Share

ตอนที่6

last update Last Updated: 2025-09-04 08:19:05

ตอนที่6

...จวนรองสกุลสวียังแคว้นฉู่... 

“นายท่าน” 

ซั่วเจามาพร้อมถุงผ้าเปื้อนเลือดวางลงตรงหน้าคนที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตวัดพู่กันอยู่ที่โต๊ะไม้ตัวใหญ่ทั้งที่ก็เข้าสู่ต้นยามจื่อแล้วโดยแท้ สวีฉีเฟิ่งตวัดพู่กันลงไปบนตัวอักษรสุดท้ายแล้วจัดการพับเรียบร้อยเป็นจดหมายลับส่งออกไปกับพิราบสื่อสารสีขาวตัวอ้วนพี 

“เรียบร้อยดีทุกสิ่งใช่หรือไม่อาเจา” 

“เป็นไปตามบัญชาของนายท่านขอรับ” 

“ดี!” 

เรียวปากสวยเกินบุรุษแย้มยิ้มงดงามแล้วหยิบถุงผ้ามาเปิดออกเห็นสิ่งที่อยู่ภายในก็ไม่พูดสิ่งใด เดินออกจากห้องหนังสือในคฤหาสน์ของสกุลสวีแล้วมุ่งตรงไปยังสวนด้านหลังเรือนดอกท้อก็พบกับกรงขนาดใหญ่ที่มีเสือดำตัวใหญ่นอนอย่างเกียจคร้านอยู่ภายในถึงสองตัว 

“อาลี่” 

เจ้าตัวที่ใหญ่กว่าขยับหัวขึ้นดูแต่ไม่ได้ลุกขึ้นมา กลับเป็นตัวที่เล็กกว่าที่ลุกขึ้นมาแล้วบิดตัวราวปวดเมื่อยอย่างยิ่ง แล้วเดินยักย้ายส่ายสะโพกมารับเอามือของมนุษย์คาบไปนอนแทะเล่นยังอีกมุมหนึ่งของกรงราวกับกินของว่างมื้อดึก ซึ่งพอส่ง อาหาร ‘ขบเคี้ยว’ ยามดึกให้เสือดำกำลังตั้งครรภ์เรียบร้อยสวีฉีเฟิ่งก็เดินไปล้างมือในอ่างด้านข้างที่บ่าวชายถือรอเอาไว้ 

“นายท่านจะกลับเรือนนอนหรือไปฟ่านไฉขอรับ” 

ซั่วเจาสอบถามผู้เป็นนายหนุ่มที่กำลังขัดถูมือตนเองในอ่างทองเหลืองแล้วรอฟังคำสั่ง ด้วยกิริยาเยือกเย็นจนเด็กหนุ่มผู้ถืออ่างทองเหลืองรู้สึกหนาวเหน็บกับกิริยาของนายท่านหนุ่ม และหนึ่งคนสนิทเช่นซั่วเจาใช่น้อย 

“ติงฮ่าว เจ้าไปช่วยท่านพ่อบ้านใหญ่เตรียมสินสอดเถิด คืนนี้ข้าจะไปค้างที่รุ่ยเฟิ่งไม่ต้องเตรียมห้องนอน” 

รับผ้ามาเช็ดมือไปพลางก็สั่งการบ่าวชายข้างกายด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “จัดรถม้าแล้วเจ้าคุ้มกันออกประตูหน้าไปก่อน” มุมปากสวยกระตุกเล็กน้อยในยามคิดถึงแผนการ ‘เล่นสนุก’ ให้ได้ยืดเส้นยืดสายหลังจากนั่งตรวจสอบบัญชีมาหลายวัน

“ขอรับนายท่าน” 

ซั่วเจารับคำแล้วจึงถอยกายหายไปกับความมืด ติงฮ่าวเองพอเสร็จงานในหน้าที่แล้วเขาก็จากไปทำตามคำสั่งเช่นหลายหนาวที่เขานั้นเติบโตมากับ ’นายท่าน’ จนบัดนี้เข้าวัยสิบหกหนาวย่อมรู้ดีว่าการขัดคำสั่งนายท่านจะไม่ส่งผลดีต่อตนเองเช่นไรบ้าง

“แทะอาหารว่างไปก่อนพรุ่งนี้ข้าจะนำอาหารหลักมาให้พวกเจ้ากินเพิ่มเอง”

เขากล่าวแล้วตบกรงแผ่วเบาไปสามครั้งเจ้าเสือดำตัวใหญ่ที่นอนสงบนิ่งผงกหัวนำจมูกมาดุนมือเรียวยาวของผู้เป็น ‘ทาส’ ที่คอยส่งน้ำส่งเหยื่อไปให้แก่มัน จนถึงพามันไปเล่นน้ำอย่างให้กำลังใจอีกฝ่ายว่าจงพา ‘อาหารหลัก’ มื้อเช้ามาส่ง ‘เจ้านาย’ เช่นมันให้จงได้นะ 

