“ค่ะ?” กานดาได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มบอกแต่ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มต้องการจะสื่อ แทนไทเงยหน้าขึ้นมาสบตาสวยที่มองลงมาอย่างขอคำอธิบาย
มือแกร่งคว้ามือบางของกานดามาวางลงตรงจุดที่นูนเด่นขึ้นมาจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
กานดาสะดุ้งดึงมือกลับทันทีที่สัมผัสโดนสิ่งนั้น ใบหน้าสวยแดงเป็นลูกตำลึงทันที
“เอ่อ….”
“นะ นะครับ มันถูกปลุกให้ตื่นแล้ว เอามันลงให้หน่อยนะครับ” แทนไทเอ่ยอ้อนหญิงสาว ‘ก่อนหน้านี้ทำอะไรกันเนี่ย’ กานดาได้แต่คิดในใจ
“…มือได้ไหมค่ะ” กานดาลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยออกมา ความอายพุ่งสูงจนหน้าแทบไหม้
“ออรัล นะครับ” แทนไทเอ่ยขอกะพริบตาปริบๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความต้องการจนกานดาปฏิเสธไม่ออกเลยได้แต่พยักหน้า
“ตะ แต่ดาทำไม่เป็นนะคะ” แทนไทยิ้มกริ่ม แล้วเลื่อนเก้าอี้ออกไปด้านหลังเล็กน้อย
“เดี๋ยวผมสอน นั่งลงครับ” กานดาทรุดตัวมั่งลงกับพื้นตรงหน้าชายหนุ่ม แทนไทมองไปที่กางเกงตัวเองเป็นเชิงบอก กานดาจึงเอื้อมมือสั่นเล็กน้อยไปปลดเข็มขัดแล้วตามด้วยตะขอและซิป เผยให้เห็นอันเดอร์แวร์สีดำที่มีแท่งเอ็นใหญ่ดันนูนอยู่
“เอามันออกมาสิครับ หึหึ” แทนไทก้มลงกระซิบหญิงสาวเบาๆ
กานดาหายใจเข้าลึกๆ แล้วกลั้นใจรั้งขอบกางเกงและอันเดอร์แวร์ลงจากเอวสอบ โดยชายหนุ่มให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีด้วยการยกสะโพกขึ้น เมื่อปราการถูกปลดออกมังกรใหญ่ก็ผงาดขึ้นตรงหน้ากานดา หญิงสาวเบื้องหน้าหนีทันทีด้วยความกระดากอาย
“หึหึ มันเคยเข้าไปอยู่ในตัวคุณแล้วจะอายทำไม หืม” กานดาหันขวับมามองชายหนุ่มทันที เพราะไม่คิดว่าผู้ชายตรงหน้าจะเป็นคนแบบนี้ นี้ใช่แทนไทคนที่เธอรู้จักแน่หรือ
แทนไทได้แต่อมยิ้มกับท่าทีของหญิงสาวที่โดนเขาแกล้ง
“ก็ตอนนั้นมัน …ไม่เอาแล้ว” กานดาพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะบอกปฏิเสธเสียงงอนๆ
“ได้ไงกัน คุณรับปากแล้วนะ”
“ก็คุณแกล้งดา”
“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว ต่อนะ”
“กะ ก็ได้ค่ะ” กานดาตั้งสติใหม่อีกครั้งแล้วเอื้อมมือสั่นๆ ไปจับเอ็นร้อนเอาไว้แล้วรูดเบาๆ ‘ใหญ่แล้วร้อนมาก’ กานดาคิด
“ซี๊ดดด” กานดาช้อนตาขึ้นมองชายหนุ่มทันทีที่แทนไทร้องครางออกมา
“เอามือประคองไว้แล้วเสียที่หัวมันเลยที่รัก อืม อย่างนั้น อ่า ซี๊ดดดด” กานดาทำตามที่ชายหนุ่มบอก ลิ้นนิ่มร้อนแตะลงไปที่ส่วนหัว แล้วเริ่มเสียเบาๆ ไปรอบๆ
“กลืนมันเข้าไปเลยดา เมียจ๋า อ่า อย่างนั้น ระวังฟัน อืมม”
กานดาครอบปากลงกลืนกินเอ็นร้อน แต่ไม่สามารถเอาเข้าได้หมดเพราะความใหญ่และยาวของแท่งเอ็นร้อน แล้วเริ่มดูด เลีย ไปเรื่อยๆ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามสัญชาตญาณของร่างกาย
“อึก แค่ก แค่ก แฮ่ก ๆ ๆ” กานดาทั้งทรมานและหายใจแทบไม่ออกเมื่อชายหนุ่มกระแทกสะโพกสวนเข้ามา จนแทนไทปลดปล่อยออกมาในปาก กานดาได้แต่กลืนมันลงไปอย่างช่วยไม่ได้ความคาวของน้ำสีขนใสทำให้หญิงสาวเกือบอ้วกออกมา
พรึบ!!
