Share

ความทรงจำ(2)

last update Last Updated: 2025-12-02 20:53:13

“แล้วพ่อล่ะ... พ่อเหลือลูกแค่คนเดียวนะข้าว”

“ข้าวรักพ่อนะคะ พ่อมาหาข้าวได้ตลอดถ้าพ่อคิดถึง แต่ให้ข้าวกลับไปอยู่กับพ่อ... ข้าวคงทำไม่ได้” ฉันตอบเสียงแผ่ว “ข้าวขอโทษจริงๆ ค่ะ”

“โอเค พ่อเข้าใจ... เอาไว้ข้าวพร้อมจะกลับเมื่อไหร่ค่อยบอกพ่อนะ พ่อรอข้าวเสมอ”

“พ่อรักข้าวนะลูก...” พ่อเดินเข้ามาใกล้ สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

“พ่อมันโง่เองที่ยอมปล่อยข้าวกับแม่ไปในวันนั้น” น้ำเสียงของพ่อสั่นเครือจนน่าใจหาย

“เมื่อก่อนข้าวยอมรับว่าข้าวโกรธพ่อมาก แต่ตอนนี้ข้าวไม่ได้โกรธพ่อแล้วค่ะ... แต่ข้าวแค่ไม่อยากเจอหน้าผู้หญิงคนนั้น พ่อเข้าใจข้าวนะคะ”

“พ่อเข้าใจ... พ่อจะรอ รอวันที่ข้าวโตพอที่จะกลับไปดูแลธุรกิจที่เป็นของข้าวเองนะลูก”

สิ้นคำพูด พ่อก็ดึงฉันเข้าไปกอด... “พ่อรักข้าวนะ”

“ข้าวก็รักพ่อค่ะ...” ฉันพูดเสียงเบาหวิว ก่อนจะค่อยๆ ยกมือขึ้นกอดตอบท่าน

ฉันกอดพ่อไว้แน่น ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างสุดกลั้น อ้อมกอดของพ่อยังคงอุ่นเหมือนตอนที่ฉันยังเด็ก แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ความรู้สึกนี้ฉันจำได้ไม่เคยลืม มันคืออ้อมกอดที่ฉันโหยหามาตลอดหลายสิบปี

“พ่อดูแลตัวเองด้วยนะคะ อย่าทำงานหนักจนลืมดูแลสุขภาพ” ฉันผละออกมายิ้มให้ท่าน ความรู้สึกตอนนี้เหมือนยกภูเขาออกจากอก กำแพงทิฐิที่เคยกั้นกลางระหว่างเราสองพ่อลูกได้พังทลายลงแล้ว

“พ่อจะหาเวลามาหาข้าวบ่อยๆ นะ ดูแลตัวเองด้วย มีอะไรขาดเหลือบอกพ่อได้ทันที พ่อช่วยข้าวได้ทุกเรื่อง... พ่ออยากชดเชยทุกอย่างให้ข้าว” พ่อเอามือลูบหัวฉันพร้อมรอยยิ้มที่แสนอบอุ่น

“ค่ะพ่อ” ฉันเขย่งตัวหอมแก้มพ่อ อยากจะทำแบบนี้ทุกวันแต่คงทำได้แค่ฝัน

“กลับดีๆ นะคะ บ๊ายบาย” ฉันโบกมือลา ยืนมองจนรถของพ่อแล่นออกไปจนลับสายตา ก่อนจะเดินกลับขึ้นห้อง

ทันทีที่ถึงห้อง ฉันก็ตรงเข้าไปหารูปแม่...

“แม่คะ... แม่ไม่ว่าข้าวใช่มั้ยที่ข้าวให้อภัยพ่อ”

“ข้าวไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง แต่ข้าวอยากใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข... แม่เข้าใจข้าวนะคะ”

“ข้าวรักแม่... คิดถึงแม่ทุกวันเลยรู้มั้ย” ฉันพูดคุยกับรูปถ่ายคู่แม่ลูกใบเดิม กอดกรอบรูปไว้แน่นทั้งน้ำตาที่นองหน้า “ข้าวคิดถึงแม่...”

