Share

บทที่ 7

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
คืนนี้ถูกลิขิตไว้แล้วว่านางต้องถูกเอาเปรียบซักครั้ง เฟิ่งจิ่วเหยียนคาดการณ์เรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว

ที่จริงเมื่อเทียบกับโดนฮ่องเต้ทรราชนี่พรากคืนแรกไป ให้ทำเองยังนับว่าดีกว่ามากนัก

อย่างน้อยก็ไม่ต้องทนถูกคนกดไว้ข้างล่าง

เฟิ่งจิ่วเหยียนฉีกผ้าจากชายกระโปรงออกมาชิ้นหนึ่ง นำมาปูรองไว้เป็นผ้าพรหมจรรย์[1]

หลังจากนั้นก็ใช้มือหนึ่งถลกกระโปรงขึ้นมา อีกข้างพลิกมือจับกริชนั้น

ถึงแม้นางตัดสินใจแล้วว่าจะทำ แต่ร่างกายยังคงต่อต้านโดยสัญชาตญาณ

นางปลอบใจตัวเอง คิดเสียว่าโดนแทงหนึ่งทีแล้วกัน

ตั้งแต่เล็กจนโตนางบาดเจ็บมาน้อยหรือไร?

จากนั้นนางก็เริ่มออกแรง...

เพียงชั่วพริบตานั้นเองพละกำลังสายหนึ่งพุ่งเข้ามาจับข้อมือนางเอาไว้แน่น

เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้ว

เซียวอวี้แย่งกริชในมือนางไปอีกครั้ง ครั้งนี้น้ำเสียงของเขาเย็นยะเยือกยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก

“ช่างเป็นสตรีที่โง่เสียจริง”

เคร้ง!

กริชถูกโยนออกไปนอกม่านเตียงอักษรมงคล

“เจ้าจะบริสุทธิ์หรือไม่ เราไม่แยแสแม้แต่น้อย”

“ในเมื่อเจ้ากล้าแลกทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเป็นฮองเฮาให้ได้ เช่นนั้นก็อย่าแกล้งโง่ไปเลย”

“ดังเช่นที่เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าเราอยู่ที่ตำหนักหลิงเซียว ยังจะกล้าบุกไปหาเรา”

เฟิ่งจิ่วเหยียนกัดฟันกรอด

ที่แท้ยามนั้นเขาก็คิดว่านางทำเพื่อแย่งชิงความโปรดปราน ด้วยเหตุนี้จึงตั้งใจมาสั่งสอนเพื่อให้นางจดจำกฎระเบียบนี้ให้ดี

ดูท่าทีที่ยามนั้นบอกให้นางเตรียมร่วมบรรทม ก็เพื่อหลอกให้นางรอไปทั้งคืน

ช่างเป็นวิธีฆ่าคนไม่เห็นเลือดเสียจริง

แต่วิธีนี้จะได้ผลก็ต่อเมื่อใช้กับผู้ที่คิดอยากได้ความรักความโปรดปรานจากเขาเท่านั้น

เขาไม่คิดที่จะโปรดปรานนาง เรื่องนี้ตรงกับความต้องการของนางพอดี

เฟิ่งจิ่วเหยียนผูกสายรัดเอวกลับอย่างรวดเร็ว แล้วคุกเข่านั่งลงบนเตียง

สองมือรวบไว้ด้านหน้าลำตัว ก้มคำนับด้วยลักษณะท่าทางเคารพนบนอบตามแบบแผนของพระราชวัง

“ฝ่าบาท หม่อมฉันสำนึกผิดแล้วเพคะ”

“หม่อมฉันจะไม่วางแผนเพื่อแย่งชิงความโปรดปรานจากฝ่าบาทอีกแล้วเพคะ”

“หวงกุ้ยเฟยคือคนในดวงใจของฝ่าบาท หม่อมฉันจะปฏิบัติต่อนางราวกับเป็นพี่น้องแท้ ๆ รักถนอมนางดังเช่นฝ่าบาทเพคะ”

