LOGINตอนที่เจ็ด หรือว่า
เฉาเจียวซือเชิดหน้าอย่างหยิ่งผยองพลางเดินเคียงคู่อ๋องสูงศักดิ์เพื่อกลับไปยังจวนเจ้าเมือง
ต่งเลี่ยงรุ่ยและเจียงลี่อินวนมาพบกันที่ด้านหลังก่อนจะฟังรายงานจากคนที่ทิ้งเอาไว้เฝ้าดูเหตุการณ์
“ท่านอ๋องคงเห็นว่าจวนตัวไม่อาจปิดบังฐานะต่อไป จึงเลือกจะเข้าจวนเจ้าเมืองอย่างเปิดเผย เช่นนี้ก็ดี ให้คนแปลกหน้าเหล่านั้นพุ่งเป้าไปทางเขา พวกเราจะได้สืบข่าวคราวได้โดยไม่โดนเพ่งเล็ง” ต่งเลี่ยงรุ่ยสรุปตามความเข้าใจ
“มิใช่ว่าเขาอยากอยู่อย่างสะดวกสบายอีกทั้งมีสาวงามเคียงข้างหรอกหรือ” คำประชดประชันจากเจียงลี่อินเรียกสายตาไม่เห็นด้วยจากต่งเลี่ยงรุ่ย
“ไม่ใช่เช่นนั้นแน่ น้องลี่อินอาจจะเห็นเพียงด้านเดียวของอ๋องสิบจึงคิดว่าเขาไม่ได้เรื่อง ความจริงอ๋องเช่นเขาผ่านเรื่องราวมามากจึงจำเป็นต้องรักษาตัวให้รอดปลอดภัย โอรสซึ่งไร้มารดาปกป้องในวังหลวงจำต้องอยู่ให้เป็น
เรื่องสาวงามหรือการเลือกชายาล้วนเป็นฮองเฮาเป็นผู้สร้างเรื่องให้เขา ท่านอ๋องจึงจำต้องเสแสร้งแกล้งทำให้พระนางเห็นว่าเขาคล้อยตาม
ส่วนเรื่องที่ออกมาเ
ตอนที่สิบสี่ พบปะชอบพอ“ฮ่องเต้และฮองเฮาเสด็จแล้ว” เสียงประกาศการมาถึงของผู้เป็นใหญ่และผู้จัดงานในครั้งนี้จากนั้นอาหารและเครื่องดื่มจึงถูกยกออกมาให้บรรดาแขกเหรื่อได้ดื่มกินอย่างอิ่มหนำ ต่อด้วยการแสดงของเหล่าคุณหนูทั้งหลายเพื่อแสดงความสามารถ อวดรูปร่างหน้าตา ให้เหล่าองค์ชายและผู้สูงศักดิ์ได้คัดเลือกหญิงสาวที่ถูกใจนั่นจึงจะเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงในการจัดงานชมจันทร์ของฮองเฮาชมจันทร์หรือ? เชอะ ฟ้ามืดเพียงนี้มีแสงจันทร์ที่ใดกันเจียงลี่อินเงยหน้ามองท้องฟ้าพลางสบตากับเจียงลี่มี่ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากินอาหารอันโอชะพวกนางสองพี่น้องไม่เคยใส่ใจงานเช่นนี้มาก่อน ที่ผ่านมาด้วยยังเยาว์วัยจึงสามารถหลบเลี่ยงมาได้โดยตลอด แต่ยามนี้นางเลยวัยปักปิ่นมาแล้ว แม้ไม่อยากอวดหน้าตาหรือไม่อยากแสดงความสามารถก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการมาร่วมงานได้โชคดีที่ทั้งบิดามารดาต่างไม่บังคับขู่เข็ญให้บุตรสาวต้องออกแสดงต่อหน้าพระพักตร์ดั่งเช่นสกุลอื่น“อินเอ๋อร์ เจ้านั่งดีดีหน่อย งานนี้เหล่าคุณห
