LOGIN@คอนโดหรูใจกลางเมืองอิตาลี
“จะบอกว่าวันนี้มึงปังมากกกก ปังสุดๆเลยยัยฟ้า นี่กูเห็นนะว่านางแบบนับสิบบนเวที คนเดียวที่คุณฟรานมองคือมึงค่ะ!” เสียงของยัยเพียงดาวดังแว่วเข้ามาถึงในหูเธอ ตั้งแต่ปลายเตียงยันโต๊ะเครื่องสำอางที่เธอนั่งอยู่ พอเธอเหลือบมองหน้าเพื่อนผ่านกระจกใสตรงหน้า ก็เห็นว่ามันกำลังทำตาปริบๆมองเธออยู่ บ่งบอกว่ากำลังปลื้มอกปลื้มใจมากแค่ไหน “เหอะ มองคู่หมั้นเค้าน่ะสิไม่ว่า จำได้ว่ายัยนั่นเดินตามหลังกูนี่นา” เธอเบ้ปากตอบเพื่อนไปอย่างไม่จริงจังนัก ขนาดเจอหน้ากันเขายังทำเป็นจำเธอไม่ได้ด้วยซํ้า จะให้มามองอะไรกันล่ะ ก็จำได้ว่าเธอเผลอหันไปสบตากับเขาแว็บนึงอยู่นะ แต่ก็ไม่คิดหรอกว่าเขาจะตั้งใจมองน่ะ คงจะเพราะเผลอจ้องแค่แว็บเดียวเท่านั้นแหละมั้งที่เห็นแฟนเก่าอย่างเธอมาเดินอยู่ตรงหน้า “บอกเลยว่ามึงคิดผิด!! เพราะกูนั่งอยู่อีกฟากซึ่งเห็นชัดมากก บอกเลยว่า All his eyes on you เลยจ้า” ยัยเพียงยังคงยืนยันเสียงดัง แววตานั่นจะมั่นใจอะไรขนาดนั้น เหอะ อยากมองก็มองไปสิ ผู้ชายที่ทำกับเธอไว้เลวระยำขนาดนั้นฝันไปเถอะว่าจะได้อะไรจากเธออีก ก็ได้แค่มองนั่นแหละ แตะต้องไม่ได้แน่นอน “พอเลย คืนนี้กูจะปลดปล่อย ไม่อยากฟังเรื่องผู้ชายคนนั้นหรอกนะ” ใช่ ตอนนี้เธอกำลังเตรียมตัวเป็นผีเสื้อกลางคืน ถึงเวลาที่ต้องโบยบินอย่างอิสระสักที หลังจากที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน “จ้า ไม่อยากฟังเลย แค่อยากเห็นเค้าเลยต้องถึงขั้นบินมารับงานถึงอิตาลีเอง” “อะไรของมึงยัยเพียง กูปฏิเสธได้ที่ไหนล่ะ นี่มันโอกาสเงินโอกาสทอง แล้วอีกอย่างใครจะรู้ว่าอีตานั่นจะมาร่วมงานด้วย” “เออไม่รู้เลยจริงๆ กูว่ากูก็แจ้งมึงไปหมดแล้วนะเกี่ยวกับรายระเอียดงานน่ะ อย่าลืมว่ากูเป็นผู้จัดการมึงน่ะยัยบ้า” เธอถึงกับต้องปิดปากอุบ ลืมไปได้ยังไงนอกจากยัยนี่จะเป็นเพื่อนที่รู้ใจที่สุด แล้วยังเป็นผู้จัดการที่แสนรู้กับการใช้ชีวิตเธอไปหมด ชิส์… “เงียบปากไปเลยยัยเพียง จะไปด้วยมั้ยผับน่ะ ถ้าไม่ไปกูจะได้ไปคนเดียว” “ไปสิย๊ะ! มาถึงแดนหนุ่มหล่อทั้งที มีเหรอยัยเพียงจะพลาดน่ะ” แล้วดูมันทำหน้า พูดเฉยๆก็ได้ป่ะ ไม่เห็นต้องทำหน้าทำตาอยากจะไปจับเขากินจนนํ้าลายยืดน่ะ เธอได้แต่ส่ายหน้าให้กับความบ้าบอคอแตกของเพื่อนแล้วหันกลับมาแต่งหน้าจัดเต็ม บอกเลยงานนี้ไม่เมาไม่กลับ ไม่ได้ผู้ไม่กลับ! จะเอาให้หล่อราวเทพบุตรที่แม้แต่ผู้ชายคนนั้นก็เทียบไม่ติดเลยคอยดู! . . . @Lux club พอเข้ามาถึง