สิตาพัชร์ตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ กลับต้องพบเพียงความเงียบ เพราะเจ้าของบ้านออกไปตั้งแต่เมื่อคืน ก็ยังไม่กลับมา และไม่มีใครอื่นใดที่กล้าเข้ามาที่นี่ เพราะเจ้าของสั่งห้ามเอาไว้ หญิงสาวจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว แต่ไม่มีเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนเลย
เธอเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเจ้าของห้อง จึงหยิบเอาเสื้อเชิ้ตของเขามาตัวหนึ่งสวมพอแก้ขัดไปก่อน เพราะเธอไม่มีอะไรใส่เลย แล้วจึงเดินลงมาที่ด้านล่างกลับต้องพบถุงมากมาย วางอยู่บนโต๊ะกลางห้องรับแขก เธอจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปเปิดออกดู พบเสื้อผ้าและของใช้ต่าง ๆ ที่ล้วนเป็นแต่ของผู้หญิง แม้กระทั่งชุดชั้นในในนั้นอีกด้วย
แถมเสื้อผ้าแต่ละตัวยังเป็นขนาดไซส์เดียวกันกับที่เธอใส่อีก และชุดชั้นในนี้ก็ด้วย แต่หญิงสาวกลับเก็บเข้าไว้ที่เดิมคืน และกำลังจะหันหลังเดินเข้าไปที่ครัวต่อ
“ทำอะไร” เสียงเข้มดังขึ้นมาตามหลังของเธอเสียก่อน
“...” หญิงสาวไม่หันหลังมามอง เพราะเธอสวมเพียงเสื้อตัวเดียว แถมไม่มีชั้นใส่อีกด้วย จึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่แต่แต่จะกล้าขยับเดิน
“ของเธอ รับไปสิ” เสียงเรียบเอ่ยขึ้นบอก โดยลดน้ำเสียงอ่อนลงมา
“ไม่เป็นไร...” เธอรีบปฏิเสธทันควันโดยไม่คิดอะไรเลย
“รับเอาไปไว้แล้วรีบไปเปลี่ยนสะด้วย ใส่เสื้อตัวเดียวเดินโชว์อยู่ได้ ฉันไม่พิศวาสเธอหรอกน่ะ หรือว่าอยากได้ผัวเป็นคนงานสักคนไหมล่ะ ผู้ชายเยอะดีนะข้างนอก” เสียงเข้มพูดขึ้นด้วยคำพูดที่ประชดประชันเธอ
“...” หญิงสาวยังคงไม่ตอบอะไรออกมา
“รีบเอาไปเปลี่ยน” เสียงเข้มสั่งขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โซฟาใกล้กับโต๊ะที่ของวางอยู่เต็ม
หญิงสาวจึงหันกลับมาอย่างช้า ๆ แล้วหอบถุงเสื้อที่วางอยู่ทั้งหมดกอดไว้แนบอก และรีบขึ้นไปด้านบนของบ้านต่อทันที อย่างรีบร้อน เพราะสายตาที่ร่างสูงมองเธอตาไม่กระพริบเลย
อคิราห์จิตใจร้อนรุ่มขึ้นมาทันที เมื่อสายตาได้เห็นสัดส่วนอย่างชัดเจนของหญิงสาวเมื่อสักครู่ หุ่นอวบก็จริงแต่ทรวดทรงองค์ชัดเจน ทุกส่วนช่างล่อตาล่อใจเขาเสียเหลือเกิน แถมร่องอกขาว ๆ ที่เห็นเนินอกอย่างชัดเจนของเธออีก เพราะเธอไม่ได้สวมใส่ชุดชั้นในปกปิด
ถึงแม้ร่างกายจะเขียวจ้ำเป็นบางส่วน และบางส่วนก็ถูกแดดเผา แต่ความความใสของเธอก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อยนิด เธอหน้าตาสวยผืวขาวผ่องประกาย โดนอะไรนิดหน่อย ก็มีรอยช้ำขึ้นมาแล้ว
“ฟู่ว์...มึงจะตื่นทำไม ผู้หญิงแบบนี้ไม่ใช่สเปคมึงน่ะไอ้คิน เธอเป็นผู้หญิงของพ่อนะเว้ย มึงจะเอาลงหรือว่ะ” ร่างสูงสบถออกมาอย่างไม่เข้าใจอารมณ์ของตัวเอง ทันทีที่หญิงสาวพ้นสายตาไปแล้ว
“เป็นไรว่ะเพื่อน” เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งทักทายขึ้นมา เมื่อเดินเข้ามาถึงที่บ้านของอคิราห์
