로그인กำแพงแก้วแห่งความคาดหวัง (The Glass Wall of Expectation)
อีธาน แบล็กเวลล์ ในวัย 25 ปี เป็นบุตรชายคนโตและเป็นภาพสะท้อนที่สมบูรณ์แบบที่สุดของความรักที่ได้รับการไถ่บาปของ ดีแลน และ อีวา เขาสูงสง่า มีความสุภาพอ่อนโยน และมีแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจตามแบบฉบับของมารดา อีวา
เขาเป็นผู้บริหารหลักของ มูลนิธิคาร์เตอร์-แบล็กเวลล์ และเป็นหัวหน้าโครงการยุติธรรมทางสังคม อีธานมีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลที่เฉียบคมเหมือนพ่อ แต่เขามักจะ ลังเล ที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายด้วยตัวเอง เพราะความกลัวที่จะทำผิดพลาดอย่างรุนแรง
ความกลัวของอีธาน
อีธานไม่ได้กลัวความล้มเหลวทางธุรกิจ แต่เขากลัวที่จะ ทำลายมรดก แห่งความซื่อสัตย์ที่พ่อแม่สร้างขึ้นมาอย่างยากลำบาก เขารู้ว่าความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยของเขาจะถูกตีความว่าเป็น เงาของตระกูลแบล็กเวลล์ ที่กลับมาหลอกหลอน ด้วยเหตุนี้ ชีวิตส่วนตัวของเขาจึงถูก แช่แข็ง ไว้ เขาไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ไม่เคยไปเที่ยวคลับ ไม่เคยทำอะไรที่เสี่ยงต่อการถูกวิพากษ์วิจารณ์
เขามองเห็นความรักที่บริสุทธิ์ของพ่อแม่เป็นเหมือน งานศิลปะชั้นยอด ที่สมบูรณ์แบบเสียจนเขาไม่กล้าแตะต้องมัน
จุดเริ่มต้นของรอยร้าว (The Beginning of the Cracks)วันหนึ่ง อีธานกำลังนั่งทบทวนเอกสารเกี่ยวกับการปิดคดีเก่า ๆ ของมูลนิธิ เขาพบ ความผิดปกติเล็กน้อย ในบันทึกการชดเชยคดีหนึ่งที่เกิดขึ้นในยุคลูคัส ที่มูลนิธิได้แก้ไขไปแล้ว แต่บันทึกชี้ว่า เหยื่อรายหนึ่ง ได้รับการชดเชยน้อยกว่าที่ควรจะเป็น และเอกสารก็ถูกสรุปอย่างรวดเร็วจนน่าสงสัย
อีธานพยายามหารายละเอียดเพิ่มเติม แต่ถูกระงับโดยระบบเก็บเอกสารเก่าของมูลนิธิ ดีแลน ผู้เป็นพ่อก็รับรองว่าคดีนี้ถูกปิดไปอย่างสมบูรณ์นานแล้ว
"ไม่ต้องกังวลหรอก อีธาน ลูกชาย ทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับยุคลูคัสได้รับการชดเชยและตรวจสอบซ้ำแล้ว ไม่มีอะไรที่พ่อและแม่ไม่ได้เผชิญหน้า" ดีแลนพูดด้วยความมั่นใจ
แม้จะได้รับคำรับรองจากพ่อ อีธาน ก็ยังคงรู้สึกกังวล ความรู้สึกว่า ความสมบูรณ์แบบ อาจมีรอยร้าวซ่อนอยู่เริ่มกัดกินจิตใจของเขา
ออโรรา เวนต์วอร์ท: ผู้สืบค้นความจริง (The Truth Seeker) การปรากฏตัวที่ท้าทาย (The Challenging Appearance)
ขณะที่อีธานกำลังรับมือกับความกังวลภายใน ออโรรา เวนต์วอร์ท นักข่าวสืบสวนอิสระวัย 26 ปี ก็ปรากฏตัวขึ้นในชีวิตของเขา ออโรราไม่ได้เป็นนักข่าวสายซุบซิบ แต่เป็นนักข่าวที่มุ่งมั่นค้นหา ความยุติธรรมที่ถูกซ่อนเร้น เธอเกลียดชังความไม่ยุติธรรมและเชื่อว่าผู้มีอำนาจมักจะสามารถซื้อความจริงได้เสมอ
ออโรรา ติดตามคดีเก่า ๆ ของตระกูลแบล็กเวลล์อย่างละเอียด และเธอเชื่อว่าคดีที่ถูกสรุปไปแล้วอาจมีเหยื่อที่ถูกละเลยซ่อนอยู่
ออโรราใช้ความสามารถของเธอในการเข้าถึงงานการกุศลของมูลนิธิ โดยปลอมตัวเป็นอาสาสมัครด้านสื่อสารมวลชนเพื่อเข้าใกล้อีธาน
การปะทะทางความคิดครั้งแรกการปะทะกันครั้งแรกเกิดขึ้นในห้องประชุมของมูลนิธิ ออโรราตั้งคำถามที่แหลมคมที่สุดในระหว่างการประชุมทีม:
ออโรรา"คุณ อีธาน คะ คดีฉ้อโกงของ Blackwell Global ในปี 2005 (ยุคลูคัส) เหยื่อที่ได้รับผลกระทบคือ นายโจเซฟ ดันน์ ซึ่งมีรายงานว่าเขาถูกฟ้องกลับโดยทนายความของตระกูล... มูลนิธิได้ตรวจสอบคดีนี้แล้วหรือยังคะ?"
