แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: อักษรสีทอง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-04 17:57:56

กรุ๋งกริ๋ง กริ๊งๆ

 เสียงโมบายดังขึ้นอีกครั้งพร้อมประตูที่เปิดออกทำให้ทั้งสองคนต้องหันไปมองพร้อมๆกันและก็ได้พบกับ...ชายหนุ่มร่างสูง หน้าตาดุดัน ตาคมกริบ หนวดเครารุงรัง ปากงอหงิกจนแทบจะเป็นจวัก ในอ้อมแขนมีเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มแหกปากร้องลั่นแงๆอยู่

“อะ เอ่อ” ประภาพิณรู้สึกเหมือนกรามจะค้างขึ้นมาทันที เพราะดูจากลักษณะของเขาแล้ว ไม่น่าจะมาซื้อดอกไม้เลยสักนิด

“คุณเป็นใคร” ธงชัยถามเสียงห้วนด้วยความหวงผู้หญิงที่เขาหมายปองมา2วันเต็มๆ

“ประภาพิณ คุณต้องมาเลี้ยงเด็กให้ผม!” เสียงห้าวพูดขึ้นมาอย่างไม่คิดจะสนใจตอบคำถามของธงชัยสักนิด

“ห๋า!” ประภาพิณอ้าปากค้างอย่างไม่มั่นใจว่าตัวเองหูฝาดหรือเปล่า

“คุณฟังไม่ผิดหรอก คุณต้องเลี้ยงเด็กคนนี้ให้ผม” เขาย้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะปรายตามาทางธงชัยเล่นเอาหนุ่มน้อยที่เริ่มมีรอยตีนกาขึ้นต้องสะดุ้งโหยง

“ขอโทษครับ คุณเป็นลูกค้าหรือเปล่า” ธัศไนยถามออกมา

“มะ ไม่ใช่ครับ ผมเป็นแค่คนที่เดินผ่านมา และก็กำลังจะผ่านไปครับ” พูดจบ ธงชัยก็หันหลังเดินออกไปจากร้านทันทีโดยไม่คิดจะหันมาอำลาผู้หญิงที่ตนแอบหลงรักมานานถึง48ชั่วโมงเลยสักนิด

ฟึ่บ!

พอลับหลังของชายหัวหงอกแล้ว ธัศไนยก็ชูแผ่นกระดาษขึ้นมาตรงหน้าหญิงสาว ในขณะที่มืออีกข้างก็ยังคงอุ้มเมธากรอยู่แบบนั้น

“อะไรคะ” ประภาพิณทำหน้างงๆ

“คุณเป็นหนี้ผม2ล้านครึ่ง” เขาตอบมา เล่นเอาประภาพิณตาแทบถลนออกมานอกเบ้า มือเรียวรีบฉกแผ่นกระดาษจากมือของเขามาอย่างรวดเร็ว กวาดตามองอ่านสัญญากู้เงินฉบับนั้นอย่างละเอียด แล้วใบหน้างามก็เริ่มซีดลงเรื่อยๆจนแทบจะไม่มีสีสัน

“เป็นไปไม่ได้”

“แต่มันคือเรื่องจริง คุณเป็นหนี้ผม2,500,025บาทถ้วน แต่ว่าผมใจดี เศษอีก25บาท ผมไม่เอา”

“ฉันไปเป็นหนี้คุณได้ไง”

“พ่อคุณเป็นหนี้ผม” เขาย้ำต่อเสียงดังฟังชัด

“ไม่จริง”

“พ่อคุณติดการพนัน”

“แต่พ่อฉันตายแล้ว”

“ใช่ เมื่อพ่อคุณตายแล้ว คุณก็ต้องใช้หนี้แทนสิ หรือว่าคิดจะเบี้ยวผม งั้นผมจะฟ้องคุณ” เขาขู่ด้วยน้ำเสียงเอาจริง

“มะ ไม่นะ”

“งั้นคุณต้องช่วยผมเพื่อล้างหนี้”

“จะให้ฉันช่วยอะไร” หญิงสาวถามเสียงสั่น ความกล้าที่เคยมีพลอยหดหายไปหมดเมื่อสบกับดวงตาดำดุคู่นั้น