แทนไทดึงหญิงสาวขึ้นมากอดปลอบทันที
“ขอโทษที่รุนแรง ผมลืมตัว คุณโอเคไหม”
“อืม โอเคค่ะ” กานดาพยักหน้าและบอกออกไป
“คุณลุกก่อนนะ ถ้าอยู่อย่างนี้เดี๋ยวมันจะตื่นขึ้นมาอีก” แทนไทบอก
“เพี๊ยะ คนบ้า” กานดาตีไปที่ไหล่หนาทีหนึ่งแล้วออกจากอ้อมแขนแกร่งพร้อมทันทีพร้อมกับเบื้องหน้าหนี แทนไทยกยิ้มน้อยๆ แล้วคว้าเอาทิชชูมาทำความสะอาดตรงส่วนนั้นก่อนจะจัดการแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วดึงให้กานดานั่งลงบนตักแกร่งอีกครั้ง ใบหน้าหล่อคมวางพาดบนไหลบาง
“พร้อมจะฟังหรือยังครับ” กานดาพยักหน้าเบาๆ
“เขามีคนอื่น เขานอกใจผมตลอดเวลาที่เขาไปเรียนต่อ จนเขาท้องกลับแล้วคิดจะจับผมให้รับผิดชอบเป็นพ่อของเด็ก”
“วันที่คุณถูกวางยาใช่ไหมค่ะ” กานดาถามขึ้น แค่นี้ก็รู้แล้วว่าทำไมแทนไทถึงกลับมาสภาพแบบนั้น
“อืม ปารมีเป็นคนทำ”
“แล้วอะไรทำให้คุณคิดว่าเป็นเธอละค่ะ อีกอย่างถ้ามีอาการขนาดนั้นใครเสนอมาก็คงต้องคว้าไว้ก่อนแล้วละ แต่คุณยังมีสติพอกลับไปถึงบ้าน เก่งนะคะเนี่ย” กานดาแกล้งเหย้า
“หึ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันผมเอาแต่คิดถึงหน้าคุณ และเป็นคุณคนเดียวเท่านั้น” คำตอบที่ได้มาทำเอากานดาถึงกับนิ่ง ก้อนเนื้อข้างซ้ายมันเต้นรัวและพองโต
“เลิกงานแล้ว เรากลับกันเถอะค่ะ” หญิงสาวพูดชวนเปลี่ยนเรื่อง เธอยังไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองตอนนี้ ถึงแม้จะรู้สึกไปกับคำพูดของชายหนุ่มไปแล้วก็ตาม
“อืม”
“อืม ก็ปล่อยสิคะ” อืม แต่กลับไม่ยอมปล่อยเธอออกจากตัว
“ดา คุณอย่าทำแบบนี้กับผมนะ อย่าทิ้งผม” แทนไทเอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว กานดานิ่งไปนิดนึง
“ค่ะ ดาจะไม่ทิ้งคุณไปไหน จะอยู่กับคุณจนกว่าคุณจะไม่ต้องการดาแล้ว” กานดาเอ่ยบอก แทนไทพลิกตัวหญิงสาวให้หันไปหาตัวเอง มองสบตาคมสวยก่อนจะยกยิ้ม
“ขอบคุณครับ จุ๊บ” แทนไทบอกพร้อมกับโน้มหน้ามาจุ๊บเบาๆ ที่ริมฝีปากบาง
“กลับบ้านกันได้แล้วค่ะ ปะ” แทนไทพยักหน้าก่อนจะยอมปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ แล้วออกจากบริษัทไปพร้อมกัน
“ไม่ต้องหรอกดา ขึ้นรถกลับด้วยกัน” แทนไทบอกเมื่อเห็นหญิงสาวเดินไปเรียกแท็กซี่
“ไม่ดีมั่งค่ะ” กานดาเอ่ยปฏิเสธถึงพวกเขาจะออกมาช้าแต่ตอนนี้ก็ยังมีพนักงานบางส่วนที่อยู่ทำโอทีอยู่ในบริษัทและบริเวณโดยรอบ
“ไปเถอะผมเหนื่อยแล้ว” แทนไทบอกพร้อมกับเดินไปจูงมือหญิงสาวมาขึ้นรถ
