Share

บทที่ 9 ทอมมี่เจ้าปัญหา

เซนกำลังยิ้ม แต่ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวยิ่งกว่าการที่เขาร้องไห้เสียอีก

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกอย่างเงียบสงัดอย่างน่ากลัว และผู้คนที่ยืนดูต่างก็ตกตะลึง เกิดอะไรขึ้น?

ในขณะนั้น หลายคนสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่เซนรู้สึกภายในใจของเขา และพวกเขาก็เห็นใจเขา ตรงกันข้าม เฟย์กลับเย็นชามากกว่าครั้งที่ผ่าน ๆ มา อันที่จริง เธอคิดว่าเซนกำลังแสดงละครอยู่ด้วยซ้ำ ดังนั้น เธอจึงยิ่งรังเกียจเขามากขึ้นไปอีก “อย่ากังวลไปหรอก ตลอดชีวิตที่เหลือของฉัน จะไม่มีทางเสียใจอย่างแน่นอน!”

เซนก้มหน้าลง และพบว่าตัวเองกำลังหลั่งน้ำตาอย่างควบคุมไม่ได้

เฟย์เยาะเย้ยโดยไม่แสดงความเห็นอกเห็นใจแม้แต่น้อย คำพูดสุดท้ายของเธอคือ “ฉันจะรอคุณที่สำนักงานทนายความการหย่า” เธอพูดอย่างเย็นชาและจากไปพร้อมการกระทืบเท้าอย่างรวดเร็ว

ผ่านไปซักพัก พนักงานขายผู้หญิงก็ถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณลาร์สันคะ คุณต้องการซื้อต่อหรือไม่คะ?”

เธอไม่กล้าพูดเสียงดัง ราวกับว่ามันจะทำให้เซนแตกสลายไปมากกว่าเดิม ความรู้สึกที่เซนที่ไหลออกมาในตอนนี้ คือความรู้สึกของแก้วที่เปราะบางอย่างยิ่ง ซึ่งพร้อมจะแตกเแม้โดนสัมผัสที่นุ่มนวลที่สุดก็ตาม

กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง เขาพูดว่า “กรุณาคืนเงินให้ด้วย”

“เอ่อ ได้ค่ะ… ”

เขาถือบัตรธนาคารที่เขาได้รับจากเฟย์ เซนรู้สึกว่ามันหนักเกินกว่าจะเปรียบเทียบได้ เขาไม่รู้ว่าเขาไปที่สำนักงานทนายความนั้นได้อย่างไร เขารู้สึกราวกับว่าวิญญาณของเขาถูกดึงออกจากตัวเขาไปแล้ว

ในสำนักงาน เฟย์เห็นเขาและไม่ต้องการเสียเวลาพูดคุยแม้เล็กน้อย เธอหยิบใบหย่าออกมาวางตรงหน้าเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “เซ็นซะ”

ในมือของเขา ปากการู้สึกเหมือนหนักหนึ่งพันตัน เขาต้องการขอร้องให้เฟย์ไม่คิดจะหย่า ถ้าจำเป็นเขาก็เต็มใจที่จะเป็นทาสของเธอ

เป็นเวลาสี่ปี ที่พวกเขาใช้เวลาทั้งวันและคืนร่วมกัน เซนตกหลุมรักเธออย่างไม่อาจเพิกถอนได้

ชื่อของเฟย์ถูกเขียนและลงนามในใบหย่าแล้ว เธอทำมันโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เธอจะได้ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับเขาอีกต่อไป

เซนรู้สึกเหมือนเขาเป็นคนตลก หลังจากได้รับมรดกมูลค่าเจ็ดพันล้านดอลลาร์ เขาคิดว่าเขาจะทำให้เฟย์เป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกได้ แต่กลับพบว่าเขามันเป็นเพียงการเพ้อเจ้อไปเท่านั้น เฟย์ปฏิเสธที่จะให้โอกาสเขาอย่างสิ้นเชิง

เขาหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เขากัดฟันเพื่อเตรียมเซ็นเอกสาร โทรศัพท์ของเฟย์ก็ดังขึ้นในทันใด

“สวัสดีค่ะ? อะไรนะ? โทมัสกำลังมีปัญหาเหรอ? ได้ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

เฟย์ไม่ได้คิดเรื่องหย่าอีกแล้ว เธอรีบเดินออกไปด้วยสีหน้ากังวล

เซนรู้สึกประหลาดใจ น้องชายของเฟย์กำลังมีปัญหางั้นเหรอ?

