แชร์

ความทรงจำ(3)

ผู้เขียน: ญาณิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-02 20:56:58

วันต่อมา

ณ ห้างสรรพสินค้า

“เมื่อไหร่พี่ชายข้าวจะกลับอ่ะ...” ทอฝันเดินเอียงไหล่มากระแทกฉันเบาๆ ทำท่าบิดตัวเขินอายม้วนต้วนทันทีที่เอ่ยถึง ‘พี่ครินต์’

 

 

“อีก 6 เดือน” ฉันตอบกลับเรียบๆ แสร้งทำเป็นไม่สนใจอาการระริกระรี้ของเพื่อนสาว ทอฝันปลื้มพี่ชายฉันมาตั้งแต่พี่เขาเรียนหมอปี 1 จนตอนนี้พี่ครินต์อายุ 25 เข้าไปแล้ว ความคลั่งไคล้ของนางก็ยังไม่ลดลงเลย

 

“แล้วพี่ครินต์มีแฟนหรือยังอ่ะ” ยัยตัวดีเอานิ้วมาจิ้มๆ ที่ต้นแขนฉัน ยืนบิดไปบิดมาไม่เลิก จะเขินอะไรเบอร์นั้นแม่คุณ

 

“ไม่รู้สิ... น่าจะมีแล้วมั้ง ไม่ได้ถามเหมือนกัน” ฉันแกล้งตอบพลางลอบสังเกตสีหน้าเพื่อน พอได้ยินแบบนั้นหน้าตาที่ยิ้มแย้มเมื่อกี้ก็จ๋อยสนิททันตาเห็น ฉันต้องกัดริมฝีปากกลั้นขำแทบตาย

 

“ล้อเล่นน่า! พี่ครินต์เรียนหนักจะตาย จะเอาเวลาที่ไหนไปมีแฟน อีกอย่างถ้าพี่ครินต์มีแฟน พี่ต้องบอกฉันก่อนอยู่แล้ว” ฉันรีบเฉลยเมื่อเห็นทอฝันทำหน้าเหมือนโลกจะแตก

 

“พูดจริงนะ! งั้นฉันก็ยังมีโอกาสสิ!” ทอฝันตาโต หูผึ่งขึ้นมาทันที

“...ยัยบ๊องเอ๊ย” ฉันย่นจมูกใส่เพื่อนก่อนจะออกเดินต่อ ทอฝันนี่อาการหนักจริง เคยบอกอยากเป็นหมอตามพี่ครินต์ แต่พอนางเห็นเลือดก็จะเป็นลม เลยต้องพับโครงการฝันสลายไป

 

“ข้าวรอด้วย! ฝันพูดจริงนะ ฝันจะจีบพี่หมอ!” ทอฝันรีบวิ่งมาเกาะแขนฉัน ทำหน้าจริงจัง “ฝันจะสารภาพรักกับพี่หมอ และพี่หมอต้องรับรักฝันด้วย ฝันมั่นใจ!”

นางก็เป็นแบบนี้แหละ สมชื่อ ‘ทอฝัน’ เพ้อเจ้อเก่งเป็นที่หนึ่ง เห็นใครหล่อเป็นไม่ได้ ใจง่ายอยากได้เป็นแฟนไปหมด... เฮ้อ เหนื่อยใจแทน

 

“ข้าว!!! ดูนั่นเร็ว! พี่กวินนี่นา... ที่เพิ่งจบไปเมื่อปีที่แล้วใช่มั้ย พี่เขาทำไมหล่อวัวตายควายล้มแบบนี้ หล่อจริงๆ นะแก!”

