“ดะได้ยิน ก็เธอเสียงดัง”ฉันก้มหน้าตอบขุนเขาไป เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างเสียงดังและเขาก็ปล่อยมือออกไปจากไหล่ของฉัน
“ฉันขอโทษ”ขุนเขาเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงแผ่วเบาทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาอย่างตกใจไม่คิดว่าเขาจะขอโทษฉัน “ที่ฉันมาที่นี้เพื่อจะแค่มาถามเธอแค่นี้ ถ้าเธอไม่ไปฉันก็คงจะบังคับอะไรเธอไม่ได้ ฉันไปแหละ”ขุนเขาเอ่ยขึ้นและเดินหันหลังออกไปจากห้องเรียนของฉันทันที “ไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าหญิง?”มินิรีบมาจับไหล่ของฉันด้วยความเป็นห่วงและเอ่ยถามฉัน ฉันก็ส่ายศีรษะไปมาว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร ไม่เจ็บตรงไหนเลย ถึงขุนเขาจะมีบุคลิกที่ดุดันและแข็งกร้าวแต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายฉันจนรู้สึกเจ็บเลยสักครั้ง “ฉันว่าแหละว่าขุนเขาน่ะโกหกไม่มีทางที่เด็กอันธพาลพันนั้นจะใช้เวลาแค่ปีเดียวสอบขึ้นห้องเอได้”มินิเอ่ยขึ้นพลางมองไปยังประตูทางออกที่ขุนเขาเดินออกไป ฉันก็มองไปยังประตูทางออกเช่นกัน ขุนเขาคือผู้ชายอันตรายที่ผู้หญิงไม่ควรเข้าไปยุ่งเด็ดขาดเพราะเขาทีอารมณ์ที่รุนแรงและน่ากลัว บ้านของเขาอยู่ติดกับบ้านฉันตอนเด็กๆเขามักจะมาเล่นกับฉันอยู่เป็นประจำ แต่พอเขาโตขึ้นเริ่มมีเพื่อนผู้ชายเขาก็เปลี่ยนไป เขาเริ่มเที่ยวกลางคืนและเขามีธุรกิจส่วนตัวของเขาซึ่งฉันเองก็ไม่ได้ถามอะไรคุณพ่อต่อ “เจ้าหญิงต้องอยู่ห่างๆเขาไว้น่ะอย่าไปเข้าใกล้เขาเด็ดขาด”มินิหันมาเอ่ยบอกฉันด้วยน้ำเสียงจริงจัง ฉันก็พยักหน้าเข้าใจและเราสองคนก็เริ่มหันไปให้ความสนใจโน้ตบุ๊คบนโต๊ะต่อเพราะอีกสิบนาทีอาจารย์จะเข้าสอนแล้ว “หวัดดีเจ้าหญิง^_^” “เจ้าหญิงหวัดดีจ๊ะ^_^” “หวัดดีจ๊ะ^_^”ฉันหันไปทักทายเพื่อนๆในห้องกลับเพื่อนๆก็มีคนเดิมๆทั้งหมดเพิ่มเติมคือมินิคนเดียว “ขุนเขาหล่อโหดดิบเถื่อนมากกกก” “ใช่ ขุนน่ารักเนอะ^_^” เสียงเพื่อนผู้หญิงในห้องฉันต่างพากันพูดถึงขุนเขา ถึเขาจะโหดดิบเถื่อนยังไงแต่หน้าตาที่ดูดีของเขากลับทำให้เขาดูหล่อและดูเท่ห์ไปเลยในสายตาพวกผู้หญิง ห้องฉันส่วนมากจะมีแต่เด็กเรียนแต่พวกเธอก็ให้ความสนใจขุนเขาเหมือนกันอย่างงั้นเหรอ? “เขาหล่อขนาดนั้นเลยเหรอไง?”