Share

บทที่ 30 หัวใจแห่งอาราเลีย

last update Последнее обновление: 2025-07-19 13:00:35

เอลดรินนั่งลงข้างโต๊ะหินกลางสวนรัตติกาล ท่ามกลางแสงแดดอ่อนที่ลอดผ่านใบไม้ลงมา ท่าทางของเขาเคร่งขรึมและดวงตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ริน เคล เคียแรน และเอร่าล้อมรอบเขา บรรยากาศเงียบสงบในสวนดูเหมือนจะถูกแทนที่ด้วยความตึงเครียด

“ท่านดูเหมือนคนที่ผ่านอะไรมาเยอะ ทำไมท่านถึงมาที่นี่ในเวลานี้?” รินมองเอลดรินด้วยความสงสัย

เอลดรินถอนหายใจยาว น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความกังวล “ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องรีบเตือนพวกท่าน กลุ่มซินดิเคทกำลังสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับหัวใจแห่งอาราเลีย และพวกมันไม่สนใจว่าวิธีการนั้นจะชั่วร้ายแค่ไหน คนของผมหลายคนถูกทำร้าย บางคน...ก็ตาย หนังสือโบราณจำนวนมากถูกพวกมันแย่งชิงไป”

คำพูดของเอลดรินเหมือนเปลวไฟที่จุดประกายความโกรธ รินลุกขึ้นทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด “มาร์คัสอีกแล้ว! มันเป็นปีศาจ ทำร้ายผู้บริสุทธิ์แค่เพราะต้องการอำนาจ! ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังไม่หยุด”

“และตอนนี้พุ่งเป้ามาที่สวน ถ้าเขาคิดว่าพวกเราจะยอมให้เขาได้หัวใจแห่งอาราเลียไปละก็ เขาคิดผิด! ผมจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม!” เคียแรนกำมือแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยโทสะ

“ผมรู้ว่ามันยาก แต่ผมไม่มีทางเลือก นี่เป็นเหตุผลที่ผมต้องมาและหวังว่าทุกคนจะเข้าใจ” เอลดรินพยักหน้า สายตาเศร้าแต่แน่วแน่

เอร่าหยุดรินและเคียแรน ก่อนที่ความโกรธจะลุกลาม “พอเถอะ! ผมเข้าใจว่าทั้งสองโกรธ แต่ถ้าความดันพวกนายขึ้นกันหมด ผมจะต้องทำงานเพิ่มอีกนะ!”

“นายพูดเหมือนเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยหรือไง?!” รินมองเอร่า ดวงตายังแดงด้วยความโมโห

เอร่าถอนหายใจ กอดอกพร้อมกับแสร้งทำหน้าเคร่งขรึม “ผมพูดเพราะว่าถ้าทั้งสองคนล้มไปตอนนี้ ใครจะปกป้องสวนล่ะ?”

“ใจเย็นก่อน ริน” เคลที่มองสถานการณ์ทั้งหมดอยู่เงียบ ๆ ตัดสินใจวางมือลงบนไหล่ของริน “เราต้องคิดให้รอบคอบ เรามีเอลดรินที่มาช่วย และเรายังมีเวลาวางแผนรับมือ”

เอลดรินพยักหน้าอย่างขอบคุณที่เคลช่วยคลี่คลายสถานการณ์ เขาเริ่มเล่าเรื่องต่อ น้ำเสียงของเขาหนักแน่นขึ้น

“มาร์คัสไม่สนว่าจะต้องแลกด้วยอะไร เขากำลังรวบรวมเบาะแสเกี่ยวกับเรื่องหัวใจแห่งอาราเลีย และทันทีที่เขารู้ว่ามันอยู่ในสวนนี้ เขาต้องบุกเข้ามาอย่างแน่นอน”

“เอาละ ท่านเอลดริน ผมรู้ว่าท่านพูดเรื่องสำคัญ แต่หัวใจแห่งอาราเลียมันคืออะไรกันแน่? ทำไมมันถึงสำคัญขนาดนั้น?” เอร่าดึงทุกคนไปยังประเด็นหลัก

