Home / รักโบราณ / แสงจันทร์พันธนาการ / บทที่ 3. ตอนที่ 3. แม่ทัพไป่เยว่

Share

บทที่ 3. ตอนที่ 3. แม่ทัพไป่เยว่

หญิงสาวเงียบเสียงลง เมื่อถูกถามถึงเรื่องที่ให้นางไปทำ “อ้าวว่าเช่นไร ทำไมเจ้าเงียบไป”

“อ๋อ…เอ่อ…เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ ข้าอาบน้ำให้ท่านเสร็จแล้ว ข้าจะเล่าให้ท่านฟัง”

เฉิงวั่งซูรีบหันหน้ากลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ลู่เสี่ยนไม่ได้หลบสายตา วั่งซูเองก็ไม่ตั้งใจที่จะแกล้งนางเช่นครั้งแรก

“มีเรื่องอันใดใช่หรือไม่ เหตุใดเจ้าไม่เล่าให้ข้าฟังตรงนี้ เจ้ารู้อะไรมาลู่เสี่ยน” เฉิงวั่งซูลุกขึ้นจากน้ำก้าวเท้าออกจากอ่างทั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่า เผยแผ่นอกร่อนเล็กแบบเด็กชายที่กำลังเข้าสู่วัยหนุ่ม และรูปกายที่เป็นชายงดงามต่อสายตาสาวใช้คนสนิท 

ลู่เสี่ยนได้แต่ก้มหน้ามองต่ำ แล้วรีบหมุนตัวไปหยิบผ้าซับน้ำ และเสื้อคลุมมาห่มให้เขา จากที่คุยหยอกล้อสนุกสนาน กลับเงียบขรึม ลู่เสี่ยนรู้ดีว่าอาการเช่นนี้ ไม่ว่าใครหากไม่เกี่ยวข้องก็ห้ามรบกวนเป็นอันขาด ด้วยรู้กันดีว่า หากเฉิงวั่งซูโกรธจัดเด็กชายผู้นี้จะส่งพลังบางอย่างให้รู้สึกถึงความน่าเกรงขาม เพียงใครมองเห็นสายตาของเขา ก็เหมือนดั่งถูกเผาโดยไม่รู้ตัว

เฉิงวั่งซูเพียงเดินผ่านฉากบังตา ก็สามารถทะลุมายังอีกห้อง เข้าสู่เขตพื้นที่ส่วนตัว ลู่เสี่ยนรีบเดินตามหลังเขามา พร้อมโบกมือเป็นสัญญาณต่อเด็กรับใช้ด้านนอก ให้พวกนางเข้ามาจัดการทำความสะอาด

วั่งซูจ้องมองใบหน้าของนางด้วยความไม่พอใจ ตั้งแต่เห็นนนางเดินเข้ามา ใบหน้านึ่งขรึมของเขาในเวลานี้ ยิ่งทำให้ลู่เสี่ยนทั้งอึดอัดและหวาดกลัว

“บอกข้าได้รึยัง สิ่งที่เจ้ารู้มาคืออะไร”

“คุณชาย…สวมเสื้อก่อนนะ ด้านนอกอากาศชื้นฝนใกล้ตกแล้ว ใส่แค่เสื้อบาง ๆ จะไม่สบายเอาได้นะ”

เด็กชายลุกขึ้นจากที่นอน กางแขนออก ยอมให้นางสวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ให้ แล้วเริ่มทวงคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบอีกครั้ง เมื่อทุกอย่างใกล้เสร็จเรียบร้อย 

“มีจดหมายหนึ่งฉบับจากคุณชายรองเจ้าค่ะ”

“ข้อความในนั้นว่าอย่างไร รีบว่ามา”

“การศึกเรียบร้อยดี อีกไม่กี่เดือนคงได้กลับบ้าน ฮูหยินรองกำชับหนักหนาให้คุณชายเล็ก หมั่นศึกษาตำราพิชัยยุทธ และเริ่มฝึกวรยุทธพลังปราณ และอาวุธต่าง ๆ ให้ชำนาญ กลับจากศึกครานี้ นายท่านจะนำท่านไปฝากฝังกับท่านเสนาบดี ห้ามทำให้ตระกูลต้องขายหน้าเป็นอันขาด”

“ก็เรื่องทั่วไป ไยพี่ลู่เสี่ยนต้องดูลนลานตื่นตระหนกนัก ข้าหลงคิดว่ามีเรื่องร้ายแรงเสียอีก”

