[4]
คนดวงตกสองคน เมื่อได้ยินว่าเป็นคำสั่งของหลวงปู่ภูมิก็ขัดไม่ได้ จำต้องให้ฟีฟ่าอาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ในฐานะคนมาก่อนจึงออกกฎให้ฟีฟ่าปฏิบัติตาม มิฉะนั้นจะไม่ให้อยู่ด้วย "มึงชื่ออะไร" เสียงทุ้มถามขึ้น "ฟะ..ฟีฟ่า" "พูดกับคนอายุมากกว่าให้มันดี ๆ หน่อย ถ้าไม่เชื่อฟังก็กลับไปซะ" คนอะไรแม่งขู่เก่งชะมัด สงสัยจะมีญาติเป็นงูแน่ ๆ ฟีฟ่าบ่นอุบอิบก่อนแนะนำตัวเองอีกครั้ง แม้น้ำเสียงจะไม่ได้รื่นหูแต่ก็ใช้คำที่ฟังแล้วทำให้ปลายตีนของอีกฝ่ายกระตุกน้อยสุดเป็นพอ และยังบอกคนเป็นผู้ใหญ่ว่าถ้าอยากให้คนอื่นพูดดีด้วยตัวเองก็ต้องพูดก่อนสิ โดนตอกหน้ากลับคนเป็นผู้ใหญ่ถึงกับกัดฟันกรอด เถียงไม่ออกเพราะเด็กมันพูดจริง "ว่าแต่มึง เอ๊ย! ว่าแต่นายเถอะ ไม่คิดจะบอกชื่อตัวเองบ้างหรือไง เอาแค่ถามคนอื่นแต่ชื่อตัวเองกลับไม่ยอมบอกมันเสียมารยาทนะไม่รู้หรือไง" ฟีฟ่าถือโอกาสว่ากลับไปบ้าง "ฉันชื่อภูมิ ให้นายเรียกฉันว่าพี่ภูมิ เพราะถึงยังไงฉันก็อายุมากกว่านายหลายปี" พอคำพูดเปลี่ยนก็ทำให้คนตรงหน้าดูดีขึ้นมา น้ำเสียงห้วนไม่น่าฟังก็มีเสน่ห์ขึ้น เสียงทุ้มต่ำติดแหบนิดหน่อยทำให้ฟีฟ่านึกถึงเสียงกระซิบข้างใบหูเมื่อคืนนั้นก็เกิดหน้าแดงขึ้นมา "หยุดคิดลามกกับฉันเลยนะ ไอ้เด็กโรคจิต!" "คะ..ใครคิดลามกกับมึง..เอ๊ย..กะ..กับพี่ภูมิ.." ฟีฟ่ายิ้มแหย ๆ เมื่อถูกมองด้วยสายตาที่ดุดัน ยังไม่ทันไรเขาก็ลืมตัวพูดไม่ดีกับภูมิซะแล้ว "ที่นี่มีห้องนอนห้องเดียว ฉะนั้นนายต้องนอนนอกห้อง" นอกห้องก็คือชานหน้าบ้านที่พวกเขากำลังนั่งอยู่ตอนนี้ มีโต๊ะหมู่ แท่นทำพิธี และเก้าอี้ไม้สักทองสองตัววางคู่กับโต๊ะเข้าชุดกันหันไปทางหน้าบ้าน รอบ ๆ ก็มีแต่ต้นไม้สูง ดึก ๆ คงแยกไม่ออกว่าไหนเปรตไหนต้นไม้ น่ากลัวแบบนี้จะนอนไปได้ยังไงกัน "เรื่องอะไร ทำไมผมต้องนอนข้างนอกด้วย" ฟีฟ่าประท้วงขึ้นเมื่อรู้ว่าตัวเองต้องนอนนอกห้อง "นายก็แหกตาดูสิ ห้องแค่นี้จะยัดตัวเองไว้ตรงไหน หรือนายอยากจะนอนในเสาตกน้ำมัน ฮะ!" นิ้วยาวชี้ไปยังเสากลางเรือนที่มีผ้าสามสีผูกไว้ ฟีฟ่ามองตามและกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ ไม่คิดมาก ฟีฟ่าตัดสินใจได้ทันทีว่าจะเลือกทางไหน ไม่ว่ายังไงไอ้ฟ่าคนนี้ก็จะไม่ยอมนอนข้างนอกเด็ดขาด "ถ้าพี่ไม่ให้ผมนอนในห้องด้วย ผมจะฟ้องหลวงปู่!" เขายืนกรานจะนอนในห้องด้วยกันให้ได้ โดยเอาหลวงปู่มาอ้างเพื่อให้อีกฝ่ายยินยอมและมันก็ได้ผลซะด้วย มือหนากำแน่นกัดฟันกรอด พยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นพร้อมถอนหายใจออกมา "ตามใจ แต่ฟูกมีแค่อันเดียว นายนอนพื้นไปละกัน" ฟีฟ่ามองพื้นบ้านที่เป็นแผ่นไม้กระดานนำมาวางเรียงกันไม่สนิททำให้เกิดร่องจนมองเห็นด้านล่างและยังมีลมลอดขึ้นมาตลอดเวลาทำให้อากาศด้านบนไม่ร้อน