Share

บทที่3 มิติคู่ขนาน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-04 01:56:52

มิติคู่ขนาน 

กระท่อมชายป่า เมืองชีเป่ย

 “อาหนิง”

เฉินหนิงได้ยินเสียงเรียกแว่ว ๆ อยู่ข้างหู ก่อนจะค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นช้า ๆ หญิงสาวกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อให้คุ้นชินกับแสง เธอยังไม่ตายอย่างนั้นเหรอ ถูกยิงหลายนัดขนาดนั้น รอดมาได้ถือว่าปาฏิหาริย์มากทีเดียว

"ปวดหัวจังเลย"

หญิงสาวคิดจะยกมือขึ้นคลึงขมับ เพื่อคลายอาการปวดสักหน่อย แต่ก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะมือของเธอทำไมมันเหมือนเด็กขาดสารอาหารแบบนี้ เฉินหนิงค่อย ๆ ไล่มองตามนิ้วมือเรียวเล็กไปจนถึงแขนที่ไม่ใช่ของเธอ ชายแขนเสื้อไม่เหมือนที่เธอคุ้นเคย

‘นี่มันอะไรกัน!’

อาการปวดหัวเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น พร้อมกับเรื่องราวของใครบ้างคนหลั่งไหลเข้ามาในหัว เฉินหนิงทั้งเจ็บปวดและต้องข่มกลั้นก้อนสะอื้นลงไปในอก เพราะภาพที่ฉายวนอยู่ในหัวเธอตอนนี้ มันหาคำว่าความสุขไม่ได้เลย

หญิงสาวปล่อยให้ทุกอย่างไหลเข้ามาให้เต็มที่ เพราะยิ่งเธอฝืนไม่อยากที่จะรับ หัวของเธอเหมือนจะระเบิดให้ได้ น้ำใส ๆ ค่อย ๆ ไหลออกจากหางตา ความรู้สึกทั้งหมดของเด็กหญิงวัยเพียงสิบสี่ปี มันอัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวด จนอยากที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

เฉินหนิงลืมตาขึ้นอีกครั้งด้วยความตกใจ เพราะเธอรู้สึกว่ามีมือของใครบางคน มาเช็ดน้ำตาให้กับเธออย่างแผ่วเบา หญิงสาวสาวค่อย ๆ หันไปมองคนที่ตอนนี้ นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอ

ภาพซ้อนทับระหว่างเด็กชาย กับพี่ชายฝาแฝดของเธอ มันทำให้เธอ...

“หมิง!”

หญิงสาวเผลอเอ่ยชื่อของพี่ชายออกมา ก่อนจะใช้หลังมือขยี้ตาอีกครั้ง แล้วมองคนตรงหน้า มันยังคงเดิมนั่นคือมีใบหน้าของพี่ชายซ้อนทับกับเด็กชาย

“ตื่นสักที ยัยตัวแสบ”

เสียงของเด็กชายแหบแห้งเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง แต่คำพูดที่ใช้มันต่างจากความทรงจำที่อยู่ในหัวของเธอ ซึ่งเธอมั่นใจแล้วว่าคือเจ้าของร่าง ที่วิญญาณของเธอมาอาศัยอยู่ในตอนนี้

“หมิงเหรอ”

“อืม!”

เฉินหนิงยันตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะโผเข้ากอดพี่ชายเอาไว้แน่น เธอทั้งดีใจและหวาดกลัว ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือน้ำตาของพ่อแม่ เสียงที่กรีดร้องปานจะขาดใจของทั้งคู่ ยังดังก้องอยู่ในหัวของเธอ ร่างเล็กสะอื้นน้อย ๆ ในอ้อมแขนของพี่ชาย ที่อยู่ในร่างเด็กชาย

“ไม่ต้องร้อง หากการตื่นมาอีกครั้งของเรามันคือชะตา จากนี้ก็ลิขิตมันให้ดี แทนเด็กสองคนนี่ก็แล้วกัน เรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว”

