แชร์

บทที่ 221

ผู้เขียน: เฉิงกวงโฮ่วถู่
เมื่อคนเหล่านั้นเงยหน้าพร้อมกัน ก็เห็นผู้หญิงรูปร่างดีคนหนึ่งยืนอยู่บนหลังคา

หลางสือจิ่วมีสีหน้าที่เย็นชา “เป็นอย่างที่นายน้อยพูดไว้ไม่มีผิด จะต้องมีคนบุกมาทำลายที่นี่”

“ไม่ได้การแล้ว เราถูกจับได้แล้ว!”

“ไปพวกเรา ไปฆ่าผู้หญิงคนนั้นซะ!”

คนเหล่านี้ต่างก็มีสีหน้าโกรธเกรี้ยว พวกเขาชักมีดพับออกมาแล้วขว้างไปที่หลางสือจิ่วอย่างแรง

ฝีมือของคนเหล่านี้ถือว่าไม่เลวทีเดียว พวกเขาล้วนเคยผ่านการต่อสู้ในสังเวียนมาอย่างโชกโชน

หากร่วมมือกัน พวกเขาสามารถเอาชนะจอมยุทธ์ระดับหนึ่งได้ แต่สำหรับหลางสือจิ่วนั้นพวกเขาเทียบกับเธอไม่ติดเลย

เพียงแค่กระบวนท่าเดียว ใครคนหนึ่งถูกเตะปลิวออกไปและหมดสติในทันที

เธอใช้มือทั้งสองข้างกดพื้นและหมุนตัวด้วยความเร็วสูง

กลุ่มคนที่ล้อมรอบต่างก็ถูกเธอจัดการจนลงไปนอนกองกับพื้นทีละคน

ท่าเตะที่รวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาดของเธอเตะเข้าที่กระดูกเข่าของพวกเขา จนทำให้ได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นเป็นระยะ และด้วยท่าเตะนั้น ขาของพวกเขาจึงใช้การไม่ได้ทันที

เมื่อได้ยินเสียงดังโวยวาย ไป๋ปิงก็รีบวิ่งเข้ามาดูทันที

เธอมองเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่เย็นชาและไม่พูดพร่ำทำเพลง ก่อนจะรีบ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 222

    “ที่แกพูดมันหมายความว่ายังไง?!”หลิวเหว่ยหัวเราะด้วยใบหน้าที่เย็นชาขณะมองไปที่คนเหล่านั้นด้วยท่าทางที่ดูมั่นใจเต็มเปี่ยม“ก่อนหน้านี้ มีคนที่ชื่อหลิวเหนิงเดินทางมาจากหนานเฉิง เขาเดินทางมาหาฉันด้วยตัวเอง เขามาจากตระกูลหลิ่วแห่งหนานหลิ่ว และเขาก็ได้มาขอซื้อบริษัทของฉันไปเรียบร้อยแล้ว”“เพราะฉะนั้นตอนนี้ ฉันจึงมีตระกูลหลิ่วแห่งเมืองหนานเฉิงเป็นผู้สนับสนุนอยู่ หากพวกแกไม่เชื่อก็ลองไปสืบดูประวัติของตระกูลหลิ่วดูสิ พวกเขานี่แหละ ที่จัดหาชิ้นส่วนอาวุธให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ”“หรือจะให้ฉันพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือในตอนนี้ ฉันมีความเกี่ยวข้องกับทางเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว ถ้าหากพวกแกกล้าแตะต้องฉันก็คิดถึงผลที่จะตามมาด้วยแล้วกัน”ในประเทศหลงเถิง ไม่ว่าจะเป็นสามัญชนธรรมดาหรือตระกูลทรงอิทธิพลใหญ่ที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปีหากใครกล้าล้ำเส้นของประเทศ ก็จะต้องพบจุดจบที่น่าอนาถเมื่อคนเหล่านี้ได้ยินที่หลิวเหว่ยพูดต่างก็หน้าซีดทันทีแม้ว่าพวกเขาจะมีความกล้ามากแค่ไหน ก็ไม่กล้าต่อกรกับประเทศชายที่ร่างกายเต็มไปด้วยรอยสักไม่ได้พูดจาหยิ่งทะนงเหมือนในตอนแรกอีกต่อไป เขาวางมีดพับที่ถืออยู่ลงแล้วพูดว่า “นี่แกไม่ได้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 223