แต่กลับเย็นยะเยือกจนขนลุก แค่นอนพื้นไม่เห็นจะเป็นไรเลย เอาไว้ให้ป๊าส่งถุงนอนมาให้ก็ได้ ไม่ต้องง้อไอ้หัวหยิกนี่หรอก ฟีฟ่าบอกกับตัวเอง บนเรือนแม้แสงไฟไม่สว่างนักแต่ก็พอเห็นทุกอย่างชัดเจน ฟีฟ่าจึงฉวยโอกาสแอบมองคนตรงหน้าให้ชัด ๆ อีกครั้ง ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่แค่รูปร่างดีอย่างเดียวแม้แต่หน้าตายังจัดว่าหล่อเหลาเอาการ ถึงโหงวเฮ้งจะบ่งบอกว่าเป็นคนชั่วร้ายไปหน่อยก็ตาม แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมขอบตาถึงคล้ำเหมือนคนอดหลับอดนอนก็ไม่รู้ สงสัยจะเที่ยวกลางคืนบ่อยล่ะสิ "ทั้งที่หล่อขนาดนี้แต่ทำไมถึงชอบทำหน้าเหมือนโดนคนเหยียบตีนอยู่ตลอดเวลาก็ไม่รู้" ฟีฟ่าพึมพำพลางผลุบสายตาลงมายังหน้าอกกว้าง พานให้นึกถึงตอนที่อยู่ในอ้อมกอดแข็งแรง เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นฝ่ายถูกกอดด้วยท่อนแขนที่ใหญ่กว่า หลายครั้งที่แอบขยำหน้าอกแน่น ๆ จนกล้ามเนื้อทะลักออกมาตามซอกนิ้วและแอบเลียหัวนมที่ชูชันคู่นั้น แม่งเอ๊ย..ฟินฉิบหาย "เฮะ..เฮะ.." ฟีฟ่านึกถึงค่ำคืนที่แสนจะเร่าร้อนพลางจ้องหน้าอกแน่นตาเป็นมัน จนหลุดยิ้มหื่นออกมา "มองอะไร ขนลุก ถ้ามึงคิดไม่ดีกับกู คืนนี้มึงได้นอนข้างล่างแน่" "กะ..ก็บอกว่าไม่ได้มองไง อย่าหลงตัวเองให้มันมากนักเลย" เสียงทุ้มเรียกสติฟีฟ่าอีกครั้ง คนอะไรแม่งหล่อยันเสียงทำใจเต้นตุบ ๆ อยู่หลายครั้ง แต่ถึงจะหล่อแค่ไหนไอ้ฟ่าก็ไม่สน เพราะหุ่นแบบนี้ไม่ใช่สเปคของฟีฟ่าสักนิด จ๊อกกก.. กว่าจะตกลงกันได้เวลาก็ปาไปหนึ่งทุ่มและท้องฟีฟ่าก็เริ่มส่งเสียงประท้วงแล้ว "ฉันไม่กินมื้อเย็น" ภูมิพูดดักขึ้นเมื่อได้ยินเสียงท้องร้องของฟีฟ่า แต่คนมาปฏิบัติธรรมวันแรกยังไงก็ทนหิวไม่ไหวหรอก "แต่ผมหิวนี่ ตั้งแต่เที่ยงผมยังไม่ได้กินอะไรเลย พี่หาอะไรให้ผมกินหน่อยสิ นะ..น้าา.." ฟีฟ่าเซ้าซี้จนชายหนุ่มทนไม่ไหวลุกเข้าไปหยิบบะหมี่ถ้วยในห้องมาต้มให้ ถึงจะอยู่ในที่ห่างไกลผู้คนแต่ยังดีที่มีไฟฟ้าประปาให้ใช้ ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้านอกจากหลอดไฟสีส้มในโคมเปลือยเชย ๆ แล้วยังมีกระติกน้ำร้อนกับพัดลมเก่า ๆ เท่านั้น แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย "ไหนว่าไม่กินข้าวเย็นไง ทำไมพี่ถึงมีบะหมี่ถ้วยเก็บไว้ด้วยล่ะ?" ฟีฟ่าถามขึ้นขณะรอสามนาที คิดในใจว่าภูมิคงเอาไว้ต้มกินตอนดึกแน่ ๆ "กิน ๆ เข้าไปเถอะ ถามมากจะเอาไปเทให้หมากินให้หมด" ถามนิดถามหน่อยทำเป็นโมโหไปได้ ฟีฟ่าเบ้ปากใส่คนหน้าดุ ก่อนสาวเส้นเข้าปากและซดน้ำตาม กินต่อจนหมดถ้วย หลังทำให้ท้องอิ่มแล้วฟีฟ่าก็ร้องอยากจะอาบน้ำขึ้นมา เขาไม่กล้าไปคนเดียวเพราะห้องน้ำสร้างอยู่นอกตัวเรือนจึงอ้อนวอนขอร้องให้พาไปจนภูมิเริ่มหงุดหงิด "โตแล้วอาบน้ำคนเดียวไม่เป็นหรือไงวะ วันนี้ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว จะนอน!" "พะ..