“กลัวแม่บอกไม่อร่อยเหรอจ๊ะ?”คุณแม่เอ่ยถามฉัรอย่างยิ้มๆนั่นยิ่งทำให้ฉันเริ่มเบะปากจะร้องแล้ว
“โอ๋ๆลูกจ๋าขนมของลูกอร่อยมากจ๊ะ^_^”คุณแม่เอ่ยบอกฉันพลางหยิกแก้มฉันเบาๆ นั่นยิ่งทำให้ฉันยิ้มกว้างขึ้นอย่างดีใจและหันไปกอดคุณพ่อ “น้องหญิงสอบผ่านแล้วค่ะคุณพ่อ^_^” “ดีใจด้วยจ๊ะลูก”คุณพ่อบอกฉันพลางยื่นแขนหนาของท่านมาโอบไหล่ของฉัน ฉันก็ซบศีรษะลงไปบนไหล่กว้างของคุณพ่อ “งั้นทีนี้น้องหญิงก็สามารถทำขนมไปให้คุณย่าทานได้แล้วใช่ไหมคะ?”ฉันเอ่ยถามคุณแม่ที่มัวแต่จิ้มลูกชุดของชิ้นแล้วชิ้นเล่า “ใช่จ๊ะเจ้าหญิง^_^”คุณแม่หันมาตอบฉัน ฉันก็ยิ้มให้ท่านและเราสามคนก็นั่งทานขนมลูกชุปและนำ้มะนาวที่ฉันเป็นคนคั้นเองและปั้นเองกับมือ เราสามคนนั่งคุยเล่นกันไปมาและหัวเราะกันอย่างมีความสุข ฉันเติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น คุณพ่อกับคุณแม่เลี้ยงดูฉันอย่างกับเจ้าหญิงเหมือนชื่อของฉัน ฉันรักและเคารพท่านทั้งสองมาก สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเจ้าหญิง อัยย์ญาดา ราชนาโยวงศ์ติชัย อายุ18ปีค่ะ กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปลายโรงเรียนนานาชาติQ ฉันเป็นลูกคนสุดท้องน้องคนสุดท้ายค่ะคริๆที่จริงคุณแม่กับคุณพ่อมีลูกสองคน คนโตเป็นผู้ชายชื่อเจ้าชาย นาย อัธพัตฒ์ ราชนาโยวงศ์ติชัยอายุ20ปี พี่ชายของฉันอายุมากกว่าฉันสองปีค่ะ และตอนนี้เขาก็เรียนมหาลัยแล้ว มหาลัยของคุณพ่อฉันนะคะอยู่ปีสองคณะแพทยศาสตร์ พี่ชายฉันอยากเป็นคุณหมอเหมือนคุณแม่ของฉัน คุณแม่ของฉันท่านเองก็เป็นคุณหมอประจำการอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนJS หรือโรงพยาบาลของคุณพ่อของฉันนั่นเองแหละค่ะ ส่วนตัวของฉัน ฉันตั้งใจจะเรียนคณะบริหารธุรกิจค่ะ เพราะฉันเป็นคนกลัวเลือดมากเห็นเลือดไม่ได้เลย เห็นแล้วมือไม้อ่อนจะเป็นลมค่ะ ฉันก็เลยเลือกที่จะเรียนคณะบริหารธุรกิจเพื่อเอามาช่วยคุณพ่อบริหารธุรกิจของคุณพ่อ วันต่อมา คฤหาสน์ราชนาโยวงศ์ติชัย 7:00น. “เจ้าหญิงครับ”เสียงนุ่มละมุนของพี่ชายเอ่ยเรียกฉันขึ้นจากทางข้างหลัง ฉันที่กำลังนั่งทานข้าวต้มอยู่ต้องละสายตาจากชามข้าวต้มไปมองเขา พี่ชายสวมเสื้อนิสิตสีขาวสะอาดตาผูกเนคไทสีดำอย่่ทงเรียบร้อยตามด้วยกางเกงผ้าเนื้อดีสีดำรัดรูปทำให้พี่ชายของฉันดูดีขึ้นมาเป็นกอง