เฉินหมิงพูดปลอบน้องสาวเบา ๆ พร้อมกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น เท่าที่แรงของเขาจะมีในตอนนี้ เสียงความเคลื่อนไหวจากด้านนอก ทำให้ทั้งสองคลายอ้อมกอด เพื่อรอดูว่าใครที่กำลังมาหาพวกเขา จะเป็นสาวใช้หรือมารดาของสองแฝดกัน

“เจี่ยนเอ๋อ ฮวาเอ๋อ พวกเจ้าฟื้นแล้ว ฮือ ๆ แม่ดีใจเหลือเกิน”

หญิงสาวใบหน้างดงาม โผเข้าสวมกอดสองพี่น้อง ที่นั่งอยู่บนเตียง เสียงสะอื้นไห้ ทำให้น้ำตาของทั้งคู่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ทั้งสงสารหญิงสาวที่เป็นแม่ของเด็กแฝด ทั้งคิดถึงครอบครัวที่พวกเขาจากมา

“ท่านแม่อย่าได้ร้องไห้ไปเลยขอรับ เราสองคนแค่ป่วยหนักไปเท่านั้น ตอนนี้อาการดีขึ้นมากแล้ว ดูสิขอรับท่านแม่ดวงตาบวมช้ำจนบดบังความงามไปหมดแล้วนะขอรับ”

“แค่พวกเจ้ายังอยู่เคียงข้างแม่ ทุกอย่างในโลกนี้หาได้สำคัญไม่ ความงามแม่ไม่มีก็ได้ แต่ไม่มีพวกเจ้าแม่อยู่ไม่ได้”

มือบางที่มีรอยแตกลูบตามใบหน้าของสองพี่น้อง ด้วยความรักใคร่ ความทรงจำของหรงหยางเจี่ยน ทำให้เขารู้สึกว่าโลกในยุคนี้ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ในเมื่อมีเขาอยู่ตรงนี้แล้ว ทุกอย่างจะต้องเปลี่ยนไป และมันต้องดีกว่าเดิมด้วย

“ท่านแม่นอนพักบ้างเถอะนะเจ้าคะ ฮวาเอ๋อร์ปลอดภัยดีแล้วเจ้าค่ะ ต่อไปจะไม่ป่วยให้ท่านแม่เป็นกังวลอีกนะเจ้าคะ”

เฉินหนิงใช้มืออันผายผอม บีบมือมารดาในโลกใบใหม่ของเธอ ก่อนจะซบลงบนตักของหญิงงามตรงหน้า เธอจะไม่ให้ใครรังแกผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว และเธอจะไม่เป็นภรรยา ที่ต้องทนเพียงเพราะคำว่ากฎของภรรยาที่ดี อย่างที่ผู้หญิงคนนี้ต้องทน

“พวกเจ้าหิวหรือไม่ แม่จะไปทำโจ๊กร้อน ๆ ให้พวกเจ้ากินนะ”

“เจ้าค่ะ/ขอรับ”

สองพี่น้องรับคำ ก่อนจะมองเลยไปยังสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม แต่เพราะร่างกายที่ซูบผอม ทำให้ความงามถูกกลืนหายไปด้วย

“พี่เสี่ยวเตี๋ย เราอยากอาบน้ำสักหน่อยเจ้าค่ะ”

“คุณหนูรอสักครูนะเจ้าคะ เสี่ยวเตี๋ยจะไปต้มน้ำมาให้เจ้าค่ะ”

พอทุกคนออกไปแล้ว สองพี่น้องหันมองหน้ากัน พร้อมเล่าถึงภาพความทรงจำของเด็กทั้งสองแลกเปลี่ยนกัน ซึ่งทำให้ทั้งคู่ต้องขบคิดหาหนทางรอดให้กับตนเองและหญิงงามผู้นี้ รวมถึงน้องชายคนใหม่ด้วย

จวนรับรองสกุลหรง ณ เมืองชีเป่ย หนึ่งปีก่อนหน้า

จางฮุ้ยเหมยสวมกอดบิดามารดาแน่น หญิงสาวได้แต่น้ำตานองหน้ากล้ำกลืนฝืนเก็บความจริงเอาไว้ในใจ ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากบอกบิดามารดา สตรีออกเรือนแล้วย่อมต้องเชื่อฟังสามี สิ้นสามีเชื่อฟังบุตร ซึ่งเป็นคำสอนที่พึงยึดปฏิบัติกันมาแต่โบราณ 

