LOGINในเดือนต่อมากฤติกาได้งานในบริษัทเล็กๆ แต่อบอุ่น เธอเป็นสถาปนิกที่ต้องไปดูหน้างานด้วย หญิงสาวยังอยู่ที่ห้องของสมิติตามปกติ และเขายังโอนค่าใช้จ่ายรายเดือนให้เหมือนที่เคย
วันหนึ่งเธอได้รับโทรศัพท์จากทางบ้าน บอกเรื่องของน้องสาวและน้องชายที่ต่างจังหวัดที่เธอส่งเสียทั้งค่ากิน ค่าเรียนต่างๆ ในจำนวนเงินที่สูงลิ่วว่าสร้างปัญหาอะไรขึ้นบ้าง
กฤติกาลางานจองตั๋วเครื่องบินไปลำปางทันที เธอพบว่าน้องสาววัยสิบเก้าท้องไม่มีพ่อและน้องชายอายุสิบหกถูกจับในข้อหามั่วสุมกับกลุ่มเด็กแว๊น
“แล้วแม่ล่ะหน่อย แม่ไปไหน” เธอถามน้องสาวที่ยังร้องไห้
“แม่ไปทำงานก่อสร้างที่ใต้น่ะพี่ ไปกับไอ้มิก” ไอ้มิกที่ว่าคือสามีใหม่ของแม่ กฤติการับฟังอย่างปวดใจเธอมองน้องสาวและน้องชายที่เพิ่งไปประกันตัวมา สามพี่น้องนั่งอยู่ด้วยกันในบ้านหลังเก่าของพ่อ
“หน่อยจะทำแท้ง” น้องสาวเธอพูดขึ้นมา
“ไม่ต้อง ถ้าหน่อยไม่อยากได้ลูก พี่ขอนะพี่จะเลี้ยงหลานเอง” กฤติกายอมไม่ได้ที่น้องสาวจะทำแท้ง
“แล้วหน่อยจะอยู่ยังไงพี่ หน่อยอายคน” เด็กสาวร้องไห้หนักขึ้น กฤติกามองน้องสองคนแล้วตัดสินใจพูด
“หน่อยกับนัทรู้ไหมว่าพี่เอาเงินจากไหนส่งมาทุกเดือน”
คำถามนั้นทำให้สองคนมองหน้ากัน
“เอ่อ ก็พี่ทำงานพิเศษไม่ใช่เหรอ” นัทอ้อมแอ้มตอบ
“คิดว่ามีงานพิเศษอะไรที่พี่จะส่งเงินมาให้ได้มากขนาดนั้น” เธอส่งมาให้น้องและแม่ใช้แต่ละเดือนไม่น้อยกว่าสามหมื่นบาท ทั้งค่าอยู่กินค่าเสื้อผ้า ส่วนค่าเทอมและอุปกรณ์การเรียนนั้นเธอจ่ายต่างหาก
หน่อยกับนัทกลืนน้ำลายลำบาก ความจริงไม่ใช่ว่าสองพี่น้องไม่เคยคิดว่าพี่สาวเอาเงินมาจากไหน แต่ความเป็นเด็กทำให้ไม่ได้สนใจจริงจัง
“พี่ขายตัวส่งเงินมาให้พวกเรา” กฤติกาพูดเสียงเบาด้วยความอดสูใจ เด็กเสี่ยก็คือคนที่ขายร่างกาย ไม่ได้ต่างจากโสเภณีคนอื่นๆ เกศราและก้องเกียรติตกตะลึงเมื่อได้ยินคำนั้น พวกเขามองพี่สาวที่กำลังร้องไห้เงียบๆ
“พี่ยอมทุกอย่างเพื่อให้พวกเรามีชีวิตรอด มีอนาคต ไม่ได้อยากให้น้องมาทำอะไรตอบแทน แค่ขอให้รักตัวเองได้ไหม ขอให้ตั้งใจเรียนพี่ขอแค่นี้เอง”
“หนูขอโทษนะพี่” เกศราร้องไห้หนักขึ้น ส่วนก้องเกียรติตาแดงก่ำ
“นัทก็ขอโทษ นัทจะไม่ไปยุ่งกับพวกนั้นอีกแล้วพี่”
น้องสองคนตรงมากอดพี่สาว สามคนร้องไห้ด้วยกันพักใหญ่ ก่อนที่กฤติกาจะปาดน้ำตา
“ไปเก็บของ ย้ายไปอยู่กับพี่ที่โน่นเราจะไปเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน”