เธอก็จัดการสั่งเครื่องดื่มต่างๆกับพนักงานไปทันที แสงสีแห่งเมืองอิตาลีที่ห่างหายไปนานสามปี ในที่สุดเธอก็กลับมาเหยียบที่นี่จนได้สินะ อยู่ๆสมองก็พลันคิดถึงวันเก่าๆที่เธอมักจะมาที่นี่กับใครบางคน ไม่เคยมีโอกาสได้มานั่งชิวๆคนเดียวแบบนี้กับเพื่อนหรอก เพราะผู้ชายคนนั้นน่ะ หวงเธอยิ่งกว่าหมาอีก จะต้องตามตัวติดทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธอไปทั่ว แม่งเอาอีกแล้ว… ทำไมต้องคิดถึงเขาด้วยนะ ไม่ได้มาที่นี่เพื่อรำลึกถึงเรื่องราวเก่าๆสักหน่อย เธอมาเพื่อสนุกแล้วกระชากความเป็นตัวเองออกมาให้สุดต่างหากล่ะยัยฟ้าลันดา!! “อะไรย๊ะยัยฟ้า ผู้หล่อไม่เท่าผัวเก่าหรือยังไง มาถึงก็ทำหน้าบึ้งเลย” เสียงของยัยเพียงแทรกเข้ามา ยิ่งทำให้เธอหน้าบึ้งตึงกว่าเดิมทวีคุณ “ผัวเก่ากูหรือผัวเก่ามึงยัยเพียง มัวแต่พูดถึงอยู่นั่นแหละ เสียบรรยากาศจริงๆ” เธอกรอกตาพูดแซะยัยเพื่อนบ้ากลับเสียบ้าง ใครมันอยากได้ยินถึงผู้ชายคนนั้นกัน เสียอารมณ์หมด แล้วดูเหมือนจะไม่ใช่แค่เสียอารมณ์แล้วล่ะ แต่มันอารมณ์เสียเลย เมื่อยัยเพียงมันทำปากชี้ไปด้านหน้าว่าเห็นใครนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ “นั่น มึงได้เสียมากกว่าบรรยากาศแล้วแหละ” เพราะตอนนี้เจ้าของหัวข้อสนทนากำลังนั่งหัวโด่อยู่โต๊ะข้างๆที่ระยะห่างกันไม่มากนัก แล้วแววตาคมที่เธอแสนเกลียดนั่นก็กำลังจับจ้องมาทางนี้ เหอะ จ้องอะไร คู่หมั้นตัวเองไม่ได้อยู่บนหัวเธอหรอกนะ! “แม่ง โครตหงุดหงิด” “เอาน่า จะไปสนใจทำไม ไหนมึงบอกว่ามาสนุกไง ไม่ได้มาเพื่อสนใจใครสักหน่อย” นี่คงเป็นคำพูดจากปากเพื่อนคำแรกที่พอฟังเข้าหูบ้างตั้งแต่ก้าวเข้ามาที่นี่ ใครมันอยากสนกันล่ะ นึกแล้วมือเล็กก็หยิบแก้วนํ้าสีอำพันบนโต๊ะขึ้นกระดกรวดเดียวอย่างกับไปคอแห้งมาจากไหน บอกเลยสดชื่นเหมือนได้กินเลือดกินเนื้อใครบางคน “เบาได้เบายัยฟ้า คีพลุคนางแบบอันดับท็อปหน่อยก็ได้เพื่อน” “หึ ตอนนี้กูคือยัยฟ้า ไม่ใช่ฟ้าลันดาแม่สาวราชะนีหงส์อะไรนั่นสักหน่อย” เวลาส่วนตัวเธอก็จะเป็นตัวเองเต็มที่ ส่วนเวลางานเธอก็ทุ่มเทและทำออกมาให้ดีที่สุดเช่นกัน เพราะงั้นเวลานี้ไม่มีคำว่านางแบบอะไรทั้งนั้น “เออเอาเข้าไป แต่อย่ากระดกจนเมาไม่รู้เรื่องห่าเหวอะไรเลยก็แล้วกัน บอกก่อนเลยกูไม่รับประกันว่าจะแบกมึงกลับคอนโดหรอกนะ ขืนเมาแล้วไปจบที่เตียงคุณฟรานขึ้นมา กูไม่เกี่ยวนะจ้ะเพื่อนรัก” ยัยเพียงพูดเหมือนจะเตือน แต่สีหน้ามันยียวนฉิบหาย เหมือนตั้งใจพูดเพราะหวังอยากจะให้มันเป็นแบบนั้นมากกว่า แต่เลิกคิดไปได้เลย เพราะเรื่องแบบนั้นคงไม่มีทางเกิดขึ้นกับคนอย่างฟ้าลันดาแน่ๆ ถึงคืนนี้เธอจะต้องไปจบบนเตียงใครสักคนจริงๆ ฟ้าลันดาคนนี้ก็กล้าเอาหัวเป็นประกันเลยว่า ไม่ใช่เตียงอีตานั่นแน่นอน!