공유

บทที่ 3 เราต้องได้พบกันอีก (2)

last update 최신 업데이트: 2025-02-20 18:45:34

"ท่านตา ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ยามนี้ร่างกายเขาแข็งแรงม๊ากมาก…ส่วนเรื่องดวงตา แค่มีเทียบยาและวิธีการดูแลให้ญาติของเขาก็เพียงพอแล้วมิใช่หรือ หากรั้งเขาไว้นานญาติของเขาอาจร้อนใจ กระทั่งพลิกแผ่นดินหาก็เป็นได้นะเจ้าคะ" ฟู่ซูหนิงกะพริบตาปริบ ๆ

ต่งควนมันเขี้ยวจึงเคาะกบาลนางไปหนหนึ่ง ฟู่ซูหนิงยกมือลูบศีรษะตนป้อย ๆ "ท่านตาเจ้าคะ หนิงเอ๋อร์ทำอะไรผิดงั้นหรือ" ฟู่ซูหนิงเหลียวมองฟู่หรงหมายขอความช่วยเหลือ ทว่าอีกฝ่ายกลับส่ายศีรษะ

"ตาเคยสอนเจ้าว่าอย่างไร ช่วยคนต้องช่วยให้ถึงที่สุดมิใช่หรือ"

ฟู่ซูหนิงถลาเข้าซบอกผู้เป็นตา พลางเอ่ยเว้าวอน หากไม่แสร้งว่านอนสอนง่ายแผนของนางต้องพังทลายแน่แท้ "ท่านตาเจ้าคะ หนิงเอ๋อร์รู้ดีเรื่องที่ท่านสอนไว้เสมอ แต่หากท่านหายออกจากบ้านไปเป็นแรมเดือน ข้ากับท่านยายก็ต้องร้อนใจเช่นกัน ท่านยายว่าหรือไม่เจ้าคะ" ฟู่ซูหนิงหันมองผู้เป็นยายเพื่อขอความเห็น ฟู่หรงก็อดใจอ่อนเป็นมิได้

"ก็จริงเช่นหลานว่า"

ฟู่ซูหนิงยิ้มกว้างอวดฟันเรียงสวย จากนั้นปรับน้ำเสียงให้อ่อนหวานดังเดิม "ท่านตาเจ้าคะ…เขาเป็นบุรุษตัวใหญ่โต ได้ยาดีจากหมอเทวดาเช่นท่าน เหตุใดต้องกังวลใจถึงเพียงนั้น ให้หนิงเอ๋อร์ไปส่งเขาเถอะนะเจ้าคะ ยามนี้ญาติของเขาคงรออยู่เพราะหนิงเอ๋อร์ส่งจดหมายไปแจ้งไว้แล้ว"

"เจ้าแอบไปส่งจดหมายเมื่อใด แล้วทราบวิธีติดต่อญาติเขาได้อย่างไรกัน"

ฟู่ซูหนิงหลุกหลิกเมื่อถูกจับพิรุธ "อ่า... อ้อ ก็เขาบอกหนิงเอ๋อร์เองเจ้าค่ะ อีกอย่าง เขาอยากกลับบ้านแล้วด้วย"

ต่งควนหรี่นัยน์ตาด้วยความคลางแคลง พลางเหลือบมองภรรยาเพื่อขอความเห็น ฟู่หรงรู้ดีว่าฟู่ซูหนิงหัวรั้นเพียงใด กระนั้นนางก็มิเคยทำสิ่งใดผิดพลาดมิใช่หรือ นางจึงพยักหน้าเล็กน้อย

"เอาล่ะ เช่นนั้นตาจะไปกับเจ้า"

"ท่านตา...ข้าไปกับเขาเพียงสองคนก็พอเจ้าค่ะ"

"ไม่ได้ ขาไปเจ้ามีเขาเป็นสหาย ทว่าดวงตาของเขาก็ยังมองไม่เห็น ขากลับยิ่งแล้วใหญ่ เจ้าต้องเดินทางเพียงลำพัง ข้าไม่วางใจ"

"โถ่...ท่านตาเจ้าคะ หนิงเอ๋อร์รับรอง จะกลับมาอย่างครบสามสิบสองแน่นอน" ฟู่ซูหนิงชูสามนิ้ว เปลือกตากะพริบถี่ออดอ้อน

ต่งควนถอนหายใจ "แต่ตาเป็นห่วงเจ้า"

ฟู่ซูหนิงรัดรึงชายชราแน่นขึ้น พลางแหงนมองตาละห้อย "ท่านตาวางใจ หลานของท่านก็เหมือนท่าน ข้าเติบโตมาอย่างไรท่านตาท่านยายย่อมรู้ดีเป็นที่สุด ท่านตาดูนี่สิเจ้าคะ…"

มือเรียวล้วงเข้าไปยังสาบเสื้อ จากนั้นยื่นบางอย่างออกมาเบื้องหน้า ต่งควนลดตามองก็ทราบว่าห่อกระดาษขนาดเล็กนั่นบรรจุสิ่งใดเอาไว้ ดูเหมือนเขาคงมิอาจปรามฟู่ซูหนิงได้แล้วจริง ๆ

มือเหี่ยวย่นยกขึ้นยีศีรษะฟู่ซูหนิง "ก็ได้ ๆ ตามใจเจ้า เช่นนั้นระวังตัวด้วย อย่าเที่ยวเถลไถลจนดึกดื่นเล่า เดินทางในป่างูเงี้ยวเยอะนัก"

ฟู่ซูหนิงยิ้มร่า ในที่สุดนางก็ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาเสียที มือเรียวเก็บกระดาษห่อเล็กกลับเข้าย่ามดังเดิม "เจ้าค่ะ หนิงเอ๋อร์ ทราบแล้ว ๆ ไม่กลับดึกแน่นอน เช่นนั้นกลับเช้าได้ใช่หรือไม่เจ้าคะ"

มือเหี่ยวย่นเคาะกะโหลกหลานรักไปอีกหนึ่งครา

"โอ๊ย! ท่านตา มันเจ็บนะเจ้าคะ" ฟู่ซูหนิงลูบศีรษะเพื่อคลายความระบม

"เจ็บสิดีจะได้รู้จักจำ เจ้าเป็นสาวเป็นนาง ออกจากเรือนอีกวันแล้วคิดจะกลับอีกวันได้อย่างไร ซ้ำยังออกไปพร้อมบุรุษเสียด้วย อยากให้เกิดเรื่องใหญ่โตงั้นรึ"

