Share

EP.3

Author: DharDhara
last update Last Updated: 2025-11-01 22:13:25

เช้าวันใหม่

“ลีอา! ตื่นได้แล้วลูก เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ”

เสียงเรียกของแม่ที่ดังขึ้นและมือที่เขย่าไหล่เล็กเบาๆ ปลุกให้เด็กสาวขยับตัวตื่นพร้อมกับปรือตาขึ้นมามอง ดวงตากลมโตมองจ้องใบหน้าของแม่อยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับหาวหวอดๆ ออกมาด้วยอาการงัวเงีย เธอหันไปมองนอกหน้าต่างที่ตอนนี้ยังมืดสลัวๆ อยู่ ก่อนจะพยายามหยัดตัวลุกขึ้นนั่งด่วยอาการเพลียๆ เมื่อคืนเธอแทบไม่ได้นอนเลยเพราะปวดแผลที่เท้า แต่ยิ่งกว่านั้นก็เป็นเพราะผู้ชายหยาบคายที่ลวนลามเธอเมื่อคืน สมองคิดทบทวนไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หัวใจดวงน้อยก็กระตุกสั่นไหวขึ้นมาทันที

“อืออ.. กี่โมงแล้วคะ”

“6 โมงแล้ว”

“หนูอยากย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่เร็วๆ จัง เอ่อ..วันนี้ให้หนูหยุดเรียนสักวันก็ได้นะ จะได้ช่วยแม่ขนของด้วยไงคะ”

“ใจร้อนจริง ไปเรียนเถอะลูก ตอนนี้หนูใกล้สอบแล้วด้วย แล้วแม่ก็จ้างคนมาช่วยขนของแล้ว เลิกเรียนหนูรอแม่ที่โรงเรียนนะเดี๋ยวแม่จะไปรับ”

“ก็ได้ค่ะ”

“เท้าลูกไปโดนอะไรมา” พิมพ์มาดามองดูแผลที่เท้า

“เมื่อคืนหนูลงไปที่ห้องครัวแล้วทำจานตกแตก มันเลยกระเด็นมาโดนค่ะ เอ่อ..แผลเล็กๆ เอง หนูไปอาบน้ำก่อนนะ” ลีอาหลบสายตาแม่ที่มองมาและรีบลุกขึ้นก่อนจะเดินตัวปลิวเข้าห้องน้ำไป

เด็กสาวรีบเดินลงมาข้างล่าง เธอชะลอฝีเท้าลงและหยุดชะงักไปแทบทันทีที่เห็นหน้าชายหนุ่มและหญิงสาวในชุดนักศึกษามหาลัยชื่อดังที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก

“จะไปโรงเรียนใช่ไหม ไปด้วยกันสิ”

“มะไม่ เอ่อ..หนูไปเองได้ค่ะ พี่ชินไม่ต้องไปส่งหรอก”

“เท้าเป็นแผลอยู่ไม่ใช่เหรอไง” เขาก้มลงมองเท้าของเธอที่ตอนนี้ถุงเท้านักเรียนปิดทับอยู่

“ไปด้วยกันเถอะจ้ะ โรงเรียนลีอาก็เป็นทางผ่านไปมหาลัยของพี่อยู่แล้ว ไม่ต้องเกรงใจหรอก” มิล่ายิ้มส่งให้เธอ และรีบเดินมาจับแขนของลีอาไว้ก่อนจะดึงร่างบางให้เดินตามเธอออกไป

“เอ่อ..หนู”

“ไปเถอะจ้ะ ออกจากบ้านช้าเดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายกันพอดี”

“…”

