หน้าหลัก / วาย / เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde / บทที่ 28 ผู้อาวุโสผู้มาพร้อมกับข่าวร้าย

แชร์

บทที่ 28 ผู้อาวุโสผู้มาพร้อมกับข่าวร้าย

ผู้เขียน: Snowflake on Cherry Blossom
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-17 13:00:38

เช้าวันหนึ่งที่แสงอาทิตย์สาดแสงอ่อนโยนทอดผ่านกลีบดอกไม้ที่แบ่งบาน สวนเต็มไปด้วยเสียงนกร้องเพลงคลอเคล้ากับเสียงลมพัดเบา ๆ ทว่าความเงียบสงบนั้นถูกทำลายโดยกระแสลมแปลกประหลาดที่พัดวูบหนึ่ง ใบไม้ปลิวไหวในทิศทางที่ไม่มีใครคาดคิด กลิ่นหอมสดชื่นของดอกไม้ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นชื้นคล้ายควันไม้และกลิ่นหญ้าหลังฝนตก

เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นจากส่วนลึกของสวน ทั้งที่ไม่มีใครเปิดประตูให้ เสียงนั้นเหมือนจะสะท้อนในอากาศราวกับมาจากทุกทิศทาง เคลสัมผัสถึงบางสิ่งผิดปกติในทันที เขาขยับตัวมาข้างหน้า มือจับด้ามดาบแน่น ดวงตาคมมองตรงไปยังต้นเสียง ขณะที่เคียแรนก้าวมาข้างหน้าเพื่อปกป้องริน

“ใครกันที่กล้าบุกรุกมาที่นี่?” เคลเอ่ยด้วยน้ำเสียงต่ำเย็น ดวงตาจับจ้องไปยังเงาที่ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้น

จากเงามืดในหมู่แมกไม้ ชายชราผู้หนึ่งก้าวออกมาช้า ๆ เสื้อคลุมสีมอมแมมของเขาปลิวไสวไปตามลม แม้เสื้อผ้าจะดูธรรมดา แต่ตัวเขากลับมีบางสิ่งดึงดูดความสนใจได้ในทันที มือถือไม้เท้าที่มีลวดลายแกะสลักงดงาม เรืองแสงเบาบางเหมือนกับมีพลังบางอย่างซ่อนอยู่

ดวงตาของชายชราฉายแววอ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยพลังลึกลับที่ดูเหมือนจะมองทะลุไปถึงจิตวิญญาณ รอยยิ้มบางเบาของเขามีความอบอุ่นที่ชวนให้ผู้พบเห็นรู้สึกสบายใจ และในขณะเดียวกันก็ทำให้ระวังตัว

“ขออภัยที่มารบกวนความสงบในสวนแห่งนี้” เสียงของเขาอ่อนนุ่ม แต่ก้องกังวานราวกับเป็นเสียงของธรรมชาติ “ผมชื่อเอลดริน นักเวทผู้เคยรับใช้ราชินีโรซาลี”

เอร่าที่คว้ากรรไกรตัดดอกไม้ไว้ในมือถึงกับหัวเราะเบาๆ แต่ก็ยังไม่ลดความระวัง “ดูเหมือนนักเวทผู้ยิ่งใหญ่จะไม่มีมารยาทในการเคาะประตูนะ”

“ผมขอโทษจริงๆ แต่ประตูของสวนไม่จำเป็นต้องเปิดให้ผม เพราะมันยังจดจำคำสั่งของราชินี” เอลดรินหัวเราะเสียงเบา ดวงตาฉายแววเข้าใจท่าทีของเหล่าคนหนุ่ม

“พิสูจน์สิ” เคลพูดเสียงหนัก ดาบยังคงอยู่ในท่าพร้อมปะทะ

เอลดรินยิ้ม เขายกไม้เท้าขึ้นช้า ๆ ทันใดนั้น พื้นดินใกล้ ๆ ตัวพลันเปล่งแสงสีทองอ่อน ดอกไม้สีฟ้าอ่อนที่ไม่เคยปรากฏในสวนมาก่อนค่อย ๆ ผุดขึ้นจากพื้น กลีบดอกมีลวดลายซับซ้อนราวกับถูกวาดด้วยพู่กันแห่งดวงดาว กลิ่นหอมอ่อนหวานแผ่กระจายไปทั่ว