จากปกติเขาก็หล่ออยู่แล้วยิ่งทำให้เขาดูดีขึ้นมากไปอีก “ขาพี่ชาย^_^”ฉันขานรับพี่ชาย พี่ชายเดินยิ้มร่าเริงเข้ามาหาฉันและนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆฉัน “พี่ดีใจจังที่จะได้ไปรับไปส่งน้องอีก^_^”พี่ชายเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงดีใจและยื่นมือมาลูบผมฉันอย่างเอ็นดู ฉันก็ยิ้มและไม่ได้พูดอะไร ก้มหน้าก้มตาเพื่อทานข้าวต้มต่อ เพราะฉันจะต้องไปโรงเรียนวันนี้โรงเรียนของฉันเพิ่งจะเปิดเทอมเป็นวันแรกหลังจากที่หยุดช่วงซัมเมอร์ไป ที่พี่ชายบอกว่าพี่ดีใจที่จะได้ไปส่งฉันที่โรงเรียนอีกครั้งก็คือเมื่อปลายเดือนก่อนพี่ชายพาฉันขับรถสปอร์ตด้วยความเร็วเกินทำให้โดนตำรวจเรียกหาผู้ปกครอง คุณแม่ตกใจและเป็นห่วงฉันมาก ท่านจึงไม่อนุญาตให้พี่ชายไปรับไปส่งฉันไปโรงเรียนอีกเป็นอันขาด แต่พี่ชายไปอ้อนวอนขอร้องคุณแม่ท่าไหนไม่รู้ท่านถึงอนุญาตให้ไปรับไปส่งฉันได้เหมือนเดิม “น้องหญิงของพี่ยิ่งโตยิ่งน่ารัก พี่ชักจะอยากให้คุณพ่อย้ายน้องกลับไปเรียนโรงเรียนหญิงล้วนอีกซะแล้วสิ”พี่ชายแขนขึ้นมากอดอกพลางเอ่ยบอกฉัน ฉันก็ขมวดคิ้วงุนงงใส่เขา “ไม่เอานะคะพี่ชาย น้องหญิงไม่อยากห่างจากคุณพ่อคุณแม่อีกแล้ว”ฉันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงงอแงเพราะโรงเรียนประจำที่คุณพ่อกับพี่ชายส่งฉันไปอยู่มันอยู่ต่างจังหวัดถึงโรงเรียนนั่นไม่มีผู้ชายกเลยสักคนแม้กระทั่งภารโรงยังเป็นผู้หญิงเลย ฉันร้องไห้คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ทุกวันและดูเหมือนคุณพ่อกับคุณแม่และพี่ชายเองก็คิดถึงฉันพวกท่านจึงไปรับฉันกลับ ทำให้ฉันเรียนโรงเรียนนั่นได้แค่มัธยมต้นแค่นั่นเอง “ได้เวลาแล้วค่ะเจ้าหญิง”เสียงคุณแม่เอ่ยขัดสนทนาของฉันกับพี่ชาย “ค่ะคุณแม่”ฉันเอ่ยขึ้นและลุกขึ้นยืนและกำลังจะเก็บชามข้าวต้มแต่ก็โดนป้าพันห้ามไว้ซะก่อน “แหะๆๆน้องหญิงลืมค่ะ^_^”ฉันหันไปบอกป้าพันและยกมือขึ้นไหว้ท่าน “สวัสดีนะคะป้าพันน้องหญิงไปโรงเรียนก่อนนะคะ^_^” “ค่ะคุณหนู^_^” “ไปครับน้องหญิง^_^” “ค่ะพี่ชาย^\^” “กระโปรงสั้นไปรึป่าวลูก?”