LOGIN"เพราะพวกเธอมานอนในเล้าไก่ แม่ไก่จึงตกใจหนี ดังนั้นต่อไปห้ามมานอนที่นี่อีก!!"
ห้ามมานอนที่นี่ เซียวอี้เหยาขบกรามแน่นในเขตรั้วบ้านนอกจากตัวบ้านและเล้าไก่ ก็ไม่มีที่ใดให้พวกเขาพี่น้องใช้หลบลมหลบน้ำค้างแล้ว มารดาผู้นี้ไม่ให้เขากับน้องสาวนอนที่นี่ต้องการให้พวกเขาหนาวตายหรืออย่างไร
"แม่... ข้างนอกหนาวมาก ขอหยาหยากับพี่ชายนอนที่นี่เถอะนะคะ พวกเราจะนอนนิ่งๆ ไม่รบกวนแม่ไก่ในเล้า"
เซียวอี้หยาอ้อนวอนทั้งน้ำตา ไหล่เล็กสั่นไหว สะอื้นเสียงเบาในลำคอ ราวกับกลัวว่าหากร้องไห้เสียงดังไปอาจทำให้มารดาตรงหน้าไม่พอใจมากขึ้น ซูหย่าฉินที่เห็นภาพนี้ในใจก็สั่นไหวจนสองตาร้อนผ่าว แต่ต้องฝืนกลั้นอดทนเอาไว้แล้วบอกพวกเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ไม่ได้! รีบตามแม่ออกมาเดี๋ยวนี้!!"
เพราะกลัวว่าการต่อต้านต่อรองจะยิ่งทำให้มารดาขุ่นเคืองใจ และอาจพาลให้ถูกทุบตีเหมือนทุกครั้ง เด็กทั้งสองจึงเดินออกจากเล้าไก่ตามมารดามาหยุดที่หน้าประตูบ้าน ไม่กล้าก้าวเข้าไป ซูหย่าฉินที่เดินเข้าไปหยิบชุดใหม่จึงต้องเดินออกมาอีกหนแล้วยื่นชุดในมือให้เด็กทั้งสอง
"ฟ้ามืดอากาศเย็น แค่เช็ดตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าก็พอ"
เด็กทั้งสองมองดูผ้าชุดใหม่ในมือมารดาด้วยท่าทีลังเล ซูหย่าฉินสูดหายใจเข้าแล้วปรับสีหน้าเป็นจริงจัง ก่อนบอกเสียงเข้ม
"คำพูดของฉันพวกเธอฟังไม่เข้าใจหรือไร ไปเช็ดตัวให้สะอาด เปลี่ยนผ้าแล้วเข้าไปนอนในห้อง ให้ดี!"
พูดจบมือเล็กก็หยิบชุดไปจากเธอในทันที ซูหย่าฉินถอนหายใจยาว ดูเหมือนว่าเธอต้องค่อยๆ ปรับเปลี่ยนท่าทีอย่างช้าๆ ไม่เช่นนั้นเด็กทั้งสองคนตรงหน้าคงหวาดระแวง และอาจกลายเป็นกำแพงความรู้สึกที่หนากว่าเดิม
ใช้เวลาไม่นานเด็กทั้งสองก็กลับเข้ามาในบ้าน ใบหน้าและเนื้อตัวที่ดูสะอาดสะอ้าน ร่วมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ซูหย่าฉินซื้อมา ทำให้เซียวอี้เหยาและเซียวอี้หยาดูสดใสน่ารักขึ้นมาในทันที แม้ว่าร่างกายจะซูบผอมไปหน่อยก็ตาม
"คืนนี้พวกเธอนอนอยู่ในห้อง หากฉันรู้ว่าใครแอบหนีออกมา พรุ่งนี้โดนดีแน่"
เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ หนีกลับออกไปนอนที่เล้าไก่ ซูหย่าฉินจึงต้องแสดงแกล้งทำเป็นข่มขู่คนเอาไว้ก่อน ่ทว่าถึงแม้ว่าเด็กทั้งสองจะเชื่อฟังไม่ออกไปจากห้อง แต่ก็ไม่ยอมมานอนบนเตียงอย่างที่เธอต้องการ เอาแต่ขดตัวอยู่ที่มุมข้างห้อง ซูหย่าฉินไม่อยากบีบบังคับพวกเขาจนเกินไปจึงเอาผ้าห่มในตู้ออกมาปูก่อนจะบอกเสียงราบเรียบ
"พื้นมันเย็น มานอนบนผ้านี่"
เซียวอี้หยามองผ้าห่มผืนหนาที่มารดาทั้งรักทั้งหวงแล้วกระถดตัวหนี ยังจำได้ดีว่าครั้งก่อนเธอแค่สัมผัสเบาๆ ก็ถูกตีจนเนื้อบนฝ่ามือแตก ครั้งนี้หากนอนไปทั้งตัวคงต้องถูกมารดาตีจนตายอย่างแน่นอน
"แม่หยาหยากับพี่ชายแข็งแรง พวกเราไม่หนาวค่ะ"
"ใช่! พวกเรานอนตรงนี้ได้"
ซูหย่าฉินสูดลมหายใจเข้าแล้วผ่อนออก ก่อนจะปรับสีหน้าให้จริงจัง ใช้สองมือเท้าเอวแล้วเอ่ยเสียงดุอีกครั้ง
"ต้องให้ฉันพูดอีกรอบหรือไม่!"
