Share

บทที่ 21 สารภาพรัก

last update Last Updated: 2025-07-10 13:00:27

ในสวนรัตติกาลที่เปล่งประกายไปด้วยเวทมนตร์ เคลยืนอยู่ใต้ต้นวิลโลว์โบราณ มองความงามที่เขาพยายามสร้างขึ้นมาอย่างตั้งใจ ทุกอย่างต้องสมบูรณ์แบบสำหรับค่ำคืนนี้ ตั้งแต่โคมไฟระยิบระยับที่ห้อยระหว่างกิ่งไม้ ไปจนถึงกลีบดอกไม้ที่โปรยปกคลุมพื้นดินรอบ ๆ จุดที่เขาจะสารภาพรัก

เคลยกมือขึ้นจัดโคมไฟอันสุดท้าย ขณะนั้นเสียงกระแทกดังขึ้นจากอีกฝั่งของสวน

“จินเจอร์! หยุดนะ!” เคลหันขวับไปมองทันที เจ้าจินเจอร์ แมวสีส้มตัวป่วน กำลังงับโคมไฟหนึ่งในโคมที่จัดไว้อย่างประณีต เขาพยายามดึงมันลงมาด้วยแรงทั้งหมดของตัวเอง

“ฉันอุตส่าห์ทำงานนี้มาตั้งแต่เช้า! นี่คิดว่าตัวเองทำได้สวยกว่าฉันหรือไง!” เคลก้าวพรวดพราดไปหามัน จินเจอร์ปล่อยโคมแล้วกระโดดลงมาบนกลีบดอกไม้ที่โปรยไว้ ราวกับเป็นเวทีของตัวเอง มันเดินส่ายหางไปมา ก่อนจะหยุดหันมายิ้มยียวนเหมือนแมวที่รู้ดีว่ามันเป็นจุดศูนย์กลางของโลก

ก่อนที่เคลจะจับตัวมันได้ เสียงหัวเราะขี้เล่นของเอร่าก็ดังขึ้นจากมุมสวน “เคล นายเครียดไปหรือเปล่า? โคมไฟกับกลีบกุหลาบนี่ก็ไม่ได้สวยไปกว่ารินสักหน่อย แค่นายยืนเฉย ๆ เจ้ารินก็คงละลายแล้ว!”

เคลหันไปมองเอร่า ผู้ถือดอกกุหลาบช่อใหญ่ในมือเหมือนจะช่วย แต่กลับทำหลุดมือให้กลีบดอกไม้ร่วงกระจายเต็มพื้นแทน “เอร่า! นายทำอะไรลงไป!” เคลร้องลั่น

“พวกนายหยุดป่วนเลยนะ! ฉันอุตส่าห์เตรียมมาหลายอาทิตย์แล้วนะ!” เคลยืนกอดอก ถอนหายใจหนัก รู้ดีว่าเพื่อนคนนี้จะไม่หยุดจนกว่าเขาจะหมดความอดทน

เอร่าไม่วายแซวต่อ “นายรู้ไหม? นายดูเหมือนเจ้าบ่าวที่เตรียมงานแต่งงานเลยนะ! เจ้ารินต้องน้ำตาไหลแน่ ๆ เมื่อเห็นสิ่งที่นายเตรียมไว้”

“ฉันไม่ได้เตรียมงานแต่งงาน! ฉันแค่...แค่...” เคลหน้าแดงก่ำ พูดตะกุกตะกัก

จินเจอร์ที่นั่งอยู่บนกองกลีบดอกไม้ ร้องเมี้ยวเหมือนจะร่วมขบขันกับเอร่า เคลชี้นิ้วไปที่มัน “นายด้วย! อย่าคิดว่าฉันไม่เห็นนะว่าทำอะไรไปบ้าง!”

“ใจเย็นสิ เจ้าบ่าว” เอร่าหัวเราะลั่น “ถ้านายตะโกนมากกว่านี้ เจ้ารินได้ยินก่อนถึงเวลาจะไม่เท่เลยนะ”

“เอร่า ถ้านายพูดอีกคำ ฉันจะโยนนายออกไปพร้อมกับจินเจอร์!” เคลพูดเสียงเข้ม

“โอเค โอเค!” เอร่ารีบยกมือขึ้นเหมือนยอมแพ้ แต่ก่อนจะเดินออกไปก็ไม่วายหันมายิ้มขี้เล่น “แต่บอกเลยนะ ถ้าคืนนี้นายล้มเหลว ฉันกับจินเจอร์จะจัดแผนสำรองให้เอง!”

