Share

บทที่ 14

Author: Karawek House
last update Huling Na-update: 2025-08-23 21:36:25

“ไซรัส...!

ท่านหญิงพริสซิลล่ารีบปิดปากแอนนาเบลก่อนที่น้องสาวจะโวยวายอะไรออกมามากกว่านี้

ถึงจะยืนอยู่ห่างกันพอสมควร แต่ตอนนั้น อัยน์นาก็พออ่านปากออก ว่าแอนนาเบลโดนพี่สาวสั่งให้ หุบปาก

...ดูท่าชายคนนี้จะไม่ใช่คนที่พริสซิลล่าคาดหวังให้อยู่กับน้องสาวต่างมารดาอย่างเธอ...

“เกิดอะไรขึ้นคะ” ทายาทแกรนเทรนท์คนโตรีบจูงมือน้องสาวตรงมาหาเธอกับไซรัส

ไม่ทันที่อัยน์นาจะได้อ้าปากตอบอะไร ไซรัสก็เป็นฝ่ายชิงตอบให้เสียก่อน

“เธอหมดสติแล้วพลัดตกน้ำครับ ผมผ่านมาเห็นเข้า ก็เลยรีบช่วยเธอขึ้นจากสระ”

“แต่เสื้อผ้า...” แอนนาเบลโดนพริสซิลล่าถลึงตาใส่เพราะประโยคนั้น

“เสื้อผ้าคงโดนอะไรสักอย่างเกี่ยวตอนฉุกละหุกใช่ไหมคะ” พริสซิลล่าหันมาฉีกยิ้มให้เธอ “ดีจังเลยนะจ๊ะ อัยน์นา ที่มีคนมาช่วยไว้ทัน”

“ค่ะ” อัยน์นาสะกดกลั้นความไม่พอใจที่โดนวางยาเอาไว้ พยายามจะไม่พูดอะไร เพราะกลัวว่าอาการปวดหนึบผสมมึนงงที่หัวจะทำให้เผลอพูดอะไรที่ย้อนกลับมาแก้ไขไม่ได้ออกมา

“รีบแต่งเนื้อแต่งตัวเถอะค่ะ” พริสซิลล่ารีบบอกไซรัส “คุณพ่อทราบแล้วว่าอัยน์นาหายตัวไป ตอนนี้ใครหลายคนกำลังตามหาตัวเธอให้วุ่น ขืนใครมาเห็นสภาพนี้เข้าคงเอาไปติฉินนินทา”

อัยน์นาเหลียวมองไซรัสเล็กน้อยเพราะอยากรู้ว่าเขาจะทำตัวอย่างไร แต่ไม่ทันที่พ่อค้าจากต่างแดนคนนี้จะได้พูดอะไร พริสซิลล่าก็ดันตัวเธอออกไปแล้วปราดเข้าจัดแต่งเสื้อผ้าให้ชายร่างสูงด้วยท่าทีร้อนรน

คงเพราะฤทธิ์ยาตกค้าง เพียงโดนผลักเท่านั้น คนที่เพิ่งได้สติ แถมยังกล้ามเนื้ออ่อนแรงเพราะโดนจับแช่น้ำเย็นจัดเป็นเวลานานจึงทรุดลงไปนั่งกองที่ขอบสระหนากว้างได้ง่ายๆ

“เกิดอะไรขึ้น! เสียงดุเข้มแสนคุ้นหูดึงความสนใจจากทุกคนได้ในวินาทีนั้น

ไม่ทันที่ใครจะได้ขยับตัว ท่านเจ้ากรมการเมืองกับทหารในจวนเจ้าบ้านจำนวนหนึ่ง ก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างน่าตกใจ

ขุนนางสูงวัยรีบปราดเข้าถอดเสื้อคลุมกำมะหยี่คลุมร่างลูกสาวนอกสมรส แล้วประคองร่างเธอให้ลุกขึ้นยืน

