ร้านอาหารที่หมอเอกอาทิตย์พาอัญชิสามารับประทานอาหารเย็นในวันนี้เป็นร้านที่ติดกับชายหาดและเนื่องจากเป็นวันหยุดยาวคนมาทานอาหารค่อนข้างมากอัญชิสาเดินค่อนข้างจะลำบากแต่เธอก็พยายามเดินมาจนถึงโต๊ะ
“ขอโทษนะอัญผมไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้ มันทำให้อัญเดินลำบาก” เอกอาทิตย์รู้สึกผิดมากที่พาเธอมาทานอาหารร้านนี้
“คนเยอะก็แสดงว่าอาหารร้านนี้อร่อย หมออย่าคิดมากเลยค่ะ อัญเดินลำบากก็จริงแต่มันก็คุ้มนะคะร้านนี้บรรยากาศดีมากๆ ค่ะ”
“อัญอยากกินอะไรครับเดี๋ยวผมสั่งให้”
“น่ากินทุกเมนูเลยค่ะ แต่ถ้าสั่งมาหมดนี้คงไม่ไหวแน่ๆ อัญขอเป็นกุ้งเผาแบบที่แกะแล้วกับหมึกไข่นึ่งมะนาวก็แล้วกันค่ะ หมอซันล่ะคะกินอะไรดี” หญิงสาวถามคนที่นั่งจ้องเมนูอย่างใช้ความคิด
“ผมขอเป็นปูนึ่งกับกั้งทอดกระเทียมแล้วก็ต้มยำกุ้งน้ำข้นก็แล้วกันครับ อัญว่าพอไหม”
“น่าจะเกินพอแล้วค่ะ”
ด้วยบรรยากาศริมทะเลและอาหารที่อร่อยของทางร้านทำให้ทั้งสองใช้เวลาทานอาหารค่อนข้างนานพอรู้สึกตัวอีกทีเกือบจะสองทุ่ม
เพราะคนที่ร้านยังเยอะและพลุกพล่านมากชายหนุ่มจึงเป็นห่วงว่าจะมีใครเดินมาชนอัญชิสา เขาเดินนำและคอยหันหลังไปดูตลอดทาง ทำให้คนที่เดินตามมานั้นรู้สึกอบอุ่นหัวใจและคิดว่าการมีคุณหมอหนุ่มคนนี้อยู่ข้างๆ มันทำให้เธอมีความสุขและไม่เสียใจเลยหากว่าจากนี้ตนเองจะจำเรื่องในอดีตไม่ได้เพราะในปัจจุบันเธอมีความสุขและไม่ได้โดดเดี่ยวเลยสักนิด
“เมื่อยไหมครับ วันนี้อัญเดินไกลมาก” เขาถามเมื่อขึ้นมานั่งยังตำแหน่งคนขับ
“นิดหน่อยค่ะ แต่หมอไม่ต้องห่วงหรอกค่ะอัญยังไหว”
ออกจากร้านอาหารแล้วคุณหมอหนุ่มก็พาเธอกลับมาบ้านพัก ทั้งสองแยกกันเข้าห้องนอนเพื่อจัดการธุระส่วนตัวก่อนจะออกมานั่งที่ห้องรับแขกอีกครั้ง
“อัญอยากออกไปนั่งรับลมทะเลข้างนอกไหม ตรงข้างสระว่ายน้ำมีเตียงอาบแดดอยู่นะครับ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ” ใจจริงแล้วหญิงสาวก็อยากออกไปนั่งมองดาวข้างนอกแต่เพราะทางเดินมันค่อนข้างลำบากจึงต้องปฏิเสธเขาไปแบบนั้น
“แต่คืนนี้ดาวสวยมากเลยนะ ผมว่าน่าเสียดายมากถ้าอัญไม่ได้ออกไปมอง” เขาพยายามชักชวนเพราะไม่อยากให้หญิงสาวอุดอู้อยู่แต่ในบ้านพักแบบนี้ อีกอย่างชายหนุ่มคิดว่าลมเย็นๆ และเสียงคลื่นอาจจะทำให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
“อัญก็อยากออกไปข้างนอกนะคะหมอซันแต่ทางเดินจากตรงนี้ไปข้างสระอัญว่ามันไม่ค่อยเรียบเท่าไหร่ อัญกลัวจะหกล้มค่ะ” ในที่สุดหญิงสาวก็ตัดสินใจบอกเขาไปตรงๆ เพราะถ้าหากเธอหกล้มขึ้นมาอีกครั้งก็อาจจะต้องใช้เวลาอีกนานในการพักฟื้น
