รุ่งเช้า
ไร่อคิราห์
อคิราห์หนุ่มเจ้าของไร่ลุกขึ้นมาแต่เช้าเหมือนเช่นดั่งทุกวัน แล้วจึงลงมาเปิดประตูดูคนที่อยู่ภายในห้องเก็บของตลอดทั้งคืน
“หลับเป็นตาย”
ร่างสูงเปิดประตูออกกว้างกลับพบว่าหญิงสาวนอนขดตัวอยู่บนกระดาษลัง เนื้อตัวสั่นเทาไปหมดอย่างกับลูกนกตกน้ำ
“เธอ...ยัยพราวฟ้า” ร่างสูงยืนพิงขอบประตู แล้วเอ่ยเรียกชื่อเธอขึ้นมา
“ป้าติ๋ม ช่วยแพรด้วย...” เสียงสั่นละเมอของหญิงสาวในห้องเพ้อขึ้นมาอย่างแผ่วเบา แต่ก็พอทำให้เขาได้ยินเต็ม ๆ
“ทำไมเธอถึงแทนตัวเองว่าแพร หรือว่าจะมีสองชื่อ แต่พ่อก็เรียกเธอพราวนี่หว่า...” เสียงบ่นอุบอิบขึ้นมาอย่างสงสัย
“ป้า...”
“เรียกหาแต่ป้าอยู่นั่นแหละ เป็นพ่อแม่เธอหรือไง...เฮ้ยยย” ร่างสูงตะคอกเสียงออกไป พร้อมกับเดินไปแตะที่ไหล่ของเธอ เพื่อที่จะปลุกแต่ก็ต้องสะดุ้งทันที เมื่อพบกับความร้อนจากตัวของหญิงสาว
“ป้าติ๋มจ๋า...”
“เธอ...โธ่เว้ย” ร่างสูงสบถออกมาอย่างดังอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อแตะที่ตัวของหญิงสาว กับต้องพับกับความร้อนระอุจากตัวเธอ
“เอามาเป็นภาระกูชัด ๆ เลย"
เมื่อไม่รู้จะทำเช่นไรต่อ อคิราห์จึงตัดสินใจช้อนตัวเธอขึ้นมาในท่าเจ้าสาว แล้วอุ้มพาเธอขึ้นไปชั้นบนทันที เพราะที่บ้านไม่มีใครอยู่แล้วในเวลานี้ ทุกคนต่างต้องไปทำหน้าที่ แถมเขายังสั่งห้ามให้บุคคลอื่น หรือเหล่าแม่บ้านเข้ามาอีกด้วย
“ตัวหนักเป็นบ้าเลย อย่าคิดว่าฉันจะใจดีกับเธอ เธอยังไม่ได้ชดใช้อะไรเลย จะมาตายง่าย ๆ ได้ยังไง เธอต้องได้รับผลการกระทำที่ตัวเองก่อสิยัยพราวฟ้า”
กรุงเทพมหานคร
บ้านโยธาพิวัฒน์
“นี่ ยัยแพรไปไหนทำไมวันนี้ยังไม่เห็นออกมาทำกับข้าวเลย” พลอยไพลิน โยธาพิวัฒน์ ภรรยาเจ้าของบ้านหลังนี้ ถามกับแม่บ้านที่วันนี้ไม่เห็นลูกสาวที่เกิดจากสามีของเธอและแม่บ้านคนก่อนที่เสียชีวิตไปแล้ว
“เมื่อคืนหนูแพรวาไม่ได้กลับเข้าบ้านคะ โทรหาก็ไม่ติดเลย” แม่บ้านคนเก่าแก่เอ่ยตอบผู้เป็นเจ้านาย
ติยา หรือ ป้าติ๋ม แม่บ้านคนเก่าแก่ของบ้าน และเป้นคนที่เลี้ยงดูลูกของเจ้าของบ้านหลังนี้ด้วย ป้าติ๋มเป็นลูกพี่ลูกน้องกันกับ กันตา แม่ของสิตาพัชร์นั้นเอง
“มีรายงานหรือไปทำกิจกรรมที่ไหนหรือเปล่าติ๋ม” พงษ์พิพัฒน์ โยธาพิวัฒน์ เสียงเรีบของเจ้าของบ้านเอ่ยถามเมื่อเดินผ่านมาได้ยินเข้า
“ไม่มีนี้คะ ถ้าหนูแพรวาติดงานก็จะโทรหาป้าตลอด และไม่เคยที่จะไม่กลับบ้าน ถึงแม้จะดึกแค่ไหน แต่นี่ดันติดต่อไม่ได้เลย” ป้าติ๋มพูดด้วยด้วยใบหน้าที่ดูเป็นห่วงหญิงสาวมาก