วันรุ่งขึ้นสามพี่น้องเดินทางด้วยรถทัวร์มาถึงกรุงเทพฯ กฤติกาพาน้องไปอยู่บ้านเช่าที่เธอติดต่อหาไว้ได้เมื่อคืนทางอินเทอร์เนตและตกลงทำสัญญาทันทีที่ไปถึง
“พี่ไก่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ค่าเช่าน่าจะแพง นัทว่าเราย้ายไปอยู่บ้านเล็กๆ ก็ได้” ก้องเกียรติพูดเมื่อสำรวจบ้าน เขาไม่อยากให้พี่สาวเสียเงินเยอะโดยใช่เหตุ
บ้านที่กฤติกาเช่าเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นบนพื้นที่ขนาดห้าสิบตร.ว. อยู่ในหมู่บ้านใหญ่มีชื่อเสียงมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี หญิงสาวตัดสินใจแล้วว่าเธอจะไม่ยอมกลับไปอยู่ในจุดเดิมอีก จุดที่เป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอกใครๆ ก็ดูถูก เธอมาไกลมากขนาดนี้เธอต้องเอาดีให้ได้
“หน้าที่ของพวกเราคือเรียนให้จบก็พอ อย่างอื่นพี่รับผิดชอบเอง” เธอบอกน้องทั้งสองคน
วันนั้นเธอพาน้องๆ ไปซื้อของจำเป็นที่ต้องมี กฤติกานอนค้างที่บ้านเช่าและพาเกศราไปฝากครรภ์ในวันรุ่งขึ้น ส่วนก้องเกียรติเธอตั้งใจว่าจะพาน้องชายไปสมัครเรียนปวช.ในเทอมหน้า
หญิงสาวกลับมาที่ห้องในวันที่สามหลังจากที่พาน้องมาอยู่กรุงเทพฯ คืนนั้นเป็นวันเสาร์แต่เธอไม่หวังว่าสมิติจะมาเพราะเขาหายไปร่วมเดือน แต่ห้าทุ่มคืนนั้นเขาก็มาโดยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า
ท่าทีดีใจของเธอทำให้สมิติยิ้มให้
“ยังไม่นอนเหรอเรา”
“ยังค่ะ กำลังคิดอะไรเพลินๆ” เธอลุกมาหาเขา “พี่หมิงมาดึกจังค่ะ”
“พี่เพิ่งกลับจากไปคุยงาน ช่วงนี้งานยุ่งมากแล้วไก่เป็นยังไงบ้าง” สมิติตอบเขาถอดเสื้อนอกออก ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตลงมาสามเม็ด หญิงสาวเห็นดังนั้นจึงรีบบอก
“ไก่จะไปเตรียมน้ำให้ แช่น้ำอุ่นสักหน่อยไหมคะ”
“จ้ะ” สมิติรับคำขณะที่ถอดนาฬิกาออกวางบนโต๊ะ นาฬิกาแสนแพงเรือนหลักล้านแต่เขาสามารถวางตรงไหนก็ได้ในห้องนี้โดยที่ไม่ต้องกลัวหาย
ชายหนุ่มก้าวเข้าห้องน้ำด้วยชุดเสื้อคลุมอาบน้ำตัวเดียว เธอกำลังจะออกไปตามเขาพอดี
“แช่น้ำกับพี่ได้ไหมไก่” ร่างสูงเข้าประชิดตัว มือดึงสายเสื้อนอนเธอจนหลุดจากไหล่ ริมฝีปากจูบพรมไปทุกที่ที่สามารถแตะต้องถึง กฤติกาตัวอ่อนยวบเธอยอมให้เขาจับจูงลงอ่างน้ำไปด้วยกัน กว่าจะได้ออกมากินเวลาไปเกือบสองชม.