พี่ภูมิ ไปกับฟ่าหน่อยนะ นะ นะ" "ไม่ไปโว๊ย! ปล่อยแขนกูเดี๋ยวนี้เลยนะ!" ฟีฟ่าติดเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อ ฟังดูน่ารักเหมาะกับเจ้าตัวดี คนส่วนใหญ่ได้ฟังก็อดที่จะตามใจไม่ได้ ยกเว้นไอ้คนตรงหน้า ฟีฟ่าเข้าไปเกาะแขนเกาะขาร่างสูง ปัดไล่ยังไงก็ไม่ยอมปล่อย เหลืออย่างเดียวคงต้องปัดรังควานแล้วสินะ "นี่มึงเป็นตุ๊กแกหรือไงวะ มือเหนียวฉิบหาย บอกไว้เลยนะ ยังไงกูก็ไม่มีทางไปเฝ้ามึงอาบน้ำเด็ดขาด!" ชายหนุ่มประกาศกร้าว ห้านาทีต่อมา.. ร่างสูงยืนอยู่หน้าประตูไม้เก่า ๆ ภายในมีไม้ไว้ขัดล็อกกันคนภายนอกเปิดเท่านั้น ร่องไม้ก็กว้างพอที่จะเห็นคนข้างในชัดเจน "เร็ว ๆ หน่อย ฉันให้เวลาแค่ห้านาทีเท่านั้นนะ ถ้าชักช้าจะทิ้งไว้ตรงนี้แหละ!" "รู้แล้วน่า!" ฟีฟ่าอาบน้ำอย่างรีบเร่ง แปรงฟันอย่างลวก ๆ น้ำแม่งก็เย็นอย่างกับแช่น้ำแข็ง อาบไปตัวสั่นไป รู้งี้ซักแห้งซะก็ดี ปัง! ปัง! "ครบห้านาทีแล้วนะ!" "ใส่กางเกงอยู่ อย่าเร่งนักสิ!" มือหนาเคาะประตูเร่งคนข้างในเมื่อครบเวลา เจ้ากรรม ดวงตาคู่คมดันมองลอดช่องเข้าไปเห็นก้นกลมกลึงเต็มสองตา ตัวแค่นี้ทำไมตูดใหญ่นักวะ เกิดหน้าร้อนฉ่าขึ้นมาจนต้องรีบยืนหันหลังให้ ไม่นานคนตัวเล็กก็เปิดประตูออกมา "พี่เป็นอะไรไปน่ะ?" ฟีฟ่าถามขึ้นเมื่อร่างสูงยืนหันหลังให้และไม่ต่อว่าที่ตนเลยเวลา ซ้ำยังเร่งฝีเท้าเดินกลับขึ้นเรือนเฉย "พะ..พี่จะไปไหน รอฟ่าก่อนสิ" ฟีฟ่ารีบวิ่งตามขึ้นไป โดยไม่ทันสังเกตเห็นใบหูแดงฉ่าของอีกฝ่าย ฟีฟ่าตัวหอมฟุ้งหลังอาบน้ำเสร็จ เหนื่อยมาทั้งวันแล้วตั้งใจจะหลับให้สบายสักหน่อย ไม่รู้ว่าที่นี่ไม่ได้เตรียมที่นอนไว้สำหรับตน มีเพียงฟูกยัดนุ่นแน่น ๆ ขนาดสามฟุตปูอยู่บนพื้นเท่านั้น "ถ้าพี่ไม่อยากให้ฟ่านอนด้วย ก็เอาผ้าห่มมาให้ยืมปูนอนหน่อย พรุ่งนี้ฟ่าจะให้เพื่อนมันเอาที่นอนมาให้" มือเล็กดึงปลายผ้าห่มที่อีกด้านมีมือหนายื้อเอาไว้แน่น "ไม่ได้ กลางคืนอากาศมันเย็น ฉันไม่ชอบ!" ตัวโตอย่างกับควายยังจะขี้หนาวอีกนะ แค่ยืมผ้าห่มมาปูนอนแค่นี้ยังงกอีก ทั้งคู่ยื้อแย่งผ้าห่มกันไปมาสุดท้ายฟีฟ่าก็สูงแรงคนตัวใหญ่กว่าไม่ไหว อีกฝ่ายเพียงแค่สะบัดผ้าห่มร่างของฟีฟ่าก็กลิ้งไปอยู่มุมห้องแล้ว "ไอ้ขี้งกจำไว้เลยนะ โอ๊ย!" หมอนยัดนุ่นถูปาใส่เต็มหน้าของฟีฟ่าก่อนร่างสูงจะทิ้งตัวลงบนฟูกและนอนหันหลังให้ ภูมิมีร่างกายที่กำยำ ขนาดนอนตะแคงแผ่นฟูกยังเหลือพื้นที่แค่นิดเดียว วางหมอนข้างยังไม่ได้เลย ฟีฟ่านำหมอนที่ถูกปาใส่หน้ามาวางข้างฟูกของภูมิและนอนหันหลังให้กัน ตั้งใจจะไปนอนมุมห้องก็กลัวผี มีคนอยู่ข้าง ๆ อุ่นใจกว่าเยอะ ภาวนาให้มันไม่กลิ้งลงมาทับก็พอแล้ว "ปิดไฟด้วย!" "ปะ..