“คงจะไปเถลไถลที่ไหนละสิท่า เด็กกำลังโตคงจะใจแตกเหมือนแม่” พลอยไพลินพูดขึ้นอย่างดูถูกดูแคลนหญิงสาว พร้อมกับจ้องมองไปที่สามีอย่างคาดโทษ
“แล้วคุณจะมองผมทำไม” พงษ์พิพัฒน์ถามขึ้นมา พร้อมกับหลบสายตาพฆาตของภรรยา
“เพราะใครละที่ทำให้มันเกิดมา” พลอยไพลินต่อว่าสามีออกมาทันที เมื่อนึกถึงอดีตที่ผ่านมา 20 ปี ที่แล้ว ที่จับได้ว่าสามีแอบมีสัมพันธ์กันกับสาวใช้
“เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว คุณก็ลืม ๆ มันไปเถอะ ปล่อยวางบ้างนะคุณพลอย ตอนนี้ผมก็อยู่กับคุณตลอด” พงษ์พิพัฒน์เอ่ยปลอบภรรยาอย่างรู้สึกผิดไม่น้อย
“ไม่มีใครลืมเรื่องพวกนี้ได้ลงหรอก ถึงคุณจะเอาความดีมาลบล้างยังไง แผลในใจฉันมันก็ไม่หายหรอกคะ” พลอยไพลินเอ่ยออกมาตามตรง เพราะเธอไม่เคยลืมกับสิ่งที่สามีทำกับเธอได้เลย
“ผมรู้ว่าผมทำผิดต่อคุณ ความดีของผมที่ทำกับคุณเสมอมา มันไม่สามารถลบล้างความผิดพลาดของผมแค่ครั้งเดียวได้ แต่ตอนนี้ผมก็ชดเชยให้คุณและลูกอยู่ไงคุณพลอย หนูแพรเธอก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร และก็ไม่ได้มาวุ่นวายกับคุณและลูกนี้” พงษ์พิพัฒน์เอ่ยบอก พร้อมกับลูบหลังภรรยาปลอบให้ใจเย็นลง
“จริงสิน่ะ ตามข้อตกลงที่คุณให้ไว้ เมื่อยัยแพรอายุครบ 20 ปี จะต้องออกไปจากบ้านหลังนี้ นี่ก็ใกล้จะถึงแล้วเนอะ แต่มันออกไปก่อนแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน” พลอยไพลินหากได้สนใจในสิ่งที่สามีกล่าวไม่
แต่กลับนึกถึงคำมั่นสัญญาที่สามีเคยให้ไว้เมื่อตอนที่แม่ของหญิงสาวเสีย ว่าจะเลี้ยงดูเธอให้ถึงอายุครบ 20 ปี เดิมทีที่สาวใช้คลอด พลอยไพลินมีข้อเสนอให้กันตา โดยมอบเงินจำนวนหนึ่งให้ออกไปตั้งตัว และไม่มีอะไรที่จะต้องเกี่ยวข้องกันกับคนที่บ้านหลังนี้ แต่กันตาดันมาด่วนจากไปก่อน
พงษ์พิพัฒน์เลยยื่นข้อเสนอนี้ออกมา เลี้ยงลูกสาวที่เกิดจากกันตา จนกว่าที่เธอจะบรรลุนิติภาวะ แต่ให้เป็นหน้าที่ของป้าติ๋มที่เป็นคนเลี้ยงดูแทน
“เสียงดังอะไรกันแต่เช้าคะ” ร่างบางอรชรถามขึ้นเมื่อเดินลงมาจากบันได
พัชร์สิตา โยธาพิวัฒน์ หรือ พราวฟ้า หญิงสาววัย 25 ปี เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของพงษ์พิพัฒน์และพลอยไพลิน หญิงสาวที่มีรูปร่างเซ็กซี่ ใบหน้าสวย เธอเป็นนักแสดงดาวรุ่งที่กำลังมาแรงอยู่ในตอนนี้ แถมมีหนุ่ม ๆ มาขายขนมจีบเป็นแถบ ๆ ทั้งหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ มีทั้งในและนอกวงกร หนึ่งในนั้นก็มีอัครา