ลีอาจำใจเดินตามหญิงสาวไปเพราะไม่รู้จะหาทางปฏิเสธเธอยังไงดี โดยที่มีชายหนุ่มเดินตามหลังออกไป ตลอดทางเด็กสาวได้แต่นั่งเงียบๆ ฟังมิล่าที่พูดคุยกับเตชินท์ด้วยเรื่องสัพเพเหระเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งรถยนต์ขับมาจนถึงหน้าโรงเรียนของเธอ เด็กสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“จริงสิ น้องลีอาก็ใกล้เรียนจบม.6แล้วนี่ คิดไว้หรือยังว่าจะเรียนต่อที่ไหน” มิล่าชวนเธอคุย เมื่อเห็นลีอานั่งนิ่งเงียบมาตลอดทางตั้งแต่ออกมาจากบ้าน

“คิดไว้แล้วค่ะ ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” เธอพูดตอบมิล่าด้วยรอยยิ้ม

“ไม่เป็นไรจ้ะ แล้วตอนเย็นเรากลับยังไง”

“แม่มารับค่ะ หนูไปก่อนนะคะ”

“จ้ะ”

เด็กสาวอดไม่ได้ที่จะชำเลืองสายตามองดูชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับ เขาไม่ได้หันมามองหน้าเธอด้วยซ้ำ ท่าทางแบบนั้นของเขาทำให้เธอรู้สึกยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเดิม เขาช่างดูไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรกับสิ่งที่ทำไว้กับเธอและทำยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ พวกเขาสองคนอาจจะคบกันอยู่ ไม่งั้นคงไม่ทำเรื่องแบบนั้นกันหรอก แต่..มาคิดๆ ดู ถ้าเขาสองคนเป็นแฟนกันจริงๆ พี่มิล่าก็คงเป็นผู้หญิงที่โชคร้ายมากที่มาคบกับผู้ชายเฮงซวยแบบเขา ขนาดคนที่ไม่รู้จักแบบเธอเขาก็ยังกล้าทำแบบนั้นได้หน้าตาเฉย ชาตินี้ขออย่าให้เธอเจอะเจอกับผู้ชายแย่ๆ แบบนี้เลย

ส่วนเรื่องเมื่อคืนถือซะว่าทำทานแล้วกัน พ้นวันนี้ไปฉันก็คงไม่เจอผู้ชายเลวร้ายแบบเขาอีก พอคิดได้แบบนั้นฉันก็รู้โล่งใจขึ้นมาทันที

เด็กสาวเปิดประตูรถและรีบเดินเข้าไปในโรงเรียนทันทีโดยที่ไม่ได้หันมากลับมามองรถยนต์ที่กำลังเคลื่อนตัวออกไป

ฉันก็ใกล้จะเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่6 แล้ว และตอนนี้เป้าหมายใหญ่ก็คือเรียนต่อในระดับมหาลัย ช่วงนี้เลยต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบ พอคิดถึงเรื่องเรียนฉันก็เลิกสนใจเรื่องอื่นก่อนหน้านี้ไปแทบจะทันที ในหัวสมองทั้งเครียดและพะวงเรื่องการสอบมากกว่า เรื่องมหาลัยฉันก็มองๆ มหาลัยของรัฐบาลไว้สองสามที่และคงเลือกสอบเข้าคณะที่อยากเรียนแต่ก็ยังชั่งใจว่าจะเลือกคณะที่หางานง่ายๆ หรือคณะที่ตัวเองชอบดี

วันนี้ชีวิตในรั้วโรงเรียนก็จบไปอีกวันและหลังเลิกเรียนแม่ก็มารับฉันตามที่นัดไว้ ตลอดทางที่นั่งบนรถแม่ก็ชวนคุยเรื่องบ้านใหม่ ที่ทำงานใหม่และเรื่องเสอบเข้ามหาลัยของฉัน ดูแม่จะตื่นเต้นดีใจไม่น้อยกับความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ กับสถานที่ใหม่ๆ สายตาฉันมองไปรอบๆ ถนนหนทางที่ไม่คุ้นสายตา สักพักรถยนต์ก้ขับเข้ามาจอดตรงบ้านสีขาวสองชั้นหลังหนึ่ง มีสวนเล็กๆ ในบ้านบ้านและพื้นที่รอบๆ บริเวณบ้านที่ไม่กว้างเท่าไหร่แต่ก็ดูน่าอยู่มากสำหรับสายตาฉัน

