LOGINบรรยากาศภายในสนามแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบ เพื่อตัดสินแชมป์ประจำปี ซึ่งในเวลานี้สีสันของงานนั้น คงพลาดไม่ได้สำหรับความตื่นตาตื่นใจ ของหนุ่มๆ กับบรรดาเหล่าพริตตี้สาวสวย ที่คัดแบบแจ่มๆ ระดับตัวแม่ของวงการ ซึ่งพวกเธอนั้นพกเอาความสวยและความเซ็กซี่มาประชันกัน เพื่อสร้างสีสันให้กับการแข่งขันในวันนี้ จนบรรยากาศภายในสนามดูสดใสสว่างขึ้นฉับพลันน่ามองไปหมด แต่ใบหน้าของอัครเดชหรือเสือนั้น กลับไม่สดใสเหมือนอย่างทุกวันที่เคยเป็น
"ไอ้เสือวันนี้มึงเป็นอะไรวะ ยอดขายตกเหรอถึงทำหน้าอมทุกข์อยู่ได้ นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาแข่งขันแล้วไหวไหมเนี่ย" นั่นคือเสียงของชาร์ล เพื่อนสนิทอีกคนของเสือ
"ชุดกูพร้อมขนาดนี้ไม่ไหวยังไงวะ กูเซตอัพรถ และสภาพร่างกายมาอย่างดี เพื่อการแข่งขันในวันนี้ไม่ต้องห่วงหรอก" เสือยืนยันความมั่นใจให้เพื่อน เพราะเขาคาดหวังที่จะเป็นแชมป์ในวันนี้ ที่สำคัญยังไม่เคยมีใคร แย่งตำแหน่งแชมป์เปี้ยนยอดนักบิดจักรยานยนต์ทางเรียบ จากเข้าไปได้เลย
"แม่ง! มึงดูสิพริตตี้แต่ละคน ใจกูละลายไปหมดแล้ว" เควินเพื่อนสนิทอีกคนพูดขึ้นพร้อมกับสายตาคม ที่จ้องมองไปยังกลุ่มสาวๆ ที่นุ่งน้อยห่มน้อย โชว์เรือนร่างเซ็กซี่ยั่วยวนจิตใจของเขาไม่ให้อยู่กับเนื้อกับตัว จนชายหนุ่มนั้นอยากเดินเข้าไปฉุดสาวๆ ขึ้นรถ ตรงไปที่ห้องให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยทีเดียว
"เควิน! มึงเห็นผู้หญิงไม่ได้เลยนะ! เสือมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า ทำไมวันนี้ดูเป็นกังวลจังเครียดเหรอ สู้ๆ นะเดียน่าเป็นกำลังใจให้" เดียน่าคือเพื่อนสนิทของเควิน แต่ทุกวันนี้เธอได้กลายเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มที่ดูจะสนิทกับทุกคนไปแล้ว โดยเฉพาะอัครเดชที่เดียน่านั้นพยายามทำตัวให้สนิทเขามากกว่าเพื่อน ที่สำคัญเธอพยายามกีดกันผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้เขา ราวกับจงอางหวงไข่ก็ไม่ปาน
"ขอบคุณมากนะเดียน่า" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับฉีกยิ้มบางๆ ส่งไปให้หญิงสาวแทนคำขอบคุณ ที่เธอนั้นพูดให้กำลังใจเขามา
"มาเดียน่าซับเหงื่อให้" หญิงสาวพูดพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าถือ จากนั้นเดียน่าค่อยๆ ซับลงไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มอย่างเบามือ ขณะที่ภายในใจของเธอนั้นได้คิดไปไกล ถ้าหากได้เป็นแฟนของเขา เธอคงจะกลายเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก เพราะอัครเดชหล่อทั้งรวยเพอร์เฟคไปซะทุกอย่าง
"หยุดซับได้แล้วมั้งเดียน่า ไอ้เสือเข้าประจำตำแหน่งจุดสตาร์ทได้แล้วเพื่อน" เควินพูดออกมาพร้อมกับมองไปที่เดียน่าด้วยความหมั่นไส้เพื่อน
ในขณะที่หนุ่มหล่อมาดเท่เดินตรงไปยังจุดสตาร์ท โดยมีพริตตี้สาวสวยคอยกางร่มให้ เวลานี้นักข่าวหลายคน รอถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจ จ้องมองมาที่อัครเดชด้วยสายตาที่ชื่นชม เพราะเขาคือตัวเต็งในการแข่งครั้งนี้ และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง
ซึ่งจะมีการวอร์มรอบสนามหนึ่งรอบ จากนั้นรถจักรยานยนต์ทุกคันก็เข้ามาประจำตำแหน่งยังจุดสตาร์ทอีกครั้ง เพื่อรอฟังสัญญาณจากคณะกรรมการแข่งขันในครั้งนี้ พร้อมกับสัญญาณแตรดังขึ้น รถทุกคันได้เตรียมออกตัว พร้อมกับเสียงเชียร์ดังเรียกชื่อเสือหนุ่มทั่วทั้งสนาม
"เสือสู้ๆ เสือระวังทางโค้ง! เสียงของเดียน่าตะโกนดังลั่นออกมา แข่งกับเสียงพริตตี้แถวนั้น อย่างไม่มีใครยอมใคร
"พี่เสือ!!"
