تسجيل الدخولบทเสริม: ช่วงเวลาแห่งแสงแดด—ฤดูหนาวในบ้านที่อบอุ่น
พลังงานของฤดูหนาว (The Winter Solace)
เป็นช่วงกลางฤดูหนาวในคฤหาสน์บนเนินเขาหลังใหม่ของครอบครัวแบล็กเวลล์ แม้ภายนอกจะปกคลุมด้วยความเย็นยะเยือก แต่ภายในบ้านกลับอบอวลไปด้วยไออุ่นจากเตาผิงและกลิ่นหอมของช็อกโกแลตร้อนที่ อีวา กำลังเตรียมอยู่
ลูก ๆ ทั้งสามคนกำลังวุ่นวายอยู่กับกิจกรรมของตนเองในห้องนั่งเล่น:
อีธาน (วัยเจ็ดขวบ) นั่งอยู่บนพรมหน้าเตาผิง เขากำลังพยายามสานผ้าพันคอสีเข้มให้กับ ดีแลนโดยมีสมาธิอย่างสูง ตามแบบฉบับของเขาที่ชอบทำงานฝีมือที่ละเอียดอ่อน
โนอาห์ (วัยหกขวบ) ที่เต็มไปด้วยพลังงานและความคิดสร้างสรรค์ กำลังก่อสร้างป้อมปราการขนาดใหญ่จากหมอนอิงและผ้าห่มกลางห้อง เขามักจะอธิบายถึงโครงสร้างของป้อมปราการอย่างละเอียดด้วยศัพท์ทางวิศวกรรมที่เขาไปค้นคว้ามา
ลินน์(วัยหกขวบ) ผู้มีจิตใจอ่อนโยนและจินตนาการกว้างไกล กำลังนั่งวาดรูปครอบครัวอยู่บนโต๊ะกาแฟ เธอวาดกุหลาบขาวดอกใหญ่ไว้ที่มุมหนึ่งของภาพเสมอ
ดีแลน กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์เก่า ๆ (เขาไม่สนใจข่าวสารทางธุรกิจอีกต่อไป) แต่ดวงตาของเขากลับมองเลยขอบกระดาษเพื่อเฝ้าดูลูก ๆ ของเขาอย่างเงียบ ๆ
อีวา เดินมาพร้อมถ้วยช็อกโกแลตร้อนสามถ้วย เธอยื่นถ้วยแรกให้กับ อีธาน
อีวา"ผ้าพันคอใกล้เสร็จหรือยังคะ ลูกชาย? พ่อของคุณต้องอบอุ่นมากแน่ ๆ"
อีธาน (เงยหน้าขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ) "ใกล้แล้วครับคุณแม่ อีธาน เลือกสีนี้เพราะคุณพ่อดูเป็นผู้ใหญ่และสง่างามที่สุดในสีนี้ครับ"
ดีแลน วางหนังสือพิมพ์ลงแล้วยิ้ม "คุณเลือกได้ยอดเยี่ยมมากครับ อีธาน ความสง่างามของพ่อมาจากความซื่อสัตย์ที่คุณแม่สอนพ่อไว้"
โนอาห์วิ่งออกมาจากป้อมปราการของเขาเพื่อรับช็อกโกแลต "คุณแม่ครับ! ผมสร้างป้อมปราการป้องกันตัวเองจากสัตว์ประหลาดหิมะได้สำเร็จแล้วครับ โนอาห์ ออกแบบให้มีทางออกฉุกเฉินสองทาง ตามหลักการบริหารความเสี่ยง"
ดีแลน ยิ้มขำ "คุณไม่ทิ้งนิสัยนักบริหารของพ่อเลยนะครับ โนอาห์ แต่พ่ออยากให้คุณจำไว้ว่า บางครั้งเราก็ต้องเปิดประตูให้สัตว์ประหลาดเข้ามาบ้าง... เพราะบางทีมันอาจจะอยากแค่เล่นด้วย"
ลินน์ เงยหน้าขึ้นมองดีแลนด้วยดวงตาที่อ่อนโยน "ถ้าอย่างนั้น ลินน์ จะวาดหัวใจให้สัตว์ประหลาดหิมะในรูปของหนูนะคะ คุณพ่อจะได้ไม่ต้องสู้กับมัน"
ดีแลน เดินไปที่ ลินน์ แล้วจูบเธอเบา ๆ บนหน้าผาก "นั่นคือวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดครับ ลินน์การใช้ความรักคือวิธีที่ทรงพลังที่สุดเสมอ"
การทบทวนมรดกที่แท้จริง (The True Legacy)
ในขณะที่เด็ก ๆ กลับไปวุ่นวายกับกิจกรรมของพวกเขา ดีแลน เดินไปนั่งข้าง อีวา ที่เตาผิง
