LOGINบทที่ 10 ทำให้มันจบ
บรื้น ... เอี๊ยด ปัง
ญาดามองร่างสูงใหญ่ของอดีตเพื่อนสนิทที่ลงจากรถไปก่อนแล้วอ้อมมาฝั่งคนขับเปิดประตูเธอออกจนกว้าง
“ลงมาสิ ถึงบ้านแล้ว”
บ้านหลังใหญ่ใจกลางเมืองซื้อมือสองมาจากเศรษฐีเก่ารายหนึ่ง ทำจากไม้ทั้งหลังท่ามกลางสวนธรรมชาติ หาได้ยากในเมืองหลวง
“กูไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน ไม่มีเสื้อผ้า”
“อย่าสะตอ”
อึก .. อะไรกัน เธอนิ่วหน้ามองดวงหน้าคมสันที่ยิ้มมุมปากใช้ลำแขนพาดประตูรถไว้
“ขอโทษที่ปากมันหมาไปหน่อย เผลอพูดอย่างใจคิดน่ะ เพราะที่จริงกูเข้าไปดูห้องมึงมาแล้ว ห้องผู้หญิงเรียบร้อยสีชมพู น่ารักดี”
“กล้าดียังไงเข้าห้องกู”
ญาดาเผลอตัวผุดลุกออกจากที่นั่งคนขับลงมายืนด้านข้างทำให้ติณณ์ฉวยโอกาสดันเธอออกห่าง โน้มร่างหยิบกุญแจรีโมทก่อนกระแทกประตูรถปิด
“ความอยากรู้อยากเห็นถือว่าเป็นบาปอย่างหนึ่งไหม ฮึ แต่พอเข้าไปไม่ยักกะมีรูปของผัวเก่า อยากรู้จริง ๆ ว่าผู้ชายแบบไหนนะที่เพื่อนรักแต่งงานด้วย”
ติณณ์ไม่รอให้เธอตอบพาร่างสูงใหญ่เดินนำเข้าบ้านไปก่อน เธอมองดวงไฟในสนามหญ้าหน้าบ้านแล้วผินดวงหน้าหวานคมกลับไปทางเพื่อนสนิท
“เข้าบ้านไปก่อนแล้วกัน กูขอเดินเล่น”
ญาดาหมุนตัวกลับถอดรองเท้าออกแล้วย่ำสนามหญ้าด้วยเท้าเปล่า เดินไปทางม้านั่งตัวยาว เธอต้องการเวลาคิด ถอยให้ห่างจากรัศมีแรงร้อนอย่างชายฉกรรจ์ ไม่ใช่ชายวัยรุ่นวัยฮอร์โมนที่เธอเคยรับมือได้
บัดนี้ ปืน กัน หรือ ติณณ์ จะชื่ออะไรก็ตามแต่ทำเธอสับสน ร่างระหงหย่อนกายลงบนม้านั่ง เบื้องหน้าคือต้นคูณต้นใหญ่เก่าแก่กำลังเริ่มออกดอกสีเหลืองในช่วงต้นเดือนมีนาคม อากาศร้อนจนเหงื่อซึมแต่เธอกลับไม่รู้สึกถึงมันแม้แต่น้อย ภายในปั่นป่วนกับการได้พบเพื่อนสนิทคนนี้อีกครั้ง แล้วหวนนึกถึงอดีตเมื่อหลายปีก่อน วันที่ทำให้เธอต้องจากกับเขา
ยามเช้าเป็นอะไรที่สุขสงบของบ้านหลังนี้มาเสมอ ช่วงสองปีมานี้นับจากที่แม่แต่งงานกับโจนาธานก็ได้ย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้เต็มตัวรวมถึงเธอในช่วงแรกก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมแถวบริษัท
สวนขนาดใหญ่กลางเมืองช่วยลดทอนฝุ่นและเสียงรบกวนจากรถในยามเช้า เธอพลิกตัวบิดขี้เกียจพลันสะดุ้งโหย่งเมื่อรับรู้ว่ามีคนนอนอยู่ด้วยด้านข้าง