“คุณต้องช่วยผมเลี้ยงเด็กคนนี้” เขาชี้นิ้วไปที่หัวกลมๆของเด็กน้อยวัยหกเดือน

“แต่ฉันมีงานต้องทำนะ”

“คุณก็ปิดร้านขายดอกไม้แล้วไปอยู่ที่บ้านผมสิ” เขาพูดอย่างเอาแต่ใจตัวเอง

“ไม่ได้ กว่าร้านของฉันจะเติบโตมาได้ รู้มั้ยว่าฉันเหนื่อยแค่ไหน ฉันไม่มีทางทิ้งมันไปแน่ๆ เงิน2ล้าน ฉันจะหามาใช้คุณทีหลัง”

“แล้วเมื่อไหร่ล่ะ คุณถึงจะหาเงิน2ล้านมาใช้ผมได้”

“ฉันขอเวลา1ปี”

“ไม่ได้ ตั้ง1ปีเชียวเหรอ พ่อคุณติดหนี้ผมมา4ปีแล้วนะ”

“งั้นฉันขอเวลา11เดือนครึ่ง” ประภาพิณพยายามต่อรอง น้ำเสียงเริ่มสั่นเครือ

“ไม่ได้ คุณต้องจ่ายเงินให้ผมตอนนี้ ถ้าจ่ายตอนนี้ไม่ได้ก็ต้องมาเลี้ยงเด็กใช้หนี้ให้ผม”

“ฉันจะไปหาเงินมาจากไหนตั้ง2ล้าน”

“2ล้านครึ่งต่างหาก ไม่ใช่แค่2ล้าน งั้นผมให้เวลาคุณ1เดือน ถ้าหาเงินมาให้ผมไม่ได้ คุณต้องมาอยู่ที่บ้านผมแล้วก็เลี้ยงเด็กคนนี้ให้ผม” เขาพูดเสียงห้าวดุดัน ดวงตาเป็นประกายเอาจริงจนหญิงสาวต้องหลบสายตา รู้สึกตัวสั่นขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“อีก1เดือนผมจะมารับเงิน” เขาพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไปพร้อมเมธากร ทิ้งไว้แต่ความเงียบงัน ร่างบางค่อยๆทรุดลงไปนั่งกองกับพื้น เธอจะไม่ร้องไห้หรอกนะ แต่เธอรู้สึกปวดหัวเหลือเกิน ปวดจนแทบจะระเบิด

ปากจิ้มลิ้มเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความคิดที่หมกมุ่น…เธอเคยได้ยินพ่อพูดไว้ก่อนตายเหมือนกันว่าไปสร้างหนี้เอาไว้ แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าหนี้ของพ่อจะมากมายถึงขนาดนี้

เธอรักร้านดอกไม้แห่งนี้เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอ แล้วอยู่ๆจะให้ทิ้งมันไปกลางคันเพื่อไปเลี้ยงเด็กให้เขาอย่างนั้นหรือ เป็นไปไม่ได้!

จะไปต่อว่าเขา เขาก็ไม่ผิดเสียด้วยสิ เพราะพ่อเธอไปติดหนี้เขาไว้จริงๆ หลักฐานที่เขาเอามายื่นให้ดูเป็นหลักฐานยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเขาพูดจริง นับว่าเขายังดีกับเธออยู่มาก เพราะเขาบอกว่าถ้าเธอไม่มีเงิน เธอจะต้องไปเลี้ยงเด็กให้เขา ไม่ได้เอาปืนมาขู่ทวงหนี้อย่างที่เคยเห็นในละคร แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ...เขาจะใช้ให้เธอดูแลเด็กไปกี่เดือนหรือ...กี่ปีนี่สิ กว่าจะหมดหนี้2ล้านกว่า แล้วเธอจะทิ้งร้านดอกไม้ไปได้ยังไงกันเพราะนี่คืออาชีพของเธอ!

“เฮ้อ” เสียงถอนหายใจถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากสีชมพู ร้านที่มีดอกไม้มากมายสดใสมาตอนนี้กลับดูมืดหม่นเพราะเจ้าของร้านดูซึมเศร้าโดยเฉพาะดวงตาคู่สวยที่หมองลงจนสิ่งรอบข้างพลอยไร้ชีวิตชีวาไปด้วย

“เงียบๆโอ๋ๆๆ” ธัศไนยนั่งโอ๋เมธากรอยู่บนพื้นซึ่งปูกระเบื้องสีขาวลายดอกไม้กระจุ๋มกระจิ๋มเอาไว้ แต่ใบหน้าคมกลับบูดบึ้ง เขาชอบใช้ชีวิตอยู่คนเดียว นับตั้งแต่พ่อแม่ตาย เขากับไชยวัฒน์ก็ขายบ้านหลังใหญ่ น้องชายเขามีที่ดินอยู่แถวกรุงเทพที่พ่อยกให้ จึงได้ไปอยู่ที่นั่น ส่วนเขาก็มาสร้างบ้านชั้นเดียวแต่กว้างขวางอยู่ใกล้ๆภูเขา ที่นี่เป็นจังหวัดเดียวกันกับที่พ่อแม่เขาเกิด เขาจึงรักที่นี่มากและไม่คิดจะย้ายไปอยู่เมืองหลวงเหมือนผู้เป็นน้องชาย

เขาเคยอยู่คนเดียว มีสุราบ้างนิดๆ มีสาวๆมาพัวพันพอสมควร แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะตกลงปลงใจกับใคร ยังคงครองความโสดต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งน้องชายโยนภาระตัวน้อยมาให้เขาเลี้ยงดู แล้วเขาจะทำยังไงล่ะทีนี้ เขาเลี้ยงเด็กไม่เป็น ถ้าจะให้เขาไปจ้างใครมาเลี้ยง เขาก็กลัวว่าลูกจ้างจะเลี้ยงหลานของเขาได้ไม่ดีพอ แต่ถ้าจะให้สาวๆที่ตามจีบเขามาช่วยเลี้ยงให้ เขาก็รักความสันโดษในบ้านหลังนี้เกินกว่าจะให้ใครเข้ามายุ่มย่ามได้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เสน่ห์รักร้ายคุณพ่อมือใหม่   บทที่ 76

    “เหนื่อยมั้ยคะ”เขาหันมามองหน้าเธอก่อนจะตอบเสียงเศร้าๆว่า“ไม่เหนื่อยหรอก ไอ้เอกมันติดยาน่ะ”“อะไรนะคะ!” ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ “ทำไมพี่เอกเขาถึงได้…”“เขาสารภาพออกมาหมดแล้วว่าแวววรรณกลับมาขอคืนดีกับเขาแล้วก็ทิ้งเขาไปอีกครั้ง เขาเลยทั้งเสียใจทั้งผิดหวัง ตอนนั้นมีคนมาเสนอยาบ้าให้เขา เขาเลยลองกินดูเพราะคิดว่าคงไม่ติด แต่ที่ไหนได้…เขาดันติดงอมแงม แล้วเรื่องที่เขามาปล้ำคุณน่ะ เพราะแววจ้างเขาด้วยยาบ้ายี่สิบเม็ดน่ะ”“ตายจริง…ไม่น่าเลยนะ เพราะยาบ้าแท้ๆ” หญิงสาวทำเสียงสลด“ตอนนี้ตำรวจเขาก็ไปจับแววแล้ว เพราะแววเป็นคนบงการ แถมยังมียาบ้าไว้ในครอบครองอีกหลายเม็ด คนรักของแววคนล่าสุดก็ตีตัวออกห่างไปแล้วพอรู้ว่าแววโดนตำรวจจับน่ะ”“เฮ้อ” ประภาพิณถอนหายใจออกมาอย่างเศร้าๆ ในขณะที่มือใหญ่จับคางเธอให้แหงนหน้าขึ้น“ก่อนที่ผมจะกลับบ้าน ผมขอจูบทีหนึ่งได้มั้ย” เขาขออนุญาต ยังไม่ทันที่เธอจะตอบอะไรออกมา ริมฝีปากร้อนๆก็แนบประกบเข้าที่เรียวปากอิ่มอย่างแผ่วเบาและเว้าวอน“แฟนรักคุณนะคะ” เธอบอกเมื่อเขาถอนจุมพิตออก ในขณะที่เขาลุกขึ้นยืนแล้วรั้งต้นแขนเธอให้ลุกขึ้นด้วย“พอผมไปแล้ว อย่าลืมลงกลอนให้แน่นหนานะ แล้วพ