“อย่างอื่น?” “หึ หมายถึงพวกวอดก้าน่ะ หรือว่าคุณคิดเป็นอีกแบบ?” เขาพูดพรางทำหน้ายียวนเหมือนตั้งใจกวนประสาทกัน ไม่พอยังโน้มหน้าลงมาจนลมหายร้อนรดเข้าไปพวงแก้มนุ่ม ชวนเอาเธอร้อนรุ่มไปด้วย ไม่ได้นะยัยฟ้า จะมารู้สึกเพียงเพราะความใกล้ชิดแค่นี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน “ไม่แล้วค่ะ ฉันจะกลับเข้าไปหาเพื่อนแล้ว ป่านนี้เพื่อนคงจะตามหาฉันแล้ว” ข้ออ้างเฉยๆนั่นแหละ พอเธอพูดเสร็จก็ทำท่าจะปรีดตัวออกจากเขาที่แทบจะต้อนเธอจนมุมกับเสาด้านหลัง แต่ร่างเล็กยังไม่ทันจะก้าวพ้นเขา ก็ถูกมือหนาทาบทับลงคํ้ายันกับเสาด้านหลังเพื่อล็อคร่างเธอเอาไว้ไม่ปล่อยให้เธอได้หนีไปไหน อะไรของเขาเนี่ย… “แน่ใจเหรอว่าเพื่อนตามหาน่ะ เท่าที่ผมเห็น เหมือนว่าเพื่อนคุณจะไม่อยากให้คุณกลับไปที่โต๊ะมากกว่านะ” มุมปากหยักเหยียดยิ้มเจ้าเล่ห์ ยังคงนิสัยเอาแต่ใจไม่เปลี่ยนสินะ แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้โกหกนั่นแหละ เพราะเธอเองก็รู้จักยัยเพียงดาวดี ยัยเพื่อนตัวดีป่านนี้คงจะกำลังมีความสุขอยู่กับหนุ่มหล่ออย่างคุณฟาบิโอหรือไม่ก็คงไปควบหนุ่มที่ไหนสักคน “ผมอยากชวนคุณไปลองวอดก้าด้วยกันจริงๆนะครับ” เขายังคงเชิญชวนเธอไ
ทั้งสองคนนั่งดื่มกันจนได้ที่จนพวงแก้มแดงปลั่ง เนื่องจากผิวที่ขาวผ่องจนเห็นเส้นเลือดชัดเจน ก่อนเสียงทุ้มของใครอีกคนที่เดินเข้ามาทักทายจะดังขึ้นท่ามกลางเสียงดนตรีดังกระหึ่ม “แฮ่ม… ขอร่วมวงด้วยคนได้มั้ยครับคนสวย” ร่างเพรียวสองคนบนโต๊ะเงยหน้ามอง ก็ปรากฏว่าเป็นฟาบิโอ หนุ่มหล่อที่เธอเพิ่งยืนคุยด้วยในงาน “อ้าว คุณฟามาที่นี่ได้ยังไงคะ” “ที่ไหนมีเหล้า ที่นั่นก็ย่อมมีผมนั่นแหละครับ” ฟาบิโอกล่าวขำๆ พรางถือวิสาสะนั่งลงข้างๆเธอโดยที่ไม่รอคำตอบ “มาเที่ยวกันสองคนในที่แบบนี้ ไม่กลัวจะเป็นอันตรายหรือไงกันครับ ยิ่งสวยๆอยู่ด้วย” เขาเอ่ยอย่างไม่จริงจังมากนัก สายตาเจ้าชู้นั่นก็เล่นหูเล่นตาใส่เธอไม่พักเช่นกัน จะอันตรายก็เพราะมีเขามานั่งด้วยนี่แหละ “หึ ขอบุหรี่สักม้วนสิคะ” เธอไม่ตอบคำถามเขา แต่เหลือบตาไปมองกล่องบุหรี่ที่โผล่พ้นออกมาจากกระเป๋ากางเกงของอีกคนแทน ทำเอาทั้งยัยเพียงกับคนที่ถูกขออย่างเขาถึงกับเลิ่กคิ้วมองเธออย่างไม่อยากเชื่อสายตา ก่อนเสียงหัวเราะชอบใจจากฟาบิโอจะเปร่งขึ้น “หึๆ คุณฟ้าสูบมันด้วยเหรอครับ” เขาถามก็พรางหยิบมันออกมาให้เธอ ไม่พอยังส่งไฟแช็กมาพร้
