Share

บทที่ 9

last update Last Updated: 2025-05-15 22:39:49

เธอรบเร้าอยากจะนอนค้างคืนกับแม่ที่บ้าน แต่แม่กลับไม่ยอม ผลักไสไล่ส่งให้เธอกลับไปทำหน้าที่ภรรยาดูแลผัวท่าเดียว! แม่จะรู้บ้างไหมนี่ ว่าพ่อลูกเขยสุดที่รักของแม่กลับบ้านอาทิตย์ละครั้ง แถมแต่ละครั้งก็เดินสวนกันราวกับคนไม่รู้จัก!

วันนี้เมริสาเลือกที่จะใช้เส้นทางอ้อม เพราะอยากกินลมชมวิว ดูตึกราบ้านช่อง ให้สบายใจก่อนจะต้องกลับไปอดอู้อยู่ในเรือนหอเรือนร้างหลังนั้น! แต่...

"นั่นรถคุณพ่อนี่" เมริสาจำป้ายทะเบียนได้ นั่นรถคุณพ่อของเธอไม่มีผิด "ไหนคุณแม่บอกว่าคุณพ่อเข้าบริษัทไง ทำไมถึงมาขับรถอยู่ที่นี่ได้"

ถนนสายนี้ ไม่ใช่เส้นทางที่สามารถไปถึงบริษัทได้ หรือจะบอกว่า มาดูงาน มาตรวจสอบความเรียบร้อยของอสังหาริมทรัพย์ หุ้นต่าง ๆ ก็ไม่น่าใช่ เพราะเธอรู้ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ของคุณพ่อดีว่ามีอะไร ตรงไหนบ้างเพื่อในอนาคตจะได้จัดการบริหารใช้ถูก

เธอรอบคอบไหมล่ะ! ลูกดีเด่นปีนี้ต้องมอบมงให้ คุณหนูเมริสา!

"คุณพ่อมาทำอะไรแถวนี้..." เธอก็ไม่ได้อยากจะสงสัยอะไรหรอกนะ แต่เมื่อครู่ตาขวามันกระตุก เซนส์เธอไม่เคยพลาดสักครั้ง! แสดงว่ามันจะต้องมีอะไรบางอย่างซุกซ่อนอยู่แน่ ๆ

BM คันหรูจึงเปลี่ยนเส้นทางจากที่ตั้งใจว่าจะกลับบ้าน เป็นขี่รถสะกดรอยตามเกียรตินครแทน แต่ก็ไม่ได้เข้าไปประชิดจนอีกฝ่ายไหวตัวทัน!

"คุณพ่อมาทำอะไรที่นี่..." หัวคิ้วขมวดติดกันด้วยความสงสัย หัวใจเต้นระรัวภาวนาว่าอย่าให้เป็นแบบที่เธอคิดเลย ไม่เช่นนั้น ครอบครัวตัวอย่างสุดแสนอบอุ่นที่ใคร ๆ ต่างก็อิจฉาคงหมดสภาพแน่

รถของเกียรตินครเลี้ยวเข้าไปในซอยหมู่บ้านจัดสรร ก่อนจะลดกระจกทักทายกับยามด้านหน้าด้วยความสนิทสนมคล้ายกับว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาที่นี่ ในทางกลับกันอาจมีความถี่ บ่อยครั้งเสียด้วยซ้ำ!

โชคร้ายที่เธอไม่สามารถตามเข้าไปได้ เพราะระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่หนาแน่น รัดกุมเหลือเกิน!

ถ้าเกิดหมู่บ้านจัดสรรนี่เป็นส่วนหนึ่งในกิจการของธนาธิปที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อหลายเดือนก่อน จะไขข้อข้องใจให้เธอได้เป็นกองเลยทีเดียว พ่อตา มาช่วยดูแลความเรียบร้อย งานของลูกเขยก็เห็นทีไม่ใช่เรื่องแปลก...

แต่ที่นี่ไม่ใช่!

