Share

ทะเลาะ

last update Last Updated: 2025-02-21 18:48:00

เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด

ทะเลาะ

*****

“ไม่ใช่ค่ะ  คุณไม่ใช่แม่ของฉัน  แม่ของฉันตายไปตั้งนานแล้ว คุณควรที่จะรู้เอาไว้ด้วย” เมิ่งหลันตอบกลับ แบบไม่ยินยอมเช่นกัน เอาสิ หยาบมาหยาบกลับไม่โกง

เมื่ออี๋นั่วได้ยินอย่างนั้น ก็ถึงกับโมโหมาก นังเด็กคนนี้ไม่เคยมีปากเสียงกับเธอมาก่อน อะไรกันที่ทำให้คนคนนี้เปลี่ยนไป 

“ที่ฉันมาในวันนี้  ก็แค่จะมาถามหาความกตัญญูกับเธอเท่านั้นแหละ ได้ข่าวว่ามีเงินไปซื้อของมากมาย ไหนจะซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆอีก เธอไม่เคยจะคิดถึงพ่อของเธอบ้างเลยหรอ ช่างอกตัญญูเสียจริง” นางอี๋นั่ว ใช้ความกตัญญูมาบีบบังคับเมิ่งหลันตลอดและที่ผ่านมาก็มักจะได้ผลเสมอ

“ให้ฉันกตัญญูอะไรเล่าคะ คุณลืมไปหรือเปล่า  ว่าลูกผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ก็เหมือนน้ำที่สาดออกหน้าบ้าน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก” เธอใช้ข้อนี้เป็นข้ออ้าง ไม่ใช่ว่าร่างเก่าไม่รักพ่อของเธอ แต่เธอนั้นไม่มีอะไรจะให้เท่านั้นเอง 

“นี่หล่อน” อี๋นั่วถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว ได้แต่ยืนชี้นิ้วจนตัวสั่นด้วยความโกรธ

“แล้วก็อีกอย่างนึง คุณพ่อท่านเป็นหัวหน้าครอบครัวหาเลี้ยงพวกคุณทั้ง 3 คน โดยที่พวกคุณไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยทำอะไรกัน พวกคุณหรือเปล่าที่สมควรจะต้องกตัญญูต่อพ่อของฉัน” หลิวเมิ่งหลันตอบกลับแบบไม่สนใจใคร จะโกรธก็โกรธไปสิ ใครขอร้องให้มาถูกด่ากันล่ะ

“พี่เมิ่งหลัน ทำไมพี่พูดจารุนแรงกับแม่ล่ะคะ อย่างน้อยแม่ก็เลี้ยงพี่มานะ พี่ก็ควรจะกตัญญูต่อแม่ด้วย” ซิงอี พูดขึ้นมา เพื่อที่จะให้เมิ่งหลันได้สำนึก ว่าอย่างน้อยแม่ของเธอก็เลี้ยงเมิ่งหลันมาด้วยเหมือนกัน

“เลี้ยงฉันมาให้เป็นคนใช้ รองมือรองเท้าพวกเธอน่ะหรอ หรือว่าฉันแต่งออกมา 3 ปีนี้พวกเธอความจำเสื่อมไปหมดแล้ว ว่าเคยทำอะไรกันไว้บ้าง” เมิ่งหลันพูดอย่างไม่ยินยอม ถึงร่างเก่าจะยอมถูกกดขี่มากแค่ไหนแต่ไม่ใช่กับเธอ คนแบบนี้ดีด้วยไม่ได้หรอก 

“พี่จำผิดหรือเปล่าคะ พวกเราไปกดขี่พี่ตอนไหนกัน กินก็กินเหมือนกัน  นอนก็นอนเหมือนกัน พี่เปรียบเทียบจากอะไรคะ” ซิงอีก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน เธอลอยหน้าลอยตาพูด