“นี่คือดอกไม้แห่งคำมั่นสัญญา” เอลดรินกล่าว “มันจะบานเพียงแค่ในที่ที่ทายาทแห่งราชินีโรซาลีอยู่ ใครก็ตามที่สัมผัสมัน จะเห็นสิ่งที่หัวใจพวกเขาจดจำเกี่ยวกับราชินี”

รินที่ยืนมองอยู่เงียบ ๆ เอื้อมมือไปแตะกลีบดอกไม้ทันที แสงอบอุ่นสว่างวาบก่อนที่ภาพในหัวของเขาจะปรากฏ ภาพของมารดากำลังพูดคุยกับเอลดรินที่อยู่เคียงข้าง

“หากวันหนึ่งฉันต้องจากไป ขอฝากเขาไว้กับเธอด้วย” เธอกล่าวกับเอลดริน ขณะอุ้มรินในวัยเด็กไว้ในอ้อมแขน

เอลดรินพยักหน้า ก้มลงเล็กน้อย ดวงตาของเขาสบกับรินด้วยความอ่อนโยนแต่แฝงด้วยความเจ็บปวด “และตอนนี้ผมกลับมาที่นี่เพื่อท่าน เจ้าชายริน”

“คุณเป็นเอลดรินจริงๆ ...คุณอยู่กับแม่ผมตอนนั้น แล้วทำไม” รินชะงัก ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งดีใจและโศกเศร้าปนเปกัน เสียงของเขาขาดหายไปเหมือนคำถามที่ถูกกลืนลงไปในลำคอ

“ผมขอโทษ... เจ้าชาย ขอโทษที่ผมไม่สามารถอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยราชินีได้ในวันนั้น ข้าพระองค์ไร้ความสามารถ... แม้ผมจะพยายามปกป้องพระองค์และสวนอย่างสุดความสามารถ” เอลดรินถอนหายใจยาว มือที่กำไม้เท้าสั่นเล็กน้อย

“ท่านไม่ต้องขอโทษ ผมรู้ว่าท่านทำดีที่สุดแล้ว แม่...แม่คงอยากให้ท่านปลอดภัยเหมือนกัน” ดวงตาของรินเบิกกว้าง น้ำตาคลอหน่วย เขายื่นมือไปแตะแขนเอลดรินเบา ๆ เพื่อปลอบโยน

“พระองค์เป็นทุกสิ่งสำหรับเรา ผมขอสัญญาว่าจากนี้ไป จะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายท่านและสวนนี้อีก” เอลดรินยิ้มเศร้า แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความรักและการยอมรับ

ขณะที่รินและเอลดรินพูดคุยกัน เคียแรนที่ยืนอยู่ข้างเอร่าก็จับจ้องเอลดรินอย่างระมัดระวัง ดวงตาคมของเขากวาดมองร่างชายชรา แม้สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ออกมา แต่เขาไม่ปล่อยตัวให้ความหวังดีครอบงำการระวังภัย

“แล้วถ้าเขาไม่ได้มาดีล่ะ?” เคียแรนเอ่ยเสียงต่ำ พลางขยับตัวเล็กน้อยเพื่อยืนบังเอร่า “คนที่มีพลังมากพอจะเข้ามาในสวนแห่งนี้โดยไม่มีใครรู้ อาจไม่ใช่แค่นักเดินทางที่ไร้พิษสง”

เอร่าชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหันไปยิ้มขำ “ใจเย็นนะเคียแรน นายไม่คิดว่าเขาจะเดินทางมาทั้งหมดเพื่อมาปลูกดอกไม้ในสวนหรอกนะ?”