เสียงมินิพึมพำขึ้นพลางเบะปากมองบน ฉันก็ยิ้มกับท่าทางของเธอ ติ๋ง พี่ชาย:น้องหญิงครับเดี๋ยวพี่ไปรับสี่โมงเย็นนะ เจ้าหญิง:ค่ะ^_^ พี่ชาย:แต่พี่ต้องแวะไปเอาชีสงานของอาจารย์ประจำวิชาที่โรงพยาบาลก่อน น้องหญิงไปกับพี่นะครับ เจ้าหญิง:ได้ค่ะพี่ชาย^_^ พี่ชาย:น่ารักที่สุดเจ้าหญิงของพี่^_^ “พี่ชายมารับเหมือนเดิมเหรอเจ้าหญิง?” “จ๊ะ^_^”ฉันหันไปตอบมินิเธอก็พยักหน้าเข้าใจ และเราสองคนก็เริ่มเรียนกันเพราะอาจารย์เข้ามาสอนแล้ว ฉันจึงเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเรียนและเริ่มตั้งใจเรียนและฟังอาจารย์ที่ปรึกษาพูดแนะนำเรื่องต่างๆ โรงพยาบาลQ 16:30น. เจ้าหญิง อัยย์ญาดา... “รอพี่อยู่ตรงนี้นะครับ ห้ามไปไหนนะ”พี่ชายเอ่ยขึ้นพร้อมกับปล่อยมือให้ฉันนั่งลงบนโซฟาราคาแพงตรงหน้าทางเดิน “ค่ะ^_^”ฉันเอ่ยตอบพี่ชายไปพลางนั่งลง พี่ชายก็ยื่นมือมาขยี้ผมฉันเล่น “น่ารักที่สุด เดี๋ยวพี่มานะครับ^_^”พี่ชายเอ่ยบอกฉัน ฉันก็พยักหน้ารับคำเขา และพี่ชายก็ค่อยๆเดินหายไปตามทางเดิน ฉันก็ทอดสายตามองไปรอบๆโรงพยาบาลที่เวลานี้ค่อนข้างจะเงียบเพราะหมดเวลาทำการของโรงพยาบาลนี้แล้วและชั้นนี้คงจะเป็นชั้นพักผ่อนส่วนตัวของพวกแพทย์ใหญ่ๆเก่งๆแหละมั่งเพราะบนนี้ไม่มีคนไข้เดินผ่านไปผ่านมาเลย “เงียบจัง”ฉันพูดขึ้นและกรอกสายตามองไปอย่างหวาดระแวงเพราะที่นี้เป็นสถานที่โรงพยาบาลที่มีคนป่วยนับพันเข้ามารับการรักษาและใครจะหายหรือจะมาจบชีวิตลงที่นี้ซึ่งตรงนี้ทั้งฉันและคนอื่นๆไม่สามารถรู้ได้ “คนไข้ครับ”เสียงนุ่มทุ้มละมุนของผู้ชายดังขึ้นทำให้ฉันตกใจสะดุ้งรีบขยับตัวหนีและหันไปมองเขาทันที “คะคุณหมอมีอะไรเหรอคะ?”ฉันที่หันไปก็พบกับผู้ชายในชุดกาวน์สีขาวสะอาดหน้าตาดูดีและดูภูมิฐานและที่สำคัญเขาหล่อจัง “ขอโทษนะครับ ยินดีที่จะตรวจภายในไหมครับ?”คุณหมอเอ่ยขึ้น ทำให้ฉันเบิกตาโตขึ้นรีบหุบขาตัวเองทันที “เจ้าหญิงไม่ได้เป็นอะไรนะคะคุณหมอ เจ้าหญิงแค่มารอพี่ชาย”ฉันบอกคุณหมอไปอย่างไวด้วยน้ำเสียงร้อนรนทำให้คุณหมอยิ้มขำกับท่าทางของฉัน พรึบ “ลองตรวจสักนิดไม่เป็นไรหรอกครับ ผมยินดีตรวจให้ฟรี^_^”คุณหมอเอื้อมมือมายันกับพนังโซฟาที่ฉันนั่งและโน้มตัวเข้ามาหาฉันทำให้ใบหน้าของเราสองคนอยู่ใกล้กันจนฉันได้กลิ่นลมหายใจหอมๆของเขา หัวใจของฉันเต้นระรัวเร็วอย่างบ้าคลั่งเหมือนหัวใจกำลังจะหลุดออกมา “แต่ว่า”ฉันพูดขึ้นด้วยนำ้เสียงติดขัดทำให้คุณหมอยื่นใบหน้าขาวๆของเขาเข้ามาใกล้ฉันมากกว่าเดิม ทำให้ฉันหลับตาปี๋จิกเล็บเเน่นด้วยความตื่นเต้น “ลองสักนิดเถอะครับไม่เสียหายอะไร”เขากระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างหูฉัน “เด็กๆรุ่นหนูเขาก็มาตรวจกันเยอะแยะไป”คุณหมอยังคงพูดต่อทำให้ฉันใจดีสู้เสือเอื้อมมือทั้งสองข้างไปดันหน้าอกของคุณหมอให้ออกไปห่างจากฉัน และก็เป็นผลคุณหมอยอมถอยห่างออกไปจากฉัน เขายืนตัวตรงเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงสีดำผ้าเนื้อดีและมองจ้องมาที่ฉัน “วันนี้โปรโมชั่นเลยนะ ตรวจฟรี^_^”คุณหมอเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มพิฆาตใจนั่นยิ่งทำให้ใจดวงน้อยๆของฉันเต้นรัวเร็วมากขึ้นกว่าเดิม “คนไข้เป็นโรคหัวใจเหรอครับ?”คุณหมอชำเลืองสายตามองตำ่ลงมาที่หน้าอกของฉันที่ตอนนี้ฉันยื่นมือมากุมหน้าอกข้างซ้ายของตัวเองอยู่ “ป่ะป่าวค่ะ”ฉันเงยหน้าขึ้นไปตอบคุณหมอ เขาก็ยิ้มมุมปากให้ฉันและผายมือเชื้อเชิญให้ฉันเดินตามเขาไป “ลองไปคุยกันที่ห้องตรวจดีกว่าครับ” “แต่ว่า”ฉันกำลังจะเอ่ยปฏิเสธคุณหมอแต่ดูเหมือนเขาจะไม่มีทางยอมแน่ๆฉันเลยต้องจำใจลุกขึ้นยืนและเดินตามเขาไป ฉันแอบลอบมองแผ่นหลังกว้างไหล่กว้างของเขา “คุณหมอแทน สวัสดีค่ะ^_^” “สวัสดีครับ^_^” ตลอดทางเดินต่างมีพยาบาลสาวพากันหยุดยืนและยกมือไหว้สวัสดีคุณหมอตลอดทาง ดูเหมือนคุณหมอเขาจะชื่อคุณหมอแทนนะ ชื่อเพราะจัง^_^ “เชิญครับ^_^”คุณหมอเอ่ยขึ้นเมื่อเราสองคนมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าบานประตูสีขาวฉันก็มองหน้าเขาและทำตาปริบๆที่ตอนนี้คุณหมอเปิดประตูให้ฉันและเอ่ยให้ฉันเข้า “ค่ะ”ฉันพยักหน้าเข้าใจและยอมเดินเข้าไปในห้อง ก็พบว่าห้องนี้เป็นห้องสำหรับตรวจภายในจริงๆด้วยและดูเหมือนเมื่อกี้จะมีป้ายบอกว่าแผนกสูตินารีเวชด้วยนะ“ถ้าเกิดมึงแพ้มึงเสียคันนี้ที่มึงรักไปเลยนะเว้ยไอแทน”เสียงไอนอฟเอ่ยขึ้นจากข้างหลังผม ผมก็หันไปมองมัน“ก็แลกกับเฟอรารี่คันละ15ล้านของมันไงขาดทุนแค่ร้อยกว่าล้านกูไม่แคร์อยู่แล้ว”ผมเอ่ยขึ้นพลางมองออกไปยังสนามแข่งที่ตอนนี้มีผู้คนกำลังพลุ่งพล่านเสียงกรี๊ดร้องของคนบนอัฒจันทร์ก็ส่งเสียงเชียร์กันสนั่นหวั่นไหว เสียงล้อบดขยี้กับพื้นปูนซีเมนต์เรียบอย่างดีก็ดังไม่แพ้กับเสียงคน “เหอะๆๆมึงเอาอะไรคิด”ไอนอฟเอ่ยขึ้นพลางเดินเข้ามาหาผมอย่างไว“น้องนักเรียนผู้หญิงที่น่าเหมือนตุ๊กตาวันนี้ที่โรงพยาบาลเป็นใครว่ะน่ารักสัสๆน่าเหมือนตุ๊กตาญี่ปุ่นเลยแม่ง!”