LOGINหลังจากเลิกงานเสร็จ จิณห์วราก็แวะซูเปอร์มาร์เก็ตก่อนกลับเข้าที่พักเพื่อหาซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารและถือโอกาสแวะเอาเค้กที่สั่งไว้ร้านประจำ คอนโดกลางใจเมืองขนาดกลางเป็นที่พักอาศัยของหญิงสาว วันนี้เธอกำลังจะทำอาหารเมนูพิเศษสองสามอย่างเพื่อฉลองวันเกิดในคืนนี้กับเจ้านายหนุ่มสุดที่รัก ซึ่งไม่รู้ว่าเขาจะแวะเข้ามาหาตอนไหน แต่ไม่ว่าเขาจะกลับมากี่โมงกี่ยาม ถ้าเขาหิวก็จะได้มีอะไรให้เขารับประทาน
ในขณะที่กำลังหยิบหมูออกมาแกะเพื่อจะนำไปล้างให้สะอาดอีกรอบ กลิ่นคาวที่แตะจมูกทำเอาหน้ามืดจนแทบจะอาเจียนพุ่งออกมา จนต้องรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ เสียงอาเจียนโอ้กอ้ากดังขึ้นนานนับนาที ก่อนจะมองจ้องตัวเองในกระจกเงาตาไม่กระพริบ "เป็นอะไรไปนะ แค่ได้กลิ่นหมู ทำไมถึงชวนอ้วกได้ขนาดนี้ จะบ้าแล้ว" ใบหน้าที่ดูซีด อาการเวียนศีรษะที่กำลังรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนต้องรีบวิ่งออกไปหายาดมเพื่อสูดดมให้รู้สึกชื่นใจ ร่างผอมบางนั่งหย่อนก้นลงบนที่นอนอีกครั้ง พยายามทำตัวเองให้ดีขึ้นจะได้ออกไปเตรียมอาหารมื้อค่ำต่อ ในใจก็ครุ่นคิดว่าร่างกายของตัวเองมีอะไรผิดแปลกไปมากหรือเปล่า เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นแบบนี้เลยด้วยซ้ำ แต่อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์กลับชอบรู้สึกพะอืดพะอมบ่อยครั้ง ไม่เว้นแม้แต่เวลาที่จะแปรงฟัน ตอนแรกไม่ได้รู้สึกเอะใจมากแต่ทว่าในเวลานี้หญิงสาวจำต้องรีบหยิบโทรศัพท์กดเข้าแอปพลิเคชัน Period Tracker จนได้เห็นว่ากี่สัปดาห์มาแล้วที่ประจำเดือนขาดหายไป เธอก็คิดแค่ว่าทำงานหนักและนอนดึกมันเลยคลาดเคลื่อนไปหรือเปล่า ถึงกับมือไม้สั่นทำเอาโทรศัพท์ร่วงหล่นลงกับที่นอน ฝ่ามือข้างซ้ายแตะสัมผัสที่หน้าท้องแบนราบของตัวเองเบา ๆ "อย่าบอกนะว่าท้อง ไม่สิ! จะท้องได้ยังไง ก็กินยาคุมกำเนิดอยู่นี่นา แล้วถ้ามันใช่ล่ะ! จะต้องบอกคุณลีโอว่ายังไง เขาจะดีใจใช่ไหม?" เป็นคำถามที่ไม่อาจรู้คำตอบได้เลยในตอนนี้ หัวใจของเธอมันเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาให้ได้ จนต้องรีบหยิบจับกระเป๋าสตางค์ก่อนจะไปหยิบคีย์การ์ดห้องพัก แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างเร่งรีบ เป้าหมายคือร้านขายยาที่อยู่หน้าปากซอย เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เธอรอนานไม่ได้และไม่ควรจะรอ ถ้ามันใช่อย่างที่กำลังนึกคิด เธอจะได้รีบบอกกล่าวเขาให้รับรู้ในคืนนี้เลย ผ่านไปนานนับยี่สิบนาที ภายในห้องน้ำที่จิณห์วราเพิ่งหยดปัสสาวะลงในแท่งตรวจการตั้งครรภ์นั้น เพียงเสี้ยวนาทีต่อมาสัญญาณเสียงดังปิ๊บ ๆ ชวนให้ตื่นเต้นขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับอีโมจิรูปยิ้มและปรากฏคำว่า Pregnant ทำเอาหัวใจของคนที่กำลังเพ่งมองอยู่เต้นแรงจนแทบจะทะลุอก เธอซื้อที่ตรวจครรภ์มา 5 ชิ้นและหลากหลายยี่ห้อ จึงได้ทำการตรวจซ้ำเพื่อความแน่ชัด แต่ทุกอันยืนยันผลเป็นแบบเดียวกันว่า ‘เธอกำลังตั้งครรภ์!’ ถ้าหากถามว่าดีใจไหมที่ตัวเองกำลังจะเป็นแม่ เธอรู้สึกตื่นเต้นเพราะเป็นสิ่งที่ไม่เคยคาดคิด แต่สำหรับเขาที่เป็นพ่อของลูกล่ะ เขาจะดีใจหรือเปล่าถ้าเธอวางที่ตรวจครรภ์ทั้งหมดเซอร์ไพรส์ให้เห็นตรงหน้าในคืนนี้เลย "หนูมาเกิดได้ยังไงนะลูก หนูจะสุขภาพแข็งแรงดีหรือเปล่าตอนนี้?" เพราะตัวเองทานยาคุมกำเนิดตลอดเวลา เธอเลยไม่รู้ว่าจะมีผลข้างเคียงไหมกับการตั้งครรภ์อย่างไม่ทันให้ตั้งรับแบบนี้ เป็นความกังวลและความหวั่นกลัวกับอะไรที่แปลกใหม่ จิณห์วรารีบเดินออกไปหยิบโทรศัพท์มากดส่งข้อความถามคนที่เธอต้องการพบมากที่สุดในเวลานี้ 'เสร็จงานกี่โมงคะ จีน่ารอที่ห้องนะคะ มีเรื่องสำคัญมากจะคุยด้วย' เพียงไม่ถึงนาทีปลายสายก็ส่งข้อความกลับมาให้รู้สึกใจเสียขึ้นเล็กน้อย 'คงเข้าไปหาไม่ได้แล้ว เพราะธุระที่ทำอยู่ไม่รู้จะเสร็จกี่โมง เหนื่อยมากวันนี้ ฉันคงกลับบ้านไปพักผ่อนเลย เธอไม่ต้องรอ นอนไปก่อนได้เลยนะ' แค่อ่านจบใบหน้าที่ดูกังวลก็ยิ่งเศร้าหนัก เธออยากเป่าเค้กวันเกิดกับเขาในวันนี้ อยากบอกเรื่องที่เพิ่งตรวจเจอให้กับเขาได้รับรู้เป็นคนแรก แต่ช่างมันเถอะ... ถึงวันนี้ไม่ได้พูด แต่พรุ่งนี้เธอจะต้องบอกกับเขาให้รับรู้อยู่ดี วันนี้เขาไม่แวะมาหาอาจจะเป็นผลดีกับตัวเองก็ได้ เพราะดูทีท่าแล้วเธอคงทำอาหารเย็นวันนี้ไม่ไหวอยู่เหมือนกัน ทางด้านงานปาร์ตี้วันเกิดของกวินทิตา เธอจัดงานขึ้นที่บ้านของตัวเอง เจ้าของงานวันเกิดเดินออกมาตามหาลภัสวัฒน์ที่ปลีกตัวออกมาเข้าห้องน้ำนานนับสิบนาทีแล้ว "นึกว่าหนีกลับก่อนซะแล้วนะคะ เบื่อหรือเปล่าคะที่พ่อแม่เกรซชวนคุณพูดคุยแต่เรื่องธุรกิจแบบนี้" "ไม่หรอกครับ ผมชินแล้ว พวกท่านดูเป็นกันเองมากเลยนะครับ ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากกว่าที่คุณพ่อคุณแม่ของคุณเกรซชื่นชอบผมขนาดนี้" หญิงสาวเดินมาเกาะแขนเขาอย่างแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ใบหน้าสวยซบหน้าลงบนอกแกร่งของเขาอย่างเอาใจ "คนเก่งแบบคุณ ใครเห็นใครก็ชอบ ใครได้อยู่ใกล้ก็ไม่อยากไปไหนไกลจากคุณหรอกค่ะ" "อ้อนผมขนาดนี้ คืนนี้ผมจะได้กลับบ้านไหมนะ" ใบหน้าสวยที่แต่งหน้าจัด แหงนหน้าขึ้นมองเสี้ยวหน้าคมพร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างมีเลศนัยและรู้ทัน "เราโต ๆ กันแล้วค่ะ พ่อแม่ของเกรซพวกท่านก็เปิดกว้างมาก คุณนอนค้างที่บ้านเกรซได้นะคะ ดื่มไปหลายแก้วแล้ว อย่าขับรถกลับเลยมันอันตราย เกรซเป็นห่วง" ฝ่ามือหนาเชยคางมนขึ้นให้มองสบตาเขาอีกครั้ง แค่มองตาก็รู้ใจกันแล้วว่าสิ่งที่พวกเขาสองคนต้องการอยู่ในตอนนี้มันคือเรื่องเดียวกัน "ผมต้องนอนห้องรับแขกคนเดียวหรือเปล่านะ?" "ห้องนอนเกรซก็ว่าง ถ้าคุณอยากมีคนข้าง ๆ ไว้นอนกอด นอนห้องไหนก็ได้กอดค่ะ" "หึ ๆ แต่ผมเกรงใจพ่อแม่คุณเกรซน่ะสิครับ มันไม่ถูกต้อง ผมคิดว่าเสร็จงานปาร์ตี้คืนนี้ คุณออกไปฉลองกับผมกันต่อเพียงสองคนไม่ดีกว่าเหรอครับ?" แขนเรียวทั้งสองข้างยกขึ้นโอบกอดรอบคอของชายหนุ่มเอาไว้ ดวงตาจ้องมองหน้ากันและกันอย่างสื่อความหมาย พร้อมกับริมฝีปากอวบอิ่มยื่นเข้าไปจุ๊บริมฝีปากหนาเป็นการตอบตกลง อีกฟากของตัวบ้าน บิดาและมารดาของกวินทิตากำลังจ้องมองความสนิทสนมของลูกสาวและซีอีโอหนุ่มหล่อทายาทมหาเศรษฐีด้วยความพึงพอใจ "ถ้าได้มาเป็นลูกเขยก็คงจะดีมากเลยนะคะคุณ คนนี้ล่ะเหมาะสมกับลูกสาวเราที่สุดแล้ว" "ผมต้องทำให้เขารับผิดชอบลูกสาวเราให้ได้ คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่ยอมให้ใครย่ำยีลูกสาวผมฟรี ๆ แน่นอนคุณพิมพ์" "ลูกสาวเราตาถึงมาก ดูเขาชอบพอยายเกรซมากเลยนะคะ หวังว่ายายเกรซจะจับเขาอยู่หมัด บ้านเราจะได้หมดหนี้หมดสินกันสักที ฉันไม่อยากเป็นผู้ดีที่ถังกำลังจะแตกอีกต่อไปแล้วค่ะ มันใช้ชีวิตเหนื่อยเหลือเกิน" "ผมเชื่อมือลูกสาวเราว่าจะจับผู้ชายคนนี้ให้อยู่หมัดได้แน่ ๆ ผู้ชายร้อยทั้งร้อยไม่ทันมารยาหญิงหรอกคุณพิมพ์ หึ ๆ"ครึ่งชั่วโมงต่อมา เสียงสองสาวแย่งกันป้อนน้ำซุปให้คุณแม่ ทำให้คนเป็นพ่อถึงกับต้องกุมขมับอย่างปวดหัวแทน บางทีแค่เรื่องเล็กน้อยแต่ก็ไม่มีใครยอมกันเลยสักนิด "จะแย่งกันทำไมล่ะลูกเอ้ย ให้แม่เขาตักกินเองก็ได้ไหมนั่น" สองสาวหันมามองหน้าพ่อพร้อมเพรียงกันอีกครั้ง "ไม่ค่ะ ลิลลี่อยากป้อน" "ลินลินก็อยากป้อน" "แต่แย่งกันทำแบบนั้น