“ข้าวจะเข้มแข็ง ข้าวจะอยู่เพื่อแม่ค่ะ” ก่อนตายแม่สั่งเสียให้ฉันเข้มแข็ง เป็นคนดี และต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ทุกวันนี้ฉันทำตามคำสอนแม่ทุกอย่าง เพราะฉันเชื่อเสมอว่าแม่กำลังมองดูการเติบโตของลูกสาวคนนี้อยู่บนฟ้าตลอดเวลา...


กรุงโรม ประเทศอิตาลี ณ ห้องสูทสุดหรู

“จะไปแล้วเหรอคะ...”

นางแบบสาวสวยรีบลุกจากเตียงทันทีที่เห็นชายหนุ่มผิวขาวจมูกโด่งลุกขึ้น นัยน์ตาคมกริบของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและเลือดเย็น เขาถอดเครื่องป้องกันโยนทิ้งใส่หน้าเธออย่างไม่ไยดี

“นี่ของเธอ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างดุดัน ก่อนจะโยนปึกเงินก้อนโตลงบนเตียง

“เมื่อไหร่คุณจะมาหาเกรซอีกคะ...” หญิงสาวทำหน้าเว้าวอน พยายามออดอ้อนชายหนุ่มสุดฤทธิ์

“หึ... เธอรู้ดีว่าฉันเป็นยังไง” เขาสวมกางเกงแล้วเดินออกจากห้องไป โดยไม่สนใจความรู้สึกของคนที่นอนอยู่บนเตียงแม้แต่น้อย

“กรี๊ดดดด!” เธอกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บใจ เพราะเธอเคยเชื่อมั่นว่าจะสามารถสยบเสือร้ายแห่งกรุงโรมอย่างเขา ให้กลายเป็นของเธอเพียงผู้เดียวได้

แต่เปล่าเลย... แม้บทรักที่เธอมอบให้จะเร่าร้อนแค่ไหน เขากลับไม่แม้แต่จะแตะต้อง จูบ หรือลูบไล้เธอด้วยความเสน่หาแม้เพียงปลายเล็บ

สำหรับเขา... ผู้หญิงทุกคนเป็นได้แค่ที่ระบายอารมณ์ ใช้ครั้งเดียว จ่ายเงิน แล้วก็จบ เขาไม่คิดสานสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงหน้าไหนทั้งนั้น

ด้วยนิสัยอารมณ์ร้าย เย็นชา และเลือดเย็น เขาเกลียดเสียงดังน่ารำคาญ ดังนั้นผู้หญิงทุกคนที่เขามีความสัมพันธ์ด้วย จะต้องถูกมัดปากเพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้องครวญคราง พวกเธอมีหน้าที่เดียวคือต้องรองรับอารมณ์ดิบเถื่อนและรุนแรงของเขาให้ได้

เขาผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ร้ายที่น่ากลัวที่สุดแห่งกรุงโรม ใครก็ตามที่คิดจะเป็นศัตรูกับเขา เท่ากับรนหาที่ตาย เพราะเขาฆ่าได้ไม่เลือกหน้า และฆ่าได้อย่างเลือดเย็นที่สุด...


ประเทศไทย (1 อาทิตย์ต่อมา)

“ว่าไงคะอานิภา”

“ข้าวกำลังจะไปสอนพิเศษค่ะ” ฉันกรอกเสียงลงโทรศัพท์ วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งฉันมีตารางไปสอนหนังสือที่บ้าน ‘น้องณดา’ เด็กหญิงวัย 5 ขวบที่โชคร้ายพิการเดินไม่ได้ตั้งแต่กำเนิด

[“ใกล้สอบแล้ว อาว่าข้าวเลิกทำงานพิเศษได้แล้วนะลูก อาบอกแล้วใช่มั้ยว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมด อาเตรียมไว้ให้ข้าวแล้ว”] เสียงปลายสายดุอย่างไม่จริงจังนัก