“วันนี้ไม่มีงานหรือคะลูกสาวแม่” พลอยไพลินหันมาสนใจลูกสาวทันที
“ไม่มีคะ ไม่มีอารมณ์รับงานที่ไหนด้วย” พัชร์สิตานั่งลงที่ข้างแม่ พร้อมกับใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์
“ทำไมลูกสาวแม่หน้าเศร้าจัง มีหนุ่มคนไหนปฏิเสธลูกแม่มาหรือเปล่า” พลอยไพลินถามลูกสาวออกไปด้วยคำพูดที่หยอกล้อ
“ยัยแพรไปไหนหรือคะ” พัชร์สิตาเปลี่ยนเรื่องทันที เมื่อเห็นว่าวันนี้วันหยูดแต่กลับไร้วี่แววน้องสาวที่เกิดจากพ่อกับแม่บ้าน
“น้องไม่กลับบ้านตั้งแต่เมื่อแล้ว ตอนนี้ก็ติดต่อไม่ได้” พงษ์พิพัฒน์เอ่ยตอบแทน
“ไปนอนค้างแรมกับใครที่ไหนหรือเปล่าคะ หรือว่ายัยแพรจะมีแฟน แต่คนอย่างยัยแพรหรือใครจะเอาไปทำเมีย” หญิงสาวพูดขึ้นมาโดยไม่สนใจใคร
“น้องยังเด็กอยู่เลยนะพราว พูดอะไรออกมา”
“ไม่คุยกับคุณพ่อแล้วคะ พราวไปนอนต่อดีกว่า” เมื่อเห็นว่าผู้เป็นพ่อไม่เคยเข้าข้างเธอเลย เธอจึงขึ้นไปชั้นบนของบ้านคืนทันที
ไร่อคิราห์
“คุณคินมีอะไรหรือค่ะ ถึงต้องให้คนมาตามป้า” ป้าภัทร ป้าแม่บ้านของไร่แห่งนี้ และเป็นแม่ของธวัฒน์ลูกน้องคนสนิทของเขาด้วย ถามเจ้านายหนุ่มเจ้าของไร่ขึ้นมา เมื่อถูกตามตัวให้มาที่นี่
“ตามผมมาครับ” ร่างสูงเอ่ยบอก พร้อมกับเดินนำหน้า ป้าแม่บ้านขึ้นไปด้านบนทันที
บทพิสูจน์ NC“แพร...” ร่างสูงก้มลงมาจูบปากของเธออีกครั้ง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจกึก กึก สวบ“กรี๊ดดด...เจ็บ ฮือ เอามันออกไป แพรไม่เอาแล้ว”เขาดันตัวตนลงไปที่เดียวจนมิดด้าม ด้วยความอยากลำบาก และรับรู้ถึงเยื้อผนังกั้นบาง ๆ ที่เขาทำลายลง ทำให้เขาทราบได้ทันที ว่าเธอไม่ใช่คนที่พ่อเขามีสัมพันธ์ด้วย เขาจึงแช่ตัวตนไว้เพื่อให้เธอได้ปรับตัว“แพร...” เสียงกระเส่าเอ่ยเรียกชื่อของเธอใบหน้ามีรอยยิ้มผุดขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ เมื่อได้รู้ว่าเขาได้เป็นคนแรกของเธอ ถึงแม้จะไม่รู้เลยว่าเธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร แต่ตอนนี้ไม่สนแล้ว ขอกอบโกยความสุขตรงนี้เอาไว้ให้หนำใจเสียก่อน“เจ็บ...