ถึงจะอยู่ไม่ห่างกันมากจากหมู่บ้านจัดสรรของธนาธิปก็ตาม แต่ก็ไม่มีเหตุผลความจำเป็นอะไรที่พ่อของเธอต้องมาที่นี่

หรือ! มาสืบข้อมูลคู่แข่งให้ลูกเขยเหรอ?

สุดท้ายเมริสาก็ต้องกินแห้วกลับบ้าน ไม่ได้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์เลยสักอย่าง ซ้ำยังได้ข้อข้องใจติดตัวมาด้วย!

บางที เธออาจคิดมากไปเองก็ได้ คุณพ่อของเธอรักคุณแม่มากขนาดนี้จะมีบ้านเล็กบ้านน้อยได้อย่างไร ท่านก็คงแวะไปเยี่ยมเยียนเพื่อนหรือไม่ก็พูดคุยเรื่องเงิน ๆ ทอง ตามประสานักธุรกิจนั่นแหละ

...

กลับมาถึงบ้านก็ปาเข้าไปเกือบสองทุ่มแล้ว เธอจึงตรงปรี่ขึ้นห้องและทิ้งตัวลงนอนลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า เพราะร่างกายเธอต้องการพักผ่อนให้ครบสิบชั่วโมง!

วันเวลาหมุนเวียนผ่านไปเรื่อย ๆ ไวอย่างกับโกหก เมริสาและธันวาก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในฐานะผัวเมียตามกฏหมายที่แทบจะไม่มีบทสนทนาด้วยกันเลยสักครั้ง!

วันหนึ่ง...เธอนอนไม่ค่อยหลับ คงเป็นเพราะยังไม่ได้ออกไปใช้เงิน มัวแต่ขลุกตัวอยู่ในห้อง...กว่าจะตื่นก็ปาไปบ่ายสามแล้ว จึงรู้สึกขี้เกียจเป็นพิเศษ แม้กระทั่งจะช้อนข้าวเข้าปากยังขี้เกียจเลย!

แต่พอห้าทุ่มกว่า ๆ ท้องมันก็ดันร้องจ๊อก ๆ ร่างบางก็เลยเดินแกมวิ่งลงมาจากชั้นบน เพื่อหาอะไรกินจุกจิกพร้อมกับเปิดโทรทัศน์ดูซีรีย์จีนผ่านแอพพลิเคชั่นวีเทคไปพลาง ๆ

ชีวิตเธอก็วนลูปอยู่แบบนี้ ไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายเลยสักนิด! แต่ดูเหมือนวันนี้จะแปลกไปจากทุก ๆ วัน เพราะเสียงรถและแสงไฟเหลืองทองที่สาดส่องเล็ดลอดช่องว่างของม่านสะท้อนผ่านกระจกเข้ามาด้านใน

วันนี้อีตาคุณธันวากลับมานอนบ้านมั้ง...

เธอไม่ได้สนใจ หันหน้ากลับมาหวีดพระเอกซีรีย์จีนต่อ เพราะโดยปกติแล้ว เขาจะเข้า จะออก ก็ตามสะดวก นี่บ้านเขา บ้านเธอ เราต่างมีกุญแจด้วยกันคนละดอก

ก๊อก ๆ

"น้องเมครับ พี่เอง พี่ภัทร"

เมริสาดีดตัวลุกขึ้น พี่ภัทร หรือ คุณภัทร หนึ่งในเพื่อนสนิทของธันวาที่เธอเคยพบเจอและได้ทำความรู้จักพูดคุยกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ในวันแต่งงาน แต่หลังจากนั้นก็ไม่อีกเลย เพราะระหว่างเธอกับเขาไม่ใช่คนรักกันจริง ๆ เสียอีกที่จะพาไปพบเพื่อนพบฝูง

หรือบ้างก็เจอกันตามงานสังคม ตามผับ ตามบาร์ ตามห้างสรรพสินค้า ก็ทักทายกันแค่คำสองคำตามประสาคนรู้จัก