เมื่อนางกล่าวจบ เขาก็ไม่ตั้งแง่กับนางต่อจริง ๆ

เขามองมาที่นางด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก “สกุลเฟิ่งช่างอบรมสั่งสอนฮองเฮามาดีเสียจริง”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเนิบนาบยากที่จะคาดเดาอารมณ์ จากนั้นเขาก็พลันลุกขึ้นเปิดม่านแล้วจากไป

หลังจากนั้นเหลียนซวงก็ถือโคมไฟวิ่งเข้ามาในตำหนักทันที

เมื่อมีแสงสว่างแล้ว สภาพภายในม่านก็กระจ่างชัดขึ้น

พระแท่นบรรทมยุ่งเหยิง เสื้อผ้าของฮองเฮาก็หลุดลุ่ยอยู่บ้าง บนพระศอยังมีรอยแดงจาง ๆ ......

นี่คือรูปการณ์หลังจากได้รับความโปรดปรานอย่างนั้นหรือ?

เหลียนซวงฉงนอยู่ในใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะสงสัย เหตุใดฮ่องเต้ทรราชจึงเสร็จกิจเร็วเช่นนี้ ในหนังสือที่ฮูหยินให้นางดูก่อนที่จะเข้าวังมาไม่ได้เขียนเช่นนี้นี่

“ฮองเฮา ให้ข้าน้อยปรนนิบัติท่านชำระกาย...”

“ไม่จำเป็น ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา เท้าเปลือยเปล่าก้าวลงพื้น เก็บกริชบนพื้นเล่มนั้นขึ้นมา

เหลียนซวงตกตะลึง

ด้านหนึ่งตกตะลึงที่ฮ่องเต้และฮองเฮาไม่ได้เข้าหอร่วมกัน

อีกด้านหนึ่ง......

ฮองเฮาซ่อนกริชไว้ตั้งแต่เมื่อใดกัน? เอาไว้ลอบสังหารหวงกุ้ยเฟยหรือ?

ฮ่องเต้ทรราชรู้เรื่องนี้หรือไม่?

การลอบสังหารที่นางคิดวางแผนอย่างรัดกุม ซ่อนเจตนามิดชิด หลอกให้ศัตรูตายใจ

การลอบสังหารที่นางเห็นจริง ออกไปตรวจสอบสถานการณ์ของศัตรูอย่างเปิดเผย แสดงกริชต่อหน้าฮ่องเต้......

ณ ห้องเครื่อง[2]

หมัวมัว[3] ผู้ดูแลแสดงสีหน้าไม่พอใจ

“เหตุใดยังไม่เรียกให้ยกน้ำไป? ฝ่าบาทเสด็จมาแล้วไม่ใช่หรือ!”

นางอดหลับอดนอนเสียเปล่าจริง ๆ พอรู้ว่าฮ่องเต้เสด็จมา นางก็รีบลุกจากเตียงขึ้นมาต้มน้ำด้วยตัวเอง เฝ้ารออยู่ที่ประตูห้องเครื่อง รมควันจนหน้าดำไปหมด

แล้วตอนนี้กลับมาบอกนางว่า โอกาสดีหลุดจากมือไปแล้ว?!

ในขณะเดียวกันนั้นเอง

ณ ตำหนักหลิงเซียว

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์พลิกกายไปมาอย่างไม่อาจหลับตาลง

ตั้งแต่ฝ่าบาทออกไปจากตำหนักนาง ใจของนางก็ราวกับถูกแขวนเอาไว้ไม่อาจสงบใจลงได้

ในที่สุดสาวใช้ก็วิ่งเข้ามาบอกข่าวนาง

“พระสนม ทางฝั่งฮองเฮาไม่ได้เรียกให้ยกน้ำเข้าไปเพคะ!”

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ได้ยินดังนั้นก็แย้มยิ้ม ดวงตาที่งดงามหยาดเยิ้มเปล่งประกาย

“เปิ่นกง[4] รู้อยู่แล้วว่าฝ่าบาทไม่มีทางไปโปรดสตรีนางอื่นหรอก”

สาวใช้รู้สึกยินดีในโชคร้ายของฮองเฮา

“ฮองเฮาช่างน่าสงสารเสียจริง ได้ยินมาว่ารอฝ่าบาทอยู่นานเลยเพคะ คงคิดว่าคืนนี้จะได้ร่วมบรรทมเป็นแน่ ให้คนรีบเตรียมน้ำร้อนไว้ล่วงหน้า แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ใช้เสียนี่”

ไม่เพียงแค่ตำหนักหลิงเซียวเท่านั้น สนมนางในแทบทุกคนล้วนรอดูเรื่องสนุกด้วยกันทั้งนั้น

เหล่าสนมนางในต่างก็ถอนหายใจ

......