เช้าวันต่อมาเธอขยับตัวตื่นแต่สมิติยังหลับสนิท เธอจูบผะแผ่วที่ปลายคางก่อนจะลุกขึ้นไปจัดการธุระส่วนตัว
'เธอรักเขา' กฤติกาบอกตัวเองพลันใจนึงเหี่ยวแฟบลงเมื่อนึกถึงความเป็นจริงว่าเธอไม่มีสิทธิ์จะรักเขาเลย
หญิงสาวปัดความคิดนั้นออกจากหัว เธอเปิดตู้เย็นเตรียมอาหารเช้าไว้รอสมิติตื่นเพราะรู้ว่าเขาไม่ใช่คนตื่นสายถึงแม้จะนอนดึก ปกติแล้วหากมาค้างที่นี่เขาจะไม่รีบร้อนกลับ ชายหนุ่มมักจะอยู่กับเธอในวันอาทิตย์เกือบเต็มวันบางครั้งค้างวันอาทิตย์ต่อแล้วไปทำงานเช้าวันจันทร์ด้วยซ้ำ
เธอทำโน่นทำนี่หนึ่งชม.ต่อมาทุกอย่างเรียบร้อย สมิติโผล่หน้ามามองในครัวก่อนจะเดินมาหา
“ทำอะไรน่ะไก่ น่ากินจัง” เขาทัก กอดเธอจุ๊บลงเรือนผมแล้วปล่อย ผละออกไปนั่งที่โต๊ะอาหารรอเธอมาทานด้วยกัน
กฤติกาชงกาแฟมาวางให้เขาโดยที่ชายหนุ่มไม่ต้องบอก เขาพึมพำขอบคุณจากนั้นจึงเริ่มทานกันเงียบๆ
เมื่อทานเสร็จเขาจึงเริ่มพูดสิ่งที่ตั้งใจไว้มานาน
“ไก่เรียนจบแล้วพี่ดีใจด้วย พี่มีอะไรจะบอก”
“คะ” เธอมองหน้าเขา สังหรณ์ใจว่าจะมีเรื่องไม่ดี
“ที่บ้านจะให้พี่หมั้น ตอนนี้ไก่เองก็เรียนจบแล้วมีงานดีๆ ทำ ไก่คงไม่จำเป็นต้องมาอยู่แบบนี้ พี่อยากให้ไก่มีอนาคตดีๆ ไก่เข้าใจพี่ใช่ไหม”
เหมือนโลกถล่มตรงหน้า กฤติกาน้ำตาไหลเมื่อสมองประมวลผลคำพูดของเขาได้แล้ว สมิติมองเธออย่างเห็นใจแต่เขาอยู่กับเธอในฐานะนี้ตลอดไปไม่ได้ ตัวกฤติกาเองก็น่าจะรู้ดี
“พี่ให้ไก่เป็นอิสระ แต่ถึงยังไงต่อไปถ้าไก่มีปัญหาอะไรบอกพี่ได้ทุกเรื่อง คิดว่าเราเป็นพี่น้องกันก็ได้” เขาพูดต่อ
กฤติกาปาดน้ำตาออก ยังไงซะวันนี้ก็ต้องมาถึงเธอรู้ดี
“ไก่เข้าใจค่ะ ไก่จะรีบย้ายออก”
“ไม่ต้องก็ได้ พี่ยกห้องนี้ให้” สมิติเดินออกจากห้อง หลังจากที่พูดประโยคนั้นจบ
กฤติการ้องไห้ทั้งวัน เธอบอกตัวเองว่าให้ร้องไห้ให้พอสมิติไม่ผิดอะไร เป็นเธอที่ผิดเองล้ำเส้นที่เขาขีดไว้ไปรักเขาเอง
คืนนั้นเธอเก็บของส่วนตัวเลือกไปเฉพาะของที่เธอซื้อเอง ประโยชน์อะไรที่จะอยู่ที่นี่ ถึงสมิติจะบอกว่ายกให้แต่ก็เป็นแค่คำพูดปากเปล่าห้องยังเป็นชื่อเขา เธอคงไม่อยู่รอถึงวันที่ผู้หญิงคนใหม่ของเขามาไล่เธอออกจากห้อง