“อัยน์นาตกน้ำค่ะ” พริสซิลล่าโพล่งออกมาเสียงดังลั่น “เธอตกน้ำ ลูกกับแอนนาเบลตามมาเจอพอดี ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไง บังเอิญไซรัสผ่านมาเจอ เขาเลยช่วยเธอขึ้นจากสระ”

ท่านเจ้ากรมการเมืองมองสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงและรอยฝ่ามือแดงเถือกบนใบหน้าธิดานอกสมรส แล้วเหลียวมองเนื้อตัวไซรัส

เคราะห์ดีที่พริสซิลล่าฉลาดพอจะดึงเสื้อคลุมปิดแผงอกไว้ แล้วใช้เส้นผมที่เปียกปอนปกปิดลำคอให้เขา ไม่อย่างนั้น วันนี้คงเป็นวันออกงานสังคมวันแรกที่น่าอับอายที่สุดในชีวิต ‘สุภาพสตรี’

หลังสำรวจสภาพการณ์ ท่านเจ้ากรมการเมืองก็หันกลับมามองหน้าพริสซิลล่าอีกครั้ง แล้วถามคาดคั้น

“แน่รึ?”

เพราะท่านหญิงพริสซิลล่าไม่กล้าตอบ อัยน์นาจึงเป็นฝ่ายพูดเสียเอง

“ค่ะ” เธอบอกเสียงสั่น ดูเหมือนพอสติกลับคืนมา ความหนาวเย็นจากการลงไปแช่น้ำในยามดึกก็เริ่มเล่นงานเธอจนเนื้อตัวแข็งเกร็งไปหมด

“แล้วทำไมต้องรอคนอื่น ทำไมพวกลูกไม่ช่วยน้อง แค่เรียกคนมาช่วยก็ยังดี” คำถามจากขุนนางสูงวัยไม่เพียงทำให้พริสซิลล่ากับแอนนาเบลหน้าซีดเท่านั้น มันยังส่งผลให้พลทหารที่ตามมามองสองศรีพี่น้องด้วยแววตาแบบเดียวกัน

แววตาของความข้องใจ...

“พ่อถามพวกลูกอยู่ ตัวเย็บเฉียบขนาดนี้ ไม่ใช่เพิ่งตกลงไปแน่ๆ” ท่านเจ้ากรมการเมืองเนื้อตัวสั่นเมื่อเอ่ยประโยคเหล่านั้น

แม้จะไม่แน่ใจว่าชายสูงวัยขุ่นเคืองเรื่องใด แต่อัยน์นาก็แน่ใจว่าท่านเจ้ากรมการเมืองกำลังโกรธมากจริงๆ

“เอ่อ...” พริสซิลล่าทำท่าอึกอัก แอนนาเบลจึงเป็นฝ่ายตอบให้อย่างไร้สติที่สุด

“เพราะอากาศมันหนาวน่ะค่ะ! เราแพ้ความเย็น คุณพ่อก็รู้! ” ว่าจบ แอนนาเบลก็หันไปพยักพเยิดให้พริสซิลล่าเหมือนต้องการเสียงสนับสนุน แต่ท่านหญิงคนพี่กลับเบือนหน้าหนี ท่าทีขุ่นเคือง

“คุณท่านคะ” อัยน์นาขยับริมฝีปากพูดออกมาเป็นคนแรกหลังจากที่ทุกคนนิ่งไปครู่ใหญ่ “ถ้าไม่ว่าอะไร ดิฉันขอไปรอที่รถม้าได้ไหมคะ” เธอถามริมฝีปากสั่น ดูน่าสงสารจับใจ

“เข้าข้างในไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าบ้านกันก่อนเถอะ คืนนี้อากาศเย็น กว่าจะกลับถึงคฤหาสน์แกรนเทรนท์เธอคงจับไข้เสียก่อน”

“ไม่ค่ะ” อัยน์นาปฏิเสธทันควัน “ผู้คนจะเอาไปเล่าลือ เสี่ยมเสียเปล่าๆ”

