บทที่ 10 ไปเดทกันเถอะ

เขาเริ่มเสียใจที่มาที่นี่แล้ว เขาคงจะไม่ทำอย่างนั้น ถ้าเขารู้ว่าโทมัสทำให้พวกลาร์สันขุ่นเคือง

เฟย์สังเกตว่าเขาอยู่ในตำแหน่งที่ยากลำบาก ดังนั้น เธอจึงกัดฟันและพูดไปว่า “อีธาน คุณยังคิดหาวิธีช่วยชีวิตน้องชายของฉันไม่ได้ใช่ไหมคะ?”

“ใช่ อีธาน คุณเป็นคนฉลาดมาก แต่ช่วยทอมมี่ไม่ได้เลยเหรอ?” รูบี้ถามอย่างกังวล

เวนถอนหายใจและพูดอย่างเศร้าโศกไปว่า “ตระกูลลาร์สัน เป็นตระกูลแรกในวอลซ์ที่มีอิทธิพลเหนือเกินกว่าที่เปรียบเทียบได้ อย่าทำให้อีธานต้องลำบากอีกต่อไปเลย ความผิดของลูกชายเป็นหน้าที่ของคนเป็นพ่อ ฉันผิดเองที่ไม่เลี้ยงทอมมี่ให้ดี ตอนนี้เขากำลังมีปัญหา มันเป็นภาระของฉันที่ต้องแบกรับ ฉันจะไปหาตระกูลลาร์สันส์ และกล่าวคำขอโทษ ฉันจะรอข้างนอกและขอโทษด้วยความหวังว่าการกระทำของฉันจะส่งผลถึงพวกเขาได้!”

ความคิดหนึ่งเข้ามาในหัวของอีธาน เขาตบต้นขาแล้วพูดว่า “อย่ากังวลไปเลยฟีฟี่ คุณคาร์เตอร์ คุณนายคาร์เตอร์ ผมจะไม่ปล่อยให้ตัวเองยืนอยู่เฉย ๆ และไม่ทำอะไรเลย! ผมยังคงมีสถานะบางอย่างในเมืองวอลซ์ ถ้าผมพูดด้วยตัวเอง ผมเชื่อว่าตระกูลลาร์สันจะแสดงความเคารพต่อผมเช่นกัน”

“จริง ๆ เหรอคะ?” ดวงตาของเฟย์เป็นประกาย

เวนและรูบี้ตื่นเต้นมาก “มันดีมาก อีธาน เราจะจดจำความช่วยเหลือของคุณที่มีต่อเรา!”

อีธานรู้สึกภูมิใจ ขณะที่เขามองดูใบหน้าอันวิจิตรงดงามของเฟย์ เขาไม่สามารถรักษาความคิดของเขาไม่ให้วิ่งหนีได้ และคำพูดก็หลุดจากปากของเขา “อย่างไรก็ตาม ผมมีเงื่อนไขข้อเดียว ผมหวังว่า ฟีฟี่จะตกลงที่จะออกเดทกับผมหลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว”

เมื่อพูดไปอย่างนั้น อีธานก็รู้สึกเสียใจในทันที เขาปล่อยให้ตัวเองพูดความคิด และความรู้สึกที่อยู่เบื้องลึกสุดในใจของเขาไปได้อย่างไร?!

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เฟย์ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ความรักบนใบหน้าของเธอก็หายไป สถานการณ์ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ราวกับว่าอีธานกำลังคุกคามเธอ ความประทับใจดั้งเดิมของเธอที่มีต่อเขาสูง แข็งแกร่ง และทรงพลังได้เปลี่ยนไป

เวนและรูบี้ขมวดคิ้วเล็กน้อยเช่นกัน

“ก็ได้” เฟย์พยักหน้าและพูดว่า “ตราบใดที่คุณสามารถช่วยน้องชายของฉันได้ ฉันยินดีที่จะออกเดทกับคุณ”

อีธานรีบพูดว่า “อย่าเข้าใจผมผิด ฟีฟี่ ผมแค่ล้อเล่น แม้ว่าคุณจะไม่ออกเดทกับผม ผมก็จะยังช่วยน้อยชายของคุณอยู่ดี”

เฟย์ฝืนยิ้ม “อืม ต่อให้คุณไม่พูด ฉันก็จะยังไปเดทกับคุณค่ะ”

เธอกำลังจะเสียสละร่างกายเพื่อครอบครัว ดังนั้น เธอคงไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ทำไมมันถึงสำคัญล่ะ ถ้าเธอจะไปเดทกับอีธาน?

เซนอยู่ในรถ และดูการสนทนาที่ใกล้ชิดระหว่างเฟย์และอีธานจากระยะไกล พวกเขาดูเหมือนคู่รักและทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เขาไตร่ตรองเป็นเวลานาน และพบว่าเขาไม่สามารถสงบลงได้ เขาตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าไปเช็คดูสถานการณ์ บางทีเขาอาจจะช่วยได้ด้วยซ้ำ

พวกเขาอยู่ที่ห้องโถงมีโต๊ะพูลสุดหรู เมื่อเฟย์และคนอื่น ๆ เข้าไป พวกเขาเห็นโทมัสคุกเข่าอยู่บนพื้น และเห็นได้ชัดว่าเขาถูกทุบตีไปบ้าง จมูกของเขาช้ำและใบหน้าของเขาบวมเปล่ง

เมื่อเห็นเฟย์ โทมัสร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด “ช่วยผมด้วย พี่เฟย์!”