“รู้แล้วละน่า อาฟ่งมื้อเช้าเจ้าได้กินจนอิ่มแน่” 

ลูบปลายจมูกเย็นของเสือดำขนาดยักษ์แล้วจึงเดินตรงไปยังเรือนดอกท้อเพื่อแต่งกายให้รัดกุม กระบี่คู่ถูกหยิบออกมาใช้ เรียวปากสวยเหยียดยิ้มเย้ยหยันออกมาอย่างไม่คิดปิดบังเมื่อต้องอยู่เพียงผู้เดียว กายสูงกำยำในอาภรณ์สีดำสนิทกลืนกินไปกับราตรีกาลเร้นกายขึ้นอาชาพ่วงพีสีนิลตรงไปยังจุดหมายเพื่อรอคอย ‘เหยื่อ’ จะเดินมาติดกับดักที่เขาวางเอาไว้ 

ที่สวีฉีเฟิ่งมายังจวนรองสกุลสวีที่แคว้นฉู่ ฉากหน้าคือหนึ่งตรวจสอบบัญชีของกิจการโรงเตี๊ยมรุ่ยเฟิ่งและหอพนันฟ่านไฉ กับสองคือตบแต่งกับคุณหนูสี่สกุลจาง แต่ความจริงคนเช่นเขาไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเดินทางมารับตัวเจ้าสาวไกลถึงเพียงนี้ หากไม่มีสิ่งสำคัญกว่านั้นเป็นแน่ ศัตรูทางการค้าต่างหากคือจุดประสงค์หลักที่เขาเดินทางมาแคว้นฉู่ในคราวนี้ทั้งยังไม่พร้อมเผชิญกับสตรีไม่รู้ความบางคนอีกด้วยเขาจึงต้องจากไกลเจียงหนานและเมืองหลวงมาเช่นนี้

...ถนนเส้นหลักของแคว้นฉู่... 

ก่อนถึงโรงเตี๊ยมรุ่ยเฟิ่งและบ่อนพนันฟ่านไฉราวเจ็ดสิบลี้กำลังมีรถม้าหรูหราประทับตราตัวอักษร ‘สวี’ บอกชัดเจนว่าเป็นสมบัติของสกุลใดเคลื่อนผ่านตรงไปยังจุดหมายที่แน่แท้ว่าต้องเป็นหอสูงเช่นฟ่านไฉแห่งนั้นมิผิดไป

...ฟ้าว...ฟุบ...ฟุบ... 

มิคาดเพียงผ่านไปยังกลางสะพานที่จะข้ามไปยังฝั่งที่ตั้งของโรงเตี๊ยมใหญ่ ธนูเพลิงก็พุ่งเข้าหารถม้าคันหรูหราราวกับพายุฝนห่าใหญ่ไม่ถึงอึดใจ บุรุษที่รอคอย ‘เหยื่อ’ มาติดกับแสยะยิ้มราวปีศาจร้ายเมื่ออีกฝ่ายลงมืออย่างไม่เกรงกลัวอำนาจในมือของตนเองเช่นนี้ 

“ลงมือ!” 

มิคาดว่าจากที่รถม้าถูกเผา ขบวนคุ้มกันหนานเฉิงกั๋วกงหนุ่มถูกโจมตีจนแตกพ่ายในคราแรกจะกลับเป็นฝ่ายลุกขึ้นมาได้เปรียบฝ่ายจู่โจมเพียงพลิกฝ่ามือเท่านั้น กระบี่คู่บนแผ่นหลังกำยำถูกกวัดไกวดื่มโลหิตศัตรูคนแล้วคนเล่ามิหลงเหลือภาพคุณชายหยิบโหย่งจับเป็นเพียงปลายด้ามพู่กันและสมุดบัญชีที่ทุกคนคุ้นตากันอยู่เสมอ 

“เหลือชีวิตให้พวกมันกลับไปส่งข่าวต่อผู้เป็นนายของพวกมันด้วยซั่วเจา!”