“กินเหมือนกันหรอ พวกเธอกินข้าวกินเนื้อ แต่ฉันกินเศษข้าว เนื้อสักชิ้นก็ไม่เคยได้กิน  พวกเธอนอนตื่นสายแต่ฉันต้องตื่นแต่เช้า ฟ้ายังไม่สว่างด้วยซ้ำ  เพื่อที่จะหาข้าวหาน้ำให้พวกเธอได้กิน ถ้าฉันไม่ทำฉันก็จะถูกตี แถมไม่ให้กินข้าวอีกต่างหาก นี่น่ะหรือที่เรียกว่าเหมือนกัน” หลิวเมิ่งหลันเอาความจริงแต่เก่าก่อนมาพูด จากความทรงจำที่ได้รับมานี่มันยิ่งกว่าแรงงานทาสเสียอีก

“พี่เมิ่งหลัน พี่จะพูดเกินจริงไปหรือเปล่าคะ  ใครเขาจะทำแบบนั้นกัน แม่น่ะรักพี่เหมือนลูกแท้ๆ ยังเคยบอกให้ฉันมาคอยดูแลพี่อยู่เลย เพราะเห็นว่าพี่อยู่กับเด็กแค่ 3 คนสามีก็ไม่มี แม่น่ะกลัวว่าพี่จะไม่มีข้าวกินเสียด้วยซ้ำ” เธอแก้ตัวออกไป เพราะเห็นว่าคนบ้านข้างๆและใกล้เคียงเริ่มออกมายืนดู เธอเลยแสร้งเป็นผู้ถูกกระทำ

“คอยมาดูแล  หรือคอยมาหาเรื่องกันแน่  มาแต่ละครั้งก็มาทำร้ายเด็กๆ มาทำร้ายฉัน ที่ฉันทนมาตลอดก็เพราะว่าไม่อยากให้พ่อเสียใจ แม้กระทั่งตอนนี้พวกเธอก็ยังมาหาเรื่องฉันอยู่เลย” ตัวเมิ่งหลันเองก็เห็นชาวบ้านออกมามุงดูเหมือนกัน จึงจะคิดหาวิธีแก้เผ็ดสองแม่ลูกนี้

“ขอร้องล่ะอย่ารังแกพวกเราแม่ลูกอีกเลยนะ ถือว่าสงสารเด็กตาดำๆ ไหนเคยบอกว่าพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันยังไงล่ะ” พอสิ้นเสียงเมิ่งหลันก็หงายท้องลงไปนั่งที่พื้น 

“อย่าทำฉันเลยค่ะ สงสารฉันเถอะ ถ้าฉันเจ็บป่วยขึ้นมาใครจะดูแลลูกฉันล่ะคะ” เมิ่งหลันหยิกตัวเองให้เจ็บเพื่อที่จะได้มีน้ำตา  แล้วก็เหมือนว่าน้ำตาจะสั่งได้ ตอนนี้ได้ไหลลงสู่แก้มทั้งสองข้างแล้ว

“นี่พี่ลงไปนั่งทำไมฉันไม่ได้ทำอะไรพี่เลยนะ” เมื่อซิงอีเห็นแบบนั้นก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก เธอหันซ้ายหันขวาเพื่อดูว่าจะมีใครมาเห็นหรือเปล่า เธอกลัวว่าใครจะมาเข้าใจผิดว่าเะอนั้นมารังแกพี่สาว 

“จะไม่ทำอะไรได้ยังไง  ก็เมื่อกี้เธอผลักพี่ชัดๆ” เมิ่งหลันยังยืนยันว่าตัวเองโดนผลัก

แล้วชาวบ้านที่ได้ยินก็ต่างนินทาและต่อว่า สองคนแม่ลูก ก็เห็นอยู่ว่าเมิ่งหลันล้มลงไปถ้าไม่ถูกผลัก แล้วจะล้มได้ยังไงกัน

“พอเห็นว่าหล่อนมีอาหารมีเสื้อผ้าใส่ก็จะมาแย่งชิงเอาสิ”

“เมื่อก่อนนี้ก็เหมือนกันชอบมาทำร้ายเมิ่งหลัน”

“ใช่ๆแม้แต่เด็กก็ยังทำร้าย” 

เมื่อสองคนแม่ลูกได้ยินคำที่ชาวบ้านพูดซุบซิบนินทากัน ก็ได้แต่มองหน้ากัน และหันกลับไปมองหน้าของเมิ่งหลัน ก็ได้เห็นว่าเมิ่งหลันนั้นยักคิ้วเยาะเย้ยให้กับพวกเธอ  