ทันทีที่ฉันกับพี่ชายเดินออกมาถึงหน้าบ้านก็พบกับคุณแม่และคุณพ่อที่มายืนรอส่งเราทั้งสองคนไปโรงเรียน ฉันก็ก้มมองสำรวจกระโปรงของฉันทีาเป็นเครื่องแบบยูนิฟอร์มของโรงเรียนนานาชาติที่ฉันเรียน เสื้อนักเรียนสีขาวแขนยาวผูกโบว์ลายสก๊อตกับกระโปรงลายสก๊อตเหมือนกันและมีเสื้อสูทของโรงเรียนสีชมพูสวมทับอีกทีแต่ตอนนี้อยู่ที่พี่ขายของฉัน เขาเป็นคนอาสาถือออกมาให้ฉัน “ไม่หนิคะคุณพ่อ สงสัยเจ้าหญิงสูงขึ้นมั่งคะ”ฉันตอบคุณพ่อไป “แล้วเสื้อละลูก เสื้อรัดไปรึป่าว?”คุณพ่อยืนกอดอกพิจารณาชุดเครื่องแบบนักเรียนของฉัน “หนูผิงว่าไม่นะคะท่านเพราะชุดของลูกก็เป็นแบบนี้ทุกปีและท่านเองก็ถามแบบนี้ทุกปี”คุณแม่หันไปเอ่ยบอกคุณพ่อทำให้คุณพ่อของฉันรีบหันไปมองคุณแม่ทันที “แต่ปีนี้ลูกเป็นสาวแล้วนะหนูผิง”คุณพ่อเอ่ยขึ้น ทำให้คุณแม่บกมือขึ้นมาปิดปากแล้วหัวเราะคิกคัก “ลูกก็เป็นสาวขึ้นทุกปีนั่นแหละคะท่าน”คุณแม่เอ่ยบอกคุณพ่อ คุณพ่อก็หน้างอใส่คุณแม่ ฉันจึงหันไปมองพี่ชายที่ตอนนี้เขาก็มองฉันเช่นกัน “พี่ว่าสั้นไปจริงๆนั่นแหละน้องหญิง เอาอย่างนี้ครับคุณพ่อคุณแม่เดี๋ยววันนี้หลังเลิกเรียนผมไปรับน้องและจะพาน้องไปซื้อเครื่องแบบที่ไม่รัดกุมแบบนี้ครับ!”พี่ขายเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงมั่นใจ ฉันจึงพูดอะไรไม่ได้นอกจากทำตาปริบๆมองคุณพ่อคุณแม่และพี่ชายที่พากันพิจารณาเสื้อผ้าของฉัน “เอาแบบนั้นก็ได้ตามชายเลย แต่พ่อขอให้ยาวถึงตาตุ่มน้องไปเลยได้ก็ยิ่งดี”คุณพ่อเอ่ยบอกพี่ชาย นั่นทำให้ฉันหันไปมองคุณแม่ด้วยความตกใจ ที่โรงเรียนของฉันกระโปรงนักเรียนของฉันยาวกว่าเพื่อนแล้วน่ะ “โอเคครับคุณพ่อ!”พี่ชายเอ่ยขึ้นและเขาก็ก้มหน้ามองนาฬิกาที่ข้อมือของเขา “ใกล้ได้เวลาแล้วครับน้องหญิง”พี่ชายหันมาบอกฉันฉันก็พยักหน้าเข้าใจและเดินเข้าไปหาคุณพ่อคุณแม่และกอดท่านทั้งสอง “ตั้งใจเรียนนะลูกรัก”คุณแม่เอ่ยบอกฉัน ฉันก็ยกมือขึ้นไหว้สวัสดีคุณแม่ “ค่ะ สวัสดีค่ะคุณแม่สวัสดีค่ะคุณพ่อ”ฉันยกมือไหว้สวัสดีคุณพ่อกับคุณแม่ “สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่”พี่ชายเองก็ยกมือไหว้ท่านทั้งสองเช่นกัน “ขับรถดีๆนะลูก”คุณแม่เอ่ยกำชับพี่ชาย พี่ชายก็ยกมือขึ้นมาทำท่าตะเบ๊ะ “รับทราบครับคุณหญิงแม่!”