“เป็นคำถามที่ดี เอร่า” เอลดรินยิ้มบาง ๆ “หัวใจแห่งอาราเลียคือสิ่งที่รวมเอาพลังแห่งธรรมชาติและเวทมนตร์ไว้ด้วยกัน ไม่ใช่แค่อัญมณีธรรมดา แต่เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นโดยทวยเทพเพื่อรักษาสมดุลของโลก”

“และมันเกี่ยวอะไรกับสวนรัตติกาล? ทำไมถึงซ่อนมันไว้ที่นี่?” เคลเลิกคิ้ว

เอลดรินหยิบตำราเก่าเล่มหนึ่งขึ้นมา พลิกเปิดหน้ากระดาษที่เปื่อยยุ่ย ก่อนจะวางลงบนโต๊ะ “ตำนานของมันพวกเธอคงเคยได้ยินตั้งแต่เด็ก นิทานที่ผู้คนเล่ากันเพื่อกล่อมเด็กให้นอนหลับ...พวกเธอรู้หรือไม่ว่ามันอาจเป็นเรื่องจริง?”

รินและเอร่าเลิกคิ้วมองหน้ากัน ก่อนรินจะเป็นคนเอ่ยขึ้น “นิทานที่ว่าเกี่ยวกับทวยเทพน่ะหรือ? ท่านหมายความว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องเล่า?”

“ใช่ และหัวใจแห่งอาราเลียก็คือหัวใจของนิทานเรื่องนั้น” เอลดรินพยักหน้า

“โอ้ ดาวล้อมฟ้า สาดแสงอบอุ่น

จันทราหมุนเวียนดั่งเสียงคำขาน

เทพแห่งแสงมอบประกายสดใส

หล่อหลอมความหวังพัดผ่านคืนวัน

เทพแห่งชีวิตสร้างรากแห่งรัก

หล่อเลี้ยงสายน้ำชุบชีพแบ่งปัน

เทพสมดุลให้พลังนิรันดร์

รักษาความมั่นคงใต้ฟ้าผืนดิน

โอ้ หัวใจแห่งอาราเลีย

ปกป้องดินฟ้าสืบสายศรัทธา

เมื่อแสงแห่งธรรมลบเงามืดมน

โลกจึงเปี่ยมล้นด้วยรักนิรันดร์

โอ้ ดวงจันทร์ทอแสงใส

สะท้อนเงาในธารา

ดอกไม้ในลมโปรยปรายมา

ชี้นำทางสู่แสงทอง

ต้นไม้ชี้ทางเหนือฟ้าคราม

ปลุกผู้กล้าข้ามผ่านคืนวัน

แสงเงาเคียงกันในวิหาร

ซ่อนความลับในราตรีอันเงียบงัน

เสียงพงไพรดังก้องใจผู้กล้า

ทางที่ซ่อนอยู่เผยด้วยใจแน่วแน่

หัวใจแห่งแสงยังรออยู่

พลิกชะตาฟ้าดินลบมืดมน”

เอลดรินเริ่มเล่าเรื่องด้วยน้ำเสียงทรงพลัง ดวงตาเป็นประกาย ราวกับกำลังพาผู้ฟังย้อนกลับไปยังจุดกำเนิดของตำนาน

“ในยุคแห่งความมืดมิด” เขาเริ่มกล่าว “โลกถูกปกคลุมด้วยความโลภ สงคราม และการทำลายล้าง ความงดงามของธรรมชาติถูกฉีกทิ้งทำลายด้วยน้ำมือของมนุษย์ ผู้คนลืมเลือนถึงความสำคัญของความสมดุล หลงใหลในพลังที่ไม่ยั่งยืน และสร้างความทุกข์ยากให้แก่โลกใบนี้อย่างไม่หยุดหย่อน”

เอลดรินหยุดเล็กน้อย พลิกหน้าหนังสือโบราณเผยให้เห็นภาพของโลกที่มืดหม่น ผืนดินแตกระแหง ผู้คนพเนจรท่ามกลางเถ้าถ่าน และท้องฟ้าปกคลุมด้วยเงาดำแห่งสงคราม