เขาตอบสนองอย่างรวดเร็วด้วยการไล่ตามเฟย์ไปทันที “ฟีฟี่ เกิดอะไรขึ้นกับน้องชายของคุณ มันเรื่องจริงใช่ไหม?”

เฟย์พูดอย่างกังวลใจไปว่า “ฉันไม่รู้รายละเอียดของสถานการณ์ แต่แม่บอกว่าโทมัสทำเรื่องใหญ่โต และตอนนี้เขากำลังถูกกักตัว ฉันจะไปดูสถานการณ์ก่อน!”

โทมัส คาร์เตอร์ เป็นน้องชายแท้ ๆ ของเฟย์ และยังเป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย ในเกือบทุกวันเขาไม่ค่อยกลับบ้าน และเขามักจะทำตัวประมาณเวลาอยู่ข้างนอก เซนรู้ดีว่าโทมัสจะมีปัญหาไม่ช้าก็เร็วอย่างแน่นอน เนื่องจากอารมณ์ของเขา

เฟย์ ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะวางสาย “สวัสดีค่ะ อีธาน ตอนนี้คุณว่างไหม?”

เซนมีท่าทีที่ซับซ้อนเมื่อเขาได้ยินชื่ออีธาน

ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงของอีธานกรอกมาจากปลายสายอีกด้าน “ฟีฟี่ ตอนนี้ผมกำลังเจรจาธุรกิจกับลูกค้าอยู่ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณต้องการผม ผมสามารถทิ้งทุกอย่างได้ทันที”

เฟย์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นกับปฏิกิริยาของเขา อีธานติดตามเธอมาหลายปีแล้ว เพื่อที่จะซื่อสัตย์ต่อเซน เธอจึงรักษาระยะห่างจากอีธานเสมอ ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ อีธานเหนือกว่ามาก!

เธอรีบบอกอีธานเกี่ยวกับเหตุการณ์ไป “อีธาน ถ้าคุณไม่ว่าง คุณไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ค่ะ”

อีธานแสร้งทำเป็นไม่พอใจและพูดว่า “เฮ้! ฟีฟี่ คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง? เรื่องของคุณก็คือเรื่องของผมเช่นกัน น้องชายของคุณก็เป็นน้องชายของผมเช่นกัน ดังนั้น ผมไม่สามารถที่จะอยู่เฉย ๆ หรือ ไม่เสนอตัวไม่ช่วยคุณได้ ผมจะรีบไปหาคุณเดี๋ยวนี้!”

เฟย์ตอบด้วยความรู้สึกซาบซึ้งว่า “ขอบคุณนะอีธาน”

เธอวางสาย เซนแสดงออกมาอย่างไม่พอใจมาก เขาไม่สามารถหยุดตัวเองจากการพูดได้ว่า “เฟย์ โทมัสกำลังมีปัญหาก็จริง แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องโทรหาคนนอกเพื่อขอความช่วยเหลือ ผมสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้”

สภาพจิตใจของเฟย์เพิ่งจะเย็นลง แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเซน อารมณ์ของเฟย์ก็พังลงในทันที เธอรู้สึกกระวนกระวายเมื่อเห็นเขา เธอเพิกเฉยต่อการปรากฏตัวของเขาก่อนหน้านี้เพราะเธอกำลังตกใจและตอนนี้เธอสงสัยว่าหนอนไร้กระดูกอย่างเขา เข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร

“เซน ฉันสังเกตว่าในตัวคุณ คุณไม่มีความสามารถที่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย แต่ดูเหมือนว่าคุณจะสามารถทำตัวกดทับผู้อื่นอยู่ตลอดเวลาได้อย่างสมบูรณ์แบบ! เป็นเรื่องใหญ่ที่แม้แต่พ่อของฉันยังไม่สามารถรับมือได้ แล้วคุณเป็นใครถึงจะจัดการเรื่องนี้ได้” เฟย์พูดอย่างเย้ยหยัน

เซนอยากจะตอบเฟย์ไป แต่เฟย์ก็พูดขึ้้นมาก่อนอีกครั้ง “หุบปาก ฉันไม่อยากได้ยินเสียงคุณ เมื่อไปถึงที่นั่น อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันไม่ต้องการให้อีธานเข้าใจผิด”

เซนก้มศีรษะของเขาลงและกำหมัดแน่น ความเศร้าโศกอันแสนสาหัส ทำให้เขากดเล็บจนเข้าไปในเนื้อของเขา

เฟย์ขับรถไปอย่างรวดเร็ว และไปถึงที่หมายภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที

“ตายจริง! ฟีฟี่ อะไรทำให้คุณใช้เวลานานขนาดนั้น? เรากังวลกันจนจะแย่อยู่แล้ว”

ที่ประตู พ่อตาของเซน เวน และแม่ยายรูบี้ เข้ามาหาพวกเขาด้วยความกังวลบนใบหน้า

เฟย์ตอบไปว่า “สถานการณ์ของโทมัสเป็นอย่างไรบ้างคะ? คนอื่น ๆ อยู่ที่ไหน?”

เวนกัดฟันพูดออกมาว่า “ไอ้ลูกสารเลวนั่น ตาบอดจนเขาจำเหตุการณ์อะไรสำคัญไม่ได้เลย และเขาทำให้คนในตระกูลลาร์สันต้องขุ่นเคือง พวกเขามาเอาตัวเขาไปแล้ว! พวกเขาต้องการให้เราจ่ายค่าไถ่ 1.5 ล้านดอลลาร์ เพื่อแลกกับตัวโทมัส!”

“อะไรนะคะ? หนึ่งล้านห้าแสนดอลลาร์เหรอคะ?” เฟย์อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ

เวนพูดด้วยสีหน้าขมขื่น “ใช่แล้ว ครอบครัวคาร์เตอร์ของเราอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก เราจะจ่ายเงิน 1.5 ล้านดอลลาร์ได้อย่างไร?”

“เห็นได้ชัดเลยว่า พวกเขากำลังแบล็กเมล์เรา เราไม่สามารถแจ้งเรื่องนี้กับตำรวจทราบได้เลยหรอคะ?” เฟย์พูดอย่างโมโห

“ฟีฟี่ อย่าโง่สิ!” เวนพูดอย่างกังวลในขณะที่เขารีบปิดปากเฟย์ เขามองไปรอบ ๆ ห้องด้วยความกลัวว่าจะมีใครได้ยินเธอ และปล่อยมือออก เมื่อเขาแน่ใจว่าพวกเขาปลอดภัย เขากล่าวด้วยความหวาดกลัวไปว่า “นี่คือตระกูลลาร์สันนะ ตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในเมืองวอลซ์ เป็นผู้มีอิทธิพลอย่างน่าสะพรึงกลัว พวกเขาสามารถทำลายตระกูลคาร์เตอร์ของเราได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส! ถ้าเราไปแจ้งความกับตำรวจ เราจะไม่ได้เห็นโทมัสอีกเลย ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับตำรวจแล้วทำอะไรกับพวกลาร์สันไม่ได้”

เฟย์เบิกตากว้างอย่างแปลกใจ “พวกลาร์สันมีอำนาจขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”

ความกลัวที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในสายตาของเวน “พ่อคิดว่าลูกคงไม่สามารถอธิบายถึงพวกเขาแบบหยั่งลึกได้หรอก”

ทันใดนั้น เฟย์ก็จำได้ว่าเซนก็เป็นลาร์สันเช่นกัน บางทีเขาและพวกลาร์สัน… เธอปัดความคิดนั้นทิ้งไปทันทีที่มันผุดขึ้นในใจเธอ! เธอบ่นกับตัวเองว่า ‘ฉันกำลังคิดอะไรอยู่? เซนที่ไร้ประโยชน์นั้นจะเกี่ยวข้องกับตระกูลลาร์สันที่ทรงพลัง และไม่มีใครแตะต้องได้อย่างไรกัน?’