ฟู่ซูหนิงทำหน้าบิดเบี้ยว "หนิงเอ๋อร์เพียงล้อเล่นเท่านั้นเอง อีกอย่างส่งเขาแค่ครู่เดียว จากนั้นแค่ชวนอาเป่ามาเที่ยวเล่นเป็นเพื่อน หนิงเอ๋อร์ไม่เจออาเป่านานมากแล้ว คิดถึงจะแย่เจ้าค่ะ"

"พอ พอ เลิกพูดเป็นต่อยหอยเสียที อาเป่าโตเป็นหนุ่มแล้ว อีกอย่างคงทำงานในโรงเตี๊ยมจนหัวหมุน เขาจะมีเวลาเที่ยวเล่นกับเจ้าได้อย่างไร นิสัยม้าดีดกะโหลกเช่นนี้ สามีในอนาคตของเจ้าต้องปวดกบาลแน่แท้ ถึงอย่างไรก็ต้องกลับวันนี้ ไม่เช่นนั้นเจ้าได้เห็นดีกับตาแน่"

ฟู่ซูหนิงยู่หน้า "หนิงเอ๋อร์ทราบแล้วเจ้าค่ะ แต่เรื่องสามี ไม่ว่า อดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต หนิงเอ๋อร์ก็ไม่เอา!"

หลังกอดเอวซบอกผู้เป็นตาจนพอใจ ฟู่ซูหนิงก็ถลาเข้าหอมแก้มหญิงชราอีกฟอดใหญ่ อารมณ์พลิกกลับไปมาเสียจนสองตายายตามไม่ทัน "ท่านยาย อยากได้อะไรหรือไม่ หนิงเอ๋อร์จะซื้อมาฝากท่าน"

ฟู่หรงคลี่ยิ้มอบอุ่น "ยายไม่อยากได้อะไรเลย โรงหมอกลางหุบเขาของเรามิขาดแคลนสิ่งใด เพียงเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยก็พอ"

"ฮื่อ...ท่านยาย อย่าพูดให้เศร้าสิเจ้าคะ"

"อะไรกันเด็กคนนี้ ทำตัวขี้แยไปได้"

มือเหี่ยวย่นยกขึ้นซับน้ำตาให้หลานตัวดีบางเบา "โตเป็นสาวแล้ว ไม่ร้อง ถ้ายังกระจองอแง ยายจะให้ตาของเจ้าไปด้วย"

ฟู่ซูหนิงเด้งกายยืดตัวตรงแน่ว พลางปาดน้ำตาลวก ๆ ผู้เฒ่าทั้งสองต่างส่ายศีรษะกับความแก่นแก้วของนาง "หนิงเอ๋อร์ไม่ร้องแล้ว ไม่ร้องแล้ว ข้าจะกลับมาอย่างปลอดภัย และสัญญาจะอยู่กับท่านทั้งสองชั่วชีวิต"

"เอาล่ะ ๆ พล่ามพอแล้ว เข้าตัวเมืองไม่กี่ลี้เท่านั้น ทำราวใกล้จากกันชั่วชีวิต" ต่งควนส่ายศีรษะอ่อนใจ ฟู่ซูหนิงก็เลยวัยปักปิ่นมาตั้งหนึ่งปีแล้ว ไฉนยังตัวติดตากับยายราวเด็กสามขวบ

"เจ้าค่ะ เช่นนั้นหนิงเอ๋อร์ไปแล้ว ข้าจะซื้อขนมอร่อย ๆ มาฝากนะเจ้าคะ" ก่อนผละจากฟู่ซูหนิงยังไม่ลืมหวนมาหอมแก้มซึ่งมีริ้วรอยแห่งวัยประดับอยู่อีกฟอดใหญ่

ฟู่หรงขบขัน "อะไรกันเด็กคนนี้"

บทสนทนาของพวกเขาเมื่อครู่ ฉืออิ้งเทียนได้ยินทั้งหมด แม้ยามปกติเขาไม่คิดสอดส่องสิ่งใด ทว่าก่อนจากเขาเห็นควรว่าต้องเก็บเกี่ยวข้อมูลผู้มีพระคุณไว้บ้าง

ดูเหมือนนางจงใจแต่งกายเป็นบุรุษเพื่อไปส่งเขา หนำซ้ำยังอ้างว่าเขาอยากกลับเอง เหตุใดนางจึงเร่งร้อนผลักไสเขาราวตัวเห็บหมัด นี่นางรังเกียจบุรุษพิการงั้นหรือ

หนิงเอ๋อร์ นี่นามของเจ้าหรือ

เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ฉืออิ้งเทียนจึงถลากลับไปยังเตียงของตนดังเดิม แม้ดวงตาอาจพร่าเลือนไปบ้าง ทว่ายามนี้เขาสามารถคลำทางได้ดีทีเดียว

พรึบ!

"คุณชาย ไปกันเจ้าค่ะ"

ฉืออิ้งเทียนใจกระตุกวูบ ฟู่ซูหนิงเลิกคิ้ว นางสังเกตเห็นอาการลนลานผ่านท่าทีของเขาแม้จะเพียงพริบตาเดียวก็ตาม "ท่านเป็นอะไรหรือ"

ร่างระหงเดินเข้าใกล้อีกฝ่ายอย่างนึกลืมตัว ฉืออิ้งเทียนยังนั่งห้อยขาอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ ฟู่ซูหนิงโน้มกายลงจากนั้นใช้หลังมือวัดอุณหภูมิบริเวณหน้าผากของเขา

กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากกายสตรีลอยละล่องปะทะเข้าโสตประสาท ส่งผลให้ใบหูชายหนุ่มซับสีแดงระเรื่อ ใจของเขาเต้นรัวโครมใหญ่

"อ๊ะ เมื่อครู่ก็ยังปกติ เหตุใดยามนี้จึงได้หน้าแดงหูแดงเช่นนั้นเล่า"

ฉืออิ้งเทียนกระแอมเพื่อลดความเก้อกระดาก "เอ่อ...อากาศร้อนเล็กน้อย ข้าไม่เป็นไร เพียงแต่ ข้าตาบอดอาจทำให้การเดินทางล่าช้า"

"ไม่เป็นไร นี่ของท่าน"

นางยื่นไม้ค้ำยันไปให้เขา ฉืออิ้งเทียนเอื้อมรับสะเปะสะปะ ใช่ว่าเขาไม่เห็น ทว่ายามนี้เขากำลังเสแสร้งอยู่ต่างหาก

