Home / โรแมนติก / แดนอารยะ / ตอนที่4. หมายความว่า...

Share

ตอนที่4. หมายความว่า...

last update Last Updated: 2025-03-07 12:52:03

“คุณช่วยบอกเขาด้วยว่าฉันขอจ่ายครึ่งหนึ่ง หลังจากที่เขาพาฉันไปถึงกันเดนและกลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ฉันถึงจะจ่ายส่วนที่เหลือให้ทั้งหมด” ธีราบอกล่ามสาวชาวจีนอายุราวสามสิบปี รูปร่างผอมเพรียว สวมเสื้อโค้ตสีน้ำตาล ให้แปลเป็นภาษาคีรีมันบอกกับชายซึ่งรับอาสาเป็นพรานนำทาง

          ล่ามสาวหันไปเจรจากับพรานนำทางตัวเล็กแกร็น หน้าเสี้ยม ดวงตาหยี ไว้เรียวหนวดเหนือริมฝีปากหนา

          พอรู้ว่าจะได้รับค่าจ้างก่อนเพียงครึ่งเดียว เขาก็เอะอะโวยวายเสียงดังลั่น จนคนที่นั่งรับประทานอาหารเช้าในห้องอาหารของโรงแรมพากันหันมามองมาเป็นตาเดียว

          ล่ามสาวรีบแปลเป็นภาษาไทย “หลงบอกว่าถ้าคุณจ่ายไม่ครบ เขาจะไม่นำทางให้”

          คำเตือนของจามิลดูท่าจะเป็นจริง ธีราเม้มริมฝีปากก่อนยื่นคำขาด “ถ้าเขาไม่ตกลง ก็ให้คืนเงินมัดจำล่วงหน้ามา”

          ล่ามสาวหันไปเจรจากับหลงอีกรอบก่อนหันมาบอกธีราว่า “เงินนั่นหลงบอกว่าถือเป็นค่าเสียเวลาของเขา”

          “หมายความว่าเขาไม่ยอมคืนเงินหรือ?” ธีราเอ่ยถาม

          “ค่ะ” ล่ามสาวรับคำ

          “สวัสดีครับ” เสียงทุ้มเอ่ยทักทายจากปากทางเข้าห้องอาหารของโรงแรม

          ธีราหันไปมองต้นเสียง ก็เห็นจามิลยืนอยู่กับคัง

          “สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ทักทายแล้วอดนึกขันไม่ได้ “เอ ผิดค่ะ ต้องพูดว่านมัสการหลวงพี่”

          จามิลยิ้มเล็กน้อยพลางตอบ “พูดธรรมดาๆ กับผมก็พอครับ คุณใช้ศัพท์ยากๆ ผมจะฟังไม่เข้าใจ”

          พระหนุ่มเดินเข้ามาใกล้โต๊ะที่หญิงสาวนั่งกับล่ามสาวชาวจีนและหลง เณรน้อยเดินตามไม่ยอมห่าง

          “อ้อ” หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อย “งั้นก็สวัสดีค่ะคุณจามิล”

          หลงฉวยโอกาสลุกขึ้นหวังเลี่ยงหลบ ทว่าจามิลยกมือข้างหนึ่งจับไหล่เขาเอาไว้พลางถามเป็นภาษาคีรีมัน “จะไปไหน?”

          “หมดธุระแล้วผมก็จะกลับน่ะสิ” หลงตอบ

          จามิลจึงบอกหญิงสาวชาวไทยว่า “คุณธีรา ชายคนนี้จะไปแล้ว คุณจะว่าอย่างไร?”

          “เขารับเงินล่วงหน้าไปครึ่งหนึ่งแล้วบอกว่าจะไม่นำทางให้ ซ้ำยังจะไม่ยอมคืนเงินอีก” หญิงสาวพูดอย่างหงุดหงิด

          จามิลจึงหันไปพูดภาษาคีรีมันกับหลง “รีบคืนเงินให้คุณผู้หญิงต่างชาติไปซะ”

          “ทำไมท่านต้องมายุ่งกับเรื่องของผมด้วย?” หลงบ่นพึมพำ

          “ไม่ยุ่งไม่ได้ เพราะคุณผู้หญิงคนนี้เป็นแขกของวัดกัมโป” จามิลตอบเสียงเรียบ

         คนฟังสะดุ้งวาบ “เป็นแขกของวัดกัมโปหรือ?”

          “ใช่ แถมยังเป็นแขกของท่านเจ้าอาวาสด้วย” คังอดพูดแทรกไม่ได้

          “งั้น…” หลงกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ “งั้นผมจะไปเอาเงินมาคืนให้เธอ”

          จามิลจึงปล่อยมือจากไหล่ของหลง ร่างเล็กแกร็นรีบเดินผละไปอย่างรวดเร็ว

          “คุณปล่อยเขาไป” หญิงสาวพูดทักท้วง

          “เขารับปากแล้วว่าจะคืนเงินให้คุณแล้วครับ” จามิลไขข้อข้องใจของหญิงสาว

          “เชื่อได้หรือคะ?” หญิงสาวย้อนถาม

          “ได้ครับ” พระหนุ่มตอบก่อนจะพูดกึ่งล้อ “คุณจะไม่เชิญให้ผมนั่งหรือครับ?”