ไอนอฟเอ่ยขึ้นแววตาที่เป็นประกายของมันแวววับทำให้ผมหันไปมองหน้ามันและแสยะยิ้มให้มัน“เธอเป็นของของกูว่ะเดี๋ยวกูเบื่อเมื่อไหร่กูจะยกให้มึง”ผมพูดขึ้นและยื่นมือไปปัดไหล่อของไอนอฟมันก็ทำหน้าดีใจ เพราะเรื่องผู้หญิงผมไม่เคยถืออยู่แล้ว คนไหนที่ไม่ถูกใจถูกสเปคของผมผมก็แค่โยนต่อไปให้ไอนอฟแค่นั้นเอง และผู้หญิงที่ไอนอฟพูดถึงก็คือน้องสาวของผู้ชายตัวสูงที่กำลังเดินมาหาผมอย่างไว“มีอะไรครับ?”ไอเน่เอ่ยขึ้นและมันไปยืนขวางหน้าของเจ้าชายทันที เจ้าชายคือลูกชายคนโตของเจ้าสัวกับหน
“อ๋อ ผมลืมขอโทษครับ”คุณหมอเอ่ยขึ้นเมืื่อฉันมองหน้าเขา เขาก็รู้และหันหลังให้ฉันทันที ฉันไม่รอช้ารีบหยิบแพนตี้ตัวจิ๋วมาจากกระเป๋ากระโปรงและรีบใส่กลับเข้าไปปกปิดของสงวนของฉันทันที “เดี๋ยวผมเดินไปส่งนะครับ”คุณหมอเอ่ยขึ้นเมื่อเขาเห็นว่าฉันทำธุระของตัวเองเสร็จแล้ว “ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ”ฉันโบกไม้โบกมือบอกคุณหมอว่าไม่เป็นไร ถ้าเกิดว่าพี่ชายเห็นคุณหมอเดินไปส่งฉันมีหวังพี่ชายเอาเรื่องคุณหมอแทนแน่ๆ “ครับงั้นไว้วันหลังเราไปทานข้าวกันได้ไหมครับ?”คุณหมอแทนเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มให้ฉัน “น้องหญิงคงไปกับคุณหมอไม่ได้หรอกคะพี่ชายกับคุณพ่อไม่มีทางอนุญาตแน่นอนค่ะ”ฉันตอบคะณหมอไปตามความจริง เขาก็ยกยิ้มมองหน้าฉัน “ครับผมเข้าใจครับงั้นไม่เป็นไร^_^” “ค่ะ น้องหญิงขอตัวก่อนนะคะคุณหมอแทน” “ครับ ไว้เจอกันใหม่นะครับน้องหญิง^_^” “ค่ะ^_^”ฉันก้มหัวให้คุณหมอแทนและค่อยๆเดินหลีกเขาออกมาจากห้องของเขาและรีบเดินไปยังที่พี่ชายบอกให้ฉันรอเขา “เฮ้อโล่งอกไปทีพี่ชายยังไม่มา”ฉันพูดขึ้นและหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาที่เดิมอย่างเหนื่อยเพราะฉันกึ่งวิ่งกึ่งเดินมา “คุณหมอแทนธนาธิป กิจโภชัย คุณหมอแทนน่ารักจัง^_^”ฉันพูดขึ้นเมื่ออ่านนามบั
“ถอดกางเกงชั้นในด้วยครับ”คุณหมอเอ่ยขึ้นเมื่อฉันยังคงมองสำรวจไปรอบๆห้องเครื่องมือที่นี้ทันสมัยมากพอๆกับที่โรงพยาบาลของคุณพ่อของฉันเลยและดูเหมือนที่โรงพยาบาลนี้จะเป็นคู่แข่งของโรงพยาบาลคุณพ่อฉันน่ะ ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจโรงพยาบาลที่คุณพ่อกับคุณแม่คุยกันเมื่อหลายวันก่อน“คะ?”