"พี่เสืออัครเดชสู้เขาค่ะ!" ในเวลานี้เสียงหญิงสาวที่ตะโกนเรียกชื่ออัครเดช หรือว่าเสือนั้นดังก้องไปทั่วสนาม และยิ่งการแข่งเหลือไม่กี่รอบเสียงกองเชียร์ ก็ยิ่งดังกระหึ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
"ตอนนี้โค้งสุดท้ายแล้วนะครับ คุณอัครเดชนำอยู่ โดยมีรถเบอร์สองคุณสุชาติจะแซงได้ไหม อีกนิดเดียว! อีกนิดเดียว! " เสียงคนพากย์ที่ข้างสนาม ยิ่งบีบหัวใจแฟนคลับของเสือหนุ่ม เพราะมันคือสุดท้าย และมีรถอีกคันขับมาบีบจะแซงเขาให้ได้
"พี่เสือ! พี่เสือ! พี่เสืออีกนิดเดียว! " เวลานี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็เชียร์อัครเดชทั้งสนาม พ่อเสือหนุ่มช่างเนื้อหอมเธอเหลือเกิน
"เบอร์เก้า เข้าเส้นชัยไปแล้วครับ ขับโดยคุณอัครเดช รุ่งเจริญทรัพย์ไพศาล ด้วยเวลาสี่สิบสองจุดยี่สิบวินาที รวมคะแนนสะสมหนึ่งร้อยสามสิบเก้าคะแนน Champion ของปีนี้ยินดีด้วยครับ" เสียงประกาศดังกึกก้องขึ้น พร้อมกับธงตาหมากรุกโบกสะบัด เพื่อเป็นสัญญาณบอกว่าจบการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"กรี๊ด!! พี่เสือ! " สาวๆ กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ทุกคนต่างก็ตั้งตารอที่จะถ่ายภาพกับเขา
เวลานี้ชายหนุ่ม เริ่มเป็นกังวลใจมากขึ้น เพราะใกล้เวลาที่ต้องไปรับขวัญข้าวตามที่มารดาได้บอกเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าเขานั้นต้องรอรับถ้วยรางวัล และถ้าหากให้เพื่อนไปรับเธอแทนมารดาของเขา จะว่าอะไรหรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังคิดอยู่ในตอนนี้ เพราะเขารู้ดีว่านางกวางกมลรักขวัญข้าวยิ่งกว่าอะไร หรือบางทีนางก็จะรักมากกว่าเขาที่เป็นลูกในไส้ด้วยซ้ำ
"ยินดีด้วยนะเพื่อน มึงเจ๋งวะ" ชาร์ลพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดีใจ พร้อมกับทำท่าทางประกอบด้วย จนทำให้ทุกคนฉีกยิ้มออกมา โดยเฉพาะเดียน่าในเวลานี้ เมื่อเธอได้เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว ที่สามารถใกล้ชิดเสือได้อย่างสนิทใจ
"อย่างนี้ต้องฉลอง" เควินพูดออกมาแต่แววตากลับจ้องมองไปที่พริตตี้
"ร่มไม่ต้องกางแล้วมั้ง" เดียน่าพูดออกมาพร้อมกับทำตาขวางใส่พริตตี้ ทั้งที่มันเป็นหน้าที่ของหญิงสาว ซึ่งจะคอยดูแลเทคแคร์ผู้เข้าแข่งขันเป็นอย่างดี
"เดี๋ยวพะแพงจะพัดให้นะคะ ท่าทางคุณจะเสือจะร้อน" หญิงสาวพูดพร้อมกับกางพัดในมือออก พร้อมกับพัดวีให้พ่อเสือหนุ่ม โดยไม่ได้สนใจเดียน่าด้วยซ้ำ
"เหงื่อออกเต็มไปหมดเลย เดี๋ยวเดียน่าจะซับเหงื่อให้นะคะเสือ" หญิงสาวพูดพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา ซับไปที่ใบหน้าของหนุ่มหล่ออย่างพิถีพิถัน ในขณะที่พริตตี้สาวก็คอยพัดมีให้ไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกัน
"พอแล้วครับ...ขอบคุณมาก" เวลานี้ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกรำคาญคนรอบกาย เมื่อภายในใจของเขานั้น จดจ่ออยู่กับการที่ต้องไปรับขวัญข้าว ป่านนี้เธอคงรอเขาแย่แล้ว และที่สำคัญเขาไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องกังวลใจไปด้วย ก็แค่เด็กในบ้าน ที่แม่ของเขานั้นคอยเลี้ยงดูอุปถัมภ์เธอจะรอเขาสักกี่ชั่วโมงจะเป็นไรไป แต่หัวใจของเขานั้นกลับขัดแย้งกันกับความคิดที่มีในเวลานี้
หลายปีผ่านไป อัครเดชและขวัญข้าวได้แต่งงานกันที่ไร่ ทั้งสองไม่ได้จัดงานใหญ่โตอะไรมากมาย แขกที่มาร่วมเป็นสักขีพยานก็ล้วนเป็นคนที่สนิทกัน แต่นั่นมันไม่ใช่ส่วนสำคัญในชีวิตของคนทั้งคู่ เพราะทั้งสองไม่ได้มีความปรารถนาที่จะให้งานแต่งใหญ่โตมโหฬาร ขอแค่มีสักขีพยานมาร่วมแสดงความยินดีในวันงานก็เพียงพอ ตอนนี้อัครเดชได้ลูกสาวสมใจ เมื่อขวัญข้าวได้ให้กำเนิดลูกคนที่สอง ซึ่งเป็นลูกสาวมีชื่อว่าน้องแพนด้า ส่วนเจ้าสิงโตกันยาและตุลานั้นได้เข้าเรียนเตรียมอนุบาลเรียบร้อยแล้ว "ทำอะไรเหรอคะพี่ฮันน่า" ขวัญข้าวอุ้มลูกสาว เดินตรงมาที่เรือนหลังเล็ก ซึ่งอัครเดชได้ปลูกไว้ให้ฮันน่าและลูกๆ ของเธอได้อาศัย เพราะเขาเข้าใจดีว่าหญิงสาวคงต้องการใช้ชีวิตส่วนตัว "พี่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับ การทำร้านดอกไม้ ขวัญว่าพี่จะขายได้ไหม แต่รอให้เด็กๆ โตอีกสักหน่อยพี่อาจต้องย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ" ฮันน่าพูดกับขวัญข้าว แต่ดวงตาของเธอกลับจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เมื่อหญิงสาวมีความปรารถนา อยากจะเปิดร้านดอกไม้ เพื่อเลี้ยงชีพและส่งลูกๆเรียน เพราะเงินในบัญชีที่เก็บเอาไว้ก็เริ่มจ
"ขอแย่งเจ้าสิงโตชิมสักวันนะครับคนดี" น้ำเสียงของชายหนุ่มช่างออดอ้อน ขณะที่ริมฝีปากของเขายังคงละเลียดชิมอมแล้วดูดที่เม็ดบัวอย่างมูมมาม ราวกับว่าจะไม่เหลือมันไว้ให้กับลูกชายเลยสักหยด"อุ๊ย! พี่เสือ" หญิงสาวร้องครางออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเจ้ามังกรยักษ์ที่แข็งเป็นลำตั้งชันขึ้นทิ่มหน้าท้องของเธอไปมา จนหญิงสาวอดไม่ได้ที่จะแอ่นสะโพกขึ้นไปท้าทายกับท่อนเอ็นลำใหญ่หัวแดงบานเบ่ง ที่มันพร้อมจะเข้ามาสำรวจในถ้ำของเธอเต็มที "อืม...ขวัญ...ทำไมเมียพี่ถึงได้เซ็กซี่จัง" เสียงแหบพร่าของชายหนุ่มเอ่ยชมผู้เป็นภรรยาออกมา เข้าอ้อยอิ่งละเลียดชิมอมแล้วดูดอยู่ที่สองเต้าเป็นนานสองนาน ก่อนจะก้มลงไปจับเจ้ามังกรยักษ์สอดเข้าไปในช่องแคบของเธอพรึบ!!! "อืมพี่เสือ...อ๊า" เมื่อชายหนุ่มดันเจ้ามังกรยักษ์เข้าไปในถ้ำของเธอ ทำให้หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความคับแน่น จนเธอร้องครางออกมา แต่ทว่ามันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดเลยสักนิด เมื่อความเสียวซ่านกำลังเกิดขึ้นภายในช่องแคบ เมื่อสามี
