"ฉันก็แค่ถามนายตามมารยาท นายไม่เคยเรียนเลยหรือไง?" ฉันจ้องเขาเขม็ง ชักสีหน้าเหมือนไม่พอใจ ตอนแรกฉันก็ห่วงใยเขา แต่พอได้ยินคำพูดกวนบาทา ฉันก็มีบ้างที่ไม่พอใจ
"ก็เคยเรียนแต่ไม่ได้สนใจ แล้วเธอลุกไหวไหมเนี่ย!"
"ไหวสิ!" ฉันค่อยๆลุกขึ้นยืน แต่ดูเหมือนเท้าของฉันจะไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่นัก มันเจ็บจัง เจ็บมากๆเลย
"นี่เธอ! ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืน อย่าอวดเก่ง!" เขายังคงปากปีจอใส่ฉันเหมือนเดิม
"เอ้า! ฉันก็แค่ไม่อยากพึ่งนาย ฉันอวดเก่งตรงไหนเนี่ย!"
"มานี่เดี๋ยวช่วยเอง"
"ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวฉันช่วยตัวเองเอง"
"อย่ามาอวดเก่งนะ ฉันจะช่วยเธอก็คือช่วยเธอไม่มีสิทธิ์มาปฏิเสธฉัน" คนอะไรเอาแต่ใจชะมัด เขาเอามือมาพยุงฉันให้ลุกขึ้น แล้วให้ฉันจับไปที่ไหล่ของเขา เพื่อพยุงร่างกายของฉันไม่ให้ล้ม
ฉันไม่ได้พูดอะไร นอกจากมองข้อเท้าของตัวเอง ที่ความเจ็บมันกำลังเล่นงานฉันอย่างหนัก
"เธอถอดรองเท้าดีกว่าไหม!"
"อืม เดี๋ยวฉันถอดเอง ...เฮ้ย!" ฉันอุทานออกมาอย่างตกใจ จู่ๆผู้ชายคนนี้เขาก็ก้มตัวลงแล้วยกเท้าของฉันขึ้นเบาๆ ก่อนจะถอดรองเท้าส้นสูงที่เท้าของฉันออก แล้วจับสายรัดถือเอาไว้ในมือของเขา "นะ...นาย"
"ห้องเรียนอยู่ไหนจะไปส่ง!"
"ฉันคิดว่าฉันน่าจะไปเองได้"
"อย่ามาอวดเก่งสภาพแบบนี้จะไปได้ยังไง คลานไปหรอตลกสิ้นดี"
"ไอ้คนผีทะเล!" ฉันพูดเสียงเบาเพราะกลัวเขาจะได้ยิน
"ห้องเรียนอยู่ไหน?" เขาเอ่ยถามฉันอีกครั้ง
"อยู่ตึก a"
เขาไม่ตอบอะไรนอกจากพยุงชั้นเดินมาที่ตึก a คนอื่นๆต่างก็พากันมองมาที่ฉันและเขา ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพวกเขาจะมองกันทำไม บางคนมองฉันแบบหาเรื่องมากๆ เหมือนไม่พอใจ ราวกับว่าฉันไปแย่งสามีของพวกเธออย่างไรอย่างนั้น
ส่วนผู้ชายคนนี้ก็ดูไม่สนใจสายตาของใครเลย เขาเดินหน้านิ่งเดินมาส่งฉันด้วยท่าทางนิ่งๆ แต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน และประคองฉันอย่างเบามือ
พอมาถึงหน้าห้องเพื่อนของฉันที่เห็น ก็พากันวิ่งออกมา แล้วรีบมาประคองตัวฉันต่อจากเขา
"เป็นอะไรมาวะแสนดี?" โมเอ่ยพร้อมกับสำรวจตัวฉัน
"กูล้ม"
"แล้วนี่ ..." สไปรท์มองไปที่ผู้ชายคนนั้น แล้วหันมามองหน้าฉัน
"กูกับเขาชนกัน เท้ากูพลิกเขาก็เลยเดินมาส่ง ขอบคุณที่เดินมาส่งนะคะ" ฉันยิ้มให้ผู้ชายคนนั้น ถึงเขาจะดูปากเสียไปบ้าง แต่อย่างน้อยเขาก็ยังมีน้ำใจที่เดินมาส่งฉัน
"อืม ไม่เป็นไร นี่รองเท้าของเธอ" เขายื่นรองเท้าให้ฉัน ฉันมองหน้าเขาแล้วเอื้อมมือไปรับมัน ก่อนจะยิ้มให้เขาด้วยรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตร
"นายใช่นักเรียนแลกเปลี่ยนไหม?" แพรทำหน้าตาตื่นเต้นนิดหน่อยแล้วเอ่ยถามเขาออกไป นักเรียนแลกเปลี่ยนเหรอ ถึงว่าฉันไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย
"อืม" เขาตอบเพียงสั้นๆ แล้วหันมาจ้องหน้าฉันต่อ เออแล้วจะจ้องทำไม หรือว่าความสวยของฉัน นี่แหละนะเขาว่าความสวยเป็นเหตุสังเกตได้ คิคิ
"ขอบคุณอีกครั้งนะ ว่าแต่นายอยู่คณะอะไรเหรอ?"