อีธาน (ประหลาดใจกับรายละเอียดของเธอ) "เราได้ตรวจสอบคดีทั้งหมดแล้วครับคุณ เวนต์วอร์ท นายดันน์ได้รับค่าชดเชยที่ยุติธรรมและคดีนี้ถูกปิดไปนานแล้ว"
ออโรรา"ถ้าได้รับค่าชดเชยจริง ทำไมชื่อของเขาถึงยังคงอยู่ในรายชื่อ ผู้ที่ได้รับผลกระทบระยะยาว ขององค์กรการกุศลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเครียดทางการเงิน? หรือว่ามูลนิธิฯ แค่ ทำความสะอาด บัญชีให้สวยงามเพื่อให้ภาพลักษณ์ของ แบล็กเวลล์ บริสุทธิ์ผุดผ่องคะ?"
คำพูดของออโรราแทงใจดำของอีธานทันที เธอไม่ได้แค่โจมตีมูลนิธิ แต่โจมตีสิ่งที่เขาให้ความสำคัญที่สุด—ความสมบูรณ์แบบที่บริสุทธิ์
อีธาน ตอบด้วยความเยือกเย็นที่เขาได้เรียนรู้จากพ่อ แต่ข้างในเขารู้สึกปั่นป่วน: "มูลนิธิฯ ดำเนินการด้วยความโปร่งใสที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับคุณเวนต์วอร์ท และเรายินดีที่จะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด..."
ขณะที่อีธานสบตาออโรรา เขาก็พบว่าเธอไม่ได้มีแววตาของความแค้น แต่เป็น แววตาที่กำลังค้นหาความจริง และความมุ่งมั่นที่น่าทึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เขาหวั่นไหวอย่างรุนแรง
การสืบสวนคู่ขนาน (Parallel Investigations)
อีธานไม่สามารถละเลยคำถามของออโรราได้ เขาใช้ความรู้ด้านการเงินของเขาในการ แอบสืบสวน คดีของนายโจเซฟ ดันน์ ด้วยตัวเอง เขาใช้เวลาหลังเลิกงานหลายสัปดาห์ในการเจาะลึกเข้าไปในเอกสารเก่าที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในเซิร์ฟเวอร์สำรองของตระกูล
สิ่งที่เขาค้นพบนั้นน่าตกใจ: นายโจเซฟ ดันน์ ไม่เพียงแต่ถูกฉ้อโกง แต่ยังถูก ทนายของลูคัส ข่มขู่และบีบบังคับให้ยอมรับเงินชดเชยที่ไม่เป็นธรรม โดยขู่ว่าจะทำลายชื่อเสียงของเขา มูลนิธิในยุคแรกได้รับข้อมูลที่บิดเบือนและสรุปคดีไปโดยไม่รู้ถึงการข่มขู่ที่อยู่เบื้องหลัง
ขณะเดียวกัน ออโรรา ก็เข้าใกล้นายดันน์ได้สำเร็จ เธอพบว่านายดันน์ไม่เพียงแต่สูญเสียเงิน แต่ตอนนี้เขากำลังต่อสู้กับโรคร้ายและรู้สึกว่าชีวิตของเขาถูกทำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยตระกูลแบล็กเวลล์
ออโรรา เผชิญหน้ากับ อีธาน อีกครั้ง โดยครั้งนี้เธอไม่ได้ตั้งคำถามต่อหน้าสาธารณะ แต่เป็นในสวนกุหลาบขาวอันเงียบสงบ