"เดี๋ยวก็รู้ตามพี่มา" อัครเดชจูงแขนภรรยาของเขาเดินเข้าไปในไร่กุหลาบ ส่วนฮันน่าและลูกๆ ของเธอได้นั่งเล่นที่สนาม โดยมีเอื้องคำเป็นพี่เลี้ยง หญิงสาวแอบอมยิ้มตามภาพของพ่อแม่ลูกที่ดูอบอุ่น เพราะเธอแน่ใจว่าบอสหนุ่มคงกำลังจะมีเซอร์ไพรส์ภรรยา อัครเดชพาขวัญข้าวเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไปถึงซุ้มกุหลาบที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม มันถูกออกแบบโดยชายหนุ่ม เมื่อเขาอยากจะขอภรรยาแต่งงาน และนั่นก็ทำให้ขวัญข้าวถึงกับน้ำตาคลอ เพราะไม่คิดว่าเขาจะมีมุมที่อ่อนโยน แล้วโรแมนติกขนาดนี้มาก่อน "นั่งตรงนี้ก่อนครับคนดี" เขาจัดแจงให้ภรรยานั่งลงที่ขอนไม้ จากนั้นชายหนุ่มได้คุกเข่าลงตรงหน้าหญิงสาว โดยที่เขายังคงอุ้มเจ้าสิงโตเอาไว้ แล้วค่อยๆ หยิบแหวนออกมาจากกระเป๋ากางเกง "แต่งงานกับพี่นะครับ" "พี่เสือ..." ขวัญข้าวเรียกชื่อผู้เป็นสามีออกมา ด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่ตื้นตันใจเพราะเธอไม่คาดคิดมาก่อนว่า เขาจะขอเธอแต่งงาน เมื่อหญิงสาวไม่เคยคาดหวังที่จะมีโมเม้นต์แบบนี้ "ขอให้เจ้าสิงโตเป็นพยาน พี่จะรักและซื่
จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปี ตอนนี้ก็ครบหนึ่งปีแล้ว ที่ขวัญข้าวใช้ชีวิตร่วมกับอัครเดชด้วยความผาสุก ชีวิตคู่ของเขาและเธอนั้น มีอะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้ขวัญข้าวนึกไม่ถึง โดยเฉพาะสิ่งที่ชายหนุ่มทำให้เธอ มันเป็นมากกว่าคำว่ารัก ที่เขายืนยันพูดกับเธอซ้ำๆ ในทุกคืนวัน เพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนไหนผ่านเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มก็ไม่เคยชายตาแลเลยสักครั้ง เขายังคงทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีให้กับเจ้าสิงโตได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนฮันน่าได้คลอดลูกแฝด หลังจากที่ขวัญข้าวคลอดเจ้าสิงโตได้หนึ่งเดือน ที่สำคัญเธอสามารถคลอดเองแบบธรรมชาติได้ และที่น่าแปลกก็คือลูกสาวของเธอคลอดเวลาเกือบเที่ยงคืน ของคืนวันที่สามสิบกันยายน ห่างจากลูกชายเพียงแค่ไม่กี่นาที แต่ทำให้ลูกอีกคนของเธอนั้นต้องแจ้งเกิดเป็นเดือนตุลาคม และนั่นก็คือที่มาของชื่อกันยาและตุลา ส่วนเจ้าสิงโตลูกของขวัญข้าวกับอัครเดชนั้นเกิดในเดือนสิงหาคม ช่างเหมาะเจาะกับชื่อสิงโต และทั้งสามคงจะเติบโตไปด้วยกัน อย่างไม่มีวันเหงาแน่นอน "สิงโตกลับบ้านได้แล้วลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาเล่นกับกันยาและตุลาใหม่นะครับ" ขวั