“ข้าวรู้ค่ะ แต่ข้าวแค่อยากช่วยอาบ้างนะคะ รับรองว่าข้าวไม่ทำให้เสียการเรียนแน่นอน” ฉันอธิบายให้อานิภาฟังเพื่อให้ท่านคลายกังวล

[“ดื้อจริงนะเรา... เอาเป็นว่ายังไงก็ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก อีก 6 เดือนพี่ครินต์จะกลับมาแล้ว อาจะฟ้องพี่เขาว่าเราดื้อ”]

“จริงเหรอคะ! ข้าวดีใจที่สุดเลย ไม่ได้เจอพี่ครินต์ตั้งสองปี” ฉันยิ้มกว้างจนแทบจะกรี๊ดออกมาด้วยความดีใจ

[“งั้นแค่นี้ก่อนนะลูก อาไปซื้อของก่อน”]

“ค่ะอานิภา”

หลังจากวางสาย ฉันก็รีบไปที่บ้านน้องณดา ฉันสอนแกทุกวิชา แต่เน้นภาษาอังกฤษเป็นพิเศษเพราะถนัดที่สุด พ่อแม่ของน้องณดาใจดีและเอ็นดูฉันมาก เพราะฉันเป็นคนเดียวที่น้องณดายอมเปิดใจคุยด้วย ก่อนหน้านี้เคยจ้างครูเก่งๆ มาสอน แต่น้องก็เอาแต่นั่งนิ่งไม่ยอมพูดจา

กว่าจะเอาชนะใจน้องณดาได้ ฉันก็ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอยู่นานหลายเดือน... เชื่อเถอะว่าคนเราแค่มีความจริงใจให้แก่กัน เราก็จะได้รับความจริงใจนั้นตอบแทนกลับมาเสมอ

...

“ข้าว พรุ่งนี้ไปเดินห้างกันมั้ย ตอนเย็นๆ ก็ได้”

“ดีเลย ข้าวว่าจะโทรไปชวนฝันอยู่พอดี”

‘ทอฝัน’ คือเพื่อนสนิทที่สุดของฉัน เรารู้จักกันมาตั้งแต่ ม.3 แม้จะชอบอะไรเหมือนๆ กัน แต่นิสัยเราต่างกันสุดขั้ว ทอฝันเป็นคนพูดเก่ง ไม่ยอมคน ส่วนฉันไม่ใช่คนไม่สู้คนนะ... แค่เถียงไม่ทันนางมากกว่า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แผนร้ายพิชิตใจยัยเมียเด็ก   น่ากลัว(2)

    “พี่เขาจะมาดูแลธุรกิจแทนพ่อสักระยะ เพราะพ่อต้องไปรักษาตัวที่อเมริกา” พ่อพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดลงอย่างเห็นได้ชัด ฉันเองก็พอจะรู้ว่าพ่อไม่สบาย แต่ไม่คิดว่าอาการจะหนักขนาดนี้“ในเมื่อข้าวตัดสินใจจะดูแลบริหารงานแทนพ่อ พ่อก็เบาใจ แต่ข้าวยังเด็กและยังเรียนไม่จบ พ่อเลยให้พี่เขามาช่วยดูแลระหว่างที่พ่อไม่อยู่” พ่อยิ้มให้อย่างอบอุ่นฉันพูดอะไรไม่ออก ที่พูดออกไปแบบนั้นก็เพราะแค่อยากเอาชนะผู้หญิงคนนั้น ซึ่งตอนนี้เธอก็กำลังยิ้มอย่างพึงพอใจแปลกๆ พ่อเป็นคนไม่ไว้ใจใครง่ายๆ คนที่ท่านเลือกมาดูแลงานและสอนฉัน คงต้องเป็นคนดีและเก่งกาจจริงๆ ฉันจึงคิดว่าเรื่องนี้คงไม่มีปัญหาอะไร“ค่ะ พ่อไม่ต้องเป็นห่วงข้าวนะคะ” ฉันยิ้มให้พ่อเพื่อให้ท่านสบายใจจะได้ไม่ต้องคิดมาก“ขอโทษครับที่ผมมาช้า”ฉันตัวแข็งทื่อทันทีที่ได้ยินเสียง... เสียงนี้มัน... เหมือนกับเสียงเขาคนนั้น! หรือฉันจะคิดมากและกลัวเขาจนได้ยินเสียงใครก็เป็นเขาไปหมด?“นี่ไงข้าว คนที่จะมาทำงานและสอนข้าว”ฉันหันหน้าไปมองและยกมือไหว้ แต่แล้วก็ต้องตกใจจนเบิกตากว้าง... เขาจริงๆ!“สวัสดีครับคุณลุง” เจเคทักทายพ่อฉันก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากมองมาที่ฉันอย่างเย็นชา เขาไ

