Share

บทที่ 6

Author: หัวใจดวงน้อย
เพื่อนบ้านชื่อเจ๊ฟางอายุไล่เลี่ยกับฉันเปิดประตูออกมา พูดจาเสียงดังฟังชัด

“พูดอะไรน่ะ อายุหกสิบก็แค่แก่ไม่ได้จะตายซักหน่อย อยู่อีกยี่สิบปีก็ยังสบายๆ แต่ใครจะทนกับคนอย่างพวกเธอไหว แค่ปีเดียวก็จะตายแล้ว”

“ยังกล้ามาต่อว่าแม่ตัวเองอีก ฉันล่ะอายแทนจริงๆ”

พลังด่าของเจ๊ฟางช่างดุเดือดนัก

ลูกชายฉันเหมือนมีอะไรจุกในลำคอ อยากเถียงแต่ก็เถียงไม่ออก ได้แต่เดินหนีไปเงียบๆ

......

เวลาสามสิบวันพริบตาก็ผ่าน ฉันกับเสิ่นจ้านไปรับหนังสือหย่าร้างมาเรียบร้อย

ทันทีที่ได้ใบหย่ามา ฉันรู้สึกถึงความโปร่งโล่งอย่างบอกไม่ถูก

แบกภาระหนักอึ้งมาครึ่งค่อนชีวิต ไม่นึกว่าวันนี้ ฉันจะสามารถปลดมันทิ้งได้หมด

เสิ่นจ้านกลับไม่รู้สึกดีใจเหมือนฉัน

สีหน้าเขาดูเคร่งขรึม แววตามีความเหนื่อยล้าอย่างปิดไม่มิด

ในมือเขากำหนังสือหย่าไว้แน่น มองหน้าฉันคล้ายจะพูดอะไรบางอย่าง

“อาจ้าน”

มีคนเรียกเขาอยู่ไกลๆ

นั่นคือโจวหว่านอวิ๋น

เหมือนกลัวว่าฉันจะเปลี่ยนใจไม่ยอมมารับหนังสือหย่า เธอจึงมารอแต่เช้า

เมื่อเห็นเราต่างมีหนังสืออยู่ในมือ ดวงตาเธอก็เป็นประกายขึ้น

เธอค่อยๆ เดินมาทางฉัน ยื่นมือให้พร้อมกับรอยยิ้ม

“ฉันชื่อโจวหว่านอวิ๋น เป
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Pinakabagong kabanata

  • เริ่มต้นชีวิตใหม่ในวัยเลข 6   บทที่ 9

    สีหน้าเขาซีดลงในทันใด ปากก็พูดไม่ออก แววตาเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัดลูกชายสุดจะทนดูสภาพสิ้นหวังของเสิ้นจ้าน จึงเรียกเสียงเบาๆ “แม่ครับ”ฉันไม่ได้ตอบ แต่ปิดประตูลงเงียบๆ เท่ากับขวางกั้นให้พวกเขาอยู่นอกโลกของฉันกว่าจะได้ข่าวเสิ้นจ้านอีกครั้ง ก็อีกสามเดือนต่อมาในตอนนั้นฉันเรียนภาษาอังกฤษจนพอได้ระดับพื้นฐาน สามารถพูดคุยตอบโต้ได้บ้างจู่ๆ ลูกชายก็โทรมาหาฉัน บอกว่าเสิ่นจ้านเข้าโรงพยาบาลเพราะสูดดมแก๊สหุงต้มเข้าไปมากเห็นว่าสาเหตุเพราะโจวหว่านอวิ๋นกำลังทำอาหารอยู่ แล้วสองคนเกิดทะเลาะกันขึ้นมา สุดท้ายก็ลืมปิดเตาแก๊สดีที่ตอนนั้นนิติบุคคลกำลังซ่อมสายไฟอยู่ จึงช่วยทั้งสองคนออกมาทันเวลาโจวหว่านอวิ๋นสูดดมแก๊สเข้าไปไม่มาก พักผ่อนไม่นานก็เริ่มรู้สึกตัวแต่พอฟื้นมาแล้ว เขาเหมือนตายใจจากเสิ่นจ้านโดยสิ้นเชิง ไม่พูดไม่จากลับไปเก็บข้าวของแล้วออกจากบ้านไปก่อนไปได้ขอช่องทางติดต่อกับฉัน และสงข้อความมา[คุณชนะแล้ว ถ้าจะโทษก็ต้องโทษชีวิตจริงที่โหดร้าย ทำให้ฉันต้องพ่ายแพ้]ฉันไม่เคยคิดแข่งขันกับผู้หญิงคนนี้เลย และไม่แคร์ด้วยว่าท้ายสุดแล้วเสิ่นจ้านจะรักใครมากกว่าความรักไม่ใช่สิ่งที่คนวัยอย่างฉัน

