คัทลียา กำลังคบหาดูใจกับ ชฎายุ และกำลังจะพาเขามาให้พ่อแม่ และทุกๆ คนที่บ้านได้รู้จักว่า ตอนนี้เธอได้เริ่มมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว
หญิงสาวพาแฟนหนุ่มมาบ้าน ในวันหยุด พ่อแม่ของเธอพยักหน้ายิ้มแย้ม เนื่องด้วยชฎายุเป็นคนรูปร่างภาพลักษณ์ดี พูดจาสุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน และพวกเขาเห็นควรว่าชฎายุคบกับคัทลียาได้
วันนี้ญาติของคัทลียา แวะมาเยี่ยมพ่อแม่ เนื่องด้วยพวกเขาเป็นญาติ และเป็นพี่น้องกันที่อาศัยอีกจังหวัดหนึ่ง เนื่องด้วยวันหยุด ญาติของคัทลียาจึงแวะมาเยี่ยมเยียนที่บ้านเธอด้วย
น้าสาวและอาหนุ่ม กำลังจะย้ายบ้านมาอยู่ใกล้ๆ บ้านคัทลียา ก็เลยแวะมาบอกให้พ่อแม่ของเธอทราบว่า พวกเขาได้ทำการติดต่อโครงการหมู่บ้าน ซื้อบ้านระแวกไม่ไกลมากจากบ้นของพวกเธอ
หญิงสาวลูกโทน มั่นใจในตัวเองสูง แวะมาทักทายกับคัทลียา ราวกับไม่ได้เจอกันเสียนาน พวกเธอดีใจเหลือเกินที่ได้กลับมาเจอกันอีก...
“แคท! คิดถึงจังเลย” หญิงสาววิ่งเข้าไปสวมกอดพี่สาว เธอเป็นลูกพี่ซึ่งเคยเล่นด้วยกันสมัยเด็กกับเธอ
“แวนด้า! นี่สวยขึ้นเยอะเลยนะ คิดถึงเหมือนกัน ไม่ได้เจอกันเสียนาน” แวนด้าเป็นลูกน้องกับคัทลียา พวกเธอรักกันราวกับพี่น้องจริงๆ จังๆ
“นั้นใครอ่ะ?” แวนด้าหันไปถาม พลางสอดส่ายสายตาไปเห็น เพราะเห็นท่าทางจะสนิทกับคัทลียาเป็นพิเศษ
“นี่แฟนพี่จ้า แวน... ชฎายุจ้า” คัทลียาแนะนำเขาให้น้องสาวรู้จัก แวนด้าจึงยกมือไหว้สุภาพ หน้าตาอ่อนหวาน ใจชายหนุ่มรู้สึกเหมือนละลาย กับความงามของดอกกล้วยไม้อีกคนหนึ่ง... ชื่อของพวกเธอก็น่ารัก
“เรียกพี่ยุ ก็ได้นะ น้องแวนด้า” ชายหนุ่มยิ้มหวานสุภาพ ยกมือรับไหว้ต่อหน้าพ่อแม่ และน้าอาของคัทลียา
“พวกเด็กๆ ทักทายรู้จักกันเร็วนะ ยังไงๆ ก็ว่างๆ แวะมาเยี่ยมบ้างนะ ย้ายมาอยู่ใกล้ๆ อย่างนี้ ดูแลง่ายขึ้น” พ่อแม่ของคัทลียา ออกความเห็นพ้องต้องใจ การที่ญาติย้ายบ้านมาอยู่ใกล้ๆ ทำให้แวนด้าต้องย้ายสถานที่ลงเรียนมหาวิทยาลัยมาด้วย
“ครับ ถ้างั้นพวกเราก็คงต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ พี่สาวพี่ชาย... กลับบ้านใหม่เรากันเถอะ แวนด้า” พ่อแม่ของแวนด้ากล่าวลา พร้อมยกมือไหว้พ่อแม่ของคัทลียาที่คอยให้ความช่วยเหลือมาตลอด
พวกเขาต่างทยอยเดินออกจากบ้าน แวนด้าจูงมือคัทลียา ในขณะที่สายตาแอบลอบมองชฎายุ ยืนอยู่ข้างหลังคัทลียา