ออโรรา "ฉันพบ นายดันน์ แล้วค่ะ คุณ แบล็กเวลล์ และฉันรู้ว่ามูลนิธิของคุณ ล้มเหลว ที่จะให้ความยุติธรรมกับเขา คุณกับพ่อแม่ของคุณสร้างอาณาจักรจากการไถ่บาป... แต่มีคนถูกทอดทิ้งอยู่เบื้องหลัง"
อีธาน รู้สึกเหมือนโลกกำลังพังทลายลงภายใต้เท้าของเขา การปกป้องชื่อเสียงของพ่อแม่ของเขาคือสิ่งที่เขายึดมั่นมาตลอดชีวิต แต่การปล่อยให้ นายดันน์ ต้องทนทุกข์ต่อไปก็ขัดกับหลักการจริยธรรมของเขาอย่างสิ้นเชิง
ความขัดแย้งภายในของอีธาน
ปกป้องครอบครัว ถ้าเขายอมรับความผิดพลาดนี้ ภาพลักษณ์ของมูลนิธิจะถูกทำลาย และการเสียสละทั้งหมดของพ่อแม่ก็จะถูกตั้งคำถาม
ปกป้องความจริง ถ้าเขาไม่ยอมรับ อีธาน ก็ไม่ต่างจาก ลูคัส ที่เลือกอำนาจเหนือความยุติธรรม
การตกหลุมรักที่อันตราย (The Dangerous Affection)
ความตึงเครียดในการสืบสวนกลับแปรเปลี่ยนเป็นแรงดึงดูดที่ซับซ้อน ออโรรา รู้สึกทึ่งในความสุภาพอ่อนโยนและความมุ่งมั่นที่อยู่เบื้องหลังความเคร่งเครียดของอีธาน ส่วน อีธาน ตกหลุมรักความมุ่งมั่นและไฟที่ลุกโชนเพื่อความยุติธรรมของออโรรา
แต่ทุกการพบกันคือการปะทะกันทางจริยธรรม:
ออโรรา "ฉันไม่เชื่อใจใครก็ตามที่เติบโตมาภายใต้นามสกุล แบล็กเวลล์ คุณเกิดมาพร้อมกับความสมบูรณ์แบบที่พ่อแม่คุณสร้างให้... คุณไม่เข้าใจหรอกว่าความยุติธรรมที่แท้จริงต้องแลกมาด้วยอะไร"
อีธาน "ผมรู้ว่าคุณไม่เชื่อใจผม ออโรรา แต่ความรักของพ่อแม่ผมไม่ได้ทำให้ชีวิตผมง่ายขึ้น... มันทำให้ผมมี ภาระ ที่ต้องแบกรับความสมบูรณ์แบบนั้นไว้ และผมกำลังพยายามอย่างหนักที่จะไม่ทำลายมัน"
การตัดสินใจที่ยากที่สุด (The Hardest Choice)เมื่อ ออโรรา ขู่ว่าจะเปิดโปงคดีของนายดันน์ด้วยตัวเอง อีธาน ก็รู้ว่าเขาต้องเลือก
เขาเดินเข้าไปในห้องทำงานของ ดีแลน และ อีวา ซึ่งเป็นห้องเดียวกับที่พ่อแม่ของเขาเคยใช้ตัดสินใจเรื่องใหญ่ ๆ ในชีวิต
อีธาน "พ่อครับ... แม่ครับ... ผมพบหลักฐานว่าคดีของนายโจเซฟ ดันน์ ถูกบิดเบือนโดยทนายความของปู่ลูคัส และมูลนิธิได้รับข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน เราต้องยอมรับความผิดพลาดและชดเชยให้เขาอย่างเต็มที่"
ดีแลน (ตอบด้วยความสงบที่หนักแน่น): "พ่อรู้มาตลอดว่ามีความเสี่ยงเล็กน้อยที่คดีเก่า ๆ อาจมีรอยร้าว อีธาน และพ่อเชื่อใจในการตัดสินใจของลูก ลูกคิดว่าการยอมรับความจริงจะทำลายมรดกของเราไหม?"