“เรื่องแค่นี้เองไม่เป็นปัญหาหรอกคุณเชื่อใจผมไหมล่ะ” เขาถามแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“หมอซันหมายความว่ายังไงคะ”
“ผมอุ้มอัญไปก็ได้ใกล้นิดเดียวเอง”
“ไม่ดีกว่าค่ะ อัญเกรงใจ”
“โธ่อัญแค่นี้เองนะไม่ต้องเกรงใจหรอก เดี๋ยวผมพาไปนะ” เขาไม่รอฟังคำปฏิเสธเป็นครั้งที่สองชายหนุ่มเดินมาใกล้แล้วช้อนตัวเธอขึ้นจากโซฟาจากนั้นก็อุ้มเธอออกไปข้างนอกก่อนจะวางหญิงสาวลงบนเตียบอาบแดดข้างสระว่ายน้ำ
“ขอบคุณค่ะ อัญทำให้หมอลำบากอีกแล้ว ตัวอัญหนักไหมคะ” หญิงสาวกล่าวอยางเกรงใจ
“ไม่เลยคุณตัวเล็กนิดเดียวเองนะอัญให้ผมอุ้มแบบนี้ทุกวันก็ไหว”
“ใครจะให้หมออุ้มแบบนี้ทุกวันล่ะคะ”
“ผมพูดเผื่อไว้ถ้าคุณเบื่อที่จะใช้ไม้เท้า”
“อย่าทำตัวเองให้ลำบากเลยค่ะหมอ ตอนนี้อัญยังไหวค่ะ ถ้าไม่ไหวจริงอัญจะให้หมออุ้มนะคะ”
“ตกลงครับ ผมว่าจะไปหาอะไรดื่มหน่อยดื่มอัญอยากดื่มอะไรไหม”
“ขอแค่น้ำเปล่าก็พอค่ะ แต่ถ้าหมออยากจะดื่มอะไรหมอก็เอามาเลยะคะ”
“ผมกินเบียร์ได้ไหม”
“ได้สิคะ หมอไม่ต้องขออัญหรอกค่ะ”
“แล้วอัญล่ะเอาไหม”
“อัญไม่สบายอยู่นะคะหมอซัน อัญคงกินแบบนั้นไม่ได้”
“โทษทีครับ ผมลืมเรื่องนี้ไปเลย ถ้างั้นผมผมขอเข้าไปเอาก่อนนะครับ”
เขากลับเข้าไปในบ้านพักและออกมาพร้อมกับเบียร์ น้ำเปล่า และผลไม้ที่แวะซื้อมาจากรถเข็นตรงบริเวณชายหาดอีกหนึ่งจาน
“บรรยากาศที่นี่ดีจริงๆ นะคะหมอซัน ขอบคุณนะคะที่พาอัญมาเที่ยว อัญสบายใจขึ้นมากเลย”
“ผมดีใจนะที่อัญชอบที่นี่ ผมเองก็ชอบครับ นานแล้วที่ผมไม่ได้ออกมาเที่ยวแบบนี้”
“ปกติหมอซันทำแต่งานเหรอคะ แล้วก่อนหน้าที่จะย้ายมาทำงานที่โรงพยาบาลนี้หมอซันทำงานอยู่ที่ไหน”
“อเมริกาครับ”
“แล้วทำไมถึงกลับมาที่เมื่องไทยล่ะคะ หรือว่าครอบครัวอยากให้กลับ” อัญชิสาไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงครอบรัวเลยสักครั้งพอได้โอกาสก็เลยถามออกไป
“ผมไม่มีครอบครัวหรอกครับ” หมอเอกอาทิตย์ตอบด้วยน้ำเสียงที่เบากว่าปกติ
“ขอโทษนะคะที่ถามแบบนี้ออกไป” น้ำเสียงที่ตอบทำให้คนฟังรู้สึกผิดที่ถามเขาถึงเรื่องที่ละเอียดอ่อน
“ไม่เป็นไรครับ”
“หมออยากเล่าให้อัญฟังไมคะ”
“คุณอยากฟังไหม”
“ค่ะ”
“พ่อแม่ผมเสียไปตั้งแต่ผมเด็กแล้วครับ ผมเติบโตมากับครอบครัวของคุณป้า พอจบมัธยมหกผมก็สอบชิงทุนเพื่อเรียนมหาวิทยาลัย จากนั้นก็แยกออกมาอยู่ตามลำพังจนถึงตอนนี้ครับ”
“หมออยู่คนเดียวมาตลอดเหรอคะ”
“ครับ ผมใช้ชีวิตคนเดียวมาตั้งแต่อายุสิบแปดแล้วครับ” เขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังมาก่อนแต่พออัญชิสาถามเขากลับเปิดปากเล่าออกมาเพราะรู้สึกว่าเธอเป็นคนที่เขาไว้ใจและอยากให้เธอรู้ถึงความเป็นไปของตนเอง