ไม่ถึงสองเค่อซากศพกว่าเจ็ดสิบชีวิตก็กองเต็มถนนกว้าง เลือดสีคล้ำเนืองนองพื้น กลิ่นคาวคละคลุ้ง มือเรียวยาวขยับปลดผ้าคลุมใบหน้าขาวสะอาดออกเปิดเผยให้ ‘เหยื่อ’ ซึ่งยังรอดชีวิตอีกราวสิบคนได้เห็นเป็นบุญตาว่าคนที่พวกมันต้องการชีวิตนั้นยังอยู่ดีไร้ร่องรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย 

…หึ!…นิสัยไม่ได้ก็คิดสังหารให้ตายเช่นนี้นะหรือจะให้เขายอมรับนางมาเป็นภรรยา มาเป็นหนานเฉิงกั๋วกงฟูเหรินนอนร่วมเตียงหึ!แต่งนางให้มาสังหารเขาได้สะดวกเช่นนั้นหรือไม่?

…เขายังมิได้โง่งมถึงเพียงนั้น…

“ไปบอกนายของพวกเจ้าว่าหากต้องการ ‘สามี’ ก็มีมารยาทกว่านี้สักหน่อย ทว่าหากนางต้องการศีรษะของข้า สวีฉีเฟิ่ง มือสังหารชั้นปลายแถวเพียงไม่ถึงร้อยอย่าส่งมาอีก!” 

น้ำเสียงหนักแน่นนั้นมาพร้อมกับกระบี่คู่ตัดเอาศีรษะของสามในสิบของมือสังหารที่ถูกคนของสวีฉีเฟิ่งห้อมล้อมเอาไว้ “เอากลับไป ‘ฝาก’ นายของพวกเจ้าได้ชื่นใจสักหน่อย บอกว่าข้าตั้งใจฝากไปให้นาง” 

...ตุ๊บ...ตุ๊บ... 

ซั่วเจาจับเอาสองในสามศีรษะโยนออกไปกองตรงหน้าอีกเจ็ดชีวิตที่เหลือจากนั้นส่งสัญญาณให้คนของตนเองเปิดทาง สวีฉีเฟิ่งเหยียดยิ้มเย้ยหยันตามไปกับเงาร่างของทั้งเจ็ดชีวิตที่วิ่งล้มลุกคลุกคลานหายไปกับความมืด 

“จัดการมื้อเช้าให้อาลี่กับฟ่งอย่างเต็มที่ส่วนที่เหลือก็ส่งไปเป็นปุ๋ยให้กับดงดอกเหมยกุยที่เชิงเขาฝูซานก็แล้วกัน” 

สั่งความเสร็จแล้วกายสูงสง่านั้นก็โหนตนเองขึ้นม้าที่คนจูงมาส่งแล้วมุ่งหน้าไปทิศทางที่ไม่ใช่หอสูงเช่นโรงเตี๊ยมฟ่านไฉและโรงเตี๊ยมรุ่ยเฟิ่งพอซั่วเจาขยับควบม้าตามไปเขาก็ส่งสัญญาณมือว่าไม่ต้องการให้ติดตามไป ม้าของซั่วเจาจึงหยุดลงตั้งแต่ยังไม่ได้ออกเดินด้วยซ้ำไป 

...เรือนคุณหนูห้าสกุลจาง... 

...ตุ๊บ!... 

คนกำลังหลับแต่ไม่สนิทเพราะภาพของพี่สาวกับพ่อบ้านฝู่เผยตามหลอกหลอนผวาสะดุ้งสุดตัวลุกขึ้นนั่งกลางเตียงเพราะมีเสียงคล้ายของหนักตกลงตรงหน้าต่างบานด้านข้าง ความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์ส่องแลเห็นเป็นเงาตะคุ่มวูบไหวทอดยาวราวภาพปีศาจร้ายทำเอาจางเยว่เซียงแตกตื่น มองไปด้านข้างเตียงก็ว่างเปล่าเลยนึกได้ว่าตนเองเพิ่งเล่นบทนางเอกแสนดีส่งฟางปี้เหลียนไปดูแลท่านย่ามหาภัย 

“กตัญญูผิดวันเสียแล้วนางบ้าเอ๊ย” 

คนงามพึมพำสบถด่าทอตนเองไปพลางก็ค้นหาของที่จะนำมา ‘ฟาด’ เงาปีศาจร้ายที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ทุกขณะ สุดท้ายมือเล็กคลำไปเจอเชิงเทียนบนโต๊ะข้างหัวเตียงจึงคว้ามากำเอาไว้แน่น ในใจก็คิดว่าขอให้เป็นปีศาจจริง ๆ เถิด เพราะปีศาจยังน่ากลัวน้อยว่า ‘โจร’ ราคะหลายพันเท่า! 

...ตุ๊บ!...โครม!...เพล้ง!... 

“ตายไหม?!” 

