“ลูกไก่วันนี้สอบเสร็จวันสุดท้ายแล้วไปฉลองกันเถอะ” ญาณินชวนเพื่อนร่วมชั้นเรียน วันนี้พวกเธอสอบวันสุดท้าย เทอมสุดท้ายแล้ว หมายความว่าต่อไปจะไม่ได้มาเจอกันแบบนี้อีก
ญาณินและกฤติกาไม่ได้สนิทกันมากนัก แต่สี่ปีที่ผ่านมาก็คุยกันดี ช่วยเหลือกันดีเวลามีงานกลุ่มหรือติวด้วยกัน อาจจะเพราะว่าญาณินมีกลุ่มเพื่อนสนิทเดิมที่แต่ละคนค่อนข้างมีฐานะทางบ้านดีมาก ส่วนกฤติกาเป็นเพียงเด็กต่างจังหวัดที่หัวดีจนสอบผ่านเข้ามาเรียนด้วยกันเท่านั้น
“เราคงไปไม่ได้ที่บ้านรอฉลองอยู่” กฤติกาปฏิเสธแม้ว่าจะอยากไปกับเพื่อนมากก็ตาม
“ไม่เป็นไร งั้นเอาไว้วันมาฟังผลสอบขึ้นทะเบียนบัณฑิตค่อยไปหาอะไรกินกันนะ” ญาณินเป็นคนพูดง่าย เธอเคารพในเรื่องส่วนตัวของทุกคน เมื่อเธอพูดแบบนั้นกฤติกาจึงมีสีหน้าดีขึ้นเธอพยักหน้า
“ฮื่อ ขอบใจนะนินฝากขอโทษเพื่อนคนอื่นด้วย เราไปล่ะ” กฤติกามองในห้องสอบ ยังมีเพื่อนหลายคนที่ทำข้อสอบไม่เสร็จเธอมองเวลากลัวว่ายิ่งเย็นจะยิ่งรถติดจึงขอตัวกลับก่อน
กฤติกาขึ้นรถประจำทางหน้ามหาวิทยาลัย เธอตรงไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งซื้อของสดไปทำอาหารเตรียมรอใครบางคนที่บอกว่าจะมาฉลองสอบเสร็จกับเธอ เธอเลือกซื้อผัก เนื้อสัตว์หลายอย่างจากนั้นเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง
เธอรีบลงมือเตรียมทำอาหารอย่างเร่งด่วนเพราะคนที่จะมาเคยบอกว่าชอบอาหารที่เธอทำเอง จากนั้นจึงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเวลาผ่านไปจนเย็นย่ำเธอเริ่มกระวนกระวายเมื่อคนที่รอยังไม่มา
หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มาจะโทรหาแต่เมื่อนึกถึงคำพูดของเขาที่เคยบอกไว้ได้เธอจึงวางมันลงที่เดิม
“เบอร์โทรพี่ถ้ามีเรื่องฉุกเฉินไก่โทรหาพี่ได้ยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่ขอให้ฉุกเฉินจริงๆ นะ”
สมิติอาจจะกำลังติดงาน อาจจะกำลังคุยกับลูกค้าอยู่ และการที่เขามาช้าไม่ใช่เรื่องฉุกเฉิน อีกทั้งเธอเองไม่มีสิทธิ์โทรตามเขา กฤติการู้สถานะตัวเองดี
เธอกัดริมฝีปากเมื่อคิดถึงสถานะที่ว่า เธอไม่ใช่ญาติ ไม่ใข่คนรัก ไม่ใช่ภรรยาแต่เธอเป็นแค่เด็กที่เขาเลี้ยงไว้ในฐานะเมียเก็บ แลกกับการที่เขาส่งเสียเธอเรียน ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเงินรายเดือนจำนวนที่มากพอดู อย่างน้อยก็มากกว่าเงินเดือนของเด็กจบใหม่หลายเท่า