พี่ชายเอ่ยขึ้นเสียงดังและหนักแน่นทำให้คุณแม่ยิ้มขำ “โชคดีลูกทั้งสอง”คุณพ่อเอ่ยขึ้นบ้าง ฉันก็ยิ้มให้ท่านและพยักหน้าให้ท่านเช่นกัน “น้องหญิงไปก่อนนะคะ”ฉันเอ่ยบอกคุณแม่และโบกมือบ๊ายบายท่าน “จ้าลูก^_^”คุณแม่ก็ยกมือขึ้นมาบ๊ายบายฉัน ฉันเดินขึ้นรถสปอร์ตราคาเหยียบสิบล้านบาทสีนำ้เงินแดงของพี่ชายโดยที่ทีพี่ขายของฉันเป็นคนเปิดประตูให้ “คาดเบลท์ด้วยครับเจ้าหญิง”พี่ชายหันมาบอกฉัน ฉันจึงมองหน้าพี่ชายอย่างกล้าๆกลัวๆ “ไหนพี่ชายบอกว่าจะไม่ขับเร็วยังไงละคะ?”ฉันเอ่ยถามพี่ชายไปและก็เอื้อมมือไปจับสายเบลท์มาคาดรัดตัวให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัย พี่ชายหันมายิ้มให้ฉัน “ไม่เร็วครับพี่สัญญา^-^”พี่ชายเอ่ยบอกฉันและเขาก็ค่อยๆขับรถออกมาจากบ้านคุณพ่ออย่างช้าๆตามที่เขาพูด แต่พอพ้นรั้วบ้านคุณพ่อพ้นสายตาคุณแม่เท่านั้นแหละ “กรี๊ดดดดดดดดพี่ชายยยยยยย”ฉันกรี๊ดร้องด้วยความกลัวเมื่อพี่ชายเหยียบคันเร่งมิดและใส่เกียร์อย่างแรงเหมือนในหนังเดอะฟาสยังไงยังงั้น แต่นี้มันคือชีวิตจริงน่ะพี่ชายไม่ใช่ในหนัง น้องหญิงจะตายไหมคะ?“ถ้าเกิดมึงแพ้มึงเสียคันนี้ที่มึงรักไปเลยนะเว้ยไอแทน”เสียงไอนอฟเอ่ยขึ้นจากข้างหลังผม ผมก็หันไปมองมัน“ก็แลกกับเฟอรารี่คันละ15ล้านของมันไงขาดทุนแค่ร้อยกว่าล้านกูไม่แคร์อยู่แล้ว”ผมเอ่ยขึ้นพลางมองออกไปยังสนามแข่งที่ตอนนี้มีผู้คนกำลังพลุ่งพล่านเสียงกรี๊ดร้องของคนบนอัฒจันทร์ก็ส่งเสียงเชียร์กันสนั่นหวั่นไหว เสียงล้อบดขยี้กับพื้นปูนซีเมนต์เรียบอย่างดีก็ดังไม่แพ้กับเสียงคน “เหอะๆๆมึงเอาอะไรคิด”ไอนอฟเอ่ยขึ้นพลางเดินเข้ามาหาผมอย่างไว“น้องนักเรียนผู้หญิงที่น่าเหมือนตุ๊กตาวันนี้ที่โรงพยาบาลเป็นใครว่ะน่ารักสัสๆน่าเหมือนตุ๊กตาญี่ปุ่นเลยแม่ง!”ไอนอฟเอ่ยขึ้นแววตาที่เป็นประกายของมันแวววับทำให้ผมหันไปมองหน้ามันและแสยะยิ้มให้มัน“เธอเป็นของของกูว่ะเดี๋ยวกูเบื่อเมื่อไหร่กูจะยกให้มึง”ผมพูดขึ้นและยื่นมือไปปัดไหล่อของไอนอฟมันก็ทำหน้าดีใจ เพราะเรื่องผู้หญิงผมไม่เคยถืออยู่แล้ว คนไหนที่ไม่ถูกใจถูกสเปคของผมผมก็แค่โยนต่อไปให้ไอนอฟแค่นั้นเอง และผู้หญิงที่ไอนอฟพูดถึงก็คือน้องสาวของผู้ชายตัวสูงที่กำลังเดินมาหาผมอย่างไว“มีอะไรครับ?”ไอเน่เอ่ยขึ้นและมันไปยืนขวางหน้าของเจ้าชายทันที เจ้าชายคือลูกชายคนโตของเจ้าสัวกับหน