“ทวยเทพทั้งสามผู้เป็นแก่นแท้ของจักรวาล เทพแห่งแสงผู้ให้ความหวัง เทพแห่งชีวิตผู้สร้างความอุดมสมบูรณ์ และเทพแห่งสมดุลผู้รักษาความสงบ ไม่อาจทนนิ่งเฉยต่อการเสื่อมสลายของโลกใบนี้ได้อีกต่อไป พวกท่านรู้ดีว่าหากยังปล่อยให้มนุษย์ทำลายกันเอง โลกที่พวกเขาสร้างมาด้วยความรักจะพังพินาศไปตลอดกาล”

เอลดรินเปิดไปยังภาพวาดอีกภาพหนึ่ง เป็นภาพทวยเทพทั้งสามร่วมมือกันสร้างอัญมณีที่เปล่งแสงเจิดจ้า

“พวกพระองค์ตัดสินใจแทรกแซงโลกมนุษย์ครั้งแรกและครั้งเดียว ด้วยการสร้างสิ่งที่เรียกว่า 'หัวใจแห่งอาราเลีย' มันเป็นอัญมณีที่หล่อหลอมขึ้นจากพลังของทั้งสามเทพ เทพแห่งแสงมอบประกายแห่งความหวัง เทพแห่งชีวิตมอบพลังแห่งการสร้างสรรค์ และเทพแห่งสมดุลมอบความนิรันดร์อันเสถียรให้แก่สิ่งนี้”

เอลดรินชี้ไปที่ภาพในหนังสือ เป็นภาพของหัวใจแห่งอาราเลียที่เปล่งแสงสว่างไสว ถูกปกคลุมด้วยพลังแห่งสายลม

“หัวใจแห่งอาราเลียไม่ใช่แค่อัญมณี มันคือแก่นแท้ของชีวิต ความสมดุล และแสงสว่างในโลกนี้ พลังของมันสามารถทำให้ดินแห้งแล้งกลายเป็นทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม คืนชีวิตให้แม่น้ำที่เหือดแห้ง หรือแม้กระทั่งชุบชีวิตผู้คนและเวทมนตร์ของโลกให้กลับคืนมา”

เอร่าซึ่งเงียบฟังมาตลอดยกมือขึ้นถามด้วยความสงสัย “ถ้าหัวใจแห่งอาราเลียทรงพลังขนาดนั้น ทำไมถึงต้องซ่อนมันไว้? ทำไมไม่ใช้มันเพื่อช่วยโลกต่อไป?”

เอลดรินพยักหน้า รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าราวกับเขาคาดไว้อยู่แล้วว่าจะมีคำถามนี้

“เพราะหัวใจแห่งอาราเลียต้องการผู้ปกป้อง ไม่สามารถปล่อยให้ไปตกอยู่ในมือของคนที่ไม่คู่ควรได้ หากอยู่ในมือของผู้ที่ขาดศรัทธาและความรับผิดชอบ พลังอันไร้ขอบเขตสามารถกลายเป็นหายนะได้ ทวยเทพจึงตัดสินใจสร้างสวนรัตติกาลขึ้น เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งถูกปกป้องด้วยเวทมนตร์ที่ซับซ้อนที่สุด และมอบหน้าที่ให้กับอัศวินผู้พิทักษ์และผู้สืบทอดแห่งหัวใจ”

เขาชี้ไปที่ภาพในหน้าถัดไป เป็นภาพของสวนอันงดงาม มีดอกไม้หลากสีสันกำลังแบ่งบาน และต้นไม้ใหญ่ที่โอบล้อมหัวใจแห่งอาราเลียไว้ “สวนรัตติกาลไม่ใช่แค่ที่ซ่อน แต่เป็นสถานที่ที่หัวใจแห่งอาราเลียจะเชื่อมโยงกับโลกและผู้คนอย่างแท้จริง”

“แต่ถ้ามาร์คัสรู้เรื่องนี้ มันจะไม่หยุดแค่สวน มันจะทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าเพื่อครอบครองพลังนี้!” เคียแรนที่นั่งฟังเงียบ ๆ เริ่มเอ่ยเสียงดังด้วยความโกรธ

