หน้าหลัก / แฟนตาซี / เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ / บทที่ 33 หญิงงามบ้านน้องสาวเจ้าสิ!

แชร์

บทที่ 33 หญิงงามบ้านน้องสาวเจ้าสิ!

ผู้เขียน: สุขนิรันดร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-23 13:59:44

บทที่ 33 หญิงงามบ้านน้องสาวเจ้าสิ!

“ข้าดีใจยิ่งขึ้นที่เจ้ากลับมา นานมากแล้วน้องชายที่เราไม่ได้เจอกัน” เพียงแค่ไม่นานนักจางหลงกับคนอื่นๆ ก็เดินทางมาถึง ก่อนที่สองพี่น้องจะสวมกอดกันเบาๆ ตามประสาพี่น้องที่สนิทกันมาก “ว่าแต่เจ้าดูตัวโตขึ้นมากเลยนะ เมื่อก่อนก็ว่าโตมากแล้ว ตอนนี้เจ้าไม่ต่างจากหมีป่าเลยทีเดียว”

ฮ่า ฮ่า ฮ่า

“ท่านไม่ต้องมาล้อข้าหรอกน่า ข้าเพียงแค่โชคดีนิดหน่อย ทำให้ได้ฝึกฝนวรยุทธ์มาบ้าง ร่างกายของข้าที่เคยโตมากอยู่แล้ว มันก็เลยเติบโตขึ้นตามไปด้วยมันก็เท่านั้นแหละ”

“จริงหรือ!” อีกคนหนึ่งที่ตามมาด้วยก็ถึงกับตาเบิกกว้าง สำหรับคนธรรมดาๆ อย่างพวกเขาแล้ว การที่จะโชคดีได้รับเลือกเข้าสำนักยุทธนั้นเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ

“สมแล้วกับที่ได้รับฉายาพญาเสือ”

“...”

“...”

“...”

ถึงแม้จะจากไปนานปี แต่จางหู่ก็เช่นเดียวกับจางหลง ด้วยอุปนิสัยที่ใจดีและเป็นคนตรงไปตรงมา แม้เขาจะอายุยังน้อยเพียงแค่ห้าสิบต้นๆ แต่ก็เป็นที่รักและเคารพของผู้คนในหมู่บ้านเช่นเดียวกัน

“เรื่องนั้นเราค่อยเอาไว้มาคุยกันหลังจากที่ไปขนของกลับมาแล้วเถอะ ข้าจ้างผู้คุ้มกันมาส่งเสบียงอาหารให้มาส่งอยู่ข้างนอกหมู่บ้าน และสัญญาจ้างก็กำลังจะหมดลงไปในไม่กี่ชั่วยามแล้ว เราออกไปช่วยขนมันมากันเถอะ”

“ดีดี ว่าแต่สิ่งของที่เจ้าพากลับมานั้นเยอะหรือไม่ แล้วมีอะไรบ้างที่เจ้าพากลับมา”

“มันก็คงไม่มากมายเท่าไหร่ แต่ก็น่าจะพอดูแลพวกเราทั้งหมู่บ้านในหนาวนี้อยู่ท่านพี่ ส่วนว่ามีอะไรบ้างนั้นเดี๋ยวพวกเราไปดูกันด้วยตาตัวเองกันเลยดีกว่า พอดีว่าท่านอาจารย์ตามข้ามาที่เมืองด้วย ส่วนสิ่งของทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ท่านอาจารย์ของข้าจัดหามาให้ ข้าเองก็ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่บ้าง ส่วนจำนวนนั้นก็น่าจะประมาณห้าสิบเล่มเกวียนเห็นจะได้”