“พวกมึงมากันได้ยังไง ไม่เห็นโทรมาบอกเลย” อคิราห์หันไปมองตาเสียง ก็ถามกลับไปทันที เมื่อเห็นว่าต้นเสียงนั้นคือใคร แล้วพวกมันมากันตอนไหนไม่ได้ยินเสียงรถ คงไม่เห็นเธอหรอกนะ
“กูโทรจนสายแทบไหม้ มึงก็ไม่ยอมรับจนมันตัดไปเอง คิดว่ามึงตายไปแล้วมั้ง กูกับไอ้เธียรเลยชวนกันมาดูให้เห็นกับตานี่แหล่ะ” ธีรเมธเจ้าขิงไร่ชาพูดขึ้นมาทันที พร้อมกับวางของฝากจากไร่ของเขาลงที่โต๊ะ
“กูก็ไม่เป็นอะไรนี้” อคิราห์ตอบออกอย่างรู้สึกโล่งขึ้นมาทัน พวกมันคงยังไม่เห็นเธอ
ทางด้านหญิงสาวที่หอบของขึ้นมาด้านบนห้อง ก็แต่งตัวใหม่ จนเกือบจะเสร็จแล้ว และกำลังจะเดินไปที่ด้านล่างคืน
“ว้ายยย...” หญิงสาวร้องเสียงออกมาทันที เมื่อประจันหน้ากันกับร่างสูงที่เดินเข้ามาภายในห้อง
“ร้องยังกับจะโดนเชือด”
“ก็คุณเล่นข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียงแบบนี้ ใครจะไม่ตกใจล่ะ” หญิงสาวต่อว่าออกมาทันที ที่ร่างสูงเข้ามาแบบเงียบ ๆ
“หึ ขวัญอ่อนไปได้” ร่างสูงเค้นหัวเราะพร้อมกับเดินเข้าไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางลืมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ดีหน่อยที่ปิดเสียงไว้
“จะลงไปไหน...” อคิราห์ขึ้นมาอีก เมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจะก้าวขาออกจากห้องนี้
“ก็จะไปทำงานต่อจากเมื่อวานนี้ไง คุณจะได้พอใจ แล้วรีบปล่อยตัวฉันไปสักที” หญิงสาวหันมาตอบออกไปตามความคิดที่ตัวเองคิดออกอยู่ตอนนี้ ในเมื่อยังกลับไปไม่ได้ ก็ต้องทำให้เขาพอใจ
“อยู่ที่นี่ วันนี้ไม่ต้องออกไปไหน เดี๋ยวจะให้ไอ้วัฒน์ เอากับข้าวมาให้เอง” เสียงเรียบเอ่ยบอก
“ทำไมล่ะ ไหนบอกอยากทรมานฉันไง” หญิงสาวหันกลับมา เพราะไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเมื่อสักครู่นี้จากปากของเขา
“แล้วเธอจะมาขยันอะไรตอนนี้ ฉันบอกให้อยู่ก็อยู่ ห้ามลงไปด้านล่างเด็ดขาด ทีวีมีก็นอนดูไป” เสียงเข้มดุออกมา พร้อมกับเดินเข้าาไปใกล ๆ กับเธอ
“แต่ว่าอื้อ...” หญิงสาวกำลังจะตอบโต้ออกมา แต่กลับถูกร่างสูงดึงตัวไปแระชิด แล้วก้มลงประปากเธอไว้ทันที
“อย่าขัดคำสั่ง ไม่อย่างนั้นจะโดนมากกว่านี้” เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้น เมื่อถอนจูบออกจากปากอวบอิ่มอย่างน่าเสียดายอยู่ไม่น้อย
ใบหน้าไร้เครื่องสำอางค์แต่งเติมนี้ช่างอยากลิ้มลองเสียแล้วสิ แต่ก็ต้องกักเก็บอารมณ์เอาไว้ เพราะมีความแค้นที่ต้องสะสางกับเธออยู่
“แล้วไหนบอกจะไม่แตะต้องตัวฉันไง ไอ้บะอื้อ...” หญิงสาวรีบยกมือขึ้นเช็ดปากอย่างลวก ๆ แล้วถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ เขาเป็นคนพูดเองว่าจะไม่แตะต้องตัวเธอ และเธอก็กำลังจะพ่นคำด่าออกไป แต่ก็ต้องถูกร่างสูงจูบปิดปากของเธออีกครั้ง
“ยังจะเถียงอยู่อีกไหม” ร่างสูงถามขึ้นเสียง หลังจากที่ถอนปากออกจากปากของเธอ
“ไอ้...”