“ว่างๆ มาเล่นที่บ้านพี่บ้างนะ เหมือนสมัยก่อนไง แวนด้า” คัทลียาทิ้งท้ายก่อนจะปล่อยให้น้องสาว สวมกอดอีกครั้งและกลับบ้าน
“สัญญานะ ว่าเราจะเหมือนเดิม” แวนด้ายิ้มแย้ม และโบกมือลา คัทลียาพยักหน้าโดยไม่ได้คิดอะไร
“รักกัน... ก็คบกันนานๆ นะดูแลแคทให้ดีๆ ล่ะ” พ่อแม่ของคัทลียา หันมาสนใจชฎายุอีกครั้ง อวยพรให้คัทลียาคบหากับชายหนุ่มกันอย่างดี
“ขอบคุณค่ะ/ครับ” คัทลียาและชฎายุตอบรับพร้อมกัน
******
พ่อแม่ของคัทลียาต้องไปธุระนอกบ้าน เลยปล่อยให้พวกเขาสองคนอยู่ในบ้านชั้นล่าง โดยหารู้ไม่ว่า คัทลียาเห็นรถยนต์ของพ่อแม่ลับสายตาไป เธอเดินกลับเข้ามาในบ้าน ปิดประตูล็อคอย่างดี เปิดแอร์เย็นๆ แล้วเปิดทีวีเสียงดังๆ
เครื่องดื่มแอลกอฮอร์และขนมของกิน ประดาหน้ามากมาย คัทลียาและชฎายุใช้เวลาด้วยกันภายในบ้าน และสิ่งที่หญิงสาวรอคอยก็มาถึง เพราะหัวใจของเธอเต้นแรง พลางสบตากับแฟนหนุ่มอย่างสุขใจ ในเมื่อพ่อแม่อนุญาตให้คบหากัน
ความต้องการภายในใจของคัทลียา ยิ่งมากเพิ่มทวี สองแขนชายหนุ่มดึงกายเบื้องบนแฟนสาว เข้าหากายหนุ่มเพื่อสวมกอด เรือนหน้าเธอเงยรับกับ ริมฝีปากหนาร้อนอุ่น กำลังบดเบียดดูดดื่ม โลมไล้ด้วยความใคร่กำลังก่อตัว
สองแขนหนาโอบกอดเธอรัดแน่น และสองแขนบอบบางกำลังกอดเขาตบ ปลายนิ้วเรียวเล็กๆ จิกกับเนื้อเสื้อผ้าชายหนุ่ม เพราะรู้สึกดีเหลือเกิน เมื่อชฎายุกำลังสอดลิ้นสาก มาในโพรงปากเล็กเธอ
“ยุ! ... เค้าอยากกอดยุนานๆ” คัทลียาละริมฝีปากเล็กน้อย และพูดในสิ่งที่เธอต้องการ อารมณ์คุกกรุ่นจนแทบเพ้อคลั่ง ด้วยอารมณ์ที่ร้อนแรง แววตาเธอพรางเลือน มองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างจดจ่อ รอคำตอบจากเขา...
“นี่บ้านแคทนะ เกรงใจพ่อแม่จัง” ชฎายุเองก็ตื่นเต้น แต่กลัวว่าหากพ่อแม่เธอวกกลับมา เจอแบบนี้ คงจะโกรธเขามากจนอาจจะบังคับให้เลิกกัน เพราะกำลังจะชิงสุกก่อนห่าม
“พวกเขาไม่กลับมาหรอก กว่าจะกลับอีกทีก็โน้นเกือบจะตะวันขึ้นอีกวัน ทำให้แคทมีความสุขนะ... น๊า...!” หญิงสาวรบเร้า เพราะต้องการเขาสอดใส่องคชาติ อย่างที่เคยทำในมหาวิทยาลัย
เธอจำวันนั้นได้ เมื่อเขาจับเธออุ้มกายบางไว้ ช้อนท่อนแขนไว้ใต้หัวเข่าเธอ อุ้มเธอตัวลอยอย่างงายดาย และสอดท่อนเนื้อองคชาติเข้ามาภายในกายเธอ เขย่าสะโพกแคบแทรกใกล้ช่วงต้นขาล่าง กระแทกท่อนเนื้อยาว ดันเข้าร่องสวาทเธอ ลึกจุกเสียดเสียน้ำแตกใน... คัทลียาต้องการมันอีก!