ทันทีที่เขาพูด ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เตะเขาลงกับพื้น ชายหนุ่มพูดจาอย่างดุร้าย “ฉันจะฆ่านายถ้า ถ้านายยังจะตะโกนอีกครั้ง!”

รูบี้ให้ท้ายโทมัสมาตลอด เธอรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังจะสิ้นใจ เมื่อเห็นลูกชายของเธอถูกทุบตีแบบนี้ น้ำตาของเธอไหลลงมา “ทอมมี่ ลูกชายที่น่าสงสารของฉัน… ”

เธออยากจะวิ่งไปหา แต่เวนคว้าตัวเธอไว้แน่น เขาดุเธอเบา ๆ “อย่าทำอะไรผลีผลาม! คุณกำลังพยายามจะฆ่าทอมมี่อยู่หรือไง?!”

รูบี้ยังตระหนักถึงความผิดพลาดของเธอ คงไม่เป็นการดีที่จะยั่วยุกลุ่มชายหนุ่มต่อหน้าเธอ โดยเฉพาะชายหนุ่มที่เล่นพูลอยู่อย่างสบาย ๆ เขาเปล่งออร่าอันทรงพลังออกมา เขาเป็นหัวหน้าแก๊งค์ และเธอคิดว่าเขาต้องเป็นนายน้อยลาร์สัน

เฟย์สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “สุภาพบุรุษ เป็นความผิดของโทมัสน้องชายของฉันที่ไม่รู้อะไรดีไม่ดี และทำให้พวกคุณขุ่นเคือง ฉันหวังว่าคุณสามารถแสดงความเมตตาและปล่อยให้น้องชายของฉันออกไปได้ ครอบครัวคาร์เตอร์ของเราจะขอบคุณคุณตลอดไปค่ะ!”

“เฮ้ นี่คือผู้หญิงที่น่ารัก เธอดูค่อนข้างสวยใช่ไหมล่ะ?!”

“ฉันไม่นึกเลยว่าเจ้าพังพอนนี่ จะมีพี่สาวที่สวยขนาดนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

พวกเขาแสดงท่าทีอย่างประหลาด เมื่อเห็นเฟย์ และเริ่มผิวปากไปหาเธอ

ที่จริงแล้ว บางคนถึงกับพยายามเข้ามาแตะต้องตัวเธอ มันทำให้เธอตกใจมาก จนรีบหลบหลังอีธาน “ช่วยฉันด้วย อีธาน!”

อีธาน บังคับตัวเองให้อดทนอยู่ในความเงียบ เขาจำได้ว่าชายหนุ่มสองสามคนมีอำนาจและอิทธิพลมาก ที่เขาไม่สามารถรุกรานได้ ทุกคนสามารถบีบคอเขาให้ตายได้ง่าย โดยเฉพาะชายหนุ่มที่เล่นพูล เขาเป็นลาร์สัน และชื่อของเขาคือ เอเดรียน เขาเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในที่นี้ด้วย!!

อีธานพบกับเอเดรียนเมื่อเดือนที่แล้ว และเขาตระหนักว่าแม้แต่พ่อของเขาเอง ก็ยังต้องยอมทำตามข้อเรียกร้องของเอเดรียน

อีธานชอบอวดดี แต่เขารู้ดีว่าเขายืนอยู่ตรงไหน สถานะของเขาไม่ได้สำคัญอะไรในสายตาของเอเดรียน ดังนั้น เขาจึงไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากเอเดรียนได้เช่นกัน

ยิ่งกว่านั้น เขาจะต้องโชคไม่ดีแน่ ๆ ถ้าเขาทำให้เอเดรียนต้องขุ่นเคือง

ในเวลานี้ เขาเริ่มหาทางหลบหนีแล้ว

อย่างไรก็ตาม การขอความช่วยเหลือจากเฟย์ ได้ครอบงำความรู้สึกของการเป็นชายมากยิ่งขึ้น และเขาเลือกที่จะต่อสู้เพื่อเฟย์ เขายืนตัวตรงโดยยกศีรษะขึ้นสูง และหน้าอกของเขาก็พองขึ้น “หยุดเถอะ” เขาสั่ง

เด็กรวยคนหนึ่งชี้ไปที่อีธานแล้วตะโกนว่า “แกเป็นใคร? กล้าดียังไงมาสั่งให้ฉันหยุด?”