อีธาน"ถ้าเราซ่อนความจริง... นั่นแหละคือสิ่งที่ทำลายมรดกของเราครับ การที่พวกเราแตกต่างจากปู่ลูคัสคือการที่เรา เผชิญหน้า กับความจริงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดก็ตาม"
การตัดสินใจอิสรภาพจากความสมบูรณ์แบบ (Freedom from Perfection)อีธาน ตัดสินใจที่จะ ประกาศอิสรภาพ จากความสมบูรณ์แบบที่เขาถูกคาดหวัง
เขาเปิดเผยความจริงทั้งหมดต่อ ออโรรา รวมถึงหลักฐานที่เขารวบรวมได้เอง ออโรราตกใจกับการกระทำของเขา: เขาไม่เพียงแต่ไม่ปกปิด แต่เขากำลังใช้ความสามารถทั้งหมดในการช่วยเธอเปิดโปงตระกูลตัวเอง
อีธาน: "คุณต้องการความยุติธรรม ออโรรา ผมก็จะช่วยคุณหาความยุติธรรมนั้น แม้ว่ามันจะต้องแลกมาด้วยชื่อเสียงของมูลนิธิและครอบครัวผมก็ตาม... เพราะนั่นคือสิ่งที่ พ่อ และ แม่ สอนผม"
การแก้ไขคดีอีธานและออโรราร่วมมือกันในการเจรจาขอค่าชดเชยที่ยุติธรรมที่สุดให้นายดันน์ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ทั้งหมด มูลนิธิออกแถลงการณ์ยอมรับความผิดพลาดในการตรวจสอบคดีเก่าอย่างเปิดเผย
ความรักที่เบ่งบาน ออโรรา เห็นความจริงใจของ อีธาน เธอรู้ว่าเขาแตกต่างจากคนอื่น ๆ ในโลกของเขา และความรักของเขาก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจหรือฐานะ
การตัดสินใจของ อีธาน ในการเลือก ความจริง เหนือ ภาพลักษณ์ คือการแสดงให้เห็นถึงค
วามแข็งแกร่งของเขา และเป็นการพิสูจน์ความรักของเขาที่มีต่อ ออโรรา อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
โนอาห์—การสร้างตัวตน (The Pursuit of Identity) เงาที่ต้องหลีกหนี (The Shadow to Evade)โนอาห์ แบล็กเวลล์ วัย 24 ปี เป็นแฝดคนหนึ่งที่แสดงความสามารถทางธุรกิจและเทคโนโลยีออกมาอย่างโดดเด่นตั้งแต่เด็ก เขามีความเฉียบขาด, มีสัญชาตญาณทางตลาด, และมีความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จแบบ ดีแลน แบล็กเวลล์ แต่เป็นดีแลนในเวอร์ชันที่ทันสมัยและเร็วกว่าแต่สิ่งหนึ่งที่ โนอาห์ ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงคือ มูลนิธิคาร์เตอร์-แบล็กเวลล์ เขามองว่าการทำงานด้านการกุศลเป็นเหมือนการยืนอยู่ใต้ เงา ของความสำเร็จที่พ่อแม่สร้างไว้ โนอาห์ต้องการพิสูจน์ว่าเขาสามารถประสบความสำเร็จด้วย ชื่อของตัวเอง โดยปราศจากมรดกที่ถูกไถ่บาปเขาได้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีสตาร์ทอัพที่เชี่ยวชาญด้าน ปัญญาประดิษฐ์สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน (AI-Fi)ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โนอาห์สร้างมันขึ้นมาตั้งแต่ศูนย์ โดยปฏิเสธเงินทุนจากครอบครัวความขัดแย้งภายในความมุ่งมั่นที่จะหลีกหนีจากเงาของพ่อแม่ทำให้ โนอาห์ เริ่มแสดงนิสัยที่คล้ายกับ ลูคัส แบล็กเวลล์ ในอดีต: เขาหมกมุ่นอยู่กับการแข่งขัน, มองว่าการเข้าซื้อกิจการเป็น การทำสงคราม และเชื่อว่า ประสิท
