Share

คำเตือน

last update Last Updated: 2025-08-09 18:47:19

MAXWELL : PART

ปลายลิ้นร้อนดันเข้าหากระพุ้งแก้มอย่างหงุดหงิด เกิดมาผมไม่เคยต้องมาทำอะไรงี่เง่าแบบนี้เลยสักนิด

"ขอโทษ!" ผมพูดออกไปพร้อมกับตวัดสายตาไปมองหน้าเวกัสใหม่ ยัยนั่นยังคงยกมือปาดน้้ำตาออกจากแก้มลวกๆ ปากอิ่มเม้มเข้ากันจนมันเป็นเส้นตรง เธอไม่ได้คิดจะสนคำพูดของผมเลย

"บอกว่าขอโทษไงเวกัส"

"กลับไปเถอะค่ะ กัสไม่อยากเห็นหน้าพี่แม็กซ์แล้ว กัสรำคาญ!"

ยัยบ้านี่! ผมบดกรามอย่างหงุดหงิด หากไม่คิดได้ว่าเธอมีความสำคัญต่อมิลินแค่ไหน ผมจะไม่สน ไม่เสียเวลามายืนขอโทษแบบนี้เลย

"ตกลงจะไม่รับคำขอโทษจากฉัน?" ผมเลิกคิ้วถาม แต่ยัยนั่นกลับเงียบปาก ผมจึงเลือกที่จะเดินไปหยุดที่ตรงหน้ายัยนั่นแทน

"ที่พูด ฟังอยู่ไหมวะ!" ผมตะคอกออกมาเสียงดัง ยัยนั่นถึงกับลุกพรวดพราดเผชิญหน้ากับผมทันที

"คำขอโทษที่ไม่ได้ออกมาจากใจ ใครจะอยากรับไว้ กัสบอกให้พี่แม็กซ์กลับไปไง กลับไปเลย ไม่ต้องมายุ่งกับกัสเลย" เป็นอีกครั้งที่ผมกำลังอ้าปากเตรียมตอบกลับ แต่ทว่า น้ำตาของยัยนั่นกลับไหลพราก เออดีว่ะ พอตัวเองตะคอกบ้าง แล้วมาร้องไห้เองแบบนั้น แล้วจะให้กูทำยังไงวะ!

"กัสรู้ว่าพี่แม็กซ์มาเพราะโดนคุณป้าว่า แต่พี่แม็กซ์ก็ไม่จำเป็นต้องแคร์นี่คะ ไม่จำเป็นต้องแคร์อะไรเลย เพราะที่ผ่านมา พี่แม็กซ์ก็ไม่เคยแคร์อะไรเลยเหมือนกัน" ว่าแค่นั้นเวกัสก็หมุนตัวกลับไปแล้วเขย่งเท้าเพื่อออกจากตรงนั้นทันที

"แล้วแต่ อยากงี่เง่าแบบนี้ก็แล้วแต่เลย!" ผมตะโกนตามหลังก่อนจะหมุนตัวออกมาจากตรงนั้นทันทีเช่นกัน คนอย่างแม็กซ์เวลล์ไม่จำเป็นต้องง้อผู้หญิงคนไหน คนอย่างผมไม่จำเป็นต้องง้อใครเลย

ผมเดินเร็วๆ ลงมาสงบสติอารมณ์ที่ด้านล่าง มองเช็คที่อยู่ในมือก่อนจะยัดมันลงกระเป๋ากางเกงยีนส์ตามเดิม ไหนล่ะผู้หญิงที่น่าสงสาร ผมก็เห็นจะมีก็แต่ยัยเด็กอวดดีคนนั้น คนที่สามารถทำให้ผมหงุดหงิดได้ตลอดเวลา

วันนี้ผมไม่ได้ออกจากบ้านเพราะไม่มีอารมณ์ที่จะไปที่ไหนต่อทั้งนั้น ไม่มีอารมณ์ที่จะทำอะไรสักอย่าง ได้แต่นั่งดื่มเงียบๆ ลำพังในบ้านคนเดียว และก็เป็นอีกครั้งที่เรื่องเดิมๆ คำพูดเดิมๆ มันตอกย้ำเข้ามาในห้วงของความทรงจำ