“ถ้าเช่นนั้น... ผมจะทำตามความต้องการให้แคท” ชฎายุยิ้มกรุ่น ลงน้ำหนักริมฝีปากบดเบียด ลากอารมณ์หญิงสาว โหมกระหน่ำร้อนรุ่มหนักขึ้นไปอีก เขาดันกายเธอนอนราบกับพื้นห้องรับแขก กระเบื้องที่แสนเย็นเฉียบ อาจจะรับมือความร้อนจากกายพวกเขาทั้งสองคน... ก็เป็นได้
******
หลังจากนางสร้อยเงินเดินทางกลับมาถึงบ้าน พบเห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ภายในห้องขอตัวเอง โดยไม่ออกมาด้านนอกตามที่ตนสั่ง นางสร้อยเงินแวะไปเยี่ยมนายปวรุตม์เสียหน่อยว่ากำลังทำงานอยู่หรือเปล่าพบเห็นว่าชายหนุ่มดังกล่าว กำลังนั่งปอกเปลือกมะพร้าว และกำลังผ่าฟืนตามสั่ง เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้นางสร้อยเงิน ทำอาหารมื้อเย็นและเช้าวันถัดไป“ทำงานอยู่รึ ระวังมีดบาดนะ”“ครับ ผมทำงานใกล้จะเสร็จแล้วครับ” ปวรุตม์ยิ้มแย้มก่อนจะตั้งใจทำงานต่อไป แววตาของนางสร้อยเงินมองชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ ระหว่างที่ไม่อยู่นางน่าจะพากลิ่นจันทร์ไปด้วย แต่อยากให้ลูกสาวประหลาดใจ เมื่ออีกไม่กี่วันบิดาของเธอจะกลับมาวันเวลาผ่านไปราวอาทิตย์หนึ่ง ปรากฏร่างของชายหนุ่มสูงวัย เดินทางมาถึงบ้านของนางสร้องเงิน ปวรุตม์กำลังขุดดินปลูกต้นไม้อยู่ข้างบ่อน้ำ เขาถอดเสื้อสวมผ้าถุงสีทึบเพียงชิ้นเดียว ปวรุตม์พบเห็นร่างของชายดูดีมีภูมิฐาน เขารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด หน้าตาก็คล้ายๆ กับกลิ่นจันทร์“ไอ้หนุ่ม... เอ็งเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านข้าวะ?” แววตาที่ดุดันมองมายังชายหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจ“สวัสดีครับ ผมชื่อ ปวรุตม์ คุณส
หลังจากนั้นเป็นต้นมา... ปวรุตม์จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า ทำตัวกลมกลืนกับคนที่บ้านของกลิ่นจันทร์ ช่วยเหลืองานบ้าน และงานสวน ทำให้สร้อยเงินรู้สึกพอใจว่า ชายแปลกหน้าจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาบ้านยายแสงดาวไม่เจอ กลายเป็นคนงานคนสวนไปโดยปริยายชายหนุ่มอาศัยอยู่ในเรือนรับรองเล็กๆ อีกแห่งของเขตบ้าน เพราะนางสร้อยเงินไม่ยอมให้อยู่ในบ้านเดียวกับลูกสาว หวังว่าจะไหว้วานผู้ใหญ่บ้าน ช่วยเขียนจดหมายไปบอกสามีในเมืองว่า ช่วยแวะกลับมาบ้าน เรื่องไอ้หนุ่มกรุงเทพฯ มาอาศัยอยู่ในบ้าน“แม่เดินทางปลอดภัย โชคดีนะจ๊ะ” หลังจากที่แอบลักลอบได้เสียกับปวรุตม์ เธอระมัดระวังตัวมิให้มารดารู้ว่า ลูกเสียสาวไปแล้วกับชายแปลกหน้า แต่เขาทำให้กลิ่นจันทร์มีความสุขยามเมื่อได้สวมกอด และบางสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล“แม่จะรีบไปรีบกลับนะ อยู่ดูแลบ้านดีๆ ล่ะ” นางสร้อยเงิน ใช้แรงงานทาสขับเกวียนไปส่งนางที่บ้านผู้ใหญ่ หวังจะขอให้ผู้มีความรู้เขียนจดหมายส่งไปให้สามีทราบเรื่องที่บ้านทีหลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน กลิ่นจันทร์จึงเดินไปที่เรือนรับรองของปวรุตม์ เพื่อขอมีอะไรด้วยกันเพราะความคิดถึงมากมาย...ชายหนุ่มกำลังรอเวลานี้ที่จะได้อยู่กับกลิ่นจันท