ตลอดเวลาที่นั่งอยู่ในรถไม่มีใครพูดอะไรออกมาแต่มือหนาที่กอบกุมมือเรียวเอาไว้ไม่ยอมปล่อยทำให้ภพที่แอบมองอยู่ยิ้มออกมานิดๆ เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้รู้ว่าคนที่แอบเชียร์ให้คู่นี้รักกันขึ้นมาจริงๆ ก็พอมีหวังมากขึ้นแล้ว และหวังว่านายหญิงของพวกเขาจะทำให้เจ้านายหนุ่มลืมผู้หญิงหลายใจคนนั้นได้โดยเร็ว
เมื่อรถคันหรูเข้ามาจอดหน้าบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แทนไทจูงมือหญิงสาวเดินเข้าไปในบ้านและกำลังจะขึ้นไปชั้นสองแต่
“เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย จะรีบไปไหนวะ” ทั้งกานดาและแทนไทหันไปมองผู้เอ่ยทักทันที เมื่อเห็นว่าเป็นใครกานดาก็รีบดึงมือออกจากมือหนาทันที
“หืม คุณกานดา”
“เอ่อ ดาขอตัวก่อนนะคะ” กานดาหันไปบอกกับแขก (ไม่ได้รับเชิญ) ก่อนจะหันไปพูดกับแทนไทเบา ๆ
“เคลียร์ให้ด้วยนะคะคุณแทน” แล้วเดินเลี่ยงออกไปทันที
“เดี๋ยว ๆ จะไปไหนครับคุณกานดาคนสวย” คริสที่เห็นว่าหญิงสาวกำลังเดินเลี่ยงออกไปก็รีบขว้างเอาไว้ทันที แต่กลับถูกแทนไทขว้างเอาไว้ซะก่อน
“ไปเถอะ” แทนไทบอกกานดา หญิงสาวจึงรีบเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้านทันที
“หืม/หืม” สองเสียงประสานขึ้นมาพร้อมกันเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่” แทนไทถามขึ้น พร้อมกับเดินไปที่ห้องนั่งเล่นที่เพื่อนตัวดีทั้งสองพึ่งเดินออกมา
“พึ่งมาถึงว่ะ แล้วก็ช่วยอธิบายมาด้วยคืออะไร” คริสเป็นคนตอบพร้อมกับถามสิ่งที่ค้างใจ ในขณะที่แอนโทนี่พยักหน้าเห็นด้วย
“ไม่เสือกสิ” แทนไทตอบเสียงนิ่ง แถมหน้าก็นิ่งด้วย
“อ้าวไอ้นี่” คริสอ้าปากค้างเลย เพราะไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ” แทนไทตอบนิ่ง ๆ ไม่สะทกสะท้านชักนิดที่เพื่อนรู้ความลับที่ปิดเอาไว้มานาน
“โน ๆ มันต้องมีสิ” แอนโทนี่ว่า พร้อมกับเดินมานั่งข้างแทนไท คริสเองก็นั่งลงอีกข้าง เอาง่าย ๆ คือตอนนี้แทนไทถูกเพื่อนตัวดีนั่งขนาบทั้งสองข้างพร้อมจะสอบสวนเขาเต็มที่
“พูด” คริสบอก น้ำเสียงนี้บ่งบอกถึงความอยากรู้ อยากเห็นเต็มพิกัด แอนโทนี่ก็ไม่น้อยหน้า นั่งจ้องมองเพื่อนอย่างคาดคั้น แทนไทหันมองหน้าเพื่อนไปมาแล้วถอนหายใจออกมาอย่างหน่าย ๆ กับความอยากรู้ของเพื่อนตัวเอง
“นั้นกานดา เป็นเลขาฉัน”
“อืม/รู้” แอนโทนี่กับคริสพูดออกมาพร้อมกัน
“และก็เป็นเมียฉันด้วย”
“ห๊ะ! /ห๊ะ!” แทนไทมองหน้าเพื่อนที่อ้าปากเหวอด้วยสีหน้าเฉยชาสุดๆ
“เดี๋ยวๆๆ ขออีกที” คริสถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้หูฝาด แทนไทก็เอาแต่มองหน้าเพื่อนนิ่ง
“หมายความว่าไง เมียแก ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ” แอนโทนี่ถาม
“มึงปล้ำเขาเหรอ” คริสถาม