ย้อนกลับไปเมื่อตอนวันเกิดของมิลิน

ผมได้รับโทรศัพท์จากลูกน้องคนสนิท ว่าพบคริสกับสามีใหม่ ไปที่โชว์รูมใหญ่ที่มีผมเป็นเจ้าของ ก็ตามนั้น ลูกน้องของผมต้องการให้ผมไปที่นั่นซึ่งผมไม่ได้อยากผละออกจากงานวันสำคัญของลูก แต่หากว่าเจอคริส แล้วผมสามารถพาคริสมาหาลูกได้ มิลินคงดีใจ

โชว์รูมสาขาใหญ่

'ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งครับ' ผมเหลือบตามองคู่แข่งหัวใจที่ยื่นมือมาด้านหน้า โดยใช้แขนอีกข้างโอบคริสเอาไว้หลวมๆ มันโคตรรู้สึกแย่ที่เห็นภาพแบบนั้น ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา ผมกับผู้ชายคนนี้เคยพบกัน แต่จะเรียกว่าพบมันก็คงไม่ใช่ ให้เรียกว่า เคยเผชิญหน้ากันเห็นจะดีกว่า

ครั้งหนึ่ง ผมเคยเผชิญหน้ากับมัน เผชิญหน้าเพื่อทวงเมียผมกลับ แต่คริสเลือกมัน!

ผมปรายตามองมือนั้นอีกครั้ง พลางยัดสองมือลงไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์ตามเดิม

ผมไม่จำเป็นต้องญาติดีกับมัน!

'คุยกันในห้องได้ไหมคะแม็กซ์ สามีคริสอยากคุยกับแม็กซ์ดีๆ!' และผมก็ตวัดสายตามองคริสตินาทันที เธอยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาและรูปร่าง และผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าการมาของแม่มิลินในครั้งนี้ เพราะอะไร แล้วมันสำคัญมากกว่าวันเกิดของลูกไหม

สุดท้าย ผมก็เดินนำคนทั้งคู่เข้าไปในห้องส่วนตัว!

ภายในห้อง

'วันนี้เป็นวันเกิดมิลินแท้ๆ แต่เธอกลับไม่ยอมมาหาลูก เพราะอ้างว่าผัวเข้าโรงพยาบาล'

'ใช่ไงแม็กซ์ เจเดนเข้าโรงพยาบาลจริง แต่ขะ...'

'ช่างเถอะที่รัก มันไม่ใช่เรื่องที่เราต้องอธิบาย' สามีใหม่กุมมือของคริสในข้างที่มีแหวนเพชรเม็ดโตประดับไว้

ที่รักงั้นเหรอ เหมือนเขาจะมีความสุขมากมาย แล้วเลือกที่จะปล่อยลูกไว้กับผมตามลำพัง

มันเจ็บแบบสัสๆ!

'ที่ผมกับภรรยามาคุยกับคุณ เราอยากมาคุยกันเรื่องของมิลิน'

'...' ผมนิ่วหน้า แล้วตวัดสายตามองคริสตินาทันที

'ผมกับคริส อยากขอรับมิลินไปเลี้ยงดู'

'ไสหัวออกไปจากที่ของกูถ้ามึงไม่อยากตาย!' ผมตวาดออกไปแล้วลุกพรวดพราด ขึ้นจากเก้าอี้ในทันที

'ใจเย็นๆ สิแม็กซ์ ฟังเจเดนก่อนได้ไหมคะ'

'แล้วมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้วะ ฉันเลี้ยงลูกมาตั้งแต่เกิด มีสิทธิ์อะไรมาเอ่ยปากขอแบบนี้'

'คริสรู้ว่าคริสไม่มีสิทธิ์ทำ แต่คริสแค่อยากลองขอ เผื่อมิลินอยากมาหาคริสบ้าง คริสก็รักลูกไม่ต่างจากแม็กซ์นะ แม้ว่าจะไม่ได้เลี้ยง แต่คริสก็คลอดมาด้วยตัวเอง'

'ผมรู้ว่าคุณสามารถเลี้ยงลูกของคุณได้แต่การที่คุณโทรหาภรรยาของผมอยู่บ่อยครั้ง เรียกร้องให้กลับไปคืนดีกันบ้าง กลับไปหาลูกบ้าง มันอาจจะเป็นสิ่งยืนยันว่ามิลินเองก็ต้องการแม่เหมือนกัน ผมรักคริส ลูกของคริสก็เหมือนลูกของผม ผมไม่มีวันทำร้ายเขา หากคุณยอมให้เขามาอยู่กับพวกเรา'

'ไม่มีวัน หากจะมีวันนั้น ก็คงเป็นวันที่ฉันไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้!'