อีธานกลืนน้ำลาย และส่วนหน้าของผู้ชายที่เขาพยายามอย่างมากที่จะรักษาให้จางหายไปในทันที เขาหยิบกล่องบุหรี่ออกจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เด็ก เขากล่าวอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนว่า “ท่านครับ ผมชื่อ อีธาน คาเปล และผมเป็นลูกชายของ โรเจอร์ คาเปล ประธานของซุส กรุ๊ป ผมอยู่ในแวดวงสังคมของ วอลซ์ ซิตี้ ด้วย”

“ซุส กรุ๊ป เหรอ?” เด็กรวยขมวดคิ้ว หันไปถามคนอื่น ๆ ว่า “เฮ้ พวกนายรู้จัก ซุส กรุ๊ป บ้างไหม?”

พวกเขาส่ายหัวเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย และไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนด้วยซ้ำ อีธานรู้สึกอับอายมากที่ ซุส กรุ๊ป ของตระกูลเขาไม่มีความหมายในสายตาของเด็กที่ร่ำรวยเหล่านี้เลย มันกลับเป็นเพียงบริษัทเล็ก ๆ เท่านั้น

“ฉันไม่แคร์หรอก ถ้าคุณมาจาก ซุส กรุ๊ป หรือ ดิวซ์ กรุ๊ป เลิกพูดจาไร้สาระ แล้วจ่ายเงิน 1.5 ล้านดอลลาร์ แล้วฉันจะให้คุณพาโทมัสไปด้วย หากคุณไม่มีเงิน 1.5 ล้านดอลลาร์ ก็แย่งไปสิ!” เด็กรวยพูดอย่างข่มแหง

อีธานก้มต่ำลงไปอีก “ท่านครับ ผมเป็นพี่เขยของโทมัส เขาไม่ใช่เด็กฉลาดและโง่เกินไปที่จะรู้จักผู้มีอำนาจ ผมสงสัยว่า เขาไปทำอะไรให้คุณขุ่นเคืองเหรอครับ?”

อีธานถ่อมตัวมากจนชายหนุ่มตัดสินใจควบคุมอารมณ์ เขาคำรามออกมาเบา ๆ และพูดว่า “คุณพูดถูก ขยะชิ้นนี้มันโง่มาก จนเขาคิดว่าเขาเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก หลังจากดื่มไปไม่กี่ครั้ง เขาปฏิเสธที่จะขอโทษ หลังจากวิ่งเข้าไปในลาร์สัน และยังมีความกล้าที่จะพูดจาหยาบคาย! ให้ฉันบอกอะไรพวกคุณให้นะ ถ้าพวกคุณทุกคนไม่สามารถจ่ายเงินค่าไถ่ 1.5 ล้านดอลลาร์ได้ในวันนี้ สามารถบอกลามือของเขาได้เลย!”

หลังจากที่เธอได้ยินดังนั้น รูบี้ก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนไปว่า “เขาเพิ่งจะพูดจาหยาบคายกับพวกคุณทุกคน คุณต้องทำถึงขนาดทุบตีเขาแบบนี้เลยเหรอ? นอกจากนี้ คุณขอเงิน 1.5 ล้านดอลลาร์ ทำไมไม่ไปปล้นธนาคารเลยล่ะ?!”

เข้าทางเข้า เอเดรียนก็พูดว่า “คุณพูดถูก ฉันแค่ปล้นคุณ ทำไม? ลูกชายของคุณกล้าพอที่จะเรียกฉันว่าไอ้สวะ! ตอนนี้ราคาขึ้นแล้ว เงินหนึ่งล้านห้าแสนดอลลาร์ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ดังนั้น แน่นอน คุณต้องจ่ายสองล้านดอลลาร์… ”

เมื่อมาถึงจุดนี้ เอเดรียนก็ยิ้มร้ายออกมา “คุณสามารถไปแจ้งความกับตำรวจได้ มาวางเดิมพันกันและดูว่ามันจะดีหรือไม่ดี อย่างไรก็ตาม อย่าโทษฉันที่ไม่ได้เตือนคุณล่วงหน้า เมื่อคุณแจ้งความกับตำรวจแล้ว ฉันจะทำมากกว่าแค่มือของเขา ฉันจะฆ่าเขาซะ!”

คำพูดของเขาทำให้เฟย์และคนอื่น ๆ ตัวสั่นด้วยความกลัว!

อีธานยังคงกลืนน้ำลาย เขาเสียใจที่เสนอความช่วยเหลือ และกำลังจะออกไปเมื่อเอเดรียนกวักมือเรียกเขาด้วยนิ้วของเขา เขาพูดด้วยท่าทีเย้ยหยัน “ปรากฎว่าคุณเป็นลูกชายของ โรเจอร์ คาเปล ใช่ไหม? มานี่สิ”

“คุณลาร์สัน… ” ขาของอีธานสั่นเทา แต่เขาไม่กล้าปฏิเสธ ใบหน้าของเขาซีดอย่างน่ากลัวจากความกลัว

อย่างไรก็ตาม ขณะที่อีธานเดินไปและเอเดรียนก็ตบไหล่เขา กำลังจะเริ่มพูด เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากประตู ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปในห้อง

ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซน

เอเดรียนผู้ซึ่งยังคงสง่างามเหมือนเช่นเคย จู่ ๆ ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อได้เห็นเซน ดวงดาของเขามีฉายแววความเคารพและชื่นชมจริง ๆ ออกมา!