คาลอสทำงานอยู่เบื้องหลังทั้งหมดของอัคราฟเพราะแบบนั้นเขาจึงค่อนข้างคาดหวังว่าคู่แข่งทางธุรกิจของเขาจะมีคฤหาสน์ที่แสนหรูหราและใหญ่โตให้สมกับเงินทุนจำนวนมากที่แอเรียนาลงทุนไปในการคว้านซื้อที่ดิน แต่นี่มันตรงกันข้ามกับที่เขาคิดอย่างสิ้นเชิง
คฤหาสน์แอเรียน่านั้นมีขนาดเล็กและเก่ามาทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็ดูสะอาดสะอ้าน เท่าที่เขาคาดคะเนด้วยสายตาที่นี่มีข้ารับใช้เพียงสามคน มีพ่อบ้านวัยชราและแม่บ้านอีกสองคน ส่วนอีกคนที่เดินวุ่นวายไปมาเขาเคยเห็นนางผ่านตามาบ้าง นางคือเพนนีเป็นตัวแทนของเลดี้แอเรียนา ในการตกลงซื้อขายที่ดินและอสังหาต่างๆ หัวใจของคาลอสเต้นแรงขึ้นมา ดัชเชสแอเรียนาเป็นสตรีที่งดงามเพราะอย่างนั้นเขาก็เลยคาดหวังถึงใบหน้าของเลดี้แอเรียนาว่านางน่าจะมีความงดงามที่เหมือนกับมารดาของนาง ก้าวแรกที่เขาเดินเข้าไปในบ้านหลังเล็กแห่งนี้ คาลอสคิดว่าเขาตาฝาดไป.. เขามองเห็นรูปปั้นที่วิจิตรมามากมาย ผลงานของจิตรกรลือชื่อก็ถูกเขาซื้อมาไม่น้อย แต่คาลอสบอกได้เลยว่าทั้งภาพวาดและรูปปั้นเหล่านั้นไม่มีสิ่งใดเลยที่จะดูสมบูรณ์แบบได้เท่ากับสตรีที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าของเขา โอฟีเลีย แอเรียนา นางไม่เคยปรากฏตัวในแวดวงสังคมชนชั้นสูงมาก่อน แถมในการค้านางก็ไม่เคยเข้าร่วมการประชุมใดๆ เลย มีเพียงเพนนีเท่านั้นที่ทำงานแทนนางหมดทุกอย่าง ทุกคนต่างกระหายและใคร่รู้ว่าเลดี้แอเรียนาผู้แสนเก่งกาจและมองขาดเรื่องของราคาที่ดินนั้นจะมีรูปโฉมงดงามเฉกเช่นท่านดัชเชสรึเปล่า แล้ววันนี้เขาก็ได้คำตอบว่าเลดี้แอเรียนาที่ทำตัวลึกลับผู้นั้นงดงามเหนือสตรีใดจักรวรรดิ นี่คือเหตุผลที่นางเก็บตัวเงียบรึเปล่านะ มันคือเหตุผลที่สตรีผู้นี้ไม่ยินยอมเปิดเผยใบหน้าของนางทั้งทางธุรกิจและแวดวงของสังคม เพราะว่านางสวยมาก..และในทันทีที่ใบหน้านี้ถูกเปิดเผยออกไป แน่นอนว่าเหล่าบุรุษจะต้องวิ่งเข้าหานางด้วยความบ้าคลั่งราวกับหมาล่าเนื้อ ดอกไม้งามที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้อย่างดีในเรือนกระจก มิเคยมีผู้ใดยื่นมือไปสัมผัสหรือว่าแตะต้อง แต่ในยามนี้ดอกไม้งามดอกนั้นกำลังจะตกเป็นของคนสารเลวอย่างเขาล่ะ คาลอสมีเรื่องตกใจมากมายไม่หยุดหย่อนและดูเหมือนดัชเชสจะเชื่ออย่างสนิทใจว่าเขาถูกนางล้างสมอง เพราะแบบนั้นนางจึงพูดคุยกับลูกสาวอย่างตรงไปตรงมาโดยคิดว่าเขาเป็นเพียงสิ่งของเท่านั้น สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของคาลอสคือเรื่องที่สตรีในตระกูลแอเรียนาจะมีความสามารถพิเศษในการหยั่งรู้ช่วงเวลาที่ตัวเองกำลังจะตาย เขาไม่ได้อยากจะคิดแบบนั้นแต่หรือว่าโอฟีเลียจะมีความสามารถในการหยั่งรู้ที่มากกว่าผู้อื่น เพราะแบบนั้นนางถึงได้ซื้อที่ดินตรงตำแหน่งที่มีแร่เพชรและแร่ทอง คราแรกเขาแค่สงสัย แต่เมื่อเขาสั่งให้คนลักลอบไปขุดดินบริเวณที่ดินของเลดี้แอเรียนาทุกแปลง มันเต็มไปด้วยแร่เพชรและทองเต็มไปหมด สตรีผู้นี้น่าสนใจมากจริงๆ คิดถูกแล้วที่เขามาที่นี่เพื่อเข้าหาเธอ.. ดอกไม้งามที่กำลังจะแย้มบานดอกไม้ ในบางทีมันอาจจะต้องร่วงหล่นก่อนที่จะได้บาน เพราะว่าเขาจะเด็ดดอกไม้ดอกนี้เอง โอฟีเลียยื่นมือมาผลักใบหน้าของคาเซลออกไปเล็กน้อย “ข้ามีงานที่จะต้องไปทำ และในยามนี้ข้าไม่ต้องการที่จะเรียนรู้เรื่องที่เจ้าจะสอนหรอกนะ” น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความโกรธเล็กน้อยราวกับลูกแมวที่กำลังขู่และพองขนเพื่อทำให้ผู้อื่นหวาดกลัว “ตามบัญชาครับคุณหนู” เขาอุ้มเธอขึ้นมาอีกครั้งแล้วพาเธอเดินไปที่ห้องทำงาน เอกสารมากมายวางอยู่บนโต๊ะและโอฟีเลียหยิบมันขึ้นมาอ่านอย่างสุขุมทีละแผ่น บรรยากาศการทำงานของเธอเงียบสงบมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้ สตรีตัวเล็กๆ ที่แค่เขาบีบคอเธอเบาๆ เธอก็น่าจะไม่รอด ในความงดงามที่เย้ายวนนั้น มันกลับมีความเข้มแข็งเก็บซ่อนอยู่ เพราะต้องปกป้องมารดาที่เหมือนกับคนเสียสติสินะ โอฟีเลียถึงได้ต้องเข้มแข็งมากกว่าคนอื่นที่อายุเท่ากัน นางอายุ18 ปี เลดี้ที่อายุเท่านี้ส่วนใหญ่จะต้องเคร่งเครียดเรื่องการหาสามีแต่โอฟีเลียกลับไม่สนใจในเรื่องนั้น เขาเดินเข้าไปนั่งลงบนพื้นพรมก่อนจะซบใบหน้าลงบนตักของเธอพร้อมกับยกแขนขึ้นโอบกอดรอบเอวเล็กๆ นั่นอาไว้ แก้มของโอฟีเลียเปลี่ยนเป็นสีเข้มจัด ฉันไม่รู้ว่าจะรับมือกับตัวร้ายคนนี้อย่างไรดี การที่เขายึดติดและเข้าหาฉันขนาดนี้มันเป็นเพราะเวทมนตร์ของท่านแม่ จะว่าไปเขาก็น่าสงสารมากทีเดียว ในนิยายเรื่องครอบครัวของตัวร้ายค่อนข้างโหดร้ายมากพอสมควร เขาผ่านความยากลำบากมาเพื่อให้ตัวเองเหมาะสมกับตำแหน่งผู้สืบทอดของท่านเคาน์ แล้วยังมาถูกท่านแม่ล้างสมองอีก “คาเซล..