'แต่คริสเองก็เจ็บปวด เขาคิดถึงลูก เขาอยากไปหาลูกบ้าง แต่คุณกลับกีดกัน ไม่ยอมให้เขาไปเพียงเพราะว่าเขาให้ผมไปด้วย ผมรู้ว่าคุณยังรักคริส แต่คริสเลิกกับคุณแล้ว เขาเป็นภรรยาของผม ซึ่งผมไม่สามารถปล่อยภรรยาผมให้ไปบ้านของคุณ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าคุณไม่เคยคิดที่จะปล่อยเธอไป'

'เรื่องระหว่างเรามันจบแล้วนะคะแม็กซ์ เราเลิกกัน แต่กับลูก...'

'หุบปาก ก็ในเมื่อเธอเลือกมัน เธอก็ไม่ควรมีสิทธิ์อะไรในตัวลูกทั้งนั้น จะให้ฉันปล่อยลูกให้ไปอยู่กับเธอและผัวใหม่ ฉันไม่มีวันทำ ให้ตายก็ไม่มีวันยอม!'

คริสตินาร้องไห้ ในขณะที่สามีใหม่ของเธอโอบกอดเพื่อปลอบใจ แววตาที่เห็น คือคริสตินาเสียใจ แต่มันคงน้อยกว่าที่ผมกับลูกเสียใจ เมื่อเขาเลือกที่จะทิ้งเราไป

ลูกคือแก้วตาดวงใจของผม ผมไม่มีวันปล่อยลูกของผมไปอยู่กับคนอื่นเป็นอันขาด ผมยังพยายามเชื่อว่าสีหน้าและแววตาของคริสที่ผมเห็น สักวันเธอคงจะคิดได้ ผมไม่มีวันปล่อยลูกไปอยู่กับพ่อใหม่ ซึ่งมันอาจจะทำร้ายและไม่สามารถรักลูกของผมให้เหมือนลูกในไส้ของมันได้ ผมเองก็ไม่อยากให้มิลินได้แม่ใหม่ เพราะคงไม่มีใครรักลูกผม ให้เหมือนมิลินเป็นสายเลือดของเธอได้เช่นกัน เพราะแบบนั้น ผมถึงยังรอให้คริสตินา กลับมาในสักวัน

เช้าวันใหม่

"คุณแม่จะยกข้าวต้มไปไหนครับ" ผมเดินเร็วๆ เข้ามาหามารดาเมื่อรอจังหวะที่ท่านยกชามเข้าต้มออกมาจากห้องครัว

"ยกไปให้เวกัส เขาเจ็บเพราะหลานแม่ แม่ควรรับผิดชอบ" น้ำเสียงที่ยังตึงๆ ทำให้ผมรับรู้ว่าแม่ยังโกรธผมเพราะเรื่องเมื่อคืน

"ผมขอยกไปเองได้ไหมครับ มิลินยังไม่ตื่น กลัวตื่นขึ้นมาแล้วจะร้องหาคุณย่า แล้วอีกอย่าง...ผมอยากไปขอโทษเวกัสด้วย!" ผมเดินเข้าไปหาพลางวางมือเหมือนจะแย่งถาดข้าวต้มมา

แต่ทว่า แม่ของผมไม่ยอมปล่อยมือ

"ทำไมถึงอยากขอโทษน้องล่ะ รู้ตัวว่าผิดเหรอ?" คำถามนั้นทำให้ผมชะงักไป แม้มีเหตุผลในใจ แต่ผมก็ไม่จำเป็นต้องพูดมัน

"ผมว่ายัยนั่นแรงไป อีกอย่าง ถ้าไม่ได้ยัยนั่น มิลินคงเจ็บตัวมาก"

"..." มารดาของผมเงียบไป แต่ยังทำเหมือนไม่ไว้ใจ

"เอาไปให้ แล้วผมจะกลับครับ ไม่ได้จะไปหาเรื่องอะไรทั้งนั้น"