“นั่นคือสิ่งที่ฉันกลัวที่สุด!” เคลตะโกนตามหลัง แต่ในใจก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นเพื่อนที่แสนจะ...ช่วยไม่ได้ของเขาเดินหัวเราะออกไป

จินเจอร์กระโดดขึ้นมาบนบ่าเคล ร้องเมี้ยวเบา ๆ ราวกับอยากให้กำลังใจ เคลลูบหัวมันเบา ๆ ก่อนจะมองไปยังสวนที่เขาสร้างขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจ เขาสูดลมหายใจเข้า ความตื่นเต้นเริ่มเข้ามาแทนที่ความหงุดหงิด

“คืนนี้ต้องออกมาดี...ไม่มีอะไรผิดพลาดอีกแล้ว” เขาพูดเบา ๆ ให้กำลังใจตัวเอง ก่อนจะกลับไปเตรียมงานต่อ

แต่ก่อนค่ำคืนจะเริ่มต้นขึ้น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รินเดินผ่านแปลงดอกไม้ในสวนที่ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป ดอกไม้บางส่วนดูเหมือนจะถูกจัดเรียงใหม่ และมีร่องรอยการเคลื่อนไหวอยู่รอบ ๆ ต้นวิลโลว์โบราณที่เขาชอบที่สุด เขาหรี่ตา มองไปที่ต้นไม้ที่ดูมีบางอย่างติดอยู่บนกิ่งสูงสุด ใช่แล้ว มันคือโคมไฟ! โคมไฟที่ไม่ควรจะมีอยู่ที่นั่น

“แปลกจริง...” เขาพึมพำ

จินเจอร์กระโดดขึ้นมาบนไหล่ของริน เอาหัวชนแก้มเขาเหมือนจะพูดว่า “สืบสิ! สืบ!”

รินลูบหัวมันเบา ๆ แล้วเดินตรงไปที่ที่พักของเคล

เมื่อเขาเจอเคล กำลังม้วนเชือกอะไรบางอย่างอยู่ รินยืนกอดอกมองอย่างจับผิด “เคล นายกำลังทำอะไร?”

เคลสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงของริน แต่รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “อะ...อะไร? ไม่มีอะไรนี่ แค่...ซ่อมเชือก”

รินขมวดคิ้ว มองเชือกที่เหมือนใหม่เอี่ยมในมือของเคล “ซ่อมเชือก? เชือกที่ใหม่จนยังไม่เคยใช้? นี่มันแปลกเกินไปแล้ว เคล นายหลบหน้าฉันมาหลายวันแล้วนะ มีอะไรหรือเปล่า?”

“เปล่า...ไม่มีอะไรเลย ฉันแค่...อืม...เอ่อ...” เคลเกาหัว ตอบตะกุกตะกัก

ก่อนที่เคลจะพยายามด้นสดไปมากกว่านี้ เสียงของเอร่าก็ดังขึ้นจากอีกมุมหนึ่ง “เขาเตรียมอะไรน่ะเหรอ? อ๋อ! ก็แค่แอบจัดงานเลี้ยงวันเกิดแมวให้จินเจอร์น่ะสิ!”

“วันเกิดจินเจอร์?” รินหันขวับไปหาเอร่า

เอร่ายิ้มแฉ่ง พลางทำหน้าจริงจังแบบเกินเหตุ “ใช่แล้ว! นายไม่รู้เหรอ? จินเจอร์อายุครบ...สิบปีพอดี! ใช่ไหมเคล?”

เคลอ้าปากพะงาบ ๆ มองหน้าเอร่าเหมือนจะพูดอะไร แต่เอร่าก็พูดแทรกต่อ “เรากำลังวางแผนเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ โคมไฟ! กลีบดอกไม้! ฉันเองยังคิดจะใส่ชุดแมวไปร่วมงานด้วยนะ!”

รินมองหน้าเคลที่ตอนนี้สีหน้าคล้ายกำลังกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเต็มที “เคล นี่เรื่องจริงเหรอ?”