    ในขณะที่เธอรีบวิ่งเข้ามา หวังซงเหลือบไปเห็นเธอพอดีเขาหัวเราะดังลั่นพร้อมตะโกนสั่งเธอว่า “คุกเข่าลงซะ!”สีหน้าของเลขาสาวเต็มไปด้วยความวิตกกังวล “ท่านประธานคะ! เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ!”เนื่องจากเสียงเพลงภายในวิลล่าดังเกินไป หวังซงจึงไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูดเมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมคุกเข่าตามที่เขาสั่ง เขาจึงยกมือขึ้นตบเข้าที่ใบหน้าของเธอหนึ่งฉาดหญิงสาวตาแดงก่ำ เธอรู้สึกเสียใจมากแต่เธอก็ไม่อาจทำให้เสียเวลาได้ จึงรีบวิ่งไปปิดเครื่องเสียงทุกคนตกตะลึง ในขณะที่หวังซงโกรธเธอมากยิ่งขึ้น “นี่เธออยากตายหรือไง? กล้าดียังไงมาขัดจังหวะความสุขของฉัน!”เลขาสาวรู้สึกเสียใจ แต่ก็ยังต้องรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นเธอรีบเดินเข้าไปข้าง ๆ หวังซงแล้วกระซิบที่ข้างหูเขาว่า “ท่านประธานคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ…”หวังซงที่เดิมทีรู้สึกไม่พอใจอยู่แล้ว หลังจากได้ยินคำพูดของเลขาสาว ทันใดนั้น ดวงตาของเขากลับเปล่งประกายด้วยความเยือกเย็นและดูน่ากลัวราวกับงูพิษ“ฉันประเมินไอเด็กนั่นต่ำไปจริง ๆ!” เขามองเธอด้วยแววตาที่เยือกเย็น “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เธอยังจัดการมันไม่ได้ แล้วต่อไปฉันจะเชื่อใจอะไรเธอได้อีก?”เขาส

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 224

    ภายในคลับส่วนตัวแห่งหนึ่ง“ผู้ว่าจาง แก้วนี้ผมดื่มให้กับท่านครับ! นับวันท่านยิ่งดูเด็กลงนะครับ”หวังซงยกแก้วไวน์เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ชายคนหนึ่งที่มีอายุราว ๆ สี่สิบปี เขาสวมแว่นตาและดูสุภาพผู้ชายคนนั้นคือจางต้งเหลียงจางต้งเหลียงยกแก้วไวน์ขึ้นมาชนกับหวังซงและดื่มไปหนึ่งอึกก่อนจะหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “คุณก็พูดเกินไป ผมเป็นแค่รองผู้ว่า คุณควรจะระมัดระวังคำพูดด้วยนะครับ”หวังซงทำสีหน้าจริงจังแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ท่านนี่ช่างชอบพูดเล่นซะจริงนะครับ ท่านก็รู้ว่าสุขภาพของเขาแย่ลงทุกวัน ผมได้ยินมาว่าปีนี้เขาคงจะต้องเกษียณแล้วทั้งเมืองหวู่เฉิง นอกจากท่านแล้ว ยังมีใครที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับท่านอีกเหรอครับ? เพราะฉะนั้น ถ้าตอนนี้ผมจะเรียกท่านว่าผู้ว่า ก็คงไม่มีปัญหาหรอกครับ”จางต้งเหลียงเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงทันทีพร้อมพูดว่า “ต่อไปห้ามพูดแบบนี้อีกนะครับ ไม่อย่างนั้น ผมจะไม่ยกโทษให้คุณ!”แม้จะพูดแบบนั้น แต่รอยยิ้มในดวงตาของเขากลับเผยความคิดที่แท้จริงของเขาออกมาหวังซงพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง “ตามที่ท่านว่าก็ได้ครับ”“อ้อ! จริงสิครับ” หวังซงทำท่าราวกับว่าเขานึกอะไรขึ้นมาได้ เขาหยิบกล่องที

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 225

    ใบหน้ารูปไข่ที่มีเสน่ห์เล็กน้อยและผมดำเงางามที่นุ่มลื่นดวงตาใสราวกับน้ำพุธรรมชาติเธอคืออวี่เฟยเฟยเย่ซิวเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “บังเอิญจังเลย เจอกันอีกแล้วนะครับ”เฟยเฟยรู้สึกดีใจมากที่วันนี้เธอได้พบเย่ซิวอีกครั้ง “ว่าแต่คุณเย่กำลังจะไปที่ไหนเหรอคะ?”เย่ซิวพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “ไฟท์นี้กำลังจะไปหวู่เฉิงไม่ใช่เหรอครับ? คุณว่าผมจะไปที่ไหนล่ะ?”ใบหน้าของอวี่เฟยเฟยเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย “ฉันนี่ซื่อบื้อจริง ๆ พอเห็นคุณเย่แล้ว ฉันก็เลยรู้สึกตื่นเต้นไปหน่อยน่ะค่ะ“เย่ซิวยิ้มพร้อมกับส่ายศรีษะเบา ๆอวี่เฟยเฟยพูดต่อ “ว่าแต่คุณเย่อยากจะดื่มเครื่องดื่มอะไรดีคะ? หรืออยากทานอะไรหรือเปล่า? ฉันจะได้ไปเตรียมมาให้คุณ”“ผมขอผัดหมี่หนึ่งที่กับน้ำส้มหนึ่งแก้วก็พอครับ”“บ้านนอกจริง ๆ!”ทันทีที่เย่ซิวพูดจบ ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็เบ้ปากแสดงท่าทางรังเกียจออกมาอย่างเห็นได้ชัด“มานั่งถึงชั้นเฟิร์สคลาสแต่ดันสั่งแค่ผัดหมี่ ฉันว่าคุณคงเก็บเงินเดือนมาหลายเดือนเพื่อที่จะมานั่งชั้นเฟิร์สคลาสละสิ อุตส่าห์ดันทุรังมานั่งถึงชั้นนี้เพราะอยากจะมาจีบสาวใช่ไหมล่ะ?”เย่ซิวหันไปมองผู้หญิงวัยประมาณสี่สิบป