วันต่อมา

ณ ตำหนักฉือหนิง

เมื่อไทเฮาได้ยินเรื่องเมื่อคืนวาน ร่องรอยที่หางตาและคิ้วก็ปรากฎ

“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้? ฝ่าบาทไปถึงที่แล้วฮองเฮากลับคว้าโอกาสไว้ไม่ได้?”

กุ้ยหมัวมัวทอดถอนใจ

“บางทีอาจจะเป็นที่เฟิ่งฮูหยินอบรมสอนสั่งมาไม่เพียงพอ ฮองเฮาไม่เข้าใจเรื่องราวในห้องหอไม่อาจรั้งฝ่าบาทเอาไว้ได้”

แววตาของไทเฮาหม่นลง

“เอาเถิด ไม่ต้องไปคิดแทนฝ่าบาท”

“เรื่องที่เขาเมินเฉยต่อสตรีอื่นในวังหลังเพื่อหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเสียหน่อย”

“เฟิ่งเวยเฉียงไม่มีสิ่งใดเหมือนหรงเฟยแม้แต่ครึ่งส่วน ย่อมไม่อยู่ในสายตาของเขา ข้าคาดเดาได้แต่แรกแล้ว”

ในวันที่สองของพิธีอภิเษกสมรส ฮ่องเต้และฮองเฮาจะต้องมาคารวะไทเฮา

แต่กลับมีเพียงฮองเฮาเท่านั้นที่มาถึงก่อน

ทุกคนในตำหนักฉือหนิงล้วนกระจ่างแจ้งอยู่ในใจ

หลายปีมานี้คนที่สามารถเชิญให้ฝ่าบาทเสด็จมาเป็นเพื่อนได้ ก็มีเพียงหวงกุ้ยเฟยแล้ว

เมื่อยามนั้นหลังจากที่หวงกุ้ยเฟยได้รับความโปรดปรานครั้งแรก ฝ่าบาทก็เป็นฝ่ายพานางมาคารวะไทเฮาเอง ความรักความโปรดปราน การสนับสนุนเชิดชูนี้ สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน

ในความคิดของพวกเขา วันนี้ฮองเฮาจะต้องพ่ายแพ้สิ้นหวัง หมดสิ้นเกียรติยศเป็นแน่

แต่ทว่าหลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนมา ผู้คนในวังก็ล้วนตกตะลึง อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง......

----------------------------------------------

[1] ผ้าที่ใช้รองเลือดในคืนแรกของหญิงพรหมจรรย์ เนื่องจากชาวจีนโบราณมีความเชื่อว่าคืนแรกของหญิงพรหมจรรย์จะมีเลือดไหลออกมา

[2] ห้องเครื่องในที่นี้ดูแลทั้งเรื่องอาหารและน้ำอาบ

[3] คำที่ใช้เรียกนางกำนัลอาวุโส มักเป็นผู้ดูแลหรือแม่นม

[4] สรรพนามแทนตนเองของเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงที่มีตำหนักหรือที่พำนักเป็นของตนเอง เช่น ฮองเฮา หวงกุ้ยเฟย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (6)
goodnovel comment avatar
Joom
This novel reflects the king and his women.
goodnovel comment avatar
Suchart Damthong
ฮ่องเต้ทรราชนี่เหี้ยจริงๆ อยากให้มันโดนนางเอกฆ่าซะจริงๆ
goodnovel comment avatar
29 เมษา Mesa
พระเอกเหี้ยมาก หรือไม่ใช่พระเอก ก็ดีนะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1649

    เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้า“ไม่ว่าจะเป็นความจริงที่ยิ่งใหญ่หรือความลวงที่ยิ่งใหญ่ ล้วนทำเพื่อกษัตริย์ที่ตนภักดีทั้งสิ้น“ที่ถานไถเหยี่ยนกำหนดตนเองว่าเป็น ‘ความลวงที่ยิ่งใหญ่’ คือการแสดงความจงรักภักดีต่อฝ่าบาท ไม่ต่างจากการบอกฝ่าบาทว่า ‘ข้าคือขุนนางของท่าน จะวางแผนครองใต้หล้าเพื่อท่าน”เสียวอู่รู้สึกเหมือนกระจ่างขึ้นมาในทันทีไม่คิดเลยว่า คำกล่าวง่าย ๆ และสั้น ๆ เพียงไม่กี่ตัวอักษร กลับซ่อนความหมายลึกซึ้งไว้มากมายเพียงนี้!“ทว่า... คำพูดนั้นมาจากใจจริงหรือไม่?“ถานไถเหยี่ยนจะทำเพื่อศิษย์พี่ได้อย่างไร?”“นี่ต้องเป็นแผนล่อศัตรูของเขาเป็นแน่!”เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวอย่างใจเย็น“ดังนั้นข้าถึงบอกว่า ฝ่าบาททรงกำลังเดิมพัน”ตงฟางซื่อบอกความคิดเห็นของเขา“ข้าเชื่อคำพูดนั้น”เสียวอู่เบิกตากว้าง คล้ายกับจะบอกว่าเขาบ้าไปแล้ว ถึงเชื่อคำพูดหลอกลวงของถานไถเหยี่ยนตงฟางซื่อเอ่ยอย่างช้า ๆ“เมื่อหลายร้อยหลายพันปีก่อน เคยมีคนผู้หนึ่งนามว่าจางจื่อที่ทำงานรับใช้แคว้นฉิน ช่วยแคว้นฉินเตรียมพร้อมกำลังพล ก่อนจะพิชิตแคว้นอื่นทีละแคว้น“เรื่องที่ถานไถเหยี่ยนทำ โดยพื้นฐานแล้ว ก็ไม่แตกต่างจากเขา“หากปฏิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1648

    เฟิ่งจิ่วเหยียนอธิบาย: “ในวลี ‘อยู่เหนือกว่าคน’ ตัวอักษร ‘ซ่าง’ หมายถึง ด้านบน หรือตำแหน่งข้างหน้า หากนำขีดแรกของตัวอักษรสามตัวคือ ‘ไจ้[1]’ ‘เหริน[2]’ และ ‘จือ[3]’ มารวมกัน ก็จะได้ตัวอักษรหนึ่งตัว” เสียวอู่ได้ยินดังนั้น จึงรีบใช้กิ่งไม้ เขียนลงบนพื้นทันทีขีดขวาง ขีดลากซ้าย และจุด...แต่เขายังไม่ค่อยเข้าใจว่า จะได้เป็นตัวอักษรใดในเวลานั้น ตงฟางซื่อก็ใช้กระบี่ ลากออกมาเป็นตัวอักษรหนึ่ง“คือตัว ‘ต้า[4]’”เสียวอู่มองดูแล้ว พลันกระจ่างในทันทีใช่จริงด้วย!“ศิษย์พี่สะใภ้ แล้ววลีที่ว่า ‘มองคนเป็นคน’ล่ะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสีหน้าเรียบเฉยยังไม่ทันรอให้นางเอ่ย ตงฟางซื่อก็เดาได้แล้วเขาถาม: “คือตัว ‘เหว่ย[5]’ ใช่หรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้า“ข้าก็เดาว่าเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน”“ตัว ‘เหริน’ กับ ‘เหวย[6]’ รวมกัน ก็จะกลายเป็นตัวอักษร ‘เหว่ย’”เสียวอู่ถึงกับนิ่งงัน“ศิษย์พี่สะใภ้ ตัว ‘ต้า’ ข้าพอเข้าใจ แต่ตัว ‘เหว่ย’ ได้มาจากที่ใดกัน? มันดูไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยหรือ?”ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร ก็ไม่อาจโน้มน้าวตัวเองให้เชื่อได้เฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งจะขับเข็มพิษออกมา ร่างกายยังคงพักฟื้น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1647