  • เริ่มต้นชีวิตใหม่ในวัยเลข 6   บทที่ 8

    ที่แท้หลานสาวถูกโจวหว่านอวิ๋นล้างสมองด้วยตรรกะความรักที่ผิดเพี้ยน ไม่เพียงเห็นดีเห็นงามกับการเป็นมือที่สาม ยังริอ่านคุยกับผู้ชายทางออนไลน์อีกลูกสะใภ้หัวเราะหยัน คืนนั้นจึงโทรหาลูกชายบอกอให้เขารีบกลับบ้าน“ดูลูกสาวคุณซิว่าถูกเสี้ยมสอนจนกลายเป็นคนแบบไหนแล้ว”เธอเอาแชทข้อความของลูกให้สามีดูลูกชายฉันยกมือถือขึ้นมาดู จนคิ้วยิ่งขมวดมุ่นหลังจากดูจบ เขายกมือขึ้นคิดจะตีลูกสาวเด็กร้องไห้โวยวาย “เพราะคุณย่าโจวสอนหนูเอง ไหนพ่อบอกว่าคุณย่าโจวเป็นคนมีการศึกษา ให้เชื่อฟังเขาเหมือนคุณครูไม่ใช่หรือคะ”ลูกชายหยุดชะงัก พลางหันไปมองโจวหว่านอวิ๋น“น้าโจว เพราะเราไว้ใจน้าถึงให้ช่วยดูแลลูก เมื่อก่อนแม่ผมเลี้ยงหลานได้ดีมาก”โจวหว่านอวิ๋นรู้สึกละอายใจ พร้อมคำแก้ตัวต่างๆ นานาเสิ่นจ้านเอามือทุบโต๊ะอย่างแรง ตวาดเสียงดัง“พอที แค่นี้ยังอับอายขายหน้าไม่พออีกหรือ”ทุกคนต่างมีสีหน้าไม่พอใจ และต่างมีความคิดไปคนละอย่างต่อมาสะใภ้จึงพาลูกออกจากบ้านไป ส่วนลูกชายฉันก็ไม่อยากข้องแวะกับโจวหว่านอวิ๋นอีกเสิ่นจ้านยิ่งปวดหัวมากขึ้นเรื่องเหล่านี้สะใภ้เป็นคนมาบอกฉันเองหลังจากเหตุการณ์วันนั้น เธอกับลูกชายก็