“ต้องเหนื่อยเจ้าแล้วน้องชาย” จางหลงตบไหล่น้องชายที่ตัวสูงกว่าเบาๆสองสามครั้ง ก่อนที่จะหันไปบอกทุกคนที่ตามมาด้วย “เดี๋ยวพวกเจ้าส่งสามคนช่วยแยกออกไปแจ้งคนในหมู่บ้านหน่อย ว่าให้ตามคนมาเพิ่ม พวกเราต้องการผู้ใหญ่อีกประมาณร้อยคน เนื่องจากพวกเราไม่ได้มีม้าอสูร หรือวัวอสูรที่เอาไว้ใช้ลากจูง แล้วก็ให้อีกสักคนไปแจ้งคุณหนูด้วยว่า น้องชายของข้ากลับมาแล้ว และเขาได้นำสิ่งของต่างๆกลับมาด้วย เผื่อว่านางอยากจะลงมาดูว่ามีของอะไรที่นางต้องการบ้าง...

อ้อ...และถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากขอร้องให้คุณหนูช่วยส่งเจ้าสังมาให้พวกเราด้วย อย่างน้อยที่สุดมีมันมาช่วยคุ้มกันเสบียงอาหารมันก็คงเป็นเรื่องดีกว่า”

““ขอรับ””

มีสามเสียงรับคำแล้วพยักหน้าให้กับจางหลง แล้วต่างคนต่างก็แยกไปทำหน้าที่ของตนเอง โดยที่มีจางหู่มองมาหาพี่ใหญ่ของตนกับผู้คนในหมู่บ้านด้วยความฉงนสนเท่ เขาอยากรู้นักว่าคุณหนูคนนั้นคือใคร แล้วทำไมทั้งพี่ใหญ่ของเขาและทุกคนในหมู่บ้านถึงได้เรียกนางอย่างเคารพเช่นนั้น

“คือว่าพี่ใหญ่...”

“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการจะถามเรื่องอะไร เดี๋ยวพวกเราคุยไปเดินทางไปก็แล้วกัน เจ้าเป็นคนบอกเองมิใช่หรือว่าพวกเรามีเวลาเพียงแค่ไม่นานแล้ว”

ในระหว่างที่เดินทางไปยังช่องเขา ที่เป็นทางเชื่อมระหว่างหมู่บ้านกับโลกภายนอก จางหู่ก็ได้รับรู้เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในตลอดระยะเวลาเกือบสองเดือนที่ผ่านมา

ทั้งเรื่องราวการมาถึงของเด็กหญิงแปลกหน้าพร้อมกับหมาตัวเขื่อง ซึ่งในตอนแรกผู้คนในหมู่บ้านก็ต่างหวาดกลัวนางเป็นอย่างยิ่ง แต่หลังจากที่นางคอยมอบอาหาร ของกินเล่นเล็กๆน้อยๆ ให้กับเด็กๆในหมู่บ้าน ความเป็นอริศัตรูระหว่างนางและผู้คนในหมู่บ้านก็ค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ

หลังจากนั้นเด็กหญิงก็เริ่มมีการจ้างวานเหล่าผู้ปกครองของเด็กๆ แต่ละคน ให้ทำงานเล็กๆน้อยๆ ให้แก่นาง โดยค่าแรงที่นางจ่ายออกให้นั้นเป็นหัวพืชชนิดหนึ่งที่มีรสชาติดีมากและให้พลังงานสูง กับเนื้อสัตว์ที่หาได้ยากยิ่งในหมู่บ้านแห่งนี้

แรกเริ่มด้วยการที่ให้แผ้วถางป่าแลกกับอาหารการกินเพียงพอต่อผู้คนทั้งครอบครัวในหนึ่งวัน จนกระทั่งให้ทำเรื่องต่างๆมากมายจนตีนเขาด้านหลังหมู่บ้าน กลายเป็นมีบ้านหลังเล็กๆ อยู่ติดกับลำธาร เช่นเดียวกับพื้นที่หน้าบ้านที่กว้างยาวราวหนึ่งลี้เห็นจะได้ 

ในช่วงเวลานั้นผู้คนต่างเรียกนางว่าเด็กหญิงประหลาด ที่มาพร้อมกับหมายักษ์ตัวหนึ่ง ที่สำคัญที่สุดคือนางนั้นเป็นที่รักของเด็กๆ ทุกคนในหมู่บ้าน