มิอาจทราบได้ว่านางถามผู้ใด รู้เพียงตนเองฟาดอีกฝ่ายด้วยเชิงเทียนแล้วเงาดำทะมึนยังยืนโงนเงน นางจึงควานไปหาชุดน้ำชาฟาดซ้ำจนแตกกระจายไม่พอควานมือพบสิ่งใดนางก็จัดการเร่งทุบเปรี้ยงลงไปไม่ยั้งแรง รู้สึกตัวอีกครั้งนางก็ลงไปยืนหอบแฮก ๆ อยู่ที่พื้นหน้าเตียงเสียแล้ว โดยมีร่างทะมึนนอนไม่ไหวติงอยู่ที่ปลายเท้า 

คนซึ่งไม่คิดว่าสตรีตัวเล็กเท่ามดนั้นจะมีพลังมากดังหมีป่า นอนมึนเป็นครู่ พอใช้มือคลำไปบนศีรษะกับสัมผัสได้ถึงของเหลวที่อุ่นแถมมีกลิ่นคาวอันคุ้นเคย สวีฉีเฟิ่งที่ยี่สิบกว่าหนาวนั้นไม่เคยเสียทีพลาดท่าให้ผู้ใดก็พลันอึ้ง เมื่อพบว่าตนเองพลาดท่าเสียทีถูกว่าที่ภรรยา ‘ทุบศีรษะ’ จนเลือดนองเข้าเสียได้ 

“จาง...เยว่...เซียง!” 

...เรือนกลางสกุลจาง... 

จางเยว่เซียงต้องมายืนปฐมพยาบาลให้กับ ‘จอมโจรราคะ’ จำเป็นเช่นสวีฉีเฟิ่งด้วยใบหน้าอิหลักอิเหลื่อเต็มทน ส่วนคนศีรษะแตกก็นั่งกอดอกหน้าตาบึ้งตึงคล้ายพร้อมจะฆ่าคนโดยมีท่านนายอำเภอจางนั้นเทน้ำชาใส่ถ้วยพลางยิ้มแห้งให้อีกฝ่าย 

“ลูกเขยค่อย ๆ ดื่มน้ำชาก่อน แหะ ๆ” 

เขาตวัดสายตาแค้นเคืองให้คนที่กำลังใส่ยาห้ามเลือดให้แล้วก็ยกถ้วยน้ำชาซดลงคอราวกับจะบดขยี้ถ้วยแล้วกลืนถ้วยน้ำชาเนื้อดีลงท้องระบายแค้นก็มิปาน 

“กะ...ก็...ก็...ก็เพียงป้องกันตัวเจ้าค่ะ...ป้องกันตัวเท่านั้น” 

กล่าวจบนางก็ส่งยิ้มแสนจะสลดหดหู่ออกไปให้คนหน้าตึงยิ่งกว่าหนังกลองไปหนึ่งสาย แล้วเร่งเก็บเครื่องมือทำแผลลงกล่องส่งต่อไปให้กับฟางปี้เหลียน นางอยากตะโกนออกไปยิ่งนักว่าตนเองไม่ได้ผิดนะ ก็ใครใช้ให้เขาปีนเข้าห้องของนางกัน เพราะจะมีสตรีที่ดีนางไหนอ้าแขนรับผู้บุกรุก นางเพียงฟาดเขาศีรษะแตกนับว่ายังน้อยหากมีดาบรับรองเขาถูกนางแทงจนร่างพรุนเป็นตะกร้าไปแล้ว 

“ดี!” 

...อะไรดี? ...นางฟาดได้ดีหรือ? ... 

“ข้าฟาดได้ดีหรือเจ้าคะ?” เขาถูกนางฟาดศีรษะจนเสียสติไปแล้วกระมัง 

พรวด!...แค่ก....แค่ก...แค่ก... 

จางเสียนอีถึงกับสำลักพ่นเอาน้ำชาที่ยังไม่ทันกลืนลงคอออกมาจนหมดถ้วยแล้วไอจนหน้าแดงก่ำอีกหลายยกจนเสี่ยวฮูหยินจางต้องทุบหลังให้เขาหยุดไอเสียหลายตุ๊บ ส่วนจางเยว่เซียงที่จู่ ๆ ก็ถูกชม ถึงกับยืนเผยอปากค้าง มองว่าที่สามีนิ่งคล้ายไม่วางใจว่า หลังจากชื่นชมนางเสร็จแล้วเขาอาจหยิบกระบี่คู่ที่วางอยู่บนโต๊ะมาแทงนางจนตายอีกรอบหรือไม่ 

“ถูกต้อง ข้าชมน้องเซียงว่าตีได้ดี!” 