เรือนกายหญิงสาวยืนพิงหลังต้นไม้ใหญ่ บดบังเรือนร่าของเธอและปวรุตม์ให้พ้นสายตาใครอื่น สองแขนหญิงสาวซึ่งกันเอาไว้ระหว่างอกเขาและกายบางได้ลดลง แขนบางทั้งสองโอบกอดตอบรับชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้ปวรุตม์ดีใจเหลือเกินเมื่อเธอยินยอมเขาแล้ว มือของชายหนุ่มทั้งสองจึงทำงานปลดตะขอกางเกง ทำให้แววตาหญิงสาวตกใจว่า นี่เขาจะแก้ผ้าทำไมกันนะ...“ปวรุตม์ คุณจะทำอะไรรึ?” เธอไม่เข้าใจว่า เขากำลังทำอะไรแปลกๆ ออกมา หลังจากบอกรักเธอ ต้องแก้ผ้าด้วยรึ?“ผมอยากได้คุณ ปลดผ้าถุงสิ” เขาบอกให้เธอทำบ้าง หญิงสาวยังรู้สึกสับสนว่า ทำไม แต่ถ้าลองดูก็อาจจะคลายความสงสัยได้บ้างเพียงช่วงล่างเปล่าเปลือยปวรุตม์ไม่เห็นมีที่ร่วมรักใดได้ คิดเสียว่าคงต้องเลือกท่ายืนนอกสถานที่ในป่าลับเช่นนี้เขาโอบอุ้มเธอเอาไว้ใต้สองแขน ทำให้กายบางหญิงสาวลอยสูง ปลายเท้าไม่แตะพื้นและช่วงต้นขาของเธอต้องกางออก เพราะเขาดึงร่างบางเข้าหาชายหนุ่ม เรือนหน้าหญิงสาวตกใจและหน้าแดงก่ำ เธอรู้สึกอายจริงๆ“อย่าตกใจนะ กลิ่นจันทร์... ผมจะทำให้คุณรู้สึกดีเอง” ชายหนุ่มพยายามกระซิบข้างหู มิให้เธอตกใจดิ้นหลุดจากแขนเขา เธอกลัวจนตัวสั่น ระหว่างถูกดึงเข้าหาร่างชายหนุ่ม ต้นข
หลังจากเขาแนะนำตัวเองกับแม่ของกลิ่นจันทร์ เธอชื่อสร้อยเงิน กำลังทำอาหารกับทาสสองคน สีหน้าของเธอไม่ค่อยไว้ใจที่มีผู้ชายแปลกหน้ามาคุยกับลูกสาว“แม่ อย่าไปว่าเขาสิ เขาคงหลงทางมาถึงบ้าน ถามหายายแสงดาว แม่พอจะรู้จักคุณยายแสงดาวไหม” กลิ่นจันทร์ถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม คิดว่าหากช่วยเหลือเขาไปแล้ว เธอกับแม่จะได้บุญ และเขาคงจะไปทำธุระเรื่องครอบครัวได้เสียที“โอ๊ย...อยู่มาตั้งนาน ไม่เคยได้ยินยายชื่อแสงดาวอะไรนั้นเลยนะ พ่อหนุ่มมาจากกรุงเทพฯ ลองไปถามญาติตัวเองใหม่เถอะ... กลับไปได้แล้ว ลูกสาวฉันจะเสียชื่อหมด” นางสร้อยเงินตอบปัด จึงอยากให้ทาสพาเขาออกจากเรือน“ไม่เป็นไรจ้าแม่... ให้ทาสช่วยแม่ทำอาหารเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเองจ๊ะ” กลิ่นจันทร์รับอาสาเอง เพราะคิดว่าตนคงเป็นเหตุนำพาเรื่องวุ่นวายเข้าบ้าน คิดเสียว่าแนะนำให้เขาไปคุยกับผู้ใหญ่บ้าน เผื่อจะได้รับความช่วยเหลือที่ดีกว่านี้“ขอโทษนะครับ คุณแม่สร้อยเงิน ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ปวรุตม์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบญาติหรือแม่ ทุกคนหายไปไหนหมด อีกทั้งทุกๆ คนที่นี่ใส่ชุดสมัยร.๕ทั้งนั้น เขามาหลงอยู่บ้านใครกันเนี่ย... ชายหนุ่มแอบคิด******กลิ่นจันทร์พาเขาเดินออกจากบร