“นี่หล่อน  มันจะมากเกินไปแล้วนะ” อี๋นั่วหลงกลเมิ่งหลัน

“อย่าทำอะไรหนูเลยนะคะหนูยอมแล้ว” เมิ่งหลันก้หน้าร้องไห้ขอร้อง

“ใคร ใครเขาจะทำอะไรหล่อน  มีแต่หล่อนนั่นแหละทำตัวเอง” อี๋นั่วทนไม่ไหวเลยตะคอกออกไป 

“พอสักทีเถอะ อี๋นั่ว  เธอจะรังแกเมิ่งหลันไปถึงไหนกัน ฉันอยู่บ้านติดกัน ฉันรู้ฉันเห็นมาตลอด พวกเธอกลับไปได้แล้ว” ป้าหวังเข้ามาระงับเหตุการณ์ เธอที่ได้ยินว่าเมิ่งหลันมีเรื่องเธอก็รีบออกมาทันที

“นี่ยายเฒ่าหวังอย่ามายุ่งกับครอบครัวของคนอื่นเขาได้ไหม” อี๋นั่วดุให้กับป้าหวังที่เข้ามายุ่งเรื่องของเธอ

“ฉันไม่ได้ยุ่ง ฉันแค่สงสารเมิ่งหลันกับเด็กๆแค่นั้นเอง” ป้าหวังตอบออกไป

“แม่คะพวกเรากลับกันก่อนเถอะค่ะสถานการณ์ตอนนี้พวกเราเสียเปรียบนะคะ” ซิงอีกระซิบบอกแม่ของเธอ  อี๋นั่วมองไปรอบๆก็เห็นจริงดั่งที่ลูกสาวว่า 

“วันนี้ฉันจะกลับไปก่อนแล้วกัน แล้วก็อย่าลืมล่ะเธออย่าอกตัญญูกับพ่อเธอให้มากนัก มีกินมีใช้ก็ไม่เคยจะนึกถึงคนเป็นพ่อ” แล้วทั้งสองก็เดินสบัดหน้าออกไป 

“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมจ๊ะเมิ่งหลัน” ป้าหวังถามด้วยความเป็นห่วง 

“ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะขอบคุณป้าหวังแล้วก็ทุกๆคนมากเลยนะคะ” เมิ่งหลันก้มหัวขอบคุณ

“ไม่เป็นไรหรอกพวกเราอยู่ใกล้กัน  ก็ต้องเป็นหูเป็นตา  ช่วยดูแลซึ่งกันและกัน” ป้าหวังออกหน้าแทนทุกคน 

“เข้าบ้านไปได้แล้ว เดี๋ยวเด็กๆจะเรียกหาเอาได้” ป้าหวังยังคงใส่ใจเสมอ

“ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” แล้วเมิ่งหลันก็หันหลังกลับเข้าบ้านไป พร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่มีใครได้เห็น 

..................

เป็นไงบ้างคะฝีปากน้อง  

นางอ่านนิยายมาเยอะค่ะ 

เลยรู้ว่าต้องจัดการแม่เลี้ยงกับน้องสาวแบบไหน 

ฝากติดตามด้วยนะคะ 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   พวกเราคือครอบครัว…

