แชร์

บทที่ 14 แค่ความดีของจิตใต้สำนึก [2]

ผู้เขียน: Tuk Kung
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-07 16:15:04

หลังจากนั้นหญิงสาวก็ได้เดินตรงเข้าป่าอย่างที่ตั้งใจ จุดหมายปลายทางของการไปครั้งนี้ก็คือบ่อน้ำพุร้อน ที่นางตั้งใจจะไปนอนแช่ผ่อนคลาย ส่วนพวกยอดผักอ่อน ผลไม้ป่า คือผลพลอยได้เท่านั้นเอง

ร่างบางค่อย ๆ เดินอย่างระมัดระวัง เพราะตามทางเดินทั้งลื่นและพื้นดินชื้นแฉะมีแต่โคลนตม ในระหว่างทางไปบ่อน้ำพุร้อน หนิงเซียนก็ได้เก็บเอาสิ่งที่สามารถกินได้ใส่กระบุงด้านหลังไปด้วย ยิ่งฝนตกเสร็จใหม่ ๆ อากาศดีนัก ไม่ร้อนแดดดั่งเช่นวันปกติ ทำให้นางสามารถเดินได้อย่างเพลิดเพลินไปตลอดทาง

ต้องขอบคุณชาวบ้านที่รักและเอ็นดูนาง คอยสั่งสอนและให้ความรู้ในการดำรงชีวิต ไม่เช่นนั้นก็คงจะอดตายไปตั้งแต่แรก ไม่สิ จะอดตายได้อย่างไร ในเมื่อข้าวของภายในกระท่อมมิได้มีอะไรขาดเหลือเลยแม้แต่อย่างเดียว หากเทียบกับทุกคนในหมู่บ้าน ถือได้ว่านางเป็นสตรีที่ฐานะมีอันจะกินมากกว่าเสียด้วยซ้ำไป

เมื่อเข้ามาถึงภายในถ้ำ ความอบอุ่นที่ร่างบางได้สัมผัสช่างน่าพึงพอใจยิ่งนัก การที่ต้องต้มน้ำอาบในยามค่ำคืนกว่าสองเดือนที่ผ่านมา มันทุกข์ใจมากแค่ไหนใครเลยจะรู้

กายงามถอดอาภรณ์ออกจนหมด จากนั้นจึงค่อย ๆ หย่อนเท้าลงบ่อน้ำพุร้อนที่มีควันพวยพุ่งตลอดเวลา เมื่อลงไปถึงกลางสระ หนิงเซียนก็ดำน้ำลงไปทั้งตัว ก่อนจะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำอีกครั้ง นางดำผุดดำว่ายอยู่เช่นนั้นเป็นนานสองนาน

“อ้า... มีความสุขจัง” น้ำอุ่นกำลังดีทำให้ร่างกายที่เมื่อยล้าได้รู้สึกผ่อนคลาย กายงามนั่งแช่น้ำอย่างสบายอารมณ์ เมื่อคิดว่าตนเองนั้นได้แช่น้ำนานจนเกินไปแล้ว จึงได้ตัดสินใจขึ้นจากน้ำ

หลังจากนั้นหนิงเซียนได้แต่งตัวและเก็บสัมภาระเพื่อเตรียมกลับ ในขณะที่กำลังเดินทางกลับหมู่บ้านหญิงสาวก็พบเข้ากับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน มีชายแปลกหน้ากำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ชายผู้หนึ่งกำลังจะพลาดท่า ถูกชายชุดดำฟันเข้าที่กลางอก แม้จะบาดเจ็บแต่ชายผู้นั้นยังคงยืนหยัดต่อสู้จนถึงที่สุด

“เอ๊ะนั่น! เหตุใดถึงได้ดูคุ้นนัก” ร่างบางรีบหาที่หลบซ่อนตัวทันที ทว่าชายตรงหน้าเหตุใดนางถึงได้รู้สึกคุ้นเคยนัก เหมือนเคยเห็นเขาที่ไหนสักแห่ง แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกเสียที

หนิงเซียนเฝ้ามองพวกเขาต่อสู้กันอยู่ได้สักพัก ชายผู้นั้นถูกทำร้ายและโดนฟันไปหลายแผล หากปล่อยไว้ไม่แน่อาจจะถูกชายชุดดำฆ่าตายที่ป่านี้ก็ได้