วันนี้พ่อแม่และพี่ชายของนาง ต้องเดินทางกลับเสิ่นโจว ที่อยู่ชายแดนติดกับบ้านเกิดของมารดา ที่สำคัญไปกว่านั้นพี่ชายของนางต้องเดินทางทำการค้าที่ต่างแคว้น กว่าจะกลับมาอู๋เป่ย คงใช้เวลาอีกนานนับปีเลยทีเดียว

หญิงสาวหันไปมองสามี ที่กำลังส่งยิ้มมาให้ ในใจของนางนั้นเหมือนถูกมีดเล่มใหญ่ปักลงกลางหัวใจ ลูก ๆ ที่นั่งอยู่บนตักสามี คือตัวประกันชั้นดีเลยทีเดียว

“ร้องไห้ทำไมกันลูกแม่ อยากกลับไปพักที่เสิ่นโจวกับแม่ไหม”

“คงไม่ดีกระมังขอรับท่านแม่ ข้าคงอดคิดถึงลูก ๆ กับฮุ้ยเหมยไม่ได้แน่ ที่นี่ห่างเมืองหลวงไม่มาก ข้าสามารถมาอยู่กับนางและลูกได้บ่อย ๆ แต่หากนางไปอยู่เสิ่นโจว การเดินทางทั้งไกลและใช้เวลามาก ข้าเกรงว่าจะทำให้เราสองผัวเมียต้องห่างกันมากเกินไปขอรับ”

หรงจิ่งรีบเอ่ยแทรกขึ้นเสียก่อน เขาไม่อยากให้พ่อตาแม่ยาย รู้ถึงเบื้องหลังการมาอยู่ที่นี่ของภรรยาและลูก ๆ

“มันก็จริง! แต่แม่ไม่เข้าใจเจ้าเลยเหมยเอ๋อร์ ว่าทำไมต้องย้ายออกมาพักอยู่นอกเมืองเช่นนี้ ทำไมไม่อยู่จวนที่เมืองหลวงกัน”

“เด็ก ๆ ป่วยบ่อย ๆ ข้าอยากให้พวกเขามีเวลารักษาตัวให้ร่างกายแข็งแรงอีกสักหน่อย ค่อยกลับเข้าเมืองหลวงเจ้าค่ะ อีกอย่างตั้งแต่คลอดไท้เอ๋อร์ ข้ารู้สึกร่างกายถูกธาตุเย็นเข้าแทรก อยากอยู่ที่นี่เพื่อจะได้ไม่ถูกรบกวนจากผู้ใดเจ้าค่ะ”

“ให้แม่ส่งหมอมาดูแลเจ้าดีหรือไม่”

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ หมอของจวนหรงคอยดูแลข้าเป็นอย่างดีเจ้าค่ะ”

“ถ้าเช่นนั้น พ่อกับแม่ต้องออกเดินทางแล้ว พวกเจ้าถนอมตัวให้ดี กว่าพี่ชายเจ้าจะกลับมาคงนานนับปี กว่าพ่อกับแม่จะได้มาเยี่ยมพวกเจ้าอีก มีเรื่องอะไรเจ้าต้องรีบส่งข่าวถึงพ่อกับแม่ทันทีเข้าใจหรือไม่”

“เจ้าค่ะ”

จางฮุ้ยเหมยเรียกลูกแฝดชายหญิง ก่อนจะเดินไปเพื่ออุ้มลูกชายคนเล็กจากสามี ทว่าหรงจิ่งกลับไม่ยินยอม เขาอุ้มลูกชายคนเล็กและจูงบุตรสาว พาไปกันเดินออกไปส่งพ่อตาแม่ยายและพี่ชายของภรรยา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่93 ก็แค่ข่าวลือ