@คอนโดหรูใจกลางเมืองอิตาลี “จะบอกว่าวันนี้มึงปังมากกกก ปังสุดๆเลยยัยฟ้า นี่กูเห็นนะว่านางแบบนับสิบบนเวที คนเดียวที่คุณฟรานมองคือมึงค่ะ!” เสียงของยัยเพียงดาวดังแว่วเข้ามาถึงในหูเธอ ตั้งแต่ปลายเตียงยันโต๊ะเครื่องสำอางที่เธอนั่งอยู่ พอเธอเหลือบมองหน้าเพื่อนผ่านกระจกใสตรงหน้า ก็เห็นว่ามันกำลังทำตาปริบๆมองเธออยู่ บ่งบอกว่ากำลังปลื้มอกปลื้มใจมากแค่ไหน “เหอะ มองคู่หมั้นเค้าน่ะสิไม่ว่า จำได้ว่ายัยนั่นเดินตามหลังกูนี่นา” เธอเบ้ปากตอบเพื่อนไปอย่างไม่จริงจังนัก ขนาดเจอหน้ากันเขายังทำเป็นจำเธอไม่ได้ด้วยซํ้า จะให้มามองอะไรกันล่ะ ก็จำได้ว่าเธอเผลอหันไปสบตากับเขาแว็บนึงอยู่นะ แต่ก็ไม่คิดหรอกว่าเขาจะตั้งใจมองน่ะ คงจะเพราะเผลอจ้องแค่แว็บเดียวเท่านั้นแหละมั้งที่เห็นแฟนเก่าอย่างเธอมาเดินอยู่ตรงหน้า “บอกเลยว่ามึงคิดผิด!! เพราะกูนั่งอยู่อีกฟากซึ่งเห็นชัดมากก บอกเลยว่า All his eyes on you เลยจ้า” ยัยเพียงยังคงยืนยันเสียงดัง แววตานั่นจะมั่นใจอะไรขนาดนั้น เหอะ อยากมองก็มองไปสิ ผู้ชายที่ทำกับเธอไว้เลวระยำขนาดนั้นฝันไปเถอะว่าจะได้อะไรจากเธออีก ก็ได้แค่มองนั่นแหละ แตะต้องไ
“นายจะกลับเลยรึเปล่าครับ“ ไม่นานงานแฟชั่นโชร์สุดหรูหราก็จบสิ้น มาร์โก้รีบปริดตัวเดินเข้ามาถามเจ้านาย เพราะรู้ดีว่าเขาไม่ชอบสุงสิงอยู่ในที่แออัดแบบนี้ มันน่ารำคาญจะตายไป ทว่าวันนี้กลับแปลกไป เมื่อเจ้านายหนุ่มเอ่ยปากปฏิเสธสะงั้น “ไม่ กูจะอยู่ต่ออีกนิดหน่อย มึงมีอะไรก็ไปทำก่อนเลย” ไม่รู้อะไรดนใจเขาให้ตอบลูกน้องออกไปแบบนั้นเหมือนกัน ทว่าพอกล่าวเสร็จ แววตาคมก็เหลือบมองรอบๆโดยไม่สนสายตางุนงงจากลูกน้อง ที่ขมวดคิ้วมองเขาอย่างไม่เข้าใจ จะอะไรก็ช่างเถอะ ตอนนี้หัวใจเขามันบอกว่ายังไม่อยากกลับ ซึ่งเขาก็เลือกที่จะเชื่อฟังมัน ไม่นานแววตาคู่คมก็เหลือบไปสะดุดกับร่าเพรียวระหง ที่เอาแต่ติดอยู่ในความคิดของเขาตั้งแต่เมื่อครู่ เธอกำลังยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คุยกันเป็นมิตรอยู่กับสปอนเซอร์คนอื่นๆ อะไรกัน เขาเป็นถึงสปอนเซอร์ใหญ่ในวันนี้ ทว่ากลับถูกเธอมองข้ามแล้วไปคุยกับสปอนเซอร์เล็กๆพวกนั้นเนี่ยนะ อยู่ๆความไม่พอใจก็บังเกิด ไม่รู้ทำไมต้องหงุดหงิดด้วยวะ ทั้งที่นิสัยเขาไม่ใช่แบบนี้ ปกติเขาจะชอบอกชอบใจด้วยซํ้าที่ได้อยู่เงียบๆ โดยไม่มีใครมายุ่ง ทว่าตอนนี้กลับตรงกันข้ามสะงั้น นึกแล้วเท้