กำแพงแก้วแห่งความคาดหวัง (The Glass Wall of Expectation)อีธาน แบล็กเวลล์ ในวัย 25 ปี เป็นบุตรชายคนโตและเป็นภาพสะท้อนที่สมบูรณ์แบบที่สุดของความรักที่ได้รับการไถ่บาปของ ดีแลน และ อีวา เขาสูงสง่า มีความสุภาพอ่อนโยน และมีแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจตามแบบฉบับของมารดา อีวาเขาเป็นผู้บริหารหลักของ มูลนิธิคาร์เตอร์-แบล็กเวลล์ และเป็นหัวหน้าโครงการยุติธรรมทางสังคม อีธานมีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลที่เฉียบคมเหมือนพ่อ แต่เขามักจะ ลังเล ที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายด้วยตัวเอง เพราะความกลัวที่จะทำผิดพลาดอย่างรุนแรงความกลัวของอีธานอีธานไม่ได้กลัวความล้มเหลวทางธุรกิจ แต่เขากลัวที่จะ ทำลายมรดก แห่งความซื่อสัตย์ที่พ่อแม่สร้างขึ้นมาอย่างยากลำบาก เขารู้ว่าความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยของเขาจะถูกตีความว่าเป็น เงาของตระกูลแบล็กเวลล์ ที่กลับมาหลอกหลอน ด้วยเหตุนี้ ชีวิตส่วนตัวของเขาจึงถูก แช่แข็ง ไว้ เขาไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ไม่เคยไปเที่ยวคลับ ไม่เคยทำอะไรที่เสี่ยงต่อการถูกวิพากษ์วิจารณ์เขามองเห็นความรักที่บริสุทธิ์ของพ่อแม่เป็นเหมือน งานศิลปะชั้นยอด ที่สมบูรณ์แบบเสียจนเขาไม่กล้าแตะต้องมัน จุดเริ่มต
สิบแปดปี ผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีธาน, โนอาห์, และลินน์ แบล็กเวลล์ เติบโตขึ้นภายใต้แสงสว่างของ โรงเรียนกุหลาบขาว และหลักการของ มูลนิธิคาร์เตอร์-แบล็กเวลล์ พวกเขาคือภาพสะท้อนของความรักที่ได้รับการไถ่บาปของ ดีแลน และ อีวาแต่ความสมบูรณ์แบบที่พ่อแม่สร้างขึ้นกลับกลายเป็น กำแพง และ ความคาดหวัง ที่หนักอึ้งสำหรับคนรุ่นใหม่อีธาน (วัย 25 ปี) แบกรับภาระทางจริยธรรมของมูลนิธิ โนอาห์ (วัย 24 ปี) ใช้ความสามารถทางธุรกิจเพื่อสร้างชื่อเสียงของตัวเองให้ห่างจากเงาของพ่อแม่ และ ลินน์ (วัย 24 ปี) ค้นหาตัวตนที่แท้จริงในโลกของศิลปะเมื่อ ความลับจากอดีต ที่ถูกเก็บงำไว้ในยุคลูคัสถูกเปิดเผยอีกครั้ง และมี ตัวละครใหม่ ที่นำพาความเสี่ยงและความรักเข้ามาในชีวิตของพวกเขา ลูก ๆ ของดีแลนและอีวาจะต้องพิสูจน์ว่าพวกเขาสามารถสร้างความรักในแบบของตัวเองได้ โดยไม่ต้องอาศัยการไถ่บาปของคนรุ่นก่อน
โครงการสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ หลังจากผ่านพ้นความท้าทายทางกฎหมาย จริยธรรม และความท้าทายในครอบครัว ดีแลน แบล็กเวลล์ และ อีวา ก็ตัดสินใจที่จะใช้เงินทุนทั้งหมดจาก กองทุนแอนนา แบล็กเวลล์เพื่อความยั่งยืนและทรัพย์สินส่วนตัวที่เหลือของดีแลนในการสร้างโครงการที่สำคัญที่สุด นั่นคือ "โรงเรียนกุหลาบขาว"โรงเรียนนี้ไม่ได้เป็นเพียงอาคารเรียน แต่เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่ไม่แสวงหาผลกำไรสำหรับเด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา โดยเฉพาะเด็กที่เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการถูกชักจูงให้ทำผิดกฎหมายหรือขาดการชี้นำทางจริยธรรมปรัชญาของโรงเรียนโรงเรียนกุหลาบขาวจะเน้นการศึกษาที่ครอบคลุมสี่ด้านหลัก จริยธรรมและการไถ่บาปสอนความซื่อสัตย์ ความเห็นอกเห็นใจ และการรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง ศิลปะและการบำบัด ใช้ดนตรี ศิลปะ และการเขียนเป็นเครื่องมือในการเยียวยาบาดแผลทางอารมณ์ ความยั่งยืน การสอนเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อโลก (จากกองทุนแอนนา) ความรู้ทางธุรกิจที่รับผิดชอบ การสอนพื้นฐานทางเศรษฐกิจและการเงินภายใต้หลักการความยุติธรร การมีส่วนร่วมของลูก ๆ (The Children's Contribution)การสร้างโ