    ห้าวันถัดมา ณ ร้านผ้าสกุลจาง จางเหลียนฮวา ได้ก้าวเข้ามาภายในร้าน พร้อมสาวใช้ข้างกายสองนาง การมาของหญิงสาว เรียกสายตาของเหล่าสตรีน้อยใหญ่ ที่อยู่ภายในร้านผ้า ให้หันมองเป็นจุดเดียว ด้วยความงามที่โดดเด่น และเป็นหญิงสาวแปลกหน้า สำหรับใครหลายคนในเมืองหลวง หากจะมีคนรู้จักนาง ก็คงเป็นคนที่ไปร่วมงานวันเกิด ของท่านราชครูหรงเท่านั้น จึงจะรู้ว่านางคือบุตรสาวคนโต ที่กำเนิดจากภรรยาเอกของท่านเสนาบดีหรงจิ่ง “นางงดงามยิ่งนัก ข้าไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ท่านแม่ทัพจ้าวหมิงเยี่ย จึงรอนางโดยไม่คิดถอนหมั้น” หญิงสาวนางหนึ่งเอ่ยขึ้นเบาๆ ทว่ากลับไม่เบาสำหรับหญิงสาวอีกคน ที่ยืนอยู่ด้านหลัง ต้วนชิงชิงกำหมัดแน่น หากไม่เพราะหรงเหลียนฮวา มีหรือคนรักของนาง จะเอาใจออกห่าง จนทำให้นางต้องแต่งกับคนอื่น “คุณหนู เชิญด้านในขอรับ” ผู้ดูแลร้านก้าวเข้ามาโค้งกายให้นายสาว ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญผู้เป็นนาย ให้เข้าไปนั่งด้านใน “ท่านอาเมิ่งสบายดีนะเจ้าคะ” หญิงสาวเอ่ยถามผู้ดูแลร้าน “ข้าน้อยสบายดีขอรับ คุณหนูกับคุณชายมาถึงเมืองหลวง ข้าน้อยเสียมารยาทนัก มิได้เข้าไปคาร

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่92 มิควรสืบพันธุ์

    “หากเจ้ายินยอมแต่โดยดี ข้าจะมอบตำแหน่งที่คู่ให้” “กระบี่เจ้า! ควบคุมมันมิให้สั่นได้เสียก่อน ค่อยคิดสิ่งอื่นดีกว่าไหม…” หญิงสาววางถ้วยชาลง บนโต๊ะอย่างใจเย็น พรึ่บ! ปึก! เคร้ง! รวดเร็วจนชายหนุ่ม ขาสั่นจนแทบยืนไม่อยู่ กระบี่ในมือร่วงลงพื้น ก่อนที่เขาจะเบนสายตา ไปมองยังหญิงสาว ซึ่งตอนนี้กลับไปนั่งยังที่เดิม เสมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาเมื่อครู่ มันมิใช่ฝีมือของนาง “จะลงมือกับใครก็ตาม เจ้าต้องศึกษาอีกฝ่ายให้แจ่มแจ้ง หึๆ ยังดีที่ตรงนี้เป็นข้า ถ้าเป็นผู้ติดตามของข้าทั้งสอง เจ้าคงไม่ได้ยืนต่อคำ เกินชั่วอึดใจ...” ชายหนุ่มถึงกับใบหน้าถอดสี เขาไม่คิดว่าแผนการที่แยบยล จะถูกล่วงรู้จนหมดสิ้นเช่นนี้ “ผู้ใดอยู่ข้างนอก เข้ามานี่เร็ว!” อ๋องน้อยโหว ตะโกนเรียกเหล่าองครักษ์ ทว่ากลับไร้ซึ่งวี่แวว ชายหนุ่มรีบย่อกายลงเก็บกระบี่ โดยที่สายตา หาได้ละไปจากร่างงาม ที่นั่งดื่มชาอย่างเพลิดเพลิน ราวกับเขาที่อยู่ร่วมห้อง เป็นเพียงอากาศธาตุ “หึๆ มิใช่เจ้าสั่งห้ามใครมารบกวนหรอกหรือ แต่คนของข้าอยู่ข้างนอกนะ เรียกได้...” “หญิงแพศยา! สตรีมีคู่หมาย

