ตอนที่ 6 หัวใจที่สั่นไหว

ผัวะ! แทนไทเลยให้รางวัลความช่างคิดของเพื่อนด้วยฝ่ามือหนักๆ ลงไปที่หัวคริสหนึ่งที

“โอ้ย โนป่ะเนี่ย” คริสลูบหัวตัวเองปอย ๆ

“สมน้ำหน้า แทนมันไม่ใช่มึงนะ จะได้ไล่ปล้ำชาวบ้านเขา แล้วสรุปว่าไง” แอนโทนี่ว่า แล้วหันมาถามประโยคสุดท้ายกับแทนไท

“เกือบสองปีแล้ว”

“ห๊ะ!!/ห๊ะ!!”

แทนไทถึงกับต้องเอามือขึ้นมาปิดหูตัวเองเมื่อเพื่อนทั้งสองเล่นตะโกนใส่หูแบบไม่ออมเสียง ‘มันไม่คิดว่าหูเขาจะแตกบ้างหรือไงว่ะ’

“อธิบายมาเร็วๆ เลยมึง” คริสพูดขึ้น แทนไทมองหน้าเพื่อนก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ไปที่ห้องทำงาน” แทนไทบอกเสียงเรียบ พร้อมกับลุกขึ้นเดินนำทั้งสองคนไปที่ห้องทำงานของตัวเอง เมื่อประตูห้องปิดลงคริสก็เริ่มชักประวัติความเป็นมาทันที ‘ไม่ค่อยจะอยากเสือกเลยเพื่อนกู’

“อะไร ยังไง อธิบายมาให้หมด”

แทนไทเริ่มอธิบายให้เพื่อนฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งสองนั่งฟังอยู่เงียบๆ ไม่ได้ขัดหรือถามอะไรขึ้นมาจนแทนไทพูดจบ

“แล้วตอนนี้มึงรู้สึกยังไง” แอนโทนี่ถามขึ้นพร้อมกับมองหน้าเพื่อนไปด้วย

“ไม่รู้” แทนไทตอบเสียงเรียบ

“ไม่รู้เนี่ยนะ ไอ้บ้า อยู่กันมาตั้งสองปีนี้มึงไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไง คุณดาออกจะสวยขนาดนั้น แถมยังนอนห้องเดียวกันอีก” คริสว่าเพื่อน ถ้าเป็นเขามีลูกไปนานแล้ว

“อืม ถึงจะรู้สึกดี แต่มันก็ยังไม่ถึงกับรักว่ะ ไม่รู้สิ กูรู้แค่ว่าตอนนี้เขาเป็นคนเดียวที่ทำให้กูรู้สึกสบายใจ” คริสกับแอนโทนี่หันมองหน้ากันก่อนจะเป็นคริสที่ถามขึ้น

“มึงได้เขายัง” แทนไทเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อน

“มึงจะอยากรู้ไปทำไม”

“เหอะน่า” แทนไทเลยพยักหน้าช้าๆ แอนโทนี่มองหน้าเพื่อนด้วยความแปลกใจ

“แทน มึงเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ถ้าไม่รัก หรือไม่อยากจริงๆ มึงจะไม่แตะต้องผู้หญิงเลย” แอนโทนี่พูด

“ถ้ากูบอกว่า…กูโดนวางยาละ”

“เห้ย เล่นงี้กันเลยเหรอ” คริสว่า

“คุณดา?” แอนโทนี่ถาม

“เปล่า…ปารมี”

“ห๊ะ!” คริสถึงกับหลุดอุทานออกมา แอนโทนี่ก็งงไม่ต่างกัน

“เพื่อ?” คริสถาม

“ท้อง” เป็นแอนโทนี่ที่ตอบ คริสหันไปมองหน้าคนตอบทันที พร้อมๆ กับเสียง ‘หึ’ จากแทนไท นั้นเป็นตัวบอกได้อย่างดีเลยว่าสิ่งที่แอนโทนี่พูดเป็นจริง

“ถ้าคนอย่างปารมีถึงกับลงทุนว่ายามึงเพื่อให้มีอะไรกับเธอก็น่าจะเป็นเรื่องนี้ เพราะทางนั้นไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินและที่น่าจะเป็นไปได้ก็น่าจะเกี่ยวกับเรื่องชื่อเสียง” แอนโทนี่พูดในสิ่งที่คิดออกมา