สามปีต่อมาชีวิตของเกศราและอัศราดำเนินไปอย่างมีความสุขภายใต้ร่มเงาของความรักและความเข้าใจ มีพ่อ แม่และลูกอีกสองคนคือน้องเชอรี่และน้องพีชทำให้ครอบครัวสมบูรณ์ขึ้น การมีสมาชิกเพิ่มอีกคนทำให้บ้านอบอุ่นและมีชีวิตชีวามากขึ้น น้องเชอรี่รับหน้าที่พี่สาวได้อย่างดีเยี่ยม เธอรักน้องชายมาก หวงมากและคอยช่วยเหลือคุณพ่อคุณแม่ดูแลน้องพีชอยู่ไม่ห่างเกศรายังคงสนุกกับงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง กฤติกาผู้เป็นเจ้าของช่องก็ยังคงสร้างสรรค์คอนเทนต์ดีๆ ออกมาไม่หยุด การทำงานร่วมกันของพี่น้องเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ เกศราใช้เวลาส่วนหนึ่งในการดูแลลูกๆ และอีกส่วนหนึ่งในการพัฒนาอาชีพที่เธอรักอัศราเองก็ยังคงเป็นผู้บริหารมือทองและเป็นหัวหน้าครอบครัวที่อบอุ่น เขาบริหารงานที่บริษัทอัศราดูโฮมให้เติบโตอย่างมั่นคง และยังคงมีเวลาสำหรับภรรยาและลูกๆ ทุกคนรู้ดีว่าความสุขที่แท้จริงของอัศราอยู่ที่บ้าน สถานที่ที่มีรอยยิ้มของเกศรา เสียงหัวเราะของแม่ลูก รวมถึงเสียงเถียงกันบ้างหรือรักกันดีบ้างของน้องเชอรี่ และน้องพีชดังก้องอยู่เสมอก้องเกียรติน้องชายคนเล็กของเกศรา ก็ประสบความสำเร็จในเส้นทางของตัวเอง อู่ซ่อมรถเล็ก
“เช้านี้คุณแม่ต้องไปหาหมอใช่ไหมครับ เดี๋ยวพี่เข้ามารับตอนเที่ยงนะเผื่อไปหาอะไรกินกันก่อน” อัศราบอกขณะที่ยกนมและอาหารเช้ามาวางไว้ให้ภรรยาที่โต๊ะ “หน่อยไปเองก็ได้นะคะพี่ฮาน โรงพยาบาลอยู่แค่นี้เอง” ตั้งแต่อายุครรภ์เข้าสู่ไตรมาสที่สาม และหมอเริ่มนัดบ่อยขึ้นครอบครัวก็ย้ายมาพักที่เพนต์เฮาส์เพราะว่าที่นี่อยู่ใกล้โรงพยาบาลมาก เดินทางไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงแล้ว“ไม่เป็นไร พี่อยากไปด้วย” อัศราเลื่อนเก้าอี้ให้ภรรยานั่งหลังจากที่เขาดูแลให้เชอรี่นั่งเรียบร้อยแล้ว“กินมื้อเช้าก่อนค่ะลูก เชอรี่วันนี้มีโจ๊กนะคะ พ่อสั่งร้านข้างล่างมาให้ใส่ไข่ออนเซ็นแบบที่หนูชอบด้วย” “มีหมี่กรอบอีกไหมคะพ่อ” เด็กหญิงหยิบช้อนเตรียมจะคนโจ๊ก“มีลูก แม่ใส่ให้ดีกว่าจะได้ไม่หก” เกศราเลื่อนถ้วยใส่หมี่กรอบที่อัศรารู้ว่าลูกชอบเป็นพิเศษ เขาจึงสั่งซื้อมาต่างหากเพิ่มมาด้วย“ขอบคุณค่ะแม่ แบบนี้เลยที่หนูอยากกิน”ชีวิตหลังแต่งงานของเกศรากับอัศราดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีความสุขกันดี ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะทั้งคู่อยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งก่อนแต่งงาน ทำให้ไม่ต้องมีเรื่องปรับตัวกันอีก และจากการที่เธอท้องลูกอีกคนความรักขอ