“แล้วได้กลับไปหาคุณลุงคุณป้าบ้างไหมคะ”
“ผมไม่ค่อยไปเยี่ยมท่านหรอกครับ แต่หลังเรียนจบก็ส่งเงินให้ท่านใช้เป็นประจำจนกระทั่งท่านเสียก็เลยหยุดส่ง ตอนนี้ก็เท่ากับผมไม่เหลือญาติที่ไหนเลย”
“แล้วคุณลุงกับคุณป้าไม่มีลูกเหรอคะ”
“มีครับ แต่ก็ไม่ได้ติดต่อกันพวกเขาไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่”
“ทำไมล่ะคะ”
“เพราะผมเป็นเด็กที่ขยันเรียนและเรียนเก่งกว่าพวกเขา คุณลุงกับคุณป้ามักจะเปรียบเทียบผลการเรียนของผมกับพวกเขานะครับ”
“เหงาไหมคะ”
“ครับ ผมรู้สึกทั้งเหงาและโดดเดี่ยวเลยเลือกที่จะทุ่มเทเวลาไปกับการทำงาน อีกอย่างผมก็อยากหาเงินเยอะๆ เพื่อสร้างอนาคตของตัวเอง”
“แต่ตอนนี้หมออาจจะทำงานได้น้อยลงเพราะอัญเป็นภาระ”
“ผมไม่เคยคิดเรื่องนั้นเลยนะครับ อัญก็ไม่ต้องคิดมากเราเป็นแฟนกันนะ ผมดูแลอัญในฐานะที่เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เพราะอยากจะรับผิดชอบเรื่องอุบัติเหตุอย่างที่อัญเข้าใจ”
“ขอบคุณนะคะหมอซัน อัญไม่รู้จะขอบคุณคุณยังไงดี”
“แค่อัญอยู่กับผมก็ถือว่าเป็นคำขอบคุณที่ดีที่สุดแล้วครับ”
“หมอบอกว่าอยากทำงานสร้างอนาคตแล้วทำไมถึงเลือกจะกลับมาทำงานที่เมืองไทยล่ะคะ อัญว่าเงินเดือนน่าจะน้อยกว่าที่อเมริกา”
“เงินเดือนที่นี่น้อยกว่าและทำงานหนักกว่า แต่เชื่อเถอะไม่ว่าใครถ้าเก็บเงินได้มากพอแล้วก็อยากจะลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิด และผมโชคดีมากที่กลับมาเมืองไทยแล้วได้เจอกับอัญ จากที่คิดว่าจะกลับมาเหงาอยู่คนเดียวแต่พอมีอัญมาอยู่ด้วยผมก็หายเหงาครับ”
คำตอบของคุณหมอหนุ่มทำให้อัญชิสายิ้มกว้างเพราะการที่มาอยู่กับเขามันก็ทำให้เธอเหงาเหมือนกัน
ทั้งสองนั่งทานผลไม้และคุยกันจนกระทั่งเที่ยงคืนชายหนุ่มก็อุ้มเธอกลับมาส่งที่ห้องนอน
“ฝันดีนะครับอัญ”
“ฝันดีค่ะหมอซัน”
เมื่อหมอเอกอาทิตย์เดินออกจากห้องไปแล้วอัญชิสาก็หยิบสมุดบันทึกของเธอขึ้นมาเขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ลงไปในสมุด เพราะกลัวว่าถ้าหากจำเรื่องราวทุกอย่างได้และจะลืมความรู้สึกและช่วงเวลานี้ไป หญิงสาวจึงบันทึกทุกอย่างลงในไดอารี่เหมือนกับที่ทำเป็นประจำอยู่ทุกวันก่อนจะปิดไฟที่หัวเตียงและหลับตาลงพร้อมด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุข
ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นในคืนนั้นหมอโสรยาก็รีบย้ายออกจากบ้านของเอกอาทิตย์เพราะหญิงสาวไม่อยากสู้หน้าเจ้าของบ้านและแฟนของเขาเรื่องนี้เอกอาทิตย์ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลยแม้กระทั่งชัยภัทรซึ่งพอจะระแคะระคายเรื่องนี้ตั้งแต่คืนวันเกิดเหตุ แต่เรื่องทุกอย่างมันกลับไม่เป็นความลับเพราะเพื่อนของโสรยาเอาเรื่องนี้ไปพูดในกลุ่มหมอด้วยกันข่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วโสรยาทั้งอายและรู้สึกเสียหน้ามากละมีคนรู้เรื่องและหญิงสาวก็ทนอยู่กับสายตาและคำนินทาของคนอื่นไม่ได้สุดท้ายเธอก็เลยลาออกจากโรงพยาบาลแล้วกลับไปทำงานที่อเมริกาก่อนเดินทางคุณหมอสาวแวะมาหาเอกอาทิตย์และอัญชิสาที่บ้านเพื่อขอโทษกับเรื่องที่เธอทำขึ้น“กิ๊กขอโทษทั้งพี่ซันและก็อัญนะคะ”“ไม่เป็นไรเรื่องมันผ่านแล้ว แต่พี่หวังว่ากิ๊กจะไปทำแบบนี้กับใครอีกนะ ถ้าทุกอย่างมันไม่ได้เกิดจากความรักมันก็ไม่มีความสุขหรอก” เอกอาทิตย์สอนรุ่นน้อง“กิ๊กอิจฉาอัญนะคะที่มีคนรักดีๆ อย่างพี่ซัน”“หมอกิ๊กเป็นคนสวยและเก่งอัญเชื่อว่าจะต้องได้เจอผู้ชายดีเข้ามาแน่ๆ ค่ะ”“กิ๊กขอพักเรื่องนี้ไปก่อนดีกว่าค่ะ แค่นี้ก็อายจนไม่กล้าจะสู้หน้าใครแล้ว”“พี่ว่าอีกหน่อยคนก็ลืม”“กิ๊กว่
เอกอาทิตย์พลิกให้หญิงสาวอยู่ด้านล่าง ก่อนจะส่งลิ้นร้อนเข้าไปดูดซับความหวาน จูบของเขายังคงรุนแรงและเร่าร้อนจนอัญชิสาครางประท้วงเมื่อเริ่มจะขาดอากาศหายใจ“อื้อ.....”คุณหมอหนุ่มเปลี่ยนเป้าหมายจากปากอิ่มที่เริ่มจะบวมช้ำเพราะแรงจูบที่หนักหน่วง เขาเลื่อนริมฝีปากลากไล้ไปตามลำคอ ก่อนจะดูดแรงจนเป็นรอยแดง สองมือก็กอบกุมความทรวงอกขนาดเหมาะมือบีบขย้ำจนความนุ่มหยุ่นแทบปริ ก่อนจะรวบเม็ดเชอร์รี่เข้าปากดูดแรงสลับสองข้างอย่างไม่เมามันปลายลิ้นสะบัดที่ยอดถันสร้างความเสียวจนอัญชิสาดิ้นพล่าน เธอร้องครางแทบไม่เป็นภาษา ทุกจังหวะที่แก่นกายขยับเข้าออก สะโพกงอนงามก็แอ่นรับทุกแรงกระแทกกระทั้นไปตามอารมณ์ปรารถนา“หมอซันขา.....อัญไม่ไหวแล้ว”หญิงสาวกำลังไปถึงขอบสวรรค์อีกครั้ง ชายหนุ่มเร่งจังหวะตอกอัดจนเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้อง ร่างบางแอ่นหยัด สองมือครูดไปตามแผ่นหลังเพื่อระบายอารมณ์ เสียงกรีดร้องเรียกชื่อเขาดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมแรงตอดรัดถี่รัวและน้ำหวานไหลอาบไปทั่วท่อนเอ็นเพิ่มความเสียวให้กับเอกอาทิตย์อีกไม่น้อย“อัญ นานหน่อยนะ ผมยังไม่อยากเสร็จ”เอกอาทิตย์บอกความต้องการไปตามตรง เขาไม่อาจยับยั้งความต้องการ
