อาการโคลงเคลงของพื้นที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ร่างบางที่ หลับสนิทมาตลอดคืนรู้สึกตัว ดวงตากลมโตปรือขึ้นอย่างยากลำบาก ก่อนจะต้องหยีตาอีกครั้งเมื่อปะทะเข้ากับลำแสงที่ส่องเข้ามา ทั่วทั้งบริเวณผิวกายแสบร้อน ลำคอแห้งผาก แม้แต่น้ำลายยังไม่มีให้เธอ กลืนลงคอ
ที่นี่ที่ไหน... ไม่ทันได้คิดนานร่างบางก็ต้องงอตัวลงอีกครั้ง เมื่ออาการคลื่นไส้ตีวนขึ้นมาจากในคอ ดวงตากลมโตมองกวาดไปทั่วบริเวณ ก่อนจะต้องตกใจสุดขีด เมื่อภาพตรงหน้าบอกให้รู้ว่าเธอกำลังลอยอยู่กลางทะเล และที่สำคัญเธอถูกทิ้งให้นอนตากแดดจนรู้สึก แสบร้อนไปทั่วทั้งตัว
ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองท้องฟ้า ก่อนจะยกมือป้องหน้าเมื่อแสงจากดวงอาทิตย์สาดเข้าตา หันมองไปรอบ ๆ พร้อมกับเริ่มลำดับเหตุการณ์ เธอถูกผู้ชายคนนั้นฉุดขึ้นรถมาจากโรงพยาบาล เธอทะเลาะกับเขามาตลอดทาง เขาจอดรถทำร้ายเธอด้วยวิธีป่าเถื่อน ก่อนจะสั่งให้เธอหุบปากจนเธอเผลอหลับไป แล้วมาตื่นอีกทีก็ถูกปล่อยทิ้งไว้กลางทะเล เธอนั่งอยู่ในเรือประมงขนาดกลาง จะเป็นฝีมือใครไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เขา แล้วตอนนี้คนชั่วนั่นหายไปไหน อย่าบอกนะว่าเขาเอาเธอมาทิ้ง
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ขนอ่อนบริเวณช่วงคอก็ลุกชัน ความกลัวเริ่มเกาะกุมหัวใจ เธอยังไม่อยากตาย อารดากรีดร้องในใจ เมื่อนึกถึงความตายที่กำลังมาเยือน ไม่ทันได้คิดนาน เมื่อสิ่งเร้าในคอตีขึ้นมาจนรู้สึก ขมปร่าไปทั่วทั้งคอ ร่างบางถลาออกไปที่กาบเรือ ก่อนจะโก่งคออาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตาย ในหัวหนักอึ้ง มึนงงจากการโคลงเคลงของเรือ
“อ้วก! อ้วก!”
อาเจียนทั้ง ๆ ที่ไม่มีอะไรออกมา จำได้ว่าตั้งแต่เมื่อวานยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักอย่าง คนเลวนั่นจงใจทรมานเธอ เขาตั้งใจให้เธอตายไปจริง ๆ ใช่ไหม
“คุณพ่อขา... ช่วยอ้อมด้วย”
วอนขอทั้ง ๆ ที่รู้ว่ายากลำบาก ลอยคออยู่แบบนี้จะขอให้ใครมาช่วยได้ยังไง
“อ้วก! อ้วก!”
ธนากรยืนมองคนที่กำลังโก่งคออาเจียนด้วยสายตาที่ไร้ความ รู้สึก ใบหน้าที่เรียบเฉยในตอนแรก แสยะยิ้มขึ้นมานิดหนึ่ง รู้สึกสะใจที่เห็นคนตรงหน้าทรมาน
“ดี... ตายไปเลยยิ่งดี!”
น้ำเสียงเหี้ยมเปล่งออกมาด้วยความสะใจ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องเครื่อง แล้วเร่งความเร็วของเรืออีกนิด รู้สึกสะใจกับอาการเมาเรือของคนที่บังอาจมาท้าทายเขา
“อารดา เธอต้องทรมานไปจนตาย!”
....................................................................................................