นั่นไง... ขาดคำซะที่ไหน เจอคนหล่อปุ๊บเป้าหมายเปลี่ยนปั๊บ แต่นิสัยนางก็แปลก พอมีผู้ชายเข้ามาจีบจริงๆ กลับปฏิเสธเสียงแข็ง บอกไม่อยากมีแฟน ชอบที่จะมโนเพ้อพกอยู่คนเดียวมากกว่า

 

“ฝันเปลี่ยนใจละ... ฝันจะจีบพี่กวิน!” ดูนางสิ มองตามพี่กวินตาละห้อยเชียว ฉันได้แต่ส่ายหัวยิ้มๆ ให้กับความโลเลของเพื่อน

 

“ฝันฝากขอโทษพี่ชายข้าวด้วยนะ คือฝันรักพี่กวินมากกว่าแล้วอ่ะ” นางหันมาทำหน้าเศร้าสำนึกผิดแบบเล่นใหญ่ เรื่องมโนนี่ไว้ใจนางได้เลย ที่หนึ่งในตองอู

 

“สบายใจแล้วใช่มั้ย... ถ้าพอใจแล้วก็ไปหาอะไรกินได้แล้ว ฉันหิว!” ฉันแกล้งดุ มัวแต่เพ้อเจ้อไม่ได้กินข้าวกันพอดี

 

“แฮ่!!! ข้าวก็รู้ทันฝันตลอดแหละ ไปกันเถอะเพื่อนรัก ฝันรักข้าวที่สุดในโลกเลย”

“ไม่ต้องมาทำหน้าอ้อนเลย ทีเมื่อกี้มองผู้ชายตาละห้อยเชียวนะ” ฉันแกล้งงอนตุ๊บป่องที่เพื่อนเห็นผู้ชายดีกว่า

 

“ข้าว!!! เอางี้... วันนี้ฝันเลี้ยงเอง แล้วพอเราสอบติดมหาลัยเมื่อไหร่ เราไปเที่ยวทะเลกันนะ” ทอฝันวิ่งมาดักหน้า ยื่นข้อเสนออย่างจริงจัง

 

“.......ก็ได้ ของฟรีข้าวชอบ!!” ฉันแกล้งทำท่าครุ่นคิดก่อนจะหลุดยิ้มออกมาแล้วตอบตกลง

เราสองคนก็เป็นแบบนี้แหละ แกล้งงอนกันไปมาแต่ไม่เคยโกรธกันจริงจังสักครั้ง ตั้งแต่รู้จักกันมา 3 ปีกว่า เราไม่เคยทะเลาะกันเลย ถึงทอฝันจะดูเอาแต่ใจเพราะเป็นลูกสาวคนเล็ก เป็นลูกหลงที่อายุห่างจากพี่ชายทั้งสองคนเป็นสิบปี ทำให้ที่บ้านตามใจมากเป็นพิเศษ แถมบ้านนางยังรวยล้นฟ้า แต่ทอฝันไม่เคยทำตัวอวดรวยหรือถือตัวเลยสักนิด กลับทำตัวติดดินสุดๆ

 

เพราะแบบนี้เราถึงเป็นเพื่อนสนิทที่รักกันมาก พ่อแม่ของทอฝันก็น่ารัก ไม่เคยรังเกียจฐานะของฉันเลย เวลาไปเที่ยวบ้าน ท่านก็ต้อนรับขับสู้ดูแลฉันเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง

 

หลังจากทานข้าวอิ่มหนำ เราสองคนก็เดินเลือกดูเสื้อผ้ากันต่อ การได้อยู่กับทอฝันทำให้ฉันยิ้มได้เสมอ... โดยที่ฉันไม่รู้ตัวเลยว่า ในมุมมืดของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ กำลังมีภัยร้ายคืบคลานเข้ามาใกล้ตัว

 

...

