Share

บทที่ 3 กลัวผี

last update Last Updated: 2024-12-19 15:26:26

ภาคีขับรถกอล์ฟมาส่งเหนือฟ้าลงหน้าบ้านพัก เขาจอดรถและเดินตามหลังมา

"เหนือ"

"คะ...พี่คีมีอะไรเหรอ"

"ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับเหนือฟ้า พี่ขอแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ พี่ภาคี กฤตกล้าธนาดร อายุยี่สิบห้าปี สถานะโสด"

"รู้มาตั้งนานแล้ว" สาวแก้มยุ้ยพูดพึมพำ

"ว่าไงนะ"

"เปล่าค่ะไม่มีอะไร งั้นราตรีสวัสดิ์ค่ะ"

"ฝันดี"

แผ่นหลังสูงขับรถกอล์ฟไปจอดที่มุมมืดเพื่อลอบมองดูสาวอวบที่กำลังแตะคีย์การ์ดเข้าห้อง พอมั่นใจว่าเธอปลอดภัยเขาถึงขับรถออกไป

นี่เป็นครั้งแรกที่เหนือฟ้านอนคนเดียวในที่ต่างถิ่น หลังจากอาบน้ำเสร็จเธอก็เปิดไฟสว่างไปทั่วห้อง

ตั๊บแก!! ตั๊บตั๊บตั๊บแก"

"ตุ๊กแกที่นี่ก้างติดคอหรือไง แต่บรรยากาศที่นี่วังเวงจัง ป่านนี้พี่ไนท์หลับหรือยังนะ" เหนือฟ้าแชตไปหาพี่สาว แต่ราตรีไม่อ่านข้อความของเธอ

หญิงสาวจึงพยายามสวดมนต์เพื่อผ่อนคลายตัวเองก่อนนอนและฝืนข่มตา แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีอาการกลัวผียิ่งทำให้เธอกระสับกระส่าย จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงห้าทุ่ม

"ฮือตายแน่นอนไม่หลับ"

แฟ่ก! แฟ่ก!

เหนือฟ้าสะดุ้งลุกดึงผ้าห่มมาคลุมจนมิดหัว "เสียงอะไรอ่ะ"

ด้านนอกระเบียงมีแมวประจำรีสอร์ตแวะมาฝนเล็บ ทำให้คนกลัวสิ่งที่มองไม่เห็นขึ้นสมองเริ่มหวาดระแวงจนมโนไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าเป็นเสียงเล็บขูดของผี

หญิงสาวลนลานควานหาโทรศัพท์นอกผ้าห่มแล้วรีบเปิดแชตข้อความไปหาภาคี "พี่คีเหนือกลัวผีค่ะ มาอยู่เป็นเพื่อนเหนือหน่อย"

ภาคีอ่านอย่างไวแล้วรีบตอบกลับมารวดเร็วไม่แพ้กัน "ขอพี่ใส่เสื้อผ้าก่อนนะ พี่ยังโป๊อยู่เลย"

"อ๊าย..ตาบ้าไม่เห็นต้องบอกเลยว่าโป๊อยู่ ใครอยากรู้เล่า" ปากก็ว่าแต่ก็อดจินตนาการถึงซิกซ์แพ็คแน่น ๆ ใต้เสื้อกล้ามสีดำไม่ไหว

สาวอวบในชุดนอนกระโปรงคลุมเข่านั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียง ประมาณสิบกว่านาทีเสียงเคาะประตูในยามวิกาลก็ดังขึ้น เหนือฟ้ารีบส่องตาแมวเพื่อความมั่นใจ แล้วค่อยเปิดประตู

"ขอโทษนะคะที่รบกวน พอดีเหนือไม่เคยนอนคนเดียวค่ะ แล้วพี่ไนท์ก็หลับไปแล้ว"

"ไม่เป็นไร พี่ขอเข้าห้องได้ไหม" ภาคีไม่รอให้เธออนุญาตกลับเดินเข้าไปในห้องแถมยังพกหมอนข้างมาด้วย "มานอนเถอะพี่ง่วงสุด ๆ เลย พรุ่งนี้พี่มีงานที่คาเฟ่อีก ถ้าเหนือไม่ว่าอะไรพี่ขอหลับอยู่ข้าง ๆ นะครับ"