“ผมแค่เพียงพูดตามสิ่งที่เห็น” เคียแรนตอบกลับ แต่สายตายังคงจดจ่อที่เอลดริน “และผมไม่อยากให้นายเสี่ยง”

“ผมขออภัยที่ทำให้ท่านรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่ผมไม่มีเจตนาร้าย อัศวินผู้กล้า” เอลดรินหันมาทางทั้งสองและค้อมตัวเล็กน้อย เขากล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “หากการกระทำหรือพลังของผมทำให้ท่านไม่ไว้วางใจ ผมก็พร้อมจะพิสูจน์ความจริงใจ”

“ถ้าคุณพูดจริง คุณก็ควรพิสูจน์ ไม่ใช่กับเรา แต่กับรินและสวนนี้”

“เอาละ นักรบของฉัน อย่าเข้มงวดจนเขาไม่กล้าหายใจเลย” เอร่าตบไหล่เคียแรนเบาๆ

เคียแรนไม่ได้ตอบกลับ ทำเพียงเหลือบมองเอร่าเล็กน้อย ท่าทางระวังภัยของเขายังคงอยู่ แต่แฝงไว้ด้วยความเคารพเมื่อเอลดรินเริ่มแสดงพลังเพื่อพิสูจน์ว่าเขาคือผู้ที่คู่ควรแก่ความไว้วางใจ

เคียแรนผ่อนคลายลงเมื่อสัมผัสได้ถึงความจริงใจจากเอลดริน แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะกระซิบข้างหูเอร่า “ถ้าเขาทำอะไรผิดพลาดแม้แต่นิด ฉันจะเป็นคนจัดการเอง นายอยู่ข้างหลังฉันก็พอ”

“ถ้าถึงตอนนั้น ฉันจะให้จินเจอร์ไปช่วยนายจัดการเองแล้วกัน!” เอร่าหัวเราะเบา ๆ

“คุณพูดเรื่องจริง แต่เราจะยังระวังตัว ถ้าคิดจะทำลายสวนแห่งนี้ ก็ผ่านพวกเราไปก่อนเถอะ” เคลยังคงไม่ลดการป้องกัน แต่ดวงตาเริ่มอ่อนลง

“ฉันไม่ต้องการทำลายอะไร ฉันมาเพื่อช่วย แค่อยากเตือนเรื่องภัยร้ายที่กำลังจะมาถึง” เอลดรินพูดเสียงเบา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 28 ผู้อาวุโสผู้มาพร้อมกับข่าวร้าย

    เช้าวันหนึ่งที่แสงอาทิตย์สาดแสงอ่อนโยนทอดผ่านกลีบดอกไม้ที่แบ่งบาน สวนเต็มไปด้วยเสียงนกร้องเพลงคลอเคล้ากับเสียงลมพัดเบา ๆ ทว่าความเงียบสงบนั้นถูกทำลายโดยกระแสลมแปลกประหลาดที่พัดวูบหนึ่ง ใบไม้ปลิวไหวในทิศทางที่ไม่มีใครคาดคิด กลิ่นหอมสดชื่นของดอกไม้ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นชื้นคล้ายควันไม้และกลิ่นหญ้าหลังฝนตกเสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นจากส่วนลึกของสวน ทั้งที่ไม่มีใครเปิดประตูให้ เสียงนั้นเหมือนจะสะท้อนในอากาศราวกับมาจากทุกทิศทาง เคลสัมผัสถึงบางสิ่งผิดปกติในทันที เขาขยับตัวมาข้างหน้า มือจับด้ามดาบแน่น ดวงตาคมมองตรงไปยังต้นเสียง ขณะที่เคียแรนก้าวมาข้างหน้าเพื่อปกป้องริน“ใครกันที่กล้าบุกรุกมาที่นี่?” เคลเอ่ยด้วยน้ำเสียงต่ำเย็น ดวงตาจับจ้องไปยังเงาที่ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นจากเงามืดในหมู่แมกไม้ ชายชราผู้หนึ่งก้าวออกมาช้า ๆ เสื้อคลุมสีมอมแมมของเขาปลิวไสวไปตามลม แม้เสื้อผ้าจะดูธรรมดา แต่ตัวเขากลับมีบางสิ่งดึงดูดความสนใจได้ในทันที มือถือไม้เท้าที่มีลวดลายแกะสลักงดงาม เรืองแสงเบาบางเหมือนกับมีพลังบางอย่างซ่อนอยู่

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 27 ความสงบค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น