เมื่อคิดถึงตรงนี้มันทำให้ความหิวและความดีใจที่จะได้พบเขาลดลงไปจนเกือบหมด สมิติย้ำเสมอว่าความสัมพันธ์ของเขาและเธอเป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยน ตราบใดที่ยังพอใจกับผลประโยชน์หรือสิ่งตอบแทนที่ได้ระหว่างกัน มันก็ยังดำเนินไปได้ต่อไปเรื่อยๆ
เธอเคยถามเขาว่าทำไมถึงให้เงินรายเดือนเธอในจำนวนที่มาก ทั้งที่เขาก็รับผิดชอบค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของเธออยู่แล้ว
“เอาไปเถอะพี่อยากให้ วันนี้พี่ยังเอ็นดูเราอยู่ไก่ควรจะกอบโกยจากพี่ให้ได้มากที่สุด เพราะสักวันเรื่องของเราก็ต้องจบลง” สมิติพูดเพราะเขาเดาได้ว่าเด็กสาวแบบกฤติกาหากไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินจำนวนมาก คงไม่ยอมมาอยู่เป็นเด็กเสี่ยให้เขาเลี้ยง
ชายหนุ่มเป็นนักธุรกิจอายุมากกว่าเธอหลายปี ในวันที่พบกันวันแรกจากการแนะนำของเพื่อนเธอที่เป็นเด็กของเพื่อนเขาอีกที วันนั้นกฤติกาอายุ 18 และเพิ่งเข้าเรียนปีหนึ่ง เขาไม่ปฏิเสธว่าเธอมีรูปร่างหน้าตาดีมาก แต่สิ่งที่เขาตัดสินใจรับเลี้ยงเธอจริงจังคือแววตาของเด็กสาวทั้งลังเลและไม่แน่ใจในสิ่งที่เธอกำลังทำนั่นต่างหาก
แต่สมิติก็ไม่ใช่พ่อพระที่จะเสียเงินทิ้งเปล่าๆ แล้วไม่แตะต้องเธอ เขาจะมาค้างกับกฤติกาเฉลี่ยสัปดาห์ละหนึ่งวันโดยที่เขามีเพียงเงื่อนไขเดียวคือเธอห้ามมีคนอื่น ห้ามมีคนรักและเธอต้องเป็นฝ่ายคุมกำเนิด ผ่านมาจากวันนั้นถึงวันนี้สี่ปีเต็ม จากเด็กสาวก้าวมาเป็นหญิงสาวเต็มตัว เธอก็ยังอยู่กับเขาที่คอนโดที่เขาซื้อให้อยู่
สี่ทุ่มคืนนั้นสมิติเปิดประตูห้องเข้ามา เขาเห็นอาหารบนโต๊ะเย็นชืดส่วนคนทำหลับอยู่บนโซฟา สเต็กสองจานยังอยู่ดีแปลว่ากฤติกายังไม่ได้ทานมื้อเย็น วันนี้ไม่ใช่วันประจำที่เขาจะมาค้างด้วย แต่ที่เขาบอกไว้ว่าจะมาเพราะอยากมาฉลองที่เธอสอบเสร็จ
ชายหนุ่มไม่ได้ปลุกเธอ แต่เขาถอดเสื้อนอกวางพาดบนพนักโซฟาอีกตัว พับแขนเสื้อเชิ้ตสีขาวจนถึงข้อศอกหยิบจานสเต็กอุ่นในไมโครเวฟทีละจาน เสียงกุกกักนั้นทำให้คนที่หลับอยู่รู้สึกตัวตื่น
“พี่มาแล้วเหรอคะ ทำไมไม่ปลุกไก่” เธอลุกมาหาเขา
“พี่เห็นเราหลับเลยไม่อยากปลุก ทีหลังถ้าพี่มาช้าไม่ต้องรอนะ กินก่อนได้เลยแล้ววันนี้สอบเป็นไง” เขาพูดพลางยกจานมาวางที่โต๊ะ เมื่อเธอทำท่าจะช่วยเขาจึงรีบพูดต่อ
“ไม่ต้องหรอก ไก่เป็นคนทำแล้วพี่ช่วยอุ่นดีกว่าไปนั่งรอเถอะ”
กฤติกานั่งรอตามที่เขาบอก เธอทำตัวเป็นเด็กดีสำหรับเขามาตลอด ไม่ว่าจะอยู่ด้วยกันเพราะอะไรแต่เธอก็อยากให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาเป็นไปด้วยดี