“ไอ้อะไร ฉันแก่กว่าเธอตั้งหลายปีนะ ฉันเสร็จธุระเมื่อไหร่ เธอเตรียมรับโทษของเธอไว้เลย อ้อ...แล้วอีกอย่างถ้ามีคนมาฟ้องว่าเห็นเธอลงไปด้านล่าง ฉันจะเอาเธอไปขังไว้ท้ายไร่ ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันเลยคอยดู” ร่างสูงต้องโทษเธอไว้ทันที พร้อมกับขู่เธอเอาไว้อีกด้วย และจะไม่ใช่แค่ขู่ แต่เขาจะทำจริง ๆ หากเธออีกคงดื้อด้านแบบนี้
“คุณ...”
“หุบปาก! ทำไมชอบเถียงจังว่ะ” ร่างสูงจ้องมองอย่างคาดโทษหญิงสาวเอาไว้ เมื่อเธอเริ่มต่อล้อต่อเถียงขึ้นมา ก่อนจะปิดประตูห้องไว้ แล้วเดินลงไปหาเพื่อนที่รออยู่ด้านล่างต่อทันที อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
บทพิสูจน์ NC“แพร...” ร่างสูงก้มลงมาจูบปากของเธออีกครั้ง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจกึก กึก สวบ“กรี๊ดดด...เจ็บ ฮือ เอามันออกไป แพรไม่เอาแล้ว”เขาดันตัวตนลงไปที่เดียวจนมิดด้าม ด้วยความอยากลำบาก และรับรู้ถึงเยื้อผนังกั้นบาง ๆ ที่เขาทำลายลง ทำให้เขาทราบได้ทันที ว่าเธอไม่ใช่คนที่พ่อเขามีสัมพันธ์ด้วย เขาจึงแช่ตัวตนไว้เพื่อให้เธอได้ปรับตัว“แพร...” เสียงกระเส่าเอ่ยเรียกชื่อของเธอใบหน้ามีรอยยิ้มผุดขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ เมื่อได้รู้ว่าเขาได้เป็นคนแรกของเธอ ถึงแม้จะไม่รู้เลยว่าเธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร แต่ตอนนี้ไม่สนแล้ว ขอกอบโกยความสุขตรงนี้เอาไว้ให้หนำใจเสียก่อน“เจ็บ...ฮือ” เสียงสั่นสะอื้นเอ่ยขึ้นบอก พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาดั่งสายธาร“แพร! พี่ถอยไม่ได้แล้ว” เขาเปลี่ยนสรรพนามเรียกแทนตัวเองกับเธอทันที พร้อมกับน้ำเสียงที่อ่อนโยนกับเธอขึ้นมา แล้วมือก็ช้อนคางเธอขึ้นมาให้สบตากับเขา“...” หญิงสาวไม่โต้ตอบอะไรเข้ากลับ เอาแต่หลบสายตา พร้อมกับน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุด“ขอโทษที่ไม่สืบให้ดีกว่านี้ก่อน ขอโทษที่ไม่ยอมฟังคำอธิบายของแพร และขอโทษที่จับตัวแพรมา แต่ขอบคุณน่ะ ที่ให้พี่ได้เป็นคนแรกของแพร มีความสุข
พิสูจน์หาความจริง NCธวัฒน์เอาสำรับ สำหรับมื้อเย็นของเจ้านายมาให้ แล้วกลับออกไปทันที ไม่ได้อยู่นาน เพราะไม่เห็นเจ้านายหนุ่มอยู่ที่ด้านล่าง คงจะทำงานอยู่ด้านบนเหมือนเช่นเคย แถมเวลาที่เขาทำงาน ทุกคนจะไม่กล้าเข้าไปเรียกเป็นอันขาด เพราะเขาเป็นคนที่จริงจังในการทำงานส่วนด้านเจ้าของบ้านเองนั่งมองหญิงสาวที่หลับอยู่บนที่นอน นานสองนานเธอก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย มือหนาเอื้อมขึ้นไปตรงที่หน้าอกของหญิงสาว แค่เปิดเสื้อดูก็รู้แล้วนี้ว่าใช่หรือไม่ใช่ ไม่ต้องพิสูจน์อะไรมากมายตามคำแนะนำของธวัฒน์ด้วย“คุณ! จะทำอะไร” หญิงสาวถามขึ้นทันที เมื่อลืมตาขึ้นมา กลับพบมือของร่างสูงอยู่ตรงหน้าอกของเธอ“เอ่อ...คือ?” อคิราห์รีบชักมือกลับมาอย่างไว และได้แต่อ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าจะแก้ตัวกับเธอว่าอย่างไร“ถอยออกไปเลยน่ะ คิดจะฉวยโอกาสฉันเหรอ ไหนว่าฉันไม่ใช่สเปคของคุณยังไงล่ะ” หญิงสาวรีบลุกขึ้น แล้วดึงผ้าห่มขึ้นคลุมถึงอกทันที“คือ ฉันเพียงแค่ต้องการพิสูจน์อะไรสักอย่างเพื่อความแน่ใจ ไม่คิดจะทำอะไรอย่างที่เธอคิดหรอก” อคิราห์พูดบอกตามตรง“พิสูจน์อะไร ถึงจะมาจับที่หน้าอกฉันด้วย ไอ้ลามก!” หญิงสาวไม่ได้สนใจในคำพูดของเขา แถม