“อ๋อ ผมลืมขอโทษครับ”คุณหมอเอ่ยขึ้นเมืื่อฉันมองหน้าเขา เขาก็รู้และหันหลังให้ฉันทันที ฉันไม่รอช้ารีบหยิบแพนตี้ตัวจิ๋วมาจากกระเป๋ากระโปรงและรีบใส่กลับเข้าไปปกปิดของสงวนของฉันทันที “เดี๋ยวผมเดินไปส่งนะครับ”คุณหมอเอ่ยขึ้นเมื่อเขาเห็นว่าฉันทำธุระของตัวเองเสร็จแล้ว “ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ”ฉันโบกไม้โบกมือบอกคุณหมอว่าไม่เป็นไร ถ้าเกิดว่าพี่ชายเห็นคุณหมอเดินไปส่งฉันมีหวังพี่ชายเอาเรื่องคุณหมอแทนแน่ๆ “ครับงั้นไว้วันหลังเราไปทานข้าวกันได้ไหมครับ?”คุณหมอแทนเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มให้ฉัน “น้องหญิงคงไปกับคุณหมอไม่ได้หรอกคะพี่ชายกับคุณพ่อไม่มีทางอนุญาตแน่นอนค่ะ”ฉันตอบคะณหมอไปตามความจริง เขาก็ยกยิ้มมองหน้าฉัน “ครับผมเข้าใจครับงั้นไม่เป็นไร^_^” “ค่ะ น้องหญิงขอตัวก่อนนะคะคุณหมอแทน” “ครับ ไว้เจอกันใหม่นะครับน้องหญิง^_^” “ค่ะ^_^”ฉันก้มหัวให้คุณหมอแทนและค่อยๆเดินหลีกเขาออกมาจากห้องของเขาและรีบเดินไปยังที่พี่ชายบอกให้ฉันรอเขา “เฮ้อโล่งอกไปทีพี่ชายยังไม่มา”ฉันพูดขึ้นและหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาที่เดิมอย่างเหนื่อยเพราะฉันกึ่งวิ่งกึ่งเดินมา “คุณหมอแทนธนาธิป กิจโภชัย คุณหมอแทนน่ารักจัง^_^”ฉันพูดขึ้นเมื่ออ่านนามบั
“ถอดกางเกงชั้นในด้วยครับ”คุณหมอเอ่ยขึ้นเมื่อฉันยังคงมองสำรวจไปรอบๆห้องเครื่องมือที่นี้ทันสมัยมากพอๆกับที่โรงพยาบาลของคุณพ่อของฉันเลยและดูเหมือนที่โรงพยาบาลนี้จะเป็นคู่แข่งของโรงพยาบาลคุณพ่อฉันน่ะ ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจโรงพยาบาลที่คุณพ่อกับคุณแม่คุยกันเมื่อหลายวันก่อน“คะ?”ฉันหันไปเอ่ยถามคุณหมอด้วยความไม่เข้าใจ คุณหมอก็ค่อยๆเดินเข้ามาหาฉัน“ก็คุณคนไข้สนใจตรวจภายในกับผมไม่ใช่เหรอครับ ถ้าจะตรวจก็กรุณาถอดกางเกงชั้นในออกด้วยครับ^_^”คุณหมอเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงนุ่มนวลและแววตาที่หวานหยดย้อยของเขากำลังทำให้หัวใจของฉันอ่อนระทวย “จะดีเหรอคะ น้องหญิง”ฉันเอ่ยขึ้นเบาๆใบหน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมา คุณหมอก็หันมามองหน้าฉัน“หรือว่าอยากจะให้ผมถอดให้^_^”คุณหมอเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงทะเล้นและเเววตาที่จ้องมองไปยังเบื้องล่างของฉัน“ไม่เป็นไรค่ะ น้องหญิงถอดเองได้”ฉันตอบคุณหมอไปและยืนรอให้เขาหันไปทางอื่น แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมหันไปเลยเพราะเขาเอาแต่จ้องมองฉัน“คุณหมอช่วยหันไปทางอื่นก่อนได้ไหมคะ?”