“ก็ดีค่ะ ทำข้อสอบได้ไม่น่ามีปัญหาอะไร” เธอมั่นใจด้วยซ้ำว่าเธอต้องได้คะแนนท็อปของรุ่นแต่ไม่ได้พูดออกไป
“ก็ดีแล้วไก่อยากทำงานที่ไหน ทำที่ไปฝึกงานไหม” เขาหมายถึงบริษัทของเขาเองที่เธอเคยไปฝึกงานในเทอมก่อน แต่หญิงสาวส่ายหน้าทันที ที่นั่นมีทั้งมารดาและน้องสาวของเขา แม้ว่าต่อหน้าคนอื่นสมิติปฎิบัติต่อเธอเหมือนคนไม่รู้จัก แต่ดูเหมือนว่าครอบครัวของเขาจะรู้ว่าเธอเป็นใคร และเธอก็รับรู้ดีว่าน้องสาวของเขาไม่ชอบเธอแบบมากๆ
“ไม่ดีกว่าค่ะ ไก่อยากหางานทำเองก่อน” เธอปฏิเสธ สมิติไม่แปลกใจเด็กจบใหม่บางคนไฟแรงอยากหางานด้วยความสามารถของตัวเองมีเยอะ เขาจึงไม่ว่าอะไร
ทั้งสองทานอาหารด้วยกันเงียบๆ สมิติทานมาแล้วเขาจึงทานน้อยกว่าปกติ กฤติกามองแล้วถาม
“วันนี้ไก่ทำไม่ถูกปากเหรอคะ”
“เปล่า อร่อยเหมือนเดิมแต่พี่ทานมาแล้วน่ะ ไก่ทานเถอะ” เขาอธิบายแค่นั้น ไม่ได้พูดต่อว่าวันนี้มารดาขอให้เขาไปส่งที่โรงแรมที่ท่านนัดเพื่อนไว้ พอไปถึงเพื่อนแม่พาลูกสาวมาด้วยเขาถูกขอให้ร่วมโต๊ะทานอาหาร สมิติไม่อยากหักหน้าแม่ต่อหน้าคนอื่นเขาจึงมาสายและไม่มีเวลาโทรบอกกฤติกา
กฤติกาหน้าหมองลงนิดหน่อยก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ สมิติลุกขึ้นไปหยิบเสื้อนอกล้วงเอาซองในนั้นมาส่งให้เธอ
“ของขวัญวันเรียนจบ ถ้าไก่อยากทำงานกับพี่บอกได้ตลอดเวลานะ” เขาเป็นทายาทเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ ดำเนินการครบวงจรตั้งแต่สร้างบ้านอยู่อาศัยจนถึงสถานีรถไฟฟ้า ในฐานะลูกชายคนโตครอบครัวของสมิติเตรียมผลักดันเขาให้รับตำแหน่งประธานแทนบิดาในอีกไม่เกินห้าปีข้างหน้า
กฤติการับซองนั้นมาเธอเดาได้ว่าคงเป็นเช็คเงินสดแบบที่เขามักจะให้ในโอกาสพิเศษแบบทุกคราว แต่วันนี้เธอต้องตกใจเมื่อเห็นจำนวนตัวเลขในนั้น
“สิบล้าน ทำไมเยอะขนาดนี้ค่ะ”
“ไม่เยอะหรอก ไก่อยู่กับพี่มาตั้งสี่ปีแค่นี้ทำไมพี่จะให้เมียไม่ได้” เขาพูดแล้วชะงักแต่ไม่ได้แก้คำพูดอะไร คนฟังใจฟูกับคำว่า 'เมีย' สมิติไม่เคยเรียกเธอด้วยคำนี้ตลอดเวลาที่อยู่กันมา
แต่ความดีใจของเธอก็หายไปเมื่อเขามองเวลาหยิบเสื้อมาพาดบนแขนทำท่าเหมือนจะออกไปไหน
“พี่กลับก่อนนะไก่”
“คืนนี้ไม่นอนนี่เหรอคะ”
สมิติส่ายหน้า “พรุ่งนี้พี่ต้องไปต่างจังหวัดแต่เช้า ส่วนคืนวันเสาร์ต่อจากนี้พี่คงไม่ได้สักสองสามเสาร์นะ ถ้าไก่อยากจะไปเที่ยวไหนกับเพื่อนก็ไม่ต้องกังวลไปได้เลย” เขาพูดแล้วไม่ได้รอฟังว่าเธอจะว่าอย่างไรเปิดประตูออกไปไม่หันกลับมามองเธอ