ท่านเจ้ากรมการเมืองนิ่งคิด สีหน้าหนักใจ

“ไม่...ความจริงก็คือความจริง” คนเป็นพ่อตอบอย่างเสียมิได้ “ตอนนี้สุขภาพลูกสำคัญที่สุด”

อัยน์นาถึงกับน้ำตาไหลเพราะคำว่าลูกที่ได้ยิน

“คุณก็ด้วย” ท่านเจ้ากรมการเมืองหันไปบอกไซรัส “เปียกปอนถึงเพียงนั้น มาด้วยกันเถอะ”

“ไม่ดีกว่าครับ” เขาปฏิเสธด้วยท่าทีสุภาพ “ถ้าคนเห็นเราเปียกปอนทั้งคู่จะพานเข้าใจผิดแล้วเอาไปเล่าลือจนคุณหนูเสียหาย งานเลี้ยงใกล้เลิกแล้ว ที่พักผมเองก็อยู่ไม่ไกล แยกตัวกลับออกไปเงียบๆ ทั้งอย่างนี้เลย คงเหมาะกว่า”

“เอาอย่างนั้นรึ?”

“ครับ ฝากขอโทษท่านเจ้ากรมการคลังด้วย บอกท่านว่าผมเสียใจอย่างสุดซึ้ง ที่เกิดติดธุระด่วน ไม่อาจไปลาท่านด้วยตัวเอง” ชายหนุ่มทำความเคารพขุนนางสูงวัยก่อนแยกจากไปทั้งอย่างนั้น ทิ้งให้พริสซิลล่ามองตามอย่างอาลัยอาวรณ์

ท่านเจ้ากรมการเมืองไม่ยอมให้เสียเวลา ชายสูงวัยรีบบอกทหารด้วยน้ำเสียงที่แม้จะฟังดูขึงขังอย่างขุนนาง แต่ก็แฝงไว้ด้วยความมีมิตรจิตมิตรใจ “ไปแจ้งท่านเจ้ากรมการคลัง ว่าครอบครัวแกรนเทรนท์ต้องการความช่วยเหลือเป็นการส่วนตัว”

ขุนนางชราเหลียวมองบุตรสาวคนโตกับคนรองเป็นเชิงสั่งให้เดินตาม จากนั้นก็ประคองร่างบุตรสาวคนสุดท้องเดินตามพวกทหารไปด้วยแววตาเศร้าสลดระคนเจ็บปวด

“ไม่เป็นไรแล้ว...ไม่เป็นไร” ชายสูงวัยตบแขนเธอเบาๆ พลางเอ่ยคล้ายต้องการปลอบใจ

ความอ่อนโยนใส่ใจเกินคาดหมายที่ได้รับจากบิดาหลังผ่านเรื่องเลวร้าย ทำให้อัยน์นาถึงกับทนกลั้นน้ำตาไม่ไหว ต้องยกมือขึ้นปาดน้ำตาป้อยๆ เป็นระยะ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 15