เขาพูดปุปก็วางหมอนข้างกั้นตรงกลางแล้วปิดตาสนิททันที

"อ้าวหลับแล้วเหรอคะ...หลับไวจัง" เหนือฟ้าคลานขึ้นมาบนเตียง ล้มตัวนอนโดยหันตะแคงข้างมองหน้าหล่อ ๆ ของคนด้านข้างจนกระทั่งปิดตาลง

แต่คนที่มานอนเป็นเพื่อนกลับเปิดตาออก ยกแขนขึ้นเท้าหัวมองดูหน้าหวาน และแก้มพองนุ่ม พินิจพิเคราะห์เก็บทุกรายละเอียด ยื่นนิ้วไปเกลี่ยเส้นผมที่บดบังจากสายตา

"จะรู้บ้างไหมนะว่าตัวเองสวย สวยของคนอื่นพี่ไม่รู้ว่าเป็นยังไง แต่ของพี่คือแบบเหนือ"

เสียงนุ่มกล่าวท่ามกลางความมืดมิดที่มีเพียงแสนจันทร์ลอดฉายผ่านผ้าม่านเข้ามา ภาคียิ้มปนเศร้าเพราะอีกสามเดือนข้างหน้าเขาก็จะไปเรียนต่อปริญญาโทและไปหาประสบการณ์ด้านการเกษตรที่ญี่ปุ่นสักสองสามปีก่อนจะกลับมาดูแลไร่ควายที่นครนายกซึ่งเป็นมรดกตกทอดของบรรพบุรุษ

แสงสีทองสว่างวาบกระทบเปลือกตาของคนขี้เซา เหนือฟ้าผุดลุกขึ้นหันไปหาคนด้านข้างรู้สึกโล่งอกขึ้นมาหน่อย ๆ ที่เขาไม่อยู่แล้ว

"ถ้าตื่นมาตอนเช้าแล้วเห็นเราน้ำลายยืดแบบนี้ เขินตายเลย" เหนือฟ้าเช็ดคราบน้ำลายที่แห้งติดมุมปาก

หญิงสาวนั่งกินมื้อเช้ากับครอบครัวที่ร้านอาหารของรีสอร์ต หากหันหน้าไปฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นคาเฟ่ที่มีบาสริสต้าหนุ่มยืนประจำการอยู่ ภาคีฉีกยิ้มกว้าง ส่งให้บ่ะหนุนน้อยของเขา

เหนือฟ้าเผลอยิ้มตอบ ชายหนุ่มอึ้งไปเล็กน้อยที่สาวเจ้าทำท่าจะเล่นด้วย เขาจึงกระพริบตาให้หนึ่งข้าง

แต่คราวนี้เธอจำต้องรีบเบือนหน้าหนี เพราะรู้ตัวแล้วว่าการเล่นระหว่างเธอกับเขามันชักบานปลาย

ประมาณสิบโมงหญิงสาวเดินไปถ่ายรูปบรรยากาศของไร่ชา และไปดูกรรมวิธีแปรรูปชาเขียว รวมทั้งล่องเรือริมแม่น้ำปายกับครอบครัวและขึ้นมากินมื้อเที่ยงด้วยกัน

หลังจากเติมพลังกันจนเต็มที่เหนือฟ้าจึงแวะไปที่คาเฟ่เพื่อหาเครื่องดื่มสักแก้ว เพราะเห็นว่ายังไม่มีคนมาสั่งจึงคิดว่าจะช่วยอุดหนุนคนหล่อสักหน่อย แต่ปลายเท้าสองข้างกลับชะงักค้าง เพราะผู้หญิงที่ไหนไม่รู้กำลังโน้มคอพี่คีลงมาจูบอย่างดูดดื่ม แถมพวกเขายังตัวสูงไล่เลี่ยกันอีก

เหนือฟ้ารีบกลั้นน้ำตาเม้มริมฝีปากเข้าหากันเพื่อสะกดกลั้นความเสียใจ รีบก้าวขาฉับ ๆ เดินออกมาจากคาเฟ่ จังหวะเดียวกันนั้นผู้ช่วยบาริสต้าอีกคนก็เดินสวนเข้ามาพอดี