“มะ…ไม่ ไม่มีอะไรร้ายแรง เพียงแต่คุณชายอาจต้องเหนื่อยมากหน่อย เพราะในจดหมายระบุไว้ว่า อีกไม่กี่เดือน ฮูหยินรองมาถึง คงทดสอบความสามารถท่านเป็นแน่”

“ท่านแม่เข้มงวดมากเช่นนั้นรึ แล้วท่านพ่อล่ะ”

“ข้าไม่รู้ ข้ามาถึงจวนตระกูลเฉิง ก็ไม่พบนายท่านทั้งสองแล้ว มีแต่ฮูหยินแม่เฒ่า แต่จากคำบอกเล่า ฮูหยินรอง นางเป็นคนเจ้าระเบียบเข้มงวด เก่งกาจทั้งงานเรือนและงานสงคราม นอกจากฮูหญิงแม่เฒ่าแล้ว ในจวนแห่งนี้ก็ต้องเป็นฮูหยินรอง หรือก็คือมารดาของท่านที่เป็นใหญ่กว่าผู้ใด”

“ดี ๆ เมื่อถึงเวลานนั้น ข้าจะได้ไม่โดนใครดูถูกอีก”

“คุณชาย ในจวนแห่งนี้ ข้าก็ยังไม่เห็นมีใครดูถูกท่านเลยนะ ท่านไปเอาความคิดเช่นนี้มาจากไหน”

วั่งซูลุกขึ้นเดินไปยืนดูสายฝนที่เริ่มโปรยปรายจากด้านนอก สายลมและกลิ่นอายดินยามต้องหยาดฝนจากฟ้ามันช่างหอมชื่นใจ “เจ้าไม่เป็นข้าจะรู้ได้เช่นไร ดูอย่างเช่นวันนี้ สายตาชื่นชมของท่านย่า ที่มองเจ้านั่น ข้าเห็นแล้วให้รู้สึกหงุดหงิดใจนัก คอยดูนะ ข้าจะต้องเก่งกว่าเจ้าหมอนั่น ท่านแม่กับท่านพ่อกลับมา ข้าจะใช้สิ่งนี้ เป็นของขวัญต้อนรับเขาทั้งสองกลับบ้าน”

ลู่เสี่ยน มองดูแผ่นหลังของผู้เป้นนาย เฉิงวั่งซูหากตั้งใจที่จะทำอะไรแล้ว ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่สำเร็จ หากแต่ความตั้งใจนี้คงเป็นเรื่องแรกในชีวิต ที่เขาอาจต้องเสียใจไปตลอดกาล

ลู่เสี่ยนหยิบพู่เอ๋อร์ขึ้นมาบรรเลงบทเพลงแสนเศร้า เคล้าคลอสายฝน วั่งซูหันมาส่งยิ้มให้นาง แล้วเดินไปกางกระดาษ พร้อมกับฝนหมึก วาดภาพสาวใช้คนงามที่กำลังบรรเลงดนตรีเสียงเพราะ ลู่เสี่ยนต้องการเพียงสร้างความสุขสร้างรอยยิ้มให้กับเจ้านายของนาง และได้แต่ภาวนาให้เรื่องร้ายแปรเปลี่ยนเป็นเรื่องดี อยากให้รอยยิ้มและดวงตาซุกซนของวั่งซู จ้องมองนางเช่นนี้ทุกเช้าค่ำ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แสงจันทร์พันธนาการ   บทที่ 5. ตอนที่ 4. แคว้นล่มสลาย