  • เริ่มต้นชีวิตใหม่ในวัยเลข 6   บทที่ 7

    วันนั้นอยู่หน้าศูนย์บริหารราชการฝ่ายพลเรือน ฉันกับโจวหว่านอวิ่นและเสิ่นจ้านไม่รู้ถูกใครถ่ายคลิปแล้วไปโพสต์ลงในโลกโซเชี่ยลฉันถูกเบลอหน้าไว้ แต่สองคนนั้นถูกเปิดหน้าให้เห็นชัดเจน[นี่น่ะหรือรักกันจนแก่เฒ่า เป็นการรวมหัวของชายโฉดหญิงชั่วต่างหาก][วันก่อนใครๆ ก็เห็นกับตา ตาแก่ขอหย่ากับเมียหลวง นังเมียน้อยยังกล้ามาเสนอหน้ารออยู่ข้างนอก ช่างไม่รู้จักอายจริงๆ แก่ปูนนี้ยังไม่มีหัวคิดอีก]เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ในโลกออนไลน์ จนแม้แต่ร้านเช่าชุดแต่งงานยังถูกกล่าวหาว่ายกย่องความรักของมือที่สาม จนต้องออกมาปฏิเสธทันควันบอกว่าพวกเขาแค่มีหน้าที่ในการถ่ายรูปเท่านั้น และเสิ่นจ้านกับโจวหว่านอวิ๋นก็ใช้บริการมายี่สิบกว่าปี ไม่เคยขาดหาย ใครจะนึกว่าเบื้องหลังยังมีเมียหลวงอีกคนทำเอาชาวเน็ตยิ่งเดือดดาลมากขึ้น[ตาแก่คนนี้เมื่อก่อนเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยฉันเอง ทำงานก็ดีหรอก แต่ไม่นึกว่าลับหลังจะเป็นคนประเภทนี้][นอกใจเมียยังพอว่า ไม่นึกว่ายังแอบกินมาตั้งหลายปี][ฉันว่าตอนหนุ่มๆ ก็คงไม่ใช่คนดีเท่าไหร่]......โจวหว่านอวิ๋นก็ไม่นึกว่าเรื่องราวจะบานปลายจนถึงขั้นนี้และไม่รู้ว่าใครเป็น

  • เริ่มต้นชีวิตใหม่ในวัยเลข 6   บทที่ 6

    เพื่อนบ้านชื่อเจ๊ฟางอายุไล่เลี่ยกับฉันเปิดประตูออกมา พูดจาเสียงดังฟังชัด“พูดอะไรน่ะ อายุหกสิบก็แค่แก่ไม่ได้จะตายซักหน่อย อยู่อีกยี่สิบปีก็ยังสบายๆ แต่ใครจะทนกับคนอย่างพวกเธอไหว แค่ปีเดียวก็จะตายแล้ว”“ยังกล้ามาต่อว่าแม่ตัวเองอีก ฉันล่ะอายแทนจริงๆ”พลังด่าของเจ๊ฟางช่างดุเดือดนัก ลูกชายฉันเหมือนมีอะไรจุกในลำคอ อยากเถียงแต่ก็เถียงไม่ออก ได้แต่เดินหนีไปเงียบๆ......เวลาสามสิบวันพริบตาก็ผ่าน ฉันกับเสิ่นจ้านไปรับหนังสือหย่าร้างมาเรียบร้อยทันทีที่ได้ใบหย่ามา ฉันรู้สึกถึงความโปร่งโล่งอย่างบอกไม่ถูกแบกภาระหนักอึ้งมาครึ่งค่อนชีวิต ไม่นึกว่าวันนี้ ฉันจะสามารถปลดมันทิ้งได้หมดเสิ่นจ้านกลับไม่รู้สึกดีใจเหมือนฉันสีหน้าเขาดูเคร่งขรึม แววตามีความเหนื่อยล้าอย่างปิดไม่มิดในมือเขากำหนังสือหย่าไว้แน่น มองหน้าฉันคล้ายจะพูดอะไรบางอย่าง“อาจ้าน”มีคนเรียกเขาอยู่ไกลๆนั่นคือโจวหว่านอวิ๋นเหมือนกลัวว่าฉันจะเปลี่ยนใจไม่ยอมมารับหนังสือหย่า เธอจึงมารอแต่เช้าเมื่อเห็นเราต่างมีหนังสืออยู่ในมือ ดวงตาเธอก็เป็นประกายขึ้นเธอค่อยๆ เดินมาทางฉัน ยื่นมือให้พร้อมกับรอยยิ้ม“ฉันชื่อโจวหว่านอวิ๋น เป