    ในยามบ่ายของวันอันเงียบสงบ รินนั่งอยู่ข้างเคลใต้ต้นไม้ใหญ่ สายตาของเขาจับจ้องไปที่เคียแรนและเอร่าที่กำลังคุยกันไม่ไกล เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังแว่วมาท่ามกลางสายลมเอื่อย รินยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันไปพูดกับเคล“เคล คุณเห็นไหม?” รินพูดพลางพยักเพยิดไปทางทั้งสองคน “พี่ดูมีความสุขนะเวลาคุยกับเอร่า ผมไม่ได้เห็นเขาหัวเราะแบบนี้มาตั้งแต่...ตั้งแต่ก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลาย”เคลเหลือบมองแล้วพยักหน้า “อืม ดูเหมือนเอร่าจะทำให้เขาผ่อนคลายได้จริง ๆ แต่คุณคิดว่ามันจะดีไหม? คุณรู้ว่าเอร่าน่ะ...” เขาหยุดชั่วครู่ “ค่อนข้างซนเกินไปหน่อย”รินหัวเราะเบา ๆ “ซน? นั่นเป็นคำพูดที่สุภาพเกินไป ผมคิดว่าเอร่าคือพายุในร่างมนุษย์ด้วยซ้ำ แต่บางทีนั่นอาจเป็นสิ่งที่พี่ต้องการ ใครสักคนที่ทำให้เขาหยุดคิดมากและเริ่มใช้ชีวิตจริง ๆ”เคลเอนตัวพิงต้นไม้แล้วถอนหายใจ “ผมคิดว่าคุณพูดถูก บางทีพวกเขาอาจจะช่วยเติมเต็มกันและกัน... หรือไม่ก็สร้างความวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม”

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 26 การเริ่มต้นใหม่ของเคียแรน

    เช้าวันใหม่ในสวนรัตติกาลเต็มไปด้วยความสดใส สำหรับเคียแรน มันเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตใหม่ที่แตกต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง เมื่อชายที่เคยจับดาบต่อสู้ในสนามรบต้องมายืนจ้องเครื่องมือทำสวนอย่างงุนงง เขาถอนหายใจหนัก ก่อนจะหันไปมองเอร่าที่กำลังหมุนคราดในมือเหมือนโชว์มายากล“นี่คือเสียม...แล้วนี่ก็คือคราด นายต้องไม่ใช้มันเหมือนอาวุธ เข้าใจใช่ไหม?” เอร่ายิ้มพลางยื่นคราดให้“นายคิดว่าผมโง่หรือไง?” เคียแรนจ้องเขม็ง“ไม่เลย! ฉันแค่มั่นใจว่านายจะแยกความแตกต่างระหว่างดาบกับคราดได้จริง ๆ” เอร่าตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับบ่งบอกว่าเขาแค่ต้องการแหย่“แล้วนายแน่ใจหรือว่าทำงานนี้เป็น?” เคียแรนถามกลับ พลางคว้าเสียมมาขุดดินอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เอร่าเห็นท่าทางแบบนั้นก็หัวเราะลั่นเอร่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขี้เล่น แต่แฝงไว้ด้วยความท้าทาย “ขอบอกเลยนะ เคียแรน ผมน่ะไม่ได้เป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพร แต่ยังเป็นอัศวินด้วย! ด้านดา

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 25 สมาชิกใหม่ของสวน

    รินมองไปที่พี่ชายด้วยความกังวลใจ “แล้วตอนนี้พี่พักอยู่ที่ไหน?” รินถามขึ้นเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงแฝงไปด้วยความห่วงใย“ก็...เพื่อนในเมืองให้พักอยู่ที่ห้องเล็ก ๆ หลังร้านค้า แต่ไม่สะดวกเท่าไร” เคียแรนตอบ พร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ “พี่พยายามหลีกเลี่ยงการไปในที่ที่คนพลุกพล่าน กลัวว่าจะมีใครจำพี่ได้ ซินดิเคทมีอำนาจอยู่มาก”“ทำไมไม่มาอยู่ที่นี่ล่ะ? ที่สวนปลอดภัยกว่า และไม่มีใครเข้ามาได้ง่าย ๆ โดยไม่ผ่านพวกเรา” รินขมวดคิ้ว ครุ่นคิดครู่หนึ่งก็เอ่ยชวนคำพูดของรินทำให้เคลชะงัก เขาหันมามองรินทันที แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร เอร่าก็แทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงล้อเลียนที่เป็นเอกลักษณ์“ใช่เลย! นายคือเจ้าของสวนที่ถูกต้องนี่นา ริน นายจะให้ใครอยู่หรือไป มันก็ขึ้นอยู่กับนายหมดเลย” เอร่าพูดพลางยักคิ้วให้เคียแรน “แต่...ตอนนี้ห้องพักเต็มหมดแล้วนี่? จะให้นอนกับฉัน...ก็กลัวเคียแรนจะหนาว”“หนาว?” เคลหันไปมองเอร่า คิ้วกระตุก &l