"เกิดอะไรขึ้นคะคุณภัทร คุณวายุ" เมริสาเอ่ยถามเพื่อนสนิททั้งสองของธันวา แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยว่า ผู้ชายที่วางมาด ถือตัว เก๊ก ขรึม เป็นผู้ดิบผู้ดีตั้งแต่หัวจรดปลายตีนจะตกอยู่ในสภาพเมามายหัวราน้ำไม่ได้สติจนเพื่อนต้องช่วยหิ้วปีกแบบนี้ "เชิญทางนี้ค่ะ"

เมริสาออกตัวทำหน้าที่เจ้าของบ้าน เดินนำเข้าไปด้านใน ก่อนที่ภัทร และ วายุ จะทิ้งตัวร่างแกร่งโยนลงบนฟูกโซฟาอย่างแรง แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้สติเขากลับมาเลยสักนิด!

"นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะคุณภัทร คุณวายุ" เมริสาถามย้ำอีกรอบ เพราะเมื่อครู่เธอยังไม่ได้รับคำตอบ

"ไอ้ธันมันเมา" ภูริพัฒน์ตอบส่ง ๆ หายใจแฮ่ก ๆ เพราะตัวไอ้ธันวาหนักใช่ย่อย เขาต้องแบกมันออกมาจากผับไม่พอ ยังต้องขับรถพามาส่งที่บ้านอีก! ภาระชัด ๆ

"อ๋อ..." เมริสาลากเสียงยาวและทิ้งท้ายสั้น "ค่ะ จากสภาพหัวราน้ำเหมือนหมาขนาดนี้ไม่ต้องถามก็รู้ค่ะว่าคุณธันเมา"

ภูริพัฒน์กลืนน้ำลายก่อนเหนียว ๆ ลงคอแทบไม่ทัน คำพูดเมื่อครู่ฟังจากดาวอังคารก็รู้ว่าเมริสากำลังประชดประชัน

ปากคอจัดจ้าน เถรตรง ไม่อ้อมค้อมหรือประดิดประดอยให้มากความ คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น จนดูเป็นคนแรง ๆ ไม่ค่อยน่าคบหาสมาคมด้วยเหมือนที่ไอ้ธันวาเคยเล่าให้พวกเขาฟังจริง ๆ

แต่…ดูจริงใจดี

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าทำไมมันถึงเมาเหมือนหมาแบบนี้ ไปถึงผับเหมือนช่วงสามทุ่ม ก็ซัดเอา ๆ จนสภาพก็เป็นอย่างที่น้องเมเห็นนี่แหละครับ” วีรยุทธตอบด้วยน้ำเสียงหวานจับใจ

วีรยุทธคิดและรู้สึกต่างจากเพื่อนสนิททั้งสองคน เขากลับชื่นชอบคนนิสัยแบบเมริสามากกว่ายายพิรญาแฟนสาวของไอ้ธันวาที่ดูโคตรเสเเสร้ง! แค่ฟังบทสัมภาษณ์ตอนที่เคยมีข่าวกับไอ้ธันวาแล้ว ไอ้ธันวานี่ชมว่าเมียมันเก่ง ไหวพริบดี สามารถเอาตัวรอดได้ แต่เขานั่งดูไปก็กรอกตาไปด้วย ผู้หญิงอะไรตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จได้อย่างชำนาญาหากไม่ใช่สิ่งที่ทำเป็นประจำจนซึมซับเข้าสู่สันดาน!!