“อ๋อ ได้ครับไม่มีปัญหา^_^”คุณหมอเอ่ยขึ้นและเขาก็รีบหันหลังให้ฉันเดินไปเตรียมอุปกรณ์มาตรวจภายในของฉัน ฉันก็ค่อ
“ดะได้ยิน ก็เธอเสียงดัง”ฉันก้มหน้าตอบขุนเขาไป เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างเสียงดังและเขาก็ปล่อยมือออกไปจากไหล่ของฉัน “ฉันขอโทษ”ขุนเขาเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงแผ่วเบาทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาอย่างตกใจไม่คิดว่าเขาจะขอโทษฉัน “ที่ฉันมาที่นี้เพื่อจะแค่มาถามเธอแค่นี้ ถ้าเธอไม่ไปฉันก็คงจะบังคับอะไรเธอไม่ได้ ฉันไปแหละ”ขุนเขาเอ่ยขึ้นและเดินหันหลังออกไปจากห้องเรียนของฉันทันที “ไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าหญิง?”มินิรีบมาจับไหล่ของฉันด้วยความเป็นห่วงและเอ่ยถามฉัน ฉันก็ส่ายศีรษะไปมาว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร ไม่เจ็บตรงไหนเลย ถึงขุนเขาจะมีบุคลิกที่ดุดันและแข็งกร้าวแต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายฉันจนรู้สึกเจ็บเลยสักครั้ง “ฉันว่าแหละว่าขุนเขาน่ะโกหกไม่มีทางที่เด็กอันธพาลพันนั้นจะใช้เวลาแค่ปีเดียวสอบขึ้นห้องเอได้”มินิเอ่ยขึ้นพลางมองไปยังประตูทางออกที่ขุนเขาเดินออกไป ฉันก็มองไปยังประตูทางออกเช่นกัน ขุนเขาคือผู้ชายอันตรายที่ผู้หญิงไม่ควรเข้าไปยุ่งเด็ดขาดเพราะเขาทีอารมณ์ที่รุนแรงและน่ากลัว บ้านของเขาอยู่ติดกับบ้านฉันตอนเด็กๆเขามักจะมาเล่นกับฉันอยู่เป็นประจำ แต่พอเขาโตขึ้นเริ่มมีเพื่อนผู้ชายเขาก็เปลี่ยนไป เขาเริ่มเที่ยวก
โรงเรียนSS SCHOOLนานาชาติ08:00น.เจ้าหญิง อัยย์ญาดา...