    ถานไถเหยี่ยนกลับเปิดเผยตรงไปตรงมาเขาอธิบาย: “เมื่อครู่ตอนที่นางปะทะฝ่ามือกับข้า ในวินาทีที่ข้าถอนมือออก ก็แทงเข็มพิษเข้าไปในฝ่ามือนางแล้ว”เสียวอู่ตาทั้งคู่เบิกกว้าง มองไปยังศิษย์พี่สะใภ้ที่อ่อนแรงอยู่ข้าง ๆ“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้! มิน่าเล่าเมื่อครู่ศิษย์พี่สะใภ้ถึงไม่ได้หลบฝ่ามือนั้นของเจ้า! ถานไถเหยี่ยน เจ้าช่างเลวทรามยิ่งนัก!”เฟิ่งจิ่วเหยียนกัดฟันทน พยายามใช้พลังภายใน ขับเอาเข็มพิษนั้นออกมาทว่ากลับไร้ผลถานไถเหยี่ยนมีสีหน้านิ่งเฉย ดูเหมือนจะรู้สึกจนใจอยู่บ้าง“ข้ามิใช่เคยบอกเจ้าหรือว่า เวลาปะทะฝ่ามือกับผู้อื่น ต้องระวังให้ดี”“ถานไถเหยี่ยน—” เสียวอู่แผดเสียงด้วยความโกรธ “เจ้าคนชั่วไร้สำนึก!”เขายืนอยู่ด้านหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียน เพื่อปกป้องนาง“ศิษย์พี่สะใภ้ ท่านไปก่อน ข้าจะคุ้มกันด้านหลังให้!”เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นอย่างทันควัน ดูเหมือนไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยินเสียวอู่ก็รู้ตัวเองดีแม้แต่ศิษย์พี่สะใภ้ยังสู้ถานไถเหยี่ยนไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาเลยแต่เขาก็ไม่อาจมองดูศิษย์พี่สะใภ้ถูกถานไถเหยี่ยนฆ่าตายได้!“ถึงอย่างไรข้าก็ตัวคนเดียวอยู่แล้ว! ศิษย์พี่สะใภ้ไม่เหมือน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1646

    เสียวอู่ตื่นเต้นเป็นพิเศษ: “ขึ้นมาแล้ว! พวกเราขึ้นมาแล้ว!”ถานไถเหยี่ยนกลับมีสีหน้าคร่ำเคร่ง คล้ายกับว่าไม่อาจยอมรับผลลัพธ์เช่นนี้ได้“ไม่ควรเป็นเช่นนี้...”บริเวณใกล้กับหลุมบริวาร ควรจะเป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพพวกเขาผ่านด่านต่าง ๆ มาแล้ว ก็ควรจะถึงทางเข้าหลุมฝังศพ และพบจุดศูนย์กลางของค่ายกลแล้วดังนั้น เพราะเหตุใดเหตุใดถึงเป็นเช่นนี้...ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกเย็นวาบที่ต้นคอกระบี่ของเฟิ่งจิ่วเหยียนพาดเข้ามาในแนวขวาง แค่ชั่วพริบตาก็สามารถฟันคอเขาให้ขาดได้ทว่าทันใดนั้น คมกระบี่กลับถูกถานไถเหยี่ยนใช้มือเปล่ารับไว้—เขาใช้สองนิ้วหนีบคมกระบี่ไว้ พลังภายในอันลึกล้ำปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงกับสั่นสะท้าน“เจ้าแอบซ่อนพลังภายในมาตลอด?”ถานไถเหยี่ยนที่ดูเหม่อลอย พึมพำกับตัวเอง: “ไม่ควรเป็นเช่นนี้... มันมีปัญหาที่ใดกันแน่”เฟิ่งจิ่วเหยียนโจมตีอีกครั้ง แต่ถานไถเหยี่ยนกลับหลบหลีกได้นางจึงเพิ่งตระหนักได้ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้านางถานไถเหยี่ยนซ่อนความสามารถได้ลึกมากพลังภายในของเขา ย่อมต้องเหนือกว่านางอย่างแน่นอนนางมิได้ยึดติดกับการต่อสู้โดยเฉพาะในทางเดินคับแคบ ที่มี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1645