หลังจากเมื่อคืนที่แทนไทฝ่าพายุกลับมาจนเปียกไปหมดทั้งตัว เช้านี้เลยมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะไม่สบาย“ดาครับ” เสียงชายหนุ่มแหบผิดปกติจนกานดารับรู้ได้ หญิงสาวขมวดคิ้วทันทีเมื่อเดินเข้ามาใกล้ชายหนุ่ม“ไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมเสียงเป็นแบบนั้น” เธอถามพร้อมกับยกมือขึ้นอังหน้าผากของชายหนุ่ม “ตัวรุม ๆ วันนี้คุณพักอยู่บ้านดีกว่าค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปดูคนงานหน่อย”“ไม่เอาครับ ผมจะไปกับคุณด้วย”“แต่คุณป่วย มันจะหนักกว่าเดิมค่ะ ไปนอนพักดีกว่า” กานดาไม่ยอมให้ชายหนุ่มออกไปข้างนอกเพราะเธอรู้ดีว่าถ้าแทนไทป่วยจะหายยากมาก เพราะฉะนั้นต้องให้ชายหนุ่มรักษาตัวเองตั้งแต่ยังไม่เป็นหนัก“ดาครับ…” น้ำเสียงออดอ้อนแบบนี้กานดาไม่เคยใจแข็งได้เลยจริง ๆ“ฉันขอไปดูคนงานแป็บเดียวค่ะแล้วจะรีบกลับมา” สุดท้ายกานดาก็ต้องยอมทั้งที่พยายามใจแข็งแล้วแท้ ๆ“ผมรอนะ” แทนไทยิ้มกว้างทันทีเมื่อได้รับคำตอบที่พอใจ กานดาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากบ้านไป ชายหนุ่มมองตามจนสุดสายตาก่อนจะรีบปิดประตูบ้านลง เขามองกวาดไปทั่วบ้านแล้วเริ่มลงมือทำอะไรบางอย่าง บางอย่างที่จะตัดสินทุกอย่างต่อจากนี้ไปตลอดชีวิตของเขากานดาเดินตรวจงานจนเสร็จก่อน
“ผมไม่มีความสุขเลยสักวัน…...ดา”กานดาตัวชาวาบ ยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวหรือหันไปมอง เสียงฝีเท้าที่ค่อย ๆ ก้าวเข้ามาใกล้ทำให้หญิงสาวอย่างวิ่งออกไปจากตรงนี้แต่เธอกลับก้าวขาไม่ออกเลยสักนิด แรงกอดจากด้านหลังยิ่งทำให้กานดาอยากหนีหายไปจากตรงนี้ตอนนี้เลยยิ่งดี“ดา คิดถึง ผมคิดถึงคุณ ฮึก อย่าไปไหนอีกนะ อยู่กับผมก่อน ให้ผมได้อธิบายก่อนนะ ฮึก” กานดารับรู้ได้ถึงร่างกายอันสั่นเทาของคนที่กอดอยู่ด้านหลัง แทนไทกอดหญิงสาวเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหนีหายไปอีกใบหน้าคมซบลงกับไหล่แคบของหญิงสาวปล่อยให้น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอย่างไม่อาจห้ามได้ ความทรมานในวันที่ไม่มีหญิงสาวอยู่ชายหนุ่มรู้ซึ้งเป็นอย่างดี เขาจะไม่มีวันปล่อยเธอไปไหนอีกเด็ดขาด“คุณแทนปล่อยฉันก่อนนะคะ” กานดาบอกเสียงสั่นเครือแม้จะพยายามห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้แต่น้ำตามันกลับไม่ยอมฟังเธอเลย“ไม่ปล่อย คุณหายไปอีก ผมไม่ปล่อย” แทนไทเอ่ยเสียงอู้อี้อยู่กับไหล่ของหญิงสาวทั้งยังกระซับกอดแน่นขึ้นด้วย“ปล่อยฉันก่อนเถอะค่ะ ถ้าใครมาเห็นเข้ามันจะดีนะคะ คุณจะทะเลาะกับคนของคุณเปล่า ๆ ” กานดาพยายามแกะมือชายหนุ่มออกจากตัว แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่