  • เสน่ห์รักร้ายคุณพ่อมือใหม่   บทที่ 75

    เธอคิดไว้แล้วไม่มีผิดว่าสักวันพีระดาจะต้องรักภีรวัทน์ และก็เป็นอย่างที่เธอคิดเอาไว้จริงๆว่าพีระดาคิดจะล้อล่นกับความรู้สึกของตัวเอง แล้วเป็นไงล่ะ...ผลสุดท้ายก็ต้องมารักเขาเพราะความใกล้ชิด แต่เธอคิดว่าพีระดากับภีรวัทน์ก็ดูเหมาะสมกันดี ที่สำคัญ..ในวันแต่งงาน เธอดูออกว่าภีรวัทน์แคร์เพื่อนสาวของเธอมากขนาดไหน บางที...ภีรวัทน์อาจจะรู้สึกเดียวกันกับพีระดาในตอนนี้ก็ได้//ฮือๆๆ// พีระดาไม่ตอบ มีแต่เพียงเสียงสะอื้นไห้ที่ดังแว่วมาทางสายโทรศัพท์จนประภาพิณชักจะเริ่มรู้สึกหนักใจแทน“งั้นอีก1ปีแกก็ต้องเลิกกับเขาน่ะสิ แกควรจะบอกเขาไปตรงๆเลยนะว่าแกรู้สึกยังไงกับเขา อย่าปล่อยเวลาให้มันผ่านไปเฉยๆไม่งั้นแกอาจจะต้องเสียใจ”//เขาไม่ยอมทำตามสัญญา// พีระดาพูดด้วยเสียงสะอึกๆ เสียงสูดจมูกดังฟืดฟาดชวนให้นึกเวทนา“ห๋า ไม่ทำตามสัญญา”//ใช่ ไม่ทำตามสัญญา เขาฉีกสัญญาทิ้ง บอกว่าจะให้ฉันอยู่กับเขาต่อไป//“งั้นแกก็ควรจะดีใจสิที่เขาอยากอยู่กับแก แกจะมาร้องไห้คร่ำครวญเพื่อ?”//เขาแค่หวงฉัน ไม่ใช่ว่ารักถึงได้หวงนะ แต่เป็นเพราะ...เขาเห็นฉันเป็นแค่ของชิ้นหนึ่ง ไม่อยากให้ฉันไปตกเป็นของคนอื่น ความสำคัญของฉันมีแค่นี้จริงๆ//“เ

  • เสน่ห์รักร้ายคุณพ่อมือใหม่   บทที่ 74

    โครม!บานประตูห้องนอนถูกถีบออกอย่างแรงก่อนที่คอเสื้อของอเนกจะโดนมือใครคนหนึ่งลากขึ้นมาจากร่างงามที่เขากำลังจะหาความสุขด้วยยังไม่ทันที่อเนกจะได้เห็นหน้าคนที่กล้ามาคว้าคอเสื้อเขา หมัดหนักๆก็ถูกต่อยเข้ามาที่ใบหน้าอย่างแรงจนร่างผอมบางเซแซ่ดๆไปปะทะกับผนังห้อง“คุณธัศ ช่วยแฟนด้วย” ประภาพิณพูดด้วยเสียงสั่นๆพลางพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่งทั้งๆที่ยังจุกอยู่ที่ท้องน้อยตาคู่คมตวัดมามองประภาพิณชั่วแว่บหนึ่งก่อนจะยกเข่ากระแทกที่ท้องของอเนกอย่างเดือดดาล พร้อมกับศอกที่กระแทกเข้าที่ศีรษะอเนกอย่างจัง“เมื่อก่อนฉันเห็นนายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง แต่มาวันนี้…นายกลับมาปล้ำแฟนฉัน ฉันไม่ปล่อยให้นายรอดแน่ เอก”น้ำเสียงนี้อเนกจำได้ดีว่าเป็นเสียงใคร…ชายหนุ่มค่อยๆทรุดลงไปกองอยู่ที่พื้นในสภาพหมดหนทางต่อสู้ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองหน้าหล่อเหลาของอาจารย์วิทยาศาตร์ที่กำลังมองเขาอย่างบูดบึ้ง“อะ ไอ้ธัศ”“เออ ฉันเอง ทำไมนายถึงทำแบบนี้วะ” ธัศไนยถามเสียงตะคอก ก่อนจะหันไปทางประภาพิณที่นั่งหน้าซีดเผือดอยู่บนเตียง“คุณแฟน โทรหาตำรวจ”“แต่ว่าเขาเป็นเพื่อนคุณ”“ผมบอกให้โทรก็โทรไปสิ” ชายหนุ่มเริ่มเสียงดัง เล่นเอาหญิงสาวต้อง