"...ไม่ต้องดีกับน้องมากมาย แค่อย่าทำให้น้องเกลียดขึ้นมาก็พอ!" ว่าจบ แม่ผมก็ยอมปล่อยถาดชามข้าวต้มแต่โดยดี

"อย่าลืมทำแผล และให้น้องทานยาแก้ปวดด้วย!" ผมพยักหน้าเงียบๆ ก่อนที่มารดาของผมจะหมุนตัวเดินเข้าบ้านไปแบบเดิม

ผมพ่นลมหายใจออกมาจากปากหนักๆ จริงๆ คนอย่างผมไม่ชอบทำอะไรที่มันซับซ้อน ไม่เคยคิดที่จะยุ่งกับใคร เพราะหวังผลประโยชน์อะไร แต่หากมันจำเป็น ผมว่าผมก็คงต้องทำ

บ้านของเวกัส

ผมยังสามารถเดินเข้ามาในบ้านของเวกัสได้อย่างง่ายดาย ประตูบ้านชั้นล่างยังสามารถเปิดได้ แล้วในจังหวะที่ผมเดินเข้าไปร่างเล็กของเจ้าของบ้านก็กำลังเดินลงจากบันไดมาพอดี

คนตัวเล็กผิวขาวอยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำกับกางเกงผ้าสบายๆ ขาสั้นสีเดียวกัน ใส่เหมือนไว้อาลัยใครซะอย่างนั้น

ผมวางถาดอาหารลงบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา ก่อนจะก้าวขายาวๆ ขึ้นไปขวางหน้าอีกคนที่กำลังเดินลงมา

เวกัสชะงัก แล้วกวาดสายตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าทันที

มองแบบนี้หมายความว่าไงวะ!

แว๊บเดียวเท่านั้นที่มองหน้าผม จากนั้นเธอก็เมินหน้าออกไปอีกทาง ทำเหมือนไม่สนร่างผมที่ขวาง เพราะเธอเลือกขยับตัวไปอีกทางแล้วทำท่าจะผ่านหน้าผมไป แต่ผมใช้จังหวะนั้นคว้าแขนเวกัสเอาไว้ได้ทัน

"แผลอาจจะตึงเดินเองคงไม่ถนัด เดี๋ยวฉันอุ้มไปก็แล้วกัน"

"มะ..." ผมไม่ได้รอให้ยัยนั่นตอบอะไร แต่เลือกที่จะสอดแขนเข้าไปช้อนร่างบางในท่าเจ้าสาว โดยที่เวกัสอาจจะตั้งตัวไม่ทัน

แขนเรียวเกี่ยวลำคอของผมไปกอดอัตโนมัติ ปลายจมูกของผมเฉียดแก้มยัยนั่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ แล้วทันทีที่ผมมองหน้า เธอก็หลบสายตาทันที

"ฉันทำดีกับเธอก็ได้ ไม่ว่าเธอแล้วก็ได้ แต่เตือนตัวเองเอาไว้ว่าอย่ารักฉัน เพราะคนที่จะเจ็บมันคือเธอ!"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แด๊ดดี้คนคูล   อ่อย