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 24 การหลบหนี

    เสียงเอะอะจากทางเข้าสวนดังแว่วมา รินที่กำลังจัดเรียงดอกไม้อยู่สะดุ้งเล็กน้อย เขาหันมองด้วยความสงสัย ใจเต้นแรงด้วยความกังวล“เกิดอะไรขึ้น?” เขาพึมพำเบา ๆ ก่อนจะรีบวิ่งตรงไปยังที่มาของเสียงภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้รินขมวดคิ้ว เคลยืนอยู่ในท่าทางตึงเครียด จับจ้องไปที่ชายแปลกหน้าซึ่งถูกเอร่าจับแขนไว้แน่น ส่วนจินเจอร์ที่พุงกลม ๆ ของมันห้อยจนเกือบถึงพื้น กำลังยืนโยกตัวอยู่บนพื้นราวกับกำลังฉลองชัยชนะ“เกิดอะไรขึ้น?” รินถามเสียงดัง ขณะที่กวาดตามองไปที่ทุกคน“โอ้ ไม่ต้องห่วง มันไม่มีอะไรใหญ่โตหรอก แค่เจอคนแปลกหน้าที่ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แถวนี้ ฉันเลยช่วยจัดการสักหน่อย” เอร่าหันมาพร้อมรอยยิ้มกว้างเจ้าเล่ห์“ช่วยจัดการ?” รินถามด้วยน้ำเสียงไม่เชื่อถือ เขามองชายแปลกหน้าที่ถูกจับอยู่ “แล้วจินเจอร์…ทำอะไร?”“อ้อ เจ้าจินเจอร์นี่สิ กระโดดแตะหน้าเขาเหมือนฮีโรเลยละ!” เอร่าพูดพลางหัวเราะเสียงด

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 23 การมาถึงของคนเก่าแก่

    รุ่งอรุณของสวนรัตติกาลถูกแต่งแต้มด้วยความหอมหวานที่อบอวลในอากาศ รินและเคลนั่งอยู่ใกล้กันใต้ต้นไม้ใหญ่ ดวงตาของทั้งคู่สะท้อนแสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านใบไม้ลงมา ใบหน้าของรินระเรื่อเล็กน้อยเมื่อนึกถึงค่ำคืนที่ผ่านมา แต่เขาก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นเคลยื่นมือมาสัมผัสแก้มของเขาอย่างแผ่วเบา“เมื่อคืน...คุณทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนสำคัญที่สุดในโลก” รินพูดเบา ๆ สายตาสองคู่ประสานกัน ความอบอุ่นในคำพูดทำให้หัวใจของเคลเต้นรัว“ใช่เพราะคุณเป็นจริงๆ ริน ไม่ว่าจะเมื่อไรก็ตาม ผมจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ” เคลยิ้มอ่อนโยน พลางลูบแก้มรินด้วยปลายนิ้ว“คุณรู้ไหมว่าคุณพูดแบบนี้แล้วผมจะไม่อยากลุกไปไหนเลย คุณทำให้ผมรู้สึกว่าผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว” รินหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับพิงไหล่ของเคล“งั้นเราจะนั่งตรงนี้ทั้งวันก็ได้” เคลแซวกลับพร้อมหัวเราะ รอยยิ้มของเขาเต็มไปด้วยความรักและความภาคภูมิใจ“นี่คุณทำให้ผมกลายเป็นคนติดหวานไปแล้ว คุณคิดว่ามันจะดีเห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status