แทนที่คุณแม่เขาจะทานอร่อย กลับต้องปวดหัวแทนล่ะสิไม่ว่า" "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ช่อชอบให้ลูกเอาใจแบบนี้มากกว่า น่ารักดีออกจริงไหมคะ" เธอลูบผมลูกสาวทั้งสองอย่างเอ็นดูนัก ความสุขของเธอในทุก ๆ วันก็มีแค่นี้ ป่วนหน่อยแต่ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลยสักครั้งเดียว น้องสาวผู้ก้อปปี้พี่สาวทุกอย่าง เหมือนมีไอดอลที่ต้องเลียนแบบให้ได้ทุกสิ่ง ทำให้บางทีก็เกิดศึกขึ้นจนต้องห้ามทัพอยู่นาน เพราะบางครั้งพี่สาวก็ไม่ชอบให้ทำตาม พูดมาแล้วก็ตลกดีไม่น้อย ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะต้องมีความสุขแทบสำลักเช่นนี้ได้ "แม่อิ่มแล้วค่ะ พอแค่นี้ก่อนนะคะลูก" "ก็ได้ค่ะ ลิลลี่ทำอร่อยไหมคะแม่ช่อ ช่วยยายจ๋าปรุงตั้งแต่เช้าโน่นแนะ" "อร่อยค่ะ พี่ลิลลี่เก่งที่สุดเลย ขอบคุณนะคะ" "เมื่อไหร่หลานชายฉันจะมาสักทีนะ อยากเห็นคนหล่อ
วันที่คุณพ่อลูกสามรอคอยก็มาถึง เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเข้ามาในห้องคลอด ทำเอาหัวใจเต้นแรงตึกตัก! ตึกตัก! แทบไม่เป็นจังหวะ จะได้เห็นโมเมนต์ที่ลูกคลอดออกมาพร้อมกับหมอและพยาบาลที่ช่วยกันทำคลอดเลย โชคดีที่ไม่ใช่คนกลัวเลือดเลยเข้ามาอยู่เคียงข้างกับภรรยา คอยให้กำลังใจเธอไม่เคยห่างกายได้ ครั้งนี้ช่อฟ้าเลือกจะผ่าคลอด เพราะครั้งแรกตอนที่คลอดลลินเธอรู้สึกเหมือนตัวเองจะไม่มีชีวิตรอดได้อยู่เลี้ยงดูลูก เลยไม่อยากต้องคอยลุ้นว่าลูกจะคลอดได้วันไหนหรือตอนไหน และที่สำคัญไม่ต้องนอนปวดท้องรอคลอดนานหลายชั่วโมง เธอเลือกจะผ่าคลอดตามฤกษ์ที่ตัวเองคิดว่าดี เพราะเชื่อเสมอว่าสิ่งที่คนเป็นแม่และพ่อเลือกให้ลูกย่อมเป็นเวลาที่ดีที่สุด คุณแม่นอนอยู่บนเตียงรอผ่าคลอด ซึ่งคุณพ่อก็นั่งอยู่ข้างบนศีรษะ คอยจูบซับหน้าผากและพูดคุยเป็นเพื่อนอยู่ไม่ได้หยุดพักเลย "ตื่นเต้นไหมคะ?" "มากที่สุด อยากเห็นเจ้าชายของพ่อเต็มทนแล้ว" "อย่าเห่อลูกชายจนลืมสองปริ้นเซสที่บ้านนะคะ คงมีงอนแน่ ๆ" "เคยลืมที่ไหนล่ะที่รัก พี่สาวก็ยังเป็นคนโปรดกันทั้งนั้น แต่คนนี้เป็นลูกชายไง อยากได้มาตั้งนานแล้ว อุตส่าห์ตั้งใจทำ ปั้นมากับมือหวังว่าจะหล่อได้พ่อ" "ห
"เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว ช่อก็รู้ว่าพี่ไม่เคยมีประวัติแบบนั้นเลย พี่รักช่อจะตายอยู่แล้ว ผู้หญิงที่ไหนก็สวยและดีไม่เท่าเมียพี่หรอก" "แล้วทำไมถึงไม่อยากให้ช่อไปทำงานด้วยคะ?" "ก็เพราะว่าพี่กลัวเมียเหนื่อย อยากให้อยู่บ้านเลี้ยงลูกสบาย ๆ เพราะพี่มีแพลนเอาไว้ว่าอยากจะมีลูกเพิ่ม ถ้าลีโอคลอดออกมา พี่ก็จะทำเลโก้ ลาเต้ อีกสักคนสองคน" ทำเอาช่อฟ้าถึงกับต้องใช้มือหยิกเข้าไปที่เอวหนาของสามีอย่างนึกหมั่นไส้ไม่ได้ "โอ้ย ๆ ๆ เจ็บนะช่อ!" "คนนี้ก็ยังไม่คลอดเลยนะคะ นี่ตั้งชื่อไว้รออีกสองคนแล้วเหรอ" "ก็พี่อยากมีครอบครัวใหญ่ ๆ อยากให้ลูกมีเพื่อนเล่นหลาย ๆ คน งานที่บริษัทให้เป็นหน้าที่ของพี่เถอะ ถ้าช่อไปทำงานพี่คงต้องไล่บรรดาผู้ชายออกให้หมด ให้เหลือไว้เฉพาะผู้หญิง" "เอ้า! ทำไมเป็นแบบนั้น?" "ก็พี่ไม่อยากให้พวกผู้ชายมันมองเมียพี่ไง หวงจะตายอยู่แล้ว แค่ไปมหาวิทยาลัยพี่ก็ต้องนั่งทำใจอยู่ตั้งนาน" "ช่อก็ไม่ได้มองใครนะคะ ไม่มีสายตาไว้ไปมองคนอื่นหรอก สามีของช่อแสนดีซะขนาดนี้ น่ารักและแฮนด์ซัมขนาดนี้ ยอมตายอยู่กับคนนี้แค่คนเดียวนี่ล่ะค่ะ" นิ้วมือเรียวบีบแก้มสามีเล่นเบา ๆ นึกมันเขี้ยวเขานักล่ะ "ให้จริงอย่า
วันนี้เป็นวันรับปริญญาของช่อฟ้า แม้ว่าเธอจะแต่งงานมีสามี และตอนนี้กำลังท้องแก่ใกล้คลอด แต่เธอก็โชคดีกับชีวิตมาก ที่สามีอย่างรามิลคิดถึงอนาคต คิดถึงการศึกษา อยากให้เธอมีความรู้ และเป็นหน้าเป็นตาให้กับตัวเธอเอง ช่อฟ้าใช้เวลาเรียนปริญญาตรีสามปีกว่า จนวันนี้เธอสำเร็จการศึกษา ทำให้สามีถึงกับหอบช่อดอกไม้ที่ทำด้วยเงินแบงค์พันมากกว่าหนึ่งแสนบาทมาร่วมแสดงความยินดี พร้อมกับลูกสาวทั้งสองและแม่ยายด้วยอีกหนึ่งคน "ขอแสดงความยินดีกับคุณภรรยาคนเก่งของผมครับ" ของขวัญที่เขาถือมาด้วยไม่ใช่มีแค่ช่อดอกไม้เงินช่อโต แต่ยังมีเป็นชุดเครื่องเพชรที่เขาอยากมอบเป็นของรางวัลให้กับเธออีกด้วย ให้สมกับความขยันและความอดทน แม้ว่าเธอจะวุ่นวายอยู่กับลูก ต้องอุ้มท้องลูกชายเขาอีกคน หญิงสาวก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองจนประสบความสำเร็จได้อย่างตอนนี้ เขาไม่ได้ต้องการอะไรมาก แค่ได้ซัพพอร์ต ได้ทำให้ช่อฟ้ามีชีวิตที่ดี มีความสุขร่วมกันในทุก ๆ วันก็มีความสุขมากที่สุดแล้ว "ขอบคุณนะคะ ถ้าไม่มีคุณ ช่อก็จะไม่มีวันนี้เลย" สองสามีภรรยาโอบกอดกันอีกครั้ง ชายหนุ่มหอมแก้มภรรยาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกือบสองนาทีกว่าที่คนทั้งคู่จะผละออกห่างจากกัน