“เราจะไม่ยอมให้มันได้พลังนี้ไป!” รินกำหมัดแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งความมุ่งมั่น

“เราไม่เพียงแค่ปกป้องสวน แต่เราต้องปกป้องหัวใจแห่งอาราเลีย และทำให้แน่ใจว่าพลังนี้จะถูกใช้เพื่อสิ่งที่ดีงามเท่านั้น” เคลวางมือบนไหล่ริน

“ตำนานกลายเป็นเรื่องจริง และพวกเราคือผู้ที่ถูกเลือกเพื่อปกป้องมัน เราต้องทำให้สำเร็จ” เอร่ากล่าวเสริมด้วยน้ำเสียงจริงจังที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก

“ทวยเทพได้มอบหน้าที่นี้ให้กับพวกเธอ ไม่ใช่ด้วยโชคชะตา แต่เพราะพระองค์มองเห็นความแข็งแกร่งในตัวพวกเธอ” เอลดรินมองทุกคนด้วยความภูมิใจ

ทุกคนพยักหน้าด้วยความมุ่งมั่น บรรยากาศในสวนรัตติกาลดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังแห่งการตัดสินใจและความหวังใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 33 วิหารเงาแสงสะท้อนแสงแห่งชีวิต

    ทุกคนเดินไปยังเขต วิหารเงาแสง ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของสวน รินไม่เคยมาเยือนเขตนี้มาก่อน จ้องมองรอบๆ ด้วยความตื่นเต้น วิหารตั้งอยู่กลางพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้สูงใหญ่กิ่งก้านแผ่ขยายทับซ้อนจนแทบไม่เห็นท้องฟ้า ยกเว้นช่องเล็ก ๆ ที่แสงจันทร์ลอดผ่านลงมา แสงเหล่านั้นตกลงบนตัววิหารที่ทำจากหินขาวเรืองรอง ราวกับมีแสงสว่างในตัว“วิหารนี้เหมือนกับ...ลมหายใจของสวน” รินพึมพำ “สมัยเด็ก ผมได้แต่มองมันจากระยะไกล ไม่เคยได้เข้ามาเลย”เคลที่เดินอยู่ข้าง ๆ เอื้อมมาจับมือรินเบา ๆ “ตอนนี้คุณได้เห็นด้วยตัวเองแล้ว และคุณก็เป็นเจ้าของที่แท้จริงของมัน”“หวานกันอีกแล้ว...จินเจอร์ ถ้าเราไม่มีของกิน ให้ไปกัดขาเคลนะ” เอร่าไม่พลาดที่จะแซวจินเจอร์ร้องเหมียวเสียงยาว เหมือนจะเห็นด้วยเคียแรนส่ายหน้าและหัวเราะเบา ๆ “เอร่า นายจะช่วยสงบสักนิดได้ไหม? ตอนนี้พวกเราจริงจังอยู่นะ”เอร่าหันมามองเคียแรน พร้อมยักคิ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 32 อาณาจักรของสวนรัตติกาล

    เช้าวันใหม่เริ่มต้นพร้อมกับความกระตือรือร้นในสวนรัตติกาล ทุกคนรวมตัวกันที่โต๊ะไม้ตัวใหญ่กลางสวน ริน เคล เอร่า และเคียแรนล้อมวงฟังเอลดรินที่กำลังเปิดตำราโบราณอย่างระมัดระวัง หน้ากระดาษที่เก่าแก่เปราะบางเหมือนจะขาดได้ทุกเมื่อ เสียงนกร้องเป็นฉากหลังที่สงบ แต่บรรยากาศรอบโต๊ะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและคาดหวัง“ตำราเล่มนี้บันทึกเรื่องราวของสวนรัตติกาลอย่างละเอียดที่สุด” เอลดรินเริ่มพูด พร้อมเปิดไปยังหน้าที่มีแผนที่โบราณของสวน ตัวอักษรจางหายไปบางส่วนจากกาลเวลา “นี่เป็นผลงานของอัศวินผู้พิทักษ์สวนคนแรก ๆ ที่อาศัยอยู่ในยุคสร้างหัวใจแห่งอาราเลีย”เคลเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ แววตาเต็มไปด้วยความสนใจ “นี่คือแผนที่ของสวนทั้งหมดหรือครับ? ดูละเอียดกว่าที่ผมเคยเห็นมาอีก”เอลดรินพยักหน้า “ใช่ มันไม่เพียงแค่บอกทาง แต่ยังอธิบายถึงพลังและความเชื่อมโยงของพื้นที่ในสวนด้วย”เคียแรนที่เพิ่งมาอยู่สวนได้ไม่นานขมวดคิ้วเล็กน้อย “แล้วสวนนี้แบ่งเป็นเขตชัดเจนเลยหรือครับ? ผ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 31 ปัญหาเรื่องเดิมอีกครั้ง