แทนไทยกมือถือขึ้นต่อสายหาเพื่อนอีกคนที่น่าจะคุ้นเคยและชำนาญพื้นที่มากว่าพวกเขาตู๊ดดดด ตู๊ดดด“ฮัลโหล”(ว่า)“ฉันมีเรื่องให้แกช่วยว่ะ”(อื้มรู้แล้ว พวกไอ้คริสบอกมาหมดแล้ว ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวทางนี้ฉันจะช่วยสืบอีกแรง)“ขอบใจมากราฟ”(ถ้าได้ความคืบหน้าอะไร ยังไงเดี๋ยวฉันติดต่อไป แล้วไนท์ว่าไงบ้าง)“น่าจะรู้เรื่องแล้วละแต่ฉันไม่อยากกวนมันตอนนี้ว่ะ ทางนั้นก็มีเรื่องอยู่” แทนไทว่า เมื่อนึกไปถึงเพื่อนอีกคนที่ตอนนี้ก็กำลังเจอปัญหาอยู่เหมือนกัน(อืม มีอะไรเพิ่มเติมเดี๋ยวติดต่อไป) พูดเสร็จก็วางสายไปทันที การที่ได้ราฟาแอลมาช่วยทำให้การหาตัวกานดาง่ายขึ้นเพราะด้วยธุรกิจของราฟาแอลควบคุมทางฝั่งอเมริกาและยุโรปเป็นส่วยใหญ่ทำให้ราฟาแอลคุ้นเคยกับพื้นที่มากกว่าพวกเขาที่อยู่ทางฝั่งเอเชีย แถมคนของราฟาแอลยังเก่งเรื่องแกะรอยและติดตามมากกว่าหลังจากวางสายจากเพื่อนสนิท แทนไทก็ต่อสายตรงเข้าเครื่องของพ่อตัวเองทันที และรอไม่นานปลายสายก็รับ“พ่อเอาเมียผมไปไว้ไหน” แทนไทถามเสียงราบเรียบ(เมียแกก็อยู่ที่บ้านไง) ปลายสายตอบมาเสียงเรียบไม่แพ้กัน“จะอยู่ที่บ้านได้ไงก็ในเมื่อเมียผมหายไปพร้อมกับพ่อ”(ฉันเปล่า ยัยผู้หญิงคนนั้น
“คุณต้องการอะไรปารมี” เสียงทุ้มถามขึ้นเสียงเข้ม แต่มีหรือที่หญิงสาวจะกลัวในเมื่อเธอเสียแทนไทไปแล้ว เธอก็จะทำให้แทนไทเสียกานดาไปเหมือนกัน“ความสะใจยังไงละ คุณสงสารฉัน พาฉันเข้ามาอยู่ที่นี่นั้นก็เท่ากับว่าเป็นการบอกกลายๆ ไปแล้วว่าคุณเลือกฉัน แล้วคุณคิดว่าคนฉลาดๆ อย่างเลขาคุณเขาจะทำยังไงดีนะ”“!!!”“หึ” ปารมีว่าก่อนจะเดินออกไปจากบ้านพร้อมความสะใจที่ได้เอาคืนคนอย่างแทนไทให้รู้สึกเจ็บบ้างเหมือนที่เธอรู้สึก ทิ้งไว้เพียงแทนไทที่ยืนนิ่งชาไปทั้งตัวแทนไททรุดนั่งลงกับพื้นอย่างคนหมดแรงเมื่อเข้าใจความหมายของสิ่งที่หญิงสาวต้องการจะสื่อ‘อย่ารู้ตัวในวันที่สาย’‘รู้ตัวซะแทนไท อย่าให้ต้องเสียใจในวันที่เขาไม่อยู่กับแกแล้ว’‘หึ ทำทุกอย่างเพราะสงสาร งั้นก็อย่าลืมสงสารตัวเองบ้างนะไอ้ลูกชาย’เสียงของแอนโทนี่และผู้เป็นพ่อดังขึ้นมาในหัวทันที‘ไม่มีทาง ผมไม่ยอมปล่อยให้คุณไปจากผมแน่กานดา คุณต้องอยู่กับผม ต้องอยู่กับผมเท่านั้น ผม…คุณ’ เสียงพึมพำแผ่วเบาพร้อมกับหยดน้ำตาของลูกผู้ชายที่ไม่คิดว่าจะมีไหลลงมาช้าๆ ในอกมันเจ็บไปหมดเมื่อรู้ว่าตอนนี้ข้างกายที่เคยมีใครคนหนึ่งอยู่มันว่างเปล่า ความเหน็บหนาวค่อยๆ กัดกินใจแกร