"คณะแพทย์ศาสตร์"
"อ้อ เป็นหมอนี่เอง แล้วเพื่อนๆของนายล่ะ"
"อยู่คณะ แล้วเธอชื่อแสนดีใช่ไหม?"
"อื้ม แล้วนายล่ะชื่ออะไร เป็นคนประเทศอะไร?" ที่ฉันถามเพราะเพื่อนของฉันมันมาสะกิดแขนฉันให้ถามเขาดู อีกอย่างหน้าตาของเขาไม่เหมือนคนไทยอยู่แล้ว
"ฉันชื่อเซบาสเตียน เป็นลูกครึ่งไทย-รัสเซีย ยินดีที่ได้รู้จักนะแสนดี"
"ชื่อนายยาวเนาะ แต่ก็ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกันนะเซบาสเตียน"
"เรียกฉันเซบาสก็ได้ ฉันให้สิทธิ์เธอเป็นคนเรียกคนแรกเลยนะ" หืมสิทธิ์เรียกคนแรกหรอ รู้สึกดีกับคำนี้จัง
"อื้ม ฉันเรียนก่อนนะบ๊ายบาย"
"อืม" เขามองหน้าฉันแล้วยิ้มออกมาก่อนจะเดินไป เพื่อนของฉันและทุกคนในห้องต่างพากันกรี๊ดเขายกใหญ่เลย ฉันได้แต่ยิ้มเจื่อนๆไม่ได้คิดอะไรมากมาย
จนเวลาผ่านเลยไปมาถึงเวลาพักเบรค ฉันและเพื่อนๆพากันออกมาจากห้องเรียน ข้อเท้าของฉันดีขึ้น เพราะสไปรท์และเพื่อนคนอื่นๆ ต่างหายามานวดให้ฉัน
ตู๊ดดด!
ตู๊ดดด!
"รับสิเฮีย" ฉันพูดพร้อมกับกดโทรศัพท์โทรออกอีกครั้ง
"ไม่รับหรอวะ?" สไปรท์เอ่ย
"ไม่ใช่โกรธมึงเรื่องเมื่อเช้าแล้วไม่เอารายงานมาให้นะ" จริงด้วยสิ หรือว่าเขาจะโกรธเคืองฉันเรื่องเมื่อเช้า จนไม่เอารายงานมาให้ แต่มันจะเกินไปไหม หรือว่าเขาทำอะไรอยู่
ฉันยืนกดมือถือโทรยิกๆอยู่แบบนั้น แต่มันก็ไม่มีการตอบรับจากสายของใครเลย โทรเข้ามือถือเฮียก็ไม่มีใครรับ โทรเข้าโทรศัพท์บ้านก็ไม่มีใครรับเช่นกัน นี่ทุกคนไปไหนกันหมดเนี่ย
พอกดโทรไปที่ทำงานของเฮีย เลขาของเฮียก็บอกว่าเฮียยังไม่มาทำงาน นี่เฮียไปไหน ฉันเองก็ชักสงสัยแล้วสิ
"สไปรท์พากูกลับไปที่บ้านหน่อย"
"อื้อ เฮียเขาไม่รับหรอวะ?"