ตามมาด้วยเรื่องราวการเพาะปลูกมันทั้งสองชนิด ที่ทั้งโตเร็วมีรสชาติดีแล้วยังให้พลังงานสูง ยังไม่รวมกับที่หัวมันทั้งสองชนิดนั้น ในตลอดระยะทางที่ปลูกมันทั้งสองชนิด ผืนดินที่เคยแห้งแล้งเเข็งกระด้าง ก็ได้ค่อยๆเปลี่ยนเป็นที่ดินที่ชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์ และสายน้ำที่เหือดแห้งไปนานนับสิบปีค่อยๆกลับมาเช่นเดียวกัน

แน่นอนว่าด้วยความสงสัยของจางหู่ เขาย่อมต้องถามออกไปว่าเด็กหญิงตัวน้อยนั้นเอาอาหารมากมายมาจากไหน เพราะมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถมีอะไรบางอย่าง ซึ่งจุอาหารได้มากมายขนาดที่สามารถเลี้ยงดูผู้คนทั้งหมู่บ้านได้นานนับเดือน แม้แต่ตัวเขาที่เป็นศิษย์เอกของท่านอาจารย์ และได้ออกไปท่องโลกภายนอกมานานปี ก็ยังไม่เคยเห็นสมบัติวิเศษใดๆ ที่สามารถมีความจุได้มากมายเช่นนั้นเลย แม้แต่ครั้งเดียว

“ข้าเองก็สงสัยไม่ต่างจากเจ้าเหมือนกัน แต่คำถามนั้นก็ไม่เคยมีคำตอบให้พวกเราเลยแม้แต่ครั้งเดียว”

“...”

“แต่ว่านะจางหู่ ยังมีหลายเรื่องหลายราวที่ข้าคงจะต้องอธิบายให้เจ้าได้เข้าใจทีหลัง แต่อย่างน้อยที่สุดข้าอยากให้เจ้าเข้าใจว่านางนั้นเป็นคนที่ช่วยชีวิตพวกเราทั้งหมู่บ้านเอาไว้ แล้วยังเป็นคนหนึ่งที่มีความสำคัญต่อพวกเราและเด็กๆทุกคนในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะรู้สึกกับนางเช่นไร แต่ข้าไม่อยากให้เจ้าเป็นเหมือนกับพี่รองของเจ้าที่ตั้งตนเป็นศัตรูกับนางไปแล้ว”

“... พี่รองอย่างงั้นหรือ”

“เจ้ายังไม่ต้องไปสนใจเรื่องนั้นในตอนนี้หรอก อย่างที่พี่ได้บอกไป มิใช่ว่าพี่หลงในสิ่งที่นางทำเป็นหน้ามืดตามัว แต่ว่าตัวนางนั้นได้รับการพิสูจน์แล้ว แม้จะไม่ใช่ทั้งหมดที่พวกเรารู้เกี่ยวกับนาง ข้าหวังว่าเจ้าและนางจะเข้ากันได้เป็นอย่าง”

“พี่ก็รู้ว่าสำหรับข้าแล้ว ถ้าหากใครดีกับหมู่บ้านของเรา ข้าก็พร้อมจะดีกับคนนั้นเช่นเดียวกัน”

“อย่างนั้นก็ดีแล้ว”

“ข้าอยากรู้จริงๆว่านางนั้นเป็นคนเช่นไร ทำไมถึงทำให้แม้แต่คนอย่างท่านพี่ถึงได้กล่าวเช่นนี้ออกมา” จางหู่กล่าวติดตลก “หรือว่าคุณหนูท่านนี้ที่พี่กล่าวถึงจะเป็นหญิงงามกัน”

“หญิงงามบ้านน้องสาวเจ้าสิ นางเป็นเพียงแค่เด็กแปดขวบ”

“ห๊ะ!!”