          “โอ๊ย! ตายจริง” หญิงสาวอุทาน “เชิญนั่งค่ะ”

          จามิลยิ้มแล้วหันไปพูดกับคัง “คุณผู้หญิงเชิญนั่ง”

          “ดีเลย ผมกำลังเมื่อยขาและคอแห้งด้วย”

          เณรน้อยรีบจับจองเก้าอี้ตัวที่หลงนั่งเมื่อครู่พลางคว้ากาน้ำชาและถ้วยชาบนถาดมาบริการตนเอง ทำให้จามิลอดหัวเราะไม่ได้

          เมื่อจามิลนั่งบนเก้าอี้ว่างเพียงตัวเดียวของโต๊ะ เสียงวิษณุดังแทรก “ธีรา อยู่นี่เอง”

          เช้านี้เจ้าของเสียงแต่งกายเรียบร้อย สีหน้าท่าทางไม่มีเค้าเมามาย เดินเข้ามายืนประชิดตัวหญิงสาว ทีท่าแสดงความเป็นเจ้าของ

          “พี่ณุ พระรูปนี้คือพระจามิลจากวัดกัมโป” ธีราผายมือมาทางจามิลเป็นเชิงแนะนำ

          “ยินดีที่ได้รู้จัก” วิษณุพูดพลางพยักหน้านิดหนึ่งโดยไม่ได้ยกมือไหว้

          หญิงสาวนึกเคือง แต่ทำได้อย่างมากคือแนะนำต่อไป “นี่คือพี่วิษณุ ญาติผู้พี่ของดิฉัน”

          “และเป็นคู่หมั้นของธีราด้วย” วิษณุรีบเอ่ยต่อทันควัน ถือโอกาสวางมือทั้งสองข้างบนไหล่ลาดละมุนของหญิงสาว

          จามิลค้อมศีรษะก่อนทักทาย “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

          พระหนุ่มหันไปพูดภาษาคีรีมันกับเณรน้อย “ไปนั่งที่อื่นก่อนคัง”

          “ทำไมล่ะครับ?” เณรน้อยถาม

          จามิลดุกลับ “ไม่ต้องถาม ผู้ใหญ่สั่งให้ทำอะไรก็ทำตามซะ”

          “เป็นผู้ใหญ่นี่ดีจังเนอะ ทำอะไรก็ไม่ต้องบอกเหตุผล นึกจะสั่งอะไรก็สั่ง” เณรน้อยบ่นทิ้งท้ายก่อนลุกไปยังโต๊ะที่ว่าง

          คังลุกไปแล้วจามิลเลยพูดภาษาไทยกับวิษณุ “เชิญคุณวิษณุนั่งตรงนี้ครับ”

          วิษณุยังมีทีท่าอิดออด

          ธีราขยับตัวอย่างอึดอัด “พี่ณุ นั่งลงก่อนเถอะค่ะ พวกเรามีเรื่องต้องคุยกันยาว”

          วิษณุจึงเดินไปนั่งลงข้างๆ จามิล ธีราลอบระบายลมหายใจอย่างโล่งอกเมื่อวิษณุปล่อยมือจากไหล่ของเธอ

          “วันนี้นัดพรานหลงไว้ไม่ใช่เหรอ?” วิษณุถาม

          “เขาไปแล้ว” หญิงสาวตอบอย่างเซ็งๆ

          “เกิดอะไรขึ้น?”

          “เขาปฏิเสธที่จะนำทางให้พวกเรา”

          “คุณหลิง พวกเราจะหาพรานใหม่ได้ไหม?” วิษณุหันไปถามล่ามสาวชาวจีน

          “พรานหลงเป็นพรานที่เก่งที่สุดในคีรีมันแล้วค่ะ” ล่ามสาวตอบ

          “หมายความว่าเราต้องง้อเขา” วิษณุเอ่ยกึ่งเสนอความเห็น

          ทว่าจามิลกลับพูดแย้ง “ผมว่าไม่จำเป็น ต่อให้หลงเป็นพรานนำทางที่เก่งหรือมือฉมังแค่ไหนก็ไม่มีวันไปถึงกันเดน”

          “พูดอย่างกับคุณไปถึงแน่ะ” วิษณุพูดประชดกึ่งท้าทาย

          จามิลนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง

          กันเดน…เขาเองก็ยังไม่เคยไป แต่ถ้าหญิงสาวตรงหน้าที่สวยสดงดงามราวพระโพธิสัตว์ต้องกลับบ้านเพราะไม่มีคนนำทาง เธอก็ต้องกลับไปแต่งงานกับ…จามิลเผลอคิดพลางสะบัดศีรษะ

          “คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” ธีราถามเมื่อเห็นพระหนุ่มมีทีท่าแปลกๆ

          “เปล่าครับ” จามิลตอบก่อนตัดสินใจ “ผมแค่คิดว่าผมยังไม่เคยไปกันเดนก็จริง แต่แผนที่ที่พระผู้ใหญ่ร่วมกันศึกษาค้นคว้ากับดอกเตอร์ธีระคุณพ่อของคุณ น่าจะช่วยให้พวกเราติดตามเบาะแสของท่านได้ดีกว่าการนำทางของพรานทั่วไป”

          สิ่งที่ได้ยิน ทำให้ธีราเริ่มมีความหวังขึ้นมาใหม่ “งั้นคุณช่วยมานำทางให้คณะของฉันได้ไหมคะ?”

          จามิลไม่ทันตอบ วิษณุชิงแย้งขึ้น “ไม่ดีมั้ง รบกวนพระรบกวนเจ้าเปล่าๆ อีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่กิจของสงฆ์”

          หญิงสาวพาลอารมณ์เสีย “พี่ณุ ทำไมพูดอย่างนี้ หรือพี่ณุไม่อยากให้ฉันได้พบกับพ่อ?”

          “คุณอาหายสาบสูญไปนานนับสิบปีแล้ว แต่ธีราก็ยังคิดว่าท่านยังมีชีวิตอยู่ แล้วพระก็ไม่ใช่พราน ดีไม่ดีนำทางไปเจอสัตว์ดุร้ายเข้าจะลำบากเปล่าๆ” วิษณุเอ่ยอย่างไม่สนใจว่าคนฟังจะคิดอย่างไร

          จามิลจึงพูดตรงๆ “คุณวิษณุแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากให้ผมนำทาง”

          “ผมไม่ปฏิเสธ” วิษณุพูดอย่างไม่ยี่หระ

          “ยิ่งทำให้ผมอยากนำทางให้คุณธีรา” จามิลเอ่ยเสียงเรียบทว่าหนักแน่น

          หญิงสาวยิ้มออกพลางว่า “ขอบคุณค่ะ”

          “แก…” วิษณุเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เป็นพระเป็นเจ้าทำไมไม่อยู่ส่วนพระส่วนเจ้า ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน”

          “พี่ณุ!” ธีราขึ้นเสียงอย่าโกรธจัด “ถ้ายังไม่เลิกพูดจาก้าวร้าวคุณจามิล พี่ณุก็กลับเมืองไทยไปซะ”

          วิษณุอ้าปากค้าง ชะงักไปนิดหนึ่งก่อนสะบัดหน้าผุดลุกขึ้นแล้วเดินจากไปอย่างหัวเสีย

          หญิงสาวถอนหายใจเฮือก หันมาถามจามิลเพื่อความแน่ใจ “คุณรับปากว่าจะช่วยนำทางให้ฉันแน่นะคะ?”