“วันนี้อากาศดีมาก ฝนก็ไม่ตกด้วยใครปักตะไคร้นะ” เสียงแซวดังขึ้นในเช้าวันสำคัญ เด็กหญิงอัญชุลีหรือน้องเชอรี่ยกมือทันที“หนูเองค่ะย่า” เสียงหัวเราะดังขึ้นทันที วันนี้ในพื้นที่ในส่วนรีสอร์ตของบูรพาถูกเหมาปิดทั้งหมดเพื่อจัดงานแต่งงานระหว่างอัศราและเกศรา “เดี๋ยวจะได้เวลาทำพิธีแล้ว ใครเป็นคนไปตามเจ้าสาวจ๊ะ” นางอัมพรถาม ทำให้ก้องเกียรติรีบตอบ “พี่ไก่ไปแล้วครับคุณป้า ส่วนผมว่าจะออกไปดูความเรียบร้อยที่สนามข้างนอกอีกที” คำตอบของเขาทำให้บรรดาผู้ใหญ่พยักหน้า พลางจัดเตรียมที่นั่งของแต่ละท่านด้านในห้องแต่งตัวเจ้าสาว “เจ้าสาวแต่งตัวเสร็จหรือยังคะ” กฤติกาเข้ามาดู“อีกนิดเดียวค่ะคุณลูกไก่ เดี๋ยวคุณลูกไก่รอเติมหน้าด้วยไหมคะ หนูว่าน่าจะเก็บรายละเอียดอีกนิด” ช่างแต่งหน้าประจำกองของบริษัทถามเจ้านายสาว“ได้สิ งั้นเดี๋ยวพี่รอในนี้แหละ” ระหว่างรอเจ้าสาวแต่งหน้ากฤติกาเดินมามองออกไปยังนอกหน้าต่าง แสงแดดยามเช้าทอประกายอบอุ่นลงมาต้องผืนหญ้าสีเขียวขจี ณ สถานที่จัดงานแต่งงานริมทะเลสาบที่ถูกเนรมิตขึ้นอย่างงดงามทุกตารางนิ้วถูกประดับประดาด้วยมวลดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ตามที่เจ้าสาวชอบ ท
ข่าวดีเรื่องการขอแต่งงานของอัศรากับเกศราแพร่สะพัดไปทั่วทั้งสองครอบครัวอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างแสดงความยินดีและปลาบปลื้มใจ โดยเฉพาะน้องเชอรี่ที่ดูจะมีความสุขเป็นพิเศษ เมื่อรู้ว่าเธอจะได้เห็นคุณแม่ใส่ชุดสวยๆ ใส่แหวนแวววาว และคุณพ่อจะได้แต่งตัวหล่อวันสู่ขอถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความอบอุ่นที่บ้านของกฤติกา บรรยากาศภายในบ้านอบอวลไปด้วยความรักและความสุข อัศรามาพร้อมกับคุณศราและนางอัมพรผู้เป็นบิดามารดา เพื่อสู่ขอเกศราอย่างเป็นทางการ ส่วนฝ่ายเกศราก็มีนางแก้วคำผู้เป็นแม่ กฤติกา และก้องเกียรติ มาร่วมเป็นสักขีพยานเมื่อถึงเวลาพูดคุยเรื่องสินสอดทองหมั้น อัศราเอ่ยปากถึงสิ่งที่เขาได้เตรียมไว้ให้เกศราอย่างสมฐานะและแสดงถึงความรักที่เขามีให้เธออย่างเต็มเปี่ยม แต่แล้ว นางแก้วคำก็ยกมือขึ้นปรามเบาๆ“คุณฮานคะ... แม่ขออย่างเดียวเท่านั้นค่ะ” นางแก้วคำพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย แต่แววตาของเธอเต็มไปด้วยความจริงใจและความรักที่แม่มีต่อลูกสาว“สินสอดทองหมั้น... แม่ไม่ขออะไรจากคุณฮานเลยค่ะ”คำพูดของนางแก้วคำสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนในห้อง โดยเฉพาะอัศราที่เตรียมตัวมาอย่างดี“ที่ผ่านมา..