“ถึงแล้วจ้ะ แม่ให้คนขนของของลูกขึ้นไปไว้บนห้องแล้วนะ” พิมพ์มาดาพูดบอกลูกสาวที่กำลังเปิดประตูรถตามเธอออกมา

“ว้าว บ้านน่ารักจังค่ะแม่” ลีอายิ้มกว้างออกมาขณะที่เดินตามพิมพ์มาดาเข้าไปในบ้าน สายตาเป็นประกายวิบวับราวกับเด็กน้อยที่เห็นของเล่นถูกใจ ดวงตากลมโตมองสำรวจในบ้านเกือบทุซอกทุกมุมอย่างพอใจ

“หนูขึ้นไปดูห้องนอนนะ”

เด็กสาวมองใบหน้ายิ้มของมารดาก่อนจะรีบเดินขึ้นไปดูห้องนอนของตัวเอง สายตากวาดมองดูห้องสีขาวขนาด3x4เมตรที่มีห้องน้ำในตัวอยู่ครู่หนึ่งและรีบเก็บข้าวของของตัวเองให้เข้าที่จนเรียบร้อยก่อนจะเดินลงไปทานข้าวเย็นกับแม่

ระหว่างที่ทานข้าวจู่ๆ แม่ก็เอ่ยถึงเรื่องเรียนขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้สิ่งที่แม่พูดออกมาทำให้ฉันมั้งรู้สึกแปลกใจและรู้สึกกระอักกระอ่วนเพราะชื่อของใครบ้างคนที่ฉันไม่อยากนึกถึง

“เรื่องเรียนมหาลัย.. เอ่อ..แม่อยากให้หนูเข้าเรียนมหาลัยที่เดียวกับลูกของน้าแคทกับอาบดินทร์ได้ไหมลูก”

“เอ่อ..แม่คะ มันเป็นมหาลัยเอกชนค่าเทอมแพงอยู่ไม่ใช่เหรอคะ หนูอยากเรียนมหาลัยของรัฐมากกว่า แล้วก็เลือกมหาลัยที่จะสอบเข้าไว้แล้วด้วย”

“แม่ก็อยากให้หนูเรียนมหาลัยที่หนูอยากเรียนนะ น้าแคทกับคุณบดินทร์ก็อยากให้หนูเรียนที่เดียวกับหนูมิล่ากับตาชินมากกว่า แล้วพอเห็นผลการเรียนของหนู คุณบดินทร์ก็อยากอาสาอยากช่วยเหลือสนับสนุนในเรื่องค่าเรียนและค่าเทอมของหนู ตอนแรกแม่ก็ปฏิเสธไปแล้วเพราะเกรงใจแต่อาบดินทร์ก็ยืนกรานแบบนั้น เอ่อ..แล้ว.. "

พิมพ์มาดารู้นิสัยของลูกสาวตัวเองดี ว่าลีอาถึงจะว่านอนสอนง่ายแต่ก็แอบดื้อเงียบอยู่เหมือนกัน แต่เกิดลูกสาวรู้ว่าเธอตัดสินใจไปโดยพลการ ลูกคงไม่ยอมแน่ เธอเลยลังเลใจที่จะพูดมันออกไปดีไหม

“แม่คะ ถึงน้าแคทกับคุณบดินทร์จะเมตตาและอยากช่วยเหลือเรื่องค่าเรียนให้หนู หนูเกรงใจท่านทั้งคู่ค่ะแล้วก็คงรับไว้ได้หรอก ที่สำคัญหนูไม่อยากเรียนที่นั่นค่ะ” ลีอาพูดออกไปตามตรงที่ใจคิด