รูบี้พูดอย่างกังวลว่า “แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี? เราไม่สามารถแจ้งความกับตำรวจได้ และเราไม่สามารถจ่ายเงิน 1.5 ล้านดอลลาร์ได้เช่นกัน เราทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอดูอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อทอมมี่ถูกทุบตี? ฉันไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ฉันทำไม่ได้!”

ดวงตาของเฟย์ก็แดงเช่นกัน เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เธอก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงคำรามของเครื่องยนต์รถที่มาจากระยะไกล หลังจากนั้นไม่นาน Lamborghini สีเหลืองก็หยุดอยู่ข้าง ๆ เฟย์หลังจากทำการดริฟท์ที่สวยงามแล้ว

“ฟีฟี่ ผมขอโทษที่มาช้า”

ชายรูปงามสง่างามลงจากรถอย่างยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก อีธาน คาเปล เขาดูเหมือนประธานบริษัทที่มีอำนาจเหนือกว่า และดึงความสนใจของผู้หญิงหลายคนรอบตัวเขา ประกายไฟพุ่งออกมาจากดวงตาของพวกเขา รวมถึงของเฟย์ด้วย หัวใจของเธอเต้นแรง เพราะอีธานดูน่าดึงดูดทีเดียว

รูบี้เบิกบานทันทีที่เห็นอีธาน “อา อีธาน นั่นคุณ! ตอนนี้คุณอยู่ที่นี่แล้ว ทอมมี่ก็สามารถปลอดภัยได้แล้ว!”

ยิ่งรูบี้จ้องมองอีธานมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้นเมื่อเห็นเขา เขาดีกว่าเซนที่ไร้ประโยชน์มาก ในอดีตเธอน่าจะยอมให้เฟย์แต่งงานกับเขา!

“ใช่ คุณนายคาร์เตอร์ ผมกำลังอยู่ในระหว่างทำข้อตกลงพอดี แต่ผมขอถอนตัวออกมาก่อนหลังจากได้รับสายจากฟีฟี่ และรีบมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” ขณะที่เขาพูด เขาหันกลับมามอง Lamborghini อย่างภาคภูมิใจ จริง ๆ แล้ว รถคันนี้เขาเช่ามาเพียงเพื่อที่เขาจะได้อวดผู้คนได้ ในความเป็นจริงแล้ว รถที่เขาขับเป็นรถ BMW

เฟย์หน้าแดงเมื่อได้ยินแบบนั้น

“โอ้ ใช่ คุณและคุณนายคาร์เตอร์ เกิดอะไรขึ้นกับโทมัส?” อีธานถามไปด้วยความมั่นใจ เขายังคงมีอิทธิพลอย่างมากในพื้นที่นี้ นอกจากนี้ โทมัสยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอีกด้วย เขาสามารถรุกรานนักเรียนจากตระกูลที่มีอำนาจ หรือพวกอันธพาลได้มากที่สุดก็แค่นั้น เขาจะมีปัญหามากแค่ไหนกัน?

อย่างไรก็ตาม สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากทันที ที่เวนบอกเขาว่าโทมัสทำให้พวกลาร์สันขุ่นเคือง!

ตระกูลลาร์สันนั้นแข็งแกร่งที่สุดในเมืองวอลซ์! เขาไม่สามารถทำให้พวกเขาขุ่นเคือง แม้ว่าอิทธิพลของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่าก็ตาม!

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status