“พี่คิดว่ากิ๊กไม่จำเป็นต้องช่วยพี่เพราะคนที่จะช่วยเรื่องนี้ได้น่าจะเป็นอัญมากกว่า”“อัญเขาจะมาช่วยพี่ได้ยังไงล่ะคะ ในเมื่อเขาอยู่ที่บ้าน”“พี่ว่ากิ๊กเข้าใจผิดแล้วแหละ” ชายหนุ่มพูดแล้วหันไปมองคนรักที่ยืนกอดอกดูแฟนของตัวเองยืนคลอเคลียกับโสรยาอยู่บริเวณหน้าห้อง“กลับมาแล้วเหรอคะหมอซัน”“ครับ”“หมอซันเป็นอะไรคะหมอกิ๊ก” อัญชิสามองคนรักที่หน้าแดงก่ำสีหน้าและแววตาเหมือนคนกำลังทรมานกับอะไรสักอย่าง“กิ๊กก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ถ้ายังไงก็คุยกันเองแล้วกันนะคะ” พูดจบหญิงสาวก็เดินออกไปจากห้องทันทีผมขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ เอกอาทิตย์รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่ต้องทำยังไงถึงจะหายแต่เขาไม่อยากเอาอารมณ์นั้นมาลงกับอัญชิสา เขาอยากระบายความอัดอั้นออกมาก่อนเพราะกลัวว่าคนรักจะรับไม่ไหวถ้าเขาจะนอนกับเธอตอนนี้อัญชิสามองตามหลังอย่างไม่เข้าใจหญิงสาวไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรแต่ดูแล้วเหมือนจะอาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วเธอก็ได้ยินเสียงของเขาดังมาจากห้องน้ำ หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปตามเสียงด้วยความเป็นห่วง เธอรู้สึกกว่าคนรักแปลกไปมากเพราะเสื้อผ้าของเขาถอดแล้วทิ้งลงบนพื้นซึ่งไม่ใช่นิสัยของเอกอาทิตย์ยามปกติเลยเธอเปิดประตูเข้าไปในห้องน
งานเลี้ยงจัดขึ้นที่ห้องอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งย่านชานเมือง ในวันนี้มีหมอที่จบจากมหาวิทยาลัยเดียวกันมาร่วมงานค่อยข้างมาก มีทั้งรุ่นพี่ที่จบมานานและตอนนี้ลาออกมาพักผ่อนอยู่กับบ้านแล้วกับรุ่นน้องที่เพิ่งเรียนจบกลับมา เสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่ไปทั่วห้องของโรงแรมเอกอาทิตย์นั่งคุยกับเพื่อนสนิทสามคนซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคนที่ภรรยาเปิดร้านรับจัดงานแต่งงาน“ฉันนึกว่าวันนี้นายจะพาว่าที่ภรรยามาเปิดตัวเสียอีกนะซัน”“ตอนแรกก็คิดจะพามาด้วย แต่กลัวอัญจะอึดอัดน่ะ”“ฉันว่าดีแล้วที่นายไม่พาเธอมาด้วย เมียฉันเคยบอกว่าเธอรู้สึกอึดอัดมาก เวลาที่พวกเรารวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่แบบนี้แต่ถ้าไปกันเฉพาะเพื่อนกลุ่มของพวกเราเหมือนตอนไปเจอกันที่ภูเก็ตแบบนั้นเธอจะรู้สึกสนุกและสบายใจมากกว่า” เพื่อนสนิทคนหนึ่งพูดขึ้นเอกอาทิตย์นั่งคุยกับเพื่อนจนกระทั่งงานเลี่ยงเลิกพวกเขาสี่คนก็พากันไปนั่งดื่มที่ผับชั้นใต้ดินของโรงแรมและบังเอิญมากที่โสรยากับเพื่อนอีกสองคนก็มาที่นั่นด้วยพวกเธอมากันแค่สามคนเมื่อเห็นหมอรุ่นพี่นั่งอยู่ก่อนแล้วโสรยาและเพื่อนจึงเข้ามาขอนั่งด้วย หญิงสาวพยายามชวนเอกอาทิตย์ให้ดื่มมากกว่าทุกคนจนชายหนุ่มรู้สึกถึงความผิด