"ท่านคว้าที่ใดกัน นี่เจ้าค่ะ"

ฟู่ซูหนิงจับมือที่ควานไม่รู้ทิศเอาไว้ จากนั้นจึงยัดไม้เท้าเข้าไปยังฝ่ามือหยาบระคายโดยไม่ทันคิดสิ่งใด บุรุษผู้มิเคยต้องกายสตรีมาก่อนตัวแข็งทื่อตะลึงงัน ทั้งกลิ่นกายหญิงสาว และเรียวมืออันเนียนนุ่ม เป็นเหตุให้โลหิตในกายบุรุษกำลังเดือดพล่าน กลิ่นหวานหอมที่ส่งออกมาช่างต่างจากบรรดาสตรีในวังหลวงที่เขาเคยเฉียดผ่านยิ่งนัก ริมฝีปากได้รูปพลันกระตุกแผ่ว

หนิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นสตรีคนแรกที่แตะต้องกายของข้าแทบทุกตารางเนื้อ เจ้าหน้าตาเช่นไรข้าก็ยังไม่เห็น คิดว่าเพียงส่งข้ากลับแล้วข้าจะถอดใจหรือ เราจะต้องได้พบกันอีกแน่นอน

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

관련 챕터

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 4 ความอลหม่านในโรงเตี๊ยม(1)

    "อ๊ะ! นี่ นี่ ท่านเดินระวังหน่อยไม่ได้หรือไร ชนแล้ว ๆ" ฟู่ซูหนิงยกมือคลึงขมับวันนี้นางจะเดินทางไปถึงตัวเมืองหรือไม่ ไฉนเขาเอาแต่เดินเปะปะชนโน่นชนนี่อยู่เรื่อย หรือดวงตาของเขายามนี้กลายเป็นบอดสนิทไปแล้วกันเล่า"ขออภัยท่านหมอ ข้ามองไม่เห็นจริง ๆ""ท่านหยุด ไม่ต้องเดินต่อแล้ว เดินส่งเดชเช่นนี้สามวันก็ไม่ถึงหรอกเจ้าค่ะ"ฉืออิ้งเทียนหยุดฝีเท้าลงทันควัน ริมฝีปากได้รูปยกโค้งจาง ๆ แผนล่อหลอกเพื่อประวิงเวลาสัมฤทธิผลเสียทีฟู่ซูหนิงยกมือแกร่งคล้องลำคอด้วยความจำใจ นอกจากกลิ่นกายหอมกรุ่นดุจบุปผาต้องหยาดฝนของสตรีข้างกาย เส้นทางนี้ยังผสานด้วยกลิ่นอายหอมจรุงจากพืชพรรณโอสถ เพราะยามรบล้วนต้องผ่านการวางแผนและการฝึกฝนมามากจึงทำให้เขาสามารถแยกแยะรูป รส กลิ่น เสียงได้เป็นอย่างดีดอกไห่ถัง หอมยิ่งนัก เครื่องหอมของนางก็คงมาจากบุปผาชนิดนี้"คุณชายอิ้งเทียน ดวงตาท่านมองไม่ชัด แต่ขาของท่านยังสามารถใช้งานได้อยู่กระมัง"ฉืออิ้งเทียนพยักหน้า"เช่นนั้นข้าจะพยุงท่านแล้วเดินไปพร้อมกัน

    최신 업데이트 : 2025-02-21
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 4 ความอลหม่านในโรงเตี๊ยม(2)

    ฟู่ซูหนิงแหงนหน้าขึ้นแช่มช้า ก็ประสานเข้ากับดวงตาขมึงถึงของบุรุษร่างใหญ่ล่ำบึ้ก"นี่! เจ้าหน้าอ่อน เดินไม่ดูตาม้าตาเรือหรืออย่างไร อยากตายงั้นรึ"อาเป่าถลันเข้ามาค้อมศีรษะขอโทษขอโพยพัลวัน "นายท่าน ต้องขออภัยจริง ๆ ขอรับ นี่เป็นท่านหมอมาส่งผู้ป่วยเท่านั้น ได้โปรดละเว้นด้วย"ชายฉกรรจ์ถ่มถุยน้ำลายลงบนพื้นด้วยท่าทีหยาบโลน จากนั้นผลักอาเป่าซึ่งเรือนกายผอมแห้งจนล้มลงบนพื้น "เป็นแค่ลูกจ้างกระจอกงอกง่อย อย่าริอ่านมาต่อรองกับข้า รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร"ฟู่ซูหนิงเหลืออดพลันขบฟันกรอด มือเรียวกำหมัดแน่นเสียจนกายสั่นเทิ้ม ครั้นยันกายของตนขึ้นได้แล้ว ใบหน้าเกลี้ยงเกลาก็เชิดขึ้นด้วยความโอหัง "เจ้าหมีควาย! กระทั่งตัวเจ้ายังไม่รู้ว่าตนเป็นใคร แล้วผู้อื่นเขาจะรู้ด้วยงั้นรึ สมองหมูจริงเชียว ไฉนต้องมายกตนข่มท่าน รังแกผู้คนไม่สนถูกผิด"ชายร่างกำยำตวัดตามองฉับ จากนั้นคว้าสาบเสื้อของฟู่ซูหนิงจนเท้าลอยเหนือพื้น "เจ้าหน้าอ่อน เจ้าเป็นบุรุษอย่างไร ไยหน้าหวานอ่อนแอคล้ายพวกสตรีไม่มีผิด ปากคอก็เราะรายใช่ย่อย มิรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ปวกเปียกเช่นนี้ยังกล้าพ่นวาจาดูแคลนข้าอีก!"