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่91 มอบบทเรียน

    ยิ่งไม่เคยรู้ถึงฝีมือของคู่ต่อสู้ เขายิ่งต้องรีบเผด็จศึก ให้ได้โดยไว จึงมิคิดที่จะลีลาให้ตนเอง กลายเป็นฝ่ายเสียท่า สิ้นคำของชายหนุ่ม เงาร่างในชุดสีดำสองคน ก้าวออกจากหลังฉากกั้น ซึ่งเป็นส่วนด้านหลังห้องที่มีหน้าต่าง “อือๆ” เจ้าของจวนทำได้แค่...ส่งเสียงทัดทานในลำคอ ทว่ากลับไม่สามารถต่อต้านการกระทำใดๆ ของชายชุดดำได้เลย อาภรณ์เนื้อดีถูกถอดออก จนแหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า ก่อนที่ชายชุดดำจะดึงมีดเล่มเล็กออกมา “นายหญิง โปรดพักผ่อนรอสักครู่ขอรับ” ชายผู้ถือมีดเอ่ยกับผู้เป็นนาย จินอู่หันหลังให้ พร้อมสะบัดมือเล็กน้อย เพื่อให้คนของเขา ลงมือได้แล้ว หากไม่ติดว่าที่นี่ คือถิ่นศัตรู...คำว่าเงียบเสียง จะไม่มีเลยสำหรับเขา ความเจ็บปวดของศัตรู ควรประกาศให้โลกรู้ แต่เมื่อสถานที่ไม่อำนวย เขาก็ไม่ติดที่จะลงมืออย่างเงียบๆ โหวอ๋องดวงตาเหลือกลาน แต่ก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ เมื่ออาวุธคู่กายของเขา กำลังถูกเฉือดเฉือนประหนึ่งหนูถูกถลกหนัง แม้มันจะไม่รู้สึกเจ็บ ทว่าใจของบุรุษแท้เยี่ยงเขา มันแหลกละเอียดจนมิเหลือชิ้นดี “สกุลโหว ควรสิ้นสุดที่เจ้าสองพ่อลูก อย่าได้สร้าง

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่90 ก้าวเท้าผิด

    “คุณหนูเฉินเป็นอย่างไรบ้าง” เป็นสาวใช้อาวุโส ที่เอ่ยถามกับสาวใช้สกุลเฉิน และผู้ติดตามหนุ่ม “คุณหนูดื่มยาแก้เมา และหลับอยู่เจ้าค่ะ” เจินจู ตอบสาวใช้สูงวัย ก่อนจะเหลือบตามองไปยัง สาวใช้ของอนุหรู สตรีผู้เพียรพยายามรั้ง ให้คุณหนูของนางพักในจวน “ข้าจะมาเชิญคุณหนูเฉิน กลับเข้าพักยังเรือนรับรอง ด้วยตอนนี้เฉินฮูหยิน ได้พักผ่อนรออยู่แล้ว” “หากไม่มีคำสั่งใดจากปากของฮูหยิน ข้าคงมิอาจปล่อยให้คุณหนูห่างสายตา เอาเป็นว่าข้าจะให้เจินจู ติดตามท่านเข้าไปพบฮูหยินของเราก็แล้วกัน” “นี่เป็นประสงค์ของท่านอ๋อง ที่มิอยากให้ผู้ใดตำหนิ ว่าดูแลแขกไม่ดี” หญิงชราตวัดสายตาดุใส่ชายหนุ่ม ผู้ไร้ความยำเกรงในอายุและฐานะของนาง ยิ่งเห็นใบหน้าเรียบเฉย แม้เพียงครึ่งเสี้ยงของใบหน้า นางก็รู้ดีว่าคนผู้นี้ ไม่ได้สะท้านต่อคำของนางเลย “งานเลี้ยงกับคนเมามาย ย่อมเป็นของคู่กัน และมิใช่ทุกคนที่ต้องการพักในจวนของเจ้าภาพ คุณหนูอยู่ในรถม้าแล้ว รอเพียงฮูหยินกลับออกมา เราก็พร้อมกลับจวน” จากความอ่อนน้อม พลันเป็นดุดัน จนทำให้ชายหนุ่มหลายคน ที่ยืนอยู่เบื้องหลังส