“เอ่อ..หนูคงไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก ถ้าแม่จะบอกว่าอาบดินทร์ทำเรื่องเรียนของหนูไปแล้ว แม่ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง” พิมพ์มาดาพูดบอกเสียงเบา

ยิ่งเห็นใบหน้าตกใจของลูกสาวก็ยิ่งวิตกกังวล ใจจริงเธอก็เกรงใจทั้งคู่มากแต่เพราะบดินทร์ยืนยันแบบนั้นเธอก็พูดไม่ออก นอกจากเขาจะเป็นสามีเพื่อนสนิทเขายังถือว่าเป็นนายจ้างของเธอด้วย ก็เลยไม่รู้จะทำยังไงนอกจากตกปากรับคำพวกเขาทั้งคู่ไป

“หา! แม่พูดอะไรนะ ทะทำไมแม่ไม่ถามความสมัครใจของหนูก่อน แม่ตัดสินใจเองแบบนั้นได้ยังคะ”

“ลีอา อย่าโกรธแม่ได้ไหมลูก มหาลัยเอกชนนั่นก็มีชื่อเสียงระดับประเทศแล้วก็มีแต่คนที่อยากเข้าเรียนทั้งนั้นนะลูก ถึงไม่ได้เรียนมหาลัยที่หนูอยากเข้าแต่ที่นั่นก็มีคณะที่หนูอยากเรียนนะ แม่คิดว่ามันก็ดีสำหรับหนู ที่สำคัญแม่ก็น้ำท่วมปากเพราะคุณบดินทร์ก็เป็นเจ้านายแม่ พอท่านยืนกรานมาแบบนั้น แม่ก็ไม่รู้จะปฏิเสธท่านยังไง”

“ขะขอโทษค่ะ หนูไม่ได้โกรธแม่นะ หนูแค่ตกใจเท่านั้นเอง แต่ถ้าแม่รับปากท่านไปแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ หนูเรียนที่นั่นก็ได้ค่ะ”

“เฮ้ออ..แม่ก็นึกว่าหนูจะโกรธแม่แล้วซะอีก”

“ไม่หรอกค่ะ ที่นั่นก็มีคณะที่หนูอยากเรียนเหมือนกัน ถึงจะไม่ใช่มหาลัยที่หนูอยากจะเรียนก็เถอะ แม่อย่าคิดมากนะคะ” ลีอายิ้มกว้างให้แม่ขณะที่ในใจเธอกลับรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

“จ้ะ” พิมพ์มาดายิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ

พอเห็นสีหน้าไม่สบายใจของแม่แล้ว ฉันก็โกรธไม่ท่านไม่ลงจริงๆ ตั้งแต่พ่อเสียไปตั้งแต่ฉันยังจำความไม่ได้ ฉันก็มีแม่แค่คนเดียว และท่านก็ทนลำบากเลี้ยงดูฉันตั้งแต่เล็กจนโตขนาดนี้ แม่เหนื่อยแค่ไหน ตัวฉันเองก็รู้ดีที่สุด ถึงแม้ในใจจะไม่ค่อยพอใจก็ตาม แต่ในเมื่อสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ไปแล้วก็คงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ฉันพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดจากที่กินอาหารด้วยความอร่อยกลับกลายเป็นไม่อร่อยขึ้นมาซะงั้น ในหัวสมองก็ครุ่นคิดอะไรไปต่างๆ นานา ทั้งเรื่องเรียนและก็อดไม่ได้ที่จะนึกเลยไปถึงใบหน้าของผู้ชายลามกนิสัยแย่ๆ คนนั้น พอยิ่งคิดถึงเรื่องที่เขาทำกับฉันก็ทำให้อารมณ์ที่โกรธมากอยู่แล้วก็โกรธมากยิ่งขึ้นอีก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์ร้ายพันธนาการรัก    EP.22 หึงหวง3