เจ้ามีครอบครัวรึเปล่า?” เธอถามออกมาด้วยสายตาที่เป็นห่วงเป็นใย คาลอสเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้างามนั้นก่อนที่เขาจะซบใบหน้าลงไปบนตักของเธออีกครั้ง “ไม่รู้สิครับ ข้าจำเรื่องในอดีตไม่ได้ แต่ในยามนี้ไม่ใช่ว่าคุณหนูคือคนในครองครัวของข้าอย่างนั้นหรือครับ” โอฟีเลียยื่นมือตบลงไปบนแผ่นหลังของเขาเบาๆ ราวกับว่าเธอกำลังปลอบโยนเขาอยู่ “เอาแบบนั้นก็ได้ จากนี้ไป ข้าคือคนในครอบครัวของเจ้าแล้วนะ” เพราะอย่างนั้นหากว่าความทรงจำของเจ้ากลับคืนมาก็ช่วยไว้ชีวิตของข้ากับท่านแม่ด้วยนะคาลอส ริมฝีปากของคาลอสแสยะยิ้มขึ้นมาด้วยความเจ้าเล่ห์ เขาคิดว่ามันแปลกๆ ตั้งแต่แรกแล้วที่เธอตั้งชื่อให้เขาว่าคาเซล ที่มันเหมือนกับชื่อจริงๆ ของเขา แล้วในตอนที่เธอสบตากับเขาครั้งแรกแววตาของสตรีผู้นี้ก็มีความตื่นตระหนกมากกว่าปกติ ถึงแม้จะไม่แน่ใจ แต่โอฟีเลียน่าจะรู้จักเขาอย่างแน่นอน คำถามคือเธอรู้จักเขาได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่เคยเปิดตัวในแวดวงการค้าหรือว่าแวดวงสังคมเลย เขาใช้ชื่อปลอมทุกครั้งที่ซื้อหรือว่าขายที่ดิน.. หรือว่านี่คือความสามารถในการหยั่งรู้ของเธอ..ให้ตายเถอะยิ่งรู้จักก็ยิ่งอยากได้ซะแล้วสิ และหากว่าเขาไม่ได้ครอบครองสตรีที่เต็มไปด้วยความสามารถเช่นเธอ หากว่าเธอรักกับบุรุษผู้อื่นหนทางเดียวที่เขาจะต้องทำคือการสังหารเธอซะ ความฉลาดที่มากมายและความสามารถในการหยั่งรู้ว่าโอฟีเลียจะเป็นภัยต่อเขาอย่างแน่นอนหากว่าดอกไม้งามดอกนี้ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น.. เขาควรจะรีบทำให้เธอเป็นของเขาโดยเร็วที่สุด เมื่อคิดได้ดังนั้นปลายนิ้วของคาลอสก็สอดลึกเข้าไปในกระโปรงของโอฟีเลียอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เธอดิ้นหนีไมได้แล้วเพราะว่าเขากำลังกอดเอวและซบใบหน้าลงไปบนตักของเธออยู่ “คะ..คาเซล!” “ช่วยอยู่นิ่งๆ สักครู่ได้ไหมครับ ข้าได้กลิ่นหอมหวานออกมาจากตรงนี้..ขอข้าลิ้มรสมันสักหน่อยเถอะนะครับ”อีกสามเดือนต่อมาหลังจากที่องค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีทรงจัดงานอภิเษก อย่างยิ่งใหญ่ ก็มีงานแต่งงานของเลดี้ แอเรียนาและเคาน์แห่งอัคราฟในปีนั้นถือเป็นปีที่มีงานที่แสนยิ่งใหญ่หลายงานมากทีเดียว“ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าจูเลียนจะตั้งครรภ์ก่อนเรา พระเจ้าช่วยนี่ข้ากำลังรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังพ่ายแพ้ต่อมาร์โค”ข่าวการตั้งครรภ์ของจักรพรรดินีถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการหลังจากพิธีอภิเษกผ่านพ้นไปเพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้น คาลอสแทบจะนั่งไม่ติดเพราะเขาคิดว่าเขาน่าจะมีบุตรคนแรกก่อนองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีที่ไม่ได้แต่งงานกันด้วยความรัก แต่มันกลับกลายเป็นว่าจูเลียนตั้งครรภ์ก่อนโอฟีเลีย หรือว่าร่างกายของเขามันจะมีปัญหากันนะ?