จางเยว่เซียงเหลือบสายตาไปมองกระบี่สลับกับมองสีหน้าทะมึนของสวีฉีเฟิ่ง แล้วเท้าไม่รักษาหน้าเจ้าของนั้นก็ขยับถอยหนีไปใกล้ประตูอีกหน่อยก็...โธ่...ต่อให้นางเคยตายมาแล้วหนึ่งครั้งก็ใช่ว่าจะชอบตายอีกรอบนี่นา ย่อมกลัวตายซ้ำตายซากอยู่แล้ว

“แหะ ๆ ...เช่นนั้นเอาไว้เราแต่งกันแล้วน้องเซียงจะช่วยตีพี่เฟิ่งอีกดีหรือไม่” 

...โอ๊ย!...นางบ้า!...แกสมควรพูดว่า...คราวต่อไปน้องเซียงไม่กล้าแล้วสิยะ!... 

แต่ปากเจ้ากรรมไม่กลัวตายดันพูดออกไปอีกทางจนนางต้องหันหน้าหนีอีกฝ่ายแล้วตบปากตนเองไปหลายทีที่มันไม่กลัวตายพูดจาไม่รักษาชีวิตเจ้าของ 

“วันนี้น้องเซียงตีจนพี่เฟิ่งสาแก่ใจแล้ว เช่นนั้นคงสมควรลากลับเสียที ท่านพ่อตา อาเฟิ่งขอลา” 

“น้อมส่งลูกเขย” 

จางเยว่เซียงและเสี่ยวฮูหยินจางต่างมองหน้ากันแล้วไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี เพราะเกิดมาก็เพิ่งเคยพบเคยเห็นพ่อตา ‘น้อมส่ง’ ลูกเขยก็วันนี้นี่แหละ! 

แต่คนเช่นนายท่านสวี บิดาของนางน้อมส่งก็คงไม่ผิดอันใดมากนัก ทว่า...จางเยว่เซียงมองมือตนเองพลันสายตาก็ดันเหลือบไปเห็นกระบี่คู่ของอีกฝ่ายที่วางอยู่บนโต๊ะ นางจึงคิดทำดีไถ่โทษสักครั้งคว้าเอากระบี่คู่มาหอบเอาไว้แล้ววิ่งตื๋อพุ่งตามไปทิศทางที่คาดว่าสวีฉีเฟิ่งเดินไป พอเห็นด้านหลังของอีกฝ่ายไวไวจึงตะโกนเรียกเขาสุดเสียง 

“พี่เฟิ่งลืมกระบี่แล้วเจ้าค่ะ!” 

...กึก!... 

กายสูงสง่าหยุดกึกลงทันควันเช่นกัน จางเยว่เซียงเตรียมฉีกยิ้มประจบประแจงเต็มที่ คาดว่าเขาหันมาพบต้องมีให้อภัยนางบ้างไม่มากก็น้อยที่ฟาดจัดเต็มจัดใหญ่ใส่ไปไม่ยั้งที่ห้องนอนเมื่อครู่ใหญ่ทว่า 

“ให้น้องเซียงเป็นรางวัลที่ตีได้ดี” 

กล่าวจบเขาก็กระโดดขึ้นไปบนกำแพงแล้วหายลับไปกับความมืด จางเยว่เซียงจึงฉีกยิ้มแย้มแตะแต้มค้างเติ่ง พลันนั้นแข้งขาก็ดันหมดแรงทรุดนั่งสิ้นกิริยาคุณหนูห้าผู้เรียบร้อยไปโดยสิ้นเชิง ภายในหัวก็มีแต่ภาพข้อมือของฝู่เผยถูกตัด ภาพใบหน้าของจางเยว่ซินถูกกรีด 

พอภาพดังกล่าววิ่งตีกันอยู่ในหัว อ้อมแขนที่กอดกระบี่สองเล่มก็ดันสั่นพั่บ ๆ ดังกับว่านางเป็นไข่เอ๊ย...เป็นไข้จับสั่นก็มิปาน “สั่นทำไมละ? ...อย่าสั่นสิวะ!” แต่ดุมันก็แล้ว ด่าเจ้าแขนทั้งสองข้างไปจนคอแห้ง เจ้าสองแขนไม่เอาไหนก็ไม่หยุดสั่นไม่พอ มันยังพาเอาขาสองข้างสั่นไปด้วยอีกต่างหาก 

“คุณหนูห้า...” 