    “ข้าขอมอบตราประทับนี้ให้เจ้า จงรักษามันเท่าชีวิตของเจ้าเอง ห้ามให้กวงไฮแย่งชิงไปได้เป็นอันขาด รับปากข้า”“ข้าจ้าวตงหยาง น้อมรับพระบัญชา จะเก็บรักษาตราประทับแผ่นดินแคว้นจ้าว เท่าชีวิต”“ไป รีบไปได้เแล้ว”หลิวหยุนรีบเข้าไปคว้าแขนเด็กชาย หมุนตัวตั้งใจกลับตามทางเก่าที่เดินเข้ามา แต่เวลานี้ด้านนอกเหมือนมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งปิดล้อมทางออกอุโมงค์ลับเอาไว้“พวกเจ้าออกทางนั้น” ตงหยางและหลิวหยุนมองดูเส้นทางเล็ก ๆ จากโถงลับ ที่มืดหายไปตามช่องทางขนาดเล็กจนต้องคลานออกไปทีละคน ตงหยางเอาตราประทับยัดใส่ไว้ในปกเสื้อเพื่อป้องกันสูญหาย“ท่านพ่อรักษาตัวด้วย ข้าจะรอท่านตามออกไป”จ้าวตงหยางทำได้เพียงตะโกนพูดคุยกับผู้เป็นบิดา ด้วยเพราะตัวเขาเอง ก็กำลังถูกหลิวหยุนกึ่งลากกึ่งจูง นางบังคับผลักเขาให้มุดเข้าไปในอุโมงค์ แต่แท้จริง ทั้งคู่กลับใช้มุมมืดหยุดรั้งรอเพื่อดูเหตุการณ์สำคัญ ด้วยหวังเพียงว่า อ๋องแคว้นจ้าวจะปลอดภัยและออกไปจากที่นี่พร้อมพวกตนแต่ภาพที่เห็นทำเอาทั้งสองแทบสติหลุด ดีที่หลิวหยุนมีสติดีกว่า รีบปิดปากองค์ชายข้างกาย ก่อนที่เขาจะตะโกนเรียกบิดาที่โดนทำร้ายและถูกคุมตัวออกไป นางพี่เลี้ยงทำได้แค่กอดเขาเอาไ

  • แสงจันทร์พันธนาการ   บทที่ 5. ตอนที่ 3. แคว้นล่มสลาย

    จ้าวตงหยาง นั่งสงบต่อหน้าป้ายบรรพชนที่เรียงรายอยู่รอบตัว ภายในห้องมีเพียงแสงสว่างจากเปลวประทีปน้ำมัน ด้านนอกยังคงความโกลาหลปั่นป่วน ด้วยข้าศึกที่เริ่มบุกเข้ามาถึงด้านในเขตพระราชฐานชั้นนอกหลิวหยุนเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข เดินวนไปมาด้วยความร้อนใจ เมื่อเสียงที่วุ่นวายดูเหมือนกำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะมีใครหน้าไหน ต้านทานข้าศึกที่ถาโถมเข้ามาได้“องค์ชาย ข้าคิดว่าที่นี่หาใช่สถานที่ที่ปลอดภัยไม่ เรารีบออกจากที่นี่กันเถอะเพคะ”“ไม่มีคำสั่งข้าจะไปได้เช่นไรพี่หลิวหยุน”“องค์ชาย เวลานี้ข้าศึกบุกเข้ามาถึงด้านในแล้ว ไม่มีขันที ไม่มีผู้นำสาส์น ใครกันจะรู้ได้ว่า คำกล่าวรายงานออกคำสั่ง จะมาถึงที่นี่หรือไม่ องค์ชาย…การเป็นผู้อยู่ในระเบียบวินัยเป็นสิ่งที่พึ่งกระทำ แต่กับเวลาเช่นนี้การรักษาชีวิตเอาไว้เพื่อวันข้างหน้า จะมิใช่ทางออกที่ดีกว่าหรือ ได้โปรดไตร่ตรองแล้วไปกับหม่อมฉันเถอะเพคะ”จ้าวตงหยางเงยหน้าขึ้นมองดูป้ายบรรพชน ที่ตั้งเรียงรายอยู่เบื้องหน้า “บรรพบุรุษทุกท่าน ข้าจ้าวตงหยางขอคำนับพวกท่าน หากมีชีวิตรอด สักวันข้าจะกลับมาทำพิธีบูชาพวกท่านที่นี่”ประตูตำหนักบูชาบรรพชนกำลังถูกเปิดออก แต่ผู้