    พวกเราคือครอบครัว…สี่ปีต่อมา…หลังจากวันที่เมิ่งหลันคลอดลูกชายฝาแฝด ก็ผ่านมามานานหลายปีแล้ว การเลี้ยงดูลูกของเธอช่างวุ่นวายเป็นอย่างมาก ดีที่เหอตี้ออกจากงานมาช่วยเธอดูแลร้าน ไม่อย่างนั้นเธอเองคงไม่มีเวลาพัก การเลี้ยงลูกถึงสี่คนไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยฟางหลินและเหวินหลงนั้น ดีที่โตพอจนรู้ความแล้ว ตอนนี้อายุก็เข้าปีที่สิบแล้ว หนูน้อยฟางหลินในตอนนี้ความงดงามนั้นเปล่งประกายมากถึงจะยังเด็กอยู่ก็ตาม จนทำให้คุณพ่อนั้นหวงมากเป็นพิเศษ เพราะยิ่งโตหน้าตาก็ยิ่งเหมือนกับคนเป็นแม่ส่วนแฝดน้องเหวินหลงเองก็ใช่ย่อย ความหล่อเหลาก็ไม่ได้แพ้ใคร ในทุกวันที่ไปโรงเรียนมักจะมีสาวน้อยมอบขนมให้อยู่เสมอ จนทุกวันนี้สหายมู่มู่ที่ไปโรงเรียนด้วยกันไม่ต้องเสียเงินซื้อขนมเลยส่วนแฝดชาย หวังจางหมิ่น และหวังเจียวจิ้นนั้น ตอนนี้ก็อายุสี่ขวบแล้ว ซึ่งความซุกซนไม่ต้องพูดถึง ขนาดที่ว่าเมิ่งหลันจ้างพี่เลี้ยงมาเพิ่ม ทั้งสองคนก็ยังหลุดลอดสายตาออกไปซนที่อื่นได้ “จางหมิ่น เจียวจิ้น แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามออกมาเล่นข้างนอกแบบนี้” เมิ่งหลันที่ออกมาเจอลูกๆของเธออยู่ที่ด้านนอกพอดี จึงอดที่จะดุไม่ได้“แม่ครับ พวกเราไม่อยากอยู่ในบ้าน” เ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   ออกมาแล้ว…

    ออกมาแล้ว…“หลันหลัน คุณไม่ต้องกลัวนะครับ” เหอตี้ผู้เป็นสามีปลอบใจภรรยาอยู่ที่ข้างเตียง วันนี้เป็นวันที่คุณหมอนั้นนัดผ่าคลอดให้กับเมิ่งหลัน เพราะว่าเธอนั้นมีความเสี่ยงจึงต้องใช้วิธีการผ่าคลอดแทนการคลอดธรรมชาติ“เหอตี้คะ ฉันกลัวจังเลยค่ะ” เธอบอกสามีออกไป นี่คือการคลอดครั้งแรกของเธอ เธอจะไม่กลัวได้อย่างไร ถึงแม้ว่าเมิ่งหลันคนก่อนจะเคยคลอดลูกแต่มันก็ไม่ใช่เธออยู่ดี“ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะครับ หมอที่นี่เก่งอยู่แล้ว คุณนอนพักก่อนดีกว่า” เมื่อเหอตี้เห็นว่าภรรยานั้นมีความเครียดจึงอยากให้เธอได้พักผ่อน“แล้วสองแฝดอยู่ที่ไหนหรือคะ” เมิ่งหลันถามหาลูกทั้งสองคน เพราะเธอมารอคลอดตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ก็ยังไม่ได้เจอหน้าลูกเลย“อยู่กับน้าอี้ฝานครับ สองแฝดไม่มีงอแงเลย พูดจารู้เรื่องมาก แค่บอกว่าแม่กำลังจะมาคลอดน้องพวกเขาก็เข้าใจ” เหอตี้เมื่อเช้านี้ได้กลับไปที่บ้านและพูดเรื่องนี้ให้สองแฝดฟัง ซึ่งทั้งสองก็เข้าใจ และบอกว่าจะรอแม่และน้องอยู่ที่บ้าน“คุณจะรอฉันที่ด้านนอกใช่หรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันถามสามีเมื่อมองเวลาแล้วไกล้ที่จะเข้าห้องคลอดเต็มที“ผมจะรอคุณอยู่ข้างนอกห้องคลอดแน่นอน ผมรับรองเลยว่าเมื่อคุณออกมา คุ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   งานแต่งงานของพี่ใหญ่เหอซาน