ยังดีว่ามีฟางปี้เหลียนมาช่วยตามเก็บนางกลับเรือน หาไม่จนถึงช่วงสายก็คาดว่านางอาจยังไม่หยุดสั่นแล้วพาตนเองกลับไปนอนหวาดผวาอยู่ที่ห้องนอนของตนเองได้เป็นแน่ 

...แต่...นางไม่ผิดจริง ๆ น่ะนะ นางตีถูกเขาทุกครั้งเลย...จริง...จริ๊ง!... 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อนางร้ายข้ามภพ   ตอนที่11

    ตอนที่11หลังจากได้ทำความรู้จักกับ ‘ญาติ’ ของสวีฉีเฟิง และส่งเขาไปทำกิจธุระแล้ว คราวนี้ก็ถึงคราวที่นางจะต้องไปทำความรู้จักกับเหล่าข้าทาสบริวารของสามีที่แน่นอนว่าต่อไปนี้คนเหล่านั้นจะต้องเป็นข้าทาสบริวารของนางด้วยเช่นกัน “นายหญิงเชิญที่เรือนกลางขอรับ” ท่านพ่อบ้านซูโค้งกายชี้นำทางให้แก่นางอย่างนอบน้อม และให้เกียรติ แต่เพราะเด็กสาววัยสิบเจ็ดหนาวตรงหน้านั้นครอบครองตำแหน่ง ‘นายหญิงสวี’ เขาที่เป็นพ่อบ้านใหญ่ย่อมต้องแสดงให้บริวารทั้งหลายได้เห็นเป็นตัวอย่างเอาไว้ มิให้คนใต้ปกครองได้กำเริบเสิบสานไม่เคารพผู้เป็นนายได้ในภายภาคหน้านั่นเอง “รบกวนท่านพ่อบ้านซูแล้ว” จางเยว่เซียงเองนั้นก็ต้องรู้จักวางตัวเช่นกัน มาถึงวันนี้ความทรงจำร่างนี้แทบไม่มี แต่ความทรงจำของ ‘ตะวันฉาย’ นั้นก็พอจะเอาตัวรอดได้อยู่บ้าง เพราะในยุคนี้นอกบ้านสามียิ่งใหญ่ ทว่าในบ้านภรรยาต้องควบคุมให้สงบ สามีจะแต่งอนุภรรยาอีกกี่นาง จะมีบุตรต่างภรรยาอีกกี่คน ผู้ที่เป็นภรรยาเอกเฉกเช่นนางจะต้อง ‘จัดการ’ ให้ได้ และมิใช่เพียงต้อง ‘ได้’ แต่จะต้องดีที่สุดอีกด้วย “พวกนางเหล่านี้คือสาวใช้ทั้งหมดที่จวนรอง ส่วนทางฝั่งนี้คือบ่าวชายกับคนงานทั้งห

  • เมื่อนางร้ายข้ามภพ   ตอนที่10

    ตอนที่10ช่วงต้นยามอิ๋นสายฝนก็เทกระหน่ำลงมาราวกับท้องฟ้าพิโรธ อากาศเย็นสาดเข้ามากระทบคนไม่ชอบอากาศหนาวจนนางต้องตื่นขึ้นมา ก็พอดีกับที่ประตูห้องถูกเปิดเข้ามา “ข้าทำเจ้าตื่นหรือ?” คนตัวโตที่เพิ่งปิดประตูลงด้วยกิริยาระวัง แต่คนบนเตียงนางก็ยังขยับกายตื่นลุกขึ้นมานั่งได้อยู่ดีเอ่ยถามขึ้น“มิได้เจ้าค่ะ ข้าตื่นเพราะเสียงฟ้าฝนด้านนอกที่แรงยิ่งนักนั่น ซ้ำละอองเย็นจากน้ำฝนก็สาดเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดทิ้งเอาไว้เมื่อช่วงหัวค่ำเจ้าค่ะ” สวีฉีเฟิ่งหันไปก็เห็นจริงจึงเดินไปปิดมันลงเสียแล้วกลับมาปลดอาภรณ์ตัวนอกออกจนหมดเปลี่ยนมาเป็นเสื้อคลุมสวมใส่ในยามนอนเพียงตัวเดียว จากนั้นเขาก็เก็บนั่นเก็บนี่จนเรียบร้อยจึงเดินตรงไปที่เตียงสอดกายสูงใหญ่นั้นเบียดเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกับนาง ทว่าเพียงเท่านั้นก็ทำให้จางเยว่เซียงจับสังเกตได้แล้ว ว่าสวีฉีเฟิ่งผู้นี้เป็นบุรุษที่มีระเบียบจัดอย่างที่สตรีบางคนยังต้องอับอายผู้หนึ่งเลยทีเดียว “พรุ่งนี้มีเวลาให้เจ้าพักผ่อนหนึ่งวัน มะรืนหลังจากกลับไปยกน้ำชาให้แก่ท่านพ่อของเจ้าแล้ววันต่อไปพวกเราคงต้องเดินทางไปยังชายแดนแคว้นอี้ด้วยกัน เพราะการค้าที่นั่นมีปัญหาให้ข้าต้องไปดูแลแก้