          “ครับ” พระหนุ่มตอบรับด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • แดนอารยะ   ตอนที่5.หวั่นไหว

    “เจ้าจะไปกันเดนรึ?” ภิกษุชราซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะกลมบนตั่งเตี้ยถามจามิลที่คุกเข่าตรงหน้า “ครับ” พระหนุ่มรับคำสั้นๆ “เพราะเหตุไร?” ภิกษุชราเอ่ยถามช้าๆ จามิลนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนตอบอย่างไตร่ตรองแล้วว่า “ผมเป็นพระสงฆ์ย่อมใฝ่ฝันถึงกันเดน ซึ่งเป็นดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงครับท่านอาจารย์” ท่านอาจารย์หลับตาลงครู่หนึ่งก่อนลืมตา “ในชีวิตของอาจารย์มีคนจากไปเพื่อค้นหากันเดนสองรุ่นแล้ว รุ่นแรกคืออาจารย์อากับพระสงฆ์หนุ่มๆ ในยุคนั้นรวมสิบรูป ออกเดินทางจากวัดนี้ไป ตอนนั้นอาจารย์อายุแค่แปดขวบ ยังออกไปโบกไม้โบกมือส่งอาจารย์อาถึงประตูวัด นับจากนั้นอาจารย์ก็ไม่ได้เห็นพระทั้งสิบรูปนั้นอีกเลย” ท่านหยุดพูดครู่หนึ่งเหมือนระลึกเหตุการณ์ในอดีต “ส่วนรุ่นที่สองก็คือดอกเตอร์ธีระและคณะ พวกเขาไปกันเกือบสามสิบชีวิต ไปแล้วก็ไม่กลับ จนกระทั่งปีต่อมาจึงมีคนไปพบอู๋นอนสลบอยู่ริมลำธาร อู๋เป็นคนเดียวที่กลับมาได้ แต่กลับมาเหมือนคนไร้วิญญาณ” สิ่งที่ท่านอาจารย์บอกเล่าไม่ได้ทำให้จามิลหวั่นไหว พระหนุ่มยังคงยืนกรานหนักแน่น “ผมอยากไปกันเดนครับ ขอให้ท่าน

    Last Updated : 2025-03-07
  • แดนอารยะ   ตอนที่6 สีหน้างุนงง

    จามิลนั่งตรงกันข้ามกับธีราที่โต๊ะตัวหนึ่งในห้องอาหารของโรงแรมที่หญิงสาวพัก โดยมีผู้ร่วมโต๊ะอีกสองคน คือ หลิง ล่ามสาวชาวจีน และหลง นายพรานนำทาง เวลานี้เป็นเวลาบ่ายสองโมงเศษ ผู้คนในห้องอาหารจึงมีไม่มากนัก นอกจากโต๊ะที่กลุ่มของธีรานั่งแล้วก็มีชายวัยกลางคนท่าทางเหมือนพ่อค้านั่งอยู่ที่โต๊ะตัวถัดไปเท่านั้น “ภรรยาของหลงเอาเงินค่าจ้างของคุณไปใช้มากกว่าครึ่ง หลงเลยเอาเงินส่วนที่เหลือมาคืนคุณก่อน” ล่ามสาวเอ่ยกับธีราเป็นภาษาไทย หลงยิ้มแหยๆ พลางยื่นธนบัตรจำนวนหนึ่งคืนให้ธีรา จามิลเปรยว่า “ดูท่าคุณจะได้เงินส่วนที่เหลือกลับคืนยาก” ธีรายิ้มอย่างเซ็งๆ ก่อนพูด “จะทำยังไงได้ล่ะคะ” “ผมมีวิธีที่ดีกว่าการรอให้เขาคืนเงิน” พระหนุ่มกล่าวเสียงเรียบ “วิธีอะไรคะ?” หญิงสาวถามอย่างสนใจ “พวกเราจะเดินทางไปกันเดนแต่ยังไม่มีลูกหาบ ก็ตั้งให้เขาเป็นหัวหน้าลูกหาบแล้วคอยหาลูกหาบให้พวกเรา” พระหนุ่มเสนอแนะ “เป็นความคิดที่ดีค่ะ” หญิงสาวเห็นด้วย จามิลจึงพูดภาษาคีรีมันกับหลง “เงินที่เจ้าใช้ไปแล้วพวกเราจะนับเป็นค่าจ้างของเจ้า”

    Last Updated : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่7 ค่อยๆ พูดจากัน