“ปืน” เสียงที่เล็ดลอดออกมาจากลำคอแสนแผ่วเบาเพราะกลัวว่าเขาจะตื่น ดวงหน้ายามหลับดูสุขสงบและไม่พยศดั่งตอนตื่น รวมไปถึงปากหมาที่ตอนนี้หุบสนิทจนทำให้เธอลอบกลั้นหายใจจากอาการเสียดแทงบางอย่างข้างใน
สีผมแสบตายามพระอาทิตย์ลอดผ้าม่านกระทบเกิดแสงและเงาหม่นบนดวงหน้าคมสัน เขานอนตะแคงข้างมาทางเธอ มือยังโอบพาดท่อนเอวเล็กไว้ เธอเหลียวมองจึงเห็นเสื้อผ้าเขาหล่นเกลื่อนปลายเตียง มีกลิ่นบุหรี่และกลิ่นเหล้า
เธอขยับร่างออกแต่เขาคงรู้สึกตัวตื่นทันทีเช่นกันเพราะติณณ์ลืมตาขึ้นมองจ้องนิ่งสนิท
“เตียงมันเล็กไปหน่อยนะ” น้ำเสียงแหบพร่าอย่างคนเพิ่งตื่นก่อนกระชับแขนดึงร่างเล็กของเธอเข้าไป
“ปืนเดี๋ยวก่อน”
“กูไม่ใช่เด็กวัยรุ่นคนเดิมแล้วแก้ม ทำให้รู้ว่าเสียงห้ามเล็ก ๆ ที่ลอดออกมาจากลำคอแสนสวยนี้” เขาเลื่อนมือขึ้นกำรอบคอบีบเบา ๆ แล้วดึงเข้าหาพร้อมชะโงกหน้าจนชิด “มันคือเสียงวอนขอต่างหาก ใช่ไหมแก้ม”
“ไม่ใช่ มึงเข้าใจผิด กูไม่ได้คิดแบบนั้น นี่มัน บ้าไปแล้วนี่บ้านแม่ บ้านโจ!!”
“แล้วไง เตียงเล็กนี่มันแข็งแรงดี ไม่เสียงดังเหมือนเตียงเหล็กที่หอ รับรองได้เลยว่าน้าจิตรและโจ ไม่มีทางได้ยิน” รอยยิ้มหยันมุมปากขณะเคลื่อนเข้าใกล้ “ยกเว้นแต่ว่า ... มันจะแรงจนเตียงหัก หรือไม่เสียงมึงจะหวีดร้องดังไปหน่อย”
ญาดาเบิกตากว้าง สบดวงตาวาวแสงรีบใช้มือเล็กยันแผงอกเปล่าเปลือย
“ปืน หยุดก่อน ทำไมเราไม่...ค่อย ๆ คุยกัน” เธอทำเสียงอ่อนลงให้ผู้ชายคนนี้ใจอ่อน แต่ไม่ได้ผล มือแกร่งยังกำรอบคอใช้นิ้วหัวแม่มือดันปลายคางเธอจนต้องแหงนดวงหน้า
“กลัวเหรอ กลัวกูหรือกลัวใจตัวเอง”
“ปืน”
เธอสะดุ้งเมื่อเขาบีบมือแน่นขึ้นอีก ปลายนิ้วหัวแม่มือคลึงปลายคางจ้องริมฝีปากกระจับกว้างเย้ายวนแล้วเหลือบตาขึ้น
“จำได้ไหมแก้ม วันนั้น กูพูดว่าไง”
ญาดาตาเบิกกว้างสบตาสีนิลมืดมนเย็นชา สีหน้าเจ็บปวดบางอย่างพาดผ่านรวดเร็วแล้วจางหาย เหลือเพียงสีหน้าเยาะหยัน
“กูเสี้ยนมึง และยังคงเป็นอยู่ ฉะนั้นกูจะทำให้มันจบเรื่องระหว่างเราแล้วต่างคนต่างแยกย้าย”
ติณณ์ละมือออกจากลำคอลากลงเนินทรวงกอบขึ้นอย่างเป็นเจ้าของ สายตาไม่ละจากดวงหน้าหวานคมที่เขาเฝ้าฝันถึงมาเนิ่นนาน อาจตั้งแต่เด็กด้วยซ้ำ
