากขอพูดคุยแบบที่เขาพยายามทำมาทุกวัน ปฏิกิริยาเรียบนิ่งไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ยอมให้เขาคุยด้วยเป็นเครื่องการันตีว่าอีกคนโกรธเขามากแค่ไหนร่วมอาทิตย์ที่พยายามเข้าหาเพื่อขอโทษหรืออธิบาย แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ยอมให้เขาได้เข้าใกล้เลย ทุกครั้งที่ดักรอหน้าคณะอีกคนก็จะหนีไป ยามที่ไปดักรอหน้าหอของยี่่หวาเพื่อนของคนตัวเล็กก็เอาแต่ขวางเขาเอาไว้"คุยกันหน่อยได้ไหมครับ" คนตัวสูงเอ่ยปากถามอีกรอบแล้วจับมือคนตรงหน้ามากอบกุมไว้ ข้าวหอมดึงมือออกอย่างไม่อยากให้เขามาแตะต้องตัวเธอ "ข้าวไม่อยากคุย" พูดปฏิเสธแล้วเตรียมเดินหนีแต่รามิลก็ยังวิ่งมาดักข้างหน้าเอาไว้ คนตัวเล็กหลับตาลงแล้วก้มหน้าหนี ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยที่ต้องคอยเอาแต่เดินหนีเขาอยู่แบบนี้"ให้พี่อธิบายหน่อย พี่ไม่ได้ส่งต่อภาพพวกนั้นไปให้ใครนะ""แต่มันก็คือรูปที่พี่ถ่ายใช่ไหมละ!" เขาอธิบายออกมาง่ายดายขนาดนี้ได้ยังไง เรื่องนี้มันใหญ่มากสำหรับเธอแต่ดูเหมือนกับรามิลจะไม่ใช่แบบนั้น "พี่ก็แค่ถ่ายไว้...." "แบล็คเมล์" พูดขัดทันทีแบบไม่รอให้เขาได้พูดต่อ คนตรงหน้าดูไม่ได้สะทกสะท้านอะไรทั้งที่ในใ
รามิลนอนเล่นโทรศัพท์ทั้งมีคนตัวเล็กนอนอยู่ในอ้อมกอดด้วย อีกคนยังคงหลับสนิทหลังจากผ่านค่ำคืนแสนเร่าร้อนมาด้วยกันทั้งคืน ภาพของเธอกับเขาในยามร่วมรักทุกครั้งถูกเลื่อนดู ใครรู้คงคิดว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่เก็บรูปพวกนี้เอาไว้ แต่เขาเพียงแค่อยากเอาไว้เพื่อเป็นข้อต่อรองในวันที่ข้าวหอมเริ่มดื้อกับเขาแล้วก็แค่นั้นเอง กดเข้าหน้าบัญชีธนาคารแล้วจิ้มรายการโปรดที่เขาบันทึกเอาไวั จัดการโอนเงินเข้าบัญชีของเธอในจำนวนตามที่ตกลงกัน ก่อนจะโอนแยกอีกสลีปเป็นเงินส่วนตัวที่ตั้งใจอยากให้เธอเอาไว้ใช้จ่าย เกิดเป็นคนรวยนี่มันก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าไม่ใช่แบบนั้น ก็ไม่รู้จะเอาอีกคนเข้ามาครองได้ยังไงส่งนิ้วเรียวเกลี่ยปลายจมูกของคนนอนหลับ เขาเคยพาผู้หญิงมากินที่นี่แทบนับไม่ถ้วน เพื่อนสาวคนสนิทก็เคยมาตั้งหลายครั้ง แต่ทว่ายังไม่เคยชวนใครมาอยู่ด้วยแบบนี้เลยสักที ใบหน้าที่มองยามไหนก็รู้สึกว่าสวยขึ้นในทุกๆวัน กับความรู้สึกที่อยากกอดเธอทุกทีที่ได้อยู่ด้วยกันนี่มันคืออะไร บางครั้งก็แปลกใจในความรู้สึกตัวเองซะจนคิดไม่ตก ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าอาการแบบนี้มันเป็นเพราะอะไรเขาซื้อกินมากมายแต่ก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องที่ผู้หญิง