  • เมื่อนางร้ายข้ามภพ   ตอนที่9

    ตอนที่9ผ่านไปครู่หนึ่งสภาพของ ‘นายท่าน’ ที่ปรากฏต่อหน้าติงฮ่าว และฟางปี้เหลียนนั้นกลับช่างน่าอนาถอย่างยิ่ง ทว่าจะน่าอนาถเพียงใดพวกเขาก็ทำได้เพียงก้มหน้ากลืนความขบขันลงท้องเท่านั้น “มิต้องตามหมอแน่นะเจ้าคะ?” จางเยว่เซียงนั้นที่ยังแตกตื่นเอ่ยถามคนที่นอนหงายหนุนตักของนางอยู่ด้วยความกังวลที่เจ้าบ่าวของตนเองนั้นเลือดกำเดาพุ่งออกมาราวกับน้ำพุเมื่อครู่ไม่หาย อากาศที่แคว้นฉู่นี้ต่อให้ช่วงนี้เป็นฤดูฝนแต่ก็หนาวจนคนที่มาจากยุคที่อยู่ได้ด้วยเครื่องปรับอากาศยังรู้สึกเย็นสบายไม่ต้องเปิดหน้าต่างนอนเลยสักคืน แต่บางทีหนานเฉิงกั๋วกงผู้นี้เขาคงเป็นโรคร้อนในเป็นแน่จึงเลือดกำเดาออกง่ายเช่นนี้ “ไม่ต้องหรอกพวกเจ้าก็ไปนอนกันได้แล้วข้านอนพักสักครู่ก็หายดีแล้ว” ขืนต้องไปตามหมอกันกลางดึกด้วยสาเหตุผู้เป็นเจ้าบ่าวนั้นเลือดกำเดาไหล เห็นทีชื่อเสียงเลวร้ายที่สะสมมาถึงสิบปีคงได้มลายหายไปจนสิ้นเป็นแน่ สวีฉีเฟิ่งคิดในใจด้วยความทดท้อไม่หายเพราะเพียงต้องขายหน้าท่านพ่อบ้านใหญ่กับอีกหนึ่งสาวใช้กับหนึ่งคนสนิทนี้เขาก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปซ่อนไว้ที่ใดกันแล้ว “ขอรับนายท่าน อาเหลียน อาฮ่าวตามข้ามา” ซูจิ้งเหยาเรียกคนรับใช้ชาย

  • เมื่อนางร้ายข้ามภพ   ตอนที่8

    ตอนที่8ดังนั้นเมื่อสวีฉีเฟิ่งเห็นว่าได้เวลาสมควรแล้วเขาจึงขอตัวจากแขกที่คุ้นเคย เตรียมตัวไปหาเจ้าสาวในห้องหอจึงพบว่าเจ้าสาวคนงามของตนเองนอนหลับสนิทหมดสภาพไปเสียแล้ว “นายท่าน/นายท่าน” ติงฮ่าว และฟางปี้เหลียนเห็นผู้เป็น ‘เจ้าบ่าว’ ถูกเพื่อนฝูงโดยแกนนำคือคุณชายตู้พากันมาส่งจนถึงหน้าประตูเรือนหอ ทว่าเจ้าสาวกลับยังนอนหลับได้ไม่ไหวติงเสียแล้วพวกเขาจึงทำได้เพียงโค้งกายให้แก่ ‘นายท่าน’ จนศีรษะแทบโขกพื้นเท่านั้น ไม่มีใครกล้าไปปลุก ‘เจ้าสาว’ ที่หลับประหนึ่ง ‘ซ้อมตาย’ เลยสักคน “ติงฮ่าวไปเตรียมน้ำ เจ้าปี้เหลียนสินะไปจัดเตรียมอาภรณ์ให้ข้า” ทว่าสวีฉีเฟิ่งนั้นมิได้เดือดร้อนในเมื่อนางอยากจะหลับก็ให้หลับไปเขาไม่รีบร้อนอยู่แล้ว กายกำยำปลดอาภรณ์ชุดเจ้าบ่าวเนิบนาบโดยมีติงฮ่าวคอยช่วยเหลือผ่านไปครู่ได้ เขาจึงเดินออกมาด้วยเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่เพียงเท่านั้นไม่มีอาภรณ์ใดอยู่ภายในอีกเลย “พวกเจ้าไปพักผ่อนได้แล้ว ติงฮ่าวเจ้าพาปี้เหลียนไปส่งที่ห้องพักของนางด้วย พรุ่งนี้หากข้าไม่เรียกก็ไม่ต้องเร่งเข้ามาที่เรือนนี้อีก” “ขอรับ/เจ้าค่ะ” สองคนสนิทจัดการงานหน้าที่เสร็จแล้วรับคำสั่ง จากนั้นก็เร่งจากไปไม่อยู่ข