ตอนที่สิบสาม ชื่นชอบ สาวน้อยก้มลงกระซิบเสียงเบากับชายสกุลต่งเพื่อให้ได้ยินเพียงสองคน “เรื่องเฉาเจียวซือ ควรใช้ประโยชน์จากนางเพื่อค้นหาไส้ศึก ในเมื่อนางเที่ยวโพนทะนาเรื่องของอ๋องสิบ เช่นนั้นก็ใช้ข้อนี้ให้พวกเขาหลงระเริงก้าวขาออกมาในที่แจ้ง” ต่งเลี่ยงรุ่ยสบตาอย่างเข้าใจความนัย ก่อนจะเอ่ยขอบคุณที่หญิงสาวยังพยายามช่วยคิดหาหนทาง เจียงลี่อินเดินทางกลับเมืองหลวงโดยมีคนของรองแม่ทัพซุนติดตามมาคุ้มครอง ทางหนึ่งเพื่อมาช่วยเหลือเพิ่มกำลังสนับสนุนแก่แม่ทัพเซี่ยจิ้นกว่าง อีกทางหนึ่งคือเพื่อส่งข่าวแก่แม่ทัพหนุ่มด้วย แฝดผู้น้องกลับมาทันก่อนถึงงานแต่งงานของแฝดพี่สาวอย่างเฉียดฉิว หญิงสาวอยู่ร่วมงานอย่างปลื้มปิติที่ในที่สุด พี่สาวร่วมชะตาก็เป็นฝั่งเป็นฝาไปกับชายหนุ่มใน
ตอนที่สิบสอง อุตส่าห์ช่วย“อย่านะ อย่าทำเช่นนั้น” เจียงลี่อินลุกขึ้นตวาดเสียงดัง“เหตุใดต้องเสียงดังเพียงนี้” หวงอวิ้นหยางทำทีใช้นิ้วสอดรูหูเพื่อสื่อว่าหญิงสาวส่งเสียงดังเพียงใด“ก็...ผู้ใดบอกว่าชอบท่าน และจะแต่งเป็นชายาของท่าน ข้าขอยืนยันว่าไม่ได้ชอบท่านอ๋อง หากยังขืนดื้อดึงข้าจะไม่ช่วยออกความคิดเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องในวันนี้”ตาอ๋องสิบนี่ พูดเองเออเองสรุปเข้าข้างตัวเองแล้วจะมามัดมือชกให้นางแต่งงานด้วยหรือ ไม่มีทาง นางไม่อยากเข้าใกล้คนในราชวงศ์ พวกเขาล้วนไม่น่าคบหา ไม่น่าสุงสิง เจียงลี่อินเคยติดตามบิดาเข้าวังหลวงอยู่หลายครา จึงไม่ได้ชื่นชอบเหล่าองค์ชายองค์หญิงผู้เอาแต่ใจไร้เหตุผล และไม่ได้อยากใฝ่สูงเกี่ยวดองกับพวกเขา แม้บิดาของนางจะได้รับการเรียกขานเป็นอาจารย์ แต่พวกเขาไม่เคยเคารพนับถืออย่างจริงใจ ลับหลังยังแอบกลั่นแกล้งนางและแฝดผู้พี่อยู่บ่อยครา หากมิใ
ตอนที่สิบเอ็ด พูดเองเออเอง“อ้อ...ที่ท่านอ๋องเที่ยวเอาเปรียบหญิงสาวอยู่ทุกวันนี้คือวิธีการหาชายาที่ถูกต้องหรือ” เจียงลี่อินย้อนอย่างประชดประชัน“เจ้าไม่เข้าใจ สตรีใดที่โอนอ่อนผ่อนตามโดยง่ายย่อมน่าสงสัย ส่วนสตรีใดที่เรื่องมากเกินไปย่อมไม่คู่ควร พวกนางล้วนมีบิดาคอยสั่งความว่าต้องทำอย่างไรที่โอนอ่อนก็ด้วยต้องการเพียงเส้นสายราชวงศ์ ที่มากเรื่องก็ด้วยไม่ต้องการเลือกผิดทาง ส่วนสตรีบางนางกลับไม่สงวนท่าที เพียงแตะเนื้อต้องตัวนิดหน่อยก็แทบจะทอดร่างลงมาแล้ว ข้าไม่อยากถูกสวมเขาในภายหลัง” “เชอะ อย่างเช่น...เฉาเจียวซือหรือ ข้าเห็นท่านอ๋องออกจะชื่นชอบคลุกคลีอยู่กับนางแทบทั้งวัน อ้อ...ทั้งคืนด้วยกระมัง” ถ้อยคำคล้ายหึงหวงเรียกสายตาแปลกใจจากอ๋องหนุ่ม “เจ้าไม่รู้จริงอย่าได้เอ่ยเช่นนั้น ข้าไม่เคยค้างอ้างแรมกับหญิงใด ผู้ใดจะโง่เปิดโอกาสให้โดนลอบทำร้ายง่ายๆ เพียงเผลอตัวก็อ