ดีแลน"ผมมีความสุขที่สุดในชีวิตตอนนี้ครับ *ฃอีวาผมไม่เคยรู้เลยว่าการได้เห็นลูก ๆ เติบโตอย่างอิสระและมีความสุขมันรู้สึกดีขนาดนี้"
อีวา"ฉันก็เหมือนกันค่ะ ดีแลนคุณจำตอนที่เราเคยเครียดเรื่องการงานและสงครามธุรกิจได้ไหมคะ? ตอนนั้นเราแทบจะไม่มีเวลานั่งมองพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกันเลย"
ดีแลน"ผมใช้ชีวิตทั้งชีวิตในการควบคุมสิ่งที่ผมไม่มีวันควบคุมได้... นั่นคือคนอื่น ๆ และสถานการณ์ภายนอก แต่ตอนนี้ผมได้เรียนรู้ที่จะควบคุมสิ่งเดียวที่สำคัญ... นั่นคือ การกระทำและ ความรัก ของผมเอง"
เขาหยิบผ้าพันคอที่ อีธาน กำลังสานอยู่ขึ้นมาดูอย่างระมัดระวัง
ดีแลน"ผ้าพันคอนี้... มันคือสัญลักษณ์ที่ชัดเจนของ มรดก ที่แท้จริงครับ อีวา มันไม่ใช่เพชรพลอยหรืออาณาจักร แต่มันคือ ความผูกพัน ที่สร้างขึ้นด้วยมือของลูกชายผมเอง มันคือสิ่งที่ไม่มีใครสามารถเอาไปจากเราได้"
อีวา พยักหน้า "คุณพ่อของคุณ... ลูคัส.. เขาเคยคิดว่ามรดกคืออำนาจและเงิน แต่คุณ... ดีแลน.. คุณสอนให้ลูก ๆ ของเราเข้าใจว่ามรดกที่แท้จริงคือ ความทรงจำที่อบอุ่นและ การเป็นคนดี
คืนแห่งการผ่อนคลายและการเชื่อมโยง
เมื่อความมืดมาเยือน, หลังอาหารค่ำที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ดีแลน มีหน้าที่อ่านนิทานก่อนนอน
คืนนี้เขากำลังอ่านนิทานเกี่ยวกับ อัศวินผู้ซื่อสัตย์ ที่เลือกที่จะใช้ความเมตตาแทนดาบในการแก้ไขปัญหา อีธาน นั่งฟังอย่างตั้งใจ, โนอาห์ ตั้งคำถามเป็นระยะถึงกลยุทธ์ของอัศวิน, และ ลินน์นอนหนุนตัก ดีแลน ด้วยความรู้สึกปลอดภัยอย่างเต็มที่
ดีแลน มองดูใบหน้าเล็ก ๆ ของลูก ๆ ที่กำลังหลับใหลอย่างสงบ ความรู้สึกที่ท่วมท้นในใจของเขาคือ ความสงบที่แท้จริง ที่ไม่ได้มาจากความสำเร็จทางโลก แต่มาจากความรักที่ไม่มีเงื่อนไข
หลังจากที่ลูก ๆ หลับหมดแล้ว ดีแลน และ อีวา ก็กลับมาที่ห้องนั่งเล่น พวกเขานั่งอยู่ข้างกันหน้าเตาผิงที่กำลังปะทุไฟอย่างแผ่วเบา
ดีแลน หันไปหาอีวา "ผมขอบคุณคุณเสมอ อีวา ที่ให้โอกาสผมได้เป็น ดีแลน ที่แท้จริง... ผู้ชายที่ไม่ต้องสวมหน้ากากและไม่ต้องกลัวที่จะรัก"
อีวาเอียงศีรษะซบไหล่เขา "ฉันรักคุณค่ะ ดีแลน ฉันรัก ดีแลน แบล็กเวลล์ ที่คุณเป็นอยู่ในตอนนี้... และฉันจะรักคุณตลอดไป"
พวกเขาใช้เวลาที่เหลือในความเงียบสงบอบอุ่น กอดกันแน่น นี่คือความสมบูรณ์แบบที่พวกเขาเลือกที่จะสร้างขึ้นมันไม่ได้ไร้ที่ติ แต่เต็มไปด้วย ความอบอุ่นความเข้าใจ และ การให้อภัยซึ่งเป็นรากฐานของความสุ
ขที่แท้จริงและมรดกที่ไม่มีวันสลายของตระกูลแบล็กเวลล์ใหม่