"อื้อ ไปดูที่บ้านก่อน เผื่อเขาทิ้งรายงานไว้ที่บ้าน ไปตอนนี้ยังทัน"
"ไปดิ่"
ฉันวิ่งออกจากตึกของมหาลัยแล้วไปที่รถของสไปรท์ทันที ในมือก็กดมือถือโทรหาเฮียอยู่ตลอด แต่เฮียไม่ยอมรับสาย เขาหายไปไหนของเขากันนะ
ถ้ารายงานของฉันไม่เสร็จ ฉันจะเล่นงานเฮียให้ตายเลยคอยดู เพราะรายงานนี้มันสำคัญต่อการเรียนของฉันมาก ถ้ามันไม่เสร็จฉันแย่แน่
"เฮียนะเฮีย" ฉันบดกรามแน่นรู้สึกหงุดหงิดโมโหเป็นอย่างมาก
"เฮียมึงอาจจะทำรายงานให้อยู่ก็ได้ ใจเย็นๆก่อนหน้าแสนดี มันคงไม่มีอะไรไปมากกว่านั้นหรอก ที่เขาไม่ได้รับโทรศัพท์มึง เขาอาจจะพยายามเร่งรายงานให้มึงก็ได้"
"ถ้าเกิดไปแล้วรายงานคงไม่เสร็จ กูจะเด็กหัวเฮียออกแล้วสับเป็นชิ้นๆเลยคอยดู"
"โหดร้ายฮ่าๆๆ แต่กูก็ชอบบทโหดๆของมึงแบบนี้นะ"
"มึงก็รู้รายงานนี้สำคัญกับกู ถ้ามันไม่เสร็จคือกูแย่แน่ๆ"
"เออ เฮียอาวุธคงยังทำให้มึงอยู่นั่นแหละ เขาคงไม่หายไปทำอย่างอื่นหรอก"
"แต่ถ้าเขาทิ้งรายงานของกูไปเชี่ยกูก็จะทำเชี่ยๆกลับไปเช่นกัน"
"อื้อ"
ฉันนั่งรถมาด้วยใจร้อนรุ่ม กลัวรายงานจะส่งไม่ทัน แล้วอีเฮียมึงมัวทำอะไรอยู่ อย่าให้ถึงบ้านนะ ฉันจะไม่เป็นแสนดีคนเดิมแน่ ถ้ารายงานของฉันไม่คืบหน้า
เฮียก็เฮียเถอะ เจอแสนดีหน่อยเป็นไง!!
ชีวิตการเป็นแม่ลูกอ่อนของฉัน มันสุขสบายกว่าใครจริงๆ สามีของฉันทำหน้าที่เลี้ยงดูลูกทั้งสามของเขาด้วยตัวเองถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเลี้ยงลูกมาก่อน แต่ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นพ่อ ทำให้เขาตั้งใจเลี้ยงแฝดทั้งสามได้เป็นอย่างดีตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาล ฉันก็ได้แต่นั่งๆนอนๆ พักผ่อนดูแลร่างกายของตัวเอง คอยดูสามีเลี้ยงลูก เขาลงทุนถึงขั้นให้พี่สงครามมาดูงานแทนที่บริษัทพี่สงครามคือลูกชายของเพื่อนพ่อเฮียอาวุธ เพื่อนที่สนิทสนมกันมานาน พี่สงครามกับเฮียก็เหมือนพี่น้องครอบครัวเดียวกัน"ต้องใส่แบบนี้ค่ะคุณอาวุธ" ตอนนี้อ้อมกำลังสอนเฮียใส่แพมเพิสให้ลูกอยู่ ฉันได้แต่นอนมองดูสามีที่ตั้งอกตั้งใจใส่แพมเพิสให้ลูกทั้ง 3 มันดูชุลมุนวุ่นวายดีจริงๆค่ะ เขาดูเก้ๆกังๆแต่ก็มีความพยายามที่จะทำให้ได้"แบบนี้ใช่ไหม?""