โอฟีเลียมองสามีของเธอด้วยความรู้สึกนึกขำอยู่ในใจ“เอาน่า เดี๋ยวถึงเวลาที่เหมาะสมลูกของเราก็น่าจะมาเอง ท่านไม่เห็นต้องกังวลอะไรเลยนี่คะที่รัก..”หลังกล่าวจบเธอก็หอมแก้มเขาด้วยความมันเขี้ยว ฤดูหนาวผ่านพ้นไปแล้วถึงสองฤดูแต่ท่านแม่ของเธอยังคงสุขภาพแข็งแรงดีอยู่ หลังจากที่จูเลียนแต่งงานท่านแม่ก็เริ่มกลับมาเข้าสังคมอีกครั้งหนึ่ง และในยามนี้ท่านแม่ของเธอคือท่านหญิงเอเวียที่เก่งกาจเรื่องกา
ครั้งแรกที่เขามองเห็นใบหน้านั้น เมื่อเขามองทอดออกไปยังสวนของวิหารศักดิ์สิทธิ์ เขามองเห็นสตรีผู้หนึ่งซึ่งมีเรือนผมสีทองสว่าง เธอกำลังฮัมเพลงในขณะที่มือทั้งสองข้างจับไม้กวาดแล้วเริ่มกวาดใบไม้ในสวนที่แสนกว้างใหญ่ของวิหารศักดิ์สิทธิ์ สตรีผู้นั้นคือบุตรนอกสมรสของเซอร์เกรท เธอคือนางเอกของเรื่องนี้ และใบหน้านั้นแสนงดงามสมกับตำแหน่งนางเอกของเรื่องนี้จริงๆ เขาไม่เข้าใจว่าเขาเข้ามาอยู่ในร่างขององค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ที่มีอนาคตจะต้องตายได้อย่างไรกัน แต่ในเมื่อเขาเข้ามาอยู่ในนิยายที่เคยอ่านเช่นนั้นเขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะหาทางเอาชีวิตรอดความตาย เขาคิดแบบนั้นจนตัวเองได้ลิ้มรสการมีอำนาจในครั้งแรก ใช่แล้ว..คนจำนวนมากก้มหัวให้เขาในช่วงเวลาที่เขาเดินผ่าน คำสรรเสริญเยินยอพวกนั้นทำให้เขารู้สึกมีความสุขกับตำแหน่งองค์จักรพรรดิ และนั่นทำเขารู้สึกโลภขึ้นมา เขาอยากจะอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั่นทำให้เขาใช้ความคิดมากมายเพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นองค์จักรพรรดิต่อไป และคนที่เขาจะสามารถพึ่งพาได้นั่นก็คือจูเลียน นางเอกของเรื่องนี้ ความประทับใจจากครั้งแรกที่เราพบเจอกันนั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย
เช้าวันรุ่งขึ้นมีการเรียกประชุมสภาขุนนางอย่างเป็นการเร่งด่วน แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาเมื่อคืนทำให้ชาวบ้านต่างเรียกร้องให้มีการผลัดเปลี่ยนองค์จักรพรรดิ อีกทั้งเรื่องกำหนดระยะเวลาของการครองราชย์องค์จักรพรรดิตัวแทนอย่างองค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์ก็เลยกำหนดมามากแล้ว เหล่าขุนนางมองเห็นความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าขององค์รัชทายาท การแสดงตัวเพื่อปกป้องและเยียวยาผู้เสียหายทำให้เหล่าขุนนางอดชื่นชมความเก่งกาจและมีน้ำใจของพระองค์มิได้“กระหม่อมคิดว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะที่จะจัดงานราชาภิเษกขึ้นมา จะได้เรียกความเชื่อมั่นในราชวงศ์ของประชาชนกลับมา..”คาลอสเข้าร่วมประชุมในฐานะของท่านเคาน์แห่งอัคราฟ เขากำลังมองดูท่าทีขององค์จักรพรรดิซิลเวสเตอร์อยู่ พระองค์มิกล่าวคำใดออกมาเลยแม้แต่ครึ่งคำ เพราะเรื่องราวที่กำลังกดดันพระองค์อยู่นี้มันทำให้พระองค์หาวิธียืดเยื้อต่อไปอย่างยากลำบาก“พวกท่านอย่าพึ่งกดดันเสด็จอาเลยครับ เรื่องพิธีราชาภิเษกรออีกหน่อยก็ได้ ระหว่างนี้พวกเราก็ช่วยกันจับตาดูพวกชาวบ้านไม่ให้ลุกฮือขึ้นมาต่อต้านราชวงศ์ก็พอ..”คำกล่าวนั้นของมาร์โคถึงแม้ว่าจะเต็มไปด้วยความเจียมตัวแต่มันคือการเน้น
มาร์โคเดินกลับมาที่แอเรียนาอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับเนื้อย่างเสียบไม้ในมือ ที่สวนด้านหน้าของคฤหาสน์เขามองเห็นเพียงแค่เลดี้แอเรียนาเท่านั้น“นักบุญหญิงผู้นั้นนางหายไปไหนแล้วครับ..ข้าซื้อของมาฝากนางด้วย อ่อ..แล้วก็มีในส่วนของเลดี้ด้วยนะครับ”โอฟีเลียสูดลมหายใจเขาลึกๆ“เรามาพูดคุยกันแบบตรงไปตรงมาดีไหมเพคะองค์รัชทายาท”น้ำเสียงและท่าทีของเธอมันเริ่มเปลี่ยนไปในทันที นั่นทำให้มาร์โครับรู้ได้เลยว่าจะต้องมีเรื่องที่เคร่งเครียดรอเขาอยู่อย่างแน่นอน“ได้เลยครับ เลดี้มีเรื่องอะไรจะกล่าวก็พูดแบบตรงไหนตรงมาได้เลย..”โอฟีเลียไม่อ้อมค้อมเธอเริ่มพูดคุยเรื่องราวที่อัดแน่นอยู่ในใจออกไปเพื่อให้มาร์โคได้รับฟังอีกด้านหนึ่งของงานเทศกาล คาลอสพาจูเลียนเดินทางไปยังท่าเรือของแอเรียนา เขาส่งนางขึ้นเรือด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง“ข้าจะไปรับเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เพราะอย่างนั้นดูแลตัวเองให้ดี..ให้เวลาเป็นเยียวยาในทุกความเจ็บปวดของเจ้า.”จูเลียนพยักหน้า เธอยกมือขึ้นมาแล้วโอบกอดท่านพี่คาลอสเอาไว้“ข้าจะกลับมาอีกครั้งในวันที่พี่ทั้งสองคนแต่งงานกันนะคะ..พี่คู่ควรกับท่านพี่โอฟีเลียผู้งดงามของข้ามากจริงๆ ทั้