  • เริ่มต้นชีวิตใหม่ในวัยเลข 6   บทที่ 5

    กระทั่งถึงเวลากลางคืน ครอบครัวลูกชายจึงพาเสิ่นจ้านที่หายไข้กลับมาบ้านเสิ่นจ้านป่วยรอบนี้ ทำให้หน้าตาทรุดโทรมลงไปมาก จนแทบไม่มีกำลังวังชาใดๆลูกชายยังโกรธที่ฉันตบหน้าเขา จึงยังบึ้งตึ้งไม่ยอมพูดจาด้วยมีแต่สะใภ้ที่มาทักทายฉัน หลานสาวก็วิ่งมาออดอ้อน“คุณย่าขา อย่าทิ้งคุณปู่ไปเลยนะคะ หรูหรูอยากให้ครอบครัวอยู่พร้อมหน้าน่ะค่ะ”ฉันไม่นึกว่าพวกเขาจะเอาเรื่องวุ่นวายของผู้ใหญ่ไปเล่าให้เด็กฟัง จับแก้มยุ้ยของหลานสาวตัวน้อยเบาๆ ฉันตอบกลับยิ้มๆ“ถึงแยกทางกับคุณปู่ ย่าก็จะมาเยี่ยมหนูบ่อยๆ นะจ๊ะ”ลูกชายอยู่ข้างๆ ทำเสียงฟึดฟัดเสิ่นจ้านทนไม่ไหวที่จะกัดฟันถาม “เธอต้องการอย่างงี้ให้ได้ใช่ไหม?”สะใภ้เห็นบรรยากาศไม่สู้ดี จึงอุ้มลูกเข้าห้องไปก่อนเมื่อเด็กไปแล้ว ฉันก็พูดได้โดยไม่ต้องแคร์อะไรอีก“ในเมื่อทุกคนอยู่พร้อมหน้า ก็มาหารือเรื่องหย่าร้างกันเถอะ”เสิ่นจ้านยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้น เหมือนคิดไม่ตกว่าทำไมฉันยังเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้นัก เพราะในความคิดของเขา เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลยลูกชายมากล่าวโทษฉันอีก “แม่ครับ พ่อเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมา แม่เห็นใจหน่อยได้ไหม เราก็เหมือนเป็นญาติสนิทหนึ่งเดียวของ

  • เริ่มต้นชีวิตใหม่ในวัยเลข 6   บทที่ 4

    เสิ่นจ้านไม่เห็นด้วยที่ฉันจะขอหย่า แต่ก็ไม่ปฏิเสธเขาไม่ยอมเจรจาใดๆ กับฉันทั้งสิ้น เราสองคนเข้าสู่ภาวะสงครามเย็นอาจเพราะวันนั้นโดนฝนแล้วไม่ได้รีบกินยา บวกกับคนอายุมากแล้ว ภูมิต้านทานร่างกายไม่เหมือนวัยหนุ่มสาว รุ่งขึ้นจึงทำให้เขามีไข้ต่ำเล็กน้อยและฉันก็ไม่เหมือนแต่ก่อนนี้ พอเห็นเขาไม่สบายเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ จนแทบอยากป่วยแทนเขามากกว่าฉันทำอาหารพอให้ตัวเองกินคนเดียว กินเสร็จก็ไปออกกำลังในสวน นัดเพื่อนฝูงไปเดินเที่ยวบ้างบางวันก็แวะไปดูบ้านเช่า เผื่อว่าอีกวันสองวันจะย้ายออกไปการที่ไม่ต้องวุ่นวายกับงานบ้าน ก็ทำให้เราเบาตัวขึ้นไม่น้อยเรื่องที่ฉันจะขอหย่า ไม่นานก็ไปถึงหูลูกชายเข้าเขายังอยู่เมืองนอก แรกๆ ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดว่าพ่อกับแม่ทะเลาะสักพัก เดี๋ยวก็คืนดีกันจนกระทั่งเสิ่นจ้านมีไข้ขึ้นสูงแล้วเพื่อนบ้านโทรเรียกรถพยาบาลให้มารับตัวไป ส่วนฉันก็ยังรำมวยไทเก๊กอยู่ ทุกคนถึงรู้ว่านี่ไม่ใช่ ‘การทะเลาะ’ ธรรมดาลูกชายพาสะใภ้และหลานสาวรีบกลับจากเมืองนอกทันทีลูกสะใภ้อยู่โรงพยาบาลดูแลเสิ่นจ้าน ลูกชายกลับมาบ้านเพื่อจะเอาเรื่องฉัน“แม่ครับ แม่จะงอนถึงเมื่อไหร่กัน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status