“หึ... ใบข้าวก็ถือว่าใช้ได้ ถึงจะดูเด็กไปหน่อย แต่รูปร่าง... ไม่เด็กเลยสักนิด แบบนี้สิมันถึงจะสนุก”

 

ท่ามกลางผู้คนมากมาย ใบข้าวที่กำลังเพลิดเพลินกับการเลือกเสื้อผ้า ไม่ทันได้สังเกตเห็นสายตาคมกริบของสัตว์ร้ายที่กำลังจับจ้องเธออยู่... สายตาที่มองประเมินเธอราวกับ ‘เหยื่อ’ อันโอชะที่เขาพร้อมจะตะครุบขย้ำกินได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

 

“อีกไม่นานเจอกันนะ... สาวน้อย”

 

ชายหนุ่มร่างสูงสง่า ใบหน้าหล่อเหลาคมคายภายใต้เสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพงระยับ กระตุกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะสวมแว่นกันแดดอำพรางสายตา แล้วเดินหันหลังกลับไปขึ้นรถหรูที่มีลูกน้องนับสิบยืนคอยอารักขาอยู่

 

“นี่ครับนาย” ทันทีที่ก้าวขึ้นรถ ลูกน้องคนสนิทก็ยื่นเอกสารบางอย่างมาให้

 

“ออกรถ!!” เขาออกคำสั่งเสียงเข้ม

 

มือหนาหยิบรูปถ่ายใบหนึ่งขึ้นมาพิจารณา... รูปของเด็กสาวที่เขาเพิ่งไปดูตัวจริงมาเมื่อครู่ เขาพลิกรูปไปมา รอยยิ้มร้ายกาจผุดขึ้นบนใบหน้า... รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยแผนการอันแยบยล

 

“ฉันจะทำยังไงกับเธอดีนะ... เด็กน้อย”

“รับรองได้เลยว่า... เธอจะต้องจำชื่อฉันไปจนวันตาย หึ...”

เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นอย่างน่าขนลุก สายตาที่เคยเย็นชาแปรเปลี่ยนเป็นความเลือดเย็นอำมหิต สำหรับนักล่าอย่างเขา... ไม่เคยมีความเมตตาปรานีให้แก่เหยื่อ

 

แม้ครั้งนี้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เขาพิศวาสนัก แต่เพื่อเป้าหมายที่ต้องการ... ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้

“เธอต้องเป็นของฉัน... ใบข้าว”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แผนร้ายพิชิตใจยัยเมียเด็ก   น่ากลัว(2)

    “พี่เขาจะมาดูแลธุรกิจแทนพ่อสักระยะ เพราะพ่อต้องไปรักษาตัวที่อเมริกา” พ่อพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดลงอย่างเห็นได้ชัด ฉันเองก็พอจะรู้ว่าพ่อไม่สบาย แต่ไม่คิดว่าอาการจะหนักขนาดนี้“ในเมื่อข้าวตัดสินใจจะดูแลบริหารงานแทนพ่อ พ่อก็เบาใจ แต่ข้าวยังเด็กและยังเรียนไม่จบ พ่อเลยให้พี่เขามาช่วยดูแลระหว่างที่พ่อไม่อยู่” พ่อยิ้มให้อย่างอบอุ่นฉันพูดอะไรไม่ออก ที่พูดออกไปแบบนั้นก็เพราะแค่อยากเอาชนะผู้หญิงคนนั้น ซึ่งตอนนี้เธอก็กำลังยิ้มอย่างพึงพอใจแปลกๆ พ่อเป็นคนไม่ไว้ใจใครง่ายๆ คนที่ท่านเลือกมาดูแลงานและสอนฉัน คงต้องเป็นคนดีและเก่งกาจจริงๆ ฉันจึงคิดว่าเรื่องนี้คงไม่มีปัญหาอะไร“ค่ะ พ่อไม่ต้องเป็นห่วงข้าวนะคะ” ฉันยิ้มให้พ่อเพื่อให้ท่านสบายใจจะได้ไม่ต้องคิดมาก“ขอโทษครับที่ผมมาช้า”ฉันตัวแข็งทื่อทันทีที่ได้ยินเสียง... เสียงนี้มัน... เหมือนกับเสียงเขาคนนั้น! หรือฉันจะคิดมากและกลัวเขาจนได้ยินเสียงใครก็เป็นเขาไปหมด?“นี่ไงข้าว คนที่จะมาทำงานและสอนข้าว”ฉันหันหน้าไปมองและยกมือไหว้ แต่แล้วก็ต้องตกใจจนเบิกตากว้าง... เขาจริงๆ!“สวัสดีครับคุณลุง” เจเคทักทายพ่อฉันก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากมองมาที่ฉันอย่างเย็นชา เขาไ