    최신 업데이트 : 2025-02-22
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 5 หลบหลีก (1)

    "อาเหวิ่น ไยพวกเจ้าทำตัวเสียมารยาทนัก"บุรุษร่างสูงแต่งกายด้วยชุดผ้าไหมสีครามงามสง่า บนศีรษะสวมกวานหยกล้ำค่าลายประณีตมือของเขาถือพัดงาช้างพลางโบกสะบัดแช่มช้าใบหน้าของเขาหล่อเหลาทว่ากลับแฝงไปด้วยกลิ่นอายความกะล่อน ครั้นจะให้เปรียบเทียบกับบุรุษอีกคนที่นั่งสงบนิ่งในยามนี้ ชายหนุ่มทั้งสองก็นับว่ารูปงามไม่น้อยหน้ากันสักกระผีกริ้นหล่อเหลาสูงส่งแล้วอย่างไรหากทำตัวอันธพาลก็มิเท่ากับพวกดูดีเพียงรูปแต่จูบไม่หอมอย่างนั้นหรือ ฟู่ซูหนิงมิได้ใส่ใจผู้มาเยือนนัก ใบหน้าเกลี้ยงเกลายับยู่พลางปัดป่ายเพื่อจัดแจงอาภรณ์ซ้ายขวาชายร่างกำยำรวมถึงลูกน้องที่นอนโอดครวญอยู่บนพื้น ต่างลากสังขารไปหลบหลังบุรุษร่างสูงโปร่ง"นายน้อย เจ้าหนุ่มนี่ทำดวงตาของข้ามืดบอดขอรับ" นักเลงหัวไม้ร่างโตเมื่อครู่ก็คืออาเหวิ่นหรือจินเหวิ่น"หุบปากเสีย ร่างกายก็ใหญ่โตกว่าเขาตั้งหลายเท่า ไยขี้ฟ้องดุจเด็กสามขวบ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น"จินเหวิ่นและลูกน้องเงียบเสียงลงฉับ บ้างกุมท้องบ้างกุมหน้าผาก ทว่าจินเหวิ่นยังปิดตาของตนไว้แน่นใบหน้าพวกเขาแดงก่ำเหยเ

    최신 업데이트 : 2025-02-23
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 5 หลบหลีก (2)

    ฟู่ซูหนิงถอนหายใจระอิดระอาตัวโตเสียเปล่าสมองหมูไม่เกินจริง ร้องอย่างกับลาถูกเชือด"ซื่อจื่อ ข้าจะบอกท่านให้ ว่านั่นมิใช่ยาพิษสักนิด ท่านเลิกให้ลูกน้องร่างยักษ์ร้องโอดโอยเป็นหมูถูกเชือดเสียที ผงผัดหน้าธรรมดาไม่รู้จักหรือไร เคืองเล็กน้อยก็ตีโพยตีพายยกใหญ่"ฉืออิ้งเทียนส่ายศีรษะพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นยกชาขึ้นจิบอย่างใจเย็น ที่แท้ฟู่ซูหนิงก็มีอุบายเช่นคาดเดาไม่มีผิด นางสามารถทำให้ผู้อื่นอกสั่นขวัญแขวนกันเป็นแถบ ช่างเป็นสตรีตัวแสบไม่เบาทีเดียวได้ยินเช่นนั้นจินเหวิ่นจึงลดฝ่ามือลงแช่มช้า พลันกะพริบตาสองสามคราก็พบว่าตนเพียงระคายเคืองเล็กน้อยเท่านั้น จินเหวิ่นยิ้มแหยเฉกเช่นเด็กน้อยกำลังถูกมารดาดุ ช่างไม่รับกับสีหน้าอันเกรี้ยวกราดนั่นเสียเลย มองดูก็อุจาดตาพิกลเหอหยางส่ายศีรษะเพราะรู้สึกขายหน้าเหลือแสน เขากระแอมแก้เก้อ"ขอบคุณน้องชายที่ยั้งมือไว้ไมตรี แต่ว่า..."หมอนี่ช่างขี้สงสัยจริงแท้"นี่ซื่อจื่อ ท่านเป็นไก่หรือไร ตามจิกตามสงสัยข้าอยู่นั่น เดี๋ยวข้าจับตุ๋นทำน้ำแกงเสียเลย"ลูกน

    최신 업데이트 : 2025-02-24
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 6 สหายร่วมสาบาน (1)

    ฉืออิ้งเทียนนั่งสงบนิ่งเฉกเช่นหุบเขาน้ำแข็งอยู่ภายในรถม้า ส่วนองครักษ์ทั้งสองควบอาชาคอยอารักขาผู้เป็นนายขนาบข้างคนละฝั่ง เขานั่งขบคิดตลอดทางถึงอาการแปลกพิกลของฟู่ซูหนิง กระทั่งบุรุษที่ตนถกเถียงจนน้ำลายแตกฟอง ยังสามารถพลิกมาเป็นพวกพ้องเพื่อหลบเลี่ยงมิให้องครักษ์ของเขาได้เห็นหน้าเกาซี "องค์ชาย ขอประทานอภัยที่กระหม่อมไม่อาจมองหน้าของท่านหมอได้อย่างชัดแจ้งพระองค์ประสงค์ให้พวกเราตามสืบเรื่องของเขาหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ""เพราะนางไม่อยากให้พวกเจ้าเห็นเองต่างหาก"เกาซีและเติ้งเหวยเหลียวมองหน้ากัน เติ้งเหวยเอ่ย "เอ่อ...ท่านหมอเป็นผู้หญิงหรือพ่ะย่ะค่ะ แต่เมื่อครู่กระหม่อมเห็นเพียงบุรุษ ไม่มีสตรีสักนาง"ฉืออิ้งเทียนแค่นยิ้ม "ช่างเถิด ถึงอย่างไรเรื่องของท่านหมอข้าย่อมไม่ปล่อยผ่าน นางทำดีกับข้า ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บและดวงตาของข้า ทว่ากลับจงใจหนีหน้าข้า พวกเจ้าว่าดูไปแล้วนางมีพิรุธหรือไม่"องครักษ์ทั้งสองเหลียวมองหน้ากัน จากนั้นพยักหน้าโดยพร้อมเพรียงเกาซี "องค์ชาย แล้วจดหมายที่ติดต่อพวกเรา พระองค์ก็เป็นคน...""ข้าเป

    최신 업데이트 : 2025-02-25
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 6 สหายร่วมสาบาน (2)