"ค่ะ รอเมสักครู่นะคะ” เมริสาเดินกลับเข้าไป และออกมาพร้อมแก้วน้ำเปล่าสองแก้วยื่นให้เพื่อนคุณสามีตามกฎหมาย “น้ำค่ะ เมต้องขอบคุณพี่ ๆ ทั้งสองมากเลยนะคะที่อุตส่าห์หิ้วปีกคุณธันกลับมาถึงบ้าน ลำบากแย่เลย ถ้ามีคราวหลังก็ปล่อยให้เขาไปนอนอยู่กับหมาข้างถนนได้เลยนะคะ รบกวนคนอื่นเขาเปล่า ๆ”

ภูริพัฒน์และวีรยุทธถึงกับอึ้งอ้าปากหวอ พูดไม่ออก ทำได้เพียงส่งยิ้มเจื่อน ๆ ให้เมียเพื่อน

“ครับ ขอบคุณครับน้องเม” วีรยุทธไม่ได้สนใจคำพูดต่อท้าย เขาจ้องมองเมริสาด้วยสายตาหวานเชื่อม ไอ้ธันวามันโง่! มีเพชรเม็ดงามอยู่ในมือแต่กลับมองไม่เห็นคุณค่า

เมริสา แม้หน้าสด ไม่มีเครื่องสำอางค์ปกปิดหรือแต่งแต้มเหมือนทุก ๆ ครั้งที่เขาพบเจอในงานสังคม แต่โคตรสวย!!! เบ้าหน้าฟ้าประทาน ดวงตากลมโตดุจไข่ห่าน คิ้วโก่งดกดำ รับกับปลายจมูกสันโด่ง และริมฝีปากอาบอิ่มสีชมพูระเรื่อตามธรรมชาติได้อย่างลงตัว ผิวกายขาวเนียนไม่มีจุดด่างพร้อยตำหนิติเตียนใด ๆ เรือนร่างเพรียวระหง นม เอว ตูด แม่ง เอ็กซ์ อึ๋ม ฉิบหายยย!!!!

ยุอย่างได้ ยุอยากได้!!

“ไอ้ยุ!” ดูเหมืิอนภูริพัฒน์จะรู้ทันว่าเพื่อนกำลังคิดอะไรอยู่ “ฝากไอ้ธันมันด้วยนะครับน้องเม พวกพี่สองคนขอตัวกลับก่อน”

“ขับรถดี ๆ นะคะ” เมริสาเดินไปส่งหน้าประตู

“ฝันดีนะครับน้องเม” วีรยุทธยิ้มหวาน

“เช่นกันค่ะ” จากนั้นเธอก็กลับเข้าไปด้านใน ไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับไอ้คนเมาแอ๋หมดสภาพนี่ยังไงดี

“ไอ้เหี้ยยุ! กูรู้นะว่ามึงคิดอะไรอยู่ แต่นั่นเมียเพื่อนนะเว้ย” ภูริพัฒน์รีบเตือน เพราะรู้จักนิสัยใจคอดีว่ามันเป็นคนอย่างไร

“น้องเมกับไอ้ธันไม่ได้เป็นผัวเมียกันจริง ๆ สักหน่อย ทั้งคู่แต่งงานกันเพราะถูกคลุมถุงชน พอครบกำหนดหนึ่งปีก็แยกย้าย มึงลืมไปแล้วเหรอวะไอภัทร” ไหวไหล่ตอบอย่างไม่ยี่หระ พลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างอารมณ์ดีแล้วขึ้นรถไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 43