…………………………

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 84 แปดเซียนสองเทวะหนึ่งอรหันต์(1)

    บทที่ 84 แปดเซียนสองเทวะหนึ่งอรหันต์(1)จากแสงของดวงตะวันที่เริ่มอ่อนแรงลงในยามโพล้เพล้ เปลี่ยนเป็นแสงสว่างที่สาดกระทบลงมาทั่วหุบเขาในเสี้ยวพริบตา ทำให้ชาวบ้านทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปโดยเฉพาะความรู้สึกเคารพ นอบน้อม และหวั่นเกรงต่อแสงสว่างเหล่านั้น แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะไม่สามารถมองเห็นต้นเหตุของแสงสว่างเหล่านั้นได้ แต่ว่าความรู้สึกของพวกเขาทุกคน แทบจะไม่แตกต่างกันเลยและในเวลาเดียวกัน สายตาของทุกคนก็หันมองไปทางนางเซียนน้อยของพวกเขา ผู้ซึ่งนำพาแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์สงบร่มเย็นมายังหุบเขาแห่งนี้ ที่ตอนนี้แม้แต่ตัวนางเองก็ยังมองไปยังฟากฟ้าไม่แตกต่างจากทุกคน...ส่วนที่แตกต่างกันนั้นก็คงจะเป็นภาพ ที่ปรากฏอยู่ในดวงตาของเยว่หัวนั้น มันเป็นกลุ่มก้อนรูปร่างคล้ายคลึงกับมนุษย์โปร่งใส แต่มีขนาดและสีสันต์ที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ตัวเล็กๆ กว่าปลายเข็ม ไปจนกระทั่งตัวโตจนสูงกว่ายอดเขาที่สูงที่สุดด้วยซ้ำ...“ไม่อยากจะเชื่อ ตกลงว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่...”เยว่หัวมองไปยังภาพที่ปรากฏตรงหน้าของนาง ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้คิดไปไกลเกินกว่านั้น

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทนำเล่มสาม ดินแดนแห่งชีวิต...หุบเขาธิดาสวรรค์

    บทนำเล่มสาม ดินแดนแห่งชีวิต...หุบเขาธิดาสวรรค์อีกไม่นานหลังจากนี้...ดินแดนแห่งนี้จะเป็นที่กล่าวถึงของผู้คนมากมายดินแดนแห่งนี้ที่เคยเป็นดินแดนแห่งความตายดินแดนแห่งนี้ที่ผู้คนเคยหลีกหนีดินแดนแห่งนี้ที่เคยถูกทอดทิ้งโดยผู้คนมากมายดินแดนแห่งนี้ ที่แทบจะไม่เหลือใครในอีกไม่กี่ปีต่อมา ถ้าหากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆดินแดนแห่งนี้ ที่ผู้คนภายนอกส่วนใหญ่ต่างมองว่า มันคือดินแดนที่ตายไปแล้วดินแดนแห่งนี้คือหุบเขาที่มีเพียงแค่ความแห้งแล้ง ที่มีเพียงแค่ซากแห่งชีวิต ที่ค่อยๆ แห้งเหือดลงไปในทุกทุกขณะมันคือดินแดนแห่งความสิ้นหวัง ที่ไม่มีใครอยากจะไปเข้าใกล้มัน เพราะไม่ว่าจะเป็นพื้นดินที่แห้งแล้ง ไม่ว่าจะเป็นหุบเขาที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูร แล้วยังมีความลับต่างๆมากมาย ที่เคยพรากชีวิตผู้คนไปนับไม่ถ้วนในตลอดระยะเวลา 10 ปี จนทำให้ภูเขาแห่งนี้ เป็นที่ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไปโดยสมบูรณ์ เพราะว่าแม้แต่คนภายในเองก็ยังพยายามที่จะหลีกหนี พวกเขาพยายามที่จะกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดออกมาจากดินแทนแห่งนั้น…แต่อยู่มาวันหนึ่ง...ดินแดนที่เคยไร้ซึ่งชีวิตและความหวัง ก็ได้เกิดปรากฏการณ์สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน จนผู้คนที่พบ