    "น้องชาย ลูกไม้เดิมเจ้าอย่านำมาใช้อีกจะดีกว่าไม่ได้ผลหรอก เช่นนั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน หากเจ้าไร้แหล่งพักพิง ไปพักที่จวนข้าได้ ที่นั่นใหญ่โตโอ่โถงเพียงพอให้เจ้าได้หลบแดดบังฝนอย่างสบายเชียวล่ะ"ฟู่ซูหนิงส่ายหน้า "ไม่ขอรับ ข้ารักอิสระ"เหอหยางเยื้องย่างเข้าใกล้คนตัวเล็กแช่มช้า เขาโน้มกายลง "ไม่ต้องเกรงใจ..." เสียงทุ้มแผ่วโผย จากนั้นเอ่ยต่อว่า "น้องชายเจ้ายินดีเป็นสหายกับข้าหรือไม่ หากยามเบื่อหน่ายข้าจะได้มีเพื่อนร่ำสุราเคล้านารี ดู ๆ ไปแล้วมีเจ้าเป็นสหายคงมีเรื่องให้เล่นสนุกไม่เว้นวัน""ท่านเป็นถึงซื่อจื่อผู้สูงส่ง จะลากข้าไปร่ำสุราเป็นเพื่อนเพื่อสิ่งใด ข้าเป็นเพียงหมอนิรนามเนื้อตัวสกปรกกลิ่นกายเต็มไปด้วยโอสถเฉกเช่นคนแก่ชรา ลูกน้องก็มีเป็นโขยงยังจะอยากเพิ่มข้าเข้ามาให้ชวนปวดหัวอีก"เหอหยางกดยิ้มมุมปาก "นั่นไม่เหมือนกัน...และแน่นอนว่าข้าอยากเป็นสหายกับเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น สุราจอกนี้เป็นสัญญาแรกของเราดีหรือไม่"ฟู่ซูหนิงมองจอกขนาดเล็กในมือของเขา เหตุใดคนผู้นี้ว่องไวดุจปีศาจ เมื่อครู่นางยังมิเห็นว่าเขาหยิบมาด้วยเลย แล้วเขาไปเอาจอกสุรานี่มาได้อย่างไร

    최신 업데이트 : 2025-02-26
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 7 อำนาจที่สั่นคลอน (1)

    "เทียนเอ๋อร์ เป็นอย่างไรบ้างลูก"ซิ่วกุ้ยเฟยหรือซิ่วอิงเห็นโอรสของตนกลับมาในสภาพมีผ้าขาวคาดดวงตาก็ร้องไห้แทบเกิดลมจับ คาดไม่ถึงว่าลูกชายเพียงคนเดียวที่ยังหลงเหลือกลับกลายเป็นคนพิกลพิการตั้งแต่อายุเพียงสิบแปดปี โอรสคนโตก็สิ้นใจในสมรภูมิรบเมื่อสามปีก่อน ไยชะตาสนมเอกเช่นนางจึงอาภัพนัก"เสด็จแม่ ไม่ต้องกังวลพระทัย ยามที่ลูกหลงอยู่ในป่า ลูกบังเอิญพบกับหมอเทวดา แม้ดวงตาไม่อาจมองเห็น ทว่าร่างกายของลูกแข็งแรงดียิ่งพ่ะย่ะค่ะ""หมอเทวดางั้นหรือ หมอเทวดาใดกัน หากเป็นหมอเทวดาไยจึงไม่อาจรักษาดวงตาเจ้าได้ อีกอย่างแม่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเรื่องหมอเทวดาเหลวไหลอะไรนั่น แบบนี้ไม่ได้การ แม่จะเรียกหมอหลวงมาตรวจร่างกายเจ้าอีกครั้ง บางทีหมอเทวดาที่เจ้าว่าอาจรักษาส่งเดชก็เป็นได้"ฉืออิ้งเทียนถอนหายใจอย่างนึกปลดปลง แม้เขาไม่ประสงค์ชิงดีชิงเด่นกับบรรดาพี่น้องต่างมารดาทว่าซิ่วกุ้ยเฟยกลับไม่เป็นเช่นนั้น นางช่างกระหายในอำนาจอย่างยิ่งยวดอีกไม่นานจะมีการแต่งตั้งชินอ๋อง แน่นอนว่าผู้เหมาะสมและเป็นที่หมายตาสำหรับตำแหน่งอ๋องขั้นหนึ่งย่อมหลีกไม่พ้นฉ

    최신 업데이트 : 2025-02-27
  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 7 อำนาจที่สั่นคลอน (2)

    ซิ่วกุ้ยเฟยถอนหายใจอย่างนึกระอา พระนางเอ็นดูรั่วรั่วผู้นี้มาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ซ้ำยังหมายตาให้เป็นว่าที่พระชายาของฉืออิ้งเทียน เพราะบิดาของรั่วรั่วเป็นแม่ทัพใหญ่ รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับฝ่าบาทเมื่อหลายสิบปีก่อน แม่ทัพรั่วปกป้องฝ่าบาทจนสุดความสามารถจึงทำให้ตนต้องตายในสมรภูมิ ยามนั้นบุตรีของเขายังเล็กนัก ฮูหยินแม่ทัพรั่วก็ร่างกายอ่อนแอ ยิ่งได้รับข่าวร้ายก็ตรอมใจจนสิ้นใจในที่สุดฮ่องเต้ฉือเจียฉีเห็นแก่คุณงามความดีของแม่ทัพรั่ว ตั้งแต่รั่วรั่วยังมิรู้ความ นางก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นท่านหญิงสืบมา ทั้งยังมอบจวนหลังใหญ่ และเงินทองแพรพรรณมากมายแก่บุตรีเพียงหนึ่งเดียวของแม่ทัพ ต่อให้นางมิต้องทำงาน ทั้งชาติก็ไม่รู้จะใช้เงินทองเหล่านั้นหมดหรือไม่"รั่วรั่ว ใจเย็น ๆ พี่เขาปลอดภัยดี ส่วนเรื่องดวงตาไว้ข้าจะให้หมอมาตรวจอาการอีกที"รั่วรั่วร้องไห้กระซิกพลางใช้แพรพกปาดน้ำตาเพราะฉืออิ้งเทียนมองรั่วรั่วดุจดั่งน้องสาวคลานตามกันมา แม้ทราบเจตนาและความรู้สึกของรั่วรั่ว แต่เขาก็มิอาจรับไมตรีจิตนี้ได้ ต่อให้มารดาของเขาเห็นดีเห็นงามด้วยก็ตามทีเมื่อครู่เขายังมิทันได้เผยความจริ

    최신 업데이트 : 2025-02-28

최신 챕터

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 43 อดีตที่เสมือนกระจกสะท้อนความจริง (2)