    ฉันนั่งมองดูกิจกรรมรอบกองไฟที่ดำเนินไปเรื่อยๆ มีพวกเกมต่างๆ ให้รุ่นน้องรุ่นพี่ได้ทำร่วมกัน ทุกคนดูสนุกสนานและผ่อนคลาย เป็นการหลวมละลายพฤติกรรมและสร้างความสนิทสนมกลมเกลียวของรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะได้เป็นอย่างดี ปราศจากการรับน้องรุนแรงเหมือนที่ฉันเคยเห็นตาตามโซเชียลต่างๆ นับว่ากิจกรรมเข้าค่ายในครั้งนี้ได้บรรลุจุดประสงค์ของมันแล้ว ตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบสามชั่วโมงเต็มหลังจากจบกิจกรรมช่วงเวลาสุดท้ายที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงนั่นก็คือการสังสรรค์ดื่มกินกันตามอัธยาศัยตอนแรกฉันรู้สึกกระสับกระส่ายอยู่ไม่สุขเมื่อเห็นพวกเพื่อนๆ ของเตชินทร์เข้ามารวมกลุ่มทำกิจกรรมด้วย แต่พอผ่านไปสักพักก็ยังไม่เห็นวี่แววแม้แต่เงาของคนที่ฉันไม่อยากเจอ เตชินทร์คงอยู่กับพี่มิล่าเพราะในกลุ่มเพื่อนสนิทของพวกเขาขาดแค่สองคนนี้เท่านั้น พอคิดได้แบบนั้นก็ทำให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นมากความง่วงทำให้ฉันเหลือบมองเวลาบ่อยครั้งและเวลาตอนนี้ก็เกือบสี่ทุ่มครึ่งแล้ว แต่ละคนก็เริ่มมีอาการมึนเมารวมถึงกลุ่มเพื่อนๆ ของฉันด้วยเหมือนกัน เพราะฉันคออ่อนถึงได้ไม่ดื่มเบียร์มากเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ที่ผ

  • เล่ห์ร้ายพันธนาการรัก    EP.21 หึงหวง2

    Rrrrrr.. Rrrrrr..เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นไม่หยุดทำให้ลีอาละความสนใจจากพวกอาหารที่เพิ่งยกมาวางไว้บนโต๊ะ ทันทีที่รู้ว่าใครโทรมาหัวใจดวงน้อยก็กระตุกสั่นไหวด้วยความตื่นกลัว มือก็เผลอกดตัดสายทิ้งอัตโนมัติ เสียงโทรศัพท์เงียบหายไปได้สักพักแต่กลับมีข้อความส่งเข้ามาในเครื่องแทน‘ถ้าโทรไปอีกครั้งไม่รับสาย คงรู้แล้วใช่ไหมว่าจะโดนอะไรบ้าง’“ไอ้คนบ้า!” ฉันสบถออกมาด้วยความไม่พอใจ มือทั้งสองข้างกำโทรศัพท์ในมือไว้แน่น ดวงตากลมโตแลมองไปรอบๆ ก็เห็นเตชินทร์ที่ยืนมองมาทางฉันเขม็งยังไม่ทันคิดว่าจะทำยังไงดีเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นรัวๆ ฉันมองโทรศัพท์ในมืออย่างลังเลแต่ก็กดตัดสายทิ้งไปในที่สุดพลางหันไปมองหน้าใยไหมที่มองการกระทำของฉันด้วยความสงสัยผู้ชายร้ายกาจที่ยืนมองอย่างสงบนิ่งอยู่เริ่มขยับตัวเดินตรงดิ่งมาหา ฉันไม่ได้เดินหนีไปไหนได้แต่ยืนนิ่งๆ ทำงานของตัวเองไป พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดแม้ในใจจะอดหวาดหวั่นไม่ได้ เดินหนีดูออกจะอันตรายเกินไปถ้าเกิดอยู่ในที่ปลอดค