บทเสริม: ความท้าทายใหม่—การเป็นผู้นำด้านศีลธรรม การกลับเข้าสู่สาธารณะชนในฐานะผู้ไถ่บาปหลายปีหลังจากที่ ดีแลน แบล็กเวลล์ยุติสงครามกับบิดาและทิ้งอาณาจักรธุรกิจของเขาไป เขาก็ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบในฐานะคุณพ่อและผู้บริหารมูลนิธิ อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของเขาในฐานะอดีตซีอีโอที่ยอมสละทุกอย่างเพื่อความถูกต้องและภรรยาของเขา ก็ยังคงดึงดูดความสนใจจากโลกภายนอกอยู่เสมอมูลนิธิคาร์เตอร์-แบล็กเวลล์ ไม่ได้เป็นเพียงองค์กรการกุศล แต่กลายเป็น สถาบันทางความคิด ด้านจรรยาบรรณธุรกิจ ดีแลนและอีวาเริ่มได้รับคำเชิญให้ไปพูดในที่สาธารณะ โดยเฉพาะจากสถาบันการศึกษาและกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ดีแลนตัดสินใจที่จะกลับเข้าสู่สาธารณชนอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่เพื่อแสวงหาอำนาจ แต่เพื่อ มอบบทเรียนที่เขาได้รับมาจากการไถ่บาปของเขา ปาฐกถาที่มหาวิทยาลัย: บทเรียนจากความมืดมิด วันหนึ่ง ดีแลนได้รับเชิญให้ไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยชั้นนำ ซึ่งเป็นสถาบันที่เขาเคยบริจาคเงินจำนวนมหาศาลเพื่อล้างภาพลักษณ์ของตระกูลในอดีต แต่คราวนี้เขามาในฐานะ วิทยากรที่มีความซื่อสัตย์เมื่อดีแลนยืนอยู่บนเวที ห้องประชุมเต็มไปด้วยนักศึกษาและนักธุรกิจที่ต่างจ
บทเสริม: ช่วงเวลาแห่งแสงแดด—ฤดูหนาวในบ้านที่อบอุ่น พลังงานของฤดูหนาว (The Winter Solace)เป็นช่วงกลางฤดูหนาวในคฤหาสน์บนเนินเขาหลังใหม่ของครอบครัวแบล็กเวลล์ แม้ภายนอกจะปกคลุมด้วยความเย็นยะเยือก แต่ภายในบ้านกลับอบอวลไปด้วยไออุ่นจากเตาผิงและกลิ่นหอมของช็อกโกแลตร้อนที่ อีวา กำลังเตรียมอยู่ลูก ๆ ทั้งสามคนกำลังวุ่นวายอยู่กับกิจกรรมของตนเองในห้องนั่งเล่น:อีธาน (วัยเจ็ดขวบ) นั่งอยู่บนพรมหน้าเตาผิง เขากำลังพยายามสานผ้าพันคอสีเข้มให้กับ ดีแลนโดยมีสมาธิอย่างสูง ตามแบบฉบับของเขาที่ชอบทำงานฝีมือที่ละเอียดอ่อนโนอาห์ (วัยหกขวบ) ที่เต็มไปด้วยพลังงานและความคิดสร้างสรรค์ กำลังก่อสร้างป้อมปราการขนาดใหญ่จากหมอนอิงและผ้าห่มกลางห้อง เขามักจะอธิบายถึงโครงสร้างของป้อมปราการอย่างละเอียดด้วยศัพท์ทางวิศวกรรมที่เขาไปค้นคว้ามาลินน์(วัยหกขวบ) ผู้มีจิตใจอ่อนโยนและจินตนาการกว้างไกล กำลังนั่งวาดรูปครอบครัวอยู่บนโต๊ะกาแฟ เธอวาดกุหลาบขาวดอกใหญ่ไว้ที่มุมหนึ่งของภาพเสมอดีแลน กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์เก่า ๆ (เขาไม่สนใจข่าวสารทางธุรกิจอีกต่อไป) แต่ดวงตาของเขากลับมองเลยขอบกระดาษเพื่อเฝ้าดูลูก ๆ ของเขาอย่างเงียบ ๆอีว