"ชมปล่อยสักที" ภาคีผลักตัวเธอออกแล้วเช็ดริมฝีปากอย่างหงุดหงิด

"ทำไมรอบนี้หวงเนื้อหวงตัวนักละคะ ที่ชมมาหาเพราะคุณไม่ติดต่อมาเลยชมคิดถึงเลยต้องมากอดจูบลูบคลำให้หายคิดถึง คืนนี้ว่างไหมคะ ชมให้กินฟรีเลยนะ"

"ที่ผมหยุดติดต่อคุณ เพราะไม่คิดจะซื้อใครกินแล้วไง ผมพอแล้ว ตอนนี้ผมต้องการแม่ของลูก" ภาคีตวาดแล้วรีบเดินออกจากคาเฟ่

"คุณคีครับ เมื่อกี้ผมเห็นแขกคุณคีวิ่งหน้าซีดออกไป สงสัยจะเห็นภาพติดเรทกลางวันแสก ๆ" คำปอเบะปากใส่ชมออนที่ชอบถืออภิสิทธิ์คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงของเจ้านาย

"แขกคนไหนคำปอ" ภาคีเริ่มหวั่นใจกลัวว่าจะเป็นคนที่เขาคิด

คำปอย่นคิ้วเกาหัวกลอกตาไปมา "ก็สาวขาวอวบหน้าหวานคนนั้นไงครับ"

"ฉันรู้แล้ว ขอบใจมาก ฝากส่งชมออนกลับด้วย ดีดไปให้ไกล ๆ เลย" ภาคีตบบ่าคำปอ

ชายหนุ่มรีบปั่นจักรยานที่จอดไว้หน้าคาเฟ่ปั่นหาเหนือฟ้าไปทั่ว ทั้งแชทไปหา โทรหาเธอก็ไม่รับสาย

สาวอวบนั่งกอดเข่าอยู่ที่ริมระเบียงห้องพักชำเลืองมองแชทของภาคีที่เด้งเข้ามารัว ๆ

ก๊อก! ก๊อก!

ด้วยความหงุดหงิดเธอจึงเดินไปเปิดประตูโดยที่ลืมส่องตาแมวเหมือนทุกครั้ง ทำให้ไม่อาจปิดประตูหนีคนด้านนอกได้ทัน

ฝ่ามือใหญ่ตะครุบขอบประตูเอาไว้อย่างรวดเร็วจนเกือบจะถูกหนีบ "ทำบ้าอะไรของพี่คี อย่านึกว่าเป็นลูกชายเจ้าของรีสอร์ตจะทำอะไรเอิกเริก หรือเผด็จการกับใครก็ได้นะคะ"

"โมโหพี่เรื่องอะไร" ภาคีลองใจ

"เปล่านี่คะ ไม่ได้โมโหไม่ได้รู้สึกอะไรทั้งนั้น ขอเหนืออยู่คนเดียวได้ไหม" เหนือฟ้าพยายามดันอกของชายตัวสูงใหญ่ให้ออกห่าง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เหนือหัวใจภาคี   บทที่ 135 ไปเที่ยวเทวาลัย

    ปิดเทอมหน้าร้อนเทอมสุดท้ายบะแต๋งจะเรียนจบประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 ส่วนนิ่มฟ้าและน่านฟ้าจะขึ้นปอ.2 ครอบครัวคนเลี้ยงควายจึงคุยกันว่าจะไปเยี่ยมเยียนครอบครัวมหาจันทร์ของปินปินและพบปะสังสรรค์สักหนึ่งอาทิตย์หลังจากที่ภาคีจอดรถจี๊ปในอาณาจักรอัญฎรญามีอันยิ่งใหญ่ที่มีเทวสถานพระศิวะขนาดความสูง 35 เมตร นิ่มฟ้าที่กำลังนั่งมองวิวทิวทัศน์สังเกตเห็นว่ารอบบริเวณเทวาลัยถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้พลันนั้นเด็กหญิงกลับสะดุดตาเข้ากับไม้ยืนต้นสูงที่มีลักษณะใบคล้ายกับต้นมณฑารพที่เทพมาสมักจะนัดพบเจอเธอที่นั่น เพียงแต่ดอกไม้ตนนั้นมีขนาดสูงใหญ่กว่าและผลิดอกสีเหลืองนวลเต็มต้น"พี่คีพี่เหนือเชิญทางนี้ค่ะ" แซมมี่ในชุดสาหรี่แต้มผงกุมสีแดงกลางหน้าผากเดินออกมาพร้อมกับมะแป่มตัวน้อยที่ตอนนี้ขึ้นอนุบาลสองเรียบร้อยแล้ว ทันทีที่มะแป่มเห็นน่านฟ้า หนูน้อยก็ทำตัวอ่อนเดินเซไปหาคนพี่"ปี้น่านขา" มะแป่มคว้าหมับที่แขนของเด็กชายจนผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองต่างพากันหัวเราะขบขัน"เอ่อ...เป๋นหยังครับ" น่านฟ้าขานรับแต่กลับยืนตัวเกร็งหน้าแดงซ่าน"อุ๊ย..." มะแป่มทำท่าสะดุดขาแล้วรีบสวมกอดเอวพี่พลางเอาหน้าซบแผ่นอก"เกินไปแล้วจ้ะแม่ลูกสาว" แ