สักพักอัครเดชก็เดินเข้ามาในห้องคลอด โดยมีคุณหมอและพยาบาลยืนข้างๆ เตียง ที่มีขวัญข้าวนอนหายใจเข้าถี่ ใบหน้าของเธอนั้นเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เมื่อหญิงสาวพยายามเบ่งคลอดหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ และดูเหมือนว่าเธอนั้นเริ่มจะหมดแรง "ขวัญ...ขวัญต้องอดทนนะครับคนดี เพื่อลูกของเรา อีกไม่กี่นาทีเจ้าสิงโตก็จะออกมาลืมตาดูโลกแล้ว พี่รู้ว่าขวัญเจ็บมาก อดทนไว้นะครับ""คุณพ่อมาให้กำลังใจแล้ว คุณแม่หายใจเข้าลึกๆ อีกครั้งนะคะ แล้วเตรียมเบ่ง หายใจเข้าลึกๆ ค่ะ หนึ่ง สอง สาม เบ่งค่ะ...อื้ดดด!!" คุณหมอและนางพยาบาลต่างก็ช่วยกันให้กำลังใจขวัญข้าว เมื่อปากมดลูกของเธอเริ่มเปิดสิบเซนติเมตรพร้อมคลอดเต็มทีแล้ว กรี๊ด!!! หญิงสาวร้องกรี๊ดออกมาจนสุดแรงเกิด แม้ว่าคุณหมอจะบอกให้เก็บเสียง แต่ในเวลานี้คงไม่มีคุณแม่คนไหนเก็บอาการเจ็บปวดปางตายนี้ไว้ได้ ใบหน้าของหญิงสาวฉายแววความเจ็บปวดออกมาอย่างทรมาน จนอัครเดชนั้นถึงกับน้ำตาซึมเพราะสงสารภรรยา"อูเว้! อูเว้! อูเว้! " เสียงทารกน้อยดังขึ้น พร้อมกับลมหายใจหอบเหนื่อยของขวัญข้าว ที่ดูเหมือนว่าเธอนั้นกำลังหมดเรี่ยวแรงพอดี แต่รอยยิ
"ทำไมอ้อนแบบนี้ครับ ถ้าพี่อดใจไม่ไหวจะให้ทำยังไง...หื้ม"คำพูดและแววตาของชายหนุ่มฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างชัดเจน ก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วโอบกอดหญิงสาวร่างอวบเอาไว้หลวมๆ แต่ขวัญข้าวก็เชื่อว่าเขาคงไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่ากอด เพราะตั้งแต่กลับมาที่ไร่ก็ทำให้เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ มีมุมอ่อนโยน และเขาก็ทะนุถนอมห่วงใยเธอมาก จนมองข้ามความต้องการของตัวเองออกไป ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วหากเขาจะทำอะไรในแบบที่พูดออกมาก็ย่อมทำได้ "พี่เสือ... ขวัญขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ" ขวัญข้าวพลิกตัวตะแคงข้างเข้าหาชายหนุ่ม พร้อมกับ สบตากับเขา "ไหนบอกว่าง่วงไง ทำไมตาแป๋วเลยตอนนี้ จะถามอะไรพี่ละครับ...หื้ม...จุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ! " ดวงหน้ากลมของภรรยาที่ดูอวบอิ่มเพราะการตั้งครรภ์ ทำให้ชายหนุ่มอดใจไม่ไหว ที่จะจุ๊บลงไปที่เรียวปากของเธอหลายที ก่อนจะเอามือปัดปอยผมออกจากแก้ม แล้วยิ้มแฉ่งให้กับความน่ารักของเธอ ขณะที่ขวัญข้าวก็ยิ้มร่าให้กับความรักที่ผู้เป็นสามีมอบให้มาด้วยความสุขใจ