    งานแต่งงานเล็ก ๆ ที่เรียบง่ายมีแค่คนภายในครอบครัวไม่มีอยู่จริง...ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของหล่อนแต่งงานกับลูกสะใภ้ที่โปรดปรานนักโปรดปรานหนาอย่างหนูเมริสาทั้งทีมีหรือคุณผกาวรรณจะยินยอมให้มันไม่เอิกเกริกยิ่งใหญ่...ซึ่งในช่วงเช้าเป็นพิธีทำบุญตักบาตร สวมแหวน รดน้ำสังข์ ซึ่งมีเพียงคนภายในครอบครัวที่มาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างอบอุ่นวันนี้เมริสาสวมชุดไทยสีชมพูหวานมีสไบพาดเฉียงไปด้านหลัง ตัวเนื้อผ้าถูกตัดเย็บและปักสลักอย่างละเมียดละไม แต่งหน้าจนดูสวยผิดหูแปลกตา ทรงผมมัดเป็นหางม้าแต่ม้วนลอนเรียงลงมาคล้ายกับเกลียวคลื่น ดูอย่างไรก็เข้ากัน...ส่วนธนาธิปด้านบนเป็นเสื้อสูทสีชมพูโทนเดียวกับเจ้าสาวแสนสวย ด้านล่างสวมใส่โจงกระเบนสีเข้มกว่าเล็กน้อยกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับขันหมากโดยมีพ่อกับแม่ขบาบข้างเป็นญาติผู้ใหญ่ทาบทามสู่ขอ..."โฮ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โฮ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โฮ โฮ โฮ๊ โฮ โฮ๊" "ฮิ้ววววว" "โฮ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โฮ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โฮ โฮ โฮ๊ โฮ โฮ๊" "ฮิ้ววววว" "ใครมีมะกรูด มาแลกมะนาว ใครมีลูกสาว มาแลกลูกเขย ฮู้วววว" เสียงร้องรำทำเพลงดังครึกครื้นด้านหน้าบ้าน... ถึงแม้ว่านี่จะเป็นงานแต่งงานครั้งที่สอง แต่ก็เป็นครั้

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 42

    ธนาธิปประกบจูบลงบนริมฝีปากอวบอิ่มอย่างละเมียดละมัยนุ่มนวลแล้วค่อย ๆ ชำแรกปลายลิ้นเข้าไปควานหาน้ำหวานในโพรงอุ่นดูดดึงหยอกเย้ากอบโกยความสุขเสพสมจากกันและกันนานสองนานจนภายในกายมันอบอวลไปด้วยไอรักอยู่เต็มเปี่ยมไม่รู้ และคงไม่พยายามคิดหาคำตอบว่าต้นรักต้นเล็ก ๆ ที่มันก่อเกิดอยู่กลางใจจนรากของมันชอนไชยึดเหนี่ยวเราทั้งสองคนเอาไว้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ทราบเพียงแค่ว่าในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็จะรักษาและดูแลมันให้คงอยู่ไปตลอด ทั้งสองค่อย ๆ ผละจูบออกจากกัน ฝ่ามือของธนาธิปเลื่อนขึ้นไปจับประคองศีรษะของหญิงสาวเอาไว้แล้วให้หน้าผากชนชิดรวมถึงปลายจมูกที่แตะสัมผัสกัน ก่อนจะขยับลงมาจุมพิตพวงแก้มนุ่ม ๆ ฟอดใหญ่ ทุกการกระทำของเขาคล้ายกับขนนกที่ปลิวผ่านปุยเมฆมันทั้งนุ่มนวล อบอุ่นจนใจเธอสั่นสะท้าน เขาไม่ได้รุนแรง หรือรุกอย่างฉาบฉวยแต่กลับทำให้เธอค่อย ๆ รู้สึกโอนเอนอ่อนไหวตามต่างหาก"ขอบคุณนะเมที่ให้โอกาสคนโง่ ๆ แบบผม" "ค่ะ" "กลับมาเป็นเมริสาเหมือนคนเดิมนะ รู้หรือเปล่าตอนที่คุณเปลี่ยนไปใจผมมันหดแทบจะเหลือเท่าปลายนิ้วก้อยอยู่แล้ว" ชายหนุ่มหย่อนสะโพกลงนั่งบนโซฟาแล้วถือวิสาสะรั้งตัวเธอเข้ามาโอบกอดเอาไว้