    วิษณุยืนคอยอย่างกระวนกระวายใจในตรอกแคบๆ และสกปรกซึ่งอยู่หลังโรงแรมที่พักที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน ครู่หนึ่งก็ปรากฏเงาร่างเพรียวของหญิงคนหนึ่งเดินลัดเลาะมาหาด้วยความระมัดระวังเหมือนกลัวใครจะเห็นเข้า หญิงผู้ใช้หมวกที่เป็นส่วนหนึ่งของปกเสื้อคลุมศีรษะและบดบังใบหน้าจนเกือบมิดเดินเข้ามาใกล้ “หลิง ทำไมช้านักล่ะ?” วิษณุเอ่ยถามทันที หลิงดึงหมวกคลุมศีรษะลง เปิดเผยให้เห็นดวงหน้าเรียวและดวงตาที่กลิ้งกลอกไปมาไม่หยุดนิ่งพลางตอบ “ก็คุณเองไม่ใช่เหรอที่ไม่ต้องการเปิดเผยการพบปะของพวกเรา?” “นั่นก็ใช่ แต่ผมรักคุณจริงๆ นะ” พร้อมกับคำพูดวิษณุรวบร่างเพรียวมาไว้ในอ้อดกอดแล้วระดมจูบดวงหน้าเรียวถี่ยิบ ล่ามสาวชาวจีนต้องยกมือดันดวงหน้าชายหนุ่มให้ออกห่างก่อนเอ่ยปาก “ฉันไม่เชื่อคุณหรอก คุณธีราออกจะสวยขนาดนั้น” วิษณุแบะปาก “หึ! สวย สวยเหมือนประติมากรรมหินอ่อนที่จิตรกรเอกของโลกบรรจงแกะสลัก เย็นชืด แข็งทื่อ แตะต้องไม่ได้ อยู่ใกล้แล้วอัดอั้นใจแทบจะระเบิด ไม่เหมือนคุณ คุณมีเลือดมีเนื้อ นุ่มนวลและอบอุ่น เป็นสุดปรารถนาของผม” “แหม ปากหวาน แต่ตอนนี้คุณปล่อยฉันก่อนเถอ

    Last Updated : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่ 8 เอ่ยถามเสียงเรียบ

    จามิลนั่งตรงกันข้ามกับธีราที่โต๊ะมุมในห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งกลายเป็นสถานที่นัดพบพูดคุยเรื่องงานของคนทั้งสองไปโดยปริยาย พระหนุ่มยกถ้วยชาที่ส่งควันฉุยขึ้นจิบคำหนึ่งก่อนวางถ้วยลงบนโต๊ะ แล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ “รินเซนว่าคุณอนุญาตให้เธอไปด้วย” “ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะอธิบายต่อ “ฉันมีเหตุผลที่ให้รินเซนไปด้วยนะคะ คือ...หนึ่งฉันจะได้มีเพื่อนผู้หญิงร่วมคณะไปด้วย สองเธอเป็นล่ามให้ฉันแทนคุณหลิงได้ และข้อสุดท้ายเธออาจค้นพบวิธีรักษาพ่อของเธอให้หายจากอาการป่วยได้” จามิลหลับตาครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนลืมตาแล้วพูดว่า “ที่คุณพูดมาก็มีเหตุผล แต่ที่ผมไม่ให้รินเซนไปด้วยแต่แรกก็เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเธอ การไปค้นหากันเดนของพวกเราไม่ได้มีผลสุดท้ายที่แน่นอน อาจจะพบ อาจจะไม่พบ อาจจะไปถึง อาจจะไปไม่ถึง อาจจะได้กลับ และอาจจะไม่ได้กลับ” คำท้ายของเขาทอดหางเสียงเบาลงจนธีรารู้สึกใจหายไปด้วย จริงสิ...ทุกคนที่ไปกันเดนอาจจะไม่มีใครได้กลับมาอีก เหมือนอย่างคณะก่อนๆ ที่ไปกัน “ฉันลืมคิดถึงข้อนี้ไป ฉันจะพูดกับเธอใหม่แล้วกันนะคะ” พูดถึงตรงนี้รินเซนก็เดินเข้ามาพร้อมกับคั

    Last Updated : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่ 9 ตามความเป็นจริง

    หลังจากหลงออกปากรับต้าเข้าร่วมคณะเดินทาง ต้าก็ขอลากลับไปเตรียมตัวเดินทาง หลงยังคงตกอยู่ในภวังค์ความคิด นึกจินตนาการไปว่าเมื่อไปถึงกันเดนเขาคงพบเพชรนิลจินดากองมหึมาเทียมภูเขา กำลังคิดเพลินๆ “หลง!” เสียงหลิงดังลั่นอยู่ข้างหูพร้อมกับมือของหล่อนตบไหล่ของเขาเต็มแรง เรียกสติที่กำลังเพ้อฝันให้กลับคืนมา “อ๊ะ! คุณหลิง” ผู้ถูกเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าลูกหาบอุทานลั่น หลิงยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มเอาเรื่อง “ใช่แล้ว ฉันเอง แล้วไม่เพียงฉันเท่านั้นแต่ยังมีอีกคนอยากพบแก” ล่ามสาวพูดพลางบุ้ยใบ้ไปด้านข้าง วิษณุเดินออกมาจากหลืบกำแพง หลงเบิกตาเหลือกลานพลางอุทานลั่น “นะ…นาย!” “แกรับเงินไปแล้วทำไมไม่ทำตามสัญญา” วิษณุส่งเสียงตะคอกถามพร้อมกับกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย หลิงรีบแปลภาษาไทยเป็นภาษาคีรีมัน หลงมีสีหน้าเลิ่กลั่ก เอี้ยวคอมองซ้ายมองขวาก่อนพูดเสียงแผ่ว “คุณหลิง ช่วยบอกนายที พวกเราเข้าไปคุยกันข้างในก่อนดีกว่า ผมมีเรื่องสำคัญจะบอก” หลิงรีบแปลภาษาคีรีมันเป็นภาษาไทย วิษณุตัดสินใจเพียงอึดใจเดียวก็ปล่อยมือที่กำคอเสื้อ

    Last Updated : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่10 อยู่ที่ไหน