รุ่งเช้าท่ามกลางเสียงโวกเวกโวยวาย ผู้คนเดินไปมา สลับวิ่งจนพื้นไม้ภายในบ้านสั่นสะเทือน ปวรุตม์รู้สึกว่าถูกรบกวนจากการนอนแสนสบาย จึงลืมตาปรือตื่น หันมองว่าร่างของแม่ข้างๆ หายไป คงจะสมทบกับญาติ ซึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง“เร็วๆ เข้า!!! อุ้มคุณแม่ขึ้นรถ!!!” เสียงของผู้หลักผู้ใหญ่กำลังวุ่นวาย กับการนำร่างของคุณยายซึ่งเริ่มหายใจช้าลง หลับตาโดยไม่มีการตอบสนอง ครอบครัวญาติฝ่ายแม่ตกใจมากพวกเขาพาร่างของคุณยายขึ้นรถ ออกตัวจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงญาติทุกๆ ต่างคนกลับไปที่รถของตัวเอง ต่างขับรถแห่ไปทีละคันจนหมดบ้าน...เหลือไว้เพียงเขายังยืนงงอยู่ภายในบ้านคนเดียว“ไปกันหมดเลย” ปวรุตม์ไม่อาจจะพูดถามใคร ในช่วงเวลาอันฉุกละหุกได้เลย ว่าเขาควรทำตัวอย่างไร พ่อแม่เขาค่อนข้างวุ่นวายกับการพาร่างของคุณยายขึ้นรถ และรีบพาไปร.พ. ในขณะที่ญาติๆ คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายขับรถตามไป“กลิ่นจันทร์ไปกับเขาด้วยหรือเปล่านะ?” ปวรุตม์ยังคงนึกถึงสาวเมื่อคืนนี้ หากไม่อยู่ในพุ่มไม้มืด เขาอาจจะจำหน้าเธอได้ชัดกว่านี้ ตะวันในเช้านี้ทอแสงนวลแผ่วเบา แต่ท้องเขานี่สิ ร้องออกมาอย่างหิวโหย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเหลืออะไรใหเขากินได้บ้าง******ช
ในความเงียบภายในรถยนต์ ระหว่างเดินทางออกมาตจว. นอกเขตเมือง สู่ชนบทในท้องนา ภาพบรรยากาศของตึกราบ้านช่องหายไปจากสายตาของชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนหนุ่มสมัยใหม่ อาศัยอยู่ในเมืองเขาจำใจต้องเดินทางมากับพ่อแม่ เพื่อไปบ้านของยายแสงดาวซึ่งอยู่ตจว. เขาเบื่อมากกับการไปอยู่บ้านนอก โบราณ คนแก่หัวเก่าๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรน่าสนใจสำหรับเขาเลยปวรุตม์ (ปะ-วะ-รุด) หยิบมือถือสมาร์ทโฟนขึ้นมาเพื่อแชทกับเพื่อน และนัดกันว่ากลับบ้านจากญาติแล้ว จะไปดื่มเหล้าเที่ยวผับ ควงสาวมาฟันให้สนุกแก้เบื่อเสียเลย เขายิ้มเงียบๆ โดยมิให้พ่อซึ่งกำลังขับรถหันมาดุได้อีกแม่ของเขานั่งอยู่หน้ารถ กำลังชี้ทางบอกไปทางคุณยาย คือคุณแม่ของเธอค่อนข้างมีอายุมากแล้ว พวกเขาทั้งครอบครัวถูกเรียกให้มาบ้านญาติตจว. เพื่อให้มารับทราบว่า คุณยายใกล้จะไปสบายดีแล้ว ญาติคนอื่นๆ เรียกพ่อแม่และปวรุตม์ ให้มาดูใจกันครั้งท้าย ก่อนคุณยายจะเสีย“ทำตัวดีๆ นะแกไอ้รุตม์ เดี๋ยวจะไม่ได้รับมรดกกันพอดี” คุณพ่อของเขา เป็นลูกเขยของญาติข้างแม่ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบสองปี ทำตัวสงบเสงี่ยมเจียมตัวเรียบร้อย อย่างน้อยเขาอยากจะกลับเมือง มากกว่านอนค้างอยู่บ้านนอกตจว.แบบนี้