  • เมื่อนางร้ายข้ามภพ   ตอนที่7

    ตอนที่7และแล้ววันวิวาห์ยิ่งใหญ่ระหว่างคุณหนูห้าของท่านนายอำเภอจางและหนานเฉิงกั๋วกงสวีฉีเฟิ่งก็บังเกิดขึ้นในวันที่ท้องฟ้าของต้นเดือนหกนั้นแสนจะแจ่มใจเป็นใจต่อฤกษ์มงคลนี้เสียเป็นยิ่งนัก ชาวบ้านเองต่างร่ำลือกันไปทั่วถึงการที่เจ้าสาวถูกเปลี่ยนไป แต่เพราะอำนาจและเงินทองของฝ่ายเจ้าบ่าวผู้ใดเล่าจะกล้าสงสัยความต้องการของเขา ดังนั้นพิธีต่าง ๆ จึงเริ่มดำเนินไปตามธรรมเนียมของชาวต้าเหลียงอย่างเคร่งครัดนั่นก็คือ ฝ่ายเจ้าสาวที่จะต้องไปอยู่บ้านเจ้าบ่าวนั้น จะต้องเตรียมสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ติดตัวไปด้วย รวมทั้งสิ่งของที่ต้องใช้ในงานพิธี ร่วมไปกับสินเดิมซึ่งมีดังต่อไปนี้ หนึ่งนั่นก็คือเอี๊ยมแต่งงาน เป็นเอี๊ยมผ้าแพรสีแดง มีกระเป๋าเล็ก ๆ ตรงหน้าอกเสื้อ ปักคำว่า ‘แป๊ะนี้ไห่เล่า’ ซึ่งมีความหมายสื่อว่า อยู่กินกันจนแก่เฒ่าซึ่งจางเยว่เซียงนางก็เพิ่งได้ทดลองสวมดูว่าต้องแก้ไขหรือไม่ไปเมื่อวันก่อนนี้นี่เอง ชิ้นที่สองคือเชือกแดงผูกเอี๊ยม ติดตัวหนังสือ และมีแผ่นหัวใจสีแดงสำหรับติดเครื่องประดับเช่นไข่มุกหรือทองคำแท้ แล้วแต่ว่าฐานะของเจ้าบ่าว และเจ้าสาวจะร่ำรวยเพียงใด ซึ่งในกรณีของจางเยว่เซียงนับว่าเจ้าบ่าว แ

  • เมื่อนางร้ายข้ามภพ   ตอนที่6

    ตอนที่6...จวนรองสกุลสวียังแคว้นฉู่... “นายท่าน” ซั่วเจามาพร้อมถุงผ้าเปื้อนเลือดวางลงตรงหน้าคนที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตวัดพู่กันอยู่ที่โต๊ะไม้ตัวใหญ่ทั้งที่ก็เข้าสู่ต้นยามจื่อแล้วโดยแท้ สวีฉีเฟิ่งตวัดพู่กันลงไปบนตัวอักษรสุดท้ายแล้วจัดการพับเรียบร้อยเป็นจดหมายลับส่งออกไปกับพิราบสื่อสารสีขาวตัวอ้วนพี “เรียบร้อยดีทุกสิ่งใช่หรือไม่อาเจา” “เป็นไปตามบัญชาของนายท่านขอรับ” “ดี!” เรียวปากสวยเกินบุรุษแย้มยิ้มงดงามแล้วหยิบถุงผ้ามาเปิดออกเห็นสิ่งที่อยู่ภายในก็ไม่พูดสิ่งใด เดินออกจากห้องหนังสือในคฤหาสน์ของสกุลสวีแล้วมุ่งตรงไปยังสวนด้านหลังเรือนดอกท้อก็พบกับกรงขนาดใหญ่ที่มีเสือดำตัวใหญ่นอนอย่างเกียจคร้านอยู่ภายในถึงสองตัว “อาลี่” เจ้าตัวที่ใหญ่กว่าขยับหัวขึ้นดูแต่ไม่ได้ลุกขึ้นมา กลับเป็นตัวที่เล็กกว่าที่ลุกขึ้นมาแล้วบิดตัวราวปวดเมื่อยอย่างยิ่ง แล้วเดินยักย้ายส่ายสะโพกมารับเอามือของมนุษย์คาบไปนอนแทะเล่นยังอีกมุมหนึ่งของกรงราวกับกินของว่างมื้อดึก ซึ่งพอส่ง อาหาร ‘ขบเคี้ยว’ ยามดึกให้เสือดำกำลังตั้งครรภ์เรียบร้อยสวีฉีเฟิ่งก็เดินไปล้างมือในอ่างด้านข้างที่บ่าวชายถือรอเอาไว้ “นายท่านจะกลับเรือนนอน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status