เปิดไว้ไม่ได้เหรอ" ฟีฟ่าตกใจเมื่อต้องนอนปิดไฟในที่ไม่คุ้นเคย ขนาดที่บ้านเขายังต้องเปิดไฟทิ้งไว้ดวงหนึ่งเสมอ "ฉันบอกให้ปิด ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง!" โดนเสียงดังตะคอกใส่ฟีฟ่าจึงยอมลุกขึ้น เดินบ่นอุบอิบไปปิดไฟตรงหน้าประตูและรีบวิ่งกลับมานอนยังที่เดิมอย่างรวดเร็ว ดวงตากลมลืมขึ้นในความมืดและมองไปทางหน้าต่างที่มีผ้าม่านปิดเพียงครึ่งปลิวไปมาเพราะถูกลมพัด เขาไม่กล้ามองออกไปข้างนอกเพราะกลัวจะเจออะไรดี ๆ เข้า พรุ่งนี้ปิดหน้าต่างด้วยดีกว่า ฟีฟ่านอนจินตนาการไปต่างๆ นานา ก็เกิดกลัวหนักกว่าเก่าจึงซุกหน้าลงกับหมอน หลับตาปี๋ ที่น่ากลัวแบบนี้เขาคงนอนไม่หลับแน่ ๆ คร่อกกกก...ฟรี้... เวลาล่วงไปหลังเที่ยงคืน คิดว่าจะนอนไม่หลับ ที่ไหนได้ฟีฟ่าดันหลับตั้งแต่หัวถึงหมอนแม้ว่าจะกลัวผีก็ตาม คงเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน ต่างกับอีกคนยิ่งดึกก็ยิ่งตาสว่าง จึงทำได้แค่นอนลืมตาอยู่ในความมืดเท่านั้น "อืมม.." "จะดิ้นอะไรนักหนาวะ!" คนนอนดิ้นกลิ้งไปมาและมาหยุดอยู่ด้านหลัง หลายครั้งที่ละเมอเตะใส่ร่างสูงที่นอนอยู่บนฟูกทำให้อีกฝ่ายต้องขยับตัวหนีไปเรื่อย ๆ จนชิดผนัง ยิ่งดึกอากาศก็เริ่มเย็นขึ้นทำให้ฟีฟ่าหนาวจนต้องหาที่อบอุ่นซุกตัว ยามมีลมพัดผ่านร่องไม้ขึ้นมาทำเอาคนตัวเล็กสั่นสะท้านไปทั้งร่าง จากที่นอนกลิ้งฟีฟ่าก็เริ่มนอนขดตัว แผ่นหลังบางชนเข้ากับฟูกจึงปีนขึ้นไปด้านบนและสัมผัสเข้ากับแผ่นหลังกว้างรู้สึกถึงไออุ่นที่แผ่มาจากร่างกำยำจึงสวมกอดไว้ "เฮ้ย! ใครใช้ให้นายขึ้นมา ลงไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!!" คนโดนเข้าข้างหลังถึงกับสะดุ้งหันมาดันตัวฟีฟ่าออกกลับถูกอีกฝ่ายกอดรัดเอาไว้แน่น ขนาดตอนตื่นยังสะบัดไม่หลุดตอนนอนหลับแทบไม่ต้องพูดถึง ฟีฟ่ากอดแน่นกว่าเก่าเสียอีก ภูมิถึงกับถอนหายใจด้วยความระอา อยู่มาจนอายุสามสิบไม่เคยมีใครกล้าทำกับเขาแบบนี้มาก่อน แต่เมื่อทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้เขาจึงยอมปล่อยอีกฝ่ายไปก่อน เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยจัดการกับไอ้เด็กโรคจิตที่คิดลวนลามเขาอีกที พ่อจะให้นอนด้านนอกซะให้เข็ด วูบ~ ไม่รู้ว่าตอนไหนที่จู่ ๆ ดวงตาคู่คมเริ่มหนักขึ้น ความรู้สึกผ่อนคลายที่ไม่ได้สัมผัสมานานทำให้ความอ่อนล้าที่สะสมมาแรมเดือนออกอาการ เปลือกตาสีอ่อนค่อย ๆ ปิดลงและผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว เช้าวันใหม่มาเยือนอย่างรวดเร็วสำหรับคนไม่ได้หลับได้นอนมาเป็นแรมเดือนอย่างภูมิ ครั้งสุดท้ายที่เขานอนหลับสนิทก็คือก่อนคุณพ่อจะเสียไปไปเมื่อครึ่งปีก่อน ดวงตาคู่คมปรือขึ้นช้า ๆ แม้แสงแดดยังไม่สาดเข้ามาในห้อง "นี่ฉันหลับไปเหรอ?" พอขยับตัวจะลุกขึ้นก็พบว่ามีร่างเล็กนอนทับอยู่บนกายแกร่ง ใบหน้าหวานหลับสบาย น้ำลายไหลเยิ้มจนชุ่มอกเสื้อ เพียงเท่านั้นเส้นแห่งความตึงเครียดผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อทันที "อะ..