จิตใต้สำนึกส่วนดีเริ่มทำงาน มันทำให้หนิงเซียนวางกระบุงไว้ด้านข้างก่อนจะค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้ อาศัยตอนที่ทั้งสองคนเผลอไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น ไวเท่าความคิด มือบางหยิบเอาท่อนไม้ขนาดเหมาะมือ แอบย่องเข้าหาชายชุดดำทางด้านหลังอย่างไม่กลัวตาย

หนิงเซียน เจ้าจะมาเป็นคนดีตอนนี้มิได้’ หญิงสาวได้แต่ต่อว่าตนเอง ที่อาจหาญทำอะไรลงไปโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย แต่หากจะให้หยุดการกระทำตอนนี้คงไม่ได้เสียแล้ว ในเมื่อนางได้ฟาดท่อนไม้ลงบนหัวชายชุดดำเต็มแรง จนมันลงไปนอนกองอยู่กับพื้น เพื่อมิให้อะไรผิดพลาดกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ร่างบางฟาดไม้ในมือใส่ชายโชคร้ายไม่ยั้งจนมันแน่นิ่ง หนิงเซียนจึงหยุดการกระหน่ำตีในที่สุด

“เห็นทีข้าคงจะต้องออกกำลังกายจริงจังแล้วล่ะ แค่ฟาดไม่กี่ครั้งข้าก็เหนื่อยหอบแล้ว เจ้าจะอ่อนแอเกินไปหรือไม่” หญิงสาวบ่นอุบอิบพร้อมกับหายใจเหนื่อยหอบ มองผลงานของตนเองอย่างชื่นชม ที่สามารถช่วยเหลือคนได้ โดยที่ตัวเองไม่ได้บาดเจ็บสักนิด

นับว่าเป็นความโชคดี ที่ชายชุดดำบาดเจ็บมาจากการต่อสู้ไม่น้อย จึงได้ถูกนางจัดการไปได้อย่างง่ายดาย ร่างบางทิ้งท่อนไม้ในมืออย่างรวดเร็วหมายจะเข้าไปดูคนเจ็บ ทว่ายังไปไม่ถึงตัวกลับมีกลุ่มคนปรากฏตัวนั่งคุกเข่าตรงหน้าเสียก่อน พร้อมกันนั้นยังมีบางส่วนที่ติดตามมา ได้เข้าไปปฐมพยาบาลคนเจ็บอย่างรวดเร็วเสียจนนางตั้งตัวไม่ทัน

พรึบ!!

“อนุหนิง ขออภัยขอรับที่พวกเรามาช้า”

กลุ่มคนมาใหม่ทำให้หญิงสาวถึงกับอ้าปากค้าง เหล่าองครักษ์ที่แสนจะคุ้นหน้า คำเรียกขานที่แสนจะคุ้นเคย และยิ่งตราสัญลักษณ์บนที่คาดหัวนั่น ชัดเลย อย่าบอกนะว่าคนที่นอนจมกองเลือดจะเป็น.....

“โอ๊ยยยย นี่มันวันซวยอะไรของข้า” รู้อย่างนี้น่าจะเชื่อท่านป้าไม่เข้าป่าเสียก็ดี

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [4]