    แม้ชื่อเสียงอัยน์นาจะได้รับการปกป้อง แต่ดูเหมือนชื่อเสียงของท่านหญิงพริสซิลล่ากับท่านหญิงแอนนาเบลจะยิ่งตกต่ำอย่างเห็นได้ชัด เพราะถึงแม้คืนนั้นจะไม่มีใครรู้เห็นเรื่องนี้เพิ่มเติมนอกจากเจ้าบ้านอย่างเจ้ากรมการคลังกับสาวใช้อีกสองราย แต่หลังจากตอนนั้น ดูเหมือนพวกทหารในเหตุการณ์และคนรับใช้ที่เจ้ากรมการคลังส่งมาช่วยอำนวยความสะดวกให้ท่านเจ้ากรมการเมือง จะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปเล่าต่อให้ครอบครัวกับคนใกล้ชิดฟัง แล้วคนเหล่านั้นก็เอาไปเล่าลือต่อพลางใส่สีตีไข่จนเกิดเนื้อเรื่องบทใหม่แทรกเสริมในนิทานเพลงเรื่องเก่า บทเดียวกับที่เหล่าผู้สืบเชื้อสายแกรนเทรนท์โดนเจ้าบ้านคนปัจจุบันเรียกตัวมานั่งฟังอยู่ในขณะนี้หนนี้อัยน์นาไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดในเรื่องเล่าเท่าไหร่นัก เพราะมีเรื่องอื่นรบกวนจิตใจ ทั้งยังเคยได้ยินหญิงรับใช้ในคฤหาสน์ซุบซิบนินทากันมามากแล้วรายละเอียดเรื่องราวก็เหมือนเคย คือเรื่องที่กวีเปรียบเปรยเธอกับสิ่งบริสุทธิ์สวยงามทั้งหมดทั้งมวลในโลกนี้ ในขณะที่ยกบทบาทร้ายกาจน่ารังเกียจให้ ท่านผู้หญิงเธลม่า แกรนเทรนท์ และพี่สาวต่างมารดาทั้งสอง จะพิเศษอยู่หน่อยก็ตรงที่หนนี

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 14

    “ไซรัส...!” ท่านหญิงพริสซิลล่ารีบปิดปากแอนนาเบลก่อนที่น้องสาวจะโวยวายอะไรออกมามากกว่านี้ถึงจะยืนอยู่ห่างกันพอสมควร แต่ตอนนั้น อัยน์นาก็พออ่านปากออก ว่าแอนนาเบลโดนพี่สาวสั่งให้ ‘หุบปาก’...ดูท่าชายคนนี้จะไม่ใช่คนที่พริสซิลล่าคาดหวังให้อยู่กับน้องสาวต่างมารดาอย่างเธอ...“เกิดอะไรขึ้นคะ” ทายาทแกรนเทรนท์คนโตรีบจูงมือน้องสาวตรงมาหาเธอกับไซรัสไม่ทันที่อัยน์นาจะได้อ้าปากตอบอะไร ไซรัสก็เป็นฝ่ายชิงตอบให้เสียก่อน“เธอหมดสติแล้วพลัดตกน้ำครับ ผมผ่านมาเห็นเข้า ก็เลยรีบช่วยเธอขึ้นจากสระ”“แต่เสื้อผ้า...” แอนนาเบลโดนพริสซิลล่าถลึงตาใส่เพราะประโยคนั้น“เสื้อผ้าคงโดนอะไรสักอย่างเกี่ยวตอนฉุกละหุกใช่ไหมคะ” พริสซิลล่าหันมาฉีกยิ้มให้เธอ “ดีจังเลยนะจ๊ะ อัยน์นา ที่มีคนมาช่วยไว้ทัน”“ค่ะ” อัยน์นาสะกดกลั้นความไม่พอใจที่โดนวางยาเอาไว้ พยายามจะไม่พูด