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 226

    “คุณเป็นคนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ไหน?”คำถามที่ไม่คาดคิดจากเย่ซิว ทำให้คนตรงหน้าดูตกใจเล็กน้อย แต่เธอก็พยายามปกปิดมันเอาไว้แต่ถึงอย่างนั้นก็ถูกเย่ซิวจับได้อยู่ดีเดิมทีเขายังมีความสงสัยอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เขามั่นใจอย่างเต็มที่แล้วเพราะเย่ซิวไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับคนตรงหน้ามาก่อน เพราะถ้าเป็นคนปกติก็คงไม่กล้าทำให้ตัวเองเสื่อมเสียถึงขนาดนี้ดังนั้น ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวคือฝ่ายตรงข้ามมีเจตนาที่จะทำแบบนี้เพื่อต้องการที่จะกักตัวเขาไว้ หรืออย่างน้อยก็พยายามถ่วงเวลาเย่ซิวเอาไว้ให้มากที่สุดแม้ฝ่ายตรงข้ามอาจจะไม่รู้ว่าเย่ซิวจะไปที่ไหน แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การถ่วงเวลาก็เป็นเรื่องที่ต้องทำคนที่มีเจตนาและจุดประสงค์เช่นนี้ นอกจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์แล้ว เขาเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นใครอื่นไปได้อีก หญิงสาวพูดด้วยเสียงดังขึ้นว่า “ฉันไม่รู้ว่าแกกำลังพูดอะไร แต่ตอนนี้แกอย่าคิดหนีไปไหนเด็ดขาด!”ยิ่งเธอเอะอะโวยวายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังรู้สึกกระวนกระวายมากเท่านั้นเย่ซิวไม่สนใจว่าเธอจะถูกบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไหนส่งมา เพราะถึงอย่างไร เขาก็กำลังจะสะสางทุกอย่างให้เรียบร้อยอ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 227

    กัปตันเดินนำทุกคนไปที่ห้องพักด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ พวกคุณทุกคนจะต้องเก็บเป็นความลับไปตลอดชีวิต!”ใครบางคนเอ่ยถามขึ้น “กัปตันครับ รู้ไหมครับว่าเขามีภูมิหลังยังไง?”กัปตันมีสีหน้าบึ้งตึงและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าถามในสิ่งที่ไม่ควรถาม!อย่าหาว่าผมไม่เตือนพวกคุณก็แล้วกัน ถ้าเรื่องวันนี้รั่วไหลออกไปแม้แต่นิดเดียว พวกคุณทุกคนอาจจะต้องติดคุกอย่างน้อยห้าถึงหกปี!”เมื่อพูดจบ ทุกคนต่างก็มีท่าทีตกใจ พวกเขาปิดปากเงียบและไม่กล้าถามอะไรอีก……ในเขตที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างเก่าแก่ในหวู่เฉิง มีครอบครัวของหลัวเฟิงอาศัยอยู่นอกเขตที่อยู่อาศัย มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่งคอยเฝ้ารักษาความปลอดภัยให้กับที่พักของหลัวเฟิงตลอดเวลาภายในห้อง หลัวเฟิงนอนอยู่บนเก้าอี้โดยมีลูกชายของเขากำลังป้อนข้าวให้เขาช่วงนี้สุขภาพของเขาแย่ลงเรื่อย ๆ แม้แต่การเคลื่อนไหวก็เริ่มจะลำบากมากขึ้นหลังจากทานโจ๊กไปหนึ่งถ้วย หลัวเฟิงจึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและเอ่ยถามลูกชายของเขาว่า “ช่วงนี้พฤติกรรมของจางต้งเหลียงแปลกไปบ้างหรือเปล่า?”เสียงของเขาแหบแห้งจนฟังดูไร้เรี่ยวแรงเขามีอายุราว ๆ หกส