ใช่ค่ะ ตัวหนังสือจะอยู่ด้านหลัง แล้ววางผ้าอ้อมทับไว้ตรงนี้""นมได้แล้วค่ะ" ป้าน้อยถือขวดนมขวดเล็กๆทั้ง 3 ขวดรีบวิ่งเอามาให้เฮีย เฮียเขาจะป้อนนมลูกเอง เขาให้ป้าน้อยช่วยจัดแจงการชงนมให้ลูกช่วย"ไปเอาเปลมาอ้อม""ค่ะ อีบุ๋มไปช่วยกูยกเปลหน่อยสิวะ" อ้อมสั่งคนใช้อีกคนแล้วเดินตรงขึ้นไปข้างบน ทุกคนช่วยกันทำโดยที่ฉันไม
โรงพยาบาลคนที่ตื่นเต้นมากที่สุด ตอนนี้คงจะเป็นเฮียนั่นแหละ เขานั่งลุ้นใจแทบขาด หลังจากที่พี่ธาดาให้พยาบาลพาฉันไปตรวจฉี่ เพื่อตรวจว่าฉันท้องจริงหรือเปล่า และที่สำคัญ มันแค่เดือนเดียวเองนะที่ฉันคืนดีกับเฮีย มันจะท้องเร็วอะไรขนาดนั้นเลยหรอ"เป็นไงบ้างวะไอ้ธาดา เมียกูท้องแฝดกี่คน""ไม่ค่อยจะมั่นใจในตัวเองสูงเลยนะไอ้อาวุธ ตอนนี้ยังดูไม่ได้หรอก ว่าเมียมึงท้องแฝดหรือไม่แฝด แต่ที่รู้ตอนนี้คือ เมียมึงท้องได้ 4 สัปดาห์แล้ว"เฮียและฉันต่างพากันยิ้มหน้าบานออกมาด้วยความดีใจ ที่สุดเขาก็มาจริงๆ ฉันเอามือลูบท้องตัวเองแล้วก้มดู เฮียหันมายิ้มแบบตื้นตันใจ ไม่ได้พูดอะไรออกมา"4 สัปดาห์เดือนเดียวเองนะพี่ธาดา มันจะท้องเร็วขนาดนั้นเลยหรอคะ?""เฮียก็บอกเธอแล้วไงว่าน้ำเฮียมันแรง เป็นไงแป๊บเดียวเธอก็ท้องแล้ว" เฮียยิ้มหน้าแป้นอย่างภาคภูมิใจพร้อมกับเอามือลูบที่หน้าท้องของฉัน ความเห่อลูกมาเต็มร้อยเลยค่ะ"สงสัยน้ำมันคงจะแรงจริงๆนั่นแหละ ดีใจด้วยนะไอ้อาวุธ ดีใจด้วยนะแสนดี พี่จะจัดยาบำรุงครรภ์ให้""กูฝากท้องเลยนะไอ้ธาดา ฝากพิเศษ เอาแบบพิเศษสุดๆ เสียกี่บาทกูก็พร้อมจ่าย เพื่อลูกเพื่อเมียกู""เมียมึงท้องหรือว่ามึงท้อง
หลังจากที่กลับมาจากมัลดีฟ ทุกอย่างในชีวิตของฉัน มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆรวมถึงตัวเฮียด้วยเฮียดูแลและเอาใจใส่ฉันมากขึ้นทุกวัน ไม่เคยลดน้อยลง และทำทุกอย่างที่เคยทำ ทำมันทุกวันไม่เคยเปลี่ยนแปลงจนบางครั้ง ฉันก็อิจฉาตัวเองที่ได้สามีดีอย่างนี้ เปลี่ยนจากคนละคนไปเลย ตอนแรกที่ไม่เคยรักไม่เคยเหลียวแล ตอนนี้ฉันกลับเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต เป็นทุกอย่างจริงๆเขาทำให้ฉันรับรู้ว่า เขารักฉันมากมายแค่ไหน โดยที่ไม่ต้องพูดคำว่ารัก ทุกอย่างมันสื่อชัดเจนออกมา