“คุณเซี่ย หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พบว่าทะเบียนสมรสของคุณมีข้อมูลไม่เป็นความจริง ตราประทับเหล็กบนเอกสารถูกปลอมแปลง” คำพูดสั้น ๆ เบา ๆ ของเจ้าหน้าที่ ทำให้เซี่ยจือเหยาที่มาขอทำทะเบียนสมรสใหม่ถึงกับงงไปชั่วขณะ “เป็นไปไม่ได้ค่ะ ฉันกับสามีของฉัน ฝู่หยุนถิง จดทะเบียนสมรสกันเมื่อห้าปีก่อน รบกวนคุณช่วยตรวจสอบให้ฉันอีกครั้งเถอะ...” เจ้าหน้าที่กรอกหมายเลขบัตรประชาชนของทั้งสองคนเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง “ระบบแสดงว่าฝู่หยุนถิงมีสถานะสมรสแล้ว แต่คุณยังคงเป็นโสด” เซี่ยจือเหยาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของฝู่หยุนถิงคือใคร?” “ถังหลิน” เซี่ยจือเหยากำแน่นที่พนักเก้าอี้ พยายามทรงตัวเอาไว้ไม่ให้ล้มลง สมุดเล่มเล็กสีแดงสดถูกยื่นมาให้ ตัวอักษรคำว่า “ใบทะเบียนสมรส” บนหน้าปกพร่าจนทำให้ดวงตาเธอแสบและร้อนผ่าว ถ้าจะบอกว่าในตอนแรกเซี่ยจือเหยายังสงสัยว่าเป็นความผิดพลาดของระบบ ทันทีที่ได้ยินชื่อ “ถังหลิน” ความคิดนั้นก็สลายไปทันที ภาพฝันทั้งหมดพังทลายลงในพริบตา งานแต่งงานอันยิ่งใหญ่เมื่อห้าปีก่อน คู่รักตัวอย่างที่รักใคร่ผูกพันกันตลอดห้าปี และชีวิตแต่งงานที่เธอเคยภาคภูมิใจ ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเรื่องหลอกลวง เซี่ยจือเหยาถือใบทะเบียนสมรสปลอมที่ไม่มีผลทางกฎหมายไว้ในมือ ก่อนกลับถึงบ้านด้วยหัวใจที่สิ้นหวังและหมดเรี่ยวแรง ทันทีที่กำลังจะผลักประตูเข้าไป ก็ได้ยินเสียงดังแว่วออกมาจากข้างใน เป็นทนายความประจำตระกูลฝู่ เขาพูดขึ้นว่า “ประธานฝู่ ผ่านมาห้าปีแล้วนะครับ คุณยังไม่คิดจะให้ภรรยาได้รับการยอมรับตามกฎหมายเหรอครับ?” เซี่ยจือเหยาชะงักเท้า หยุดหายใจนิ่งเงียบทันที ผ่านไปครู่ใหญ่ เสียงทุ้มต่ำของฝู่หยุนถิงก็ดังขึ้น “รออีกหน่อย ตอนนี้หลินหลินยังทำงานอยู่ต่างประเทศ ถ้าไม่มีตำแหน่ง ‘คุณนายฝู่’ เธอจะยืนหยัดอยู่ในวงการธุรกิจที่เต็มไปด้วยบรรดาเจ้าสัวได้อย่างไร?” ทนายประจำตระกูลเตือนขึ้นว่า “ความสัมพันธ์ของคุณกับภรรยาเป็นแค่ในนาม หากวันหนึ่งเธอเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา ก็สามารถจากไปได้ทุกเมื่อครับ”