ไอ้โรคจิต นี่นายคิดจะลักหลับฉันเหรอ!" มือหนาจับคอเสื้อฟีฟ่าด้วยมือเดียวและเหวี่ยงออกอย่างแรง ร่างเล็กกระเด็นไปหยุดที่มุมห้องจุดเดิมกับเมื่อคืนเป๊ะ ฟีฟ่าร้องโอดครวญด้วยความเจ็บ เอะอะจับโยน เอะอะจับเหวี่ยง กว่าจะครบสองเดือนเขาได้ช้ำในตายก่อนเบญจเพสแน่ ๆ "ฮืออ..พี่ทำอะไรน่ะ ฟ่าเจ็บนะ!" "ฉันต้องถามนายมากกว่า นี่นายคิดจะลักหลับฉันใช่มั้ย!" ร่างสูงลุกขึ้นชี้หน้าฟีฟ่าด้วยความโกรธ "ลักหลับบ้าอะไร อย่าหลงตัวเองนักเลย พี่ต่างหากที่เป็นคนกอดฟ่าทั้งคืน" "ว่าไงนะ คนอย่างฉันนี่นะกอดนาย.." "ก็ใช่นะสิ!" หนึ่งชั่วโมงก่อนฟีฟ่าตื่นขึ้นเพราะปวดฉี่ ตั้งใจจะไปเอาขวดเปล่ามาฉี่เก็บไว้เพราะไม่กล้าลงไปเข้าห้องน้ำข้างล่าง พอจะลุกขึ้นเท่านั้นแหละก็ถูกแขนแกร่งกอดไว้แน่นและยังบังคับจูบปากเขาอีก "ไม่จริง! แค่คิดก็จะอ้วกแล้ว คนอย่างฉันเนี่ยนะจะกอดนาย อย่ามาโกหก" ชายหนุ่มว่าพลางทำท่าขยะแขยงฟีฟ่าเสียเต็มประดา เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างเขาจะกอดจูบฟีฟ่าลง "ครับ ครับ พี่ไม่ได้กอด ไม่ได้จูบผมหรอกครับ เป็นผมที่ละเมอปล้ำพี่เองก็ได้" ฟีฟ่าขี้เกียจจะเถียงด้วยเพราะกลัวจะถูกส่งไปนอนคุยกับรากมะม่วงหลังบ้าน ร่างเล็กลุกขึ้นเพื่อจะลงไปเข้าห้องน้ำเพราะอั้นมานานแล้ว พอเดินไปถึงประตูก็ต้องวิ่งกลับเข้ามาอีกครั้ง "พี่ภูมิ ฟ่าปวดฉี่" "ปวดฉี่ก็ไปฉี่สิ จะมาบอกฉันทำไม!" "ก็ข้างล่างมันมืด ฟ่ากลัวผี" อยากจะถีบมันออกไปจริง ๆ แต่ก็กลัวไอ้มือตุ๊กแกจะกระโดดเกาะเอาอีก จำต้องพาลงไปห้องน้ำข้างล่าง เริ่มสงสัยว่าไอ้คนตรงหน้าใช่คนใกล้เบญจเพสจริงหรือเปล่า หรือพ่อมันจะแจ้งเกิดเร็วไปยี่สิบปีนะ "มึงนี่ภาระจริง ๆ" ถึงปากจะบ่นแต่ก็ภูมิก็ยอมพาคนกลัวผีลงไปแต่โดยดี เวลาตีสี่ท้องฟ้ายังมืดอยู่ แต่ที่นี่กลับมืดกว่าที่อื่นมากนัก ฟีฟ่าตัวติดกับภูมิไปจนถึงห้องน้ำ ซ้ำยังยืนฉี่โดยไม่ปิดประตูอีก ฉี่เสร็จมือก็ไม่ล้างและยังไปเกาะท่อนแขนแกร่งไว้ตามเดิม ถึงจะถูกมองจนตาแทบถลนแต่ก็ไม่สนใจ สำหรับเขาถึงไอ้หมอนี่จะน่ากลัวแต่ก็ไม่เท่าผีหรอก ฟีฟ่าตั้งใจจะขึ้นไปนอนต่อแต่ถูกสั่งให้ไปนั่งสมาธิ คนนอนไม่พอก็โวยวายขึ้นทันที "ผมง่วงจะตาย เอาไว้ตื่นแล้วค่อยนั่งก็ได้นี่ ไอ้สมาธิเนี่ย" "นายมาปฏิบัติธรรมนะ ไม่ได้มาเข้าค่ายลูกเสือ ถ้าไม่ทำก็กลับไปซะ!" พอโดนไล่ฟีฟ่าก็เบ้ปากใส่และยกเท้าขึ้นมานั่งขัดสมาธิอย่างเสียไม่ได้ ร่างสูงเดินไปนั่งตรงข้าม ยังไม่ทันหลับตาก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งเข้าเต็มสองตา "ไอ้เด็กโรคจิต ทำไมถึงไม่ใส่กางเกงใน ฮะ!"