แสงแดดยามเช้าไม่ได้มีผลทำให้ร่างหนาที่นอนหลับอยู่บนเตียงอย่างมีความสุขจากเหตุการณ์เมื่อคืนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเลยสักนิดก๊อกๆ ก๊อกๆเสียงเคาะประตูทำให้คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อยแต่ยังไม่ยอมลืมตา มือหนาควานหาร่างบางที่กกกอดเมื่อคืนแต่กลับมีแต่ความว่างเปล่า ตาคมลืมขึ้นมามองข้างกายก็ไม่เห็นคนที่กอดเมื่อคืน จึงคิดว่ากานดาคงลงไปทำอาหารเช้าเมื่อทุกวัน จึงไม่ได้คิดอะไรแต่เสียงเคาะประตูยังคงดังไม่หยุดชายหนุ่มจึงตัดรำคาญโดยการลุกขึ้นไปเปิด แต่พอเห็นคนที่เคาะประตูแทนไทก็อยากจะปิดประตูลงซะตอนนี้เลย“แทนค่ะทำไมเมื่อวานคุณไม่ลงไปทานข้าว แม่เลขานั้นก็ด้วย” แทนไทยังไม่ได้พูดถามอะไรก็เจอคำถามรัวจากสาวเจ้าซะก่อน ทำเอาคนที่ตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์ดีเริ่ม หงุดหงิดขึ้นมาแล้ว“ผมจะลงไปหรือไม่ลงไปแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณละปา” แทนไทถามขึ้นเสียงเย็น สายตามองหญิงสาวอย่างไม่พอใจ“กะ ก็ปาเป็นห่วงกลัวว่าคุณจะไม่สบาย เมื่อวานปาก็ว่าจะขึ้นมาดูแต่พ่อคุณก็ไม่ยอมเอาแต่บอกว่าคุณไม่เป็นไรอยู่นั่นแหละ เป็นพ่อยังไงไม่ห่วงลูกตัวเองเลยถ้า…”“ปารมี! ที่คุณกำลังว่าอยู่คือพ่อของผม!! คุณลงไปได้แล้ว แล้วไม่ต้องหวังดีเสนอหน้าขึ้นมา
“ไม่ต้องกลัวที่รัก ครั้งนี้ผมจะถนอมคุณให้มากที่สุด เชื่อใจผมนะ” แทนไทเอ่ยปลอบเสียงนุ่ม กานดาพยักหน้าเบาๆ แทนไทยกยิ้มเล็กน้อยอย่างพอใจก่อนจะสวบบบบ!!“อ่า/อืมม” แทนไทกดดันมังกรตัวใหญ่เข้าไปถ้ำแคบทีเดียวสุดความยาว จนทำให้กานดาผวากอดร่างหนาแน่นจะกี่ครั้งก็ไม่ชินสักทีกับความใหญ่และยาวนั้น แทนไทรอจนกานดาพร้อมก่อนจะเริ่มขยับ“อ่า เบาค่ะแทน เบา พี่แทน อ่า”“อ่า แน่นมาก ซี๊ดดด” มือหนาจับสะโพกมนเอาไว้มั่นแล้วกระแทกกระทั้นแท่งใหญ่เข้ามาอย่างหิวกระหาย“อ๊ะ อ๊ะ อ่า อ๊ะ” เสียงหวานครางเสียวออกมาดังลั่นห้อง เธอส่ายหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ทรมานจนไม่รู้จะระบายความเสียวนั้นออกมายังไง มือเล็กจิกเล็บลงไปที่ต้นแขนแกร่งเพื่อระบายความเสียวอีกทางแก่นกายใหญ่สอดใส่เข้าสุดออกสุดอย่างหนักหน่วงรัวเร็วไปตามอารมณ์ความกระสัน ทั้งที่ปากบอกว่าจะถนอมเธอแต่เอาเข้าจริงแทนไทแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่เมื่อด้านในนุ่มของหญิงสาวบีบรัดเอ็นใหญ่จนปวดหนึบแทนไทก้มลงจูบหญิงสาวแนบแน่นดุดันและร้อนแรง ปากหนาขบเม้มเรียวปากบางไล้เลียปากสวยดูดดึงลิ้นเล็กอย่างเอาแต่ใจส่วนล่างยังตอกใส่ร่องสวาทที่คับแคบไม่หยุดหย่อน มือหนาบีบเคล้นอกสวยจนแดง