View More“ต่อไปขอเชิญเจ้าสาวของเราในวันนี้ — เซี่ยจือเหยา!”ประตูห้องจัดเลี้ยงค่อย ๆ เปิดออก ลำแสงหนึ่งสาดลงมาเสียงเพลงแต่งงานดังขึ้น เซี่ยจือเหยาถือช่อดอกไม้เดินตรงไปหาโจวซือจิ่นนี่เป็นครั้งที่สองที่เซี่ยจือเหยาแต่งตัวสวยออกงาน ครั้งแรกเธอพ่ายแพ้อย่างย่อยยับแต่ครั้งนี้… เธอก็ไม่ได้มั่นใจนักว่าจะสามารถมีความสุขได้จริง ๆในชั่วขณะนั้น เธอถึงกับอยากหันหลังวิ่งหนีไปให้พ้นบนเวที โจวซื่อจินตึงเครียดจนปลายนิ้วกำงอเล็กน้อย“เหยาเหยา!”ที่โต๊ะฝั่งญาติฝ่ายเจ้าสาวด้านล่างเวที พ่อแม่ของเซี่ยจือเหยามองลูกสาวด้วยน้ำตาคลอที่โต๊ะเดียวกันยังมีญาติของตระกูลเซี่ย รวมทั้งเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนสนิทของเซี่ยจือเหยาด้วยพวกเขาโบกมือให้เธอ พร้อมพูดว่า “ยินดีด้วยนะ”เซี่ยจือเหยายืนตะลึงอยู่กับที่ น้ำตาเอ่อทะลักออกมาอย่างห้ามไม่อยู่พิธีกรกำลังจะเร่งให้เธอเดินต่อ แต่ถูกโจวซือจิ่นยกมือขึ้นห้ามไว้ก่อนโจวซือจิ่นจัดเนกไทให้เรียบร้อย แล้วก้าวเดินไปหาเจ้าสาวของเขาด้วยท่าทีมั่นคง“เหยาเหยา ฉันรู้ว่ามีหลายอย่างที่เธอยังไม่สบายใจ แต่ฉันอยากบอกเธอว่า ไม่ต้องกังวลนะ”เซี่ยจือเหยาเงยหน้าขึ้นมองโจวซือจิ่นที่มี
ฝู่หยุนถิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ แล้วทำท่าบอกให้ทุกคนเงียบลง“วันนี้ผมมาร่วมงานโดยไม่ได้รับเชิญ ก็เพื่อจะมาแสดงความยินดีกับคุณโจวด้วยตัวเอง ขอให้มีความสุขในวันแต่งงานนะครับ”โจวซือจิ่นยังคงรักษามารยาทเอาไว้ ปล่อยให้ฝู่หยุนถิงแสดงอาการเพี้ยนของเขาต่อ“ผมมีรูปอยู่ไม่กี่รูป อยากจะให้ครอบครัวและเพื่อน ๆ ของเจ้าสาวได้ดูกันหน่อย”พูดจบ เขาก็คว้าโทรศัพท์ออกมา เปิดให้ทุกคนเห็นภาพถ่ายที่โจวซือจิ่นกับเซี่ยจือเหยาอยู่ด้วยกันอย่างสนิทสนมโจวซือจิ่นพูดเสนออย่างสุภาพ “หน้าจอโทรศัพท์ของคุณฝู่มันเล็กไปหน่อยนะครับ จะให้ฉายขึ้นจอใหญ่เลยไหม?”ฝู่หยุนถิงหัวเราะเย็น ๆ “นั่นยิ่งดีเลยสิ”หลังจากเจ้าหน้าที่ปรับระบบเสร็จ โทรศัพท์ของฝู่หยุนถิงก็เชื่อมต่อเข้ากับจออิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ด้านหลังได้สำเร็จฝู่หยุนถิงพูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจว่า “ผู้หญิงในรูปนี่ เป็นคนรักที่คุณโจวแอบนัดพบลับหลังคู่หมั้นของตัวเองหรือเปล่า? ไม่ทราบว่าคุณโจวจะอธิบายเรื่องนี้ว่ายังไงดีล่ะ?”โจวซือจิ่นหัวเราะเยือกเย็น “ผู้หญิงในรูปนั่น คุณฝู่รู้จักไหม?”“แน่นอน! เธอคือภรรยาของฉัน”โจวซือจิ่นหัวเราะเสียงดัง “แต่เท่าที่ฉันรู้ ภรรยาที