เห็นว่ามารดามีท่าทีไม่พอใจคนทั้งสองก็รีบเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนผ้าห่มหนาในทันที ความนุ่มและอบอุ่นทำให้ร่างกายเล็กสบายจนลืมตัวเผลอยิ้มออกมา ซูหย่าฉินเห็นท่าทีแบบนั้นของพวกเขาก็รีบแสร้งหันหลังทำเป็นมองไม่เห็น เพื่อให้พวกเขาไม่กลัวจนเกร็ง
กระทั่งหนึ่งชั่วโมงผ่านไปร่างเล็กทั้งสองก็นอนหลับนิ่ง ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ ซูหย่าฉินจึงหยิบผ้าห่มอีกผืนมาห่มให้พวกเขา ก่อนจะกลับขึ้นไปนอนบนเตียง โดยไม่ทันสังเกตเห็นว่าทุกการกระทำของเธออยู่ในสายตาของซูอี้เหยามาตั้งแต่ต้น
สตรีผู้นี้ทำดีต่อเขากับน้องสาว แน่นอนว่าต้องมีจุดประสงค์ที่ไม่บริสุทธิ์
เมื่อคิดถึงบทสนทนาของคนบนเตียงกับหญิงข้างบ้านไห่เยี่ยนแล้วมือเล็กที่อยู้ใต้ผ้าห่มก็กำแน่น
เลี้ยงให้ดี เพื่อที่จะได้ขายให้ได้ราคา
แน่นอนว่าสตรีร้ายกาจแบบเธอต้องคิดเช่นนี้แน่นอน ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าของน้องสาวเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ซูอี้เหยาก็ได้แต่บอกให้ตนเองอดทน รอจนถึงวันนัดหมายส่งคนเขาค่อยพาน้องสาวหนี ระหว่างนี้ก็ให้เธอได้ใช้ชีวิตผ่อนคลายสักหน่อยก็แล้วกัน
ซูหย่าฉินตื่นแต่เช้าตรู่ ชาติก่อนเพราะต้องรักษาภาพลักษณ์ของดาราสาวตัวแม่ ในทุกเช้าตั้งแต่ตีสี่เธอก็ต้องตื่นมาออกกำลังกาย ครบสามชั่วโมงจึงเริ่มกินมื้อเช้าที่เน้นโปรตีนเป็นหลัก ไม่คิดว่าเกิดใหม่อีกครั้งนิสัยเดิมของเธอก็ยังติดตัวมา ดวงตาเรียวหงส์มองไปยังเด็กสองคนที่นอนหลับสนิทอยู่มุมห้องแล้วยิ้มกว้าง บ้านหลังนี้แม้มีเพียงหนึ่งห้องนอน แต่ก็เป็นห้องที่กว้างขวางพอตัว รอเธอมีเงินอีกสักหน่อยค่อยซื้อเตียงเล็กให้พวกเขาคนละเตียงก็แล้วกัน ทว่าตอนนี้สิ่งสำคัญคือเธอต้องออกไปจัดการข้าวของสกปรกที่กระจายอยู่เต็มบ้านราวกับกองขยะพวกนั้นให้เรียบร้อยเสียก่อน
.........................................