  • แผนร้ายพิชิตใจยัยเมียเด็ก   น่ากลัว(1)

    หลายวันผ่านไป“ข้าว เลิกเรียนแล้วไปดูหนังกันมั้ย”“ไว้วันหลังแล้วกัน วันนี้ข้าวมีนัดทานข้าวกับพ่อ”“ว้า เสียดายจัง” ทอฝันทำหน้าเศร้าทันที“ไว้วันเสาร์เราไปดูหนังกันนะ ข้าวเลี้ยงเอง” ฉันเดินไปนั่งข้าง ๆ ทอฝัน“จริงนะ” ทอฝันยิ้มดีใจใหญ่ คือตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่ออกไปไหนเพราะกลัวเจอผู้ชายคนนั้นอีก แต่ก็ยังดีที่ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้เจอเขาอีก และตอนนี้ฉันก็เปลี่ยนรหัสห้องเปลี่ยนคีย์การ์ดเรียบร้อยแล้วเลิกเรียนฉันเดินออกมาพร้อมทอฝัน ก่อนจะเดินไปเรียกแท็กซี่เพื่อไปหาพ่อ ทีแรกฝันจะไปส่งแต่มันอยู่คนละทางกับทางไปคอนโด เกรงใจทอฝันเลยนั่งแท็กซี่ไปเอง“สวัสดีครับ คุณใบข้าวใช่มั้ยครับ” ทันทีที่ถึงร้านพนักงานในร้านก็เดินเข้ามาหาทันที“ใช่ค่ะ” ฉันตอบสั้น ๆ“เชิญทางนี้ครับ คุณภูษิตรอคุณอยู่” วันนี้พ่อทำตัวแปลก ๆ เพราะปกติเวลานัดทานข้าวพ่อต้องให้ฉันเลือกร้านเอง แต่วันนี้พ่อเลือกร้าน และร้านนี้ก็ดูดีดูหรูมากฉันเดินตามพนักงานเข้าไปในร้าน ระหว่างที่เดิน ๆ อยู่ฉันรู้สึกเหมือนมีใครกำลังมองอยู่ตลอด แต่พอหันไปมองก็ไม่เห็นใคร“ถึงแล้วครับ”“ห้องนี้เหรอคะ?” ฉันจ้องหน้าถามพนักงาน“ครับ ถ้าไม่มีอะไรผมขอตัวนะครั

  • แผนร้ายพิชิตใจยัยเมียเด็ก   ใคร (2)