    “ไฉฉือหยุดความคิดของเจ้าเดี๋ยวนี้” คำพูดจากปากสาวเจ้าไม่ค่อยจะเข้าหู มู่หลางพยายามข่มกลั้นความโกรธของตนเองอย่างสุดความสามารถ“พวกเจ้าเป็นอันใดกัน น่ารำคาญยิ่งนัก จะไปไหนก็ไป” หลังจากเขากับภรรยาแอบฟังมู่หลางพูดคุยอยู่นาน ได้จังหวะเหมาะจึงแสร้งทำเป็นไม่พอใจไล่คนทั้งสองไปที่อื่นเสีย“ขออภัยพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง กระหม่อมขอเวลาสักครู่พ่ะย่ะค่ะ” หากวันนี้ตกลงกันไม่เข้าใจ เห็นทีว่าไฉฉือคงต้องได้ยืดเวลากลับบ้านไปหาท่านป้าแล้ว“ไม่ต้อง อีกสองวันค่อยกลับมาทำหน้าที่ของเจ้า ไปแก้ปัญหาให้จบ อย่าให้ข้าเห็นเช่นนี้อีก” เหลียงเฟิงตวาดเสียงดุ ความจริงแล้วเขาก็อยากจะเล่นงิ้วต่อ แต่ภรรยาสุดที่รักกลับให้เขารีบจบบทบาทเจ้านายอารมณ์ร้ายนั่นเสีย ช่างน่าเสียดาย“ขออภัยอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก” องครักษ์หนุ่มสำนึกผิดที่ตนทำให้นายเหนือหัวต้องรำคาญใจ ทั้งที่วันนี้ท่านอ๋องกับหวังเฟยควรจะได้ออกมาทานข้าวนอกอย่างสำราญใจแท้ ๆ กายหนาหันกลับไปคว้ามือเล็กคนข้างกาย พาอีกฝ่ายขึ้นชั้นสามไปอย่างรวดเร็ว“ว๊าย! พี่มู่เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ” ไฉฉือร้องทัดทาน มือบางรวบเก็บชุดส่วนบนไว้แน่น ยิ่งพี่มู่ของนางดึงแรงเพียงใด

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [3]

    “เป็นอะไรไปไฉฉือ” หนิงเซียนเอ่ยถามขึ้น เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินผิด ๆ ถูก ๆ“นายหญิงเจ้าคะ ให้ข้ากลับเถอะเจ้าค่ะ คนมองเต็มเลย สงสัยข้าน้อยแต่งตัวประหลาด” หญิงสาวกระซิบกระซาบเสียงเบา ตั้งแต่นางพาเข้าในโรงเตี๊ยม ก็ถูกผู้คนจับต้องตลอดทางเดิน ทำให้นางไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าใดนัก“เป็นเพราะเจ้างดงามพวกเขาจึงได้มอง ไปกันเถอะ ไม่มีอะไรต้องกลัว ไม่อยากเจอพี่มู่ของเจ้าหรือ”“พี่มู่อยู่ที่นี่หรือเจ้าคะ” เมื่อนายหญิงเอ่ยชื่อพี่ชายที่แสนดี หญิงสาวก็หูผึ่งขึ้นมาทันที หลงลืมความอายไปชั่วขณะ“ใช่แล้ว ไปกันเถอะ” มู่หลางจงจำไว้ที่เจ้าพูดว่าจะไม่แต่งงานน่ะ ข้าจำคำนั้นขึ้นใจเชียวละ หุ หุเพราะหลายครั้งที่นางได้ยินคำนี้ออกจากปากองครักษ์หนุ่ม หนิงเซียนก็เฝ้ารอวันที่มู่หลางจะพลาดพลั้งบ้าง ส่วนมากคนพูดเช่นนี้ก็มักจะไม่พ้นผิดไปจากที่พูดเสียทุกรายมู่หลางหายใจฟึดฟัดเมื่อเห็นอีกคนเดินเข้ามาด้านในโรงเตี๊ยม วันนี้ไม่รู้ว่าท่านอ๋องคิดอะไรอยู่ ถึงได้ออกมานั่งรอหวังเฟยที่โต๊ะด้านนอก แทนที่จะเปิดห้องพิเศษเหมือนทุกครั้งไป นั่นใครสั่งใครสอนให้แต่งกายประหลาดเช่นนั้น เดินทีกระโปรงเปิดเปลือยไปถึงขาอ่อน แต่งมายั่

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [2]