“เจ้าหญิงอรุณสวัสดิ์ครับ^_^”“หวัดดีคร๊าบเจ้าหญิงแสนสวย^_^”“ไม่เจอเป็นเดือนสวยขึ้นอีกแล้ว^_^”“สุขสันต์วันเปิดภาคเรียนครับ”“หวัดดีค่ะทุกๆคน สุขสันต์วันเปิดภาคเรียนเหมือนกันค่ะ^_^”ฉันเอ่ยขึ้นทักทายเพื่อนๆในโรงเรียนกลับ ฉันจะเจอคำทักทายแบบนี้ทุกวันตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ตอนมัธยมปลายปีแรกจนตอนนี้ปี3แล้ว ฉันก็ยังคงได้รับคำทักทายของเพื่อนๆผู้ชายในโรงเรียนเหมือนเคย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้องหรือรุ่นเดียวกัน พวกเขาจะมารอรับฉันที่ทางเข้าประตูโรงเรียนทุกวัน โดยรอให้รถของพี่ชายขับออกไปจนพ้นประตูโรงเรียนแล้ว“ปีนี้เจ้าหญิงอยู่ห้องเอเหมือนเดิมแน่เลย”เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อฉันเดินเข้าโรงเรียนมา“ไม่รู้เหมือนกันเราอาจจะห้องดีก็ได้นะ”ฉันตอบเขาไปและทุกๆทีที่ฉันเดินไปทางไหนก็จะมีผู้ชายเดินตามเป็นขบวนแบบนี้ทำให้ฉันค่อนข้างที่จะมีเพื่อนผู้หญิงเข้ามาทำความรู้จักฉันเยอะเหมือนกันและฉันก็รู้จักผู้หญิงในโรงเรียนนี้ทุกคน เพราะพวกเธอเข้ามาทำความรู้จักกับฉันก่อน“เจ้าหญิง!!”เสียงเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจที่นำ้เสียงคุ้นหูฉัน
“กลัวแม่บอกไม่อร่อยเหรอจ๊ะ?”คุณแม่เอ่ยถามฉัรอย่างยิ้มๆนั่นยิ่งทำให้ฉันเริ่มเบะปากจะร้องแล้ว“โอ๋ๆลูกจ๋าขนมของลูกอร่อยมากจ๊ะ^_^”คุณแม่เอ่ยบอกฉันพลางหยิกแก้มฉันเบาๆ นั่นยิ่งทำให้ฉันยิ้มกว้างขึ้นอย่างดีใจและหันไปกอดคุณพ่อ“น้องหญิงสอบผ่านแล้วค่ะคุณพ่อ^_^”“ดีใจด้วยจ๊ะลูก”คุณพ่อบอกฉันพลางยื่นแขนหนาของท่านมาโอบไหล่ของฉัน ฉันก็ซบศีรษะลงไปบนไหล่กว้างของคุณพ่อ“งั้นทีนี้น้องหญิงก็สามารถทำขนมไปให้คุณย่าทานได้แล้วใช่ไหมคะ?”ฉันเอ่ยถามคุณแม่ที่มัวแต่จิ้มลูกชุดของชิ้นแล้วชิ้นเล่า“ใช่จ๊ะเจ้าหญิง^_^”คุณแม่หันมาตอบฉัน ฉันก็ยิ้มให้ท่านและเราสามคนก็นั่งทานขนมลูกชุปและนำ้มะนาวที่ฉันเป็นคนคั้นเองและปั้นเองกับมือ เราสามคนนั่งคุยเล่นกันไปมาและหัวเราะกันอย่างมีความสุข ฉันเติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น คุณพ่อกับคุณแม่เลี้ยงดูฉันอย่างกับเจ้าหญิงเหมือนชื่อของฉัน ฉันรักและเคารพท่านทั้งสองมากสวัสดีค่ะ ฉันชื่อเจ้าหญิง อัยย์ญาดา ราชนาโยวงศ์ติชัย อายุ18ปีค่ะ กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปลายโรงเรียนนานาชาติQ ฉันเป็นลูกคนสุดท้องน้องคนสุดท้ายค่ะคริๆที่จริงคุณแม่กับคุณพ่อมีลูกสองคน คนโตเป็นผู้ชายชื่อเจ้าชาย นาย อัธพัตฒ์ ราชน