    MAXWELL : PARTตาแดงช้ำ! คงร้องไห้อีกตามเคย! ผมปรายตามองอีกคนในจังหวะที่เธอกำลังจะเดินผ่าน พลางดันลิ้นกับกระพุ้งแก้มเมื่อเห็นว่ายัยนั่นไม่มองหน้าผมเลยกลิ่นแป้งเด็ก และกลิ่นโลชั่นอ่อนๆ ผ่านจมูกผมไปในจังหวะที่เวกัสเดินผ่าน แต่ผมก็ไม่ได้คิดที่จะหันกลับไปมอง"ยัยนั่นมาฟ้องอะไรคุณแม่งั้นเหรอครับ" ผมตั้งคำถามอย่างไม่สบอารมณ์ ผมรู้อยู่แก่ใจว่ายัยนั่นเป็นอะไรอยากเฉย ก็เฉยให้ได้ตลอดก็แล้วกัน! "ทำไมต้องมองน้องในแง่ร้ายตลอด น้องแค่เหนื่อย" "เหนื่อยเหรอครับ แต่ที่ผมเห็น คือเวกัสร้องไห้แล้วกอดคุณแม่นะครับ มาฟ้องอะไรคุณแม่หรือเปล่า" ผมถามอย่างไม่แน่ใจ ใครจะไปรู้วะ เกิดยัยนั่นเล่าอะไรต่อมิอะไรให้แม่ผมฟัง ผมอาจจะพังได้เหมือนกัน"น้องแค่เหนื่อย เป็นธรรมดาของวัยรุ่นนั่นแหละแม็กซ์ น้องไม่มีใคร แม่ก็แค่กอดให้กำลังใจเท่านั้นเอง ทำเหมือนอิจฉาเลยนะเรา" "เปล่านี่ครับ ไม่ได้รู้สึกแบบนั้น จริงๆ ผมว่าคุณแม่ใจดีกับเวกัสมากเกินไปนะครับเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับครอบครัวเราด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่คุณแม่ทำ อย่างกับเขามีส่วนเกี่ยวข้องในครอบครัวของเราเลย" "ไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือด แต่เกี่ยวข้องทางความรู้สึก แม่รู้จั

  • แด๊ดดี้คนคูล   รักคนไม่มีหัวใจ

    VEGAS : PARTบ้านของแม็กซ์เวลล์คำว่า 'ของเล่น' ที่ออกมาจากปากของพี่แม็กซ์ มันควรเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันถอดใจนะ แต่ดูสิ เพียงแค่ฉันเห็นภาพน่ารักๆที่เขาหยอกล้อ คุยกันกระหนุงกระหนิงแบบพ่อลูก หัวใจของฉันกลับเต้นแรง พร้อมกับเผลออมยิ้มออกมา"ดีกันนะครับ คนสวยของแด๊ดดี้" คนเป็นพ่อชูนิ้วก้อยพร้อมกับขยับไปมาตรงหน้าบุตรสาว ใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้มเล็กๆ ในขณะที่ตาคมเฉียบคู่นั้น กระพริบปริบๆ เหมือนต้องการออดอ้อนไปมา"คูมพ่อไม่ดุพี่กัสแล้ว มิลินรักคูมพ่อค่ะ" แล้วจากนั้นนิ้วก้อยเล็กๆ ก็สอดเข้าไปเกี่ยวปลายนิ้วของบิดาทันที พ่อกับลูกเขายิ้มให้กัน กอดกัน บอกรักกัน ภาพแบบนั้นเป็นอะไรที่อบอุ่นหัวใจที่สุดเลย"พี่กัสเจ็บแผลไหมคะ" แล้วคนตัวเล็กก็หันมาหาฉันที่แอบมองอยู่ใกล้ๆ ฉันจึงรีบส่ายหน้ากลับไปรัวๆ"ไม่เจ็บแล้วค่ะ แผลแค่ตึงๆ นิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย" "มิลินเป่าแผลให้นะคะ" แล้วมิลินก็ทำแบบที่ว่าโดยการเป่าแผลของฉันเบาๆ ฝ่ามือของฉันสัมผัสกับศีรษะเล็กของเด็กน้อยวัยห้าขวบ แล้วยิ้มออกมาฉันรักมิลินจริงๆ นะ ฉันพบเด็กคนนี้มาตั้งแต่แรกเกิด น้องถูกแม่ทิ้งตั้งแต่ไม่ทันได้รู้เรื่องอะไร ชีวิตของน้องคล้ายฉัน คล้ายฉันในหล