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 228

    คำพูดของเย่ซิวทำให้อวี้เฟยเฟยหน้าแดงอย่างช่วยไม่ได้ เธอตอบกลับอย่างเขินอาย“ช่วยไม่ได้ ก็ฟ้าประทานความสวยมาให้ฉันนี่คะ”เย่ซิวหัวเราะเสียงดัง หลังจากนั้น เขาก็เดินออกจากเครื่องบินไปอวี้เฟยเฟยมองไปยังแผ่นหลังของเย่ซิวด้วยแววตาคลั่งไคล้“เขานี่หล่อจริง ๆ เลย แถมมีกลิ่นกายของผู้ชายสุด ๆ”“จริงเหรอ? แกเคยได้กลิ่นของเขาหรือไงกัน?”สาวสวยคนหนึ่งที่บนใบหน้ามีจุดด่างเล็กน้อยเดินเข้ามา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความขบขันเธอเป็นเพื่อนสนิทของอวี้เฟยเฟยเมื่อได้ยินเช่นนั้น อวี้เฟยเฟยก็หน้าแดงไปทั่วทั้งใบหน้า เธอหันมาหยอกล้อเพื่อนสนิทของเธอ “นี่แน่ะ! นี่แกแอบฟังที่ฉันพูดเหรอ? ดูสิว่าฉันจะจัดการกับแกยังไง”“โอ๊ย! ฉันผิดไปแล้ว อย่านะ…ปล่อยฉันไปเถอะ”สองสาวหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศดูระรื่นตามาก แต่เสียดายที่เย่ซิวไม่ได้เห็น หลังจากออกจากสนามบินมา เย่ซิวก็เรียกแท็กซี่และตรงไปยังที่พักของหลัวเฟิงเขาสืบมาแล้วว่าหลัวเฟิงอาศัยอยู่ในเขตที่อยู่อาศัยใดเมื่อเย่ซิวมาถึงเขตที่อยู่อาศัยที่หลัวเฟิงอาศัยอยู่ ก็เป็นเวลาเกือบบ่ายสามโมงแล้วเขานี่โชคดีจริง ๆ เมื่อเขามาถึงก็เห็นเจ้าหน้าที่ทางการ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 229

    หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที เย่ซิวก็ถอนมือออก“ท่านครับ ท่านมีอาการเลือดลมอ่อนแอ สภาพพื้นฐานเสื่อมโทรมอย่างหนัก อีกทั้งยังเป็นเพราะเมื่อตอนที่ท่านยังเป็นหนุ่ม ท่านทำงานหนักเกินไป และไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอ ดังนั้น โดยปกติแล้วท่านจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกินสามปี”หลัวเฟิงแสดงสีหน้าประหลาดใจต่อคำพูดที่ได้ยินแม้แต่หมอที่มีประสบการณ์การทำงานหลายสิบปีและมีความน่าเคารพยกย่องก็เคยบอกกับเขาแบบนั้นเช่นกันเพียงแค่จากจุดนี้ก็เห็นแล้วว่า ทักษะการแพทย์ของเย่ซิวนั้นยอดเยี่ยมมาก“ไม่เป็นไร…จะช้าจะเร็ว…ฉันก็ต้องตายอยู่ดี…”ท่าทางที่เขาแสดงออกมาช่างดูผ่อนคลายเย่ซิวยิ้มและตอบกลับไปว่า “แต่ท่านครับ ผมไม่ได้จะบอกว่ามันไม่สามารถรักษาได้”หลัวเฟิงตาเบิกโพลงทันทีเย่ซิวจับมือขวาของหลัวเฟิง จากนั้น เขาก็ใช้กำลังภายในของตัวเองแปรสภาพเป็นเส้นเล็ก ๆ หลายสิบเส้นที่ดูคล้ายกับเส้นผมแล้วส่งกระแสเข้าไปในร่างกายของหลัวเฟิงในตอนนี้ ร่างกายของหลัวเฟิงดูเหมือนกับบ่อน้ำที่แห้งเหือดกำลังภายในของเย่ซิวเหมือนกับน้ำฝนที่กำลังบำรุงบ่อน้ำโดยการเติมน้ำกลับเข้าไปใหม่หลัวเฟิงรู้สึกตื่นตัวทันที เขามองเย่ซิวอย่างไม่เชื่