“เอ่อ...ใช่! ใช่...จินเจอร์ต้องมีงานวันเกิดที่สมบูรณ์แบบ!” เคลกลืนน้ำลาย

จินเจอร์ที่เพิ่งวิ่งมาพอดี กระโดดขึ้นไปบนไหล่ของรินอีกครั้ง ร้องเมี้ยวเสียงดังเหมือนจะพูดว่า “ฉันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย!”

“ถ้าอย่างนั้น ฉันช่วยเตรียมด้วยได้ไหม?” รินจ้องแมวตัวป่วน ก่อนหันไปมองเคลที่เหงื่อเริ่มไหล

“ไม่ได้! ความลับ! นายช่วยไม่ได้เด็ดขาด!” เอร่ากระโดดเข้ามาขวาง

“ได้...แต่ถ้าฉันรู้ว่าพวกนายแอบทำอะไรไม่ดีละก็...” รินยืนกอดอก มองทั้งสองคนด้วยสายตาสงสัย

“ไม่มีอะไรแน่นอน!” เอร่าตอบเร็วจี๋ ก่อนลากเคลออกไปจากที่นั่นทันที

“วันเกิดจินเจอร์? นี่มันไม่เมกเซนส์เลยสักนิด” เมื่อทั้งสองคนพ้นสายตาไป รินก็ถอนหายใจออกมา ก่อนหันไปมองแมวตัวป่วน “จินเจอร์ นายเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้กันแน่?”

แมวตัวน้อยที่น้ำหนักเยอะร้องเมี้ยวเบา ๆ แต่สายตาเหมือนจะบอกว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน!”

วันนั้นมาถึงแล้ว สวนส่องแสงสว่างใต้แสงโคมไฟอ่อน ๆ และกลิ่นดอกกุหลาบที่แบ่งบานทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความหอมอบอวล เคลทั้งตื่นเต้นและประหม่า เขาต้องการให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับริน

ขณะที่เคลทำการปรับแต่งครั้งสุดท้าย เอร่าและจินเจอร์ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง พลังความสนุกสนานของพวกเขาทำให้บรรยากาศสงบหายไป

“เคล ที่นี่ดูดีมาก!” เอร่ากล่าวพร้อมรอยยิ้มขี้เล่น จินเจอร์ร้องเมี้ยวเหมือนจะเห็นด้วยและถูตัวกับขาเอร่า

เคลถอนหายใจ รู้ว่าการปรากฏของสองตัวป่วนอาจทำลายช่วงเวลาที่เขาพากเพียรสร้างขึ้นมา

“เอร่า จินเจอร์ พวกนายต้องออกไปเที่ยวคืนนี้ซะ นี่ เอาไป” เขายื่นถุงเงินเล็ก ๆ ให้เอร่า “ไปสนุกในเมือง แล้วคืนนี้อย่ากลับมา”

ดวงตาของเอร่าเปล่งประกายด้วยความขบขัน ถึงอย่างนั้นก็พยักหน้าเข้าใจถึงความสำคัญของค่ำคืนนี้ “ตกลง เคล เราจะให้ความเป็นส่วนตัวกับนาย ขอให้โชคดีนะ!”

“ถ้านายอกหัก ให้จำไว้ว่า นายยังมีฉันกับจินเจอร์นะ” เอร่าโบกมือแบบขี้เล่น ทิ้งท้ายด้วยความเป็นห่วงเพื่อนรัก พร้อมหัวเราะเสียงดังและวิ่งหนีออกจากสวนไป ทิ้งให้เคลเหนื่อยใจกับเพื่อน

เคลไปเตรียมตัวต่อ เขาหายใจลึกพยายามสงบใจที่เต้นรัว ก่อนที่จะเรียกริน เขาได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา

“เคล นี่มันอะไรกัน?” รินเข้ามาในสวน ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจที่เห็นฉากที่งดงามตรงหน้า

เคลจับมือริน นำเขาไปยังจุดที่ตกแต่งอย่างสวยงามใต้ต้นวิลโลว์ “ริน มีบางอย่างที่ผมอยากจะบอกมานานแล้ว การอยู่กับคุณ ได้เปลี่ยนชีวิตผมไปหมด คุณได้นำแสงสว่างและความหวังกลับมาสู่สวนและหัวใจของผม”

“เคล...นายพูดแบบนี้ ฉันไม่รู้จะตอบยังไงดี” รินมองเคล น้ำตาคลอเบ้าด้วยความซาบซึ้ง

เคลส่ายหัวเบา ๆ เขาเอื้อมจับมือของรินขึ้นมาแนบที่อกของตัวเอง “ริน คุณรู้ไหม สำหรับคนอื่น ผมอาจเป็นอัศวิน ผู้ที่มีหน้าที่ปกป้องคุณและสวนแห่งนี้ แต่สำหรับผม ผมไม่อยากเป็นแค่อัศวิน ผมอยากเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง คนที่พร้อมจะปกป้องคุณ ดูแลคุณ ไม่ใช่เพราะหน้าที่ แต่เพราะผมรักคุณ”

เสียงของเขาอ่อนโยน แต่หนักแน่นเหมือนคำสัตย์สาบานที่มาจากส่วนลึกของหัวใจ “ริน คุณจะให้โอกาสผมได้รักและอยู่เคียงข้างคุณไปตลอดชีวิตได้ไหม?”

น้ำตาของรินร่วงลงมาอย่างไม่รู้ตัว เขายิ้มทั้งน้ำตาและพยักหน้า “เคล...ผมเองก็รักคุณเหมือนกัน คุณคือคนที่ทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตของผมมีความหมาย คุณคือบ้านของผม”

เคลยิ้มกว้าง รวบตัวรินมากอดไว้แน่น ราวกับอยากจะย้ำเตือนให้อีกฝ่ายรู้ว่าทั้งสองคนจะไม่มีวันปล่อยมือจากกัน

“ผมสัญญา” เคลกระซิบเบา ๆ ข้างหูของริน “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ”

ค่ำคืนนั้นเป็นคืนแห่งความรักที่แสนสมบูรณ์แบบ เสียงหัวใจของทั้งสองคนเต้นประสานกัน ดวงดาวบนฟ้าดูเหมือนจะเปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งขึ้น เหมือนกับกำลังเฉลิมฉลองให้กับความรักที่งดงามนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 33 วิหารเงาแสงสะท้อนแสงแห่งชีวิต

    ทุกคนเดินไปยังเขต วิหารเงาแสง ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของสวน รินไม่เคยมาเยือนเขตนี้มาก่อน จ้องมองรอบๆ ด้วยความตื่นเต้น วิหารตั้งอยู่กลางพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้สูงใหญ่กิ่งก้านแผ่ขยายทับซ้อนจนแทบไม่เห็นท้องฟ้า ยกเว้นช่องเล็ก ๆ ที่แสงจันทร์ลอดผ่านลงมา แสงเหล่านั้นตกลงบนตัววิหารที่ทำจากหินขาวเรืองรอง ราวกับมีแสงสว่างในตัว“วิหารนี้เหมือนกับ...ลมหายใจของสวน” รินพึมพำ “สมัยเด็ก ผมได้แต่มองมันจากระยะไกล ไม่เคยได้เข้ามาเลย”เคลที่เดินอยู่ข้าง ๆ เอื้อมมาจับมือรินเบา ๆ “ตอนนี้คุณได้เห็นด้วยตัวเองแล้ว และคุณก็เป็นเจ้าของที่แท้จริงของมัน”“หวานกันอีกแล้ว...จินเจอร์ ถ้าเราไม่มีของกิน ให้ไปกัดขาเคลนะ” เอร่าไม่พลาดที่จะแซวจินเจอร์ร้องเหมียวเสียงยาว เหมือนจะเห็นด้วยเคียแรนส่ายหน้าและหัวเราะเบา ๆ “เอร่า นายจะช่วยสงบสักนิดได้ไหม? ตอนนี้พวกเราจริงจังอยู่นะ”เอร่าหันมามองเคียแรน พร้อมยักคิ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 32 อาณาจักรของสวนรัตติกาล