  • แด๊ดดี้คนคูล   แค่สงสาร

    VEGAS : PART"ฉันทำดีกับเธอก็ได้ ไม่ว่าเธอแล้วก็ได้ แต่เตือนตัวเองเอาไว้ ว่าอย่ารักฉัน เพราะคนที่จะเจ็บมันคือเธอ!"อืม คนที่เจ็บมันคือฉัน คือฉันคนเดียวจริงๆ เจ็บทั้งตัว เจ็บไปทั้งหัวใจ!ฉันไม่น่ามารู้สึกกับคนใจร้ายแบบเขาเลย!พี่แม็กซ์อุ้มฉันแล้วพาเดินลงมาจากบันไดจากชั้นบนสุดของบ้าน ความใกล้ชิดในแบบที่ไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้ฉันได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเขาอย่างชัดเจน ทุกครั้งที่ได้กลิ่น มันทำให้ลมหายใจของฉันพ่นออกมาอย่างติดขัด มันมีอิทธิพลเหมือนตอนที่เขาเลื่อนสายตามามองสบตากับฉัน เพราะแบบนั้น ทำให้ฉันเลือกที่จะเมินหน้าออกไปอีกทาง"ไม่ต้องมาทำเป็นเมินฉัน แขนเธอที่กอดคอฉันอยู่มันแน่นพอที่จะทำให้ฉันรู้ว่าเธอตื่นเต้นมาก" "..." คำพูดนั้นส่งผลให้ฉันคลายวงแขนออกจากลำคอของเขาอัตโนมัติ แต่ทันทีที่ฉันทำแบบนั้น ร่างของฉันก็เหมือนจะร่วงลงสู่พื้นเสียง่ายๆ ความตกใจทำให้ฉันรวบลำคอเขาไว้แบบเดิมพอเลื่อนสายตามองหน้าเขา ก็เห็นรอยยิ้มแห่งความพอใจ ผุดขึ้นที่มุมปาก"เธอเนี่ย จะว่าอ่านง่ายมันก็ง่าย จะว่าอ่านยากมันก็ยากนะ แอบชอบฉันมาหลายปี ผู้หญิงแบบนี้ไม่น่าจะยังซิงด้วยซ้ำ ทำตัวแรดทั้งที่ยังเด็กมาก" ฉันเม้มปาก หั

  • แด๊ดดี้คนคูล   คำเตือน

    MAXWELL : PARTปลายลิ้นร้อนดันเข้าหากระพุ้งแก้มอย่างหงุดหงิด เกิดมาผมไม่เคยต้องมาทำอะไรงี่เง่าแบบนี้เลยสักนิด"ขอโทษ!" ผมพูดออกไปพร้อมกับตวัดสายตาไปมองหน้าเวกัสใหม่ ยัยนั่นยังคงยกมือปาดน้้ำตาออกจากแก้มลวกๆ ปากอิ่มเม้มเข้ากันจนมันเป็นเส้นตรง เธอไม่ได้คิดจะสนคำพูดของผมเลย"บอกว่าขอโทษไงเวกัส" "กลับไปเถอะค่ะ กัสไม่อยากเห็นหน้าพี่แม็กซ์แล้ว กัสรำคาญ!" ยัยบ้านี่! ผมบดกรามอย่างหงุดหงิด หากไม่คิดได้ว่าเธอมีความสำคัญต่อมิลินแค่ไหน ผมจะไม่สน ไม่เสียเวลามายืนขอโทษแบบนี้เลย"ตกลงจะไม่รับคำขอโทษจากฉัน?" ผมเลิกคิ้วถาม แต่ยัยนั่นกลับเงียบปาก ผมจึงเลือกที่จะเดินไปหยุดที่ตรงหน้ายัยนั่นแทน"ที่พูด ฟังอยู่ไหมวะ!" ผมตะคอกออกมาเสียงดัง ยัยนั่นถึงกับลุกพรวดพราดเผชิญหน้ากับผมทันที"คำขอโทษที่ไม่ได้ออกมาจากใจ ใครจะอยากรับไว้ กัสบอกให้พี่แม็กซ์กลับไปไง กลับไปเลย ไม่ต้องมายุ่งกับกัสเลย" เป็นอีกครั้งที่ผมกำลังอ้าปากเตรียมตอบกลับ แต่ทว่า น้ำตาของยัยนั่นกลับไหลพราก เออดีว่ะ พอตัวเองตะคอกบ้าง แล้วมาร้องไห้เองแบบนั้น แล้วจะให้กูทำยังไงวะ!"กัสรู้ว่าพี่แม็กซ์มาเพราะโดนคุณป้าว่า แต่พี่แม็กซ์ก็ไม่จำเป็นต้องแคร์นี่ค