    งานแต่งงานของพี่ใหญ่เหอซาน…วันนี้เป็นวันที่เมิ่งหลันนั้นต้องมาตรวจครรภ์เป็นครั้งที่สอง และการตรวจก็เป็นไปด้วยดี การเติบโตของทารกในครรภ์นั้นดีมากทีเดียวและอีกเรื่องที่ทำให้หลิวเมิ่งหลันและหวังเหอตี้ ต้องตกตะลึงกันอีกครั้ง นั่นก็คือในท้องของเมิ่งหลันนั้นมีลูกน้อยถึงสองคน นั่นก็หมายความว่าในตอนนี้เมิ่งหลันนั้นกำลังท้องลูกแฝดอีกครั้งนั่นเองแต่การแพทย์ในยุคสมัยนี้ก็ไม่สามารถตรวจได้ว่าเจ้าก้อนแป้งที่กำลังนอนอยู่ในท้องของเมิ่งหลันนั้นเป็นเพศไหน จะเป็นชายชาย หญิงหญิง หรือหญิงชาย ก็ไม่อาจรู้ได้ ถึงแม้เจ้าก้อนแป้งทั้งสองจะแข็งแรงดี แต่เมิ่งหลันก็ยังอดเป็นกังวลไม่ได้ เธอกลัวการคลอดลูก เธอกลัวว่าจะไม่สามารถคลอดลูกออกมาได้อย่างปลอดภัย เหอตี้ที่รับรู้ได้ถึงความกังวลก็ได้แต่ปลอบใจภรรยา ไม่ว่าอย่างไรเขาจะหาหมอที่มีฝีมือที่สุดมาทำคลอดให้ภรรยาให้ได้“เดี๋ยววันนี้ผมจะพาคุณไปเที่ยวนะครับ” เหอตี้เอ่ยขึ้นเมื่อพากันออกมาจากในโรงพยาบาลหลังจากที่ตรวจการตั้งครรภ์เสร็จแล้ว“คุณจะพาฉันไปที่ไหนหรือคะ” เมิ่งหลันเองก็เดาไม่ถูก เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เธอก็ยังไม่ได้ออกไปที่ไหนแบบจริงจังสักที เพราะเธอทุ่มเทเวลาใ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   คู่มือการเลี้ยงลูก

    คู่มือการเลี้ยงลูก…หลังจากที่ทุกคนรู้ข่าวเรื่องการท้องของเมิ่งหลันก็ยินดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบ้านใหญ่หวัง แม่เหอที่รู้ข่าวก็ไปสรรหาของบำรุงต่างๆมาให้เมิ่งหลันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโสมหรือรังนกก็ตาม“ฉันต้องขอบคุณคุณแม่มากเลยนะคะสำหรับของบำรุงพวกนี้” เมิ่งหลันบอกแม่สามี ถึงแม้เธอจะรู้ว่าของพวกนี้ดีมีสรรพคุณมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะกินมันได้ เพราะเมื่อครั้งก่อนที่แม่เหอก็ฝากให้เหอตี้เอามาให้เธอทาน พอเธอทานเข้าไปถึงกับอาเจียนไม่ยอมหยุด “ไม่เป็นไรเลยจ้ะ เธอต้องกินมันให้หมดนะ หลานของฉันจะได้ออกมาแข็งแรง” แม่เหอบอกด้วยรอยยิ้ม “ว่าแต่เจ้าใหญ่ จะแต่งงานเมื่อไหร่ดีล่ะ เหอตี้มีลูกแซงหน้าไปแล้วนะ” แม่เหอเอ่ยถามลูกชายคนโต ที่ตอนนี้สานสัมพันธ์กับคู่หมั้นได้อย่างราบรื่น“แล้วคุณแม่ว่ายังไงล่ะครับ พร้อมที่จะไปสู่ขอสะใภ้ใหญ่ได้หรือยัง” เหอซานหันมาถามแม่ของตนบ้างแม่เหอที่ได้ยินแบบนั้นก็ตาโตทันที นี่เจ้าใหญ่ของเธอกำลังบอกให้ไปขอภรรยาให้เขาใช่หรือไม่“นี่ลูกพูดจริงใช่ไหม เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่กับพ่อจะได้ไปพูดเรื่องนี้กับบ้านกงแต่เช้าเลย” “555” เหอซานอดที่จะยิ้มขำแม่ของตนไม่ได้ คงอยากได้สะใภ้มากเลยถ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   สองแฝดจะมีน้อง