"แม่ หยาหยากลัวแล้ว แม่ปล่อยหยาหยากับพี่ชายเถิด ต่อไปพวกเราจะไม่ดื้อ จะเชื่อฟัง"เซียวอี้หยาร้องไห้ น้ำตาอาบแก้มราวกับหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ในตอนนี้จริงๆ หากแต่เมื่อสบตากลมใสของเด็กสาวกลับพบว่าไร้ความกังวล อีกทั้งยังลอบยิ้มเล็กๆ ให้มารดาและพี่ชาย เพื่อบอกว่าทั้งหมดนี้เป็นการแสดงของเธอ ทำเอาพี่ชายอย่างเซียวอี้เหยาถึงกับถอนหายใจยาวตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่น้องสาวของเขารู้จักการเสแสร้งเช่นนี้"เงียบเดี๋ยวนี้ หากทำให้ฉันโมโห ฉันจะตีแกให้ขาหักเลย"ซูหย่าฉินแสร้งตวาดดุ เซียวอี้หยาก็ตอบรับบทด้วยการเม้มริมฝีปาก ไหล่สะท้านราวกับกำลังกั้นก้อนสะอื้น หวาดกลัวสุดหัวใจ ไห่เยี่ยนเห็นความสัมพันธ์ของพวกเขาแม่ลูกเป็นเช่นนี้ก็รู้สึกพอใจ ส่งสายตาให้คนที่แอบดูอยู่ออกมารับคน"นายท่าน นี่คือเด็กสองคนที่ฉันบอกว่าจะเอามาขายให้คุณ"ซูหย่าฉินมองกลุ่มค
หลังจากนำผักป่าและไข่ไปส่งให้จางเสวี่ยนอิง เซียวอี้เหยาก็กลับมาที่บ้าน เขาตรงไปที่เล้าไก่เพื่อนำแม่ไก่ทั้งสองตัวออกไปหาอาหาร ทว่าเมื่อไปถึงเล้าไก่กลับพบเพียงความว่างเปล่า คิ้วเล็กหนาขมวดเข้าหากันแน่น นี่แสดงว่าแม่ไก่ที่หายไปเมื่อคืนก่อนยังไม่กลับมา เช่นนั้นไข่ไก่ที่แม่ใช้ทำอาหารให้พวกเขากินมาจากที่ใดกัน เด็กชายคิดด้วยความสงสัยแต่เมื่อนึกถึงเงินที่คนเป็นพ่อจะส่งมาให้ทุกเดือนในใจของเขาก็คลายความสงสัยลง บางทีมารดาอาจจะซื้อไข่ไก่กลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อวันก่อน เมื่อได้ข้อสรุปให้กับความสงสัยของตนเองแล้ว เด็กชายก็เดินไปหยิบถังน้ำเมื่อวานเขาไม่ได้ไปตักน้ำ หากมารดาเกิดต้องการใช้น้ำแล้วพบเพียงถังน้ำที่ว่างเปล่าต้องโมโหขึ้นมาอีกแน่ๆ ทว่ายังไม่ทันเดินออกจากประตูรั้วบ้านเสียงของน้องสาวก็ดังขึ้น"พี่ชายจะไปไหนหรือ""หยาหยา เธอไปเล่นในบ้านก่อน เดี๋ยวพี่ชายตักน้ำเสร็จค่อยพาเธอออกไปเดินเล่นข้างนอก"
ซูหย่าฉินเดินกลับเข้ามาในห้อง มองดูเด็กสองคนที่นอนอยู่บนผ้านวมผืนหนา แล้วย่อตัวลงหยิบผ้ามาห่มให้พวกเขาอย่างใส่ใจ เดิมทีเธอต้องการหาทางกลับโลกเดิมของตน เมื่อไม่สามารถกลับไปได้สิ่งที่ต้องทำก็คือการเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของเจ้าของร่างเดิม ที่ต้องตกตายอย่างทรมานเพราะแรงแค้นของเซียวอี้เหยา ดังนั้นเพื่อหยุดเส้นเรื่องเหล่านี้สิ่งที่เธอต้องจัดการเป็นอันดับแรกก็คือเปลี่ยนชะตาของเด็กทั้งสองเซียวอี้เหยาฟังเสียงฝีเท้าของมารดาที่เดินห่างออกไป ก็ลืมตาขึ้นมองดูผ้าห่มบนตัว ด้วยความรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยสัมผัส หากทั้งหมดที่มารดาของเขากำลังกระทำในตอนนี้เป็นเรื่องเสแสร้งแกล้งทำ ต้องทำอย่างไรเธอจึงจะยินดีเสแสร้งแกล้งทำไปทั้งชีวิตจวบจนเช้าวันใหม่มาเยือนซูหย่าฉินที่ตื่นก่อนเด็กๆ ก็รีบเดินไปในห้องครัวเพื่อเข้าไปในระบบเพาะปลูก ดวงตากลมเบิกกว้าง มองดูลูกไก่สี่ตัวที่ฟักออกมาจากไข่แล้วยิ้มกว้าง ตอนนี้ในระบบมีแม่ไก่ที่พร้อมออกไข่สามตัว ลูกไก่ที่กำล