จากการกระทำของเขาวันเวลาล่วงเลยผ่านไปอีก 1 เดือน ตอนนี้ฉันเริ่มเรียนหนักขึ้นกว่าเก่า เพราะใกล้จะสอบและใกล้จบปีที่ 3ฉันใส่ใจการเรียนมากกว่าเดิม มีท้อมีเหนื่อยแต่เฮียอาวุธจะอยู่ข้างๆฉันเสมอ เขาดีและใส่ใจทุกอย่างแม้กระทั่งทิ้งงานตัวเอง เพื่อมาทำงานส่งอาจารย์แทนฉันถ้าขึ้นปี 4 ฉันต้องฝึกงานที่บริษัทของเฮีย ไปที่อื่นไม่ได้หรอก.เฮียเขาหวงก้าง"แสนดีรายงานการบริหาร เฮียเอาไปตีเป็นเล่มให้แล้วนะ ตอนกลางวันเฮียจะเอาไปให้ที่มหาวิทยาลัย หลังจากที่เฮียประชุมตอนเช้าเสร็จ มันส่งทันใช่ไหม""ทันค่ะ แต่อย่าสายมากนะ" ฉันพูดไปพร้อมกับอ่านหนังสือเตรียมสอบไปด้วย ช่วงนี้ไ
แสนดี t a l k22:45 น.สิ่งที่ฉันเห็นในตอนนี้คือน้ำที่เรืองแสงของเกาะ มันสวยมากจริงๆ เฮียพาฉันมาเดินเล่นรอบๆชายหาดสีสวยเหมือนน้ำสวรรค์ เพียงแค่เอาเท้าสัมผัส มันก็ส่องแสงเปล่งประกายออกมาแล้ว"ชอบไหม?" เฮียกอดฉันจากทางด้านหลัง แล้วเอาหน้าแนบหูของฉันเบาๆ ทำไมฉันจะไม่ชอบล่ะ มันคือสวรรค์จริงๆที่ได้เห็น"ชอบมากค่ะ มันสวยมากจริงๆ แสนดีไม่เคยคิดเลยนะ ว่าเฮียจะพามาที่สวยๆแบบนี้""เฮียไม่เคยพาใครมาเลยนะ เธอเป็นคนแรกเลย อีกอย่างเฮียฝันว่า จะพาคนที่เฮียรักมาที่นี่ เพราะที่นี่มันคือสถานที่ที่สวย สวยเหมือนสวรรค์เลย" เฮียคลายกอดแล้วมองหน้าฉัน"มันก็คือสวรรค์จริงๆนั่นแหละ สวรรค์ของเราสองคน ขอบคุณนะคะที่พามา แสนดีจะจดจำมันให้ดีที่สุดเลย" ฉันยิ้มให้เฮียด้วยความจริงใจ ฉันมีความสุขจังที่ได้อยู่กับเขาแบบนี้"เธอคือความสุขของเฮีย แค่เธอยิ้ม เฮียก็มีความสุขแล้ว" เฮียจูบที่ลงที่หน้าผากของฉันเบาๆแล้วยิ้มให้เราสองคนยืนดูแสงของน้ำ ที่มันสาดส่องเปล่งแสงระยิบระยับสวยงาม ฉันได้เก็บภาพในวันนี้เอาไว้ในความทรงจำที่ลึก ลึกจนไม่สามารถลบล้างได้ ฉันรักวันนี้จัง รักช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเฮียแบบนี้ฉันคิดถูกแล้วล่ะที่ยกโทษ