  • เล่ห์ร้ายพันธนาการรัก    EP.20 หึงหวง1

    พอถึงเวลาบ่ายสองโมงครึ่งพวกรุ่นพี่ปีสองและปีสามก็ให้รุ่นน้องปีหนึ่งมารวมกลุ่มกันตรงลานด้านหลังของโรงแรม รุ่นพี่ชายหญิงหลายคนกำลังพูดสั่งงานรุ่นน้องปีหนึ่งอยู่ตรงหน้าแถว“พวกน้องผู้ชายไปเตรียมงานที่ชายหาดนะคะ ส่วนพวกน้องผู้หญิงก็ช่วยกันเตรียมพวกอาหารเครื่องดื่มสำหรับกิจกรรมรอบกองไฟริมชายหาดค่ำนี้นะคะ” เสียงหวานใสของรุ่นพี่ปีสองพูดปิดท้ายก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ของตัวเองเพื่อนทุกคนรู้แล้วว่าฉันกับกราฟฟิกตกลงคบกัน จะมีก็แต่ใยไหมกับพิชชี่ที่ทั้งแปลกใจระคนสงสัยแต่ก็ไม่ตื๊อถามอะไรมาก จากสีหน้าที่แสดงออกของพวกเธอทั้งสองคนดูจะไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่ว่าฉันจะคบกับกราฟฟิกจริงๆ ที่พวกเธอทั้งคู่ไม่เชื่อก็ไม่น่าแปลกใจหรอกเพราะพิชชี่เคยถามฉันมาก่อนหน้านี้แล้ว และฉันก็บอกเธอไปว่าไม่ได้คิดอะไรกับกราฟฟิกแบบนั้นฉันกับกราฟฟิกไม่ได้คิดจะปิดบังอะไร กลับยิ่งอยากเปิดเผยให้เพื่อนๆ และคนอื่นรับรู้ด้วยซ้ำว่าเราทั้งคู่คบกันเล่นละครก็ควรจะให้มันสมจริงสมจังที่สุดถึงจะตบตาใครต่อใครได้สนิท.. 

  • เล่ห์ร้ายพันธนาการรัก    EP.19

    “เชิญครับ” กราฟฟิกเอ่ยบอก สายตาเหลือบมองใบหน้าของรุ่นพี่ปีสามและสาวสวยที่หย่อนตัวลงนั่งเก้าอี้ตรงกันข้ามที่ว่างอยู่เตชินทร์ปรายสายตามองใบหน้าเรียบเฉยของคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าก้มตากินขนมในจานของตัวเองเงียบๆ ท่าทางเฉยเมยนั้นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ดวงตาคมเข้มมองจ้องหน้ารุ่นน้องหนุ่มที่ส่งยิ้มมาให้ตามมารยาทในใจเขารู้สึกไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกนั้นออกมา ดวงตาคมเข้มยังคงมองจ้องลีอาไม่ละสายตา“พี่ชินมาด้วยเหรอครับ แล้วพวกรุ่นพี่คนอื่นๆ มาด้วยไหม”“มาสิ แต่อยู่ที่โรงแรม ..เรามากันแค่สองคนเหรอ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอก ดวงตาคมเข้มจับจ้องใบหน้าหวานและริมฝีปากสีแดงธรรมชาติที่เม้มเข้าหากันแน่นสนิท เตชินทร์ไม่ได้สนใจว่ามิล่าที่นั่งอยู่ข้างๆ จะตวัดสายตาขึ้นมองดูเขาด้วยความรู้สึกยังไง ถึงเธอจะรู้สึกยังไงมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขามิล่ามองตามสายตาของเตชินทร์ ถึงจะไม่ชอบใจที่เขาให้ความสนใจลีอาเป็นพิเศษ แต่เธอก็ไม่อยากแสดงอาการหึงหวงไม่พอใจนั้นอ