“แต่ว่า ยิ่งเราทำแบบนั้นมันยิ่งไม่จางหายไป ซ้ำร้ายจะตอกย้ำฝั่งแน่น ปืนคิดดูให้ดี”
มือเขาขยำแรงขึ้นยามยกยิ้มอย่างที่เธอเกลียดและเขารู้ดีว่าเธอเกลียด
“คิดงั้นเหรอ สิ่งที่อยู่ในหัวตอนนี้ ... แก้ม ยิ่งกว่าคิด” มือเลื่อนลงสะโพกรั้งชุดนอนตัวสั้นขึ้นพร้อมลากมือตามวกมาด้านหน้า “นี่ไง สิ่งที่กูคิดมาตลอดหลายปี ฉะนั้นกูจึงตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าให้มันจบ กูกับมึงต้องเอากัน จากนั้นแยกย้าย”
ญาดาตะลึงงัน เสียงทุ้มแข็งกร้าวไม่อ่อนข้อ เธอรู้ว่าเพื่อนสนิทคนนี้กำลังเอาจริงและมือก่อกวนด้านล่างกำลังล้วงลึกขึ้นกางลงเนินสาว
“ว่าไงแก้ม ที่จริงไม่ต้องถามก็ได้จริงไหม กูรู้ว่ามึงรู้สึกยังไง”
เธอเกลียดมัน เกลียดรอยยิ้มหยัน เกลียดตัวเองที่ยังคงแอ่นร่างรับยามปลายนิ้วสัมผัสรอยแยกแสนบอบบาง
“ปืน”
“แต่ไม่ใช่เช้านี้หรอกแก้ม วันจันทร์เราจะนัดคุยเรื่องธุรกิจ จากนั้นค่อยว่ากัน”
ติณณ์หัวเราะลงลำคอโน้มหน้าเข้าหาซอกคอสูดลมหายใจเลื่อนนิ้วผ่านลากขึ้นแล้วส่งเข้าปาก เลียทีละนิ้วจนญาดาหวาดหวั่น
“รอแทบไม่ไหวเลยบอกตรง ๆ แก้มเพื่อนรัก”
ติณณ์ยกร่างตัวเองขึ้นแล้วลงจากเตียงไร้เสื้อผ้า กลางลำตัวผงาดง้ำอย่างไม่อายแล้วก้มลงหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงจุดสูบไม่เกรงใจ
แชะ ... ฟู่ ...
“อย่ามัวอ้อยอิ่งบนเตียง ลุกอาบน้ำเถอะแก้ม น้าจิตรรอทานข้าวเช้า”
เขาอัดควันเข้าปอดแล้วเดินไปรูดม่านมองออกไปยังสวนหน้าบ้านเอี้ยวหน้ากลับมาทางเตียง
“หรือมึงจะเอาเช้านี้เลย”
เธอสะบัดหน้ากลับไปมองก่อนแดงซ่านไปทั้งลำคอ ร่างแกร่งตรงหน้าไร้ไขมัน แน่นกล้ามเนื้อที่เพิ่มพูนกว่าสมัยวัยรุ่น มือเสยผมทั้งที่ยังคีบบุหรี่จากนั้นผลักบานหน้าต่างออกกว้าง
เธอไม่รอช้าผุดลุกลงจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำ แว่วเสียงหัวเราะยังไล่หลัง
ติณณ์ยิ้มหยันเดินกลับไปทางปลายเตียงหยิบบ็อกเซอร์ขึ้นสวมแล้วตามด้วยเสื้อเชิ้ตตัวเดิม ปากคาบบุหรี่ - - เหมือนเดิมไม่มีผิด
เขาเฝ้าครุ่นคิดค่อนคืนก่อนตัดสินใจเข้ามาในห้องนี้ เฝ้ามองญาดาตอนหลับ สีหน้าอ่อนหวานหลับใหลเป็นคนเดิมที่เขาจำได้ เพียงแต่สวยขึ้นกว่าเดิม รูปร่างระหงอวบอิ่ม