ตอนที่สิบ รังเกียจข้าหรือตาอ๋องนี่ก็ช่างกระไร ไปพลอดรักกันในที่ลับตาเพียงนั้นสมควรแล้วที่จะโดนคนพวกนั้นทำร้ายเอานี่ถ้าโดนจับไปเป็นตัวประกันยังต่างแคว้นคงน่าสมน้ำหน้านักถ้าไม่ติดว่าพี่เลี่ยงรุ่ยต้องซวยไปด้วย คงไม่เข้าไปช่วยแน่หญิงสาวบ่นพร่ำไม่หยุดเป็นจังหวะเดียวกับที่หมอสูงวัยเปิดผ้าม่านเดินออกมา“ข้าทำแผลให้สามีของเจ้าแล้ว โชคดีที่ไม่โดนจุดสำคัญและมีเพียงรอยบาดไม่ลึก ระหว่างนี้ห้ามโดนน้ำจนกว่าแผลจะหาย เจ้าก็คอยเช็ดตัวดูแลเขาให้ดี ต้มยาตามใบสั่งนี่ให้เขาดื่มวันละสามเวลา อีกไม่กี่วันก็ดีขึ้นแล้ว”สามี?ผู้ใดคือสามี? เจียงลี่อินถลาเข้าไปถึงหน้าเตียงคนไข้พลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตั้งท่าจะต่อว่าอ๋องหวงอวิ้นหยางซึ่งสร้างความเข้าใจผิดแก่ท่านหมอแต่เมื่อเห็นสีหน้าซีดเซียว ท่าทางอ่อนแรงและคำขอบคุณที่รีบพูดออกมาจากปากเป็นคำแรก หญิงสาวจึงลดท่าทีขึงขังลงแล้วนั่งที่เก้าอี้อย่างพยายามสงบสติอารมณ์“ขอบคุณแ
ตอนที่เก้า หาเรื่องโดยแท้ภาพตรงหน้าช่างชุลมุนวุ่นวาย นางเห็นเฉาเจียวซือถูกจับตัวไว้แต่ยังดีดดิ้นร้องตะโกนเสียงดังไม่หยุดจนโดนตบหน้าหันเลือดกบปากจึงได้เงียบเสียงลง“ขืนยังร้องโวยวายอีก จะเชือดทิ้งเสียเดี๋ยวนี้” เสียงข่มขู่น่ากลัวพร้อมมือที่ชักดาบออกมาทำให้เฉาเจียวซือได้แต่สงบปากสงบคำแต่ท่าทียังคงดิ้นรนไม่ยินยอมเจียงลี่อินหันไปมองการต่อสู้อีกทางก่อนจะเหลือกตาโตเมื่อเห็นอ๋องหวงอวิ้นหยางกำลังสู้รบกับคนแปลกหน้าหลายคนอย่างไม่เพลี่ยงพล้ำยามนี้ช่างคับขันนักด้วยคนเหล่านี้ออกแรงถึงชีวิต อ๋องหนุ่มจึงไม่อาจแอบซ่อนความสามารถเอาไว้ได้อีก จำต้องใช้ฝีมือซึ่งฝึกฝนมาเข้าโรมรันกับอีกฝ่ายไม่น่าเชื่อ เขามีฝีมือการต่อสู้หรอกหรือ มิน่า พี่เลี่ยงรุ่ยจึงบอกว่าอย่าคิดว่าเขาไม่ได้ความ อืม...หนึ่งต่อสิบยังสู้ได้ นับว่าไม่เลวนัก แต่อีกไม่นานคงอ่อนแรง เอาอย่างไรดีเจียงลี่อินคิดพลางมองไปโดยรอบเค้นสมองครุ่นคิดหาวิธี ก่อนจะหันกลับไปมองอีกด้านซึ่งไร้การต่อสู้“พวกเจ้าอย่าได้ล่วงเกินท่าน