หลังจากบอกชัดเจนถึงเจตนาของตนเองแล้ว ซูหย่าฉินก็จับเด็กทั้งสองคนให้นั่งเผชิญหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง"ครั้งนี้ที่แม่ตกลงกับคนบ้านไห่ว่าจะขายลูกๆ ก็เพราะต้องการจัดการพวกค้ามนุษย์เหล่านี้ให้หมด ลูกๆ ยินดีช่วยแม่ไหม""หยาหยา ยินดีค่ะ"เด็กสาวเอ่ยบอก ขณะที่เด็กชายมีท่าทีลังเลอีกครั้ง"แม่ต้องการให้พวกเราทำอะไรครับ""แกล้งทำเป็นถูกบังคับไปขาย"แกล้งทำเป็นถูกบังคับไปขาย ถึงแม้เมื่อครู่เขาจะเข้าใจเจตนาของมารดาแล้ว แต่ส่วนลึกในใจก็ยังคงหวาดระแวง หลายปีมานี้มารดาของเขาเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นอันดับหนึ่ง และรังเกียจการมีอยู่ของพวกเขาสองคนเสมอ เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ที่เธอเปลี่ยนไปจึงยากจะเชื่อใจ"หยาหยาขี้กลัว เช่นนั้นให้ผมไปคนเดียวได้ไหม"ซูหย่าฉินย่อมมองความคิดของเด็กชายออก เดิมทีที่แจ้งกับไห่
"พี่ชาย มีเรื่องอะไรหรือ ทำไมพี่ถึงไม่ให้หยาหยากินข้าวกับแม่"เซียวอี้เหยาไม่ตอบคำถามของน้องสาว แต่นำอาหารสองจานบนโต๊ะไปเททิ้งในทันที มือเล็กทั้งสองข้างสั่นเทา ความกลัวเข้ากอบกุมในจิตใจจนไม่อาจต้านทานทิ้งตัวลงนั่งกอดเข่าร้องไห้จนตัวสั่นโยง"ในเมื่อตัดสินใจลงมือแล้วจะเสียใจทำไม"น้ำเสียงราบเรียบทว่าแฝงความเจ็บปวด ผิดหวังที่ชัดเจนดังขึ้นอยู่เบื้องหน้า เซียวอี้เหยากลืนก้อนสะอื้นลงท้อง แล้วเงยหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตาขึ้นสบตาที่แดงก่ำของมารดาผู้หญิงคนนี้ เธอเพิ่งร้องไห้มาหรือ"อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ควรบอกเหตุผลสักหน่อยไหม ว่าทำไมถึงได้ทำเรื่องร้ายแรงเช่นนี้"เซียวอี้เหยาขบกรามกำหมัดแน่น ก่อนจะขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งเป็นคุกเข่า ก้มหน้า"แม่... ขายผมแค่คนเดียวได้ไหม"ขาย คำพูดที่หนักแน่นมั่นคงของเซียวอี้เหยาทำให้ซูหย่าฉินขมวดคิ้วแน่น"ใครบอกว่าฉัน... แม่จะขายพวกเธอ"เซียวอี้เหยาเม้มริมฝีปากเล็ก หากเขาบอกว่าบังเอิญได้ยินมารดาสนทนากับไห่เยี่ยนเธอจะโกรธจนเร่งขายเขากับน้องสาวออกไปหรือไ
ซูหย่าฉินกลับมาถึงบ้านก็พบว่าเด็กทั้งสองที่ควรนอนพักอย่างที่เธอสั่งความเอาไว้ก่อนขึ้นเขาไป ตอนนี้กลับกำลังช่วยกันทำงานบ้าน เซียวอี้หยากำลังซักผ้า ในขณะที่เซียวอี้เหยากำลังกำขวานฝ่าฟืนจนฝ่ามือแตกเป็นแผล ซูหย่าฉินมองภาพตรงหน้าแล้วน้ำตาเอ่อคลอ ได้แต่คิดอย่างสงสัยว่า เจ้าของร่างเดิมคนนี้เป็นพวกเกิดมามีแต่ตัวไม่มีความคิดหรืออย่างไร ทั้งมีลูกที่น่ารัก ทั้งมีญาติที่เอื้อเฟื้อ เหตุใดยังไม่รู้จักใช้ชีวิตให้ดีๆ ร้องหาแต่สามีเฮงซวย ไร้ความรับผิดชอบผู้นั้นอยู่ได้!!"หยาหยา เหยาเหยา""แม่กลับมาแล้ว"เป็นเซียวอี้หยาที่ร้องเรียกแล้ววางผ้าในมือ ก่อนจะวิ่งมาหามารดาเป็นคนแรก ซูหย่าฉินย่อตัวลงนั่งให้ระดับสายตาอยู่ในแนวเดียวกับเด็กหญิง ปลดตะกร้าบนบ่าออกวางแล้วอ้าแขนโอบคนตัวเล็กเข้าแนบอก เซียวอี้หยายิ้มกว้างซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของมารดาด้วยความสุขอ้อมกอดของแม่อบอุ่นที่สุดเลยเซียวอี้เหยามองภาพตรงหน้าแล้ว