บทล่าสุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1172

    “แกจะส่งมาดี ๆ หรือจะให้ฉันลงมือเอามาเอง”เย่ซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผมไม่เข้าใจว่าคุณพูดเรื่องอะไร”“แกน่าจะรวยมากเลยสินะ บอกไว้เลยนะ ฉันนี่แหละที่เป็นคนขายปีศาจแมวให้แก”เย่ซิวจึงเข้าใจทันที “ก็แสดงว่านายแอบทำอะไรไว้ในตัวเสี่ยวโหรว เพื่อใช้ติดตามฉัน… ดูท่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่นายทำแบบนี้สินะ”ดูจากท่าทางก็รู้ว่าเป็นมืออาชีพใช้วิธีเอาเสี่ยวโหรวไปขายในตลาดมืด พอมีคนซื้อก็ค่อยตามไปแล้วหาจังหวะชิงตัวกลับมาจากนั้นก็เอาไปขายใหม่ วนลูปแบบนี้ไปเรื่อย ๆถือเป็นวิธีหาเงินที่รวดเร็วจริง ๆแต่น่าเสียดายที่คราวนี้ดันมาเจอของแข็งเข้าแล้ว“ใช่เลย แกน่ะเป็นคนที่อ่อนที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยนะ อยู่แค่ระดับสร้างรากฐานปราณแท้ ๆ แต่กลับพกศิลาวิญญาณมามากขนาดนั้น อย่างนี้ต้องรวยมากแน่…”พูดยังไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็ลอบโจมตีทันทีทั้งที่มีพลังระดับวิญญาณก่อกำเนิด แต่ยังเล่นสกปรกด้วยการลอบจู่โจม เรียกได้ว่าทั้งเลวทั้งเจ้าเล่ห์สุด ๆเปรี้ยง!ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าสีม่วงเส้นหนึ่งก็ผ่าลงมากลางหัวอย่างจังชายคนนั้นถูกฟาดจนร่างแหลกละเอียดกลายเป็นเศษธุลีแทบไม่เหลือชิ้นดีเสี่ยวโหรวที่ยืนข้าง ๆ ถึงกับหน้าซีด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1171

    “สินค้าชิ้นที่สองของงานประมูล เป็นจิตวิญญาณนักรบระดับถอดจิตขั้นต้นเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้สภาพจิตวิญญาณจึงยังไม่คงที่เราต้องใช้วิชาเฉพาะตัวเพื่อรักษาสภาพเอาไว้ชั่วคราว ต้องพาไปที่ที่มีพลังหยินหนาแน่น หรือไม่ก็ต้องมีจิตวิญญาณนักรบที่แข็งแกร่งช่วยรักษาให้ ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งแสนศิลาวิญญาณ”พูดจบ เธอก็หยิบลูกแก้วคริสตัลออกมา ภายในมีวิญญาณของปีศาจหมาป่าตนหนึ่งถูกผนึกไว้บนร่างมันมีรูโหว่อยู่หลายแห่งมีหลายคนให้ความสนใจ ต่างเริ่มเสนอราคากันเย่ซิวเองก็ถูกจิตวิญญาณนักรบตนนั้นดึงดูดสายตาเข้าแล้วเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าหลังจากให้กระบี่แม่ลูกกับเสี่ยวโหรวไป เธอก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยไม่นานราคาก็ถูกดันขึ้นไปถึงสองล้านกว่าศิลาวิญญาณถ้ามันไม่บาดเจ็บล่ะก็ ต่อให้มีหลายสิบล้านก็อาจจะยังซื้อไม่ได้ด้วยซ้ำจำนวนคนที่ร่วมประมูลค่อย ๆ ลดลงเย่ซิวจึงเสนอราคาไปที่สามล้านศิลาวิญญาณในครั้งเดียว และชนะการประมูลไปอย่างราบรื่นของก็ถูกส่งมาถึงมือเย่ซิวอย่างรวดเร็วเขานำมันเก็บเข้าไปในธงหมื่นวิญญาณแล้วให้จิตวิญญาณนักรบทั้งสามที่อยู่ภายในช่วยรักษาบาดแผลให้แน่นอนว่าจอมมารโลหิตดู