    ธีรายืนมองหลงและเหล่าลูกหาบช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถบรรทุกหกล้อ โดยมีจามิลพระหนุ่มคอยดูแลความเรียบร้อยอยู่หน้าโรงแรมที่พัก รินเซนและคังหอบหิ้วข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวพลางเดินอย่างเร่งรีบตรงมาเบื้องหน้าของหญิงสาว เณรน้อยพูดภาษาคีรีมันยืดยาวซึ่งธีราไม่เข้าใจแม้แต่น้อย หญิงสาวจึงหันไปถามรินเซน “เณรคังพูดว่าอะไรหรือ?” รินเซนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า “เณรคังบอกว่าจามิลแกล้งไม่ปลุกเณรและแอบหนีมาก่อน แต่โชคยังดีที่เณรตามมาทัน” “อ้อ” ธีราพยักหน้ารับรู้พลางว่า “นี่ยังไม่ทันรุ่งเช้า คุณจามิลเพิ่งจะคุมลูกหาบช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถเสร็จ กว่าพวกเราจะออกเดินทางกันจริงๆ ก็คงหลังจากกินอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว ราวๆ เจ็ดโมงเช้า” เพิ่งตอบรินเซน วิษณุก็ส่งเสียงร้องเรียก “ธีรา ธีราอยู่ไหน?” “อยู่นี่ค่ะ” หญิงสาวส่งเสียงตอบ ชักสีหน้าเอือมระอา วิษณุเดินแกมวิ่งมาหาแล้วหอบแฮ็กๆ ต่อว่าต่อขานเสียงดังระคนหอบ “อยู่ตรงนี้เอง ทำไมน้องธีราไม่ปลุกพี่ล่ะ? งานคุมคนงานอย่างนี้ต้องพี่เอง” แล้วทำทีจะเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการกับการขนสัมภาระของลูกหาบ ธีรา

    Last Updated : 2025-03-11
  • แดนอารยะ   ตอนที่11 ระวังปากระวังคำ

    ขบวนรถแล่นช้าๆ ไปตามทางภูเขาซึ่งทั้งแคบและลื่นเพราะเป็นหินปนกรวด อีกทั้งตลอดเส้นทางยังเปียกชื้นเนื่องจากน้ำละลายจากหิมะบนภูเขา รถจึงแล่นด้วยความเร็วไม่เกินยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ทัศนียภาพสองข้างทางสวยงามตามธรรมชาติ ด้านหนึ่งเป็นขุนเขา ส่วนอีกด้านเป็นทุ่งนาสลับทุ่งหญ้า ดอกหญ้าสีม่วง สีเหลือง สีคราม และสีขาวบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งสุดลูกหูลูกตา ฝูงจามรีและฝูงแกะยืนและเล็มใบหญ้า รถแล่นผ่านทุ่งหญ้า ถัดไปเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน หุบเหว โตรกธารที่ไหลรวมกันเป็นสระกว้าง มีขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้าง หาดทรายริมสระกว้างบ้างแคบบ้าง ถัดจากหาดทรายมีหญ้าขึ้นปกคลุมเป็นแห่งๆ แต่ไม่มีต้นไม้ใหญ่พอจะให้ร่มเงา ยิ่งสายแดดยิ่งร้อนแรงจนผู้โดยสารหลายคนในรถต้องรีบคว้าแว่นกันแดดมาสวมรวมทั้งเณรคัง ธีราหันไปเห็นเข้าก็อดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ วิษณุมองตามแล้วพูดจาเหน็บแนมทันที “ฮึ! อย่างกับบ้านนอกเข้ากรุง” “พี่ณุ จะพูดจะจาอะไรระวังปากระวังคำหน่อยได้ไหม?” หญิงสาวกระซิบเบาๆ พอได้ยินกันสองคน เพราะวิษณุนั่งอยู่ข้างๆเธอ ทว่าวิษณุกลับตอบกลับ “ก็พี่ไม่ชอบขี้หน้าพวกพระพวกเณรนี

    Last Updated : 2025-03-17
  • แดนอารยะ   ตอนที่12 อุ่นใจเมื่อมีอาวุธอยู่ในมือ

    หลังจากสุดเส้นทางที่รถยนต์จะแล่นถึง ผู้โดยสารทุกคนก็ต้องเดินเท้าต่อ แม้ธีรา วิษณุ และหลิงจะไม่ได้แบกสัมภาระอะไร แต่เนื้อตัวก็หนาหนักด้วยเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น จามิลแบกสัมภาระของตนเองพร้อมกับถือไม้เท้าพระธรรมเดินนำหน้าขบวน ตามติดด้วยเณรคังซึ่งแบกสัมภาระพะรุงพะรังไม่แพ้กัน นักบวชต่างวัยครองผ้าขนสัตว์ทับบนจีวรอีกชั้นหนึ่ง ธีราเห็นแล้วก็อดรู้สึกเหน็บหนาวแทนไม่ได้ วิษณุถืออาวุธปืนยาวติดมือและพกปืนสั้นเหน็บเอว แม้อาวุธสองสิ่งนี้จะทำให้หนักกว่าปกติหลายเท่าแต่เขากลับอุ่นใจเมื่อมีอาวุธร้ายอยู่ในมือ ธีราเดินตามเป็นอันดับสี่ ตามหลังวิษณุ หญิงสาวมองขุนเขาสูงชันสลับซับซ้อนที่ดูราวไม่มีวันสิ้นสุด แต่ละยอดเขาแซมสีขาวของน้ำแข็งและหิมะเห็นแล้วอดรู้สึกอ่อนใจไม่ได้ เพราะใต้รองเท้าของเธอเหยียบถูกน้ำแข็งบางๆ ที่ทำให้เส้นทางโรยด้วยกรวดหินค่อนข้างลื่น รินเซนและหลิงแบกเป้บรรจุของใช้กระจุกกระจิกส่วนตัวอยู่บนหลัง เดินตามธีรามาติดๆ ต่างชิงกันหวังเดินประกบธีรา เป็นศึกย่อยๆ ที่ไม่มีใครสนใจ บรรดาลูกหาบต่างแบกสัมภาระห่อใหญ่อยู่บนหลัง แม้จะสวมเสื้อผ้าหลายชั้นแต่ดูท

    Last Updated : 2025-03-17

Latest chapter

  • แดนอารยะ   ตอนที่30 อย่า!