เขาสะบัดกางเกงยีนส์สวมขึ้นพลางหัวคิ้วขมวด จากนั้นคีบบุหรี่ออกพ่นควันใส่ห้องนอนคุณหนูผู้ร่ำรวย
นิสัยไม่ดี นิสัยเลวทราม ทุกอย่างกองรวมกันผสมผสานอารมณ์ปรารถนา อารมณ์ดิบเถื่อน ยิ้มหยันให้ตัวเอง แล้วเดินกลับไปยังหน้าต่างใช้ฝ่ามือเท้ากรอบล่างหน้าต่างมองสวนสวยใจกลางเมือง เงินของโจนาธาน
โลกนี้ช่างมีเรื่องให้บังเอิญมากเกินไป บังเอิญเป็นเพื่อนกัน บังเอิญจากกัน และบังเอิญมาพบกันอีกในรูปแบบใหม่ ลูกบุญธรรมของสามีใหม่ อะไรมันจะประจวบเหมาะ ถูกเวลาจนเขาเผลอยกยิ้มอีกครั้ง
เขาพร้อมยิ่งกว่าพร้อม อาการเจ็บปวดแทบบ้า เที่ยววิ่งตามหาอย่างคนตาบอดเมื่อสิบปีก่อน เด็กหนุ่มคลั่งรัก ไม่มีอีกแล้ว
เขาตั้งใจจะใช้เธอดั่งพรมเช็ดเท้า หลังจากนั้นต่างคนต่างแยกย้าย จบเรื่อง และเขาจะได้ลืมเธอเสียที - - หวังว่าคงเป็นเช่นนั้น
ญาดาถอนหายใจโล่งอกเมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วไม่เห็นติณณ์ เขาเปลี่ยนไปมากจริง ๆ และมันทำให้เธอกลัว
ร่างระหงพาตัวเองไปยังตู้เสื้อผ้าเลื่อนลอยไปบ้างเพราะตกอยู่ในภวังค์ ‘กูเสี้ยนมึง’ คำหยาบโลนที่ติณณ์ใช้กับเธอ
ปัง.. มือกระแทกประตูเสื้อผ้าแรงกว่าปกติ
เธอกำลังหงุดหงิดตัวเอง ใช่แล้ว เธอมันใจง่ายเกินไป เจอเขาไม่ถึงวันดันปล่อยให้เขาแตะต้องเนื้อตัว ซ้ำถ้าติณณ์ไม่เป็นฝ่ายปล่อยมือ เธออาจเสียท่าให้เขาไปแล้วเมื่อครู่
ญาดากระชากเสื้อยืดขึ้นสวมหัวพลางสบถหัวเสีย ไม่น่าเชื่อว่าการเจอกับเขาอีกครั้งทำให้เธอเปลี่ยนกลับไปเป็นคนเดิม เอาแต่ใจและปากเสีย มองตัวเองในกระจก ดวงหน้าอ่อนหวานอย่างสาววัยยี่สิบเก้าไร้เครื่องสำอางมีเพียงลิปสติกสีอ่อน ส่งสายตาดุดันอย่างไม่ยอม เปล่งคำพูดเสียงดังดั่งสะกดจิตตนเอง
“ปล่อยให้มันเสี้ยนไป ไอ้ปืน กูไม่ยอมมึงง่าย ๆ หรอก ไอ้ปากหมา”
ตอนพิเศษ 3ฉันเกลียด เกลียดหมู่บ้านนี้ ขณะที่พ่อกับแม่ขนของลงจากรถเพื่อเข้าบ้านหลังใหม่ ฉันต้องจากเพื่อนโรงเรียนเดิม จากบ้านหลังเดิมห้องที่ฉันชอบที่สุดเพราะมันสีชมพูหวานแหววร่างเล็กในวัยแปดขวบของเด็กหญิงสูงกว่าเด็กชายทั่วไป แต่เพราะดวงหน้าน่ารักจิ้มลิ้มผิวขาวผ่องใสเห็นเส้นเลือด จึงแต่มีคนพากันชมไม่ขาดปากว่าน่ารักอย่างโน้นอย่างนี้ - - จะอ้วกฉันจูงไอ้ตุ่น หมาพันธุ์ทางสีแดงออกดำตุ่น ๆ เดินเล่นข้างทางหน้ารั้วบ้านแว่วเสียงร้องทักทายจากเพื่อนบ้าน