เสียงกระซิบจากโลกภายนอก (Whispers from the Outside World)อีธาน แบล็กเวลล์ในวัยเจ็ดขวบ ไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาอีกต่อไป เขาเป็นเด็กชายที่ช่างสังเกต, มีความรู้สึกอ่อนไหว, และมีความคิดที่ซับซ้อนตามแบบฉบับของ อีวา ผู้เป็นแม่ เขากำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนประถมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเพื่อนร่วมชั้นหลายคนที่มีพื้นเพมาจากครอบครัวชนชั้นสูงที่เคยรู้จักหรือเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของตระกูลแบล็กเวลล์ในอดีตแม้ว่า ดีแลนและอีวาจะพยายามปกป้องลูก ๆ จากเงาของอดีต แต่กำแพงของบ้านก็ไม่สามารถกั้นคำพูดของคนภายนอกได้วันหนึ่ง อีธาน กลับมาถึงบ้านจากโรงเรียนด้วยสีหน้าที่เงียบผิดปกติ เขานั่งเล่นอยู่เงียบๆ ในห้องนั่งเล่น โดยมีหนังสือเล่มโปรดอยู่ในมือแต่ไม่ได้เปิดอ่าน ดีแลน สังเกตเห็นความผิดปกตินั้น และรู้ทันทีว่ามีบางอย่างที่รบกวนจิตใจของลูกชายอีธาน รอจนกระทั่ง โนอาห์ และ ลินน์ เข้านอนแล้ว เขาเดินเข้าไปหา ดีแลน ซึ่งกำลังนั่งตรวจเอกสารของมูลนิธิอยู่หน้าเตาผิงอีธาน (พูดด้วยเสียงเบาและสั่นเครือ) "คุณพ่อครับ... วันนี้เพื่อนที่โรงเรียนถาม อีธานว่า... คุณปู่ลูคัส... เป็นคนไม่ดีใช่ไหมครับ?"คำถามนั้นเหมือนเป็นระเบิดเวล
ความท้าทายด้านจริยธรรมในมูลนิธิ (The Ethical Crossroads)หลังจากที่ มูลนิธิคาร์เตอร์-แบล็กเวลล์ ได้รับความเชื่อถืออย่างสูงจากการเปิดโปงและจัดการกับมรดกที่ถูกซ่อนไว้ของ แอนนา แบล็กเวลล์ องค์กรก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นที่รู้จักในฐานะผู้พิทักษ์ความยุติธรรมแต่ชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นก็นำมาซึ่งความท้าทายที่ยากจะปฏิเสธ วันหนึ่ง มูลนิธิได้รับคำร้องขอความช่วยเหลือจาก มาร์คัส เคนอดีตซีอีโอของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนรายหนึ่ง ซึ่งถูกกล่าวหาว่า ฉ้อโกง และ ปั่นราคาหุ้น ซึ่งทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวนมากต้องประสบกับความสูญเสียมาร์คัส เคนไม่ได้มาขอความช่วยเหลือเพื่อต่อสู้คดีในศาล แต่มาพร้อมกับ การสารภาพผิดอย่างสมบูรณ์และข้อเสนอที่ไม่เคยมีมาก่อน: เขาจะ มอบทรัพย์สินส่วนตัวเกือบทั้งหมด (ประมาณ 80% ของทรัพย์สินทั้งหมดของเขา) คืนให้กับเหยื่อและสังคม โดยมีเงื่อนไขว่ามูลนิธิฯ ต้องให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่เขาในการเจรจาโทษกับทางการ ซึ่งรวมถึงการขอโอกาสในการ ไถ่บาป ด้วยการทำงานเพื่อสังคมหลังจากพ้นโทษข้อเสนอของมาร์คัสทำให้บอร์ดบริหารของมูลนิธิและ ดีแลนกับ อีวา ต้องเผชิญกับทางแยกที่ยากลำบากที่สุดนับต






![เจ้าสาวจัดดอก [PWP] + [NC30+]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