    “รับผิดชอบบ้าอะไร! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” ฉันไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่วินาทีนี้รู้เพียงอย่างเดียวว่าต้องหลุดจากอ้อมแขนที่แข็งแกร่งราวคีมเหล็กนี้ให้ได้“หึ... ไม่ง่ายแบบนี้สิ ถึงจะสนุก” เขายกมุมปากเค้นเสียงหัวเราะในลำคอ ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้จนฉันสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมเย็นๆ“ได้โปรด... ปล่อยข้าวไปเถอะ อย่าทำอะไรข้าวเลย... อึก” ฉันเงยหน้าขึ้นอ้อนวอน น้ำเสียงสั่นเครือจนแทบเป็นลม ตอนนี้ความกลัวถาโถมเข้ามาจนรู้สึกเหมือนกำลังจะร้องไห้“เอาล่ะ วันนี้ฉันจะปล่อยเธอไปก่อน... แต่ครั้งหน้าเธอไม่รอดแน่” เขาพูดเรียบๆ แต่แววตาเย็นยะเยือกจ้องมองมาอย่างน่าหวาดหวั่น ก่อนสายตาคมกริบจะเลื่อนลงไปสำรวจซอกคอและหน้าอกของฉันจ๊วบ!!!ยังไม่ทันที่ฉันจะได้หายใจ เขาก็ฉวยโอกาสก้มลงซุกไซ้ซอกคออย่างหื่นกระหายและรุนแรง“ฮือ!! ปล่อยนะข้าวเจ็บ!!” ฉันร้องประท้วงด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง มันเจ็บแปลบเหมือนเนื้อกำลังจะฉีกขาด แต่เขาไม่สนใจเสียงร้องต้านของฉันเลยแม้แต่น้อย และไม่ยอมถอนริมฝีปากออกไป“ฝากไว้ก่อน... วันหลังจะมาเอาคืน” ในที่สุดเขาก็ผละปากออก มองหน้าฉันอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะยกนิ้วขึ้นปาดคราบเลือดจางๆ บนริมฝีปา

  • แผนร้ายพิชิตใจยัยเมียเด็ก   ใคร(1)

    “ฝันดีนะคะแม่...”ฉันกระซิบผ่านรูปถ่ายของแม่เหมือนเช่นทุกคืนก่อนนอน แต่วันนี้ความรู้สึกมันต่างออกไป เรื่องราวแย่ๆ ที่เพิ่งเจอมาทำให้ความโหยหาในอ้อมกอดของแม่ทวีความรุนแรงขึ้น ฉันกอดกรอบรูปแนบอกอยู่นาน ก่อนจะจำใจวางมันลงที่เดิมแล้วเอื้อมมือไปปิดไฟฉันพยายามข่มตานอน แต่ความหวาดระแวงทำให้สมองไม่ยอมหยุดคิด แม้จะย้ำกับตัวเองว่าล็อกห้องดีแล้ว และระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโดนี้ก็แน่นหนา แต่ความรู้สึกเหมือนมีใครบางคนจับตามองอยู่ตลอดเวลามันทำให้ฉันข่มตาไม่ลงตึก! ตึก!ท่ามกลางความเงียบสงัด เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากด้านนอกห้อง ก่อนจะหยุดนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน... หัวใจฉันเต้นรัวเร็วขึ้นทันที“ฉันไม่ได้หูฝาดแน่...” ฉันดีดตัวลุกจากเตียง รีบเดินไปเปิดไฟและคว้าของใกล้มือมาถือไว้ป้องกันตัวแกร๊ก!ฉันกลั้นใจเปิดประตูออกไปช้าๆ กวาดสายตามองไปรอบห้องนั่งเล่นที่ว่างเปล่า... ไม่มีใคร? หรือฉันจะคิดมากไปเองจริงๆ“เหมียว~”“ออเดรย์!” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นเจ้าแมวน้อยขี้อ้อนเดินนวยนาดเข้ามาหา“แอบหนีมาเที่ยวห้องพี่ข้าวอีกแล้วนะ พี่ฟ้าไม่อยู่ล่ะสิ” ฉันอุ้มเจ้าเหมียวขึ้นมา เจ้าออเดรย์เป็นแมวข

  • แผนร้ายพิชิตใจยัยเมียเด็ก   ความทรงจำ(3)