    จู่ ๆ ฟู่ซูหนิงก็ถูกควบคุมตัวให้คุกเข่าลง "นี่เรื่องใดกัน อยู่ ๆ ก็มาจับกุมข้า อยากหัวขาดงั้นรึ"บุรุษผู้หนึ่งย่างกรายมาเบื้องหน้าของนาง พร้อมย่ามสุดรักในมือ เขาชูของสิ่งนั้นขึ้น ครั้นเห็นกระจะตาว่าเป็นผู้ใดนางก็เบิกตากว้าง"หมอชุย!"ชุยว่านเหวินเหยียดยิ้ม "พระชายา นี่ของท่านใช่หรือไม่"ฟู่ซูหนิงเมียงมองครู่หนึ่ง "ของข้า แล้วไปอยู่กับเจ้าได้อย่างไร""เป็นชายาชินอ๋องไม่ผิดแน่ นางสารภาพแล้วว่าคือของนาง"คิ้วสวยขมวดฉับ "หมายความว่าอย่างไร""พระชายา ท่านแสร้งทำตาใสเรื่องใดงั้นหรือ ลอบวางยาพิษฝ่าบาทรู้หรือไม่ว่ามีโทษสถานใด""ลอบวางยาพิษ! ไร้หลักฐานไยคิดปรักปรำข้า อีกอย่างข้าเป็นชายาชินอ๋อง ควบคุมตัวข้าทั้งที่ยังไม่ไต่สวน ทำเช่นนี้นับว่าถูกต้องแล้วรึ หากชินอ๋องรู้เข้า อย่าหมายว่าศีรษะของเจ้าจะยังอยู่บนบ่า"เสียงทุ้มหัวเราะร่วน "พระชายา หลักฐานคาตา ทุกคนก็เห็นกันหมด และนี่..." เขาเทของออกจากย่ามใบโปรดของฟู่ซูหนิง ยาพิษหลากชนิดร่วงกราวดั่งใบไม้แห้ง "ของพวกนี้ ยาพิษใช่หรือไม่""ก็ใช่ แต่นั่นข้าเอาไว้ศึกษาทดลอง และย่ามของข้

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 43 อดีตที่เสมือนกระจกสะท้อนความจริง (1)

    รถม้าของราชวังเคลื่อนมาจอดที่หน้าตำหนักชินอ๋อง ฟู่ซูหนิงและเสี่ยวไป๋กำลังจะออกเดินทาง นัยน์ตาดอกท้อกวาดมองตำหนักชินอ๋องอย่างนึกอาลัย ชาติก่อนฟู่ซูหนิงอาศัยอยู่ในฐานะพระชายา ส่วนตอนนี้นางได้อาศัยบังแดดบังฝนในฐานะหมอแม้ใจไม่อยากจากไปแต่นางและเขาล้วนเลือกเดินคนละเส้นทางตั้งแต่แรกแล้ว"หมอฟู่"สตรีผู้สวมอาภรณ์งามสง่ากำลังมุ่งหน้ามาหานาง ฟู่ซูหนิงยอบกายค้อมศีรษะ"ถวายพระพรกุ้ยเฟยเพคะ"ขนาบข้างกุ้ยเฟยยังมีรั่วรั่วซึ่งยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับประคองอยู่ไม่ห่าง"กุ้ยเฟย ดูนางสิเพคะ รั่วรั่วบอกนางแล้วให้รอท่านพี่อิ้งเทียนฟื้นก่อนหมอฟู่ก็ไม่ฟัง"ฟู่ซูหนิงหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก รั่วรั่วถึงขั้นไปเชิญกุ้ยเฟยเพื่อมายื้อนางเชียวหรือ ช่างขัดกับรั่วรั่วในเมื่อก่อนยิ่งนัก"หมอฟู่ เจ้าเป็นหมอติดตามลูกของข้ามิใช่หรือ ยามนี้เขายังไม่ได้สติ เจ้านึกจะไปก็ไปนึกจะมาก็มาง่ายดายปานนี้เชียวหรือ" ซิ่วกุ้ยเฟยเปล่งวาจาวางอำนาจ แท้จริงในใจของซิ่วกุ้ยเฟยต้องการขอบคุณฟู่ซูหนิงมากกว่า แต่เพราะตนเป็นคนใหญ่คนโตก็ต้องวางท่าใ

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 42 บทสรุปที่เลือก (2)

    เสียงแหลมเล็กดังจากทางเบื้องหลัง ฟู่ซูหนิงหมุนกายกลับตามเสียงร้องเรียก ส่วนองครักษ์ทั้งสองไม่อยากสอดมือเข้ายุ่งจึงขอตัวผละจาก"ท่านหญิงรั่วรั่ว มีเรื่องใดหรือเจ้าคะ"รั่วรั่วรู้สึกประดักประเดิดเล็กน้อย นางหันรีหันขวาง ท่าทีวางไม้วางมือรู้สึกเก้งก้างไปหมด "เอ่อ...ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า สะดวกสักครู่หรือไม่"ฟู่ซูหนิงเลิกคิ้วด้วยความฉงน นางไม่เคยเห็นรั่วรั่วในมุมของสาวน้อยขี้กังวลเช่นนี้มาก่อน "มีสิ่งใดก็ว่ามาเถิดเจ้าค่ะ"จู่ ๆ สตรีผู้สูงศักดิ์หน้าตาจิ้มลิ้มก็เดินเข้ามาจับมือฟู่ซูหนิงทั้งสองฝั่ง รั่วรั่วพยายามรวบรวมความกล้า "หมอฟู่ ข้ามาวันนี้ ก็เพียงอยากขอโทษเจ้า ที่เมื่อก่อนข้าริษยาและชอบต่อว่าเจ้า"เปลือกตาบางกะพริบถี่อย่างไม่เชื่อสายตารั่วรั่วเอียงคอมอง "เป็นอะไรไปเล่า เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ ข้ามิได้มีอุบายใดนะ""ท่านหญิง ท่านกินยาผิดขนานหรือ"รั่วรั่วหน้างอง้ำ ใบหน้าของนางจิ้มลิ้มน่าเอ็นดูยิ่ง หากนางมิใช่ท่านหญิงผู้เอาแต่ใจก็คงจะดีไม่น้อย "เหตุใดพูดจาเช่นนี้กัน ข้าอุตส่าห์สำนึกได้แล้วเชียว"ฟู่ซูหนิงเลิกคิ้ว "อะไรเจ้าคะ

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 42 บทสรุปที่เลือก (1)