    กองทัพฉียึดเมืองอู๋โจวได้ ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยามบนหอประตูเมือง หร่วนฝูอวี้ได้รับบาดเจ็บหนักมิใช่ได้รับบาดเจ็บจากทหารหนานเจียงเหล่านั้น แต่เป็นเพราะถูกนกไม้กลไกของกองทัพฉียิงพลาดจนบาดเจ็บเพราะอย่างไร กองทัพฉีก็ไม่คาดคิดว่า บนกำแพงเมืองจะมี “พันธมิตร” อยู่ด้วยถึงแม้จะรู้ ก็คงไม่ยอมทิ้งโอกาสในการโจมตี เพราะหร่วนฝูอวี้เพียงคนเดียวบาดแผลที่หร่วนฝูอวี้ได้รับล้วนเกิดจากลูกธนูเก๋อสือชีประคองนางไว้ ด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ถูกบาดแผลของนางเมื่อลงมาจากกำแพงเมือง หร่วนฝูอวี้ก็พบกับเซียวอวี้ที่นำทัพมาด้วยตัวเองนางยิ้มอย่างขมขื่น“ข้าเข้าใจมาตลอดว่า การมีวรยุทธ์สูงส่ง ก็เพียงพอที่จะปกป้องแคว้นหนานเจียงได้ แต่ ‘มังกรไฟ’ กับ ‘นกไม้กลไก’... การปรากฏตัวของพวกมัน ในที่สุดก็ทำให้ข้าได้เห็นความหยิ่งทะนงของตัวเองอย่างชัดเจน“แคว้นหนานเจียงล้าหลังแคว้นอื่น ๆ มานานเกินไป นานจนไม่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในใต้หล้านี้ ข้าไม่สามารถฆ่าถานไถเหยี่ยนได้แล้ว ฮ่องเต้ฉี ที่เหลือ ก็ฝากไว้กับพวกท่านแล้ว”เซียวอวี้นั่งอยู่บนหลังม้า และขี่ผ่านหน้านางไป พร้อมทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง“รักษาตั

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1644

    ณ เมืองอู๋โจวหร่วนฝูอวี้พาราษฎรชาวหนานเจียงกลุ่มหนึ่งบุกโจมตีเมืองภายในเมือง ก็เป็นราษฎรชาวหนานเจียงเช่นกันทั้งสองฝ่ายต่างสู้รบกัน เมืองอู๋โจวนั้นง่ายต่อการป้องกันแต่ยากต่อการโจมตีทหารบนกำแพงเมืองโยนก้อนหินขนาดใหญ่ลงมา ทำให้กระแทกใส่คนที่กำลังปีนอยู่บนกำแพงเมืองจนตายทั้งเป็นการเสียสละของคนเหล่านี้ ทำให้หร่วนฝูอวี้ได้โอกาสในการโจมตีนางฉวยโอกาสขณะที่กองกำลังป้องกันบนกำแพงเมืองไม่ทันระวังตัว ปีนขึ้นไปบนกำแพงเมืองได้สำเร็จทหารนายหนึ่งที่เห็นนางเป็นคนแรก ก็ตะโกนขึ้นทันที “มีคนขึ้นมาแล้ว!”ชั่วพริบตาถัดมา เขาก็ถูกหร่วนฝูอวี้สังหารในสายตาของหร่วนฝูอวี้ พวกเขาไม่นับเป็นชาวหนานเจียง ล้วนเป็นสุนัขรับใช้ของถานไถเหยี่ยน! ล้วนสมควรตาย!นางจับคนผู้หนึ่งไว้ แล้วถาม: “ถานไถเหยี่ยนอยู่ที่ใด!”“ไม่... ไม่รู้! อ๊าก!” สิ้นเสียง ก็ถูกหร่วนฝูอวี้สังหารนางยังคงจับคนอื่น ๆ และถามต่อไปทว่า ไม่มีใครตอบนางทันใดนั้นลูกธนูคมดอกหนึ่งก็พุ่งมาจากด้านหลังหร่วนฝูอวี้เบี่ยงตัวหลบได้ทันหลังจากลูกธนูดอกนั้นตกถึงพื้น สิ่งที่ตามมา ก็คือลูกธนูอีกนับไม่ถ้วน ที่ยิงเข้ามาหาหร่วนฝูอวี้อย่างพร้อมเพรีย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status