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1170

    แน่นอนว่าการค้างคืนด้วยกันนั้นไม่ได้ทำให้เย่ซิวเสียสมาธิอะไรหากพูดถึงความเย้ายวน ก็ไม่มีใครจะสู้เสวี่ยเหมยได้อยู่แล้วในตลาดมืดแห่งนี้มีขายเสื้อคลุมแบบเดียวกับที่เย่ซิวสวมอยู่เขาซื้อมาเพิ่มอีกสองชุดเก็บไว้หนึ่งชุด อีกชุดให้เสี่ยวโหรวสวมไม่งั้นสายตาโลมเลียจากรอบข้างจะมากเกินไปหน่อยจากนั้นเขาก็พาเสี่ยวโหรวเดินเล่นในตลาดมืดต่อจริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะมาซื้อของอะไรเดินวนไปหนึ่งรอบก็ไม่เจอของอะไรที่ดูมีค่าเป็นพิเศษแบบที่ในนิยายบางเรื่องชอบเขียนว่าพระเอกเดินผ่านตลาดแป๊บเดียวก็เจอสมบัติล้ำค่าอะไรแบบนั้น เรื่องแบบนั้นไม่มีเกิดขึ้นที่นี่หรอกสุดท้ายเขาก็มาถึงอาคารจัดประมูลของตลาดมืดถึงจะเรียกว่าอาคาร แต่จริง ๆ ก็แค่โรงเรือนที่มีขนาดใหญ่กว่าร้านทั่วไปนิดหน่อยเท่านั้นเองการเข้าไปข้างในต้องจ่ายค่าผ่านประตูคนละหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณเย่ซิวจ่ายไปสองร้อยแล้วก็จับมือเสี่ยวโหรวเดินเข้าไปมือของเธอนุ่มมาก แถมยังเย็นนิด ๆ ชวนให้รู้สึกอยากจับไม่ปล่อยตอนเข้าไป ที่นั่งก็เหลือว่างอยู่ไม่มากแล้วคนอื่น ๆ แค่เหลือบมองเย่ซิวแล้วก็หันหน้ากลับไปทันทีเพราะที่นี่ ถ้าจ้องใครนานเกินไปจะถูก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1169

    “วันนี้บังเอิญมีงานประมูลจัดขึ้นพอดี หนึ่งในของประมูลสำคัญคือหุ่นเชิดโบราณตัวหนึ่งมีพลังระดับถอดจิต ถ้าคุณมีฝีมือก็ลองประมูลดูได้”เย่ซิวสะดุดใจขึ้นมาทันที พลังต่อสู้ของหุ่นเชิดระดับถอดจิตนั้นสูงมากถ้าได้มาจะช่วยยกระดับพลังโดยรวมของเขาได้มากทีเดียวเขาพยักหน้าแล้วก็ตรงเข้าสู่เขตตลาดมืดทันทีบรรยากาศภายในตลาดมืดดูไม่ต่างจากตลาดนัดทั่วไปผู้บำเพ็ญตนนั่งเรียงกันสองฝั่งข้างทาง หน้าแต่ละคนมีแผงเล็ก ๆ วางของขายหลากหลาย“แวะมาดูได้เลย ของดีราคาถูก รับประกันไม่มีโกง”“คัมภีร์ประจำตระกูลของแท้ ขอแลกกับหินธาตุไฟ”“หญิงแท้ ขอแลกแต่งงานกับร้อยศิลาวิญญาณ”……ของหลากหลายจนมองตามแทบไม่ทันเย่ซิวเดินผ่านแผงขายของทีละอันของบางอย่างเขาก็สนใจ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีประโยชน์กับเขามากนัก เลยไม่ได้ซื้ออะไรจู่ ๆ เขาก็หยุดที่แผงหนึ่งแผงนี้ไม่ได้มีของวางขายเหมือนแผงอื่น ๆ แต่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่แทนเธอสวมเสื้อผ้าบางเบา ร่างเล็กบอบบางแต่รูปร่างกลับพอดีสัดส่วน หน้าตาจัดว่าระดับแปดเต็มสิบที่เด่นที่สุดคือดวงตาสีฟ้าราวกับไพลินแค่เห็นแวบเดียวก็ยากจะละสายตามีคนจำนวนไม่น้อยหยุดมองที่แผงนี้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1168

    เย่ซิวเก็บร่างแยกทั้งห้าไว้ในจุดตันเถียนจากนั้นเขาก็ขังตัวเองบำเพ็ญตนในถ้ำอยู่อีกหลายวันเมื่อออกมาอีกครั้ง เขาก็ทยอยส่งมอบโอสถให้กับแต่ละคนตามที่สั่งไว้ แลกกับวัตถุดิบล้ำค่าหลายชิ้นหลังจากนั้นเย่ซิวก็ตรงไปหาจางเสี่ยวอวี๋ “ฉันอยากไปตลาดมืด เธอพอมีช่องทางไหม”ตลาดมืดนี่ เย่ซิวเคยได้ยินมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในสำนักอวิ้นหลิงแล้วเขาว่ากันว่าสถานที่ตั้งลึกลับสุด ๆนอกจากคนในสำนัก ก็ยังมีผู้บำเพ็ญจากสำนักอื่น ๆ แอบเข้ามาทำการค้าด้วยเบื้องหลังตลาดมืดเหมือนจะมีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่หลายรายการซื้อขายข้างในถือว่าปลอดภัยมากมีของดี ๆ หลายอย่างที่โลกภายนอกหาไม่ได้แน่นอนว่าถ้ามีสมบัติติดตัวมากเกินไปแล้วโดนรู้เข้าตอนออกจากตลาดมืดอาจถูกตามฆ่าปิดปากหรือโดนปล้นก็ได้“ฉันรู้สิ สถานที่แบบนั้นต้องใช้ชุดพิเศษในการเข้าไปด้วย”จางเสี่ยวอวี๋พูดจบก็ดึงชุดคลุมสีดำออกมาจากแหวนผนึกของ“ในนั้นทุกคนต้องใส่ชุดนี้ ห้ามเปิดเผยตัวตน และต้องจ่ายค่าผ่านประตูสิบศิลาวิญญาณด้วยนะ”เย่ซิวรับเสื้อคลุมมาถือไว้แล้วจางเสี่ยวอวี๋ก็อธิบายเส้นทางไปตลาดมืดให้ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากสำนัก เป็นเมืองเล็ก ๆ แ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1167