  • เสน่ห์รักร้ายคุณพ่อมือใหม่   บทที่ 73

    16.42น.“แฟนจ๋า เราจะมีลูกด้วยกันกี่คนดีครับ” ธัศไนยนั่งสวีตหวานอยู่กับประภาพิณในร้าน beautiful flower มือใหญ่จับกุมมือบางแล้วใช้หัวนิ้วโป้งคลึงหลังมือเธอเบาๆ ตาคมหวานเชื่อมมองหญิงสาวอย่างแสนรัก“สองคนดีมั้ยคะ”“จะดีเหรอ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงอย่างไม่เห็นด้วย“ทำไมจะไม่ดีล่ะค่ะ ผู้ชายหนึ่งคน ผู้หญิงหนึ่งคน”“แต่ผมว่ามีลูกสักโหลนึงเลยก็ดีนะครับ” เขารั้งร่างบางมาพิงอกกว้างพร้อมจูบขมับหญิงสาวเบาๆ“โห ตั้งโหลนึงเชียวเหรอคะ เยอะเกินไปหรือเปล่า แฟนไม่ไหวหรอกค่ะ” เธอส่ายหน้าหวือ พูดอู้อี้“แต่ผมทำไหวนะ” เขาพูดอย่างเจ้าเล่ห์ ทำให้เธอต้องเงยหน้าออกจากอกหนาแล้วขว้างค้อนใส่เขาอย่างมีจริต“มีโหลนึง คุณคงจนกันพอดี”“ไม่จนหรอกน่า อย่างน้อยผมก็มีเงินเลี้ยงคุณและลูกให้มีความสุขได้ไปจนกว่าจะตาย ไม่มีทางปล่อยให้คุณลำบากแน่ๆ” เขาพูดเสียงหนักแน่น“เซี้ยว”“เซี้ยวที่ไหน ผมพูดตามความเป็นจริงนะ แต่ผมจอให้คุณสัญญากับผมสักข้อได้มั้ยครับคุณแฟน” เขาเอ่ยขอเสียงนุ่ม“ขออะไรคะ”“ถ้าแต่งงานกับผมแล้ว คุณห้ามมีสามีน้อยโดยเด็ดขาด”“อีตาบ้า ใครเขาจะมีสามีน้อยกัน” เธอหยิกหน้าอกเขาแรงๆจนชายหนุ่มร้องลั่น ก่อนที่หน้าคมจะตีหน