แต่ฉันไม่ยอมหันไปดู“แก้ม มานี่ ช่วยกันขนของ”หน้าหวานเล็กเงยขึ้นแล้วดึงลากไอ้ตุ่นเข้าบ้าน“มา ๆ ทำตัวดี ๆ นี่ ข้างบ้านเราถัดไปสองหลังมีเด็กรุ่นเดียวกันนะ ชื่อปืน เป็นเพื่อนกันไว้”“คนอะไรชื่อปืน ฮ่า ฮ่า”“อย่าเสียมารยาท อีกหน่อยเราต้องพึงพาบ้านเขาหลายอย่าง”“ทำไมเราต้องพึ่งพาบ้านเขาด้วยคะแม่”“ก็เราเพิ่งย้ายมาใหม่ไง อีกอย่างได้ข่าวว่าเจ้าปืนลูกบ้านนั่นเรียนเก่ง อีกหน่อยเป็นเพื่อนกันก็ให้ไหว้วานฝากช่วยสอนแก้มได้ไง”“แหวะ!!”เพียะ!!ฉันทำเสียงอ้วกใส่ทันที แล้วรางวัลที่ได้กลับมาคือฝ่ามือเล็กของแม่บนต้นแขน แต่เพราะฉันมันเด็กดื้อและแสบจึงไม่ได้ใส่ใจ
ตอนพิเศษ 2 “ปืน”“อืออ”ผมทำเสียงงึมงำขานรับแต่ตายังจ้องแต่เกมที่หน้าจอโทรทัศน์ รู้สึกโซฟายุบตัวก่อนจะถูกแย่งจอยสติ๊กซ์ออกจากมือ“ฟังแก้มสิ”“มีอะไรพูดมา”ผมหัวเสียเล็กน้อย แต่ก็เท่านั้นเพราะเมื่อเอี้ยวหน้ากลับไปมองร่าวเล็กในชุดมัธยมปลายชั้นปีที่สี่ ผมเริ่มยาวจนมัดได้เป็นหางม้าเล็ก ๆ ตรงกลางผูกโบสีน้ำเงิน เธอกำลังยื่นบางสิ่งออกมาให้“อะไร”“ลูกอมออกใหม่”“ก็กินเองสิ”“กลัวไม่อร่อย”“...”ผมไร้คำพูดแต่ยอมอ้าปากออกให้เธอยัดลูกอมรสแปลกประหลาดเข้าในปากแล้วแลบลิ้น“อึ้ยยยย รสอะไรว่ะเนี่ย ห่วยแตกเป็นบ้าเลย เอาอะไรให้กูกินไอ้แก้ม”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” แก้มหัวเราะงอหายจนล้มนอนหงายข้างผม “เป็นไง อร่อยไหม”ผมอยากคายออกเดี๋ยวนี้กำลังทำท่าพ่นทิ้ง แต่เธอเอานิ้วมาดันปากผมเสียก่อนพร้อมฝ่ามือนุ่มหอมมาก ปิดปากผมไว้“อมไว้ปืน ฮ่า ฮ่า กินให้หมด”ผมมองเธออย่างเข่นเขี้ยว จับมือเธอดึงออกแต่ยายเตี้ยใช้อีกมือจับปากผมหุบไว้ ผมจึงจับมืออีกข้างออกเช่นกันแล้วดันจนเธอนอนหงาย หัวเราะเสียงดังผมชะโงกเหนือร่างยายเตี้ย ก้มลงมองดวงหน้าหวานพราวระยับสดใสด้วยรอยยิ้มอย่างที่ทำให้ใจผมเต้นแรง เสียงหวานใสดังต่อเนื่อง แล้วเธอจึงหยุ