    “อะไรนะ? แค่วันเดียวนายก็กลั่นสำเร็จจริงเหรอ?”ทันทีที่เห็นเย่ซิว เจ้าสำนักก็รีบถามขึ้นด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวังเขาเองก็ไม่ได้เพิ่มพลังตัวเองมานานแล้วเหตุผลหลักก็เพราะไม่มีโอสถที่เหมาะสมพอให้ใช้โอสถระดับปฐมญาณนั้นหาได้ยากมากในตลาดต่อให้มีก็จะปรากฏแค่ในงานประมูลเท่านั้น และราคาก็มักจะพุ่งขึ้นสูงเทียมฟ้าเสมอแม้รั่วอวิ๋นจะสามารถกลั่นยาได้แต่เธอต้องลองห้าหกครั้งถึงจะสำเร็จสักครั้ง แถมแต่ละครั้งต้องใช้ต้นทุนมหาศาล“ผมไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวังครับ” เย่ซิวยื่นโอสถเก้าเม็ดที่ถูกเจือจางแล้วให้ ก่อนถอนหายใจหนึ่งที “ไม่คิดเลยว่าฝีมือกลั่นโอสถของผมจะแย่ขนาดนี้ ทั้งหมดออกมาเป็นแค่ระดับต่ำ”เจ้าสำนักมองโอสถระดับปฐมญาณในมือแล้วถึงกับตกใจ แม้เขาจะเป็นคนสุขุมมาก แต่ก็ยังเผยสีหน้าเหลือเชื่อออกมาแล้วก็หัวเราะลั่นด้วยความยินดี “ดี ดีมาก ๆ ฝีมือกลั่นโอสถของนายอาจจะแซงหน้าอาจารย์ของตัวเองไปแล้วก็ได้นะ”เย่ซิวยิ้มเก้อ ๆ “ไม่น่าเป็นไปได้หรอกครับ ผมยังพัฒนาอีกมาก เอ่อ…”จู่ ๆ สีหน้าเขาก็ซีดเผือด ร่างกายโงนเงนเหมือนจะล้มเจ้าสำนักหรี่ตา “นายเป็นอะไรไป?”“ไม่เป็นไรครับ แค่เสียพลังมากเก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1166

    เย่ซิวเอ่ยรายชื่อวัตถุดิบออกมาติดต่อกันเป็นสิบ ๆ อย่างหนึ่งในนั้นก็คือวัตถุดิบชิ้นสุดท้ายสำหรับการหลอมร่างแยกธาตุดินเขามีแผนการบางอย่างในใจ และจำเป็นต้องสร้างร่างแยกธาตุทั้งห้าสำเร็จเสียก่อนถึงจะลงมือได้ดวงตาของเจ้าสำนักเปล่งประกายวาบ “ฉันมีหินดินธาตุดั้งเดิมอยู่ก็จริง แต่ของสิ่งนี้ล้ำค่ามาก เว้นเสียแต่นายจะสามารถกลั่นโอสถระดับปฐมญาณออกมาได้”เย่ซิวพยักหน้า เขารู้จักโอสถประเภทนี้ดี มันสามารถเพิ่มพลังระดับปฐมญาณได้แต่กระบวนการกลั่นซับซ้อนมาก แถมวัตถุดิบยังหาได้ยากสุด ๆแค่ต้นทุนวัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นก็เกินสิบล้านศิลาวิญญาณแล้วผู้บำเพ็ญสายอิสระทั่วไปไม่มีทางสู้ราคาไหวแน่“แล้วเจ้าสำนักอยากได้กี่เม็ด ถึงจะยอมแลกล่ะครับ”“นายกลั่นได้จริงเหรอ?” เจ้าสำนักมองเย่ซิวด้วยสีหน้าตกตะลึง ดวงตาฉายแววไม่เชื่อโอสถชนิดนี้ไม่เหมือนกับโอสถวิญญาณหยก ระดับความยากสูงกว่ากันหลายเท่าเย่ซิวไม่ได้รีบตอบในทันที แต่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “ผมขอลองก่อน ยังไม่กล้ารับประกันว่าจะสำเร็จเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เจ้าสำนักให้วัตถุดิบสำหรับหนึ่งเตากลั่นกับผมก่อนถ้ากลั่นไม่ได้ ผมยินดีจ่ายค่าต้นทุน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1165