  • เล่ห์ร้ายพันธนาการรัก    EP.18

    ผมจัดการถอดกางเกงและบ็อกเซอร์ออกอย่างรวดเร็ว ลูกรักผมมันตื่นตั้งแต่เห็นก้นขาวๆ ของลีอาแล้ว มือทั้งสองจับเรียวขาคู่งามแยกกว้างจนเห็นกลีบเนื้ออวบอูมที่แย้มบานออกจากกัน ส่งนิ้วร้อนออกไปลูบคลำบดคลึงเม็ดเล็กเหนือร่องเล็กสีหวานเล่นช้าๆ บดคลึงจุดเสียวนั้นเล่นย้ำๆ สายตามมองดูสะโพกกลมมนนั้นบิดเร่าสู้นิ้วมือ ร่างกายเธอมันซื่อสัตย์กว่าเจ้าของมันเสียอีก ผมยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจเมื่อเห็นน้ำหวานไหลเยิ้มออกมาจนกลีบเนื้อบางมันวาว อดใจไม่ไหวก่อนจะส่งลิ้นร้อนเข้าไปลิ้มชิมความหวานซ่านลิ้นนั้นอย่างกระหายอยาก ยิ่งร่างบางดิ้นพล่านหนักผมก็ยิ่งตะโบมดูดเลียมันแรงขึ้น“อ๊า” ริมฝีปากเล็กสกัดกั้นอารมณ์ซ่านเสียวเอาไว้ไม่อยู่ สะโพกกลมมนยกลอยเด่นขึ้น ขยับเข้าหาลิ้นร้อนอย่างร่านร้อนผมรับรู้ถึงแรงบีบรัดจากภายใน ลิ้นร้อนดูดเลียน้ำหวานจากร่องเล็กจนหมด ลีอาใกล้เสร็จแล้วแต่ผมไม่ยอมให้เธอเสร็จง่ายๆ แน่ ผมจับแก่นกายที่แข็งผงาดจนปวดหนึบขึ้นมาชักรูดเบาๆ จับมันจ่อลงปากทางเข้า ถูไถสัมผัสความนุ่มลื่น ยั้งใจไม่กระแทกมันเข้าไปเร็วนัก ค่อยๆ สอดใส่มันเข้าไปแค่ส่วนหัวและชักออกท

  • เล่ห์ร้ายพันธนาการรัก    EP.17

    ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำและหยุดยืนอยู่หน้ากระจกเพื่อสำรวจใบหน้าของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง เพราะผิวที่ขาวจัดมันทำให้เห็นรอยแดงชัด ขืนฉันออกไปเจอเพื่อนๆ ในสภาพแบบนี้คงไม่ดีแน่ พิชชี่กับใยไหมต้องซักไซ้ถามไม่หยุดว่าหน้าฉันไปโดนอะไรมา สายตามองดูรอยแดงเป็นริ้วจางๆ บนใบหน้าตัวเอง พอใช้แป้งพัฟเด็กทาทับลงไปบนรอยแดงพวกนั้นก็ยังเห็นชัดอยู่ดี ฉันพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด มือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาพิชชี่ว่ารู้สึกไม่ค่อยสบายจะไม่เข้าเรียนวิชานี้และจะกลับบ้านเลย เราส่งข้อความคุยกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ฉันจะเดินออกมาจากในห้องน้ำฉันนั่งรถแท็กซี่กลับมาบ้านอย่างคนที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เดินเข้าไปในห้องครัวหยิบก้อนน้ำแข็งในช่องพรีซมาใส่ชามใบเล็กก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบน พอเปิดประตูเข้าไปในห้องก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กขึ้นมาห่อก้อนน้ำแข็งไว้แล้วเอามันมาประคบแก้มข้างซ้ายไว้เพื่อจะให้รอยแดงมันจางลงไวๆ ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรกับรอยเล็กน้อยแค่นี้แต่รู้สึกเจ็บใจมากกว่า แต่น่าแปลกที่ไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยดแต่ลึกๆ กลับรู้สึกโล่งใจมากกว่าแทนเตชินทร์ไม่ได้โทรมาหลังจากเกิดเรื่อง เขาดูแคร์พี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status