    นางพญางูอาโลจนานึกถึงวัยเด็กของตนเอง... ณ ดินแดนรอยต่อระหว่างพิภพนาคากับดินแดนอสรพิษ มีน้ำตกสาดสายน้ำสีขาวสะอาดจากหินผาเบื้องบนลงสู่สระน้ำสะอาดใสราวกระจก มองเห็นกรวดหินรูปทรงกลมทรงรีหลากสีสันใต้ท้องน้ำ ริมสระมีดอกไม้หลายสีหลากชนิดขึ้นอยู่เต็ม เด็กชายหญิงสองคนนั่งเคียงคู่กันบนก้อนหินใหญ่ริมฝั่งน้ำ ต่างชี้ชวนกันดูก้อนหินกลมๆ ใต้ท้องน้ำ “ข้าชอบก้อนสีชมพู” “ได้สิอาโลจนา เดี๋ยวข้าจะเก็บให้เอง” เอ่ยจบเด็กชายกระโดดลงน้ำดำลงไปเก็บหินสีชมพูก้อนที่คิดว่าสวยที่สุด พอโผล่ศีรษะขึ้นเหนือน้ำก็ชูก้อนหินขึ้น “ก้อนนี้ใช่ไหมอาโลจนา?” เด็กหญิงส่ายหน้าช้าๆ พลางยิ้มหวาน “อ้าว” เด็กชายมีสีหน้าผิดหวัง ตั้งท่าจะขว้างก้อนหินในมือทิ้ง “อย่า!” เด็กหญิงร้องห้าม “ทำไมรึ?” เด็กชายถามพลางเลิกคิ้วที่มีปลายตวัดเป็นกระหนกอย่างเผ่าพันธุ์นาค “ข้าไม่ได้หมายถึงก้อนหินก้อนใดก้อนหนึ่ง ข้าชอบหินทุกก้อนที่เป็นสีชมพู เพราะมันมีสีเหมือนชื่อของเจ้าต่างหาก” นาคราชชมพูได้ฟังก็ยิ้มออก กระโจนขึ้นจากน้ำมานั่งเคียงข้างเด็กหญิงอีกครา โดยม

  • แดนอารยะ   ตอนที่29 ขึ้นอยู่กับความพอใจ

    “ท่านน่าจะมีเหตุผลมากกว่านี้นะคะ” ธีราพูดขัดขึ้น “นั่นขึ้นอยู่กับความพอใจของข้า” นางพญางูอาโลจนาเอ่ยน้ำเสียงเยาะหยัน “ท่านจะเอาความผิดหวังของตัวเองพาลใส่คนอื่นอย่างนั้นหรือคะ?” ธีราถามเหมือนรู้ความลับอะไรบางอย่างของอีกฝ่าย นางพญางูหันขวับมามองเธอจนเส้นผมสะบัดพลิ้ว “เจ้ารู้อะไร?” “ท่านผิดหวังในตัวพญานาคราชชมพู” เอ่ยจบหญิงสาวชาวไทยภาวนาขอให้ตนเดาถูกด้วยเถิด ดูเหมือนคำภาวนาจะสัมฤทธิผล สีหน้านางพญางูแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ “ใครบอกเจ้า?” “ไม่ต้องมีใครบอกหรอกค่ะ เพียงเห็นสีหน้าและท่าทางที่ต่างฝ่ายต่างพูดถึงกัน ก็พอดูออกว่าต่างมีใจให้กัน” ธีราตอบพลางยิ้มเล็กน้อย นางพญางูสะบัดหน้าพรืดพลางกระชากเสียงถาม “เขานะรึมีใจให้ข้า?” “จริงแท้แน่นอน” หญิงสาวรับคำแข็งขัน “ถ้ามีใจให้ข้าจริง ทำไมเขาต้องเกรงกฎเกณฑ์ประเพณีจนทอดทิ้งข้าล่ะ?” นางพญางูนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนพูดขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “พวกผู้ชายไม่มีดีสักคน” แล้วหันขวับมาชี้หน้าจามิล “เจ้าก็เช่นกัน อ้างโน่นอ้างนี่เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสึกเพื่อหญิงที่เจ้ารัก”

  • แดนอารยะ   ตอนที่28 ใครหัวเราะนะ?

    “คุณรออยู่ตรงนี้ ผมจะลองเข้าไปดูก่อน” จามิลเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่ได้ ถ้าไอหมอกนี่เป็นไอพิษล่ะ?” ธีราไม่เห็นด้วย “ยิ่งเกรงว่าเป็นไอพิษพวกเรายิ่งไม่ควรเข้าไปพร้อมกัน” พระหนุ่มให้เหตุผล หญิงสาวไม่มีข้อโต้แย้ง ทว่า… “ยังไงฉันก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดี” “แต่ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้นี่ครับ” พระหนุ่มเอ่ย “คิกๆๆ” เสียงหัวเราะดังแว่วจากด้านในของคูหาถ้ำที่กางกั้นด้วยไอหมอก “ใครหัวเราะนะ?” ธีราถามขึ้นลอยๆ “ท่านเป็นใครครับ?” จามิลถามอย่างสุภาพ “ข้าคืออาโลจนายังไงล่ะ!” เสียงตอบกลับสดใสไพเราะดังแว่ว “ท่านหัวเราะด้วยเรื่องอะไรคะ?” ธีราถามบ้าง “ข้าขำพวกเจ้านะสิ กล้ามาหาข้าแต่ไม่กล้าฝ่าไอหมอกพิษเข้ามา แล้วจะมีประโยชน์อันใด?” นางตอบ พระหนุ่มหันมาสบตาหญิงสาวก่อนตอบนางพญางู “ท่านอนุญาตให้พวกผมเข้าพบแล้ว ทำไมต้องสร้างสถานการณ์ยากลำบากให้แก่พวกผมด้วยละครับ?” นางเงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนย้อนถาม “พวกเจ้ามีเขี้ยวพญานาคราชมิใช่หรือ?” “พวกผมมีเขี้ยวพญานาคราชก็จริง แต่พวกผมไม่กล้าเสี่ยงกับพิษนางพญ