ตอนพิเศษ 1ในช่วงอายุแปดเก้าขวบ คงเป็นช่วงอายุที่เด็กชายอย่างเราดวงซวยสุด ๆ ตามความคิดของผมปืนพาร่างเล็กไม่สูงมานักทั้งผอมเกร็งผิวคล้ำจากแดด เดินผ่านหน้าบ้านเด็กแสบเพราะโดนใช้ให้ไปซื้อน้ำมันร้านสะดวกซื้อ เรียกเสียหรูแต่แท้จริงคือร้านของป้าจูขายสารพัดอย่างในหมู่บ้านแต่อยู่ถัดไปอีกซอยผมเดินผ่านบ้านสองหลังกระทั่งกำลังจะถึงบ้านน้าจิตร แว่วเสียงเด็กแสบวิ่งเล่นในบ้านกับไอ้ตุ่น จึงรีบซอยเท้าเร่งอีก ใจอยากวิ่งแต่กลัวเสียฟอร์ม ฉะนั้นจึงค่อย ๆ เดิน“ไอ้ตุ่น” เสียงเด็กหญิงแก้มตะโกนเสียงดัง ยิ่งทำให้ผมแทบวิ่งเลยทีเดียว“ฮ่า ฮ่า ไอ้ตุ่น เห่ามันเลย เห่าเลย”ผมรู้ได้ทันทีว่าเด็กแสบมันกำลังสั่งให้เจ้าหมาหน้าโง่เห่าผม ฮึ เดี๋ยวกลับไปบ้านผมจะปล่อยไอ้เสือแมวที่บ้านมาตบหน้ามัน แต่ตอนนี้ผมเห็นควรวิ่งหนีดีกว่าคิดได้ดังนั้นผมจึงใส่ตีนผีวิ่งเต็มฝีเท้าจนในที่สุดพ้นระยะเขตบ้านของเด็กแสบ จึงได้ยืดกายเดินตรงอีกครั้งไปร้านป้าจูอย่างองอาจเว้นแต่ว่า ขากลับผมยังต้องผ่านบ้านมันอยู่ดี ในมือมีของหลายอย่างจะวิ่งให้เร็วคงไม่สะดวก ผมก้มมองไข่และน้ำมันในมือแล้วนิ่วหน้า - - เอาไงดีไอ้ปืนแต่เพราะผมเป็นลูกผู้ชาย ดังนั้นผ
บทที่ 26 จบสุดท้ายแล้วทั้งเธอและติณณ์ยังคงค้างต่ออีกหนึ่งคืน โดยไร้ซึ่งการร่วมรักเพราะญาดาไม่อาจรองรับไหวแล้ว แต่พอตอนเช้าตื่นนอนมาเธอยังโดนกวนอยู่ดี“ปืน ไม่เอา แก้มเจ็บ”น้ำเสียงอู้อี้เบี่ยงตัวหนีขณะที่ติณณ์เอาแต่ล้วงควัก เธอหลบเลี่ยงบิดตัวจนติณณ์หยุดมือจ้องหน้า“เอาจริงสิ แก้มเจ็บมากเหรอ”“เจ็บ!! ช้ำ แดง ปวด” ญาดาเน้นเสียงหนักแน่นทำหน้าขึงขังใส่ ติณณ์เงียบไปครู่แล้วโน้มหน้าเข้าใกล้กระซิบ“งั้น แก้มทำให้ปืนหน่อยนะ”“ปืน!!”“นะแก้ม ขัดลำปืนหน่อย”และติณณ์ไม่รั้งรอให้เธอปฏิเสธจับมือเล็กเรียวลงล้วงเข้ากางเกงบ็อกเซอร์ทันที และดูเหมือนลำปืนพร้อมรบยิ่งแต่เช้า“แรง ๆ แก้ม”เขานอนตะแคงรัดเธอไว้ให้เธอช่วยขัดลำปืน ส่วนตัวเองรุกรานเสื้อนอนแกะกระดุมจูบซุกไซ้ซอกคอ คลึงนม ดูดหัวป้าน ครางกระเส่าเว้าวอน“อืม แก้ม ดี อ่า ชักเร็ว ๆ”เธอเหลือบตามองบนแวบหนึ่งแล้วพลันสะดุ้งเมื่อมือใหญ่ล้วงเข้ากางเกงนอนเธอ เลื่อนนิ้วผ่านรอยแยก“ปืน ไม่ ไม่ต้อง”“อ่า แค่อยากจับ อ๊า อีก แรงอีก ปืนเอานิ้วเข้านะ”คราวนี้เธอปล่อยลำทันทีแล้วผลักอกเขาออก มองสีหน้ารวดร้าวใกล้สุขสมแต่ได้เพียงชั่วครู่เพราะเขาโน้มศีรษะลงปิดปาก ประ