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 82 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (2)

    บทที่ 82 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (2)“…!!”ในทันทีที่ชาได้สติขึ้นมา มองไปยังใบหน้าของพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์นั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างออก ปากอ้าหุบอ้าหุบพะงาบพะงาบราวกับต้องการจะพูดบางสิ่งบางอย่างออกไป แต่เขารู้ดีว่าความหวังของเขามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ต่อให้ใบหน้านั้นจักคุ้นเคยและคล้ายคลึงกับคนที่เขาเฝ้าตามหามาช่วยชีวิตสักแค่ไหน แต่มันก็เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่ใครสักคนหนึ่งจะมีใบหน้าเหมือนอีกคน ขนาดนี้จะเป็นคนคนเดียวกัน...‘บางทีอาจเป็นข้าเองที่จำผิด...’เขาพยายามปลอบใจตัวเอง แล้วดึงสติกลับมาในเหตุการณ์ปัจจุบันอีกครั้ง สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และเขาจะช้าไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว…“พระคุณเจ้าขอรับ...”“เรารู้ว่าเจ้ามหาเราทำไม พูดออกมาเถิดเพราะว่าเจ้าคงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าเรานั้นสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้”สิ่งที่พระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์นั้นกล่าวออกมานั้นไม่ผิดเลย สำหรับคนที่เคยเข้าเฝ้าพระปัจเจกพุทธเจ้าและพระพุทธเจ้ามาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน สำหรับเขาที่มีชีวิตอยู่มานานมากขนาดนั้น มีหรือที่เขาจะไม่รู้ในข้อนี้เพราะว่าสำหรับพระที่บรรลุอรหันต์แล้ว

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 81 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (1)

    บทที่ 81 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (1)#บทนี้เป็น บท ย่อยแยกอีกบทหนึ่งนะครับ#ย้อนกลับไปในตอนก่อนที่เขาจะมอบระฆังธรรมให้กับเพื่อน ในขณะนั้นชาได้สังเกตเห็น ถึงความตั้งใจที่จะสั่งสอนธรรมะของเพื่อน แต่ด้วยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การที่นางไม่สามารถจดจำข้อธรรมใดๆ ได้มากนักก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรเนื่องจากว่าการที่เขาได้ทำการล้วงเอาจิตของนางขึ้นมาจากนรกนั้น มันเป็นเรื่องที่ทำการฝืนชะตากรรมของคนคนหนึ่ง และการที่เขา เรียกดวงจิตเดิมของนางที่ควรจะแตกดับไปนานแล้ว ตลอดไปจนถึง สัญญาสังขารและวิญญาณแต่เดิมของนาง ในภพแรกที่พวกเขาทั้ง 2 คนได้เจอกันโดยวิธีการเปิดพระธรรมคำสั่งสอนจากระฆังธรรม ให้ดวงจิตที่แตกสลายของนางได้ฟังซ้ำไปซ้ำมาครั้งแล้วครั้งเล่า ยาวนานนับหมื่นปีกว่าที่ดวงจิตของนางจะสามารถเรียกสติกลับคืนมาได้อีกครั้ง ซึ่งมันก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เหล่าสัตว์นรกบางส่วนที่พอมีฤทธิ์สามารถแทรกออกมายังบนโลกอีกครั้ง...และนั่นก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมจู่ๆ นางถึงเหมือนกับว่า สามารถอธิบายข้อธรรมคำสั่งสอนทั้งหลาย ออกมาได้ราวกับเคยศึกษามันมาอย่างถ่องแท้ ทั้งๆ ที่ตัวนางแทบจะไม่เคยศึกษาเรื่องราวในแน

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   คุยกันแบบจริงจังก่อนขึ้นเล่มสาม(เนื้อเรื่องที่แท้จริง)