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 13

    อัยน์นาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน รู้เพียงตอนนี้ร่างกายเธอร้อนวูบไปทั่วจนครั่นเนื้อครั่นตัว แถมยังรู้สึกอึดอัดปนวาบหวามจนแทบทนไม่ไหวตอนนี้นัยน์ตาเธอพร่ามัว ร่างกายไม่ถึงกับไร้เรี่ยวแรง แต่ดูคล้ายมันจะตอบสนองต่อกล้ามเนื้อแข็งแกร่งกับกลิ่นอายราตรีดิบเถื่อนและโซ่ตรวนแสนอันตรายจากร่างกายคนตรงหน้าจนไม่อาจควบคุม ทั้งๆ ที่ที่ผ่านมา เรื่องการควบคุมตัวเอง เป็นเรื่องที่เธอแน่ใจว่าทำได้ดีที่สุดเธอไม่โทษยานั่น ความจริงเธอเกือบจะลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ สิ่งที่เธอขัดใจคือแรงดึงดูดจากชายตรงหน้า ขัดใจจนอยากจิกเล็บให้เขาเจ็บกว่านี้ แต่ตอนนี้ ส่วนลึกในใจเธอกลับอยากหยุดคิดทุกเรื่อง แล้วสูดซับกลิ่นอายแปลกประหลาดชวนหลงใหลให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้“คุณหนู” เจ้าของกลิ่นอายแสนยวนเย้าเรียกด้วยน้ำเสียงดุเข้มอัยน์นารำคาญเสียงห้ามปรามนั้นนัก จึงเลื่อนส่วนเดียวที่ว่างอยู่ขึ้นปิดริมฝีปากหยักสวยทรงเสน่ห์นั่น แล้วทำตามเสียงสั่งลึกลับที่คอยกระซิบกระซาบอยู่ในใจเธอได้ยินเขาสบถบ่นไม่เป็นภาษาด้วยสำนวนสำเนียงคล้ายชนชั้นล่าง นั่นทำให้ภาพชายท่าทีสุขุมในชุดเร

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 12

    ไซรัสอุ้มร่างอ้อนแอ้นเดินลงสระน้ำด้วยความร้อนใจ ภายในหัวไม่เหลือความคิดอื่นใด นอกจากการช่วยให้คนในอ้อมแขนพ้นจากความทรมาน“ร้อน...” เธอบ่นร้อน ทั้งๆ ที่น้ำในสระเย็นจัดจนขึ้นไอ สองมือเกาะเกี่ยวเขาไว้แน่น “...ช่วยที...” เธอพึมพำ น้ำเสียงเว้าวอนเขาไม่รู้ว่าเจ้าของใบหน้าอ่อนเยาว์นางนี้จะรู้ความหมายของสิ่งที่พูดออกมาหรือเปล่า รู้เพียงแต่ต้องพยายามประคองให้เธออยู่นิ่งๆแต่ดูเหมือนเจ้าของผิวนวลนิ่มจะไม่ให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่...พ่อค้าอัญมณีจึงต้องพาร่างในอ้อมแขนลงนั่ง แล้วกอดรั้งร่างเธอไว้ เพื่อไม่ให้ร่างที่ดูอ่อนยวบไปหมดร่างนี้พลาดจมน้ำซึ่งลึกเพียงระดับต้นขา หรือพลาดเดินไปหาใจกลางสระที่น่าจะลึกกว่าบริเวณนี้ไซรัสได้ยินเธอพึมพำอะไรหลายอย่าง แต่ถ้อยคำเหล่านั้นกลับฟังไม่ได้ศัพท์ จับใจความไม่ได้ บอกให้รู้ว่าเจ้าของดวงตาสีนิลกำลังไร้สติเพราะยาเห็นแบบนี้แล้ว พ่อค้านักแสวงโชคก็อดคิดไม่ได้ ว่าถ้าคนที่เธอเดินมาเจอไม่ใช่เขาแต่เป็นทหารยาม หรือผู้ชายเลวๆ สักคน มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงที่เขากำลังคิดอะไรๆ อยู่นั้น นิ้วมือร้อนๆ ก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อเขาแล้วลูบไล้ไปทั่ว จุดไฟปรารถนาแปลกประหลาด เผาผลา