    การจับกุมหลิวเฟยเกือบทำให้เกิดความเสียหายครั้งใหญ่ นับว่าโชคดียิ่งที่ฉืออิ้งเทียนเตรียมกำลังทหารปิดล้อมโรงน้ำชาแห่งนั้นเอาไว้ แม้เขาได้รับบาดเจ็บจนหมดสติ ทว่าองครักษ์ทั้งสองและไท่จื่อ และฉือเจิ้นหยู่สามารถกวาดล้างเหล่ากบฏ ได้จนสิ้นซาก ทุกอย่างล้วนเป็นการวางแผนอย่างรอบคอบของชินอ๋องหลิวเฟย เย่อ๋อง และหัวหน้าหมอหลวงชุยว่านเหวิน ถูกคุมขังอยู่ในคุกหลวงสามวันเพื่อทำการไต่สวนต่อเรื่องราวทั้งหมด ทั้งสองคนร่วมกันวางแผนเพื่อขุดบ่อน้ำมันท้ายหมู่บ้านฮุ่ยเหอมาช้านาน หนำซ้ำยังทำร้ายผู้บริสุทธิ์โดยเฉพาะผู้ที่ล่วงรู้ถึงแหล่งขุดเจาะ เพราะเหตุนี้บุรุษในหมู่บ้านฮุ่ยเหอ ที่มักออกหาของป่าเพื่อเลี้ยงชีพ หากบังเอิญพบสถานที่มรณะนั้นเข้าก็ถูกปลิดชีวิตตายทั้งหมดทำให้หลงเหลือเพียงสตรีอ่อนแอ คนแก่ชรา และเด็ก เย่อ๋องจึงวางแผนให้หมู่บ้านเกิดโรคระบาด หากชาวบ้านล้มตายจนหมด หมู่บ้านฮุ่ยเหอก็จะถูกทิ้งร้างและไม่มีรายงานส่งเข้าวังหลวง จนถูกหลงลืมในที่สุดแผนการทั้งหมดพังครืนไม่เป็นท่า เพราะอยู่ ๆ ก็มีหมอเช่นฟู่ซูหนิงยื่นมือเข้าช่วย ครั้นจะเร่งกำจัดก็เกรงจะเกิดเรื่องใหญ่ ก

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 41 ข้าขอโทษ

    ฮ่องเต้ฉือเจียฉีใจเต้นระส่ำ ร่างกายสั่นเทา ดวงตาแดงก่ำ อารมณ์ยามนี้ทั้งโกรธแค้นและเจ็บปวดฉือเจิ้นหยู่คุกเข่าค้อมศีรษะ "เสด็จพ่อ องค์ชายสามคิดกบฏยึดบัลลังก์มังกร หมายช่วงชิงลัญจกรของพระองค์ เขาสังหารทหารกล้าไปนับร้อยชีวิต ทว่าชินอ๋องระแคะระคายเกรงว่าวังหลวงจะเกิดจลาจล จึงได้วางกองกำลังเพื่อดูสถานการณ์โดยให้ลูกเป็นทัพหน้า เพราะองค์ชายสามกระทำความผิดฐานก่อกบฏ การประหัตประหารนี้ก็นับว่าสมควรแล้ว ถูกต้องหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"ฮ่องเต้ฉือเจียฉีอึ้งงัน การที่เขามากภรรยาหลายบุตรมันช่างยุ่งเหยิงและแสนเจ็บปวดนักมือหยาบระคายเอื้อมลูบศีรษะฉือเจิ้นหยู่แผ่วเบา "เจิ้นหยู่ เป็นพ่อที่ละเลยเจ้า ทั้งที่เจ้าปกป้องบ้านเมืองมาโดยตลอด ข้าไม่รู้เลยว่าเจ้าจะรู้จักรักผองพี่น้อง ลูกพ่อ..." ฮ่องเต้เหลียวมองรัชทายาท และฉืออิ้งเทียนร่วมด้วย "พวกเจ้าล้วนแล้วแต่เหมาะสมกับการเป็นโอรสของข้า เจิ้นหยู่ อิ้งเทียน พวกเจ้าตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดและเฉียบขาดยิ่ง เรื่องวันนี้คนเลวจะต้องถูกลงทัณฑ์โทษทัณฑ์ที่ลู่ถงได้รับก็สาสมแล้ว"ฮ่องเต้ฉือเจียฉีกัดฟันกรอด "จับตัวพวกมันไปตัดหัวให้หมด!"

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 40 เปิดโปง (2)

    ทุกคนต่างให้ความสนใจฟู่ซูหนิง และแน่นอนฉืออิ้งเทียนทราบว่าฟู่ซูหนิงลอบให้การรักษาซีผินอย่างลับ ๆ กระทั่งเขาสืบทราบความจริงว่าซีผินมิใช่ศัตรูตัวจริง ซีผินก็แค่ริษยาแต่ไม่เคยคิดกระทำการชั่วช้าหมายเอาชีวิตเขาแต่อย่างใด ทว่าคนที่สุขุมเยือกนิ่งกลับร้ายกาจที่สุด ฉืออิ้งเทียนจึงทราบว่าทั้งหมดเป็นแผนของหลิวเฟยและโอรสของเขา องค์ชายสามฉือลู่ถงซีผินเอ่ยต่อ "ขอบคุณหมอฟู่ หากไม่ได้ท่าน ข้าคงตายไปนานแล้ว"ฟู่ซูหนิงหลุกหลิก แท้จริงนางก็มิได้ต้องการให้ใครมาขอบคุณ นางเองก็อยากรู้ว่าคนร้ายตัวจริงจะใช่คนที่นางคิดหรือไม่หลิวเฟยตวัดตามองฟู่ซูหนิงฉับ "เจ้านี่มัน! หอกข้างแคร่ของข้าทุกเรื่อง"ฉืออิ้งเทียนสาวเท้าเข้ามาบังหน้าฟู่ซูหนิงไว้ในบัดดล ฟู่ซูหนิงเอ่ยเสียงแผ่ว "ท่านอ๋องกังวลมากเกินไปแล้วเพคะ""ข้าไม่อนุญาตให้ใครทำร้ายเจ้า กระทั่งสายตาก็ไม่ได้!!"นัยน์ตาดอกท้อแดงก่ำ ฟู่ซูหนิงมองตามแผ่นหลังกว้างของบุรุษเบื้องหน้าด้วยจิตใจสับสน เสียงใสเปล่งวาจาเบาหวิว "ขอบพระทัยเพคะ"ซีผินบอกเล่าวีรกรรมต่ำช้าของหลิวเฟยต่อไป "วันนั้นที่ฝ่าบาทประชวรหนัก ข้าเข้าไปยังห้องบร