เริ่มรักร้าย เป็นนิยายชุดร้ายรัก
มีนิยาย 3 เรื่องดังนี้
ร้าย(รัก) สายใยร้ายรัก เริ่ม(รัก)ร้าย อ่านไล่มาจากร้าย(รัก) จะฟินมาก ฝากด้วยนะคะ
ธนากรพาหญิงสาวมาบ้านพักของเขา ที่นี่มีสองห้องนอน แต่เขายกห้องนั้นให้มินรญากับแก้วสุนีย์ไปแล้ว ตอนนี้เลยเหลือแค่ห้องนอนเขาเท่านั้น จะเปิดห้องในรีสอร์ตให้ใหม่ก็กลัวเธอจะหนี ชายหนุ่มยอมรับว่าไม่ไว้ใจเธอ คนอย่างอารดาพิษสงรอบตัว ลองให้เธอมีมือถือในมือ รับรองรีสอร์ตเขาคงได้ลุกเป็นไฟ เขาไม่ได้กลัว ลูกผู้ชายกล้าทำกล้ารับ แต่เขายังไม่อยากให้เธอไปไหน ยิ่งตอนนี้ดูก็รู้ว่าเธอยังโกรธ เลยไม่อยากให้เข้าใจผิดไปมากกว่านี้ ชายหนุ่มสะดุดความคิดตัวเอง เขาจะแคร์เธอมากเกินไปแล้ว เธอจะคิดกับเขา แบบไหน ทำไมต้องใส่ใจ เอาเป็นว่าถ้าถึงเวลาที่เธอต้องไปจากที่นี่ เขาจะพาเธอไปส่งเอง“คุณจะให้ฉันนอนที่นี่เหรอคะ” หญิงสาวถามเมื่อเดินตามหลังเขาขึ้นมาบนบ้าน“อืม” ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ ก่อนจะวางของที่เธอซื้อมาลงบนโต๊ะ“ขอมือถือคืนได้ไหมคะ” อารดาเอ่ยขอเมื่อเห็นว่าเขากับเธอเริ่มคุยกันรู้เรื่องมากขึ้น“ไม่ได้!” ธนากรตอบเสียงดัง “คุณนะคะ ฉันไม่ได้ตัวคนเดียวนะ ยังมีพ่อแม่ญาติพี่น้อง ฉันหายมาแบบนี้ พวกเขาก็ต้องเป็นห่วง”เหตุผลของเธอทำให้ชายหนุ่มคิดได้ จริงอย่างที่เธอว่า... ป่านนี้คงมีคนห่วงเธอ ดูอย่างเขา
หญิงสาวแถไปอีกทาง เธอรู้ว่าธนากรหมายถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อสักครู่ แต่เธอไม่สนใจ“ผมหมายถึงเรื่องปัทมา ถ้าคุณอยากรู้อะไรก็ถามนะ ผมพร้อมตอบทุกข้อสงสัยของคุณ” สิ้นเสียงชายหนุ่มตากลมโตก็มองหน้าเขา อีกครั้ง“ถามได้เหรอคะ”“ได้”“เธอเป็นภรรยาคนแรกของคุณเหรอ” หญิงสาวถาม เพราะจำมาจากคำของผู้หญิงคนนั้นที่บอกว่ายังมีคนที่สองสามตามมาอีก“ใช่ แต่งงานกันตั้งแต่ผมยี่สิบกว่า ๆ” ธนากรตอบคำถามแล้ว ยกยิ้มมุมปากก่อนจะเล่าต่อ“ผมแต่งงานกับปัทมาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ เพราะรักเธอมาก อยากสร้างครอบครัวกับเธอ แต่ทุกอย่างก็พัง”เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม อดีตที่เขา ไม่อยากจำ แต่วันนี้กลับพูดถึงมันอีกครั้งเพราะเขาแพ้ต่อเจ้าของดวงตากลม ๆ คู่นี้ “มีลูกด้วยกันไหมคะ ขอโทษนะคะ... ถ้าฉันละลาบละล้วงมากเกินไป”“ไม่เป็นไร ถามมาเถอะ ผมบอกว่าจะตอบ ผมก็ตอบ ผมยังไม่มีลูก”“แล้วที่เธอบอกว่า...” อารดาหยุดไปนิดก่อนจะถามต่อ “คุณแต่งงานอีกสองครั้ง จริงไหมคะ”“ใช่ ผมแต่งงานมาสามครั้ง แต่ผมไม่มีลูกสักคน”“ทำไมไม่มีลูกคะ คุณเป็นหมันเหรอ”ถามจบใบหน้าสวยก็แดงก่ำ บ้าไปแล้วยายอ้อม... แกไปถามเขาแบบ