  • เหนือหัวใจภาคี   บทที่ 134 จากกันเพื่อพบเจอ

    ภายในอ่างอาบน้ำทรงกลมที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องน้ำ มีร่างตุ้ยนุ้ยสองแม่ลูกกำลังแช่น้ำนมอุ่น ๆ ที่ภาคีเป็นคนเตรียมให้ ระหว่างที่เหนือฟ้ากำลังหยิบฟองน้ำเตรียมยกขึ้นมาขัดแผ่นหลังให้ลูกสาว พลันนั้นบาดแผลที่มีร่องรอยของการถูกกัดก็ปรากฏอยู่บนหัวไหล่เล็ก นัยน์ตาของเธอสั่นระริกวูบไหวอย่างฉับพลัน หัวใจของคนเป็นแม่แทบแหลกสลายในทันที เมื่อเห็นว่าลูกสาวยังมีบาดแผลภายในร่มผ้าที่เธอหรือหมอก็ไม่เคยรับรู้มาก่อน"นิ่มฟ้าคะ หนู หนูเจ็บไหมลูก" ฟองน้ำรูปสัปปะรดหลุดลอยจากฝ่ามือไหลผ่านไปยังเบื้องหน้าของเด็กหญิงที่กำลังนั่งหันหลัง นิ่มฟ้าย่นคิ้วชิดกันแล้วรีบหันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น"เป็นอะหยังก๊ะหนุนน้อย" มือเล็กยื่นไปจับแก้มขาวอมชมพูของแม่ ผิวพรรณของแม่ทำให้เธอรู้สึกหลงรัก"หัวไหล่หนูไงคะ โดนยัยเด็กกระถินนั่นกัดมาเหรอ ทำไมหนูไม่บอกแม่ว่ามีแผลตรงนี้ด้วย"เจ้าของบาดแผลกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว แต่แม่ของเธอกลับน้ำตาไหลอาบนองหน้า "เจ้า นิ่งโดนขบมาแต่นิ่งบ่เจ๋บแล้ว อี่แม่บ่ต้องร้อง เดี๋ยวนิ่งร้องตามเน้อ"เด็กหญิงโผเข้าซุกอกของแม่ที่ล้นหลามเหนือผิวน้ำ เหนือฟ้าสวมกอดกลับจูบซับศีระษะเล็ก ๆ ซ้ำ ๆ ไม่รู้เบื่อเส