  • แดนอารยะ   ตอนที่27 ควันพิษ

    จามิลรีบดึงต้นแขนธีราให้หลบไปด้านข้าง พิษงูที่พ่นใส่จึงเฉียดกายหญิงสาวไปอย่างฉิวเฉียด ฟู่! พื้นหินในถ้ำถูกกัดกร่อน ควันพิษคลุ้งขึ้นเป็นเส้นสาย “ใจเย็นๆ ครับ ค่อยๆพูด ค่อยๆจากัน อย่าใช้แต่อารมณ์สิครับ” พระหนุ่มพยายามพูดจาไกล่เกลี่ย นางงูสาวชี้มายังธีราพลางว่า “นางมนุษย์เสียมารยาทต่อพวกข้าก่อน” “รีบขอโทษนางสิครับ” จามิลหันมาพูดกับหญิงสาว ธีราชี้อกตัวเองพลางย้อนถาม “ฉันนะเหรอ?” พระหนุ่มพยักหน้าแสดงสีหน้าขอร้อง หญิงสาวคิดในใจ ขอโทษก็ขอโทษ “ฉันขอโทษนะคะ เมื่อครู่ฉันแค่ล้อเล่น พวกคุณอย่าคิดจริงจังเลยนะคะ” สีหน้านางงูสาวดูท่าจะไม่ยอมรับคำขอโทษง่ายๆ นางงูตัวอื่นๆ พากันเลื้อยขึ้นจากน้ำตามมาสมทบ “ฆ่ามันเลยดีกว่า” นางงูที่เลื้อยมาทีหลังพูดยุยง “ใช่ๆๆ” หลายเสียงสนับสนุน ธีรามีสีหน้าซีดเผือด ตัวเดียวยังน่ากลัวขนาดนี้ แล้วนี่ดาหน้ากันมาหลายสิบตัว หญิงสาวพานนึกถึงภาพนางงูพ่นพิษพร้อมๆ กัน พิษงูคงครอบคลุมเนื้อที่ภายในถ้ำทั้งหมด ไม่เหลือที่ให้เธอกับจามิลหลบพ้นเป็นแน่ “ใจเย็น

  • แดนอารยะ   ตอนที่26

    จามิลและธีราชะงักฝีเท้าเมื่อเห็นน้ำตกกีดขวางตรงหน้า ยะมะชี้ไปที่น้ำตกพลางเอ่ย “หลังน้ำตกเป็นเส้นทางไปสู่แดนอสรพิษ เจ้าทั้งสองไปต่อเถอะ ข้าขอนำทางแค่นี้” พูดจบยะมะก็หันหลังเดินกลับทันที ทิ้งคนทั้งสองให้สบตากัน “ผมไปคนเดียวน่าจะดีกว่า” จามิลยังคงยืนกรานความคิดเดิม “จะให้ฉันรออยู่ที่นี่เหรอคะ?” หญิงสาวถาม “ครับ” เขารับคำ “ไม่” หญิงสาวรีบตอบปฏิเสธ “ร้อยไม่ พันไม่” “ทำไมคุณถึงดื้ออย่างนี้?” พระหนุ่มเอ่ยอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “ไม่รู้ล่ะ คุณไปไหนฉันไปด้วย” หญิงสาวยังดื้อแพ่ง “ผมจะไม่ขัดใจคุณเลยถ้าที่นั่นเป็นสถานที่เที่ยวเล่น แต่ที่ๆ พวกเราจะไปกันมันอันตรายมาก” จามิลเอ่ย “การไปกันเดนก็อันตราย” หญิงสาวโต้ พระหนุ่มไม่มีข้อโต้แย้ง ในที่สุดก็ต้องจำใจพยักหน้า “ก็ได้ แต่คุณต้องระมัดระวังตัวให้มาก” “ค่ะ” หญิงสาวรีบรับคำ ทั้งสองมองม่านน้ำตกตรงหน้าอย่างชั่งใจ พระหนุ่มตัดสินใจเอื้อมมือมาจับมือธีราไว้ บีบกระชับอย่างให้กำลังใจ “พร้อมหรือยังครับ?” “ค่ะ ฉันพร้อมแล้ว” หญิงสาวตอบทั้งๆที่ใจยังเต้

  • แดนอารยะ   ตอนที่25 กังวล

    ธีราหน้าซีดเผือด หันมาสบตาจามิลอย่างกังวล แต่พระหนุ่มยังคงวางตัวนิ่งเฉยไม่แสดงทีท่ากระวนกระวายใจแต่อย่างไร “ขอบคุณที่เตือน แต่พวกเราตั้งใจจะไปกันเดนให้ได้” จามิลพูดกับพญานาคราช “หนทางไม่ใช่ไปได้โดยง่าย” พญานาคราชเอ่ย ธีราลอบถอนหายใจ เมื่อครู่เธอเข้าใจผิดคิดว่าพญานาคราชจะทำร้ายเธอและคณะ แท้จริงเขาเพียงไม่เห็นด้วยกับการเดินทางไปยังกันเดนของเธอและคณะเท่านั้น “ผมทราบครับ แต่พวกเราไม่ล้มเลิกความตั้งใจแน่” จามิลพูดน้ำเสียงหนักแน่น “และผมต้องขอโทษแทนทุกคนด้วยที่มารบกวนการบำเพ็ญเพียรของท่านในถ้ำนั้น” “ช่างเถอะ เรากำลังออกจากฌานพอดี” พญานาคราชตอบอย่างไม่ถือสาหาความ “แล้วคนที่มาพร้อมพวกเราละคะ?” ธีราเอ่ยถาม “เจ้าอยากพบคนพวกนั้นไหม?” พญานาคราชหันมาถามหญิงสาว “อยากค่ะ” หญิงสาวรับคำ “ก็ได้ เราจะให้นำคนพวกนั้นมาพบเจ้าเดี๋ยวนี้” พญานาคราชพูดพลางหันไปออกคำสั่งชายประหลาด “ยะมะ เจ้าไปนำพวกนั้นมา” “พ่ะย่ะค่ะ” ยะมะน้อมคำนับรับคำแล้วเดินผละจากไปอย่างว่องไว หลังจากยะมะออกไปแล้ว ธีราก็พนมม