“คุณฟรานคะ วันนี้คุณจะไปดูฟิโอน่าเดินแบบใช่มั้ยคะ” ฟิโอน่า หญิงสาวรูปร่างเพรียวหุ่นนางแบบ เมื่อเห็นฟรานเชสโก้ผู้เป็นคู่หมั้นเดินลงบันไดบ้านมาในชุดสูทหล่ออลังการ ก็รีบดันตัวเองเดินเข้าไปถามเขาด้วยสีหน้าปลื้มปลิ่ม “ก็ต้องไปสิครับ ในเมื่องานนี้นายเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ จะไม่ให้ไปได้ยังไงครับคุณฟิโอน่า” เป็นมาร์โก้ บอดี้การ์ดน่ารำคาญนั่นที่เอ่ยปากตอบเธอแทนคนถูกถามซึ่งเอาแต่ทำหน้าขรึมแล้วเงียบเสมือนรำคาญเธอเต็มที ทำเอาหญิงสาวหน้าเสีย “งั้นฟิโอน่าขอติดรถไปด้วยได้มั้ยคะ ไหนๆเราก็จะไปที่เดียวกัน” เธอยังคงแบกหน้าถาม แม้สายตาคมคู่นั้นจะไม่หันมาเหลียวแลตัวเองเลยสักนิดก็ตาม แล้วมันยังไงล่ะ ในเมื่อเธอเป็นคู่หมั้นของเขานี่ อย่าลืมสิ ความจริงเรื่องแค่นี้เธอไม่จำเป็นต้องถามเลยด้วยซํ้า เพียงแต่ว่าฟรานเชสโก้นั้นไม่ใช่คนที่ใครก็ได้จะไปเล่นต่อปากต่อคำด้วย เพราะถ้าหากเขาเกิดไม่พอใจขึ้นมา จุดจบคนนั้นคงไม่มีทางสวย รวมถึงเธอเองที่มีศักดิ์เป็นถึงคู่หมั้นเขาก็ตาม อยู่กับเสือต้องอยู่เป็น… นั่นคือตัวตนของฟรานเชสโก้ “จะไปก็ตามมาเร็วๆ ผมไม่ชอบรอใคร” นั่นคือประโยคแรกจากเขา หลังจากที่เอ
*สามปีต่อมา* “รักฟรานนะคะ… ฟ้ารักฟรานที่สุด” อย่าไป… ฮึกก อย่าไปจากผม… เดี๋ยว ฮึกก เฮือก!!! ร่างโปร่งที่หลับไหลสดุ้งเฮือกตื่นมาท่ามกลางความมืด ในห้องนอนกว้างขวางตอนนี้กลับปกคลุมไปด้วยเสียงหอบหายใจของเขา ร่างกำยำบนเตียงดีดตัวลุกขึ้นนั่งพรางถอดถอนหายใจ เขามักจะฝันแบบนี้แทบทุกคืนตลอดสามปีจนเบื่อหน่าย หญิงสาวร่างเพรียวระหงคนนั้นที่ตามไล่ล่าเขาทุกครั้งที่หลับตาลง พอตื่นขึ้นมาเขาก็มักจะจำหน้าหรือชื่อเธอไม่ได้ จะมีแต่คำพูดแปลกๆพวกนั้นที่วนเวียนอยู่ในโพรงประสาทและตามหลอกหลอนเขาตลอดทั้งคืนจนนอนไม่หลับ แม่งเอ้ย… เธอเป็นใครกันวะ พยายามนึกยังไงก็นึกไม่ออก ทั้งที่จิตใต้สำนึกมันบอกเขาว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ… ทุกครั้งที่ตื่นขึ้นมาจากฝัน เขามักจะหงุดหงิดตัวเองอยู่เสมอ และทุกครั้งที่นึกใบหน้าเธอไม่ออก หัวใจดวงโตก็จะปวดหนึบแปลกๆ ดั่งกับว่าอะไรบางสิ่งที่สำคัญมากๆได้ขาดหายไปจากชีวิตเขา ฟึ่บ! มือหนาสางผมตัวเองแรงๆด้วยความสับสน ก่อนจะปรีดตัวลุกขึ้นจากเตียงเดินไปยันโซฟา แล้วรินไวน์ขึ้นกระดก มันมักจะเป็นแบบนี้ทุกคืน จิบไวน์ไปสมองก็พรางคิดเรื่องราวต่างๆ ใบหน้าหล่อเสมองไป