หกเดือนต่อมารถตู้ของทีมงาน “ไทยทริปแดนสไมล์” แล่นไปตามถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าสู่จังหวัดระยองเกศรานั่งอยู่ข้างกฤติกา มือถือแท็บเลตตรวจดูตารางงานและคิวถ่ายทำของวัน กฤติกามองน้องสาวด้วยรอยยิ้ม“ตื่นเต้นไหมหน่อย ที่จะได้กลับไปถ่ายทำที่สวนแม่อีกครั้ง”เกศรายิ้มตอบ “ตื่นเต้นค่ะพี่ไก่ คิดถึงบรรยากาศที่นั่นเหมือนกัน”การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่แค่การทำงาน แต่เป็นการหวนรำลึกถึงจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของช่อง “ไทยทริปแดนสไมล์” เมื่อสี่ปีที่แล้ว หลังจากการทดลองถ่ายทำคลิปแรกที่สวนผลไม้ของนางอัมพรซึ่งในตอนนั้นเป็นเพียงการอัดคลิปง่ายๆ เพื่อแนะนำสวนทุเรียนเนื้อดี นอกจากทุเรียนที่ถือเป็นราชาผลไม้ทางสวนยังมีเงาะ มังคุดและอื่นๆ อีกหลายชนิด ที่เปิดให้เข้าชมแบบบุฟเฟต์กินได้ไม่อั้น ใครจะคิดว่าคลิปนั้นจะได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย จนกลายเป็นจุดแจ้งเกิดของช่องยูทูบที่ตอนนี้มีผู้ติดตามหลักล้านเมื่อรถตู้เลี้ยวเข้ามาในเขตอำเภอเมืองระยอง ตำบลบ้านเพ บรรยากาศสองข้างทางก็เริ่มเปลี่ยนไป ต้นไม้ใหญ่เขียวขจี อากาศบริสุทธิ์ และกลิ่นอายของธรรมชาติที่คุ้นเคยก็โชยมาปะทะจมูก“ถึงแล้วพวกเรา” เสียงทีมงานคนหนึ่งร้องขึ้นเมื่อรถต
หลังจากที่เกศราสำเร็จการศึกษาแล้ว หญิงสาวตอบตกลงข้อเสนอทำงานต่อที่ Aurix Audit Group เพราะว่าเธอยังต้องการความรู้และประสบการณ์จากการทำงานจริงที่จากที่นี่ซึ่งมีโปรเจกต์มากมายให้เธอเรียนรู้ ทำให้เธอรู้สึกสนุกและท้าทายกับการได้ศึกษาสิ่งใหม่ๆ ทุกวันส่วนอัศราเขายังคงเป็นผู้ชายที่แสนดีและเป็นที่พึ่งให้เธอเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน หรือเรื่องที่เกี่ยวกับน้องเชอรี่เขาก็ดูแลเอาใจใส่ไม่เคยขาด ตลอดสามปีกว่าที่ผ่านมาเขาพิสูจน์ความมั่นคงให้ได้เห็น ความรักและความผูกพันของเกศรากับอัศราเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ เกศราเองก็ยอมรับในใจว่าเธอรักผู้ชายคนนี้หมดหัวใจ และมองเห็นอนาคตที่มีเขากับน้องเชอรี่อยู่เคียงข้างได้อย่างชัดเจนทุกเย็นหลังเลิกงานอัศราจะมารับเกศราที่บริษัทเสมอ และบางครั้งก็พาน้องเชอรี่ที่กลับจากโรงเรียนอนุบาลมารอรับด้วย ทำให้ภาพของครอบครัวเล็กๆ ที่อบอุ่นนี้เป็นที่คุ้นตาของพนักงานคนอื่นๆ ในบริษัท ความรักและความเอาใจใส่ที่อัศรามีให้เกศราและน้องเชอรี่นั้นเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคนวันหนึ่งเมื่อเกศรากำลังตรวจสอบตารางงานในสัปดาห์หน้า อัศราก็เดินเข้ามาพร้อมใบหน้ายิ