คืนนั้นเธอร้องไห้จนหลับ และสมิติไม่ได้มาหาเธอในวันเสาร์ต่อๆ มาตามที่เขาพูดจริง
วันรุ่งขึ้นเธอเห็นสมิติเจริญอาหารเป็นพิเศษ“เมื่อวานพี่เห็นไก่ซื้อขนมมาใช่ไหม ยังมีอยู่รึเปล่า” “ขนมเหรอคะ ขนมไทยนะคะพี่จะทานเหรอ” กฤติกาไม่เคยเห็นเขาชอบของหวานเลยสักครั้ง“อืม อยากกินน่ะยังมีอยู่รึเปล่า” สมิติตอบหญิงสาวจึงเปิดตู้เย็นดูขนมที่ว่า“มีค่ะเป็นทองหยิบกับฝอยทองนะคะ” เธอซื้อมาจัดชุดถวายข้าวพระพุทธ จึงมีเหลือในกล่องไม่มากเธอนำมันมาจัดจานไปใส่คนที่นั่งรอ“อร่อย” สมิติจิ้มทองหยิบใส่ปากสีหน้าดูชื่นอกชื่นใจ ส่วนกฤติกาทำหน้าแหยง“มันหวานมากเลยนะคะ พี่หมิงว่าพอดีเหรอ” สมิติหันมาพยักหน้า ทำสีหน้าจริงจัง“พอดี ไม่เห็นหวานไปเลยจ้ะ เอาอีกนะอันนี้ไก่ซื้อร้านไหนมา”“ร้านหน้าคอนโดนี่เองค่ะ พี่หมิงไม่สบายรึเปล่าคะ” เธอมองเขาอย่างกังวล พักนี้รู้สึกว่าเขาไม่ปกติหลายๆ อย่าง เหมือนผีเด็กเข้าสิงแต่เธอแน่ใจว่าแถวนี้ไม่มีใครเลี้ยงกุมาร“ไม่นี่ พี่ปกติ” สมิติตอบ เขาไม่รู้สึกว่าเขาเป็นอะไรภรรยาคิดมากไปเองหญิงสาวป้อนโจ๊กให้น้องแมทจนหมดถ้วย 'กินเก่งทั้งพ่อทั้งลูก' เธอคิดในใจ กฤติกาลุกขึ้นจะเข้าไปในครัวแต่ก็ต้องเซเมื่อเธอรู้สึกเหมือนจะเป็นลม“ไก่..” สมิติเรียกเสียงดัง เขารีบมาป
“พี่หมิงคะ ลูกร้อง” กฤติกาตะโกนบอกสามี เด็กชายกรกันต์หรือน้องแมทวัยแปดเดือน กำลังแผดเสียงร้องจ้าเมื่อตื่นมาไม่พบใครในห้อง“จ้า พี่ไปเดี๋ยวนี้ละ” สมิติรีบวิ่งออกจากห้องน้ำไปดูลูกชาย ส่วนกฤติกากำลังเคี่ยวข้าวผักห้าสีให้ลูกในครัว“โอ๋.. ไม่ร้องนะครับ พ่อเปลี่ยนเพิสให้นะลูก” ชายหนุ่มเปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จให้ลูกชายอย่างคล่องแคล่วเพราะทำมาตั้งแต่น้องแมทเกิด พ่อลูกอ่อนอุ้มลูกชายมาไว้ในคอก ตอนนี้น้องแมทคลานได้คล่องแล้ว บางครั้งไปไวมากจนพ่อแม่จับไม่ทัน“มาแล้ว” กฤติกายกถ้วยข้าวบดมาให้ลูก เธอคนๆ วางทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้คลายความร้อนลง“มาค่ะน้องแมท” เธออุ้มเด็กชายขึ้นจากคอกมานั่งที่เก้าหัดกินข้าวของเด็ก หญิงสาวหัดให้ลูกชายนั่งได้เองเพื่อที่ว่าเวลาไปไหนจะได้ไม่ต้องคอยอุ้มตลอดเวลา“พี่หมิงหิวหรือยังคะ” เธอหันไปถามสามี “หิวจ้ะ แต่ไม่รู้อยากกินอะไร” สมิติทำท่าเพลีย “นอนน้อยรึเปล่าคะ มีไข้ไหม” หญิงสาวลุกมาหาเขาเธอใช้มืออังหน้าผากพบว่าเขาตัวเย็น “พี่ไม่เป็นอะไรหรอก” สมิติจับมือเธอไว้ “คืนนี้ไม่ต้องลุกมาดูแมทนะคะ ไก่จัดการเอง” เธอเริ่มฝึกให้ลูกเลิกมื้อดึกและนอนยาวแล้วตามที่คุยกับค