  • แด๊ดดี้คนคูล   อวดดี

    MAXWELL : PARTบ้านของแม็กซ์เวลล์หลังจากที่ไอ้นิกกี้กระแนะกระแหนผมจนจบบทใหญ่ๆ มันก็ขอตัวกลับไป และไม่ลืมที่จะทิ้งท้ายเอาไว้ '...ถ้ามึงไม่หยุดทำร้ายคนที่ดีกับมึง เดี๋ยวกูเป่าหูให้น้องเกลียดขี้หน้ามึงแม่งเลย!'ผมคิดถึงคำนั้นพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก อย่างยัยนั่นน่ะนะ จะเกลียดขี้หน้าผมได้ เชื่อไหมล่ะว่าต่อให้ผมจะร้ายใส่แค่ไหน หากโดนผมเอาใจนิดหน่อยคงหลงผมจะเป็นจะตาย ซื่อบื้อ ขี้แย ไม่ทันใครแบบยัยนั่น ครองความโสดความซิงมาได้ไงกันตั้งยี่สิบกว่าปี สภาพนี้ไม่น่ารอดมือใครต่อใครจนตกมาอยู่ในมือของผมได้เลย!ผมคีบบุหรี่ออกจากปากเมื่อสายตาปะทะกับร่างของมารดาที่พึ่งเดินเข้ามาในรั้วบ้าน พบผมนั่งสูบบุหรี่ที่สวนข้างบ้าน ดูก็รู้ ว่าผมคงโดนกระทงใหญ่ๆ อีกหนึ่งกระทง"สบายใจแล้วใช่ไหมที่ทำเขาร้องไห้ได้" ประโยคธรรมดาๆ กับสีหน้าเรียบเฉยของแม่ทำผมชะงักไปทันที ผมดับบุหรี่ที่อยู่ในมือพร้อมกับเมินหน้าออกไปอีกทาง"เกลียดน้องงั้นเหรอแม็กซ์" "ไม่ได้เกลียดครับ แค่ไม่ชอบที่ยัยนั่นบอกมิลินเรื่องคริส" "แล้วมันไม่ใช่ความจริงงั้นเหรอ คริสตินาจะกลับมาหาลูก กลับมาหาผัว ทั้งที่ทิ้งลูกทิ้งผัวไปตั้งแต่ลูกได้แค่เดือนเดียวน่ะน

  • แด๊ดดี้คนคูล   BAD BOY

    VEGAS : PARTบ้านแม็กซ์เวลล์"มิลินทำแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ ย่าบอกหลายครั้งแล้วว่ามิลินจะข้ามถนนโดยไม่มีผู้ใหญ่พาไปแบบนี้ไม่ได้!" เสียงป้ามารีญาดุจริงจัง พี่นิกกี้วางร่างฉันลงบนโซฟา เสียงมิลินร้องไห้ยังดังเล็ดเข้ามาเป็นระยะๆ แต่ฉันไม่ได้คิดจะขัดอะไรเพราะเรื่องที่มิลินข้ามถนนโดยไม่มีผู้ใหญ่มาด้วยเป็นเรื่องที่อันตรายจริงๆ หากฉันไม่เห็นเข้า ครั้งนี้อาจจะพลาดพลั้งจนเกิดอันตรายซึ่งฉันเห็นดีว่าควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลม อบรมมิลินให้เข้าใจจะได้ไม่กล้าทำแบบนี้ซ้ำ"พี่กัสต้องเจ็บตัวเพราะหนู หนูรู้ตัวหรือเปล่า" มิลินยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น แขนเล็กๆ รวบลำคอแด๊ดดี้ของน้องไปกอดไม่ยอมห่าง โดยที่แด๊ดดี้ของน้องมองมาที่ฉันอย่างไม่สบอารมณ์"ฟังที่ย่าสอนหรือเปล่า คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกเข้าใจไหม" "พอเถอะครับแม่ มิลินยังเด็ก แล้วเด็กจะไปรู้เรื่องอะไร มิลินไม่ได้ตั้งใจหรอกครับ""หยุดเถียงแทนลูกนะแม็กซ์เวลล์ มิลินห้าขวบ บางอย่างไม่รู้ แต่ผู้ใหญ่ควรบอกควรสอน บ้านอยู่ติดถนนเป็นเรื่องที่อันตราย ผู้ใหญ่ควรประกบก็จริง แต่มิลินควรรู้และจดจำว่าการข้ามถนนเพียงลำพังมันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ!" "คุณแม่จะเอาแต่โทษหลานคุณแม่ที่อาย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status