  • เหนือหัวใจภาคี   บทที่ 133 โดนเรียกผู้ปกครอง

    นิ่มฟ้าแสดงสีหน้าและแววตาโกรธสุดขีด เด็กหญิงตอบโต้กลับไปหาอีกฝ่ายด้วยความขุ่นเคือง กำหมัดสองข้างแน่นพยายามนึกถึงหน้าครอบครัวที่เธอรัก นึกถึงเทวดาคนโปรด"กรี๊ดด ติ๋นไม่ได้โง่นะ ไม่ได้โง่" กระถินกระทืบเท้าปึ้กปั้กแล้วพุ่งเข้ามากระชากศีระษะของนิ่มฟ้าและใช้กรงเล็บครูดข่วนใบหน้าของเธอไปทั่วโดยมีเพื่อน ๆ พยายามช่วยกันดึงตัวกระถินสายวีนออกจากการทึ้งหัวของหัวหน้าห้อง"ปล่อยเปิ้นเน้อ ปล่อยสิ" นิ่มฟ้าพยายามแกะมือเหนียวของกระถินออก พอเห็นว่าไม่เป็นผลเธอจึงใช้แรงทั้งหมดเหวี่ยงตัวของเด็กหญิงที่ตัวเล็กกว่าจนเหวี่ยงไปกระแทกกับพื้น"โอ้ย ยัยหัวหน้าเผ่าฟาย" กระถินโกรธหน้าดำหน้าแดง"บ่าใจ้ฟายตำมะดาโตย แต่เป๋นฟายเจ๋ดทัวย่ะ" เด็กหญิงเถียงกลับแล้วรีบจัดทรงผมให้เข้าที่ เตรียมที่จะเดินหนียัยกระถินปากจัดที่พูดจาไม่รู้เรื่อง"ไม่ให้ปายยย" กระถินวิ่งกลับเข้ามากระโดดตะครุบกลางหลังนิ่มฟ้า เนื่องจากเธอตัวเล็กกว่าทำให้ปีนขึ้นไปอยู่หลังเด็กหญิงหุ่นจ้ำม่ำได้ง่ายขึ้นงั่บ!"โอ๊ยยย" นิ่มฟ้าร้องเพราะถูกคมเขี้ยวของกระถินงับลงมาบนหัวไหล่ แม้จะมีเนื้อผ้าของชุดนักเรียนขวางกั้นแต่ฟันคม ๆ ก็กัดจมลงมาจนเด็กหญิงถึงกับน้ำตาเล็ด

  • เหนือหัวใจภาคี   บทที่ 132 ประถมไฟท์

    หลังจากกลับจากโรงพยาบาลภาคีอาสาดูแลหมูยอแทนเหนือฟ้า ระหว่างนั้นเขาจึงปรึกษากับภรรยาเรื่องลูกสาวเพราะเกรงว่าอาจมีการกลั่นแกล้งและบูลลี่กันที่โรงเรียนโดยที่เขาและเธอไม่เคยรับรู้มาก่อน"เหนือว่าเราควรไปสอบถามคุณครูโดยตรงเลยดีไหม พี่ไม่ค่อยสบายใจเลย" เขาบ่นพึมพำท่ามกลางไฟสีส้มที่ส่องจากโคมรูปเห็ด ขณะที่ตนเองกำลังนอนตะแคงตบ ๆ ก้นให้หมูยอที่เพิ่งจะนอนหลับสนิท เนื่องจากหนูน้อยรู้สึกกระสับกระส่ายไม่สบายท้อง แค้พอได้รับประทานยากับเกลือแร่เข้าไปอาการท้องเสียของเจ้าตัวเล็กก็ดูทุเลาลงสาวอวบที่เพิ่งอาบน้ำและไดร์ผมเสร็จก้าวขาเข้ามาในคอกกั้น วันนี้เธอกับสามีตัดสินใจนอนที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูแลหมูยอ"ดีค่ะ เพราะสมัยที่เหนือโดนเพื่อนแกล้งและถูกล้อเลียนเรื่องรูปร่างเหนือก็มีความรู้สึกเดียวกับลูก เหนือไม่เข้าใจเลยว่าตอนนั้นทำอะไรผิดเพื่อน ๆ ถึงไม่อยากคบเหนือ ตอนนั้นคนเดียวที่ให้คำปรึกษาได้คือพี่ไนท์ค่ะ แต่ตอนนี้เราคือครอบครัว เราทุกคนจะช่วยกันให้คำปรึกษานิ่มฟ้า เหนือจะไม่ปล่อยให้ลูกเผชิญความเจ็บปวดคนเดียวเด็ดขาด" หญิงสาวเล่าเท้าความในอดีตที่เจ็บช้ำ คำพูดถากถากทับถมของเพื่อน ๆ กลายเป็นปมในใจของเธอที่อยาก