    หลังจากการพูดคุยอย่างเคร่งเครียดเกี่ยวกับหัวใจแห่งอาราเลียและแผนการของมาร์คัส รินที่มองเอลดรินสังเกตเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของชายชรา เขาจึงเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง “เอลดริน ท่านดูเหนื่อยมากเลย ท่านเดินทางไกลมาขนาดนี้แล้ว ยังต้องเล่าเรื่องที่หนักหนาอีก ท่านควรพักก่อนดีไหม?”เอลดรินยิ้มอ่อน เมื่อเห็นความกังวลในสายตาของริน “ผมสบายดี แต่ก็ยอมรับว่าร่างกายไม่เหมือนเก่าแล้ว”“ถ้าอย่างนั้น” รินหันไปมองทุกคน “พวกเราควรพักก่อนดีไหม? การตามหาหัวใจแห่งอาราเลียไม่น่าจะเร่งด่วนถึงขนาดรอไม่ได้ เราเตรียมตัวให้พร้อมและเริ่มกันพรุ่งนี้เช้าดีกว่า”“ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง! พูดตรงๆ นะ ตอนนี้ผมหิวสุดๆ ถ้าพรุ่งนี้เช้าต้องเริ่มตามหาทันที โดยที่ไม่มีมื้อเย็นนี่ ผมคงหมดแรงแน่ๆ” เอร่ายกมือขึ้นเห็นด้วยทันทีเคลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รินพยักหน้าเห็นด้วย “ฟังดูเข้าท่า แต่เราต้องเตรียมที่พักให้เอลดรินด้วย มีห้องว่างอยู่ท้ายสวน มันค่อนข้างเงียบสงบและมีข้าวของเครื่องใช้ครบ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 30 หัวใจแห่งอาราเลีย

    เอลดรินนั่งลงข้างโต๊ะหินกลางสวนรัตติกาล ท่ามกลางแสงแดดอ่อนที่ลอดผ่านใบไม้ลงมา ท่าทางของเขาเคร่งขรึมและดวงตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ริน เคล เคียแรน และเอร่าล้อมรอบเขา บรรยากาศเงียบสงบในสวนดูเหมือนจะถูกแทนที่ด้วยความตึงเครียด“ท่านดูเหมือนคนที่ผ่านอะไรมาเยอะ ทำไมท่านถึงมาที่นี่ในเวลานี้?” รินมองเอลดรินด้วยความสงสัยเอลดรินถอนหายใจยาว น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความกังวล “ผมไม่มีทางเลือก ผมต้องรีบเตือนพวกท่าน กลุ่มซินดิเคทกำลังสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับหัวใจแห่งอาราเลีย และพวกมันไม่สนใจว่าวิธีการนั้นจะชั่วร้ายแค่ไหน คนของผมหลายคนถูกทำร้าย บางคน...ก็ตาย หนังสือโบราณจำนวนมากถูกพวกมันแย่งชิงไป”คำพูดของเอลดรินเหมือนเปลวไฟที่จุดประกายความโกรธ รินลุกขึ้นทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด “มาร์คัสอีกแล้ว! มันเป็นปีศาจ ทำร้ายผู้บริสุทธิ์แค่เพราะต้องการอำนาจ! ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังไม่หยุด”“และตอนนี้พุ่งเป้ามาที่สวน ถ้าเขาคิดว่าพวกเราจะยอมให้เขาได้หัวใจแ