ฮือ” เสียงสั่นสะอื้นเอ่ยขึ้นบอก พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาดั่งสายธาร“แพร! พี่ถอยไม่ได้แล้ว” เขาเปลี่ยนสรรพนามเรียกแทนตัวเองกับเธอทันที พร้อมกับน้ำเสียงที่อ่อนโยนกับเธอขึ้นมา แล้วมือก็ช้อนคางเธอขึ้นมาให้สบตากับเขา“...” หญิงสาวไม่โต้ตอบอะไรเข้ากลับ เอาแต่หลบสายตา พร้อมกับน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุด“ขอโทษที่ไม่สืบให้ดีกว่านี้ก่อน ขอโทษที่ไม่ยอมฟังคำอธิบายของแพร และขอโทษที่จับตัวแพรมา แต่ขอบคุณน่ะ ที่ให้พี่ได้เป็นคนแรกของแพร มีความสุข
พิสูจน์หาความจริง NCธวัฒน์เอาสำรับ สำหรับมื้อเย็นของเจ้านายมาให้ แล้วกลับออกไปทันที ไม่ได้อยู่นาน เพราะไม่เห็นเจ้านายหนุ่มอยู่ที่ด้านล่าง คงจะทำงานอยู่ด้านบนเหมือนเช่นเคย แถมเวลาที่เขาทำงาน ทุกคนจะไม่กล้าเข้าไปเรียกเป็นอันขาด เพราะเขาเป็นคนที่จริงจังในการทำงานส่วนด้านเจ้าของบ้านเองนั่งมองหญิงสาวที่หลับอยู่บนที่นอน นานสองนานเธอก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย มือหนาเอื้อมขึ้นไปตรงที่หน้าอกของหญิงสาว แค่เปิดเสื้อดูก็รู้แล้วนี้ว่าใช่หรือไม่ใช่ ไม่ต้องพิสูจน์อะไรมากมายตามคำแนะนำของธวัฒน์ด้วย“คุณ! จะทำอะไร” หญิงสาวถามขึ้นทันที เมื่อลืมตาขึ้นมา กลับพบมือของร่างสูงอยู่ตรงหน้าอกของเธอ“เอ่อ...คือ?” อคิราห์รีบชักมือกลับมาอย่างไว และได้แต่อ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าจะแก้ตัวกับเธอว่าอย่างไร“ถอยออกไปเลยน่ะ คิดจะฉวยโอกาสฉันเหรอ ไหนว่าฉันไม่ใช่สเปคของคุณยังไงล่ะ” หญิงสาวรีบลุกขึ้น แล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมถึงอกทันที“คือ ฉันเพียงแค่ต้องการพิสูจน์อะไรสักอย่างเพื่อความแน่ใจ ไม่คิดจะทำอะไรอย่างที่เธอคิดหรอก” อคิราห์พูดบอกตามตรง“พิสูจน์อะไร ถึงจะมาจับที่หน้าอกฉันด้วย ไอ้ลามก!” หญิงสาวไม่ได้สนใจในคำพูดของเขา แถม
อยากพิสูจน์ทางด้านของพงษ์พิพัฒน์เมื่อลูกสาวคนเล็กที่เกิดจากภรรยาอีกคน หายตัวไปหลายวันแล้ว แถมติดต่อก็ไม่ได้ ก็มีความกระวนกระวายใจอยู่ไม่น้อย จึงจ้างให้คนคอยตามสืบไปทุกที่ ที่หญิงสาวเคยไป หรือเพื่อนที่หญิงสาวรู้จัก แต่ก็ยังไร้วี่แววข่าวคราวของเธอ เพราะกระเป๋าและโทรศัพท์มือถือถูกตัดระบบหมด แถมหญิงสาวยังใช้เพียงโทรศัพท์เครื่องธรรมดาอีกด้วย จึงตามตัวได้ยาก“หนูหายไปไหนแพรวา” เสียงทุ้มพูดคนเดียวอย่างเหนื่อยใจและหมดหวัง เมื่อคนที่จ้างวานสืบข่าวของลูกสาวคนเล็ก แจ้งมาว่ายังไม่มีข่าวคราวอะไรเขาจ้างให้คนตามสืบข่าวอยู่เงียบ ๆ เพราะไม่อยากให้ภรรยาที่บ้านรับรู้ ถ้าจะไม่ตามหาเลยก็ตัดขาดไม่ลง