    เช้าวันใหม่เริ่มต้นพร้อมกับความกระตือรือร้นในสวนรัตติกาล ทุกคนรวมตัวกันที่โต๊ะไม้ตัวใหญ่กลางสวน ริน เคล เอร่า และเคียแรนล้อมวงฟังเอลดรินที่กำลังเปิดตำราโบราณอย่างระมัดระวัง หน้ากระดาษที่เก่าแก่เปราะบางเหมือนจะขาดได้ทุกเมื่อ เสียงนกร้องเป็นฉากหลังที่สงบ แต่บรรยากาศรอบโต๊ะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคาดหวัง“ตำราเล่มนี้บันทึกเรื่องราวของสวนรัตติกาลอย่างละเอียดที่สุด” เอลดรินเริ่มพูด พร้อมเปิดไปยังหน้าที่มีแผนที่โบราณของสวน ตัวอักษรจางหายไปบางส่วนจากกาลเวลา “นี่เป็นผลงานของอัศวินผู้พิทักษ์สวนคนแรก ๆ ที่อาศัยอยู่ในยุคสร้างหัวใจแห่งอาราเลีย”เคลเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ แววตาเต็มไปด้วยความสนใจ “นี่คือแผนที่ของสวนทั้งหมดหรือครับ? ดูละเอียดกว่าที่ผมเคยเห็นมาอีก”เอลดรินพยักหน้า “ใช่ มันไม่เพียงแค่บอกทาง แต่ยังอธิบายถึงพลังและความเชื่อมโยงของพื้นที่ในสวนด้วย”เคียแรนที่เพิ่งมาอยู่สวนได้ไม่นานขมวดคิ้วเล็กน้อย “แล้วสวนนี้แบ่งเป็นเขตชัดเจนเลยหรือครับ? ผ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 31 ปัญหาเรื่องเดิมอีกครั้ง

    หลังจากการพูดคุยอย่างเคร่งเครียดเกี่ยวกับหัวใจแห่งอาราเลียและแผนการของมาร์คัส รินที่มองเอลดรินสังเกตเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของชายชรา เขาจึงเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง “เอลดริน ท่านดูเหนื่อยมากเลย ท่านเดินทางไกลมาขนาดนี้แล้ว ยังต้องเล่าเรื่องที่หนักหนาอีก ท่านควรพักก่อนดีไหม?”เอลดรินยิ้มอ่อน เมื่อเห็นความกังวลในสายตาของริน “ผมสบายดี แต่ก็ยอมรับว่าร่างกายไม่เหมือนเก่าแล้ว”“ถ้าอย่างนั้น” รินหันไปมองทุกคน “พวกเราควรพักก่อนดีไหม? การตามหาหัวใจแห่งอาราเลียไม่น่าจะเร่งด่วนถึงขนาดรอไม่ได้ เราเตรียมตัวให้พร้อมและเริ่มกันพรุ่งนี้เช้าดีกว่า”“ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง! พูดตรงๆ นะ ตอนนี้ผมหิวสุดๆ ถ้าพรุ่งนี้เช้าต้องเริ่มตามหาทันที โดยที่ไม่มีมื้อเย็นนี่ ผมคงหมดแรงแน่ๆ” เอร่ายกมือขึ้นเห็นด้วยทันทีเคลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รินพยักหน้าเห็นด้วย “ฟังดูเข้าท่า แต่เราต้องเตรียมที่พักให้เอลดรินด้วย มีห้องว่างอยู่ท้ายสวน มันค่อนข้างเงียบสงบและมีข้าวของเครื่องใช้ครบ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 30 หัวใจแห่งอาราเลีย

    เอลดรินนั่งลงข้างโต๊ะหินกลางสวนรัตติกาล ท่ามกลางแสงแดดอ่อนที่ลอดผ่านใบไม้ลงมา ท่าทางของเขาเคร่งขรึมและดวงตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ริน เคล เคียแรน และเอร่าล้อมรอบเขา บรรยากาศเงียบสงบในสวนดูเหมือนจะถูกแทนที่ด้วยความตึงเครียด“ท่านดูเหมือนคนที่ผ่านอะไรมาเยอะ ทำไมท่านถึงมาที่นี่ในเวลานี้?” รินมองเอลดรินด้วยความสงสัยเอลดรินถอนหายใจยาว น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความกังวล “ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องรีบเตือนพวกท่าน กลุ่มซินดิเคทกำลังสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับหัวใจแห่งอาราเลีย และพวกมันไม่สนใจว่าวิธีการนั้นจะชั่วร้ายแค่ไหน คนของผมหลายคนถูกทำร้าย บางคน...ก็ตาย หนังสือโบราณจำนวนมากถูกพวกมันแย่งชิงไป”คำพูดของเอลดรินเหมือนเปลวไฟที่จุดประกายความโกรธ รินลุกขึ้นทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด “มาร์คัสอีกแล้ว! มันเป็นปีศาจ ทำร้ายผู้บริสุทธิ์แค่เพราะต้องการอำนาจ! ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังไม่หยุด”“และตอนนี้พุ่งเป้ามาที่สวน ถ้าเขาคิดว่าพวกเราจะยอมให้เขาได้หัวใจแ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 29 อำนาจที่ไม่เคยได้รับ ความรักที่ไม่เคยได้ชม