ฉันหันไปเอ่ยถามคุณหมอด้วยความไม่เข้าใจ คุณหมอก็ค่อยๆเดินเข้ามาหาฉัน“ก็คุณคนไข้สนใจตรวจภายในกับผมไม่ใช่เหรอครับ ถ้าจะตรวจก็กรุณาถอดกางเกงชั้นในออกด้วยครับ^_^”คุณหมอเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงนุ่มนวลและแววตาที่หวานหยดย้อยของเขากำลังทำให้หัวใจของฉันอ่อนระทวย “จะดีเหรอคะ น้องหญิง”ฉันเอ่ยขึ้นเบาๆใบหน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นมา คุณหมอก็หันมามองหน้าฉัน“หรือว่าอยากจะให้ผมถอดให้^_^”คุณหมอเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงทะเล้นและเเววตาที่จ้องมองไปยังเบื้องล่างของฉัน“ไม่เป็นไรค่ะ น้องหญิงถอดเองได้”ฉันตอบคุณหมอไปและยืนรอให้เขาหันไปทางอื่น แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมหันไปเลยเพราะเขาเอาแต่จ้องมองฉัน“คุณหมอช่วยหันไปทางอื่นก่อนได้ไหมคะ?”“อ๋อ ได้ครับไม่มีปัญหา^_^”คุณหมอเอ่ยขึ้นและเขาก็รีบหันหลังให้ฉันเดินไปเตรียมอุปกรณ์มาตรวจภายในของฉัน ฉันก็ค่อ
“ดะได้ยิน ก็เธอเสียงดัง”ฉันก้มหน้าตอบขุนเขาไป เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างเสียงดังและเขาก็ปล่อยมือออกไปจากไหล่ของฉัน “ฉันขอโทษ”ขุนเขาเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงแผ่วเบาทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาอย่างตกใจไม่คิดว่าเขาจะขอโทษฉัน “ที่ฉันมาที่นี้เพื่อจะแค่มาถามเธอแค่นี้ ถ้าเธอไม่ไปฉันก็คงจะบังคับอะไรเธอไม่ได้ ฉันไปแหละ”ขุนเขาเอ่ยขึ้นและเดินหันหลังออกไปจากห้องเรียนของฉันทันที “ไม่เป็นอะไรใช่ไหมเจ้าหญิง?”มินิรีบมาจับไหล่ของฉันด้วยความเป็นห่วงและเอ่ยถามฉัน ฉันก็ส่ายศีรษะไปมาว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร ไม่เจ็บตรงไหนเลย ถึงขุนเขาจะมีบุคลิกที่ดุดันและแข็งกร้าวแต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายร่างกายฉันจนรู้สึกเจ็บเลยสักครั้ง “ฉันว่าแหละว่าขุนเขาน่ะโกหกไม่มีทางที่เด็กอันธพาลพันนั้นจะใช้เวลาแค่ปีเดียวสอบขึ้นห้องเอได้”มินิเอ่ยขึ้นพลางมองไปยังประตูทางออกที่ขุนเขาเดินออกไป ฉันก็มองไปยังประตูทางออกเช่นกัน ขุนเขาคือผู้ชายอันตรายที่ผู้หญิงไม่ควรเข้าไปยุ่งเด็ดขาดเพราะเขาทีอารมณ์ที่รุนแรงและน่ากลัว บ้านของเขาอยู่ติดกับบ้านฉันตอนเด็กๆเขามักจะมาเล่นกับฉันอยู่เป็นประจำ แต่พอเขาโตขึ้นเริ่มมีเพื่อนผู้ชายเขาก็เปลี่ยนไป เขาเริ่มเที่ยวก