อยากพิสูจน์ทางด้านของพงษ์พิพัฒน์เมื่อลูกสาวคนเล็กที่เกิดจากภรรยาอีกคน หายตัวไปหลายวันแล้ว แถมติดต่อก็ไม่ได้ ก็มีความกระวนกระวายใจอยู่ไม่น้อย จึงจ้างให้คนคอยตามสืบไปทุกที่ ที่หญิงสาวเคยไป หรือเพื่อนที่หญิงสาวรู้จัก แต่ก็ยังไร้วี่แววข่าวคราวของเธอ เพราะกระเป๋าและโทรศัพท์มือถือถูกตัดระบบหมด แถมหญิงสาวยังใช้เพียงโทรศัพท์เครื่องธรรมดาอีกด้วย จึงตามตัวได้ยาก“หนูหายไปไหนแพรวา” เสียงทุ้มพูดคนเดียวอย่างเหนื่อยใจและหมดหวัง เมื่อคนที่จ้างวานสืบข่าวของลูกสาวคนเล็ก แจ้งมาว่ายังไม่มีข่าวคราวอะไรเขาจ้างให้คนตามสืบข่าวอยู่เงียบ ๆ เพราะไม่อยากให้ภรรยาที่บ้านรับรู้ ถ้าจะไม่ตามหาเลยก็ตัดขาดไม่ลง เพราะหญิงสาวคือลูกในไส้ ที่เกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองแท้ ๆเขารักเธอเท่ากับลูกสาวอีกคน แต่ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะเกรงใจภรรยาที่จดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถึงแม้ว่าจะหมดรักกันไปนานแล้วก็ตาม และเขาก็ทำผิดต่อภรรยาด้วยที่เผลอตัวเผลอใจไปรักกันกับหญิงสาวที่เป็นเพียงสาวใช้ภายในบ้านและอีกอย่างเขาก็ไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวของลูกคนนี้ด้วย จึงทำได้เพียงแต่คอยดูการเติบโตของเธออยู่ห่าง ๆ และอีกไม่นานเธอก็จะ
เริ่มสงสัย“รถใครมาเหรอจิตรี” นิตยาถามแม่บ้านที่อยู่บริเวณนอกบ้านขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ดังใกล้เข้ามา“คุณคินกับเพื่อน ๆ คะคุณหญิง” จิตรี ป้าแม่บ้านผู้อาวุโสของที่นี่ และก็อยู่ที่นี่มาตั้งแต่ที่พวกเขามาตั้งรกรากกันเลย แถมยังเป็นแม่แท้ ๆ ของ ธวัฒน์อีกด้วย“สวัสดีครับ อานิตเป็นยังไงบ้างครับ” ธีรเมธเป็นฝ่ายทักทายก่อนเมื่อเดินเข้ามาในบ้านตามอคิราห์ พร้อมกับของฝากจากไร่ของเขาด้วย“สวัสดีลูกดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ แต่ยังต้องนั่งรถเข็นอยู่ เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันน่ะ จะได้ไม่ต้องเดินไปไหนมาไหนบ่อย ๆ” นิตยาตอบไปพร้อมกับติดตลก เพราะหากเป็นเมื่อก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุนั้น เขาจะชอบเดินไปสอดแนมที่บ้านลูกชายบ่อย ๆ กลัวลูกชายจะเอาผู้หญิงสาวสำราญมาค้างด้วย“เดี๋ยวอานิตก็กลับมาเดินได้ครับ” เธียรวัฒน์พูดอย่างให้กำลังใจแม่ของเพื่อนที่พึ่งออกมาพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาล หลังจากประสบอุบัติเหตุอาการสาหัสมา“ว่าไงพ่อตัวดี ถ้าเพื่อนไม่มา ก็ไม่มาหาแม่ที่บ้านเลยนะ ไม่รู้ว่ามีอะไรยุ่งนักหนาขลุกอยู่แต่ที่นั่น” นิตยาหันมาพูดเหน็บแนมทางลูกชายทันที“ผมงานยุ่งนี้ครับแม่” อคิราห์เอาแต่ตอบทีเล่นที และยกเอางานที่ไร่มาอ้าง