    เย่ซิวรีบวิ่งเข้าไปในห้องทันทีพอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเสี่ยวไป๋ลอยอยู่กลางอากาศพลังวิญญาณในห้องถูกดูดเข้าไปหามันอย่างบ้าคลั่งไม่กี่วินาทีก็สูบพลังวิญญาณจนหมดทั้งห้องจากนั้นร่างของมันก็ถูกห่อหุ้มด้วยรังไหมขนาดใหญ่ แล้วค่อย ๆ ลอยลงสู่พื้นอย่างช้า ๆเย่ซิวยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เสี่ยวไป๋กำลังจะวิวัฒนาการอีกแล้วรอบที่แล้วเหมือนจะพัฒนาขึ้นไม่มากเท่าไหร่แต่สัญชาตญาณของเย่ซิวบอกว่ารอบนี้น่าจะเติบโตแบบก้าวกระโดดเลยทีเดียวเขารีบเอาน้ำพุวิญญาณที่เหลืออยู่เทราดลงไปบนรังไหมทันที ซึ่งมันก็ถูกดูดซึมหายไปอย่างรวดเร็วนี่อาจช่วยเร่งขั้นตอนวิวัฒนาการให้เร็วขึ้นได้เย่ซิวเดินไปอุ้มเจ้าเสี่ยวอวี่ที่อยู่ไม่ไกลขึ้นมาเจ้าตัวนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากแต่ท้องของมันนี่เหมือนหลุมดำชัด ๆเย่ซิวเลยจัดเต็มอีกครั้ง เขากลั่นโอสถวิญญาณหยกมาอีกหมื่นเม็ดให้มันไว้กินเล่นทั้งสำนักอวิ้นหลิงคงไม่มีใครกล้าทำอะไรฟุ่มเฟือยอย่างเขาอีกแล้วล่ะในช่วงครึ่งเดือนหลังจากนั้น เย่ซิวก็หมกตัวอยู่แต่กับการกลั่นโอสถและฝึกฝนวิชาต่าง ๆข้างนอกเองก็เริ่มมีข่าวแพร่กระจายไปว่าเย่ซิวสามารถกลั่นโอสถวิญญาณหยกได้ควา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1164

    จากท่าทีและสีหน้าของทุกคน เย่ซิวก็พอเดาออกว่าโอสถนี่น่าจะหาได้ยากมากในตลาดไม่งั้นพวกเขาคงไม่แห่กันมาขอซื้อแบบนี้แน่เขาทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย “ผมก็อยากช่วยนะครับ แต่โอสถตัวนี้ตอนปรุงมันใช้พลังจิตเยอะมากวันหนึ่งผมปรุงได้ไม่กี่รอบเอง แถมวัตถุดิบก็หายากด้วย”ความหมายแฝงก็คือพวกคุณต้องเพิ่มเงินและเตรียมของมาเองซึ่งทุกคนก็ไม่ใช่คนโง่และเข้าใจเจตนาของเขาทันที ก่อนจะรีบเสนอว่า“ถ้างั้นแบบนี้ดีไหม โอสถวิญญาณหยกหนึ่งเม็ด ฉันให้หนึ่งพันหนึ่งร้อยศิลาวิญญาณ ส่วนวัตถุดิบเราจัดการเอง แบบนี้ตกลงไหม”เย่ซิวคำนวณในหัวอย่างไวต้นทุนของโอสถวิญญาณหยกต่อเม็ดอยู่ที่ราว ๆ หนึ่งพันศิลาวิญญาณถึงจะรวมค่าแรงและพลังวิญญาณที่ใช้ก็ถือว่าต้นทุนต่ำมาก อย่างมากก็แค่เสียเวลาเฉย ๆเขาสามารถกลั่นได้เป็นหมื่นเม็ดในคราวเดียวถ้าขายให้คนพวกนี้หมื่นเม็ดก็เท่ากับว่าจะได้เงินถึงสิบกว่าล้านศิลาวิญญาณเลยทีเดียวกำไรขนาดนี้ก็แทบจะเรียกได้ว่ากินขาดแต่เย่ซิวก็ยังไม่ตอบตกลงทันที และทำท่าลังเลอยู่รั่วอวิ๋นที่ยืนข้าง ๆ ตบไหล่เขาเสียงดัง “ยังจะลังเลอะไรอีกล่ะ?นี่มันโอกาสทองเลยนะ ได้ทั้งเงินได้ทั้งฝึกฝีมือ”เย่ซิวถ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status