บทที่ 25 nc“ถ้าแบบหยาบ อ่า เราต้องเพิ่มความขรุขระลงไป ลำปืนจะได้เกิดรอย”ขณะที่ติณณ์ถอนท่อนเนื้อร้อนออกแต่ไม่สุดพลันเลื่อนนิ้วเข้าทางรักไปด้วยพร้อมกันจนคับแน่น“ปืน!! เดี๋ยวก่อน แค่ของปืนก็ อ่า อ๊า ใหญ่ ปืน....”เสียงประท้วงหวานใสขาดหายกลางคันเมื่อลำรักกระทุ้งขึ้นโดยมีนิ้วแกร่งสอดแทรกด้านข้าง“ซี้ดด อืม ดี ชอบไหม ปืนคิดไว้นานแล้ว”“นะ นาน อ่า อ๊า แต่มัน..”ร่างอ่อนนุ่มแอ่นโค้งบิดหนีความรวดร้าวใกล้สุขสม นิ้วร้ายสอดเข้าพร้อมลำใหญ่โจนจ้วงเร็วขึ้น แม้ว่าไม่อาจถี่รัวได้เหมือนคราแรก แต่ความคับแน่นขรุขระทำให้เธอเจ็บหน่วง อาการปวดเนินสาวเกิดขึ้นเร็วเกินตั้งตัว มืออ้อมไปจิกผมคนใต้ร่างไว้แน่น ส่งร่างกระทุ้งลงรับลำปืนเข้มมันเธอปิดเปลือกตาลงปล่อยให้สายธารสวาทลื่นไหลไปทั่วร่างกาย ชีพจรกระหน่ำซ้ำร่องรักร้าวเสียวซ่าน ท่อนเนื้อแทรกสอดไม่พักเช่นเดียวกับนิ้วที่ยังสอดถี่ ฝ่ามือกดเนินสาวเนื้อขาวเสียงเตียงอ๊อดแอ๊ดดังแรง ติณณ์ส่งลำปืนโจนจ้วงขึ้นไม่หวั่นว่าจะมีใครได้ยิน เขาเลื่อนมือขึ้นกำเนินทรวงออกแรงคลึงเคล้น สอดใส่กระทุ้งขึ้นอีกให้เธอได้สมใจ เพียงไม่นานเขารู้สึกถึงแรงสั่นกระตุก ร่องสวาทตอดรัดลำแกร่งรว
บทที่ 24 nc“อ่า ปืนใกล้ขาดใจตายแล้วแก้ม เลื่อนลงอีก อ่า เห็นแล้ว อืม”น้ำเสียงติณณ์กระเส่าหนักยิ่งขึ้นยามเธอยกขาเอากางเกงในออกส่งให้เนินสวาทเปิดแย้มออก เธอหยิบเจ้าชิ้นเล็กขึ้นมาใช้นิ้วเกี่ยวไว้แล้วแกว่งหมุน จากนั้นโยนไปด้านหลัง เสียงคนร่างโตตะครุบได้และเสียงสูดดมแรง“อ่า แก้ม กลางเป้ามัน ... แฉะ”“ฮึ ต้องการให้แก้มโชว์อะไรอีก หรือว่าให้แก้มดีไซน์โชว์นี้เอง”เธอโก้งโค้งอีกครั้ง ใช้สองมือจับข้อเท้าตัวเองไว้จนลำตัวโค้งงอ หากมองจากด้านหลังคงเห็นเรือนร่างงดงามจนหมดสิ้น ส่งนิ้วเข้าหาแทรกรอยแยกก่อนแหวกออก“แก้ม อ่า”ติณณ์แทบเด้งตัวพุ่งออกไปหาร่างงดงาม มือขยับรูดท่อนเนื้อไม่หยุด มองภาพสวยงามกายสาวขาวนวลเนียนในยามเย็นลำแสงโพล้เพล้ เอวเล็กคอดกิ่วสะโพกผายออก ก้นกลมกลึงเป็นลูกเด้งตัวยามเธอก้มลง และดวงตาคมกล้าไม่ละออกจากร่องสาว มองเห็นชัดเจนว่าเธอกำลังเร้าอารมณ์แรงโลดเช่นกันจากเนื้อสาวฉ่ำชื้น นิ้วเรียวเล็กเล็บทำสีชมพูอ่อนเลื่อนขึ้นแล้วลงก่อนขยับเปิดรอยแยก จากนั้นจึงค่อยลากนิ้วป้ายน้ำออกมาหมุนตัวกลับมาด้านหน้า“ชิมไหมปืน” ญาดาส่งเสียงเจ้าเล่ห์บ้างก่อนป้ายน้ำบนยอดหัวเล็กแข็งชันตรงกลางทรวงอก ลากนิ้ว