    ก่อนอื่นเลยที่สำคัญที่สุดต้องขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้(น่าจะเหลือไม่ถึง1/10ของคนที่หลงเข้ามาที่จะเดินมาจนถึงจุดนี้) ดีใจที่เดินทางมาด้วยกันจนถึงจุถดเริ่มต้นที่แท้จริงของนิยายเรื่องนี้ครับใช่แล้วครับ…ตั้งแต่บทนำมาจนถึงตอนนี้เพิ่งจะเป็นส่วนที่ปูจุดเริ่มต้นของ เย่หัว-เยว่หัว ให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนและสภาพแวดล้อมของนาง โลกที่นางอยู่ ผู้คน สังคม รายละเอียดที่จะทำให้เข้าใจเนื้อหาหลัก และเหตุผลของการกระทำต่างๆ ที่นางจะทำต่อจากนี้ไป จนบางครั้งอาจจะเป็นการกระทำที่ “โหดเหี้ยม” แบบไร้เหตุผลเลยก็มี เล่ม1-2จะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในส่วนของ “บทนำ” แต่หลังจากเล่ม 3 เป็นต้นไปก็จะเข้าสู่ปฐมบทที่แท้จริง ตามชื่อบทของบทนี้ครับ เราจะคุยกันแบบจริงจังกับเนื้อเรื่องที่แท้จริงกันครับ อย่างแรกเลยก็คือหลังจากนี้จะต้อนรับเข้าสู่โลกแห่งความแฟนตาซีที่แท้จริง ของแม่ครัวตัวจิ๋วที่รักในการทำอาหารให้ผู้คนได้ลิ้มรส เป็นหนึ่งในความสุขของนาง และเป็นสิ่งสำคัญที่จะคอยยึดเหนี่ยวตัวนางเอาไว้ ส่วนยึดนางจากอะไรนั้นต้องไปติดตามในเนื้อเรื่องครับอย่างที่สองก็คือเรื่องของความแฟนตาซีและโลกในจินตนาการที

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 80 เลี้ยงส่ง(จบ)

    บทที่ 80 เลี้ยงส่ง(จบ)หลังจากที่เยว่หัวสามารถเรียกสติของผู้คนกลับมาได้อีกครั้ง ตลอดช่วงเช้าไปจนถึงเที่ยง นางก็ทำการจัดแจงแบ่งกลุ่มคนออกเป็นกลุ่มๆ โดยที่ไม่ลืมนำวัตถุดิบจำนวนมากออกมา แล้วจัดแจ้งเตรียมการฝึกซ้อมทั้งหมด กว่าที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางก็ปาเข้าไปจนถึงช่วงเที่ยงแล้วซึ่งในระหว่างที่ทำการฝึกซ้อมปรุงอาหารชนิดต่างๆ นั่นเอง เหล่าแม่บ้านและเด็กๆทุกคนต่างก็ได้ลองชิมอาหารกันอย่างเต็มอิ่ม และเมื่อเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ทุกคนเลยหยุดพักกันในตอนเที่ยงพอดิบพอดี และถือเป็นการพักท้องอีกครั้ง เนื่องจากในตอนนี้ทุกคนแทบจะท้องแตกเสียแล้วส่วนฝั่งของจางหลงที่เป็นฝ่ายจัดเตรียมสถานที่ ซึ่งพวกเขาทุกคนก็ทำเต็มที่ในหน้าที่ของตนเอง แต่ด้วยข้อจำกัดของหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง โดยเฉพาะเวลาที่มีอยู่เพียงแค่ไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น พวกเขาจึงตกลงกันใหม่ว่า จะจัดเป็นโต๊ะไม้ยาวๆ ขนาด 6 ถึง 8ที่ แทนที่แผนการจะทำโต๊ะชุดวงกลม และโต๊ะทั้งหมดจะหันหน้าเข้าหาเวที ด้านเดียว ส่วนตัวเวทีเองก็จะสร้างขึ้นมา โดยการขุดดินมาถมเป็นเนินสูงขึ้นประมาณหัวเข่า ใช้ดินเหนียวในการป้ายโดยรอบเพื่อไม่ให้หน้าดินพัง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status