บทเสริม: การเดินทางเพื่อรำลึก—การกลับไปสู่จุดเริ่มต้น วันครบรอบ การเดินทางที่ไม่ใช่การหนีเจ็ดปีผ่านไปนับตั้งแต่ ดีแลน แบล็กเวลล์ และ อีวา คาร์เตอร์ เริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของพวกเขา และครบรอบห้าปีนับตั้งแต่การกำเนิดของลูกแฝด โนอาห์ และ ลินน์ ชีวิตของพวกเขาถูกเติมเต็มด้วยความสุขสงบ และการเติบโตของลูก ๆ ทั้งสามปีนี้ในวันครบรอบ ดีแลนและอีวาตัดสินใจที่จะเดินทางไปพักผ่อนเพียงลำพัง โดยฝาก อีธาน, โนอาห์, และ ลินน์ ไว้กับพี่เลี้ยงที่ไว้ใจได้ การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่การเดินทางเพื่อการพักผ่อนทั่วไป แต่เป็นการเดินทางเพื่อ รำลึกถึงจุดเริ่มต้น ของพวกเขาจุดหมายปลายทางของพวกเขาคือ ที่ดินเก่าของตระกูลคาร์เตอร์ ที่ตอนนี้ถูกพัฒนาเป็น ศูนย์การเรียนรู้และยุติธรรมสำหรับเยาวชน ภายใต้การดูแลของมูลนิธิ ที่ดินนี้เคยเป็นจุดเริ่มต้นของความแค้นและความเจ็บปวดทั้งหมดของพวกเขาการเดินทางที่เงียบสงบดีแลนขับรถไปอย่างช้า ๆ มือของเขากุมมือของอีวาไว้ตลอดทาง พวกเขาสื่อสารกันด้วยความเงียบมากกว่าคำพูด ความเงียบที่เต็มไปด้วยความเข้าใจและซาบซึ้งในเส้นทางที่พวกเขาได้เดินผ่านมาอีวา: "คุณยังจำได้ไหมคะ ดีแลน วันที่คุณ
บทเสริม: การเติบโต—ปีที่สี่ของแบล็กเวลล์น้อยความวุ่นวายที่มีระเบียบ (Structured Chaos)สี่ปีผ่านไปอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่การกำเนิดของลูกแฝด โนอาห์และ ลินน์ บ้านคาร์เตอร์-แบล็กเวลล์ไม่ได้เป็นเพียงบ้านที่อบอุ่นอีกต่อไป แต่เป็นศูนย์กลางของพลังงานที่ไม่เคยหยุดนิ่ง อีธานตอนนี้อายุห้าขวบ เป็นพี่ชายที่รักน้องและเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของพ่อแม่ ส่วน โนอาห์และ ลินน์ แฝดสี่ขวบ กำลังอยู่ในช่วงของการค้นพบโลกและเต็มไปด้วยคำถามที่ไม่สิ้นสุดดีแลนผู้ที่เคยเป็นซีอีโอที่เคร่งครัด ได้เปลี่ยนบทบาทเป็นคุณพ่อที่อดทนและมีไหวพริบ เขาใช้หลักการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลที่เขาเคยใช้ในบริษัทมาปรับใช้กับการเลี้ยงลูกได้อย่างน่าประหลาดใจในห้องครัวที่เต็มไปด้วยแสงแดด ดีแลน กำลังพยายามทำอาหารเช้าสามอย่างพร้อมกัน (โจ๊กสำหรับอีธาน, แพนเค้กสำหรับโนอาห์, และผลไม้สำหรับลินน์) ในขณะที่ต้องตอบคำถามที่ซับซ้อน:โนอาห์ "คุณพ่อคะ ทำไมพระอาทิตย์ต้องไปนอนด้วยคะ? โนอาห์ไม่เคยไปนอนตอนเที่ยงวันเลย!"ดีแลน"เพราะพระอาทิตย์ต้องให้ดวงจันทร์ได้ทำงานบ้างครับ ลูกชาย มันเหมือนกับการแบ่งปันหน้าที่กันในครอบครัวไงครับ"ลินน์(นั่งวาดรูปอยู่บนเก้า
เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคในการสร้างข้อความ ความสุขที่สมบูรณ์แบบของครอบครัว (The Complete Joy) ยามเช้าในบ้านคาร์เตอร์-แบล็กเวลล์: วงจรชีวิตใหม่บ้านคาร์เตอร์-แบล็กเวลล์ในช่วงเช้าไม่ได้เงียบสงบอีกต่อไป แต่เต็มไปด้วยพลังงานที่วุ่นวายและเสียงหัวเราะ ดีแลน ตื่นก่อนใครเสมอ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เพื่ออ่านรายงานการเงิน แต่เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิห้อง, เตรียมขวดนมสองขวดที่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างสมบูรณ์แบบ, และเตรียมชาขิงให้กับ อีวาเมื่อลูกแฝด โนอาห์ (มักจะตื่นก่อนและมีเสียงดัง) และ ลินน์ (มักจะตื่นทีหลังและร้องเบา ๆ) เริ่มส่งเสียงร้องขออาหารเช้าจากห้องทารก อีธาน ลูกชายคนโตวัยสามขวบก็จะวิ่งลงจากเตียงและตรงมาที่ห้องพ่อแม่เพื่อขอให้ ดีแลน อุ้มเขาไปดูน้อง ๆดีแลน ที่เคยรังเกียจความวุ่นวายและสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ ตอนนี้กลับโอบกอดความโกลาหลนี้ไว้ด้วยความสุขเต็มเปี่ยม เขาสามารถอุ้ม อีธาน ไว้ที่สะโพกข้างหนึ่ง ขณะที่ใช้มืออีกข้างผสมนมผงสำหรับแฝดได้อย่างชำนาญการทำงานเป็นทีมที่ไร้ที่ติอีวา ที่ออกมาจากห้องด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน จะเดินตรงไปหา ลินน์ ทันที ขณะที่ดีแลนจัดการกับ โนอาห์ ที่เริ่มส่งเสียงเรียกร้องอย่าง
ความทรงจำของลูคัสและจุดจบของยุคสมัย ความเงียบเหงาที่ถูกควบคุม (The Controlled Solitude)หลังจากที่ ลูคัส แบล็กเวลล์ยอมลงนามในสัญญาการยอมรับความผิด เขาถูกย้ายไปยังสถานที่ดูแลส่วนตัวที่ห่างไกลออกไปภายใต้ข้อตกลงลับกับดีแลน ที่ซึ่งเขายังคงได้รับการดูแลทางการแพทย์และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดที่เคยมี แต่เขาถูกตัดขาดจากการควบคุมโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงสถานที่นั้นเป็นคฤหาสน์ขนาดเล็กตั้งอยู่บนเนินเขาที่เงียบสงบ แต่สำหรับลูคัส มันคือ คุกที่เต็มไปด้วยความหรูหรา ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีผู้บริหารคนใดมาเข้าพบ มีเพียงพยาบาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ถูกจ้างโดยดีแลนเท่านั้นการเผชิญหน้ากับความว่างเปล่าตลอดชีวิตของลูคัส เขาเคยชินกับการกรอกเวลาทุกวินาทีด้วยการวางแผน การบงการ และการแสวงหาอำนาจ แต่ตอนนี้... เวลาว่างเปล่า ได้กัดกินเขาอย่างช้า ๆเขานั่งอยู่ในห้องสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือที่ไม่เคยเปิดอ่าน มองออกไปนอกหน้าต่างที่เผยให้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่ความงามเหล่านั้นไม่ได้สร้างความหมายใด ๆ ให้กับเขาเลย“ฉันทำอะไรลงไป?” ลูคัสคิดในใจเป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่ใช่การเสียดายที่สูญเสียธุรกิจ