  • แผนร้ายพิชิตใจยัยเมียเด็ก   น่ากลัว(1)

    หลายวันผ่านไป“ข้าว เลิกเรียนแล้วไปดูหนังกันมั้ย”“ไว้วันหลังแล้วกัน วันนี้ข้าวมีนัดทานข้าวกับพ่อ”“ว้า เสียดายจัง” ทอฝันทำหน้าเศร้าทันที“ไว้วันเสาร์เราไปดูหนังกันนะ ข้าวเลี้ยงเอง” ฉันเดินไปนั่งข้าง ๆ ทอฝัน“จริงนะ” ทอฝันยิ้มดีใจใหญ่ คือตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่ออกไปไหนเพราะกลัวเจอผู้ชายคนนั้นอีก แต่ก็ยังดีที่ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้เจอเขาอีก และตอนนี้ฉันก็เปลี่ยนรหัสห้องเปลี่ยนคีย์การ์ดเรียบร้อยแล้วเลิกเรียนฉันเดินออกมาพร้อมทอฝัน ก่อนจะเดินไปเรียกแท็กซี่เพื่อไปหาพ่อ ทีแรกฝันจะไปส่งแต่มันอยู่คนละทางกับทางไปคอนโด เกรงใจทอฝันเลยนั่งแท็กซี่ไปเอง“สวัสดีครับ คุณใบข้าวใช่มั้ยครับ” ทันทีที่ถึงร้านพนักงานในร้านก็เดินเข้ามาหาทันที“ใช่ค่ะ” ฉันตอบสั้น ๆ“เชิญทางนี้ครับ คุณภูษิตรอคุณอยู่” วันนี้พ่อทำตัวแปลก ๆ เพราะปกติเวลานัดทานข้าวพ่อต้องให้ฉันเลือกร้านเอง แต่วันนี้พ่อเลือกร้าน และร้านนี้ก็ดูดีดูหรูมากฉันเดินตามพนักงานเข้าไปในร้าน ระหว่างที่เดิน ๆ อยู่ฉันรู้สึกเหมือนมีใครกำลังมองอยู่ตลอด แต่พอหันไปมองก็ไม่เห็นใคร“ถึงแล้วครับ”“ห้องนี้เหรอคะ?” ฉันจ้องหน้าถามพนักงาน“ครับ ถ้าไม่มีอะไรผมขอตัวนะครั

  • แผนร้ายพิชิตใจยัยเมียเด็ก   ใคร (2)

    “รับผิดชอบบ้าอะไร! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” ฉันไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่วินาทีนี้รู้เพียงอย่างเดียวว่าต้องหลุดจากอ้อมแขนที่แข็งแกร่งราวคีมเหล็กนี้ให้ได้“หึ... ไม่ง่ายแบบนี้สิ ถึงจะสนุก” เขายกมุมปากเค้นเสียงหัวเราะในลำคอ ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้จนฉันสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมเย็นๆ“ได้โปรด... ปล่อยข้าวไปเถอะ อย่าทำอะไรข้าวเลย... อึก” ฉันเงยหน้าขึ้นอ้อนวอน น้ำเสียงสั่นเครือจนแทบเป็นลม ตอนนี้ความกลัวถาโถมเข้ามาจนรู้สึกเหมือนกำลังจะร้องไห้“เอาล่ะ วันนี้ฉันจะปล่อยเธอไปก่อน... แต่ครั้งหน้าเธอไม่รอดแน่” เขาพูดเรียบๆ แต่แววตาเย็นยะเยือกจ้องมองมาอย่างน่าหวาดหวั่น ก่อนสายตาคมกริบจะเลื่อนลงไปสำรวจซอกคอและหน้าอกของฉันจ๊วบ!!!ยังไม่ทันที่ฉันจะได้หายใจ เขาก็ฉวยโอกาสก้มลงซุกไซ้ซอกคออย่างหื่นกระหายและรุนแรง“ฮือ!! ปล่อยนะข้าวเจ็บ!!” ฉันร้องประท้วงด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง มันเจ็บแปลบเหมือนเนื้อกำลังจะฉีกขาด แต่เขาไม่สนใจเสียงร้องต้านของฉันเลยแม้แต่น้อย และไม่ยอมถอนริมฝีปากออกไป“ฝากไว้ก่อน... วันหลังจะมาเอาคืน” ในที่สุดเขาก็ผละปากออก มองหน้าฉันอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะยกนิ้วขึ้นปาดคราบเลือดจางๆ บนริมฝีปา