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่89 เฉินฮูหยิน

    “สามหาว! เจ้ากล้าข่มขู่ท่านอ๋องเยี่ยงนั้นรึ!” “ทำไมข้าต้องขู่ผู้ใดด้วย อีกอย่างถ้าท่านบริสุทธิ์ใจจริง จะเป็นเดือดเป็นร้อนไปไย แค่คุณหนูเฉินจะกลับบ้านตนเอง หรือมีสิ่งใดเป็นนอกในอย่างนั้นรึ! ดูรั้งนางจนออกหน้าเยี่ยงนี้” ชายหนุ่มเอียงหน้าช้า พร้อมมุมปากบิดขึ้นน้อยๆ การกระทำนั้นชวนให้อนุคนงาม หนาวสะท้านไปทั้งกาย บุรุษที่น่ากลัวย่อมเป็นคนที่มีหลากหลายบุคลิก ซึ่งปกติแล้วหรงเล่อถงสุขุมนุ่มลึก ทว่าตอนนี้...เขายิ่งกว่าคนจิตวิปลาสอย่างไรอย่างนั้น “นอกในอันใดกัน นางเป็นแขกของสามีข้า การดูแลเอาใจใส่ ย่อมเป็นเรื่องที่ข้าต้องทำอยู่แล้ว” “เช่นนั้นหลีกทางข้าเถิด อนุหรู” หรงเล่อถง กดน้ำเสียงให้ลึก และชัดเจนว่าเขาพร้อมขัดขวางเรื่องนี้ อย่างไม่คิดยินยอมปล่อยผ่าน ต่อให้สตรีที่กำลังตกที่นั่งลำบาก มิใช่พี่น้อง เขาก็คงปล่อยให้สตรีเหล่านั้น แปดเปื้อนจากคนโสมมได้เป็นอันขาด ถึงเขาจะมิใช่คนดีไปเสียทุกเรื่อง แต่เขามีพี่สาวน้องสาว พวกนางจะเป็นเช่นหากต้องอยู่อย่างอดสู แบกรับความอัปยศไปทั้งชีวิตเฉินหนิงฮวาในตอนนี้ ดวงตาปรือจนแทบจะปิดแล้ว ชายหนุ่มพอจะเดาได้ ว่าเกิดจากสาเ

  • แฝดสะท้านภพ(ดวงใจจอมทัพ)   บทที่88 ข้าคงดื่มมากไป

    “หยุดนะ! เจ้าจะทำอะไรลูกข้า!” เจียงชูเหนียง รีบผลักร่างของคนสนิทออก ก่อนจะหันไปหาบุตรชาย มือบางหมายจะเอื้อมไปแตะ ที่ข้างแก้มของผู้เป็นลูก ทว่าร่างสูงกลับเบี่ยงกายหลบ “อย่าล้ำเส้นข้าอีก มิเช่นนั้น...ข้าจะไม่ใจดีเช่นครั้งก่อน” “ครั้งก่อน...” เจียงชูเหนียง ถึงกับเซถอยหลัง คนของนางไม่เคยลงมือกับบุตรชาย มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ที่ทั้งคู่เคยปะทะกัน เมื่อปีก่อนที่อารามบนเขา แววตาแตกตื่นทำได้เพียง มองตามแผ่นหลังของบุตรชาย ที่กลืนหายไปในความมืด “ไหนเจ้าบอกว่า เขาไม่เห็นเจ้าอย่างไรเล่า แล้ว...หรือเจ้าทำนอกเหนือจากที่ข้ารู้” “เขาก็แค่หยั่งเชิงเรา เจ้าอย่าได้เผยพิรุธจะดีกว่า เลือดในกายเขามีของเจ้าแค่ครึ่งเดียว อย่าคาดหวังให้มาก ว่าเขาจะเหมือนเจ้า เพราะขนาดพ่อแท้ๆ เขายังไม่เหมือนเลย กลับไปได้นิสัยของยายแก่ แม่สามีเจ้ามาแทบทั้งสิ้น” “พูดเรื่องนี้ก็ดี เจ้าหานางพบรึยัง!” “ยัง! หรงเล่อถงไม่เคยเผยร่องรอย ให้ข้าตามไปจนถึงตัวยายแก่นั้นได้เลย” “อย่าช้า! นางรู้เรื่องมากเกินไป หากปล่อยไว้ เล่อถงต้องคิดแปรพักตร์” “เหม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status