ตอนพิเศษ - เจย์ - ภาคินแสงสียามค่ำคืนบนถนนบันเทิงเป็นสิ่งที่คนอย่างผมโปรดปรานมากที่สุด แม้อายุจะยังไม่ถึงยี่สิบปี แต่ผมก็สามารถตะลอนหาความสนุกได้โดยอาศัยเส้นสายของภูวเดชเดชานอกจากหน้าตาที่หล่อเหลาเหนือมนุษย์แล้วด้วยความที่เป็นทายาทคนหนึ่งของตระกูลทำให้ผมเป็นที่หมายปองของนักเที่ยวราตรีอย่างล้นหลาม สเปคของผมไม่ใช่สาวสวยหรือน่ารักแต่เป็นหนุ่มหน้าหวาน ซึ่งผมไม่เคยขาดแคลนเลย แต่ที่โปรดปรานที่สุดก็คือคนสวยขาที่ร้อนแรงและพร้อมจะถ่างขาให้ผมตลอดเวลา"อื้มม..อ๊าา..คุณคิน แรง ๆ กระแทกผมให้แรงกว่านี้อีก อ๊าา.."ทุกครั้งหลังดีลกันในผับเรียบร้อยแล้วผมจะพาพวกเขาไปเริงรักต่อยังโรงแรมระดับห้าดาว ผมเปิดห้องที่มีราคาแพงที่สุดให้กับพวกเขาเพราะเสียงครางด้วยความเสียวซ่านจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ผมจนกระเจิง บ่อยครั้งที่ผมขยับโยกอย่างรุนแรงพวกหนุ่มหน้าหวานถึงกับเข่าทรุดไม่เป็นท่า และทุกครั้งหลังเสร็จกิจผมจะมีค่าตอบแทนให้จำนวนหนึ่งเพื่อป้องกันความยุ่งยากที่จะตามมาผมจะไม่ยุ่งกับคนเดิมซ้ำเป็นหนที่สองเว้นเสียแต่ว่าเด็ดจริง ๆ ดังนั้นจึงมีหลายคนไม่พอใจกับการถูกผมเอาและทิ้งในครั้งเดียว ฉะนั้นผมจึงค่อนข้างระวังตัวเองเป
ตอนพิเศษ - มังกร - ภีมเมื่ออายุครบสิบสองปีทายาทของภูวเดชเดชาจะต้องเลือกคนคุ้มกันขึ้นมาหนึ่งคน โดยคนผู้นี้จะอยู่ข้างกายเพื่อปกป้องผู้เป็นนาย ตราบลมหายใจสุดท้ายของชีวิตก๊อก ๆ"เข้ามา""ขออนุญาตครับ ท่านผู้นำเชิญคุณภีมให้ไปพบที่ห้องทำงานครับ" ร่างสูงก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมผมปิดหนังสือในมือลงเมื่อคนของคุณพ่อเข้ามาภายในห้องก่อนลุกขึ้นและเดินนำเขาออกไปโดยไม่พูดอะไร เมื่อไปถึงก็พบคุณพ่อ อาธีร์ นั่งอยู่บนโซฟา ภายในห้องนั้นยังมีเด็กชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมอยู่อีกหนึ่งคน"คุณพ่อต้องการพบผม มีอะไรหรือเปล่าครับ"?"นั่งก่อนสิ"ผมเข้าไปนั่งข้างคุณพ่อ มือหนาวางลงบนศีรษะอย่างอ่อนโยนก่อนหันไปเรียกเด็กชายคนนั้นเพื่อมาแนะนำให้ผมรู้จัก"นี่คือมังกร เขาจะมาเป็นผู้คุ้มกันของลูก ลูกคิดว่าเป็นยังไงบ้างล่ะ"ผมมองสำรวจเด็กชายที่มีอายุเท่ากันตั้งแต่หัวจดเท้าก่อนลุกขึ้นประจันหน้า ส่วนสูงของเขาทำให้ผมถึงกับต้องขมวดคิ้ว คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมน้อยคนนักที่จะมีส่วนสูงมากกว่า ไหนจะกล้ามเนื้อที่โตเกินวัยและผิวที่คล้ำแดดนั่นอีก"ผมยังไงก็ได้ครับ" ผมตอบคุณพ่อไปมังกรไม่ใช่เด็กคนแรกที่คุณพ่อพามาให้ผมเลือก ก่อนห