  • แสงจันทร์พันธนาการ   บทที่ 5. ตอนที่ 2. แคว้นล่มสลาย

    หลิวหยุนเหล่ตามองดูเด็กชายที่ผ่านความตายร่วมกันมาด้วยความแปลกใจ “ข้าอยู่กับเจ้ามาตลอด ทำไมไม่รู้เลยว่าองค์ชายจ้าวตงหยางมีความสามารถมากมายเช่นนี้”“พี่หลิวหยุน ในวังหาใช่สถานที่ ที่ข้าควรแสดงออกถึงความรู้ความสามารถไม่ หากเป็นเช่นนั้นข้าคงไม่ต่างกับกระเรียนในฝูงไก่ ตามปรัชญาของท่านสวินจื่อ หากข้าเอาแต่เปิดเผยสิ่งที่รู้สิ่งที่เป็น เพื่อหวังให้ตนเป็นที่โปรดปราน เช่นนั้นพวกเสด็จพี่คงหมายตาข้าเป็นศัตรูมิใช่พี่น้อง ”หลิวหยุนย่อตัวนั่งลงข้างองค์ชายแห่งเมืองล่มสลาย มองดูเขาด้วยความชื่นชมและเวทนาไปพร้อมกัน “ท่านคิดถึงพวกเขาบ้างไหมตงหยาง”จ้าวตงหยางหยุดมือที่กำลังโกยผงยาลงอ่างไม้ เงยหน้าขึ้นมองดูหญิงสาวตรงหน้า ที่ก่อนนี้เคยเป็นนางกำนันดูแลตนเอง มาตั้งแต่ครั้งยังเป็นเด็กน้อย จนกลายมาเป็นพี่สาวร่วมสาบานในเวลานี้ “คิดถึง…แล้วเช่นไร ข้าหนีเอาชีวิตรอดมาได้ เพราะท่านนะพี่หลิวหยุน พวกเขาบางคน ลืมไปเสียด้วยซ้ำว่ายังเหลือพวกเราอยู่ในห้องนั้น”ภาพวันเกิดเหตุย้อนกลับมาอีกครั้ง บรรดาเชื้อพระวงศ์ถูกเรียกตัวให้ไปรวมกันยังท้องพระโรง เว้นแต่จ้าวตงหยางเพียงผู้เดียวที่ถูกจับแยกจากพระมารดา ให้ไปที่ตำหนักบูชาบรรพ

  • แสงจันทร์พันธนาการ   บทที่ 5. ตอนที่ 1. แตว้นล่มสลาย

    หลิวหยุนได้แต่ยิ้มแล้วพยักหน้าเข้าใจ นางยกถ้วยน้ำแกงกลิ่นหอมส่งให้ตงหยาง “นี่น้ำแกงสร่างเมา ข้าเตรียมไว้ให้เจ้าโดยเฉพาะ เช้านี้พี่ไป่เยว่เอาสมุนไพรไปตากแดดให้แล้ว แต่วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้ม คงไม่ค่อยมีแสงแดด”“ขอบคุณท่านพี่ทั้งสอง สมุนไพรนั่นเริ่มแห้งแล้ว อันที่จริงวันนี้ไม่ต้องตากแดดก็ได้ หากถูกฝนจะเป็นเชื้อราอันตรายต่อการนำไปปรุงยา ต้องทิ้งทั้งหมด”“เช่นนั้น ข้าจะออกไปเก็บเข้ามาไว้ที่เดิมน่าจะดีกว่า ตอนนี้ท่านไป๋เยว่น่าจะเอาควายไปทุ่งนาแล้ว ที่นี่เหลือแค่เราสองคน”พูดจบนางก็หมุนตัวทำท่าจะออกไปเก็บสมุนไพร ตงหยางมองดูท่าเดินของนางแล้วให้รู้สึกไม่สบายใจ“พี่หลิวหยุน…ไม่เป็นไร เอาไว้เช่นนั้นก่อน รอสักครู่ข้าไปเก็บเอง ขาของท่านยังไม่หายดี อย่าขยับมากจะดีกว่า”“ไม่เป็นไรองค์ชาย ให้ข้าได้ทำอะไรบ้างเถอะ อยู่เฉย ๆ ข้ารู้สึกไม่ดีเลย”จ้าวตงหยางวางถ้วยน้ำแกงลง แล้วเหมือนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ข้ารู้แล้วว่าท่านพอจะช่วยอะไรข้าได้”แท่นหินกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ถูกนำมาจัดวางยังลานกลางบ้าน หลิวหยุนยืนดูด้วยความสงสัย“นี่อะไรกัน”“อ๋อ…แม่นางหลิวหยุน ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน องค์ชาย เอ่อ…ไม่สิ เจ้าหนูตงหยาง