เช้านี้โสรยาตื่นนอนเร็วกว่าปกติเพราะจะออกมาทำอาหารเช้าให้กับหมอเอกอาทิตย์ พอออกมาจากห้องนอนก็ส่งยิ้มทักทายเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก“พี่ซันตื่นเช้าจังนะคะ”“กิ๊กก็ตื่นเช้าเหมือนกันนะครับ”“ก็กิ๊กจะรับมาทำอาหารเช้าให้พี่ซันนี่คะ กิ๊กจำได้ว่าแต่ก่อนพี่ชอบกินขนมปังปิ้งกับไข่ดาวแบบไม่สุก เดี๋ยวกิ๊กจะทำให้นะคะ”“ขอบคุณนะครับที่จำได้ว่าพี่ชอบกินอะไร แต่กิ๊กไม่ต้องทำเผื่อพี่หรอกนะ”“ทำไมล่ะคะ”“พี่ว่าจะไปหาข้าวกินที่โรงพยาบาลน่ะ”“จะไปโรงพยาบาลตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอคะ เช้าไปหรือเปล่า”“ไม่หรอกครับวันนี้พี่ต้องราวน์คนไข้หลายคนน่ะ ขอตัวก่อนนะอัญลงมาพอดีเลย” เขายิ้มให้กับคนรักที่เดินลงมาจากชั้นสองพอดี“รออัญนานไหมคะ”“ไม่นานครับ ไปกันเลยนะ”“ได้ค่ะ”“พี่ซันคะ พี่ไปก่อนแบบนี้กิ๊กจะไปทำงานยังไงคะกิ๊กไม่มีรถนะคะ” โสรยาคิดว่าถ้าเธอไม่มีรถใช้แล้วในทุกวันจะได้ไปทำงานและกลับบ้านพร้อมกับเอกอาทิตย์เธอจึงบอกเขาว่ารถมีปัญหาทั้งที่จริงแล้วเธอให้เพื่อนมาเอารถของตนเองไปใช้“พี่คิดว่าคนเก่งอย่างกิ๊กก็น่าจะหาทางไปทำงานได้นะ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็บอกผักบุ้งเรียกรถให้ก็ได้ พี่ขอตัวไปก่อนนะ” เขาพอจะเดาออกว่า
“อัญเป็นยังไงบ้าง” อังคณารีบเข้ามาทักทายเพื่อนรักเพราะไม่ได้เจอกันมาหลายวัน“อัญสบายดี อุ๋มล่ะหยุดตั้งหลายวันไปเที่ยวไหนมาล่ะ”“กลับบ้านมาจ้ะ”“บ้านที่อุทัยเหรอ”“อือ มีขนมมาฝากด้วยนะ อยู่ในตู้เย็นอุ๋มเขียนชื่อไว้ให้แล้วว่ามีของใครบ้าง”“ขอบใจจ้ะ”“อุ๋มได้ยินมาว่าหมอกิ๊กจากแผนกเด็กขอไปอยู่ที่บ้านหมอซันเหรอ”“รู้ได้ยังไง”“เมื่อกี้อุ๋มไปเอาแฟ้มที่แผนกเด็กมาน่ะ แล้วได้ยินหมอคุยโทรศัพท์กับเพื่อน”“ได้ยินหรือแอบฟังล่ะ” อัญชิสาถามเพื่อนอย่างรู้ทัน“ตอนแรกก็แค่ได้ยินแต่ พอได้ยินชื่อหมอซันก็เลยแอบฟัง”“หมอกิ๊กเธอว่ายังไงบ้าง”“ได้ยินเธอบอกเพื่อนว่าเหลืออีกสี่วันที่จะอยู่บ้านหมอซัน เธอต้องรีบทำให้สำเร็จ แต่อุ๋มไม่เข้าใจความหมายเลย หมอกิ๊กเธอคิดจะทำอะไรกันแน่นะ”แล้วอัญชิสาก็เล่าเรื่องที่หมอโสรยาเคยชอบหมอเอกอาทิตย์มาก่อนให้กับอังคณาฟัง“นั่นไงอุ๋มว่าแล้ว คนเราจะไปขออยู่บ้านคนอื่นได้ยังไงถ้าไม่มีอะไรแอบแฝง พยาบาลที่แผนกเด็กบอกว่าหมอกิ๊กนะชอบหมอซัน มากที่เธอย้ายมาทำงานที่นี่ก็เพราะอยากจะใกล้ชิดกับหมอซันอีกครั้ง อัญต้องระวังดีๆ นะอย่าให้หมอซันกับหมอกิ๊กอยู่ตามลำพังสองคนเด็ดขาด”“เรามองหมอกิ๊กในแง