    วันต่อมาณ ห้างสรรพสินค้า“เมื่อไหร่พี่ชายข้าวจะกลับอ่ะ...” ทอฝันเดินเอียงไหล่มากระแทกฉันเบาๆ ทำท่าบิดตัวเขินอายม้วนต้วนทันทีที่เอ่ยถึง ‘พี่ครินต์’ “อีก 6 เดือน” ฉันตอบกลับเรียบๆ แสร้งทำเป็นไม่สนใจอาการระริกระรี้ของเพื่อนสาว ทอฝันปลื้มพี่ชายฉันมาตั้งแต่พี่เขาเรียนหมอปี 1 จนตอนนี้พี่ครินต์อายุ 25 เข้าไปแล้ว ความคลั่งไคล้ของนางก็ยังไม่ลดลงเลย “แล้วพี่ครินต์มีแฟนหรือยังอ่ะ” ยัยตัวดีเอานิ้วมาจิ้มๆ ที่ต้นแขนฉัน ยืนบิดไปบิดมาไม่เลิก จะเขินอะไรเบอร์นั้นแม่คุณ “ไม่รู้สิ... น่าจะมีแล้วมั้ง ไม่ได้ถามเหมือนกัน” ฉันแกล้งตอบพลางลอบสังเกตสีหน้าเพื่อน พอได้ยินแบบนั้นหน้าตาที่ยิ้มแย้มเมื่อกี้ก็จ๋อยสนิททันตาเห็น ฉันต้องกัดริมฝีปากกลั้นขำแทบตาย “ล้อเล่นน่า! พี่ครินต์เรียนหนักจะตาย จะเอาเวลาที่ไหนไปมีแฟน อีกอย่างถ้าพี่ครินต์มีแฟน พี่ต้องบอกฉันก่อนอยู่แล้ว” ฉันรีบเฉลยเมื่อเห็นทอฝันทำหน้าเหมือนโลกจะแตก “พูดจริงนะ! งั้นฉันก็ยังมีโอกาสสิ!” ทอฝันตาโต หูผึ่งขึ้นมาทันที“...ยัยบ๊องเอ๊ย” ฉันย่นจมูกใส่เพื่อนก่อนจะออกเดินต่อ ทอฝันนี่อาการหนักจริง เคยบอกอยากเป็นหมอตามพี่ครินต์ แต่พอนางเห็นเลือดก็จะเป็นลม เลยต

  • แผนร้ายพิชิตใจยัยเมียเด็ก   ความทรงจำ(2)

    “แล้วพ่อล่ะ... พ่อเหลือลูกแค่คนเดียวนะข้าว”“ข้าวรักพ่อนะคะ พ่อมาหาข้าวได้ตลอดถ้าพ่อคิดถึง แต่ให้ข้าวกลับไปอยู่กับพ่อ... ข้าวคงทำไม่ได้” ฉันตอบเสียงแผ่ว “ข้าวขอโทษจริงๆ ค่ะ”“โอเค พ่อเข้าใจ... เอาไว้ข้าวพร้อมจะกลับเมื่อไหร่ค่อยบอกพ่อนะ พ่อรอข้าวเสมอ”“พ่อรักข้าวนะลูก...” พ่อเดินเข้ามาใกล้ สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด“พ่อมันโง่เองที่ยอมปล่อยข้าวกับแม่ไปในวันนั้น” น้ำเสียงของพ่อสั่นเครือจนน่าใจหาย“เมื่อก่อนข้าวยอมรับว่าข้าวโกรธพ่อมาก แต่ตอนนี้ข้าวไม่ได้โกรธพ่อแล้วค่ะ... แต่ข้าวแค่ไม่อยากเจอหน้าผู้หญิงคนนั้น พ่อเข้าใจข้าวนะคะ”“พ่อเข้าใจ... พ่อจะรอ รอวันที่ข้าวโตพอที่จะกลับไปดูแลธุรกิจที่เป็นของข้าวเองนะลูก”สิ้นคำพูด พ่อก็ดึงฉันเข้าไปกอด... “พ่อรักข้าวนะ”“ข้าวก็รักพ่อค่ะ...” ฉันพูดเสียงเบาหวิว ก่อนจะค่อยๆ ยกมือขึ้นกอดตอบท่านฉันกอดพ่อไว้แน่น ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างสุดกลั้น อ้อมกอดของพ่อยังคงอุ่นเหมือนตอนที่ฉันยังเด็ก แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ความรู้สึกนี้ฉันจำได้ไม่เคยลืม มันคืออ้อมกอดที่ฉันโหยหามาตลอดหลายสิบปี“พ่อดูแลตัวเองด้วยนะคะ อย่าทำงานหนักจนลืมดูแลสุขภาพ” ฉันผละ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status