เก็บความสงสัยกรุงเทพมหานครบนพื้นห้องนอนในคอนโดฯสุดหรู ที่เต็มไปด้วยเศษซากถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว กระจายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด สองร่างเปลือยเปล่ายังคงกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันแน่นแฟ้นอยู่ที่นอนกว้างนั้น ในคอนโดฯหรูของพระเอกหนุ่มอย่างเทวินทร์ ที่เป็นคู่ขาคนใหม่ของพัชร์สิตา“วินพอแล้วนี่มันสายมากแล้วน่ะ พราวต้องกลับแล้ว” หญิงสาวเอ่ยห้ามเมื่อชายหนุ่มยังคงคลอเคลียไม่หยุด“ขออีกรอบได้ไหม?” เสียงกระเส่าเอ่ยขอขึ้นมา แต่ยังปากก็ยังคงทำหน้าที่จูบซับไปตามซอกคอขาวของเธอ“แต่เมื่อคืนพราวก็ให้ทั้งคืนแล้ว จนแทบจะไม่ได้นอนเลยนะ” หญิงสาวเอ่ยบอก เพราะคืนเร้าร้อนที่ผ่านมา ก็แทบจะไม่ได้พักเลย ไม่รู้ว่าจบไปกี่รอบต่อกี่รอบ นับจากสภาพเศษซากถุงยางอนามัยแล้ว แทบจะไม่เชื่อสายตาด้วยเองด้วยซ้ำ ว่าทำลงไปได้ยังไง ไม่ใช่ไม่ชอบเรื่องพวกนี้น่ะ แต่เพราะเธอมีงานต่อ “ก็พราวเด็ดนี่ อีกรอบนะครับ เดี๋ยววินจะรีบเร่งให้ แล้วจะรีบไปส่งพราวที่บ้านนะ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกด้วยประโยคที่หว่านล้อมหญิงสาว“...แต่ อย่าทำรอยน่ะ เย็นนี้พะราวมีงาน” หญิงสาวรีบเอ่ยห้าม เมื่อชายหนุ่มขบเม้มที่ซอกคอของเธอ“ครับ” เสียงครางกระเส่ารับคำ แล้วซุกไซร้ซอกคอข
ไม่สบอารมณ์สิตาพัชร์ตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าของวันใหม่ กลับต้องพบเพียงความเงียบ เพราะเจ้าของบ้านออกไปตั้งแต่เมื่อคืน ก็ยังไม่กลับมา และไม่มีใครอื่นใดที่กล้าเข้ามาที่นี่ เพราะเจ้าของสั่งห้ามเอาไว้ หญิงสาวจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว แต่ไม่มีเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนเลยเธอเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเจ้าของห้อง จึงหยิบเอาเสื้อเชิ้ตของเขามาตัวหนึ่งสวมพอแก้ขัดไปก่อน เพราะเธอไม่มีอะไรใส่เลย แล้วจึงเดินลงมาที่ด้านล่างกลับต้องพบถุงมากมาย วางอยู่บนโต๊ะกลางห้องรับแขก เธอจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปเปิดออกดู พบเสื้อผ้าและของใช้ต่าง ๆ ที่ล้วนเป็นแต่ของผู้หญิง แม้กระทั่งชุดชั้นในในนั้นอีกด้วยแถมเสื้อผ้าแต่ละตัวยังเป็นขนาดไซส์เดียวกันกับที่เธอใส่อีก และชุดชั้นในนี้ก็ด้วย แต่หญิงสาวกลับเก็บเข้าไว้ที่เดิมคืน และกำลังจะหันหลังเดินเข้าไปที่ครัวต่อ“ทำอะไร” เสียงเข้มดังขึ้นมาตามหลังของเธอเสียก่อน“...” หญิงสาวไม่หันหลังมามอง เพราะเธอสวมเพียงเสื้อตัวเดียว แถมไม่มีชั้นใส่อีกด้วย จึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่แต่แต่จะกล้าขยับเดิน“ของเธอ รับไปสิ” เสียงเรียบเอ่ยขึ้นบอก โดยลดน้ำเสียงอ่อนลงมา“ไม่เป็นไร...” เธอรีบปฏิเสธทันควันโ