สมิติไม่ทำอะไรเธอตามที่เขาพูดจริง แต่ชายหนุ่มถือโอกาสช่วงที่รอแผลเธอหายช้ำสร้างความคุ้นเคยให้เธอด้วยการสัมผัสแตะต้อง โอบบ้าง กอดบ้างจนกฤติกาเริ่มชินเช้าวันอาทิตย์เขาออกไปข้างนอกและกลับมาทานข้าวเย็นกับเธอ พบว่ากฤติกาไม่ได้ออกไปไหนเลย“ออกไปเดินเล่นบ้างก็ได้นะไก่” “ไม่เป็นไรค่ะ ไก่อยากพักพรุ่งนี้ต้องไปมหาวิทยาลัย” สมิติพยักหน้าเข้าใจ เขาขยับตัวลุกขึ้นเตรียมตัวจะกลับที่พัก “งั้นไก่พักพี่จะกลับก่อน เช้าวันอังคารเจอกันพี่จะมารับไปลำปาง” “ค่ะ” ###############สมิติพาเธอไปจัดการธุระเรื่องบ้านที่ลำปางในเช้าวันอังคาร โดยที่เขาไปคุยกับเจ้าหนี้ให้เองและนำโฉนดบ้านกลับคืนมา จากนั้นเขาปล่อยให้กฤติกาเข้าบ้านไปหาน้องๆ หญิงสาวซื้อของจำเป็นเข้าบ้านจำนวนหนึ่งพอใช้ไปนาน และซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ไว้ให้น้อง ๆ โทรหาตนเอง ไม่ต้องยืมโทรศัพท์เพื่อนบ้านใช้อีกทั้งคู่กลับมาถึงกรุงเทพฯ ในตอนเที่ยงคืน สมิติขึ้นมาบนห้องด้วยเขาวางของลงบนโต๊ะ ขณะที่บอกเธอให้ไปอาบน้ำกฤติกาออกมาจากห้องน้ำ ไฟในห้องนอนถูกปิดแล้วเหลือไฟเล็กหัวเตียงเท่านั้น สมิตินอนบนเตียงอยู่ในชุดนอนเขาคงไปใช้ห้องน้ำด้านนอก“พี่จะ
“พี่ว่าอะไรนะ” สมิติทวนคำหลังจากที่พีรพัทย์โทรหาเขา “ก็อย่างที่บอกไป เดียโทรมาปรึกษากูว่าเพื่อนเขาจำเป็นต้องใช้เงินแสนสองภายในสามวัน กูพอจะมีเพื่อนดีๆ ที่สนใจน้องเขาไหม น้องเขายอมทุกอย่างแต่ขอให้ชัวร์เพราะเขาเดือดร้อนมาก” พีรพัทย์ทวนอีกครั้ง“แล้วถ้าผมบอกว่าไม่สนล่ะ” สมิติหยั่งเชิง“กูก็อาจจะหาคนอื่นให้น้องเขา หรือไม่กูก็อาจจะบริจาคให้น้องเขาเอง เงินแค่นี้มึงก็รู้ว่ากูไม่มีปัญหา” พีรพัทย์แกล้งพูด“พี่ว่าไงนะ พี่มีเดียอยู่แล้วไง” สมิติแย้ง“แล้วไงลูกไก่ก็เพื่อนเดีย เพื่อนสนิทกันมาก สองสาวจะได้มีเพื่อนเวลาปรนนิบัติกูไง เดียเขาอาจจะวางใจก็ได้ที่คนนั้นเป็นกู” “หยุด พี่บ้าไปแล้วไหนว่าจริงจังกับเด็กมันจะไปทำให้เดียเสียใจทำไม เอางี้ผมรับเองแต่ผมขอคุยกับลูกไก่ก่อน” สมิติรีบห้ามก่อนที่เพื่อนรุ่นพี่จะจินตนาการบรรเจิดไปมากกว่านั้น ได้ยินเสียงอีกฝ่ายหัวเราะจึงรู้ว่าฝ่ายนั้นล้อเล่น“ก็มาสิ คืนนี้ลูกไก่ต้องมาทำงานที่ร้านอยู่แล้ว” “ไม่ต้องเลย บอกเด็กพี่นะว่าให้บอกลูกไก่เลิกทำงานที่ร้าน เดี๋ยวผมจะออกไปรับตอนนี้เขาอยู่ที่คอนโดของเดียใช่ไหม” สมิติลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน วันนี้งานเขาไม