“แต่เดี๋ยวนะ” คริสพูดขึ้น ทำให้ทั้งสองหันไปมอง คริสก็หันมองแทนไทเหมือนกัน

“มึงถูกวางยาอันนี้กูเข้าใจ แต่ที่กูไม่เข้าใจคือ เพราะอะไรทำไมมึงต้องถ่อกลับมาถึงบ้านว่ะ ก็แค่ซื้อเด็กขายสักคนสองคนก็จบป่ะ”

“อืมนั้นสิ” แอนโทนี่พยักหน้าเห็นด้วยกับคริส

“…. เรื่องนั้นมัน” แทนไทเองก็ไม่รู้จะหาคำตอบอะไรมาให้เพื่อน ในเมื่อตัวเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน มันรู้แค่ว่าต้องเป็นคนนี้เท่านั้น

“แล้วอีกอย่าง มึงก็ยังไม่เซ็นใบหย่า ทั้งที่มึงก็น่าจะรู้ว่าถ้าปารมีรู้มันจะเป็นยังไง และที่สำคัญคุณดาก็เซ็นให้มึงแล้วด้วย” คริสพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่แอนโทนี่พูด

“หรือที่จริงมึงเกิดรักภรรยาในนามของมึงเข้าให้แล้ว”

“หรือไม่แน่มึงอาจจะรักคุณดาเข้าให้แล้วก่อนที่มึงจะรู้ว่าปารมีมีคนอื่น” คริสพูดเสริมขึ้นมา

“ใช่ เพราะอาการมึง…”

“มันไม่เหมือนคนอกหัก!” คริสกับแอนโทนี่พูดขึ้นมาพร้อมกัน

“ไม่เหมือนยังไง แล้วพวกมึงรู้ได้ยังไงว่ากูไม่เสียใจ” แทนไทถามขึ้น

“มึงเสียใจหรือแค่เสียความรู้สึกกันแน่ เพราะจิตใต้สำนึกของมึงยึดติดอยู่กับปารมีเลยทำให้เข้าใจอย่างนั้น” นั้นสินะ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาบอกตัวเองเสมอว่าคนที่เขารักคือปารมี แต่ในตอนนี้ตอนที่เสียแฟนสาวไปเขากับรู้สึกว่าไม่ได้เสียใจอย่างที่ควรจะเป็นเพราะเขายังมี…. อีกคนอยู่ข้างๆ

“ใช่ เพราะถ้าเป็นกูนะ ถ้ามินทำกับกูเหมือนที่ปารมีทำกับมึง กูคงไม่มานั่งใจเย็นอยู่อย่างนี้” แอนโทนี่บอก

“มึงรักคุณดาเข้าแล้วไอ้แทน” คริสบอก

“กูยังไม่อยากคิดเรื่องนี้ตอนนี้ว่ะ ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ดีอยู่แล้ว” แทนไทบอก

“อืม ก็แล้วแต่มึง แต่กูขอเตือนอะไรหน่อย ‘อย่ารู้ตัวในวันที่สาย’ เพราะคนที่เสียใจจะเป็นมึงเอง” แอนโทนี่เตือน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ทั้งสามคนหันไปมองที่ประตู ก่อนจะพบกับใบหน้าสวยพร้อมกับรอยยิ้มที่ส่งมาให้

“ยุ่งกันอยู่หรือเปล่าคะ” กานดาถามขึ้น

“เปล่าครับ คุณดามีอะไรหรือเปล่าครับ” คริสถามขึ้น

“ดาจะมาถามว่าให้ตั้งโต๊ะเลยไหมคะ นี่ก็เย็นมากแล้ว” กานดาว่า แทนไทเลยยกนาฬิกาขึ้นมาดูก็พบว่ามันเกือบจะทุ่มหนึ่งแล้ว ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับหญิงสาว

“จะทุ่มหนึ่งแล้วนี่หว่า ไม่น่าละถึงรู้สึกหิวๆ” คริสพูดยิ้มๆ

“ป่ะ ไปกินข้าวกันก่อน” แทนไทบอกพร้อมกับเดินนำออกไปจากห้องไป

หลังจากหลังทานข้าวเสร็จ คริสกับแอนโทนี่ก็ขอตัวกลับระหว่างทานข้าวก็ไม่ได้อึดอัดอย่างที่ควรจะเป็นกานดาคิดว่าชายหนุ่มคงพูดให้ทั้งสองคนเข้าใจสถานการณ์แล้ว