  • แผนร้ายพิชิตใจยัยเมียเด็ก   ใคร(1)

    “ฝันดีนะคะแม่...”ฉันกระซิบผ่านรูปถ่ายของแม่เหมือนเช่นทุกคืนก่อนนอน แต่วันนี้ความรู้สึกมันต่างออกไป เรื่องราวแย่ๆ ที่เพิ่งเจอมาทำให้ความโหยหาในอ้อมกอดของแม่ทวีความรุนแรงขึ้น ฉันกอดกรอบรูปแนบอกอยู่นาน ก่อนจะจำใจวางมันลงที่เดิมแล้วเอื้อมมือไปปิดไฟฉันพยายามข่มตานอน แต่ความหวาดระแวงทำให้สมองไม่ยอมหยุดคิด แม้จะย้ำกับตัวเองว่าล็อกห้องดีแล้ว และระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโดนี้ก็แน่นหนา แต่ความรู้สึกเหมือนมีใครบางคนจับตามองอยู่ตลอดเวลามันทำให้ฉันข่มตาไม่ลงตึก! ตึก!ท่ามกลางความเงียบสงัด เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากด้านนอกห้อง ก่อนจะหยุดนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน... หัวใจฉันเต้นรัวเร็วขึ้นทันที“ฉันไม่ได้หูฝาดแน่...” ฉันดีดตัวลุกจากเตียง รีบเดินไปเปิดไฟและคว้าของใกล้มือมาถือไว้ป้องกันตัวแกร๊ก!ฉันกลั้นใจเปิดประตูออกไปช้าๆ กวาดสายตามองไปรอบห้องนั่งเล่นที่ว่างเปล่า... ไม่มีใคร? หรือฉันจะคิดมากไปเองจริงๆ“เหมียว~”“ออเดรย์!” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นเจ้าแมวน้อยขี้อ้อนเดินนวยนาดเข้ามาหา“แอบหนีมาเที่ยวห้องพี่ข้าวอีกแล้วนะ พี่ฟ้าไม่อยู่ล่ะสิ” ฉันอุ้มเจ้าเหมียวขึ้นมา เจ้าออเดรย์เป็นแมวข

  • แผนร้ายพิชิตใจยัยเมียเด็ก   ความทรงจำ(3)