  • เหนือหัวใจภาคี   บทที่ 131 เรื่องที่โฮงเฮียน

    ติ๊ด! ติ๊ด!เสียงนาฬิกาปลุกข้างหัวเตียงดังขึ้นทำให้พ่อครัวใหญ่รีบดีดตัวขึ้นมาคว้าผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ ใช้เวลาชะล้างร่างกายเพียงสิบห้านาทีจึงรีบวิ่งซอยเท้าลงไปแล้วเริ่มปรุงอาหารด้วยความรักก่อนที่ลูกและภรรยาจะตื่นนอน"ป้อขี้!""เฮ่ย" หัวมันฝรั่งในมือเขาร่วงตุ้บลงกระแทกพื้น นิ่มฟ้าที่อยู่ชุดเสื้อคอกระเช้าเด็กประแปรงหน้าขาววอกสะกิดเรียกเขาท่ามกลางความมืดสลัวของห้องครัวในเวลาตีห้า"นิ่งบ่าใจ้ปี๋เน้อ ป้อต๋กใจนิ่งก๊ะ" นิ่มฟ้าลากเก้าอี้แล้วก้าวขึ้นไปยืนข้างพ่อชะโงกดูวัถตถุดิบที่พ่อเตรียมทำมื้อเช้า "ป้อทำก้าวผัดแฮ่มก๊ะ"เด็กหญิงสังเกตเห็นว่ามีเครื่องเคียงเป็นผัก หมูสับ และแฮมอีกอย่างพ่อก็วางกระทะตั้งไว้กับเตาแก๊สจึงมั่นใจว่าพ่อกำลังจะทำข้าวผัดแฮม"ฉลาดนะเนี่ยเรา ถูกต้องครับป้อกำลังทำข้าวผัดแฮมแล้วก็มีน้ำซุปมันฝรั่งซดแก้ฝืดคอ" เขาว่าแล้ววางหัวมันลง"โอ้โหดีเลยนิ่งกำลังอยากกิ๋น" นิ่มฟ้าคว้าหัวมันฝรั่งที่พ่อวางไว้บนเขียงมาถือแล้วหาที่ปอกเปลือกมัน"นี่ครับ" ผู้เป็นพ่อหยิบที่ปอกให้ลูกสาว มือเล็กรับไว้แล้วเริ่มปอกมันฝรั่งอย่าทะมัดทะแมง"ค่อย ๆ ปอกนะครับ แล้วนี่หนูตื่นมาทำอะไรแต่เช้า วันนี้วันเสาร์ไม่

  • เหนือหัวใจภาคี   บทที่ 130 ป้อต้องทำบุญเน้อ

    โรงพยาบาลทั้งครอบครัวเดินทางมาให้กำลังใจภาคีในวันที่มีผ่าตัดทำหมันกับหมอที่โรงพยาบาล หลังจากที่เขาตัดสินใจจะหยุดการสืบพันธ์ุนี้เพราะเกรงว่าภรรยาจะเผลอท้องขึ้นมาอีกในอนาคต และเพื่อแสดงตนว่าเขาจริงใจที่จะเสียสละเพื่อเธอดังนั้นวิธีการนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพราะเขาอยากให้เหนือฟ้ารู้ว่าทายาททั้งหกคนของเขาจะเป็นของเธอตลอดไป และจะมีใครมีโอกาสแย่งชิงเขาไปจากเธอ"ปี้ปี้" หมูยอเดินเลาะไปมาเกาะแข้งเกาะขาพวกพี่ ๆ ขณะที่แป้งจี่นอนหลับอยู่บนตักแม่ ส่วนน้ำเงี้ยวนั้นนอนแผ่ยาวหนุนตักน่านฟ้าและนิ่มฟ้าเสมือนว่าพี่สาวพี่ชายเป็นเตียงนอนส่วนตัว"หมูยอคะมานั่งเฉย ๆ สิลูก" เหนือฟ้าอุ้มลูกชายสายปราดเปรียวที่ไม่ยอมหลับยอมนอน เอาแต่ปีนป่ายโซฟาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย"หม่ำ ๆ" หมูยอเริ่มเดินเหนื่อยหนูน้อยหยิบขวดนมในกระเป๋าสัมภาระเด็กที่วางอยู่บนเก้าอี้ แล้วเปิดฝาขวดนมบริการตัวเอง"อะหยังป้อต้องตัดหำโตยก๊ะ" น่านฟ้าสงสัยตั้งแต่พ่อบอกว่ามีนัดตัดสิ่งที่อยู่ใต้หว่างขา เด็กชายก็มีคำถามกับเธออยู่ตลอด"ป้อตัดเพื่อคุมกำเนิดพวกเราจะได้มีกันแค่หกคนไงคะ ไม่ดีเหรอหรือหนูอยากมีน้องเพิ่ม" เหนือฟ้าหันไปอธิบายกับลูกชาย"อึ๋ย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status