ตอนพิเศษ - เรือนไม้สีขาว..พ่อยอดขวัญยอดดวงใจของพี่แก้ว พี่จะรอพ่ออยู่ ณ ที่แห่งนี้ ตลอดไป..สายลมพัดเอื่อยผ่านมาทางเรือนไม้สีขาว กระทบกระดิ่งลมเกิดเป็นเสียงกังวานฟังเพราะเสนาะหูเรือนไม้สีขาวหลังน้อยปลูกอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางแมกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะแก้วเจ้าจอมที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว ด้านหลังเป็นป่าไผ่ต้นสูงท่วมหัว ถัดออกไปมีบึงน้ำขนาดใหญ่ผ่านอยู่ไหลสายหนึ่งด้วยสุขภาพที่ไม่แข็งแรงทำให้ผมต้องมาอาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เพียงลำพัง อากาศที่บริสุทธิ์จะช่วยให้อาการป่วยของผมไม่หนักหนาเหมือนตอนอยู่พระนครในแต่ละวันของผมผ่านไปอย่างเชื่องช้าและเงียบเหงานอกจากอ่านตำราและวาดภาพ การไปเดินเล่นริมบึงหลังป่าไผ่ยังไม่สามารถคลายความเบื่อหน่ายนี้ลงไปได้ทิวาผันผ่านล่วงเข้าสู่รัตติกาลแห่งวัน ณ ที่แห่งนี้ยังคงมีเพียงผมเช่นเดิม ผมเคยคิดอยู่บ่อยครั้งว่าจะต้องจบชีวิตอยู่ที่เรือนสีขาวแห่งนี้เพียงลำพัง แต่อย่างน้อยก่อนจะถึงวันนั้นขอให้ความอ้างว้างในใจผมได้เบาบางลงสักนิดก็ยังดีและในที่สุดคำขอก็เป็นจริง เมื่อวันหนึ่งสายลมได้พัดพาคนผู้นั้นเข้ามาในชีวิตของผม"เห็นเดินมาทางนี้นี่นา หายไปไหนแล้วล่ะ""ทางนั้
[23] คิดถึงนะ "มองอะไรอยู่ไอ้ฟ่า ไปกันได้แล้ว" เลิฟเรียกฟีฟ่าที่เอาแต่ยืนมองไปรอบกุฏิของหลวงปู่ ทั้งที่คนอื่น ๆ นั่งรออยู่ในรถกันหมดแล้ว หลังกราบลาหลวงปู่และได้รับพรมาชุดใหญ่ทุกคนจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ คิดว่าฟีฟ่าจะกระดี๊กระด๊ารีบไปให้ไว ที่ไหนได้กลับอิดออดไม่ยอมขึ้นรถสักที "จะไม่มาส่งจริง ๆ เหรอเนี่ย" ฟีฟ่าเริ่มถอดใจเมื่อไม่เห็นเงาหัวของภพภูมิโผล่ออกมาให้เห็น จนได้ยินเสียงเพื่อนเลิฟตะโกนเรียกอีกครั้งจึงรีบเดินไปขึ้นรถ เพราะหากมีครั้งที่สามจะต้องเป็นเสียงเฮียยูโรแน่ "ไอ้คนใจดำ จำไว้เลย ถ้ามาง้อทีหลังไอ้ฟ่าจะไม่ให้ยกโทษให้แน่ คอยดูสิ!!" เขาต่อว่าภพภูมิก่อนมุดตัวเข้าไปในรถและยังแช่งให้คนพี่นอนไม่หลับ ตั้งใจว่าต่อไปจะไม่เป็นหมอนข้างให้อีกแล้ว ยูโรขับรถพาทุกคนมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ตลอดทางราบรื่นไร้อุปสรรค ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านสวนบรรยากาศร่มรื่นที่มีพื้นที่เล็ก ๆ ไว้สำหรับปลูกต้นไม้ขาย ฟีฟ่าฝากให้ป๊าช่วยปลูกต้นไผ่ที่ได้รับมาไว้ที่หลังบ้าน ซึ่งจุดนั้นตรงกับระเบียงห้องของยูโรพอดี ราวกับถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า แม้ไม่ชอบใจแต่ยูโรก็ไม่ได้ขัดอะไร "วันนี้ไม่ออกไปสมัครงานเหรอ