เพราะหญิงสาวคือลูกในไส้ ที่เกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองแท้ ๆเขารักเธอเท่ากับลูกสาวอีกคน แต่ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะเกรงใจภรรยาที่จดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถึงแม้ว่าจะหมดรักกันไปนานแล้วก็ตาม และเขาก็ทำผิดต่อภรรยาด้วยที่เผลอตัวเผลอใจไปรักกันกับหญิงสาวที่เป็นเพียงสาวใช้ภายในบ้านและอีกอย่างเขาก็ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวของลูกคนนี้ด้วย จึงทำได้เพียงแต่คอยดูการเติบโตของเธออยู่ห่าง ๆ และอีกไม่นานเธอก็จะ
เริ่มสงสัย“รถใครมาเหรอจิตรี” นิตยาถามแม่บ้านที่อยู่บริเวณนอกบ้านขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ดังใกล้เข้ามา“คุณคินกับเพื่อน ๆ คะคุณหญิง” จิตรี ป้าแม่บ้านผู้อาวุโสของที่นี่ และก็อยู่ที่นี่มาตั้งแต่ที่พวกเขามาตั้งรกรากกันเลย แถมยังเป็นแม่แท้ ๆ ของ ธวัฒน์อีกด้วย“สวัสดีครับ อานิตเป็นยังไงบ้างครับ” ธีรเมธเป็นฝ่ายทักทายก่อนเมื่อเดินเข้ามาในบ้านตามอคิราห์ พร้อมกับของฝากจากไร่ของเขาด้วย“สวัสดีลูกดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ แต่ยังต้องนั่งรถเข็นอยู่ เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันน่ะ จะได้ไม่ต้องเดินไปไหนมาไหนบ่อย ๆ” นิตยาตอบไปพร้อมกับติดตลก เพราะหากเป็นเมื่อก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุนั้น เขาจะชอบเดินไปสอดแนมที่บ้านลูกชายบ่อย ๆ กลัวลูกชายจะเอาผู้หญิงสาวสำราญมาค้างด้วย“เดี๋ยวอานิตก็กลับมาเดินได้ครับ” เธียรวัฒน์พูดอย่างให้กำลังใจแม่ของเพื่อนที่พึ่งออกมาพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาล หลังจากประสบอุบัติเหตุอาการสาหัสมา“ว่าไงพ่อตัวดี ถ้าเพื่อนไม่มา ก็ไม่มาหาแม่ที่บ้านเลยนะ ไม่รู้ว่ามีอะไรยุ่งนักหนาขลุกอยู่แต่ที่นั่น” นิตยาหันมาพูดเหน็บแนมทางลูกชายทันที“ผมงานยุ่งนี้ครับแม่” อคิราห์เอาแต่ตอบทีเล่นที และยกเอางานที่ไร่มาอ้าง
เก็บความสงสัยกรุงเทพมหานครบนพื้นห้องนอนในคอนโดฯสุดหรู ที่เต็มไปด้วยเศษซากถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว กระจายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด สองร่างเปลือยเปล่ายังคงกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันแน่นแฟ้นอยู่ที่นอนกว้างนั้น ในคอนโดฯหรูของพระเอกหนุ่มอย่างเทวินทร์ ที่เป็นคู่ขาคนใหม่ของพัชร์สิตา“วินพอแล้วนี่มันสายมากแล้วน่ะ พราวต้องกลับแล้ว” หญิงสาวเอ่ยห้ามเมื่อชายหนุ่มยังคงคลอเคลียไม่หยุด“ขออีกรอบได้ไหม?” เสียงกระเส่าเอ่ยขอขึ้นมา แต่ยังปากก็ยังคงทำหน้าที่จูบซับไปตามซอกคอขาวของเธอ“แต่เมื่อคืนพราวก็ให้ทั้งคืนแล้ว จนแทบจะไม่ได้นอนเลยนะ” หญิงสาวเอ่ยบอก เพราะคืนเร้าร้อนที่ผ่านมา ก็แทบจะไม่ได้พักเลย ไม่รู้ว่าจบไปกี่รอบต่อกี่รอบ นับจากสภาพเศษซากถุงยางอนามัยแล้ว แทบจะไม่เชื่อสายตาด้วยเองด้วยซ้ำ ว่าทำลงไปได้ยังไง ไม่ใช่ไม่ชอบเรื่องพวกนี้น่ะ แต่เพราะเธอมีงานต่อ “ก็พราวเด็ดนี่ อีกรอบนะครับ เดี๋ยววินจะรีบเร่งให้ แล้วจะรีบไปส่งพราวที่บ้านนะ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกด้วยประโยคที่หว่านล้อมหญิงสาว“...แต่ อย่าทำรอยน่ะ เย็นนี้พะราวมีงาน” หญิงสาวรีบเอ่ยห้าม เมื่อชายหนุ่มขบเม้มที่ซอกคอของเธอ“ครับ” เสียงครางกระเส่ารับคำ แล้วซุกไซร้ซอกคอข
ไม่สบอารมณ์สิตาพัชร์ตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ กลับต้องพบเพียงความเงียบ เพราะเจ้าของบ้านออกไปตั้งแต่เมื่อคืน ก็ยังไม่กลับมา และไม่มีใครอื่นใดที่กล้าเข้ามาที่นี่ เพราะเจ้าของสั่งห้ามเอาไว้ หญิงสาวจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว แต่ไม่มีเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนเลยเธอเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเจ้าของห้อง จึงหยิบเอาเสื้อเชิ้ตของเขามาตัวหนึ่งสวมพอแก้ขัดไปก่อน เพราะเธอไม่มีอะไรใส่เลย แล้วจึงเดินลงมาที่ด้านล่างกลับต้องพบถุงมากมาย วางอยู่บนโต๊ะกลางห้องรับแขก เธอจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปเปิดออกดู พบเสื้อผ้าและของใช้ต่าง ๆ ที่ล้วนเป็นแต่ของผู้หญิง แม้กระทั่งชุดชั้นในในนั้นอีกด้วยแถมเสื้อผ้าแต่ละตัวยังเป็นขนาดไซส์เดียวกันกับที่เธอใส่อีก และชุดชั้นในนี้ก็ด้วย แต่หญิงสาวกลับเก็บเข้าไว้ที่เดิมคืน และกำลังจะหันหลังเดินเข้าไปที่ครัวต่อ“ทำอะไร” เสียงเข้มดังขึ้นมาตามหลังของเธอเสียก่อน“...” หญิงสาวไม่หันหลังมามอง เพราะเธอสวมเพียงเสื้อตัวเดียว แถมไม่มีชั้นใส่อีกด้วย จึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่แต่แต่จะกล้าขยับเดิน“ของเธอ รับไปสิ” เสียงเรียบเอ่ยขึ้นบอก โดยลดน้ำเสียงอ่อนลงมา“ไม่เป็นไร...” เธอรีบปฏิเสธทันควันโ