    “น้องสาวทางสายเลือดหรือไม่” ตรงส่วนนี้ที่นางรู้สึกสงสัย ก็ไหนมู่หลางเคยบอกว่าไม่มีครอบครัวแล้วอย่างไร เหตุใดถึงได้มีน้องสาวโผล่มาได้“ไม่ ๆ เจ้าค่ะ ข้าน้อยเป็นเพียงบุตรสาวคนข้างบ้านพี่มู่ แต่ว่าเติบโตมาด้วยกันจึงสนิทกันเจ้าค่ะ” หญิงสาวรีบชี้แจงให้นายหญิงคนงามเข้าใจ นางและพี่มู่ห่างกันตั้งหกปี แม้จะเคยสนิทสนมกันมาก ทว่าเมื่อโตขึ้นพี่มู่กลับเว้นระยะห่าง แม้แต่เคยเล่นกอดคอกันเมื่อตอนเด็ก ๆ เขายังสั่งห้ามมิให้เข้าใกล้ ซึ่งนางก็ไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าใดนัก“จริงหรือ แล้วเขาดูแลเจ้าดีหรือไม่” ที่หนิงเซียนซักถามเช่นนั้น ก็เพราะว่ามู่หลางเป็นคนค่อนข้างจะทึ่มทื่อปากหนักในเรื่องชายหญิง นางก็อยากจะรู้เขาจะมีความรู้สึกพิเศษอะไรกับไฉฉือหรือไม่ สตรีหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักออกปานนี้ ไม่มีความรู้สึกอันใดก็คงจะแปลกไม่น้อย“ดีมากเจ้าค่ะ มีอะไรก็นึกถึงข้ากับท่านแม่ตลอดเลย นี่ก็ห่วงว่าพี่มู่จะหาภรรยาไม่ได้ แก่ไปคงได้อยู่ตัวคนเดียว ท่านแม่จึงให้ข้ามาดูให้เห็นกับตาเจ้าค่ะ” ด้วยความใสซื่อ ไฉฉือจึงพูดออกมาอย่างไม่มีปิดบัง แต่เมื่อถึงตอนนั้น หากเขามีคนรักขึ้นมาจริง นางก็ไม่รู้ว่าตนเองจะทำใจรับได้หรือไม่ ที่ผ่านมาต

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ มู่หลางผู้พ่ายแพ้ [1]

    ไฉฉือสาวน้อยจากหมู่บ้านชนบทยืนชะเง้อคอยาวอยู่หน้าประตูวังอันใหญ่โต นางไม่คิดว่าพี่มู่จะอยู่ดีเกินคาดไปมาก เมื่อได้เห็นกับตาก็สบายใจไปเปลาะหนึ่งที่ผ่านมานางและมารดากลัวว่าเขาจะอยู่อย่างยากลำบาก เงินที่แบ่งปันให้นางกับครอบครัวทุกเดือนก็มากโข แล้วไหนจะมีของฝากราคาแพงอีกมากมาย เพราะแบบนี้มารดาจึงไม่สบายใจ เกรงว่ามู่หลางจะเอาแต่ทำงานหนักไม่รู้จักดูแลตนเอง เงินที่ได้มาก็คงจะส่งให้พวกตนทั้งหมด ด้วยเขามีนิสัยคิดถึงผู้อื่นมากกว่าตนเองเสมอครอบครัวไฉฉือและมู่หลางไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแต่อย่างใด เป็นเพียงเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันเท่านั้น ตอนเด็กนางและเขาสนิทกันมาก ในตอนมู่หลางอายุได้สิบหนาวบิดามารดาตายจากด้วยโรคระบาด ไม่มีญาติมิตรคอยดูแล มารดาไฉฉือสงสารจึงได้ส่งเสียเลี้ยงดูราวกับลูกในไส้ สำหรับสายตาของหญิงสาว มารดาออกจะรักมู่หลางมากกว่านางที่เป็นบุตรสาวแท้ ๆ เสียอีกเมื่อเติบโตต่างฝ่ายต่างแยกย้าย ไฉฉือเป็นเพียงสตรีจึงทำได้แค่ช่วยมารดาทำสวนทำไร่อยู่บ้านนอก ส่วนมู่หลางเขาได้เดินทางมาเมืองหลวงเพื่อหางานทำ หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบหน้ากันอีกเลย มีเพียงจดหมายพร้อมกับตั๋วเงินแนบมาให้ในทุก ๆ เดื

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ เสด็จแม่ชอบกินของเผ็ด [3]