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 40 เปิดโปง (1)

    ห้องรับรองพิเศษของโรงน้ำชา ณ ย่านกลางเมือง เดิมทีใช่ใครจะเข้าออกสถานที่แห่งนี้ได้โดยง่าย ทว่าคนเฝ้าทางเข้าเพียงหยิบมือไหนเลยจะสู้ทหารกล้าผู้เจนสนามรบ ขณะที่ด้านในมิได้ระแคะระคายใด พวกเขาก็แฝงกายเข้าไปอย่างง่ายดาย"นายหญิง พวกเราได้วางกู่พิษชนิดพิเศษไว้ในห้องเครื่องของตำหนักชินอ๋องเป็นที่เรียบร้อย ทุกคนที่นั่นจะยอมรับว่าตำหนักชินอ๋องก่อกบฏทุกประการ"การรับพิษกู่เข้าสู่ร่างกายจะส่งผลให้ทุกคนกลายเป็นหุ่นเชิด หากผู้สั่งการประสงค์ให้ทำสิ่งใดคนเหล่านั้นก็จะทำตามโดยไร้สติ ฟู่ซูหนิงลอบฟังก็กำหมัดแน่น หากยามนั้นผู้อาวุโสฟางซินไม่ยื่นมือเข้าช่วย ชาวบ้านคงไม่ต่างจากศพเดินได้ ประหนึ่งผีดิบดี ๆ นี่เอง โชคดีที่นางยังเก็บจินฉานเอาไว้ [1] เพราะต้องการศึกษาต่อ ไม่เช่นนั้นจวนชินอ๋องต้องถึงกาลวิบัติแน่แท้ก่อนออกมาฟู่ซูหนิงย้อนกลับไปเก็บกวาดของสกปรกเหล่านั้นทั้งหมด เพราะนางลอบมองการกระทำของมือสังหารอยู่นานจึงเห็นว่าเขาลอบวางกู่พิษในห้องเครื่องจริงฉืออิ้งเทียนยังแอบชื่นชมฟู่ซูหนิงเป็นมิได้ ขณะที่เขาเป็

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 39 ทรยศหัวใจตน (2)

    ฟู่ซูหนิงใจเต้นโครมคราม นางกลัวเหลือเกิน กลัวตัวเองจะตัดใจจากเขาไม่ได้ข้าไม่อยากคุยกับท่าน ข้าขี้เกียจรบกับแม่สามี กับสตรีนับสิบ ท่านไม่เข้าใจบ้างหรือ ฉืออิ้งเทียนฟู่ซูหนิงทำได้เพียงระบายความอัดอั้นภายในใจ ฉืออิ้งเทียนหัวรั้นเพียงนี้ หากนางไม่เต็มใจอยู่กับเขา เขาเองก็คงตามตื๊อนางไม่เลิกรา ฟู่ซูหนิงไม่รู้ควรทำเช่นไร ครั้นคิดจะมีสามีให้จบ ๆ ไป แต่ใครจะสามารถแต่งงานกับบุรุษที่ตนไม่ได้รักลงกันเล่า ตลกร้ายเกินไปหน่อยแล้วมือสังหารสองนายมีระแคะระคายอยู่บ้างที่การคุ้มกันของตำหนักฮ่องเต้หละหลวม แต่ด้วยความเร่งร้อนหวังจบภารกิจของตนโดยเร็ว จึงมิได้จับสังเกตใดอีกย่ามคู่ใจของฟู่ซูหนิงถูกวางทิ้งไว้ข้างเตากำยาน มือสังหารทั้งสองลอบวางยาพิษชนิดที่ว่าสูดดมเข้าไปภายในครึ่งชั่วยามก็สามารถคร่าชีวิตคนได้ทันที โชคดีที่ทุกคนได้รับยาสลายพิษของฟู่ซูหนิง กระทั่งทุกอย่างเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ มือสังหารทั้งสองก็กระโจนหายไปท่ามกลางความมืดมิดเติ้งเหวยและเกาซีรับหน้าที่ติดตามมือสังหารทั้งสอง ส่วนฟู่ซูหนิงและฉืออิ้งเทียน รุดเข้ามาในห้องบรรทม ทั้งสอ

  • แพทย์หญิงย้อนเวลามาเป็นหมอยาต่างยุค   บทที่ 39 ทรยศหัวใจตน (1)

    บทสนทนาอ้างถึงของสำคัญที่ฟู่ซูหนิงพกติดกาย ฟู่ซูหนิงครุ่นคิด เดิมนางมิได้มีของล้ำค่าใด ก็คงมีเพียงย่ามสะพายข้างที่พกติดกายเสมอ"ท่านอ๋อง ย่ามพกยังอยู่ที่ห้องหม่อมฉันเพคะ"ฉืออิ้งเทียนพยักหน้า เขาเร่งร้อนจะพานางกลับไปเอา แต่ฟู่ซูหนิงส่ายศีรษะ ฉืออิ้งเทียนงุนงง "ทำไมถึงห้ามข้า""เราตามพวกเขาไปเถิดเพคะ หนามยอกต้องเอาหนามบ่งมิใช่หรือ เช่นนั้นก็ให้พวกเขาเอาไป เราตามไปเงียบ ๆ ก็เพียงพอแล้ว"ฉืออิ้งเทียนจึงพาฟู่ซูหนิงลอบตามชายผู้บุกรุกไป และแน่นอนฟู่ซูหนิงจงใจเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายกระทำตามอำเภอใจ ถุงผ้าของฟู่ซูหนิงถูกสับเปลี่ยน นัยน์ตาดอกท้อหรี่ลงพิจารณาบุรุษที่สวมอาภรณ์สาวใช้ทั้งสองแล้วจึงจิ๊ปาก"สองคนนี้แอบแฝงตัวเข้ามากับขบวนนางกำนัลซีผินเมื่อช่วงบ่ายเพคะ""เมื่อบ่ายข้าก็เห็นความผิดปกติ ดูเหมือนตอนนั้นพวกมันยังไม่คิดลงมือ ข้าต้องการรู้ว่าแท้จริงนายพวกมันเป็นใคร จึงเล่นละครตามน้ำไปก่อน"ฟู่ซูหนิงตัวแข็งทื่อ แท้จริงเขาก็รู้ทุกเรื่อง แสร้งเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสื้อจริงงั้นหรือ"ท่านอ๋อง ท่านคงมิได้สงสัยซีผินกระมังเพคะ"

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status