  • แสงจันทร์พันธนาการ   บทที่ 4. ตอนที่ 4. โทษทัณฑ์มิอาจลืม

    รายนามของผู้คน เทพเจ้า ปีศาจ มาร หรือแม้แต่สรรพสัตว์ทั่วพิภพ ต่างกึกก้องสะท้อนนามอยู่ในหัวของเขา จนไม่สามารถฟังออกได้ว่าชื่อใครเป็นชื่อใคร ตงหยางทรุดตัวลง ยกมือขึ้นกุมหัวด้วยความรู้สึกปวดร้าว แล้วเริ่มเปล่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้น มันรุนแรงเกินกว่าร่างมนุษย์จะรับไหว ก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดนิ่งลง เหลือเพียงเสียงหัวใจที่หอบเหนื่อยของเขาเอง“ข้าจำได้…ข้าจำได้ ท่านเยว่เซียนเหล่าเหริน ข้าจำมันได้แล้ว…”“สมแล้วที่เป็นศิษย์เอกหนึ่งเดียวของแดนดาราห้วงเวหา นับได้ว่าซื่อเว่ยต้าตี้โชคดีนัก ที่มีศิษย์ผู้มีปฏิภาณความรู้เช่นเจ้า จดจำได้ก็ดี ตงฉางเวลาไม่เคยคอยท่า หน้าที่ของเจ้าใกล้มาถึงแล้ว ข้าเพียงได้แต่หวังว่า เจ้าจะทำมันได้เป็นอย่างดี”จ้าวตงหยางคุกเข่าลง คำนับต่อเสียงไร้ตัวตน “ข้าจะทำให้สำเร็จ เพียงแต่ข้าจะรู้ได้เช่นไร ว่าผู้ใดคือด้ายแดงสิบเส้นที่มีปัญหา”“ไม่ยากเลยเด็กน้อย ในจิตของเจ้ามันมีบันทึกของข้าที่เจ้าขโมยไป เพียงแต่เวลานี้ร่างมนุษย์ของเจ้า มันไม่มีพลังมากพอที่จะเปิดบันทึกออกมาอ่านได้ แต่เจ้าไม่ต้องกังวลไป ต่อจากนี้เจ้าจงหมั่นฝึกฝนร่างกายและพลังปราณ”“พลังปราณ…เช่น

  • แสงจันทร์พันธนาการ   บทที่ 4. ตอนที่ 3. โทษทัณฑ์มิอาจลืม

    “เด็กน้อย ๆ เฉิงวั่งซู ข้าจะบอกเจ้าเอาบุญ เจ้าน่ะมีหน้าที่ ที่ไม่อาจหลีกหนีได้รออยู่ กับคำสาปสิบข้อจากข้า นับแต่นี้ยังมีเหตุการณ์อีกมากมายที่เจ้าต้องเผชิญ อารมณ์แห่งธาตุไฟในกาย รู้จักระงับควบคุมมันบ้าง บิดาของเจ้าไม่อาจดูแลบุตรชายเสเพลเช่นเจ้าไปได้ตลอดชีวิต จำคำข้าไว้ แล้วสำนึกตนให้ดี นับแต่นี้ไป จงเร่งแก้ปัญหาที่ตนทำไว้ ข้ามีเวลาจำกัดหาได้ใจดีเช่นที่เจ้าคิด”พูดจบเขาก็หัวเราะออกมา แล้วเสียงนั้นก็เหมือนค่อย ๆ ถอยห่างออกไป เหมือนดั่งชายผู้มีเพียงเสียง กำลังจะจากไป “ช้าก่อน นี่…เจ้า…กลับมานะ เจ้าทำข้าเจ็บเช่นนี้ แล้วก็จะจากไป กลับมานะ เจ้าคนไร้ชื่อแซ่ กลับมา…" เสียงที่ตอบกลับมามีแค่เพียงเสียงหัวเราะ ที่ไร้นามเฉิงวั่งซูสะดุ้งตื่นขึ้นอีกครั้ง เสียงไก่ขันดังแววมาตามสายลม ฟ้ายังไม่สว่าง แต่ในตอนนี้คงใกล้เช้าแล้ว เขาเปิดม่านมุ้งลุกออกมานั่งอยู่ริมหน้าต่าง ทอดสายตาออกไปภายนอกห้อง มือก็จับลูบแก้มที่ในความฝันเหมือนโดนตบจนรู้สึกได้ถึงความเจ็บและชา แต่เวลานี้กลับไม่มีความรู้สึกอะไรเหลืออยู่บนใบหน้า ตกลงแล้วนี่มันคืออะไรกันแน่ หน้าที่อะไรที่รออยู่ ผู้ชายในฝันคือใคร เหมือนคุ้นเคยแต่ทำไมกลับจำไม่ได

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status