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 41

    เมริสาวางไอแพดลงบนที่นั่งก่อนจะลุกขึ้นพูดด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจัง เธอไม่สามารถเก็บซ่อนความรู้สึกบ้าบอนี้เอาไว้จนมันหนักอกหนักใจได้อีกต่อไปแล้ว เขามากล่าวโทษว่าเธอพยายามหลบหน้า เปลี่ยนแปลงไป คิดอะไรรู้สึกอะไรทำไมไม่บอกเขาตามตรง แล้วเขาล่ะเคยรู้บ้างหรือเปล่าว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันกำลังทำร้ายใครอีกคนที่เขาเผลอคิดไปเอง! "คุณมาทำให้ฉันรู้สึกดี มาทำให้ฉันคิดเข้าข้างตัวเองว่าคุณรู้สึกอะไรกับฉัน จนฉันเผลอถลำตัว...และสุดท้ายคุณก็มาบอกว่าที่คุณทำไปทั้งหมดจริง ๆ แล้วมันไม่มีอะไรเลย คุณแค่ต้องการให้เราจบกันด้วยดี คุณแค่ต้องการให้วันหย่ามันเป็นไปได้อย่างราบรื่น คุณแค่ต้องการตอบแทนที่ฉันช่วยเหลือคุณ คุณไม่ได้คิดอะไรกับฉันเลย! แล้วคุณเคยรู้หรือเปล่าว่าฉันคิด คุณแม่งไม่เคยรู้ไง!!! แต่พอฉันเริ่มตีตัวออกห่าง รักษาระยะห่างเซฟความรู้สึกของตัวเอง คุณกลับพยายามเข้าหา พยายามทำให้ฉันกลับไปอยู่ที่จุดเดิม คุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร เป็นเหี้ยอะไรห๊ะ ถ้าไม่รักไม่คิดอะไรด้วยก็ต่างคนต่างอยู่ จอบอ จบ” ได้ยินคำพูดของเมริสาไปธนาธิปถึงกับนิ่งเงียบพูดอะไรไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว "คุณรู้หรือเปล่าคุณธันวา ก็การกระทำของคุณไง ไ

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 40

    "ก็แปลกสิ คุณลองคิดดูนะเมื่อก่อนโน้นคุณไม่แม้แต่อยากที่จะเสวนาหรือเจอหน้าฉันด้วยซ้ำ เดินผ่านแทบจะชนกันอยู่แล้วคุณก็ยังทำเหมือนฉันเป็นธาตุอากาศไม่มีตัวตน แต่เดี๋ยวนี้คุณ..." หญิงสาวไม่รู้ว่าควรใช้คำพูดแบบใดดีที่จะไม่ดูหลงตัวเองจนเกินไป...ถึงแม้ใจจริงอยากถามมากแค่ไหนที่เขาทำแบบนี้เพราะรู้สึกอะไรกับเธอหรือเปล่า แต่ก็ทำได้เพียงเงียบเอาไว้ เรื่องอะไรทำนองนี้ต้องให้ผู้ชายเป็นคนพูดก่อน...แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ เมื่อไหร่ที่เขาจะสารภาพกับเธอสักที ไหน ๆ การกระทำมันก็ชัดเจนขนาดนี้แล้วเหลือแค่รอพูดออกมาอย่างเดียวเท่านั้น "เอ่อ...ผมก็แค่คิดว่าถ้าเกิดเราสองคนผูกมิตรกันไว้คงไม่ใช่เรื่องแย่อะไร ไหน ๆ ก็ต้องอยู่ด้วยกันอีกตั้งหลายเดือนกว่าจะหลุดพ้นจากพันธะใบทะเบียนสมรส ผมเองช่วงนั้นก็ขอความช่วยเหลือให้คุณมาสวมบทบาทคนรักให้อยู่บ่อยครั้งเหมือนกัน ผมเลยคิดว่าทำดีใส่กันเข้าไว้ ตอบแทนเล็กน้อย ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงอะไร" ธนาธิปตอบไปตามความจริง เขาเป็นนักธุรกิจไม่มีทางที่จะทำอะไรแล้วไม่หวังผลประโยชน์แน่นอน... ได้ยินแบบนั้นใจเธอมันก็แป้วแปลก ๆ รู้สึกวูบโหวงอย่างไรก็ไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่ควรจะเคยชินได้แ