รามิลบอกกับรัชชานนท์ เขาทั้งคู่ไม่ได้มีปัญหากับการไปมาหาสู่กันแบบนี้ เพราะตอนนี้รัชชานนท์ก็ต่างมีครอบครัวใหม่ไปแล้วเช่นกัน การไปมาหาสู่เช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เล็กน้อย ไม่เคยได้เก็บเอามาคิดใส่ใจเลยสักครั้ง อยากให้ลลินรักทุกคนที่มีส่วนร่วมในการทำให้เขาได้เกิดมาเป็นที่รักของคนในบ้านแบบนี้ เขาจะบอกสอนลูกเสมอว่ารัชชานนท์ก็เป็นพ่ออีกคนหนึ่ง ส่วนเขาเป็นพ่อที่มาทีหลังแต่ก็รักลลินมากที่สุดเหมือนกัน ในขวบสองปีแรกของลลิน ช่อฟ้าไม่ได้อนุญาตให้รัชชานนท์ไปหาสู่ได้แบบนี้ เพราะเกรงใจสามีเป็นอย่างมากกลัวว่าเขาจะคิดมากคิดเยอะ แต่กลับกลายเป็นว่าสามีสอนให้เธอเปิดใจให้กว้าง อย่าอคติกับอดีตที่ผ่านมา ถ้าเขาจะคิดเล็กคิดน้อยกับการที่คนเคยแต่งงานกันยังวนเวียนพัวพันกันอยู่ เขาก็คงไม่เลือกลงเอยกับเธออย่างเช่นทุกวันนี้เป็นแน่ "อยู่ทานข้าวด้วยกันไหมครับคุณนนท์" "เกรงใจจังเลยครับ ผมว่าคุณแม่คงไม่อยากให้ผมอยู่ร่วมโต๊ะด้วยนักหรอก" เมื่อนึกถึงนางสมรศรีขึ้นมา รัชชานนท์ก็รู้สึกเกรงใจนางอยู่มาก เพราะไม่ว่ากี่ครั้งที่เขามาที่นี่นางจะไม่ชอบหน้าเขาเลย ถึงจะไม่ขับไล่ไสส่งให้ได้ยิน แต่นางก็ไม่ได้อยากมองหน้าหรือพูดคุยก
การแต่งงานครั้งใหม่ของช่อฟ้า เธอเหมือนซิลเดอเรลล่าที่ถูกเจ้าชายรามิลดูแลประคบประหงมดุจดั่งเจ้าหญิงก็ไม่ปาน จากวันนั้นถึงวันนี้สามปีกว่าแล้ว ที่เธอและเขาอยู่กินฉันสามีภรรยา แม้จะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่บ้าง แต่ไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาให้กวนใจเลยสักครั้งเดียว รามิลพูดจริงและทำจริงอย่างที่เคยประกาศก้อง ถ้ามีช่อฟ้าเป็นเมียเขาก็จะหยุดเพียงที่เธอ ส่วนมากทะเลาะกันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยที่เกี่ยวกับลูก ๆ และอาหารการกินที่อยากให้เขาต้องใส่ใจกับสุขภาพตัวเองมากกว่าที่เป็นอยู่ ครอบครัวของเธอจากที่มีลูกสาวเพียงแค่สองคน แต่ทว่าตอนนี้กำลังจะถูกเพิ่มเติมมาอีกหนึ่งชีวิต เพราะช่อฟ้าตั้งครรภ์ลูกคนที่สองอายุครรภ์ได้สามสิบสามสัปดาห์เข้าไปแล้ว สมใจว่าที่คุณพ่อลูกสามนัก เพราะคนนี้ที่กำลังนอนดิ้นอยู่ในท้องคือลูกชาย พี่ ๆ ต่างตั้งหน้าตั้งตารอเวลาคลอดออกมาลืมตาดูโลกของเด็กชายกันทั้งนั้น ซึ่งพี่สาวคนโตที่อายุแปดขวบอย่างลิลลี่ก็เป็นคนจัดเตรียมชื่อนี้ไว้ให้กับน้องชายคนเล็กด้วยตัวเองเช่นเคย "ทำไมน้องต้องชื่อลีโอเหรอคะพี่ลิลลี่?" "เพราะคุณพ่อชอบดื่มเบียร์ลีโอ ฮ่า ๆ ๆ ๆ" เสียงหัวเราะของลูกสาวที่พูดคุยอย่างอารม