  • แดนอารยะ   ตอนที่ 24 เนื้อตัวสั่นเทา

    “ท่านต้องการอะไร?” จามิลเบี่ยงตัวเข้าขวางเบื้องหน้าธีราพลางเอ่ยถามชายประหลาดผู้นั้น ชายผู้นั้นไม่ตอบเพียงเดินวนและมองชายหนุ่มหญิงสาวอย่างพินิจพิจารณาหนึ่งรอบแล้วออกคำสั่ง “ตามข้ามา” ก่อนจะเดินลงน้ำผลุบหายไปต่อหน้าต่อตา จามิลจะก้าวตาม ธีรารีบรั้งแขนของเขาไว้ “นั่นคนหรืออะไรคะ?” พระหนุ่มจึงชะงักฝีเท้าหันกลับมาตอบ “คงจะเป็นชนเผ่านาคา” “คุณจะตามเขาไปจริงๆ เหรอคะ?” หญิงสาวถามเพื่อความแน่ใจ จามิลค้อมศีรษะเล็กน้อยพลางเอ่ย “พวกเราอยู่ในถิ่นของเขา อะไรที่ดูไม่น่ามีพิษมีภัยก็ควรทำตามที่เขาสั่งไปก่อน” ทั้งสองหยุดสนทนาเมื่อเห็นชายประหลาดผู้นั้นโผล่เหนือน้ำพลางพูดเร่งรัด “อย่าชักช้า ตามข้ามาเดี๋ยวนี้” แล้วผลุบกลับลงไปใหม่ จามิลจูงมือธีราพลางว่า “พวกเราไปกันเถอะ ผมอยู่ทั้งคน ไม่ต้องกลัว” เขาเอ่ยเน้นท้ายประโยคเพราะสัมผัสรับรู้ว่ามือของหญิงสาวสั่นระริก ธีราเดินตามพระหนุ่มลงน้ำ พอดำลงไปจึงรู้ว่าใต้น้ำมีอุโมงค์ที่ผนังส่องแสงสว่างระยิบระยับ อุโมงค์ทอดตัวไม่ยาวนัก เพียงอึดใจก็โผล่มาที่คูหาถ้ำแห่งหนึ่ง ชายปร

  • แดนอารยะ   ตอนที่23 งูยักษ์

    คูหาถ้ำตรงหน้าไม่ได้มืดมิดเพราะมีแสงสว่างส่องเล็ดลอดจากเพดานถ้ำลงมา แสงสว่างส่องกระทบผนังถ้ำจนดูเหมือนครอบด้วยแก้วใสอีกชั้นหนึ่ง เกิดการหักเหและสะท้อนไปมาของแสงมากมายนับพันนับหมื่นลำแสง ทั้งถ้ำสว่างไสว ส่วนพื้นถ้ำเป็นน้ำ แต่เป็นน้ำที่แข็งตัวราวกระจกใส สิ่งที่ทำให้ทุกคนยืนตะลึงจนตัวแข็งทื่อก็คือบนพื้นน้ำราวกระจกใสปรากฏงูยักษ์ตัวหนึ่ง เกล็ดเขียวราวมรกต ดวงตาสีแดงดังทับทิม มีหงอน เคราครีบหลัง และครีบหางสีแดงสดใส “นาค” จามิลกระซิบบอกธีราเสียงแผ่ว ไม่ทันที่หญิงสาวจะคิดอ่านทำอะไร วิษณุกลับสาดกระสุนปืนใส่งูยักษ์หรือนาคตัวนั้นชนิดไม่ยั้ง ปัง! ปัง! ปัง! งูยักษ์แผ่พังพานมหึมาเหมือนโกรธ แม้ลูกกระสุนจะไม่ระคายผิวมันปลาบก็ตามที ก่อนจะหุบพังพานพุ่งตัวขึ้นสู่เบื้องบนอากาศแล้ววกกลับ หมุนควงสว่านพุ่งสู่พื้นน้ำ ตูมมมมม! พื้นน้ำแตกกระจาย น้ำใสราวกระจกเปลี่ยนสภาพเป็นน้ำธรรมดา พร้อมกันนั้นที่เห็นเหมือนแก้วใสครอบผนังถ้ำก็แปรเปลี่ยนสภาพเป็นน้ำไหลลงมาอย่างเร็วและแรง กระแสน้ำพัดพาทุกคนไหลลงไปรวมกันยังพื้นน้ำกลางถ้ำ ที่ขณะนี้กลายเป

  • แดนอารยะ   ตอนที่22 แสร้งทำดี

    “แย่แล้ว!” ธีราอุทานลั่นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่เธอมัวแต่ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงทิ้งกระติกน้ำที่ไม่ได้หมุนเกลียวปิดฝาให้สนิทไว้กับพื้น หญิงสาวกราดไฟฉายเพื่อมองหากระติกน้ำก็เห็นล้มกลิ้งอยู่กับพื้น ฝาเผยอเปิด น้ำนองพื้น เธอรีบคว้ากระติกน้ำขึ้น น้ำหนักเบามือทำให้รู้ว่าน้ำหกหมด ธีราหันไปสบตาจามิลด้วยสายตาขอลุแก่โทษ เธอน่าจะถนอมน้ำดื่มที่เขามีน้ำใจหยิบยื่นให้ให้ดีกว่านี้ พระหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเป็นนัยว่าไม่เป็นไร ก่อนหันไปคว้าสัมภาระขึ้นหลังและโบกมือให้สัญญาณเดินทางต่อ ธีรารีบหยิบสัมภาระส่วนตัวขึ้นแบกแล้วเดินตามเงียบๆ “อุ๊ย!” รินเซนอุทานเบาๆ หล่อนลืมตัวใช้มือข้างที่บาดเจ็บคว้าสัมภาระ “ผมช่วย” ต้าขันอาสา ชิงคว้าสัมภาระของรินเซนขึ้นหลังรวมกับสัมภาระที่ตัวเองแบกอยู่จนดูพะรุงพะรังน่าขัน รินเซนค้อนควักก่อนเร่งฝีเท้าตามติดธีรา ต้าเดินตามรินเซน ตามติดด้วยหลิง วิษณุ และหลง “ซวยฉิบ เดินทางโดยไม่มีแผนที่ อีกกี่ชาติจะไปถึงกันเดนวะ” วิษณุบ่นกระปอดกระแปดไม่เลิกรา หลิงรีบดึงแขนเสื้อวิษณุเพื่อให้เขาเดินช้าลง พอทอดระยะห

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status