“มาทานข้าวเหรอคะนะ บังเอิญจังเลย” ธนากรดึงสายตาออกจากใบหน้าหวาน เมื่อได้ยินเสียงทักทายมาจากด้านข้าง ตาคมเข้มมองหน้าคนมาใหม่ด้วยสายตาที่คนถูกมองต้องถอยหลังอย่างลืมตัว อารดามองหน้าชายหนุ่มก่อนจะหันไปมองคนมาเยือนเช่นกัน“ปัด... มาทานข้าวเหรอ” หลังจากจ้องหน้าปัทมาอยู่ประมาณครึ่งนาที ธนากรก็เอ่ยถามเธอ“ค่ะ” ปัทมาขานรับ เมื่อเห็นสายตาที่อ่อนแสงลงของชายหนุ่ม จึงขยับมายืนที่เดิม ธนากรยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ผู้ชายคนนี้มีอำนาจ แค่เพียงถูกเขามองเธอก็ลืมไปเลยว่ามาตรงนี้ทำไม“จะไม่ชวนปัดนั่งสักหน่อยเหรอคะ เราก็... คนกันเองทั้งนั้น”“คุณก็เห็นนี่ว่าโต๊ะมันเต็ม คงไม่สะดวกเท่าไร” ธนากรตอบ เขาไม่สนใจว่าปัทมาจะคิดยังไง เพราะเขารู้จักนิสัยเธอดี ปัทมาหน้าตึงเมื่อชายหนุ่มตอกกลับมาแบบนั้น“แหม... กลัวฉันจะรบกวนเวลาส่วนตัวเหรอคะ”“เอ่อ... คือ...” เป็นอารดาที่เอ่ยขึ้น อยู่ ๆ เธอก็นึกสงสารผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร แต่การที่จะให้คนมาขอนั่งด้วยยืนรอมันก็ดูจะใจดำเกินไป“สวัสดีค่ะ ฉันปัทมา... เป็นอดีตภรรยาของนะเขาค่ะ”เมื่อธนากรไม่สนใจเธอ ปัทมาก็เบนเข็มมาหาคนที่สนใจเธอทันท
ร้านอาหารที่ธนากรพาอารดามาเป็นร้านที่ติดชายทะเล บรรยากาศสดชื่น ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายลูกค้าในร้านเลยไม่มากเท่าไร อารดาขอตัวเข้าห้องน้ำ เธอให้เขาเป็นคนสั่งอาหาร เขาเป็นเจ้าถิ่นน่าจะรู้ว่าอะไรอร่อย และที่สำคัญเขาเป็นเจ้ามือด้วย ถึงแม้จะอยาก ล้มทับเอาให้กระเป๋าฉีกที่บังอาจมาอวดรวยกับเธอ แต่พอมาคิดอีกที ก็ต้องเปลี่ยนใจ ธนากรเป็นคนห่าม ถ้าเกิดเขาไม่จ่ายขึ้นมา เธอไม่ต้องล้างจานจนมือเปื่อยเลยหรือ“นึกว่าตกห้องน้ำตายไปแล้ว”“แหม กัดเก่งจังเลยนะคะ”อารดาตอบกลับเมื่อนั่งลงฝั่งตรงข้าม ตากลมโตเห็นของที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ก็ต้องลอบยิ้ม อดคิดไม่ได้ว่าเขาสั่งมาเอาใจเธอหรือเปล่า กุ้ง หอย ปู ปลา เต็มโต๊ะ เรียกว่ายกทะเลขึ้นมาเลยก็ว่าได้“ไม่เก่งแค่กัดนะ จูบก็เก่ง!”เคล้ง!“คุณนะ!”ช้อนหลุดมือเมื่อคนตรงหน้าสวนกลับ ใบหน้าสวยเห่อร้อน บ้าที่สุด! เขาเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นได้ยังไง “หึ ๆ ถึงกับมือไม้อ่อน”ธนากรหลุดขำเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวแดงไปจนถึงใบหู ตากลมโตเสหลบ อารดาทำตัวเหมือนเด็กที่เข้าสู่วัยสาว ทำมาเป็นอายตอนอยู่บนเกาะแก้ผ้าท้าเขาเหยง ๆ“บ้า!”“กินสิ หิวไม่ใช่เหรอ” เมื่อคนตัวเล็กยังนั่งนิ่