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 29 อำนาจที่ไม่เคยได้รับ ความรักที่ไม่เคยได้ชม

    หลังจากคืนกวาดล้างครั้งใหญ่ มาร์คัสยืนอยู่บนยอดของอำนาจ เขามองลงไปยังซากปรักหักพังของกลุ่มคนที่ครั้งหนึ่งเคยยืนอยู่ข้างไอเดนและต่อต้านเขา ความพึงพอใจฉายชัดในแววตา ราวกับว่าเขาได้ปลดปล่อยพันธนาการที่เคยกดขี่มาตลอดชีวิตในห้องโถงใหญ่ของฐานทัพซินดิเคท มาร์คัสจัดงานเลี้ยงฉลองที่เต็มไปด้วยความหรูหราและมัวเมา บรรดาลูกน้องและพวกขุนนางชั้นต่ำที่หวังเกาะกระแสอำนาจของเขาต่างร่วมยินดี แต่ในใจของทุกคนแฝงไปด้วยความกลัวต่อความโหดเหี้ยมของชายผู้ไร้ความปรานีมาร์คัสไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว หลังจากกำจัดไอเดนและควบคุมกลุ่มซินดิเคท เขาเริ่มสั่งให้ทำการกวาดล้างทุกคนที่เขาสงสัยว่าอาจทรยศ สายลับและนักฆ่าถูกส่งไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อกำจัดศัตรูเก่าและใหม่ รวมถึงผู้ที่เคยช่วยไอเดนหนีรอดในอดีต“ฉันไม่ต้องการสิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบ” มาร์คัสกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ขณะมองดูรายชื่อเป้าหมายการลอบสังหารที่ยาวเหยียดในมือของเขา “หากพวกมันไม่ก้มหัวให้ฉัน ก็ไม่มีความจำเป็นที่พวกมันจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”&nbs

  • เสียงเพรียกแห่งสวนรัตติกาล | Whispers of the Midnight Garde   บทที่ 28 ผู้อาวุโสผู้มาพร้อมกับข่าวร้าย

    เช้าวันหนึ่งที่แสงอาทิตย์สาดแสงอ่อนโยนทอดผ่านกลีบดอกไม้ที่แบ่งบาน สวนเต็มไปด้วยเสียงนกร้องเพลงคลอเคล้ากับเสียงลมพัดเบา ๆ ทว่าความเงียบสงบนั้นถูกทำลายโดยกระแสลมแปลกประหลาดที่พัดวูบหนึ่ง ใบไม้ปลิวไหวในทิศทางที่ไม่มีใครคาดคิด กลิ่นหอมสดชื่นของดอกไม้ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นชื้นคล้ายควันไม้และกลิ่นหญ้าหลังฝนตกเสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นจากส่วนลึกของสวน ทั้งที่ไม่มีใครเปิดประตูให้ เสียงนั้นเหมือนจะสะท้อนในอากาศราวกับมาจากทุกทิศทาง เคลสัมผัสถึงบางสิ่งผิดปกติในทันที เขาขยับตัวมาข้างหน้า มือจับด้ามดาบแน่น ดวงตาคมมองตรงไปยังต้นเสียง ขณะที่เคียแรนก้าวมาข้างหน้าเพื่อปกป้องริน“ใครกันที่กล้าบุกรุกมาที่นี่?” เคลเอ่ยด้วยน้ำเสียงต่ำเย็น ดวงตาจับจ้องไปยังเงาที่ค่อยๆ ปรากฏตัวขึ้นจากเงามืดในหมู่แมกไม้ ชายชราผู้หนึ่งก้าวออกมาช้า ๆ เสื้อคลุมสีมอมแมมของเขาปลิวไสวไปตามลม แม้เสื้อผ้าจะดูธรรมดา แต่ตัวเขากลับมีบางสิ่งดึงดูดความสนใจได้ในทันที มือถือไม้เท้าที่มีลวดลายแกะสลักงดงาม เรืองแสงเบาบางเหมือนกับมีพลังบางอย่างซ่อนอยู่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status