    เด็ก ๆ สามคน รวมไปถึงมู่หลางนั่งล้อมวงดื่มชากินขนมกันอยู่ศาลาพัก พร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จวนแม่ทัพหยางให้ความเอ็นดูเด็กแฝดเป็นอย่างมาก ฮูหยินหยางอยากให้บุตรชายได้มีบุตรแบบนี้สักคู่ทว่าแต่งงานมาได้สองปีกลับยังไม่มีหลานให้อุ้ม พวกเขาจึงแก้เหงาด้วยการขอท่านหญิงน้อย ท่านอ๋องน้อย มาเล่นที่จวนแม่ทัพในบางครั้งขนมพร้อมกับน้ำชาแสนอร่อยถูกลำเลียงมาวางจนเต็มโต๊ะ ทำเอาเด็ก ๆ ทั้งสามตาลุกวาวอย่างถูกอกถูกใจ มาจวนแม่ทัพทีไรล้วนแล้วแต่มีของอร่อยให้ได้กินจนเต็มคราบแต่เมื่อกลับถึงวังของหวานเหล่านี้จะกินตามใจปากไม่ได้แล้ว เพราะท่านแม่มักจะจำกัดการกินของพวกเขาเสมอ ท่านแม่บอกว่าเด็กกินของหวานไม่ดี ฟันจะผุ ถูกแมลงตัวร้ายกินหมดปาก“เฮ้อ” เด็กหญิงเคี้ยวขนมแก้มตุ่ย นั่งถอนหายใจราวกับมีเรื่องให้หนักใจเป็นหนักหนา กระนั้นก็ยังยกขนมในมือขึ้นกัดเข้าไปอีกคำโต“ไม่สบายตรงไหนหรือพ่ะย่ะค่ะท่านหญิง” หลี่หยุนรีบวางขนมในมือทันที พร้อมกับถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง“เราไม่เป็นไร เราแค่กังวลใจ”“ท่านหญิงกังวลใจเรื่องอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ เล่าให้กระหม่อมฟังได้หรือไม่” มู่หลางรู้สึกเป็นห่วง ท่านหญิงเป็นเด็กร่าเริง น้อยนักท

  • เหตุใดตัวร้ายถึงเอาแต่คลั่งรักข้า   ตอนพิเศษ เสด็จแม่ชอบกินของเผ็ด [1]

    “หนิงหนิง พี่ทนไม่ไหวแล้ว”กายหนาจับภรรยาหันหน้าเข้าผนังห้องทันที ก่อนจะถลกกระโปรงหญิงสาวขึ้นถึงเอว จากนั้นท่อนเนื้ออันใหญ่โตสอดเข้าผสานเนินสาวอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังออกแรงโยกไปตามอารมณ์ดิบเข้าออกเป็นจังหวะช้าเร็วตามแรงอารมณ์ ไม่แม้แต่จะเล้าโลมให้เสียเวลา“ท่านพี่เดี๋ยวก่อน” หนิงเซียนบัดนี้นางได้ถูกคนตัวโตตอกอัดตนเองเข้ากับผนังอย่างไม่ทันตั้งตัว นางและเขาใช้ชีวิตรักฉันสามีภรรยามานาน จนบุตรแฝดทั้งสองอายุได้สามหนาวแล้ว ทว่าความต้องการของสามีก็มิได้ลดน้อยลงจากเดิม ในบางครั้งออกจะมีความต้องการมากล้นเสียด้วยซ้ำตั้งแต่เจ้าสองแสบเริ่มโต นางและเขาก็มิได้มีเวลาให้กันมากเท่าใดนัก ด้วยบุตรทั้งสองต่างงอแงอ้อนขอนอนด้วยทุกค่ำคืน แม้พวกเขาจะโตมากพอที่จะแยกห้องนอนกันได้แล้ว แต่ก็ยังเกาะติดผู้เป็นมารดาราวกับลูกลิง บิดาผู้หลงบุตรมีหรือจะไม่ยอมตามใจ ผลกรรมทั้งหมดได้ตกมาอยู่ที่เขาแทน“พี่ขอเถอะ ประเดี๋ยวลูกก็คงกลับจากเรียนวิชาดาบแล้ว” เขาอดกินภรรยามาเกือบเจ็ดวันแล้ว เวลานี้ได้โอกาสเหมาะ จึงไม่พลาดที่จะกลืนกินภรรยาสาว ทุกเวลาล้วนมีค่าสำหรับเขา“อ๊ะ! แรงไปแล้วนะเจ้าคะ” หนิงเซียนหัวโยกหัวคลอน เขาไม่ยอมผ่อน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status