    วันต่อมาณ ห้างสรรพสินค้า“เมื่อไหร่พี่ชายข้าวจะกลับอ่ะ...” ทอฝันเดินเอียงไหล่มากระแทกฉันเบาๆ ทำท่าบิดตัวเขินอายม้วนต้วนทันทีที่เอ่ยถึง ‘พี่ครินต์’ “อีก 6 เดือน” ฉันตอบกลับเรียบๆ แสร้งทำเป็นไม่สนใจอาการระริกระรี้ของเพื่อนสาว ทอฝันปลื้มพี่ชายฉันมาตั้งแต่พี่เขาเรียนหมอปี 1 จนตอนนี้พี่ครินต์อายุ 25 เข้าไปแล้ว ความคลั่งไคล้ของนางก็ยังไม่ลดลงเลย “แล้วพี่ครินต์มีแฟนหรือยังอ่ะ” ยัยตัวดีเอานิ้วมาจิ้มๆ ที่ต้นแขนฉัน ยืนบิดไปบิดมาไม่เลิก จะเขินอะไรเบอร์นั้นแม่คุณ “ไม่รู้สิ... น่าจะมีแล้วมั้ง ไม่ได้ถามเหมือนกัน” ฉันแกล้งตอบพลางลอบสังเกตสีหน้าเพื่อน พอได้ยินแบบนั้นหน้าตาที่ยิ้มแย้มเมื่อกี้ก็จ๋อยสนิททันตาเห็น ฉันต้องกัดริมฝีปากกลั้นขำแทบตาย “ล้อเล่นน่า! พี่ครินต์เรียนหนักจะตาย จะเอาเวลาที่ไหนไปมีแฟน อีกอย่างถ้าพี่ครินต์มีแฟน พี่ต้องบอกฉันก่อนอยู่แล้ว” ฉันรีบเฉลยเมื่อเห็นทอฝันทำหน้าเหมือนโลกจะแตก “พูดจริงนะ! งั้นฉันก็ยังมีโอกาสสิ!” ทอฝันตาโต หูผึ่งขึ้นมาทันที“...ยัยบ๊องเอ๊ย” ฉันย่นจมูกใส่เพื่อนก่อนจะออกเดินต่อ ทอฝันนี่อาการหนักจริง เคยบอกอยากเป็นหมอตามพี่ครินต์ แต่พอนางเห็นเลือดก็จะเป็นลม เลยต

  • แผนร้ายพิชิตใจยัยเมียเด็ก   ความทรงจำ(2)

    “แล้วพ่อล่ะ... พ่อเหลือลูกแค่คนเดียวนะข้าว”“ข้าวรักพ่อนะคะ พ่อมาหาข้าวได้ตลอดถ้าพ่อคิดถึง แต่ให้ข้าวกลับไปอยู่กับพ่อ... ข้าวคงทำไม่ได้” ฉันตอบเสียงแผ่ว “ข้าวขอโทษจริงๆ ค่ะ”“โอเค พ่อเข้าใจ... เอาไว้ข้าวพร้อมจะกลับเมื่อไหร่ค่อยบอกพ่อนะ พ่อรอข้าวเสมอ”“พ่อรักข้าวนะลูก...” พ่อเดินเข้ามาใกล้ สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด“พ่อมันโง่เองที่ยอมปล่อยข้าวกับแม่ไปในวันนั้น” น้ำเสียงของพ่อสั่นเครือจนน่าใจหาย“เมื่อก่อนข้าวยอมรับว่าข้าวโกรธพ่อมาก แต่ตอนนี้ข้าวไม่ได้โกรธพ่อแล้วค่ะ... แต่ข้าวแค่ไม่อยากเจอหน้าผู้หญิงคนนั้น พ่อเข้าใจข้าวนะคะ”“พ่อเข้าใจ... พ่อจะรอ รอวันที่ข้าวโตพอที่จะกลับไปดูแลธุรกิจที่เป็นของข้าวเองนะลูก”สิ้นคำพูด พ่อก็ดึงฉันเข้าไปกอด... “พ่อรักข้าวนะ”“ข้าวก็รักพ่อค่ะ...” ฉันพูดเสียงเบาหวิว ก่อนจะค่อยๆ ยกมือขึ้นกอดตอบท่านฉันกอดพ่อไว้แน่น ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างสุดกลั้น อ้อมกอดของพ่อยังคงอุ่นเหมือนตอนที่ฉันยังเด็ก แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ความรู้สึกนี้ฉันจำได้ไม่เคยลืม มันคืออ้อมกอดที่ฉันโหยหามาตลอดหลายสิบปี“พ่อดูแลตัวเองด้วยนะคะ อย่าทำงานหนักจนลืมดูแลสุขภาพ” ฉันผละ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status