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 11

    หลังหว่านเมล็ดพันธุ์เส้นสายไปทั่วงานเลี้ยง ไซรัสก็ปลีกตัวออกมาหลบมุมสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ระเบียงเล็กๆ ข้างประตูทางออกฝั่งสวนหย่อมรกครึ้มทีแรก เขาไม่เข้าใจนัก ว่าทำไมก่อนหน้านี้ลูคัสที่ดูจะคุ้นชินเรื่องวิถีชนชั้นสูงที่สุดในกลุ่มพี่ๆ น้องๆ ต่างสายเลือด ถึงได้พยายามเคี่ยวเข็ญให้เขาเต้นรำอย่างถูกวิธีทั้งๆ ที่เขาก็ยืนยันว่าไม่ต้องการเต้นรำกับใคร แต่หลังจากโดนเจ้ากรมการคลังหิ้วไปนั่นมานี่ จนโดนขุนนางและพ่อค้าใหญ่หลายรายยัดเยียดลูกหรือหลานสาวให้เขาเชิญไปเต้นรำ ผู้มั่งคั่งหน้าใหม่ของอาณาจักรก็เข้าใจทันทีน่ารำคาญนัก ไซรัสเอนหลังพิงผนัง แหงนหน้ามองพระจันทร์ อดคิดไม่ได้ว่าต้องใช้เวลาอยู่ในอาจักรนี้อีกนานแค่ไหน ภารกิจแสนสำคัญจึงจะลุล่วงเสียทีท่ามกลางความเงียบงัน สตรีชุดขาวผ่องเดินผ่านประตูระเบียงออกมาอย่างเชื่องช้า คล้ายพยายามกลั้นความเจ็บปวดบางอย่างทันทีที่ก้าวขาพ้นกรอบประตู หญิงสาวอ่อนเยาว์รายนั้นก็รีบประคองร่างเข้าหาสวนกว้าง ดูราวกับสัตว์ป่าหาที่หลบภัยยามเจ็บไข้ลูกสาวนอกสมรสเจ้ากรมการเมือง...อัยน์นา...?เขาบอกตัวเองว่าไม่ควรใส่ใจ แต่ท่าทีซวนเซ และเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายบนใบหน้าขาวนวล กลับทำให

  • เล่ห์รักเจ้าชายอสูร   บทที่ 10

    “ที่คุณพูดมาไม่ผิดเลย ” ไซรัสคลี่ยิ้มกว้างขึ้น เขาแสร้งกวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนเอ่ย “ว่าแต่คุณเถอะ ดูเหมือนท่านหญิงหลายคนจะอยากให้คุณชวนเต้นรำ”“ผมเห็นพวกเธอบางคนเหลียวมองคุณกับญาติผู้พี่ของผมด้วยเหมือนกัน” คาร์ลหยิบเครื่องดื่มจากถาดที่คนรับใช้ชายถือผ่านมาให้ท่านเจ้ากรมการคลัง ไซรัส และตนเอง “งานสังคมก็เป็นเช่นนี้ล่ะ มันเป็นสถานทีที่สตรีชั้นสูงจะได้ออกมาอวดโฉมเพื่อหว่านเสน่ห์ให้ผู้คนหลงใหล ถัดจากงานนี้ก็คงมีคุณหนูกับคุณชายจากตระกูลไหนสักตระกูลประกาศการหมั้นหมาย”“แต่เห็นจะไม่ใช่ตระกูลแกรนเทรนท์” จู่ๆ ภรรยาเจ้ากรมการคลัง ก็ก้าวเข้ามาร่วมวงสนทนา ตอนนี้ร่างกายเธอกรุ่นกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ บอกให้รู้ได้โดยไม่ต้องเดา ว่าแก้วเหล้าหมักผลไม้ในมือเธอ คงไม่ใช่เหล้าแก้วแรกที่ดื่มกินยังดีที่เจ้าหล่อนมีสติพอจะยกพัดป้องปาก ก่อนออกความเห็นต่อไป“ฉันเห็นคุณหนูแกรนเทรนท์คนโตกับคนรองมองมาทางพวกคุณบ่อยๆ พวกคุณเพิ่งมาจากต่างถิ่น อย่าหลงกลเชียวนะคะ เห็นงามๆ อย่างนั้นน่ะ ไม่มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่คนไหนในอาณาจักรนี้อยากเฉียดใกล้หรอกค่ะ” นางบอกคาร์ลและไซรัสอย่างไม่สงวนถ้อยคำ ไม่สนใจสายตาห้ามปรามจากสามีแม้แต่น้อยแล้วค

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status