แทนไทหายเข้าไปในห้องทำงานหลังทานข้าวเสร็จทันที กานดาเองก็ไม่ได้ตามชายหนุ่มไปเพราะคิดว่าแทนไทคงอยากอยู่คนเดียวกับตัวเองมากกว่าจึงเลือกที่จะขึ้นไปบนห้องนอน พออาบน้ำเสร็จเธอก็หยิบเอาเอกสารขึ้นมานั่งอ่านรอชายหนุ่มตรงริมขอบเตียง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เห็นว่าอีกคนจะขึ้นมาจนหญิงสาวเผลอหลับไป

แต่ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่ และก็เป็นอย่างนั้น สายตาคมที่ตอนนี้กำลังจับจ้องมาที่เธออยู่นิ่งๆ ก่อนที่เสียงทุ้มแหบจะเอ่ยขึ้น

“ผมทำคุณตื่นเหรอ”

“เปล่าค่ะ ทำไมพึ่งขึ้นมาละคะ” กานดามองไปที่นาฬิกาก็เห็นว่ามันเกือบจะตีหนึ่งอยู่ ชายหนุ่มไม่ตอบเพียงแต่ส่งยิ้มอ่อนมาให้ เธอจึงลุกขึ้นขยับเข้าไปหาชายหนุ่ม

“ไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ จะได้มานอน”

เมื่อขยับเข้าไปใกล้กานดาถึงได้รู้ว่าชายหนุ่มดื่มเหล้ามา จึงบอกให้อีกคนไปอาบน้ำ พร้อมกับเดินไปหยิบผ้ามาส่งให้

แทนไทมองผ้าที่หญิงสาวส่งมาให้แต่ก็ไม่ได้รับมาแต่อย่างใด กลับรวบเอวบางของคนตรงหน้าแล้วดึงเข้าปะทะกับอกแกร่ง ลมหายใจร้อนที่รดอยู่ข้างแก้มเนียนทำเอากานดาตัวแข็งทื่อไปกล้าขยับ

แทนไทมองผ้าที่หญิงสาวส่งมาให้แต่ก็ไม่ได้รับมาแต่อย่างใด กลับรวบเอวบางของคนตรงหน้าแล้วดึงเข้าปะทะกับอกแกร่ง ลมหายใจร้อนที่รดอยู่ข้างแก้มเนียนทำเอากานดาตัวแข็งทื่อไปกล้าขยับ ผิดกับแทนไทที่ได้กลิ่นครีมอาบน้ำจากตัวหญิงสาวยิ่งทำให้ตื่นตัวมากขึ้นบวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป มือหนาเลื่อนขึ้นมาดันปลายคางมนให้เชิดขึ้นพร้อมริมฝีปากหนาที่บดจูบลงมาอย่างอ่อนโยน ลิ้นสากเกาะเกี่ยวลิ้นเล็กไปมาทั่วโพร่งปากหวาน กลิ่นแอลกอฮอล์จากปากหนาทำเอากานดามึนเล็กน้อยจนเผลอจูบตอบ

“อื้ออ” เสียงครางดังขึ้นในคอหนาอย่างพอใจเมื่อหญิงสาวจูบตอบ มือหนาสอดเข้าไปในเสื้อนอนตัวบางลูบไล้แผ่นหลังเนียน ทำให้กานดาสะดุ้งกับสัมผัสวาบหวามและดึงสติกลับมาได้

“คะ คุณแทนหยุดก่อนคะ” กานดาเบื้องหน้าหนีจูบจากชายหนุ่มแล้วบอกให้หยุด มือบางพยายามจับมือหนาให้หยุดแต่เหมือนจะไม่เป็นผล มือหนายังไม่หยุดแถมพอจูบปากไม่ได้อีกคนจึงเปลี่ยนเป็นซุกไซร้คอระคงแทน

“คุณแทนหยุด คะ คุณแทน อ๊ะ!!” กานดาพยายามบอกให้ชายหนุ่มหยุด แต่แทนไททำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพยายามบอกเลย แถมมือหนายังปลดตะขอชั้นในเธอออกด้วย! แถมยังเลื่อนมือข้างหนึ่งมาบีบคลึงหน้าอกเธออย่างแรง ก่อนจะใช้มืออีกข้างออกมากดท้ายทอยเธอเอาไว้แล้วกดจูบลงมา ‘โอ๊ย อยากทำอะไรก็ทำเถอะ’

กานดาเปลี่ยนจากไล่จับมือหนาให้หยุดมาคล้องคอชายหนุ่มแทน จูบตอบปากหนาที่ไล้ดึงลิ้นเธออย่างเอาแต่ใจ

แทนไทดันหญิงสาวไปที่เตียงพร้อมกับจัดการเสื้อผ้าของทั้งสองออกอย่างรวดเร็วจนเปลือยเปล่าทั้งคู่