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 39

    พอหลังจากนั้นประมาณเดือนกว่า ๆ คุณพ่อของเธอก็ล้มป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงไม่สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ จึงตัดสินใจยกตำแหนงให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างเมริสาเข้ามาดูแลและนั่งแท่นซีอีโอบริษัทแทน โชคดีที่เธอมีธนาธิปข้างกาย เขาจึงคอยมอบคำแนะนำและคอยซัพอร์ต ส่งผลให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้จะยังไม่คล่องแคล่วสักเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าพัฒนาขึ้นจากเมื่อก่อนมาก ๆ เพราะพื้นฐานแล้วเมริสาเป็นผู้หญิงที่ทั้งเก่ง และ ฉลาด เพียงแต่เกียจคร้านจะหาเหาใส่หัวพาตัวเองไปลำบากเท่านั้น แต่พอภาระหน้าที่มันมากองรออยู่ด้านหน้าอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เธอก็ต้องจำใจรับเอามาดูแล ทางโน้นพอรู้ว่าคุณเกียรตินครป่วยหนัก อาจเดินไม่ได้ตลอดชีวิต ซ้ำยังทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตนให้กับเมริสาลูกสาว และ อดีตภรรยา ซ้ำยกให้หล่อนเพียงบ้านหลังนี้กับเงินในบัญชีธนาคารยี่สิบกว่าล้านเท่านั้น จึงไม่อยากเก็บเขาไว้เป็นภาระที่จะต้องมาคอยดูแล ป้อนข้าว ป้อนน้ำ อย่างกับคนใช้ ก็เลยถีบหัวส่ง พาคุณเกียรตินครกลับไปให้เมียเก่าดูแล ส่วนหล่อนก็ใช้เงินที่ปอกลอกจากอีกฝ่ายมาได้ด้วยความสเน่หาอย่างสบายใจ หรือไม่ในอนาคตข้างหน้าก็อา

  • แค่เมียในนาม   บทที่ 38

    ซ่า!!!! น้ำเย็นยะเยือกถูกสาดใส่รดศีรษะของหญิงสาวในชุดเดรสสีชมพูหวานซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ แขนสองข้างไขว้หลังและถูกมัดกันไว้ด้วยเชือกที่ไม่สามารถดิ้นหลุดได้อย่างง่ายดาย"กรี๊ด!!!" พิรญาสะดุ้งตัวโยนด้วยความตกใจก่อนจะเพ่งสายตาหันไปมองคนที่กล้ากระทำกับดาราสาวอันดับหนึ่งอย่างเธอ คอยดูเถอะเธอจะโพสต์ประจานเอาให้ไม่สามารถมีที่ยืนอยู่บนสังคมได้เลย "พวกแกเป็นใคร จับตัวฉันมาทำไม ปล่อย!!! ปล่อยนะ ปล่อย" หญิงสาวพยายามดิ้นพล่านเพื่อให้หลุดออกจากเชือกที่พันธนาการมัดข้อแขนและข้อเท้าอยู่ แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะยิ่งออกแรงมากเท่าไหร่ตัวเธอก็เจ็บมากเท่านั้น "ก็เป็นเมียของคนที่แกเล่นชู้ด้วยไง!" จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวเข้ามา หล่อนคนนั้นสวมใส่กางเกงยีนส์และเสื้อของแบรนด์ชั้นนำพร้อมด้วยสะพายกระเป๋าราคาแพงเฉียดหลักสิบล้าน แต่มีแว่นตาปกปิดอยู่จึงมองไม่ออกว่าเป็นใคร ถึงถอดแว่นออกมา ก็ใช่จะรู้ว่าเมียของคนที่เล่นชู้ด้วยคือใคร! บ้าบอ ผู้ชายในสต็อกที่เคยคั่วด้วยก็มีตั้งหลายคนแล้วจะไปทราบได้ยังไงถ้าเกิดไม่เอ่ยชื่อบอกมา เหอะ ถึงเอ่ยก็ไม่รู้ว่าจะจำได้อีกหรือเปล่า! "ใคร?" "คงจะเล่นชู้กับผัวชาวบ้านมาหลายค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status