คืนก่อนวันแต่งงาน เซี่ยจือเหยาใช้เหตุผลว่า “เจ้าสาวกับเจ้าบ่าวห้ามเจอกันก่อนวันแต่งงาน” ไล่ให้โจวซือจิ่นกลับไปโจวซือจิ่นยืนอยู่หน้าประตูพูดเสียงอ้อน “ที่รัก ยังไงพรุ่งนี้เราก็ต้องนอนด้วยกันอยู่แล้ว เปิดให้ฉันเข้าไปเถอะนะ”เซี่ยจือเหยาหมุนกุญแจล็อกประตูทันที“ไม่ได้ นี่มันเป็นธรรมเนียม ถ้าฉันให้คุณเข้ามา มันจะไม่เป็นมงคล”พอได้ยินคำว่า “ไม่เป็นมงคล” โจวซือจิ่นก็รีบพยักหน้าเห็นด้วยทันที“ก็แค่ฉันคิดถึงเธอมาก ทำยังไงดีล่ะ?”เซี่ยจือเหยากลอกตาอย่างจนใจ “โจวซือจิ่น เราเพิ่งแยกกันไม่ถึงห้านาทีเองนะ”เซี่ยจือเหยาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าโจวซือจิ่นจะเป็นทั้งคนหลงรักจนหัวปักหัวปำ แถมยังขี้อ้อนติดคนขนาดนี้หลังจากโจวซือจิ่นจากไปด้วยความเสียดาย เซี่ยจือเหยาก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง แต่กลับไม่รู้สึกง่วงเลยแม้แต่น้อยพรุ่งนี้ก็จะได้แต่งงานกับโจวซือจิ่นแล้ว แม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาในการอยู่ด้วยกันจะเต็มไปด้วยความสุขก็ตามแต่การแต่งงานกับการคบกันเป็นแฟนเป็นคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง เธอจึงยังคงรู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อยยิ่งไปกว่านั้น หลังจากถูกฝู่หยุนถิงทำร้ายจิตใจ เธอก็ไม่มีหน้าไปขอการให้อภัยจากพ่อแม่เม
เซี่ยจือเหยาคิดในใจว่า ธุรกิจของโจวซือจิ่นนั้นใหญ่กว่าของฝู่หยุนถิงไม่รู้กี่เท่า และแน่นอนว่างานเลี้ยงสังสรรค์ที่ต้องไปก็ย่อมมากกว่าด้วยดังนั้น เธอจึงไม่ได้คาดหวังอะไรเลย ทั้งต่อเขาและต่อพิธีแต่งงานที่กำลังจะมาถึง“ก็แค่การแต่งงานทางผลประโยชน์ที่ไม่มีพื้นฐานของความรักเท่านั้นเอง”นี่คือคำพูดที่เธอพูดกับเพื่อนสนิทที่สุดของเธอแต่โจวซือจิ่นกลับปรากฏตัวในทุกขั้นตอนของการเตรียมงานแต่งงานสถานที่จัดงานแต่งงานนั้นเขาเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง การตกแต่งภายในทั้งหมดก็เป็นเขาที่ลงมือควบคุมด้วยตัวเอง อย่างไรเสียเขาเรียนจบจากสถาบันศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มหาวิทยาลัยศิลปะลอนดอน โดยมีปริญญาเอกสองสาขา ได้แก่ การออกแบบและการจัดนิทรรศการ และการบริหารอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์แหวนแต่งงานก็เป็นเขาที่จ้างคนออกแบบเป็นพิเศษ มีเพียงวงเดียวในโลก ไม่เหมือนใครแม้แต่การเลือกชุดเจ้าสาว เขาก็ให้เกียรติและเปิดโอกาสให้เธอมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่พูดกันตามตรง ชุดเจ้าสาวทรงหางปลาชุดนี้เองก็คือผลงานตอนที่โจวซือจิ่นเรียนจบปริญญาโทโจวซือจิ่นนั่งอยู่บนโซฟาต่ำ ๆ ขาที่ยาวของเขาไม่รู้จะวางไว้ตรงไหนดีดวงตาที่คล
ถังหลินรีบจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย แล้วเผยรอยยิ้มที่เธอคิดว่าหวานที่สุดออกมาเธอขยับเข้าไปใกล้ เผยให้เห็นเนินอกขาวนวลเล็กน้อย“คุณชายโจว เป็นคุณที่ช่วยฉันไว้เหรอคะ? ต้องให้ฉันตอบแทนด้วยตัวเองไหม?”เลขามือไวคว้าคอเสื้อเธอไว้ แล้วลากออกไปอีกด้านโจวซือจิ่นนั่งลง เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา“เธอ…ก็คู่ควรด้วยเหรอ?”สีหน้าของถังหลินเปลี่ยนไปทันทีถึงเธอจะสู้ความงามระดับนางฟ้าอย่างเซี่ยจือเหยาไม่ได้ แต่ก็ถือว่าน่ารักหวานตาอยู่ไม่น้อยทำไมพอไปอยู่ในสายตาโจวซือจิ่นถึงกลายเป็นดูไม่ได้ขนาดนั้น?เธอนั่งกลับลงที่โต๊ะอาหาร แล้วพูดขึ้นว่า “พูดมาเถอะ ต้องการให้ฉันทำอะไร?”โจวซื่อจิ่นสัญญาจะให้เธอยี่สิบห้าล้านเพื่อที่เธอจะได้พาเถียนเถียนออกจากสถานสงเคราะห์ แล้วสองแม่ลูกจะได้หนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน“พ่อแท้ ๆ ของเถียนเถียนคือใคร?”โจวซือจิ่นต้องการใช้ถังหลินซึ่งเป็นตัวแปรที่ไม่มั่นคงในการเล่นงานฝู่หยุนถิง ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องมีหลักฐานบางอย่างไว้ควบคุมเธอไว้ในมือใครจะไปรู้ว่าพอผู้หญิงบ้าคนนั้นคลุ้มคลั่งขึ้นมา เธอจะทำเรื่องบ้าอะไรลงไปบ้างถังหลินเม้มปากแน่นโดยไม่ตอบอะไรโ
แต่เช้าตรู่ พอฝู่หยุนถิงตื่นขึ้นมาก็ได้รับข่าวดีข่าวหนึ่งได้การ์ดเชิญงานแต่งของโจวซือจิ่นมาแล้วฝู่หยุนถิงพลิกดูบัตรเชิญที่ทำจากทองคำแท้ ภายในฝังด้วยอัญมณีแซฟไฟร์เม็ดโตเต็มเม็ด“บัตรเชิญงานแต่งได้มาง่ายขนาดนี้ ดูท่าว่าตระกูลโจวคงไม่ลึกลับอย่างที่คนข้างนอกพูดกันหรอกนะ”“ตระกูลโจวนี่ก็น่าแปลกจริง ๆ บนบัตรเชิญมีแค่ชื่อเจ้าบ่าว แต่ไม่มีชื่อเจ้าสาว”แต่ฝู่หยุนถิงไม่สนใจเลยว่าเจ้าสาวเป็นใคร ก็แค่คุณหนูจากตระกูลผู้ดีตระกูลใดตระกูลหนึ่งเท่านั้นเองเขาหันไปถามผู้ช่วยว่า “เตรียมทุกอย่างพร้อมหรือยัง?”ผู้ช่วยพยักหน้าตอนนั้นเซี่ยจือเหยาฝืนคำคัดค้านอย่างหนักของพ่อแม่ตระกูลเซี่ย ตัดสินใจถอนหมั้นและแต่งงานกับฝู่หยุนถิงอย่างไม่ลังเลนอกจากเขาแล้ว บนโลกนี้เธอก็ไม่มีใครให้พึ่งพาได้อีกแล้วถ้าจะต้องหาคนที่อาจจะรับเธอต่อได้จริง ๆ ก็คงมีแค่โจวซือจิ่นเท่านั้น“หึหึ งานแต่งของคุณชายใหญ่เมืองฮู่น่ะ ยังไงก็ต้องมีสื่ออยู่เต็มไปหมดแน่ ๆ พอเรื่องอื้อฉาวถูกเปิดโปงแล้วล่ะก็ ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะยังมีหน้ามาตามตื๊ออาเหยาได้อีกไหม”“ถึงตอนนั้น อาเหยาไม่มีใครให้พึ่งพิง ก็ต้องพึ่งฉันไม่ใช่เหรอ?”แผน
Comments