จูเลียนใช้หลังมือเช็ดน้ำตา เธอเงยหน้าเล็กน้อยเพื่อมองบุรุษที่ด่าเธอ และเมื่อเห็นใบหน้าของบุรุษผู้นั้นเธอก็ขมวดคิ้วในทันทีองค์รัชทายาทมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน เธอไม่พร้อมและไม่อยากจะพบเจอเขาในยามนี้เลย“ยื่นมือมาสิ ข้าจะช่วยพยุงเจ้าเอง”เขายื่นมือมาให้เธอเพื่อให้เธอวางมือลงบนมือของเขา แต่จูเลียนไม่คิดทำเช่นนั้น เธอพยุงตัวเองเพื่อลุกขึ้นด้วยตัวเอง“ขอบพระทัยเพคะ..หม่อมฉันสบายดี เพราะอย่างนั้นขอตัวก่อนนะเพคะ”มาร์โคมองนักบุญหญิงที่ปกตินางจะดูน่ารักและสดใสอยู่เสมอในยามที่นางอยู่ข้างกายของท่านอา แต่ทว่าในวันนี้นางกลับร้องไห้ออกมาเสียงดังอย่างไม่อายใคร คงเพราะว่านางไม่คิดว่าจะมีคนอื่นอยู่ที่นี่อย่างนั้นสินะ“ข้าไปด้วยสิ ดูจากที่เจ้ากำลังมุ่งหน้าเดินทางออกไปจากพระราชวังแล้ว แสดงว่าเจ้าจะต้องกำลังออกไปเที่ยวงานเทศกาลอย่างแน่นอน ข้าก็อยากไปที่นั่นอยู่เหมือนกัน ดูสิข้าอุตส่าห์ปลอมตัวมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะเลยนะ..พาข้าไปด้วยสิ”เธอมองหน้าเขาอย่างชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง“พระองค์...มีเงินไหมเพคะ..”มาร์โคหัวเราะออกมาเบาๆ“มีสิ มีเยอะมากพอสมควรเลย พาข้าออกไปแล้วข้าจะให้เงินเจ้าเอง อยากซื้ออะไรข้าจะซื้อ
“ดูเหมือนว่าข้าจะติดค้างคำขอบคุณกับท่านบารอนนะคะ ข้าขอขอบคุณที่ท่านพาข้าไปที่กลุ่มการค้าเทอรัน และขอโทษด้วยสำหรับการหลอกลวงท่าน..”บอกตามตรงว่าในใจของลีออนเขาไม่ได้อยากได้รับคำขอบคุณจากเธอเลยเพราะมันหมายความว่าเรื่องราวของเราทั้งสองคนมันจบลงแล้วยังไงละ“เลดี้จะกลับไปหาเขาอย่างนั้นหรือครับ”โอฟีเลียไม่ได้ตอบคำถามนั้นของลีออน เธอส่งยิ้มให้เขาแทนคำตอบ“หากว่าท่านบารอนมีสิ่งใดอยากให้ข้าช่วยเหลือก็บอกกล่าวมาได้เลยนะคะ ข้ายินดีที่จะช่วยเหลือท่านอย่างเต็มที่”ลีออนขบเม้มริมฝีปากแน่น เขามองหน้าเธอด้วยความรู้สึกเจ็บปวดอย่างไร้ที่มา อีกฝ่ายไม่ได้ผิดเลยสักนิดเดียวที่ปฏิเสธ เพราะความรู้สึกของใครก็ต้องให้คนคนนั้นรับผิดชอบเอาเอง เธอไม่ผิดที่ไม่รักเขา แต่เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายผิดที่เขาดันไปรักเธอและคาดหวังในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้“ครับ..หากมีเรื่องที่ต้องการช่วยเหลือข้าจะไปหาเลดี้นะครับ ท่านเองก็เช่นกันหากว่าท่านมีเรื่องใดให้ข้าช่วยเหลือ..”หากว่าในวันข้างหน้าชายผู้นั้นหลอกลวงและทำให้เธอเจ็บปวดอีก“ก็มาหาข้านะครับ”โอฟีเลียก้มหน้าลงเล็กน้อย“ขอบคุณท่านบารอนมากนะคะ ข้าขอขอบคุณท่านจากใจจริงๆ”เธอกำลังท