    หลังจากคืนกวาดล้างครั้งใหญ่ มาร์คัสยืนอยู่บนยอดของอำนาจ เขามองลงไปยังซากปรักหักพังของกลุ่มคนที่ครั้งหนึ่งเคยยืนอยู่ข้างไอเดนและต่อต้านเขา ความพึงพอใจฉายชัดในแววตา ราวกับว่าเขาได้ปลดปล่อยพันธนาการที่เคยกดขี่มาตลอดชีวิตในห้องโถงใหญ่ของฐานทัพซินดิเคท มาร์คัสจัดงานเลี้ยงฉลองที่เต็มไปด้วยความหรูหราและมัวเมา บรรดาลูกน้องและพวกขุนนางชั้นต่ำที่หวังเกาะกระแสอำนาจของเขาต่างร่วมยินดี แต่ในใจของทุกคนแฝงไปด้วยความกลัวต่อความโหดเหี้ยมของชายผู้ไร้ความปรานีมาร์คัสไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว หลังจากกำจัดไอเดนและควบคุมกลุ่มซินดิเคท เขาเริ่มสั่งให้ทำการกวาดล้างทุกคนที่เขาสงสัยว่าอาจทรยศ สายลับและนักฆ่าถูกส่งไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อกำจัดศัตรูเก่าและใหม่ รวมถึงผู้ที่เคยช่วยไอเดนหนีรอดในอดีต“ฉันไม่ต้องการสิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบ” มาร์คัสกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ขณะมองดูรายชื่อเป้าหมายการลอบสังหารที่ยาวเหยียดในมือของเขา “หากพวกมันไม่ก้มหัวให้ฉัน ก็ไม่มีความจำเป็นที่พวกมันจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”&nbs

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 28 ผู้อาวุโสผู้มาพร้อมกับข่าวร้าย

    เช้าวันหนึ่งที่แสงอาทิตย์สาดแสงอ่อนโยนทอดผ่านกลีบดอกไม้ที่แบ่งบาน สวนเต็มไปด้วยเสียงนกร้องเพลงคลอเคล้ากับเสียงลมพัดเบา ๆ ทว่าความเงียบสงบนั้นถูกทำลายโดยกระแสลมแปลกประหลาดที่พัดวูบหนึ่ง ใบไม้ปลิวไหวในทิศทางที่ไม่มีใครคาดคิด กลิ่นหอมสดชื่นของดอกไม้ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นชื้นคล้ายควันไม้และกลิ่นหญ้าหลังฝนตกเสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นจากส่วนลึกของสวน ทั้งที่ไม่มีใครเปิดประตูให้ เสียงนั้นเหมือนจะสะท้อนในอากาศราวกับมาจากทุกทิศทาง เคลสัมผัสถึงบางสิ่งผิดปกติในทันที เขาขยับตัวมาข้างหน้า มือจับด้ามดาบแน่น ดวงตาคมมองตรงไปยังต้นเสียง ขณะที่เคียแรนก้าวมาข้างหน้าเพื่อปกป้องริน“ใครกันที่กล้าบุกรุกมาที่นี่?” เคลเอ่ยด้วยน้ำเสียงต่ำเย็น ดวงตาจับจ้องไปยังเงาที่ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นจากเงามืดในหมู่แมกไม้ ชายชราผู้หนึ่งก้าวออกมาช้า ๆ เสื้อคลุมสีมอมแมมของเขาปลิวไสวไปตามลม แม้เสื้อผ้าจะดูธรรมดา แต่ตัวเขากลับมีบางสิ่งดึงดูดความสนใจได้ในทันที มือถือไม้เท้าที่มีลวดลายแกะสลักงดงาม เรืองแสงเบาบางเหมือนกับมีพลังบางอย่างซ่อนอยู่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status