[22] ลาก่อนเรือนไม้สีขาว ภพภูมิยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของกลุ่มมือปืนที่ต่างกำลังจดจ่อวัตถุสีดำมาทางเขา มือหนากำแน่นจนสั่นด้วยความเจ็บใจที่มองไม่เห็นหนทางที่จะช่วยฟีฟ่าเพราะตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย "เจอกันชาติหน้านะครับคุณภพ ป่านนี้คุณพ่อคุณคงรอจนเมื่อยแล้ว" รอยยิ้มเหี้ยมปรากฏขึ้นบนใบหน้าของธีร์ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องกระหน่ำยิงคนตรงหน้า เมื่อตอนรถตกเหวไปพร้อมกับอดีตนายใหญ่ยังอุตส่าห์รอดชีวิตมาได้ คราวนี้ถ้าไม่ตายก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว "อย่ายิงนะ..พี่ภูมิ!!" ฟีฟ่าตะโกนห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว สมุนของธีร์ลั่นไกแทบจะพร้อมกัน โดยมีเป้านิ่งคือภพภูมิ ปัง! ปัง! ปัง! เอี๊ยดดดดด!! เสียงปืนรัวขึ้นดังจนหูแทบดับแต่ช้ากว่ารถยนต์ติดกระจกกันกระสุนที่ขับพุ่งเข้ามาขวางด้านหน้าของภพภูมิเอาไว้ ร่างสูงย่อตัวลงเพื่อหลบคมกระสุนที่ยิงเลยหลังคารถมาได้อย่างหวุดหวิด "รอพี่นานมั้ยจ๊ะที่รัก" คนในรถลดกระจกลงพลางยักคิ้วข้างหนึ่งทักทายภพภูมิ มือหนาดันแว่นตากันแดดขึ้นพลางขยิบตาให้ "เงียบปากไปเลยไอ้เท็นมะ แล้วไอ้เจย์ล่ะ!" "ไอ้เจย์ไปจัดการข้างบนแล้ว เห็นมันว่าจะไปดูหน้าเมียมันด้วย ช่วงนี้ได้ข่าวว่าติดเ
[21] คนบงการ"ผมขอเสนอให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนต่อไป"เสียงทุ้มพูดชัดเจนทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นภายในห้องประชุมขนาดใหญ่ ธีร์แสดงท่าทีลำบากใจเมื่อถูกคะยั้นคะยอให้ยอมรับ ฝ่ายที่สนับสนุนธีร์ต่างแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าเขาเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุดทางด้านฝ่ายที่สนับสนุนอดีตนายใหญ่ต่างหันมองกันด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าเสนอชื่อธีร์ให้ขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป แต่เสียงของผู้ที่สนับสนุนเขาก็ยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง"ผมเห็นด้วยที่จะให้คุณธีร์เป็นผู้นำคนใหม่""ผมก็เหมือนกัน""ทุกท่านกรุณาคิดให้ดี ๆ ก่อนนะครับ ผมคิดว่าตัวผมไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกนะครับ" ธีร์ลุกขึ้นยืนและบอกทุกคนในห้องอย่างถ่อมตนในขณะที่หลายคนพยายามผลักดันให้เขาขึ้นรับตำแหน่งให้ได้"คุณธีร์ติดตามอดีตนายใหญ่มานาน ฝีไม้ลายมือย่อมดีกว่าพวกเด็กเมื่อวานซืนเยอะ เพื่อความก้าวหน้าของพรรค ผมขอสนับสนุนคุณธีร์อีกเสียงครับ""ใช่แล้ว ถ้าไม่ใช่คุณธีร์ก็ไม่มีใครเหมาะสมแล้ว"ฝ่ายที่เชียร์ธีร์ต่างส่งเสียงสนับสนุนเขาเต็มที่ เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เห็นด้วยแล้วมีจำนวนมากกว่าทำให้ฝ่ายสนับสนุนอดีตนายใหญ่ต้องนั่งเงียบ อยากจะลุกจากเก้าอี้แต่ก็อยากรู้ข้อความ