โรงเรียนSS SCHOOLนานาชาติ08:00น.เจ้าหญิง อัยย์ญาดา...“เจ้าหญิงอรุณสวัสดิ์ครับ^_^”“หวัดดีคร๊าบเจ้าหญิงแสนสวย^_^”“ไม่เจอเป็นเดือนสวยขึ้นอีกแล้ว^_^”“สุขสันต์วันเปิดภาคเรียนครับ”“หวัดดีค่ะทุกๆคน สุขสันต์วันเปิดภาคเรียนเหมือนกันค่ะ^_^”ฉันเอ่ยขึ้นทักทายเพื่อนๆในโรงเรียนกลับ ฉันจะเจอคำทักทายแบบนี้ทุกวันตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ตอนมัธยมปลายปีแรกจนตอนนี้ปี3แล้ว ฉันก็ยังคงได้รับคำทักทายของเพื่อนๆผู้ชายในโรงเรียนเหมือนเคย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้องหรือรุ่นเดียวกัน พวกเขาจะมารอรับฉันที่ทางเข้าประตูโรงเรียนทุกวัน โดยรอให้รถของพี่ชายขับออกไปจนพ้นประตูโรงเรียนแล้ว“ปีนี้เจ้าหญิงอยู่ห้องเอเหมือนเดิมแน่เลย”เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อฉันเดินเข้าโรงเรียนมา“ไม่รู้เหมือนกันเราอาจจะห้องดีก็ได้นะ”ฉันตอบเขาไปและทุกๆทีที่ฉันเดินไปทางไหนก็จะมีผู้ชายเดินตามเป็นขบวนแบบนี้ทำให้ฉันค่อนข้างที่จะมีเพื่อนผู้หญิงเข้ามาทำความรู้จักฉันเยอะเหมือนกันและฉันก็รู้จักผู้หญิงในโรงเรียนนี้ทุกคน เพราะพวกเธอเข้ามาทำความรู้จักกับฉันก่อน“เจ้าหญิง!!”เสียงเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจที่นำ้เสียงคุ้นหูฉัน
“กลัวแม่บอกไม่อร่อยเหรอจ๊ะ?”คุณแม่เอ่ยถามฉัรอย่างยิ้มๆนั่นยิ่งทำให้ฉันเริ่มเบะปากจะร้องแล้ว“โอ๋ๆลูกจ๋าขนมของลูกอร่อยมากจ๊ะ^_^”คุณแม่เอ่ยบอกฉันพลางหยิกแก้มฉันเบาๆ นั่นยิ่งทำให้ฉันยิ้มกว้างขึ้นอย่างดีใจและหันไปกอดคุณพ่อ“น้องหญิงสอบผ่านแล้วค่ะคุณพ่อ^_^”“ดีใจด้วยจ๊ะลูก”คุณพ่อบอกฉันพลางยื่นแขนหนาของท่านมาโอบไหล่ของฉัน ฉันก็ซบศีรษะลงไปบนไหล่กว้างของคุณพ่อ“งั้นทีนี้น้องหญิงก็สามารถทำขนมไปให้คุณย่าทานได้แล้วใช่ไหมคะ?”ฉันเอ่ยถามคุณแม่ที่มัวแต่จิ้มลูกชุดของชิ้นแล้วชิ้นเล่า“ใช่จ๊ะเจ้าหญิง^_^”คุณแม่หันมาตอบฉัน ฉันก็ยิ้มให้ท่านและเราสามคนก็นั่งทานขนมลูกชุปและนำ้มะนาวที่ฉันเป็นคนคั้นเองและปั้นเองกับมือ เราสามคนนั่งคุยเล่นกันไปมาและหัวเราะกันอย่างมีความสุข ฉันเติบโตมาในครอบครัวที่อบอุ่น คุณพ่อกับคุณแม่เลี้ยงดูฉันอย่างกับเจ้าหญิงเหมือนชื่อของฉัน ฉันรักและเคารพท่านทั้งสองมากสวัสดีค่ะ ฉันชื่อเจ้าหญิง อัยย์ญาดา ราชนาโยวงศ์ติชัย อายุ18ปีค่ะ กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปลายโรงเรียนนานาชาติQ ฉันเป็นลูกคนสุดท้องน้องคนสุดท้ายค่ะคริๆที่จริงคุณแม่กับคุณพ่อมีลูกสองคน คนโตเป็นผู้ชายชื่อเจ้าชาย นาย อัธพัตฒ์ ราชน