สมิติกลับมาขึ้นรถ เขาหันมามองกฤติกาที่ยังหน้าซีดเผือดจากเหตุการณ์เมื่อครู่“เจ็บตรงไหนบ้าง เดี๋ยวพี่จะพาไปตรวจที่โรงพยาบาล” เธอส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ จุกเดี๋ยวก็คงหายถ้าจะกรุณา ไปส่งที่ห้องเดียได้ไหมคะ” “ห้องเดียนั่นมันเป็นของเฮียพีท เขาซื้อให้เดียอยู่” สมิติเปรยขึ้นมา กฤติกาเม้มปากแน่น“งั้นไปหอของไก่ก็ได้ค่ะ แต่ถ้ามันไกลไปเกรงใจเดี๋ยวไปแท็กซี่เองค่ะ” “ยังไม่เข็ดเหรอ” สมิติถามเสียงเรียบ เขาออกรถพาเธอออกจากตรงนั้น ถนนที่ค่อนข้างมืดในตอนหนึ่งนาฬิกาทำให้กฤติกามองทางไม่ชัดเจน ประกอบกับเธอยังจำทางได้ไม่แม่นทำให้เธอไม่รู้ว่าเขาจะพาไปไหน“พี่หมิงจะไปไหนคะ” หญิงสาวนิ่วหน้าเมื่อเริ่มรู้สึกว่าเส้นทางไปไกลกว่าขามา “หอที่ไก่อยู่เป็นหอพักนักศึกษาหรืออพาร์ตเมนท์” เขาย้อนถาม“เอ่อ หอพักนักศึกษาค่ะ อยู่หน้า...” เธอบอกชื่อสถาบันทำให้สมิติเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจเมื่อรู้ว่าเธอเรียนที่ไหน “พี่ก็เคยเรียนที่นี่ เราเรียนคณะไหน” “สถาปัตยฯ ค่ะ” “อืมม” เขาทำเสียงในลำคอแบบที่เธอไม่เข้าใจ “เป็นรุ่นน้องพี่ คณะเดียวกันถ้าหมายถึงหอหญิงหน้าสถาบันตอนนี้ประตูคงปิดแล้ว เข้าไม่ได้หรอก” ฟังแล้ว
“ชื่ออะไรครับน้อง อายุครบสิบแปดแล้วใช่ไหม” สุธนผจก.ร้านสัมภาษณ์กฤติกา หลังจากที่นาเดียสาวตัวท็อปของร้านพาเพื่อนมาสมัครงาน“ชื่อกฤติกาค่ะ สิบแปดแล้ว” เธอส่งบัตรประชาชนให้ผจก.ร้านดู“โอเค เด็กใหม่งั้นพี่จะให้เราชงเหล้า เสริฟที่โซนวีไอพีนะฝากน้องเดียเป็นพี่เลี้ยงให้แล้วกัน มีชื่อสั้นๆ ไหมครับน้อง” สุธนส่งบัตรประชาชนคืนและยื่นใบสมัครให้กฤติกาเขียน เธอรับมากรอกรายละเอียดทันที“ลูกไก่ค่ะพี่” นาเดียตอบแทน สุธนพยักหน้าพอใจ“ปกติเด็กเราหน้าที่ชงเหล้า เสริฟก็คือทำตามนั้น เรื่องงานพิเศษร้านปล่อยฟรีสไตล์แล้วแต่ความสมัครใจ แต่ต้องไม่ใช่ทำในร้านนะครับ แล้วถ้าน้องไม่อยากไปต่อกับใครแต่มีแขกเซ้าซี้แจ้งพี่หรือการ์ดร้านได้เลย” สุธนบอกทำให้เธอสบายใจขึ้นเมื่อเสร็จธุระเรื่องเอกสารและสุธนแจ้งค่าตอบแทนแล้ว นาเดียจึงพากฤติกาไปที่ห้องพักของพนักงาน เป็นห้องรวมสำหรับเตรียมตัว แต่งหน้าหรือทำผมมีห้องน้ำสองห้อง นาเดียพาเพื่อนสาวไปที่มุมประจำของเธอ“ทำงานที่นี่ยิ้มไว้เยอะๆ กับแขก ส่วนเพื่อนร่วมงานด้วยกันคบได้พอผ่านๆ อย่าสนิทมากไม่มีใครอยากให้เราได้ดีเกินหน้าหรอกไก่” เธอกระซิบสอน พร้อมกับพาไปเบิกชุดสำ