แสนดีt a l kหลังจากที่ทุกอย่างมันผ่านไปด้วยดี ชาวประชาทั้งหลายต่างรับรู้แล้วว่า สามีของฉันยอมสยบแทบเท้าของแสนดีคนนี้ โลกโซเชียลเดี๋ยวนี้มันแรงจะตาย แป๊บๆคนก็รู้จักทั้งประเทศแล้วหนึ่งสิ่งที่ฉันอยากให้ทุกคนรับรู้คือ ไม่ว่าคนที่เรารักเขาจะทำผิดพลาดมากมายแค่ไหน ถ้ายกโทษให้กันได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่การให้อภัยมันก็ต้องดูด้วยว่า เรื่องราวความผิดของเขานั้น มันร้ายแรงแค่ไหน มันเกินกว่าที่จะให้อภัยได้ไหม ถ้าหากว่ามันมากไปเราก็ควรพอสำหรับฉัน การยกโทษให้กับสามีที่ทำผิดพลาด มันถือว่าเป็นเรื่องถูกต้องสำหรับตัวฉัน ไม่ว่าเรื่องราวในอดีตมันจะเป็นยังไง ฉันก็พร้อมที่จะลืมและเริ่มต้นใหม่ถ้าเขาสำนึกกับสิ่งที่ทำกลับตัวกลับใจ ฉันก็พร้อมที่จะให้อภัยเขาได้ทุกเมื่อเช่นกันทุกสิ่งทุกอย่างที่เฮียทำในวันนี้ มันบ่งบอกชัดเจนแล้วว่า เขายอมสยบแล้วจริงๆ ไม่งั้นเฮียคงไม่กล้ากราบเท้าฉันต่อหน้าทุกคนหรอกมันจะมีผู้ชายสักกี่คน ที่พร้อมก้มกราบแทบเท้าภรรยาต่อหน้าทุกคน โดยเฉพาะนักธุรกิจใหญ่อย่างเฮียอาวุธ เขาทำขนาดนี้แล้ว ถ้าฉันไม่ยกโทษให้ ฉันก็คงใจร้ายเกินไปแล้วฉันนั่งยิ้ม แล้วมองเฮียที่กำลังเดินไปหยิบกล่องอะไรบา
แสนดีt a l kตอนนี้ฉันมาถึงที่ผับแล้ว สิ่งแรกที่เห็น ก็คงจะเป็นบรรดาเพื่อนๆของเฮียอาวุธ เพื่อนของฉันดันมาเปิดโต๊ะข้างๆกับเพื่อนของเฮียอีกพิชชี่รู้จักกับเฮียฮาดิส มันก็เป็นธรรมดาที่นางจะมาเปิดโต๊ะใกล้ๆกับโต๊ะพี่ชายของนางตั้งแต่เข้ามานั่งที่โต๊ะ ฉันกับเพื่อนก็เริ่มคุยกันตามปกติ เพื่อนๆของเฮีย พากันจ้องมองพวกฉัน สลับกันไปมา ราวกับเป็นนักโทษของพวกเขาพวกเขามองพวกฉันแบบไม่คลาดสายตา แล้วก็มองเซบาสเตียนเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ"เพื่อนเฮียมองหน้ากูแปลกๆว่ะ จ้องจนกูจะท้องอยู่แล้ว" ฉันหันไปกระซิบกระซาบเพื่อนๆ พวกมันต่างพากันมองไปที่โต๊ะของเพื่อนเฮียอาวุธ"ก็อย่างว่าแหละ มึงเป็นเมียเพื่อนพวกพี่เขา นี่มึงควงฝรั่งมาแบบนี้ พวกเขาก็ต้องมองเป็นธรรมดา" มันก็จริงเพราะพวกเพื่อนเซบาสเตียนมาตั้ง 2-3 คน เขาคงต้องมองกันเป็นธรรมดา"นี่ ไอ้หมากฝรั่ง อย่าอยู่ใกล้เพื่อนฉันมากนะ เดี๋ยวตีนลอยขึ้นมา จะหาว่าไม่เตือน" สไปรท์เดินมาแทรกกลางระหว่างฉันกับเซบาสเตียน คงเพราะเห็นสายตาของบรรดาเพื่อนๆเฮียด้วยละมั้ง"เธอนี่ไม่มีมารยาทเลยนะ ไม่น่าเรียนมาถึงมหาวิทยาลัย ตอนอยู่อนุบาล ครูประจำชั้นไม่เคยสอนเรื่องมารยาทหรอ?""สอน