    สองแฝดจะมีน้อง…“ท้อง???”“คุณหมอช่วยพูดอีกครั้งได้หรือเปล่าคะ” เมิ่งหลันที่ต้องการได้ยินอีกครั้ง ว่าอาการที่เธอเป็นนั้นเป็นโรคอะไรกันแน่ เธอไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม“คนไข้ไม่ได้ป่วยเป็นอะไรนะครับ อาการที่เป็นอยู่ เป็นอาการของคนท้องเท่านั้นครับ” หมอเองได้ตรวจซ้ำถึงสองรอบจากการจับชีพจร ซึ่งผลที่ออกมาก็เหมือนกันทั้งสองครั้งและเขาเองก็มั่นใจเป็นอย่างมากเมิ่งหลันคิดว่ากลับบ้านไปเธออาจจะเรียกเอาชุดทดสอบการตั้งครรค์ออกมาตวจอีกสักครั้ง เพื่อความแน่ใจ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ไว้ใจหมอในยุคนี้หรอกนะ แค่เธออยากมีโมเม้นท์ขึ้นสองขีดแบบคนอื่นบ้างเท่านั้นเอง“แล้วไม่ทราบว่าตอนนี้ฉันท้องกี่เดือนแล้วหรือคะ” เมิ่งหลันเองก็แอบงงเหมือนกัน ทั้งที่เธอเองก็กินยาคุม แล้วลูกของเธอนั้นทะลุยาคุมออกมาได้ยังไงกัน หรือยาที่เธอกินจะหมดอายุนะ แต่ก็ไม่น่าใช่“ประมาณ เดือนกว่าได้แล้วครับ ช่วงนี้คุณก็ดูแลตัวเองให้ดีด้วยนะครับ ของหนักก็ห้ามยกเพราะมันจะเสี่ยงต่อการแท้ง ส่วนในเรื่องของอาหารก็ให้ทานอาหารที่มีประโยชน์ทั้งเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ และก็อย่าลืมดื่มนมด้วยนะครับ อ้อ…และอีกอย่างเรื่องบนเตียงช่วงนี้ก็ให้งดไปก่อนนะครับจนกว่าจะมีอ

  • เมื่อฉันต้องมาเป็นคุณแม่ลูกแฝด(ยุค70)   เมิ่งหลันป่วย???

    เมิ่งหลันป่วย???วันนี้เป็นวันที่ห้าแล้ว ที่เมิ่งหลันและคนงานช่วยกันบรรจุของเพื่อทำถุงยังชีพ และทุกวันก็จะทำได้ประมาณหนึ่งพันชุดทุกวัน“คุณเมิ่งหลันคะ วันนี้มีคนมาโวยวายที่หน้าร้านอีกแล้วค่ะ” ซูเหวินเข้ามารายงานเมิ่งหลัน เพราะหลายวันมานี้มีคนต้องการมาซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง แต่ทางร้านไม่สามารถเปิดขายให้ได้ เพราะต้องนำไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน นั้นจึงสร้างความไม่พอใจกับลูกค้าบางคน“แล้วได้บอกเหมือนที่ฉันสั่งไว้หรือเปล่าจ๊ะ” เมิ่งหลันเองให้ลูกจ้างทุกคนนั้นบอกลูกค้าไปตามความจริง ว่าทางร้านไมาสามารถขายสินค้าให้ได้ ให้ไปหาซื้อที่อื่นก่อน “บอกแล้วค่ะ….” ทั้งสองพูดกันไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงดังโวยวายกันอยู่ที่ด้านนอก“เฮอะ ที่ไม่ยอมขายข้าวให้พวกฉัน เป็นเพราะว่าจะเอาไปขายให้กับทางการใช่หรือเปล่าล่ะ” เสียงลูกค้าที่เป็นสตรีเอ่ยขึ้น“ไม่อยากขายให้พวกเราก็พูดมาตรงๆเถอะ ไม่ต้องอ้างทางการหรอก มันน่าอาย” เธอยังพูดไม่หยุด“ทำมาเป็นบอกว่าเอาไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน ฉันเองก็เดือดร้อนเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องให้ของพวกนี้กับฉันด้วย” ผู้หญิงทืี่มาด้วยกันเอ่ยขึ้น“ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเราก็ไม่มีเงินมากพอที่จะซ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status