  • เสน่ห์รักร้ายคุณพ่อมือใหม่   บทที่ 72

    ทันทีที่อเนกกลับถึงบ้าน เขาก็ต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่อเห็นรถคันหรูมาจอดอยู่หน้าประตูบ้านของเขา ก่อนที่คนในรถจะเปิดประตูออกมา“แวว…” อเนกเรียกชื่อเธอเสียงแผ่ว มองหน้าสะสวยที่มีแว่นสีดำอันใหญ่ปกปิดอยู่อย่างเจ็บปวด“ใช่ค่ะ ขอบคุณที่ยังจำแววได้” แวววรรณเหยียดปากอย่างเยาะหยัน กวาดตามองอเนกอย่างสมเพซ“ผมไม่ได้ความจำเสื่อมนี่ครับ จะได้ลืมอะไรง่ายๆ ไม่เหมือนคุณหรอก พูดอะไรก็ลืม…”“ตายจริง นี่คุณหลอกด่าแววเหรอคะ” แวววรรณยกมือทาบอกอย่างมีจริต“แล้วแววเป็นอย่างที่ผมว่าหรือเปล่าล่ะครับ” ย้อนถามอย่างเจ็บแสบแต่แวววรรณไม่อยากถือสา เพราะ…ความแค้นที่เธอมีอยู่ตอนนี้มันสำคัญมากกว่าการต่อล้อต่อเถียงกับอดีตคู่นอนอย่างเขา“วันนี้แววมีเรื่องจะมาคุยกับคุณค่ะ”“นั่นสินะ ถ้าไม่มีธุระ คุณคงไม่มาหาผมหรอก”“คุณเลิกด่าแววสักทีได้มั้ยคะ” แวววรรณเริ่มขึ้นเสียงสูงอย่างไม่พอใจ“ผมไม่ได้ด่า ผมพูดความจริง”“ความจริงของคุณ แววไม่อยากฟัง”“ ถอยไป ผมจะเข้าบ้าน” อเนกผลักร่างอวบอิ่มที่เขาเคยหลงใหลในอดีตให้พ้นทางพร้อมกับไขกุญแจประตูบ้านแล้วเปิดออก“แต่แววมั่นใจว่าคุณจะต้องสนใจในสิ่งที่แววมาเสนอ” แวววรรณเดินตามเขาเข้าไปในบ้า

  • เสน่ห์รักร้ายคุณพ่อมือใหม่   บทที่ 71

    “ว้าย! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะคะคุณธัศ”“ไม่เอา ผมคิดถึงคุณจะแย่ รู้มั้ย?”“ฉันจะกลับแล้วนะคะ มันมืดแล้ว คุณไม่เห็นเหรอไง”“คุณนอนที่นี่ก็ได้นี่นา” เขาทำเสียงออดอย่างเอาแต่ใจ“ไม่ได้แล้วค่ะ เพราะตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นพี่เลี้ยงเด็กเหมือนเคย จะให้มาอยู่ที่บ้านคุณได้ไง เห็นฉันเป็นผู้หญิงใจง่ายเหรอคะ”ได้ฟังประโยคนี้เข้าไป ชายหนุ่มก็ถอนหายใจเฮือกอย่างยอมจำนน“โอเคๆ ผมยอมก็ได้ แต่ว่าคุณต้อง…” เขาเริ่มมีเงื่อนไขเล่นเอาประภาพิณต้องถามกลับอย่างหวาดระแวง“แต่ว่าอะไรคะ” เธอช้อนตาขึ้นมองเขา“แต่ว่า…จูบผมก่อนสิ แล้วจะปล่อย”“ไม่เอาหรอก ตาบ้า” เธอเบือนหน้าไปอีกทางอย่างขัดเขิน“ก็ตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้วนี่นา แค่จูบเองนะ นะครับ” เขาอ้อนเสียงอ่อน ตาคู่คมพราวระยับจนหญิงสาวใจอ่อนยวบ“ก็ได้ค่ะ” เธอพูดพร้อมโน้มต้นคอเขาให้ก้มลงต่ำมากขึ้นแล้วยกศีรษะขึ้นจุมพิตปากเขาเบาๆแล้วรีบถอยหน้าออกห่าง“ปล่อยฉันได้แล้วค่ะ”“เดี๋ยวสิ เรียกตัวเองว่าแฟนก่อน” เขายังมีเงื่อนไขอีกข้อ ทำเอาหญิงสาวตีหน้าบูด“เอาน่า อย่าหน้างอสิครับ น่านะ เรียกตัวเองว่าแฟน ผมว่ามันฟังดูน่ารักดีออกนะ” เขาก้มหน้าลงพูดใกล้ๆเธอโดยไม่สนใจสักนิดว่าร่างบางที่เข

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status