อารดานั่งเงียบมาตลอดทาง ตากลมโตมองออกไป ด้านนอก เพราะอยากรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ป้ายข้างทางน่าจะ บอกเธอได้ ภาพตรงหน้าทำให้ต้องหันไปมองหน้าคนขับอีกครั้ง ธนากรพาเธอวัดอย่างงั้นเหรอ คนอย่างเขาเข้าวัดเป็นด้วยหรือ ดวงตาคู่สวยจับจ้องไปยังชื่อวัด ก่อนจะมองไปรอบ ๆ บริเวณ“วัดพระมหาธาตุเหรอ”หญิงสาวพูดกับตัวเอง สมองขบคิดถึงสถานที่ตั้ง วัดนี้เธอไม่เคยมา แต่ก็พอรู้ว่าตั้งอยู่ที่จังหวัดไหน วันนั้นเขาวางยาเธอหรือเปล่า ทำไมถึงได้หลับเป็นตาย ปล่อยให้เขาลากมาถึงนครศรีธรรมราชได้ยังไง“ลงมาสิ รากงอกหรือไง” เมื่อเห็นเธอยังนั่งนิ่งธนากรก็เอ่ยเรียก “นครศรีธรรมราชเหรอคะ”หญิงสาวถามทันทีที่เดินมายืนข้าง ๆ เขา“เออ!”“พูดเพราะ ๆ ได้ไหมคะ”“เนี่ยดีสุดแล้ว ตามมาเร็ว ๆ” พูดจบก็เดินนำเข้าไปในวัด“มาทำไมคะ” อารดาถาม เป็นคำถามที่คนฟังต้องกลอกตา มาวัดก็ต้องมาไหว้พระ ยายคุณหนูนี่มีสมองหรือเปล่า เรื่องง่าย ๆ กลับคิดไม่เป็น“มาหาหมอมั้ง” ชายหนุ่มตอบเสียงดังฟังชัด ถึงแม้จะไม่หันหน้ามาแต่อารดาก็เดาสีหน้าเขาออก เขาต้องทำท่าทางเย้ยหยันเธออยู่แน่นอน“คุณนะ! ไม่กวนได้ไหมคะ”“มาวัดก็ต้องมาไหว้พระ แค่
ดวงตากลมโตกะพริบถี่ ๆ เมื่อมองเห็นใบหน้าคมคาย ลอยอยู่ตรงหน้า “คุณ...”อารดาตกใจ ร่างบางนั่งอยู่กับที่ ประตูหนีปิดตายเพราะด้านหน้าเป็นร่างสูงใหญ่ ด้านหลังก็ชนกับพนักโซฟา ร่างสูงผละออกเมื่อได้สติเขาแค่จะเรียกให้เธอรู้สึกตัว แต่ทำไมหน้าถึงได้ไปชิดกับเธอแบบนั้น มือหนาลูบต้นคอไปมา เมื่อตากลมโตยังจ้องมองเขาด้วยสายตาหวาดระแวงอารดามองหน้าชายหนุ่ม จำได้ว่าเธอนั่งรอเขาอยู่ตรงนี้แล้ว เผลอหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีลมร้อนมาเป่ารดบนริมฝีปาก อย่าบอกนะว่าเขาจะขโมยจูบเธออีกแล้ว มือบางเผลอยกขึ้นปิดปากอย่างลืมตัว“ตื่นแล้วก็ลุก ยังต้องไปอีกหลายที่” ธนากรเอ่ยขึ้นเพื่อเบี่ยงประเด็น ใจหนึ่งก็กลัวเธอถาม “ค่ะ” อารดารับคำ ก่อนจะลุกขึ้น “ขอเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหมคะ”“เดินไปข้างหลัง” ตอบแล้วชี้นิ้วไปตามทางเดิน อารดาเอ่ยขอบคุณเบา ๆ แล้วเดินจากไป“เกือบไปแล้ว”ธนากรพูดกับตัวเอง เมื่อเกือบถูกหญิงสาวจับได้ว่าเขาจะขโมยจูบเธอ ร่างสูงเดินออกมาสูบบุหรี่ เป็นจังหวะเดียวกับที่คนงานอุ้ม ลูกแมวตัวนั้นเดินมาหาพอดี“นายหัวจะให้เอาลูกแมวไปไว้ที่ไหนครับ”ธนากรมองหน้าคนงานแล้วขมวดคิ้ว ปกติคนงานไม่เคยถามนี่ว่าต